ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GUESS WHO? #คนไหนแฟนเรา | CHANBAEK & HUNBAEK

    ลำดับตอนที่ #12 : CHAPTER 11 :: ซวยแบบไม่รู้ตัว

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 6.67K
      56
      12 พ.ค. 59

    (c) Chess theme

     

     

    CHAPTER 11

    ซวยแบบไม่รู้ตัว

     

     


     

    แม่ร่วง!”

     

    แบคฮยอนผงะถอยหลังทันทีที่ได้รับการทักทายกึ่ง ๆ จับผิด ใช่ว่าเรื่องที่เขาทำมันจะไม่ถูกต้องหรอกนะ แต่การที่อยู่ ๆ โอเซฮุนก็โผล่หนังหน้ามาโดยไม่ได้นัดกันไว้ก่อน แถมยังทำหน้าทำตากวนตีนหาเรื่องแบบนี้ ก็ทำเอาตกใจเหมือนกัน

     

    มาทำอะไรที่นี่?

     

    คนตัวเล็กสบตากับเจ้าของคำถามครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเครื่องหมายกากบาทซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงพยาบาล เซฮุนยืนกอดอก เลิกคิ้วเป็นเชิงกดดัน

     

    จะเรียกว่าบังเอิญได้ไหมที่เขาจอดรถรอแบคฮยอนอยู่หน้าปากซอยตั้งแต่เช้า พอเห็นว่าอีกฝ่ายขึ้นรถเมล์ก็ขับตามมาโดยไม่ให้รู้ตัว แต่เป็นเพราะต้องหาที่จอดรถ จึงทำให้คลาดกัน เขาเลยไม่รู้ว่าแบคฮยอนเข้าไปทำอะไรในโรงพยาบาลอยู่นานเป็นชั่วโมง

     

    แล้วมึงอะมาทำไร

     

    ตามมึงมาไง

     

    อะนั่นแน่... เดี๋ยวนี้พัฒนามีแอบสต็อกเกอร์นะคะ แบคฮยอนเอานิ้วจิ้มอกอีกคนก่อนจะถูกปัดออกอย่างรำคาญ

     

    ไม่สบายเหรอ?

     

    อือ ลองจับตัวกูดูสิ ร้อนรุ่มไปหมดเลย คนตัวเล็กเบะปาก ทำตาใสเรียกร้องความเห็นใจแต่ก็ไม่ได้ผล เมื่อเซฮุนเอามือดันหน้าเขาไว้

     

    ทั้งคู่สบตากันอีกครั้ง สีหน้าระรื่นไม่เหมือนคนป่วยคล้ายกับกำแพงสูงที่คั่นเราทั้งคู่เอาไว้ ดูเหมือนว่าต่อให้ซักไซ้ยังไงแบคฮยอนก็คงไม่พูดความจริง โอเซฮุนไม่อยากเซ้าซี้ จึงพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้ไปขึ้นรถด้วยกัน

     

    กินข้าวหรือยัง

     

    ยัง จะเลี้ยงไหม

     

    เห็นแก่กิน เขาปั่นหน้านิ่ง ขณะชำเลืองมองเจ้าของรอยยิ้มทะเล้นที่คงไม่สะทกสะท้านกับคำพูดใด ๆ ในโลก

     
     




     

    รถขับเข้าไปในมหาลัย เซฮุนหันไปมองที่นั่งข้างคนขับเป็นระยะหลังจากคนที่เคยเอาแต่พูดกวนประสาทผล็อยหลับไปได้สักพักแล้ว คาดว่าคงเมาค้างจากเมื่อคืน น่าเขกกะโหลกให้สำนึกจริง ๆ

     

    ตอนอยู่นิ่ง ๆ ก็น่ารักดีหรอก แต่พอลืมตาตื่นเมื่อไหร่ก็ซนอย่างกับลิงจนเขาไม่อยากจะอ่อนโยนด้วย

     

    ทั้งคู่เลือกกินมื้อเที่ยงในแคนทีนที่อยู่ใกล้ตึกแฟชั่น เพราะแบคฮยอนบอกว่าที่นี่มีของดีให้เลือกเยอะกว่าฝั่งวิศวะ คนตัวเล็กพุ่งไปเลือกของชอบและให้เขาเป็นคนจ่าย ก่อนจะนั่งกินอย่างเอร็ดอร่อยพร้อมขยับบอกว่า เงินคนรวยนี่อร่อยจังเลย

     

    เซฮุนเท้าคางมองไอ้ตัวตะกละที่ดันน่ารักเวลาแก้มทั้งสองข้างบวมเพราะของกิน ชายหนุ่มไม่สนแล้วว่าคนตรงหน้าจะแซวยังไงกับการที่ไอ้คนปากแข็งเอาแต่นั่งจ้องมากกว่าการก่นด่า

