ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    #ชานตำแซ่บ

    ลำดับตอนที่ #4 : ตำแซ่บครกที่ 03 :: ฮอร์โมนแห่งความแค้น

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 7.7K
      66
      15 เม.ย. 59

    ©
    t
    h
    e
    m
    y
    b
    u
    t
    t
    e
    r

     

     

     

    ตำแซ่บครกที่ 03

    ฮอร์โมนแห่งความแค้น

     


     

     

     

    เจ็กฮุน

     

    เจ้าของชื่อหลุดออกจากความคิด ทันทีที่ได้ยินเสียงของหลานชายหัวฝีหัวหนองเข้ามาในโสตประสาท ชายหนุ่มเอี้ยวหน้าหันไปข้างหลัง ไม่มีอีกแล้วเด็กน้อยขี้เกมที่เอาแต่ใส่อารมณ์กับเกมกะโปก ๆ ที่วัยรุ่นชอบเล่น เมื่อตอนนี้เหลือเพียงมนุษย์เด็กมอสี่หัวเกรียนเรียน รด. ในสภาพชุดนอนยืนหรี่ตายิ้มกริ่มราวกับว่ามีอะไรในใจ

     

    อะไร

     

    เมื่อกี้ผมเห็นนะ

     

    “What?”

     

    สายตาเจ็กตอนมองกรรมกรท้ายซอยคนนั้น

     

    วูบหนึ่งฮุนนึกย้อนไปถึงเจ็ด-แปดปีก่อน ที่เขาล้อไอ้เด็กหัวหลิมนี่ว่ามันเป็นเด็กถูกเก็บมาเลี้ยงจากถังขยะ ตอนนั้นไอ้เคี้ยงร้องไห้เหมือนญาติฝ่ายไหนตายห่าไปจากโลกนี้ แต่พอเวลาผ่านคนเราก็เปลี่ยน เมื่อตอนนี้เขารู้สึกได้ถึงรอยยิ้มของผู้คุมวิญญาณที่มองมาราวกับอยากบอกว่า

     

     

    เจ็กฮ๊าฟ กูรู้หมดแล้ว

     

     

    ฮุนยืนนิ่ง เขาไม่คิดว่าสิ่งที่ไอ้หลานนรกพูดจะเป็นเรื่องจริง จนกระทั่งรู้สึกแปลก ๆ เมื่อนึกถึงหน้าชายฉกรรจ์ผิวคล้ำกร้านแดดที่ทำงานอยู่ท้ายซอย ว่าไงนะ หมอนั่นเป็นกรรมกรงั้นเหรอ ทีแรกนึกว่าปะยางอยู่ร้านพี่ซ่งซะอีก

     

    แววตาของเจ็กตอนมองมันอะ วาววับเหมือนมีอีโมหัวใจพุ่งออกมา

     

    ตีนเถอะ กูหันหลังอยู่ มึงรู้ได้ไงว่าตอนนั้นกูทำหน้าทำตาแบบไหน

     

    โหยเจ็ก ผมนั่งอยู่ตรงเนี้ย ได้ยินทุกอย่างแหละ ไม่เคยได้ยินเหรอ น้ำเสียงสื่อทุกความรู้สึก

     

    เลอะเทอะแล้วมึง กูไม่ได้รู้สึกอะไรเลยสักนิด แบบนั้นไม่ใช่ Style กูหรอกนะ ฮุนแค่นยิ้ม ส่ายหน้าหน่าย ๆ กับคำพูดคำจาอีกฝ่ายที่เริ่มจะไร้สาระเข้าไปทุกที

     

    ปกติเจ็กให้ชานมฟรีแค่ผู้หญิงไม่ใช่เหรอ สารภาพมาเถอะน่า

     

    ฮุนทำหูทวนลม หันเข้าซิงค์ล้างแก้วกาแฟที่เพิ่งชงไปเมื่อครู่ ขณะที่เสียงนกเสียงกาของหลานทรพียังคงเข้าหูอยู่ไม่ได้ขาด

     

    โกวก็ชอบผู้ชายไปคนนึงละ

     

    อะไรนะ

     

    เอ้า! นี่เจ็กไม่รู้เหรอ เมื่อคืนผมเห็นโกวบู้ซ้อนมอร์ไซค์ลูกชายบ้านข้าง ๆ เราอะ กว่าจะกลับก็ตีหนึ่ง ผมรู้ ผมตีดอทอยู่

     

    หมายถึงลูกน้าโสรยาที่ขายส้มตำอยู่เกือบปากซอยน่ะนะ?

     

    เออ นี่เจ็กฮุนก็จะชอบผู้ชายไปอีกคนสินะ เคี้ยงแค่นยิ้ม ซึ่งบอกเลยว่าคำพูดเหล่านั้นมันสร้างความปั่นป่วนทางความคิดให้กับฮุนเป็นอย่างมาก

     

    ไม่จริงน่า! เขาไม่ได้รู้สึกอะไรกับกรรมกรหาเช้ากินค่ำอย่างนั้นเลยสักนิด ฮุนเป็นถึงว่าที่แม่พิมพ์ของชาติ ที่จะสอนให้เด็กเก่งคณิตศาสตร์จนเติบโตเป็นผู้ใหญ่มีคุณภาพ ไม่มีทางเลยที่เขาจะลดระดับตัวเองลงไปใกล้คนพรรค์นั้น Low มาก มันไม่ใช่

     

     

    แต่... ทำไมหัวใจถึงสั่นไหว ราวกับมีใครเข้ามานั่งเขย่ามันอยู่ในนั้ล...

     

     

    ไอ้เคี้ยง มึงห้ามเอาเรื่องนี้ไปพูดให้คนอื่นฟังนะ ฮุนชี้หน้าอีกฝ่าย

     

    หมายถึงเรื่องเจ็กหรือเรื่องโกวบู้อะ

     

    ทุกอย่างนั่นแหละ เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าหัดปากเปราะ เดี๋ยวคนในซอยได้นินทาบ้านเราหมด มึงต้องเห็นแก่หน้าอากงกับป๊าม๊ามึงด้วย

     

    หึ

     

    ไอ้เคี้ยงยิ้มกริ่ม เราสบตากันอยู่อย่างนั้นเกือบครึ่งนาที ก่อนที่สิ่งไม่คาดฝันจะเกิดขึ้น เมื่ออยู่ ๆ ไอ้เตี้ยมะขามป้อมก็วิ่งออกไปนอกร้านพร้อมแหกปากลั่นว่า

     

     

    ป๊า!!! ม๊า!!! โกวบู้กับเจ็กฮุนเป็นตุ๊ดดดดดดดดดดดดดด!!!!”

     

     

    ไอ้เหี้ยเคี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง !!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

    เสียงตะโกนดังลั่นบ้านและคาดว่าคงได้ยินไปจนถึงท้ายซอย บู้คิ้วกระตุกเล็ก ๆ กับเสียงน่ารำคาญของหลานชายที่กำลังวิ่งออกมาจากร้านชานมซึ่งอยู่ติดกัน แน่นอนว่าหูทั้งสองข้างได้ยินทุกเม็ดไม่มีผิดเพี้ยน ซึ่งปฏิเสธไม่ได้เลยว่ามันเป็นความจริง

     

     

    ไอ้เคี้ยงหลานทรพี มึงกล้าดียังไงถึงประจานดับเบิ้ลเจ็กตอนกลางวันแสก ๆ อย่างนี้

     

     

    มือที่กำลังโกยถั่วงอกลงถังยังคงทำอย่างต่อเนื่อง บู้ยืนนิ่งเหมือนไม่คิดอะไรก่อนจะยื่นขาออกไป จนกระทั่งหลานชายผู้เป็นที่รักสะดุดล้มลง ตัวไถลไปกับพื้นและจอดลงในที่สุด

     

    เฮื้อออออออออ!!!”

     

    โอ้ะ! โกวขอโทษว่ะเคี้ยง บู้หันกลับไปมองหลานชายที่นอนจูบพื้นร้านที่ถูกลูกค้าเดินเหยียบย่ำมาแล้วไม่ต่ำกว่าห้าสิบตีน

     

    เคี้ยงนอนกระตุกเป็นพัก ๆ ก่อนจะพยายามหยัดตัวลุกขึ้น พร้อมสองมือที่กำหมัดเข้าหากันแน่นเหมือนโงกุนที่กำลังโมโหอย่างถึงขีดสุดจนพร้อมกลายร่างเป็นซุปเปอร์ไซย่าได้ทุกเมื่อ โกวบู้อยากจะลองของกับเทพเคี้ยง N’Square ใช่ไหม...