     

    อยู่ ๆ ก็เกิดการเปรียบเทียบขึ้นมาว่า ถ้าอีกฝ่ายเป็นป๋ายเซียน เขาก็คงไม่ทำอย่างนี้ ด้วยเหตุผลอะไรสักอย่างที่ทำให้โอเซฮุนรู้ว่าเขาสู้ความซื่อบื้อไม่ได้

     

    หายตึงกับน้องยัง

     

    มันเล่าให้มึงฟังเหรอ แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นพร้อมเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ซึ่งอีกฝ่ายก็ยักคิ้วครั้งเดียวเป็นคำตอบ แหม่ คุยกันบ่อยนะช่วงนี้

     

    ก็ถ้าพี่ขี้เหล้าไม่งี่เง่า มันจะทักไลน์มาพ่นใส่กูเป็นหน้ากระดาษเอสี่ไหมล่ะคนมีคดีทำจมูกบานเป็นลิง ก่อนจะทำหน้าเนือยเมื่อนึกถึงเรื่องน้องชายฝาแฝด

     

    เซฮุนจะไม่เล่าเด็ดขาดว่าเขาโทรไปประสาทแดกใส่ป๋ายเซียนจนต้องหงุดหงิดตัวเองแค่ไหน

     

    ไหน เอามาดูดิ๊ คนตัวเล็กเอื้อมมือไปตรงหน้าหวังจะเอาสมาร์ทโฟน แต่เซฮุนคว้าไว้ได้ทัน

     

    ไม่ได้

     

    อะไร มึงมีความลับกับกูเหรอ แบคฮยอนเบะปาก เหลือกตาเชิดหน้ามองหาเรื่อง

     

    จะอ่านทำไม เนื้อ ๆ ก็ระบายให้ฟังว่าทะเลาะกันแค่นั้น แล้วสรุปโอเคยัง?

     

    ถ้ากูไม่พูด แล้วทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก็คงเรียกว่าโอเคมั้ง

     

    มันสาหัสขนาดนั้นเลยหรือไง?

     

    แน่อยู่แล้ว มึงลองจินตนาการดูนะว่านี่คือลูกรักของมึง แบคฮยอนชี้ไข่ดาวบนจาน ขณะที่ยังสบตากับอีกฝ่าย แล้วอยู่ ๆ ก็มีไอ้หน้าหยวกที่ไหนก็ไม่รู้มาทำแบบนี้พูดจบก็เอาตะเกียบจิ้มจนไข่แดงทะลักออกมา

     

    เซฮุนหลุบตามองภาพตรงหน้า ก่อนจะผลักหัวคนตัวเล็กเรียกสติ แบคฮยอนสบถคำหยาบแบบไม่มีเสียงพลางจัดเผ้าผม ก่อนจะจ้องไอ้มือไวที่เอะอะก็ลงไม้ลงมือกับเขา

     

    ปัญญาอ่อน มันบอกว่ายังไม่ได้มีอะไรกับปาร์คชานยอล

     

    ก็เกือบไหมล่ะ ให้เขาฟัด เขาหอม อย่างนี้ แล้วก็อย่างนี้ คนตัวเล็กยกมือทั้งสองข้างขึ้นมาระดับใบหน้า พร้อมปากจู๋เอียงคอปรับองศาเป็นท่าประกอบ

     

    น้องมึงก็คน มีรัก มีอารมณ์ได้ มันโตแล้วก็ปล่อย ๆ บ้าง ถึงจะพูดอย่างนี้ก็เถอะ แต่พอเอาเข้าจริง ๆ โอเซฮุนก็คงหงุดหงิดเหมือนกันถ้ารู้ว่าไอ้เตี้ยเบอร์สองยอมโอนอ่อนให้ปาร์คชานยอลย่ำยี

     

    แต่ก็ต้องไม่ใช่คนแบบนั้น

     

    ถ้ารู้ว่ามันไม่ดีก็ถอยออกมาสิวะ คนที่ไม่ยอมเลิกเล่นเกมนี้สักทีก็มึงไม่ใช่หรือไง?

     

    กูหยุดแล้ว เมื่อวานมึงเห็นกูดี๊ด๊าต่อหน้ามันไหมล่ะ แบคฮยอนเถียงคอเป็นเอ็น ต่อให้ใจยังรักการเอาคืนแค่ไหน แต่พอรู้ว่าน้องชายฝาแฝดเล่นออกนอกกติกา เขาก็หัวเสียจนไม่อยากเล่นต่อไปแล้ว

     

    ดี เซฮุนปั้นหน้านิ่ง ทำมือปัด ๆ เป็นเชิงไล่ให้อีกคนกลับไปใส่ใจการกินข้าวต่อ เขาลอบยิ้มอย่างพอใจกับคำตอบ ยิ่งตอนอีกฝ่ายสบถคำหยาบ ก้มหน้าก้มตายัดข้าวเข้าปากก็ยิ่งทำให้กลั้นยิ้มไว้ไม่ไหว

     

    อย่างน้อยแบคฮยอนมันก็มีความคิดที่จะหยุด

     

     

    เพล๊ง!