     

    เด็กมอสี่หัวหลิมหยัดตัวลุกขึ้นเต็มความสูงอันน้อยนิด เขาหันไปมองคาดโทษคนเป็นอาก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจเมื่อเพิ่งรู้ตัวว่าเผลอเหยียบปลายขากางเกงจนมันหลุดลงไปกองกับหัวเข่า

     

    เคี้ยงเบิกตาค้าง ไม่ถึงวินาทีเลยด้วยซ้ำที่เขาใช้เวลารวบรวมสติเพื่อที่จะก้มลงดึงกางเกงขึ้นมา แต่บางอย่างมันไวกว่านั้น เมื่อเขาได้ยินเสียงชัตเตอร์โทรศัพท์ดังขึ้น... จากกล้องของเจ็กฮุนที่ยืนอยู่หน้าร้าน

     

     

    แช่ะ!!!

     

     

    “Nice Shot”

     

    โพสลงเฟสเลยมึง เดี๋ยวกูตามไปกดไลค์

     

    เจ็กฮุน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

     

    เคี้ยงรู้สึกเหมือนโลกหยุดหมุน เมื่ออยู่ดี ๆ ลูกค้าที่นั่งแดกผัดไทยก็หันมาสนใจหนอนน้อยของเขาที่ห้อยต่องแต่งกับการจำศีล แววตาของคนเหล่านั้นล้วนต่างออกไป บางคนมองยิ้มอย่างเอ็นดู แต่บางคนก็ทำเหมือนว่าผิดหวังกับขนาดของมัน

     

     

    อะไรวะ!!! กูเพิ่งอยู่มอสี่!!! จะให้ใหญ่เท่าเสาหลักกิโลเลยหรือไง!!!

     

     

    เจ็กฮุนก้มหน้ายิ้มกับโทรศัพท์ ก่อนที่โกวบู้จะเข้าไปสมทบ ตอนนี้เคี้ยงรู้สึกเวียนหัวไปหมด คล้ายว่าเกียรติที่สะสมมาตลอดหลายปีได้ถูกย่ำยีไม่มีเหลือเพราะคนสายเลือดเดียวกันไปแล้ว ทำไมวะ! ทำไมโกวกับเจ็กถึงทำกับหลานชายผู้เป็นที่รักได้อย่างนี้

     

    ม๊า!!!!!!!!!!!!!!!!!! ช่วยเคี้ยงด้วยยยยยยยยยยย!!!!!!!!!!!”

     

     

     

    .

    .

     

     

    คืนวันนั้นเคี้ยงนึกอยากประท้วงโดยการอดข้าว แต่กระเพาะอาหารก็ทำงานได้อย่างตรงต่อเวลา บวกกับกลิ่นกับข้าวของโปรดที่ม๊าทำมันหอมหวน จึงทำให้เด็กน้อยต้องกัดฟันทนนั่งร่วมโต๊ะอาหารกับอาทั้งสองคนทั้งที่แค้นสุดใจ

     

    อาการลื้อดีขึ้นยังวะอาเคี้ยง อากงที่นั่งอยู่ตรงหัวโต๊ะถามด้วยความเป็นห่วง

     

    อือ

     

    พูดกับกงงี้เหรอ? บอกเลยว่านาทีนี้ใครในโลกจะตักเตือนเคี้ยงยังไงก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่โกวบู้!!!

     

    ยุ่งไรด้วย

     

    อ้าว ต่อให้มึงจะเรียกกูว่าโกว แต่กูก็เป็นเจ็กมึงนะ บู้เอาตะเกียบชี้หน้าเด็กน้อยที่นั่งทำหน้าบึ้งอยู่ฝั่งตรงข้าม ซ้อดูไว้ ลูกชายของซ้อชักจะเหิมเกริมใหญ่แล้วเนี่ย อายุสิบหกคิดว่าปีกกล้าขาแข็งแล้วสิ ซ่งเฉียนก็ได้แต่ยิ้มแห้ง ก้มหน้าก้มตากระซิบกระซาบเตือนลูกและโอ๋ไปด้วย

     

    โธ่เฮียบู้ อย่าไปด่ามันเลย ไอ้เคี้ยงมันป่วยอยู่นะ ดูดิ หน้าซีดเชียว ใกล้ตายแล้วมั้งน่ะ นี่ก็เหมือนกัน เสียงเจ็กฮุนตอนช่วยโกวบู้เหยียบย่ำเขานี่น่ารำคาญสุด ๆ

     

    เออ จริงด้วย เอาดี ๆ นะเฮียเล่ย ถ้าอาการมันหนักต้องรีบพาไปหาหมอ บู้หันไปคุยกับพี่ชายคนโตที่เพิ่งกลับมาถึงบ้าน หลังจากไปทำงานต่างจังหวัดถึงสามวัน

     

    ดูน้องชายป๊าดิ ชอบรังแกหลานอะ!”