     

     

    เสียงจานตกแตกเรียกความสนใจจากทุกคนที่อยู่โดยรอบ รวมถึงเซฮุนและแบคฮยอนที่นั่งอยู่เกือบด้านในสุด ภาพที่เห็นทำให้เบิกตากว้างอย่างไม่เชื่อสายตาตนเอง เมื่อตอนนี้ปาร์คชานยอลกับชายคนหนึ่งกำลังกระชากคอเสื้อกัน ซึ่งมีเพื่อนของทั้งสองฝั่งพยายามเข้าไปห้าม

     

    ฉิบหายละ ของขึ้นเหรอนั่น คนตัวเล็กพึมพำพร้อมเคี้ยวข้าวไปด้วย ถ้าบอกว่าจะโดนอัดเพราะไปหลงตัวเองใส่ชาวบ้านนี่จะขำเลยนะ

     

    รุ่นพี่ปีสองน่ะ เห็นว่าหมั่นหน้ากันมานานแล้ว

     

    งัดกันบ่อยเหรอ

     

    ก็แค่เกือบ ๆ แต่เด็กแฟชั่นไม่ค่อยมีเรื่องชกต่อยกันหรอก มันทำให้ภาพลักษณ์ดูถ่อย เซฮุนดื่มน้ำแล้วมองไปยังจุดเดิมอีกครั้ง เพราะไอ้ลู่หานไปตามเสือกมาจนรู้ว่าเพราะอะไรรุ่นพี่ถึงเกลียดปาร์คชานยอลขนาดนั้น ซึ่งคงไม่พ้นเรื่องเด่นเกินหน้าเกินตา หลงตัวเองว่าเก่งนักหนา อีกทั้งชอบดูถูกคนที่เหม็นขี้หน้า

     

    ยอมรับว่าเขาก็เป็นหนึ่งในคนที่ไม่ชอบไอ้ขี้เก๊กนั่น และพร้อมจะตอกหน้ากลับไปเสมอถ้ามีเรื่องต้องลับฝีปากกัน แต่ก็ต้องยอมรับว่าฝีมือการดีไซน์และเรื่องเรียนของมันไม่ได้แย่ไปกว่าคำคุย หลายครั้งที่ปาร์คชานยอลทำให้รู้สึกประหลาดใจ ซึ่งโอเซฮุนก็ได้แต่คิดว่ามันเป็นคนมีพรสวรรค์หรือไม่ก็เป็นพวกปากเก่งแต่เก่งจริง ๆ

     

    ผิดกันกับพวกกู กระทืบได้เป็นกระทืบ แบคฮยอนยิ้มขำ พลางหันไปมองชานยอลอีกครั้งโห ท่าจะเดือดมาก คอนี่เป็นเอ็นเลย

     

    จะเข้าไปปลอบไหมล่ะ เห็นหน้ามึงแล้วคงหายโมโหเป็นปลิดทิ้ง คนตัวผอมแค่นหัวเราะในลำคอ พลางมองคนตัวเล็กที่กำลังหรี่ตาพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์

     

    หึงเหรอจ๊ะ

     

    ถ้าใช่แล้วจะว่าไง?

     

    อุ่ต้ะ เดี๋ยวนี้หัดเล่นคำ... แบคฮยอนจิ๊ปากรัว แต่เซฮุนกลับนิ่ง ไม่แสดงทีท่าหัวเสียเหมือนทุกครั้งมึงพูดจริงดิ?

     

    อืม

     

    คนตัวเล็กเคี้ยวเอื้องเป็นควาย สบตากับคนพูดน้อยต่อยหนักที่เคยจูบกันมาแล้วหลายครั้ง บอกตามตรงว่าแบคฮยอนเป็นพวกติดเล่นจนเป็นนิสัย จึงทำให้คิดอะไรง่าย ๆ จนเคยตัว อย่างเช่นเรื่องของเซฮุนที่ดูเหมือนทีเล่นทีจริง ซึ่งอีกฝ่ายก็ไม่ตีตัวออกห่างหลังจากถูกจูบ ก็เลยคิดว่าคงไม่จริงจัง

     

    อยากเป็นแฟนกูเหรอ

     

    เปล่า กูอยากให้เราเป็นแฟนกัน

     

    อั่ยหยา... แบคฮยอนขมวดคิ้ว จิ๊ปากรัว ๆ แล้วยัดข้าวเข้าปากคำโตมันควรจะโรแมนติกกว่านี้นะกูว่า ทั้งคำพูด บรรยากาศ แต่ดูมึงดิ นั่งไขว่ห้าง กอดอก ทำหน้าเหมือนจะแดกหัวกูให้ได้แล้วมาพูดงี้

     

    คนอย่างมึงรู้จักเรื่องน้ำเน่าพรรค์นั้นด้วยเหรอ เซฮุนเอาซองขนมแท่งเคาะหัวอีกฝ่ายเบา ๆ กับบรรยากาศแปลก ๆ ที่ควรจะโรแมนติกอย่างที่แบคฮยอนว่า แต่คำตอบกลับดูธรรมดาเหมือนเขากำลังชวนมันไปกินข้าวยังไงอย่างนั้น

     

    จริงจังนะ นี่มึงชอบกูจริง ๆ เหรอวะ เอาแบบไม่กวนตีน

     

    อืม

     

    แล้วน้องกูล่ะ

     

    ...

     

    โอเซฮุนถูกไล่ต้อนซะจนมุม ชายหนุ่มนั่งนิ่งทั้งที่ยังสบตากับคนตัวเล็กซึ่งเขารู้ดีว่าต้องการคำตอบแบบไหน คนตัวผอมนึกโมโหตัวเองอยู่ในใจที่ไม่ตอบออกไปอย่างฉะฉาน ทั้งที่กล้าสารภาพความรู้สึกไปแล้ว

     

     

    เพียงเพราะนึกถึงอีกคน ที่มีหน้าตาเหมือนคนที่นั่งอยู่ตรงนี้

     

     

    ป๋ายเซียนก็ส่วนป๋ายเซียนสิ

     

    อั่ยหยา...แบคฮยอนส่ายศีรษะเล็กน้อย ชำเลืองมองเขาอย่างไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยินก่อนจะลุกขึ้นยืนขอไปซื้อน้ำแป๊บ

     

    ไปอะไรตอนนี้ ที่มีอยู่ทำไมไม่แดกให้หมด

     

    อยากแดกโคล่า จบไหม!” แบคฮยอนเชิดหน้าถลึงตามองอย่างกวนประสาท ซึ่งเซฮุนก็ได้แต่ขมวดคิ้วมองตามหลังไอ้เตี้ยที่เลือกบ่ายเบี่ยงการให้คำตอบอย่างหน้าตาเฉย

     

    ถามว่าเสียฟอร์มไหมก็คงไม่ปฏิเสธ เพราะการสารภาพรักใช่ว่าจะเป็นเรื่องที่พูดออกไปยังไงก็ได้โดยไม่ต้องผ่านการคิดก่อน ใช่ โอเซฮุนรวบรวมความกล้ามาตั้งหนึ่งคืน หลังจากหักดับตัวเองเพื่อเลือกแล้วว่าเขาจะมองแค่บยอนแบคฮยอน มากกว่าการปล่อยให้ตัวเองสับสนว่าที่จริงแล้วก็แอบหวั่นไหวกับบยอนป๋ายเซียน ซึ่งเจ้าตัวก็คลั่งปาร์คชานยอลซะยิ่งกว่าอะไรดี

     

    แต่พอพูดแล้วก็เป็นอย่างนี้ เหมือนโดนไอ้เตี้ยเบอร์หนึ่งลากไปตบกลางสี่แยกแล้วบอกว่า ชอบกูเหรอ เรื่องของมึงดิ

     

    คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเมื่อเห็นว่าตอนนี้แบคฮยอนมันกำลังทำท่าจะตรงไปที่โต๊ะของชานยอลมากกว่าการกลับมานั่งที่เดิมแล้วซัดทุกอย่างที่ซื้อมาลงท้องไปให้หมด สีหน้าที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความเจ้าเล่ห์นั่นคืออะไร คิดจะปั่นหัวกันใช่ไหม? เมื่อกี้ยังทำท่าเหมือนว่าอยากสมน้ำหน้าปาร์คชานยอลซะเต็มแก่ไม่ใช่หรือไง? ถ้าอยู่ ๆ ไปหาไอ้หมอนั่นทั้งที่เขาเพิ่งสารภาพรักคงได้มีหัวแตกแน่ ขอสาบานตรงนี้

     

    เซฮุนกำลังไม่ชอบใจ และจะให้เวลาไอ้เตี้ยนั่นอีกแค่สองนาทีเท่านั้น แบคฮยอนยิ้มพร้อมเลิกคิ้ว ยึกยักว่าจะตรงมาทางนี้หรือจะไปหาปาร์คชานยอลดี ก่อนที่มันจะยอมเดินกลับมาเพราะเห็นเขาขยับปากพูดว่า

     

     

    อยากตายไหม?

     

     

    หึงจนหน้าดำหน้าแดงหมดแล้ว

     

    รีบแดกให้หมด จะได้รีบไป

     

    อ้าว แค่นี้ไล่ แบคฮยอนเลิกคิ้วมอง ก่อนจะถูกอีกฝ่ายเคาะหัวด้วยขนมแท่งเดิม

     

    กูไล่ตัวเองกับมึงให้ไปพร้อมกัน ยังต้องอธิบายอะไรอีกไหม?

     

    คนตัวเล็กหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ กับคำตอบจากปากคนซึนซึ่งยังคงฟอร์มจัดเหมือนในทีแรก เซฮุนก็เป็นซะอย่างนี้ ชอบทำตัวน่าแหย่ สุดท้ายก็ร้องเป็นแมวหงิง ๆ น่าแกล้งเป็นบ้า

     

    แบคฮยอนเอื้อมมือไปยีหัวคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม แต่กลับถูกคว้ามือไว้พร้อมสายตาที่มองมาอย่างจริงจัง ตอนนี้มีแค่คนตัวเล็กที่ยังคิดว่าบรรยากาศตอนนี้มันน่าตลก ในขณะที่เขาคิดมากจนเสียความเป็นตัวของตัวเองเพราะเริ่มถลำลึก

     

    ปล่อยปาร์คชานยอลไปเถอะ แบคฮยอนเลิกคิ้วโดยไม่พูดแทรก ไอ้ตัวกวนประสาทยังคงมีสีหน้าไม่ต่างไปจากทีแรก ซึ่งเขาก็ไม่ได้คาดหวังว่ามันจะหน้าแดงแล้วหลบสายตาอย่างขลาดอาย เพราะถ้ามึงอยากปั่นป่วนชีวิตใครสักคน

     

    ชายหนุ่มมองเข้าไปในดวงตาคู่นั้น ซึ่งไม่ได้ฉายแววหวั่นไหวอย่างคนที่เขาเคยคบด้วย เซฮุนอยากให้แบคฮยอนใจตรงกันบ้างสักนิด หรือไม่ก็มีความคิดที่อยากเปลี่ยนแปลงสถานะให้มันต่างไปจากคนแปลกหน้าที่เข้าไปขอความช่วยเหลือเรื่องถ่ายแบบ หรือเพื่อนห่าง ๆ ที่ไม่ได้สนิทสนมกันมากมาย เขาทั้งคู่สามารถเริ่มต้นใหม่ในแบบคนรักได้ เชือกที่ผูกเราทั้งสี่คนไว้ด้วยกันจะได้คลายออกสักที

     

     

    และหลังจากนั้นจะได้ไม่มีใครลังเลเรื่องบุคคลที่สามอีกต่อไป

     

     

    ให้กูเป็นคน ๆ นั้นได้ไหมวะ?

     

     

     

     

     

     

    น่าจะกวนตีนมันกลับเหมือนครั้งก่อน ๆ แบบนี้ไม่สมเป็นมึงเลย คริสส่ายหน้าพลางมองเพื่อนสนิทที่ยังคงถูกโทสะปั่นป่วนจนยากที่จะฝืนยิ้มออกมาได้ เขาหันไปมองจงอินที่ยืนอยู่ข้างตัวแล้วพยักหน้าอย่างรู้กัน

     

    อะไรที่สมกับเป็นกูล่ะ ยิ้มอย่างอารมณ์ดีแล้วบอกว่า ขอบคุณนะครับรุ่นพี่ที่แอบเอากรรไกรมาตัดชุดที่ผมเย็บจักรเองกับมืองี้เหรอ?มึงอย่าตลก

     

    จริงคริส มึงอย่าตลก จุนมยอนเสริมพลางกระดิกนิ้วชี้

     

    มันเข้าใจผิดว่ามึงไปทำของมันก่อนไงหารู้ไม่ว่าพี่ปีสองกลุ่มนั้นก็ส้นตีนจนคนอื่นหมั่นไส้เหมือนกัน

     

    ควรถามกูก่อนเปล่า? อะไรก็ได้ที่ไม่ใช่การเอาอคติของแม่งมาลงที่ชุดกู ไอ้ฉิบหาย คิดว่าใช้เวลาทำวันสองวันเหรอ? ชานยอลถอนหายใจอย่างหัวเสีย ทำเอาจุนมยอนและคนอื่น ๆ ทำตัวไม่ถูก

     

    ใช่พวกเขาจะไม่รู้ว่าบางครั้งชานยอลก็เป็นคนอารมณ์รุนแรง โดยเฉพาะเรื่องที่เจ้าตัวจริงจังซึ่งน้อยคนที่จะรับรู้ จงอินวางมือลงบนไหล่เพื่อนสนิทพร้อมบีบเบา ๆ มันก็น่าโมโหจริง ๆ ที่พวกรุ่นพี่จะเอาคืนด้วยวิธีนี้เพียงเพราะมั่นใจว่าชานยอลเป็นคนทำ โชคดีที่ไม่ใช่งานโปรเจคคู่ที่เพิ่งส่งไป ไม่อย่างนั้นคงมีปากแตกกันกลางแคนทีนไปแล้ว

     

    หายใจเข้าลึก ๆ คริสม้วนมือเป็นท่าประกอบ ยังไงเขาก็อยากเห็นไอ้หอกนี่เป็นบ้าหลงตัวเองมากกว่าตอนองค์ลง

     

    ชานยอลพยายามทำตาม ยกมือขึ้นเป็นเชิงห้ามซึ่งเพื่อนทั้งสามก็หยุดยืนอยู่กับที่ทันที ชายหนุ่มหลับตาลงพร้อมเงยหน้าขึ้นสูดอากาศบริสุทธิ์ซึ่งดูเหมือนว่าฝนคงจะตกลงมาในอีกไม่ช้า เขาไม่ชอบเวลาควบคุมตัวเองไม่ได้ เข้าใจไหม มันหลุดคาแรกเตอร์ มันไม่คูล แล้วไอ้รุ่นพี่เหลาเหย่นั่นก็ทำตัวส้นตีนอยู่เรื่อย

     

    จ้างกูเปล่า ยี่สิบล้าน เดี๋ยวเอาให้เป๊ะแบบชุดเดิมเลย จงอินว่า ก่อนจะยิ้มขำเมื่อเพื่อนง้างมือขึ้นทำท่าจะโบกหัวเขา

     

    มึงไม่ใช่คนตลก จงอิน เพราะงั้นมุกนี้ไม่ผ่าน ชานยอลกดเสียงลงต่ำ กูจะทำให้มันเห็นเองว่าหัตถ์เทวะเป็นยังไง พวกมันไม่สามารถหยุดยั้งการลั่นผลงานมาสเตอร์พีซของกูได้ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหน ชานยอลมองสองมือตนเองด้วยแววตาจริงจัง ก่อนคริสจะหันไปกุมขมับเพราะรับไม่ได้ เขาชักจะไม่แน่ใจแล้วว่าอยากให้มันเป็นบ้าแบบนี้จริง ๆ หรือเปล่า

     

    จริง เพื่อนกูโคตรเฉร๋ง จุนมยอนชูนิ้วหัวแม่มือพร้อมพยักหน้า

     

    แม่ง โตขึ้นมาโดยที่ไม่โดนตีนได้ไงวะ จงอินพึมพำ เมื่อทั้งสี่คนเดินเฉิดฉายลงบันไดหน้าตึกคณะไปด้วยกันในจังหวะที่ลงตัว

     

    ไอ้พวกปีสองช้ะ <- จุนมยอน

     

    มึงเนี่ยสัด

     

    ลั่นเลยเอ่าะ คนตัวเล็กประจำกลุ่มพูดเสียงสั่น พลางยืนเบียดชานยอลหวังเป็นที่พักพิง

     

    ชายหนุ่มหยุดฝีเท้าบนฟุตปาธหน้าคณะ พลางมองไปยังคนตัวเล็กที่กำลังหดคอ ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างอารมณ์ดีเพราะโดนโอเซฮุนบีบคอให้เดินไปด้วยกัน และที่ยิ่งกว่านั้นคือ รอยยิ้มบาง ๆ บนใบหน้าไอ้หมอนั่น... มันทำให้เขาถูกดึงกลับไปเป็นคนเดิมเมื่อไม่กี่นาทีก่อนอีกครั้ง

     

    อ้าวนั่นป๋ายเซียนใช่ปะวะ? จุนมยอนชี้ไปยังเข้าของชื่อ พลางมองเพื่อนตัวสูงที่กำลังทำหน้าเคร่งเครียด

     

    ชานยอลเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้ม กับกฎเหล็กข้อที่สิบเอ็ดว่าจะไม่ปล่อยให้ตัวเองหัวเสียเกินวันละครั้ง ซึ่งภาพตรงหน้ามันกำลังจะทำให้เขาแหกกฎ

     

    จุนมยอนค่อย ๆ เฟดตัวไปยืนข้างคริส สะกิดแขนพร้อมพยักหน้าหวังให้คนมีเหตุผลประจำกลุ่มช่วยล้างสมองเพื่อนกลับเข้าสู่สภาพเดิมที แต่ดูเหมือนว่ายังทำตอนนี้ไม่ได้ เมื่อชานยอลคว้าสมาร์ทโฟนขึ้นมาแล้วกดโทรหาคนตัวเล็กที่ยังอยู่ในพิกัดสายตา

     

    ก็เคลียร์กันรู้เรื่องแล้วไม่ใช่หรือไง ทั้งเรื่องที่ทำให้น้ำไหลคืนนั้น กับเรื่องเมินเฉยเมื่อวานที่ป๋ายเซียนอ้างว่ารู้สึกไม่ค่อยสบาย ถึงไม่อยากเชื่อ แต่ชายหนุ่มคิดว่าคนตัวเล็กคงไม่โกหก คนที่ร้องไห้เพราะกลัวถูกทิ้งหายไปไหนแล้ว ตอนนี้ปาร์คชานยอลมองเห็นแค่คนยิ้มเก่งที่กำลังมีความสุขกับโอเซฮุน

     

    ที่ตกลงว่าจะค่อย ๆ ดูกันไป แต่ระหว่างนี้ก็ใช่ว่าจะให้ไปอิ๊อ๊ะกับไอ้หมอนั่นยังไงก็ได้หรือเปล่า ปาร์คชานยอลดูเป็นคนใจเย็นหรือไงกัน?

     

    ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรในโลกที่ทำให้ทั้งคู่หัวเราะอย่างออกรสได้ถึงขนาดนั้น เขารู้สึกว่าในหัวมันร้อนไปหมดเพราะความหึงหวง ยิ่งรู้ว่าพักนี้โอเซฮุนไม่ได้คุยกับใคร และไปมาหาสู่กับป๋ายเซียนแค่คนเดียวก็ยิ่งอารมณ์เสียเข้าไปใหญ่

     

    เสียงรอสายเป็นเหมือนระเบิดเวลา ชานยอลไม่สนใจว่าตอนนี้เพื่อน ๆ กำลังจะพูดอะไร หรือแม้แต่เสียงรุ่นพี่ที่กล่าวทักทายเมื่อเดินผ่าน สายตาชายหนุ่มยังคงอยู่ที่จุดเดิม พร้อมมองไปยังสมาร์ทโฟนที่เหน็บอยู่ข้างหลังกางเกงยีนส์คนตัวเล็ก

     

     

    แต่...

     

     

    ( ว่าไงชานยอล )

     

    น้ำเสียงคุ้นหูเป็นเหมือนประโยคหยุดโลก เมื่อเจ้าของเสื้อช็อปตัวนั้นทำท่าชู้ทแก้วน้ำลงถังขยะ มากกว่าการถือสมาร์ทโฟนแนบหูให้ตรงกับเสียงที่เขาได้ยินในสาย

     

    ( ชานยอล? )

     

    เจ้าของชื่อยังคงนิ่ง ปล่อยให้หูฟังเสียงและตามองใบหน้าของคนตัวเล็กที่กำลังชี้หน้าโอเซฮุนอย่างเอาเรื่อง ชายหนุ่มละมือออกมาเพื่อดูหน้าจอ เพื่อดูว่าเบอร์โทรตรงกับชื่อหรือไม่ ซึ่งก็ได้คำตอบว่าเขาไม่ได้โทรผิด

     

     

    แต่ทำไม?

     

     

    ไม่รับสายเหรอวะ จุนมยอนขมวดคิ้วพลางกระพริบตาปริบ ๆ มองแอสตันมาร์ตินคันหรูที่กำลังขับออกไปต่อหน้าต่อตา

     

    ชานยอลยืนตั้งสติท่ามกลางความว่างเปล่าที่โรยตัวอยู่โดยรอบ ในหัวมีคำถามมากมายซึ่งเขาคงไม่โง่ตั้งคำถามว่าทำไมเสียงคนในสายถึงได้หน้าเหมือนกับคนที่อยู่กับโอเซฮุนในตอนนี้ เขาไม่ได้ตาฝาด ไม่ได้หูหนวก ที่อยู่ในสายตอนนี้คือบยอนป๋ายเซียน และที่ขึ้นรถไปกับโอเซฮุนเมื่อครู่นี้ก็เช่นกัน

     

     

    แล้วตอนนี้มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้น?

     

     

    ป๋ายเซียน

     

    ( คับ )

     

    อยู่ไหนครับ?

     

    ( เรียนอยู่ มีอะไรหรือเปล่า )

     

    หมายถึงตอนนี้น่ะเหรอ?

     

    ( อื้ม แต่อีกสิบนาทีก็เลิกแล้ว ไว้มาเจอกันไหม? )

     

    จงอิน คริส และจุนมยอนต่างมองใบหน้าเคร่งเครียดของเพื่อนสนิท ชายหนุ่มยังคงยืนนิ่งเพื่อหวังให้สายลมเย็น ๆ พัดผ่านความงุนงงออกไป และสุดท้าย ความสงสัยก็เอาชนะทุกอย่าง

     

    ( ชานยอล )

     

    ป๋ายเซียนเรียนอยู่ตึกไหน เราจะไปหาเดี๋ยวนี้

     

     

     

    TBC

     

     

    *พนมมือตัวสั่นเป็นเจ้าเข้า*

    เอาแล้วป๋าย จะทำไงเนี่ย?! (ไม่สปอยล์ดีกว่า)

     

     

    ขอโทษที่หายไปนานนะคะ ยังรอกันอยู่ไหม สืบเนื่องจากตอนก่อนที่เราเขียนฉากคัทสามพีไป ทำให้มีกระแสตอบกลับมาในด้านลบมากมายจนเราไม่กล้าอ่านทั้งคอมเมนท์และแท็กในทวิต (ซึ่งถ้าคนที่ตามเรา จะเห็นว่าเราไม่ได้รีแท็กแฝดเลย)

     

    เรายินดีรับคำติติงนะคะ แต่รบกวนว่าอย่าสกรีมกันด้วยคำหยาบได้ไหม บางคนขึ้นกูมึง อีไรท์เตอร์กับเราเลย เราไม่คิดว่ามันเป็นคำพูดที่เหมาะสมค่ะ เราไม่ใช่เพื่อนเล่นของใคร และคิดว่าคงอายุมากกว่าคนหลายคนที่เมนท์ด้วยคำหยาบ คิดดี ๆ นะคะ ไม่ต้องชมเราก็ได้ค่ะ แต่ไม่ต้องสกรีมด่าเราขนาดนั้น เราเขียนฟิคตอนนึงใช้เวลานาน พอเห็นคุณเมนท์แรง ๆ แบบนี้เราก็ไม่รู้ว่าจะเอากำลังใจจากไหนไปเขียนต่อ เพราะฉะนั้นรบกวนมีสติกันนิดนึงนะคะ

     

    บางคนรับไม่ได้กับฉากคัท เราไม่ว่าค่ะ เพราะสิ่งที่เราจะสื่อคือ มันเป็นความฝันของป๋ายเซียน ซึ่ง มันเป็นเรื่องที่ป๋ายเซียนกลัวว่าจะเกิดขึ้นจริง

    กลัวว่าแบคฮยอนจะไปรักกับผู้ชายที่ตัวเองชอบ ซึ่งน้องก็ยังแยกแยะไม่ได้ว่าหวงพี่หรือชอบชานยอลมากกันแน่ เพราะถ้าเป็นความจริง แบคฮยอนไม่มีทางทำร้ายป๋ายเซียนแน่นอน ถ้าคนอ่านมาแต่แรก และเข้าใจคาแรกเตอร์แบคฮยอน ก็จะรู้ว่าแบครักน้องมากแค่ไหน

    เซ็กส์ในฝันช่วงป๋ายกับชาน เป็นช่วงที่ป๋ายมีความคิดอยากทำแบบนั้นอยู่ลึก ๆ (ซึ่งเคยมีโอกาสทำ แต่ก็หยุดกลางคัน จึงทำให้ค้าง) ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นเรื่องปกติ ไม่ใช่เรื่องน่าอายสำหรับเด็กผู้ชาย

    แต่ที่เขียนให้เซ็กส์ชานแบครุนแรง ก็เป็นเพราะความกลัวของป๋ายอีกเช่นกันค่ะ

    ส่วนฉากที่แบคฮยอนเข้ามาร่วมด้วยเป็นสามพี (ฉากที่แบคฮยอนช่วยป๋ายไปด้วย) อันนั้นเป็นความเคยชินของสองแฝดที่เคยเล่นพิเรนทร์กันอยู่บ่อย ๆ จึงทำให้ฝันอย่างนั้นด้วยค่ะ

    สังเกตว่าในฝันจะดูเวิ้ง ๆ คำพูดดูไม่สมจริง ดูลอย ๆ ซึ่งมันก็เป็นความกลัวเหมือนกัน

    เราไม่รู้ว่าจะขอโทษคนอ่านดีไหม เพราะถ้าเขียนเบา ๆ มันก็จะเป็นแค่ nc ธรรมดาที่อ่นาแล้วฟิน ซึ่งคนอ่านคงเข้าไม่ถึงความกลัวของป๋ายเซียน

     

    พูดซะยาวเลย ยังไงก็ขอบคุณที่ยังไม่ทิ้งเรื่องนี้นะคะ เราเคยถอดใจจนอยากเทเรื่องนี้เหมือนกัน แต่ถ้าเราเท คนอ่านก็คงไม่รู้ว่าเราวางพล็อตไว้ยังไงบ้าง นี่เกือบ ๆ จะถึงกลางเรื่องเอง

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×