     

    ไม่เอาน่า อย่าทะเลาะกังเลย พวกลื้อต้องรักกังเข้าไว้ซี่ ถือว่าคำพูดของอากงช่วยชีวิตอาทั้งสองคนเอาไว้ ไม่อย่างนั้นความเคียดแค้นของเคี้ยงคงปะทุไปมากกว่านี้ เด็กน้อยส่งสายตาซึ่งเต็มไปด้วยกองเพลิงไปยังคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ซึ่งโกวบู้กับเจ็กฮุนก็ส่งยิ้มมาอย่างไม่ได้นัดหมาย

     

    เพียงครู่เดียวสงครามบนโต๊ะอาหารก็หยุดลง ต่างคนต่างสนใจกับข้าวตรงหน้า และหนึ่งในนั้นก็คือเคี้ยง เขาอยากรีบลุกไปจากตรงนี้โดยเร็วที่สุด ก่อนความอดทนจะสิ้นสุดลง บอกเลยนะว่าถ้าสองคนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามไม่ใช่ญาติล่ะก็... หมัดลุ่น ๆ ของเทพเคี้ยงคงประทับโหนกหน้าได้อย่างง่าย ๆ เลยนี่ไม่ได้คุย

     

    พรุ่งนี้ไปโรงเรียนด้วยนะมึง คืนนี้ห้ามเล่นเกม อีกละ โกวบู้ยุ่งเรื่องคนอื่นตลอดเลยอะ ทำไมน่ารำคาญแบบนี้เนี่ย!

     

    ยุ่งไรอะ พ่อก็ไม่ใช่

     

    เออ พ่อมึงนั่งอยู่ตรงนี้ แล้วกูก็คลานออกมาจากรูเดียวกับพ่อมึงด้วย อาคนรองถลึงตามองอย่างผู้ชนะ ซึ่งเจ็กฮุนก็ยิ้มพอใจ

     

    ฟัง ๆ ไว้บ้างเถอะเคี้ยง อย่าทำให้โกวกับเจ็กเหนื่อยสิ ป๊าก็อีกคน ต่อให้โกวบู้จะเป็นน้องชาย แต่เคี้ยงก็เป็นลูกชายแท้ ๆ นะ!

     

    โกวกับเจ็กไม่เหนื่อยหรอก วิ่งตามผู้ชายเหนื่อยกว่านี้อีก หึ เด็กน้อยแค่นยิ้มอย่างผู้ชนะ คราวนี้ล่ะ เวลาของการเอาคืนได้มาถึงแล้วโว้ย!

     

    หือ... ผู้ชาย? อากงเลิกคิ้วขึ้นพลางมองไปยังลูกชายคนกลางกับลูกชายคนเล็ก เอาซี้! ถ้าอากงพีคขึ้นมาคนเดียวบ้านก็แตกละ ไม่ต้องถึงป๊าเลย

     

    ป๊าจะไปสนใจอะไรกับคำพูดเด็กมอสี่ที่อ้างว่าเป็นไข้เพราะไม่อยากไปโรงเรียนอะ อั๊วะกับเฮียบู้ก็ขายของตามปกติ ไอ้เคี้ยงมันเพ้อเจ้อไปเอง ฮุนปั้นหน้าเฉย การตอแหลให้แนบเนียนคืออย่าตื่นตูม แต่เดี๋ยว... ทำไมกูต้องตอแหลด้วยในเมื่อมันก็ไม่ใช่เรื่องจริงอยู่แล้ว

     

    จริง ๆ นะกง! เออ ต่อให้เจ็กฮุนจะปฏิเสธ แต่ของโกวบู้อะชัดเจนมาก คนเขาเห็นกันทั้งซอยว่าโกวไปกับลูกชายร้านส้มตำที่เพิ่งย้ายมาอยู่ข้างบ้านเราอะ!”

     

    ทุกสายตาหยุดอยู่ที่ขี้ข้าร้านผัดไทย บู้ค้างอยู่ในท่าคาบผัดผักบุ้ง ก่อนจะถอนหายใจเซ็ง ๆ กับการถูกแฉกลางโต๊ะอาหาร

     

    แล้วไง กูไปกับผู้ชายด้วยกันไม่ได้เลยเหรอ ไฟมันจะไหม้ก้นมึงใช่ไหม

     

    ไปได้ เพราะโกวเป็นตุ๊ด

     

    ดูมันพูดดิตั่วเฮีย นี่อาแท้ ๆ ของมันนะ นาทีนี้ฮุนต้องช่วยเฮียบู้กู้ชาติ เพราะถ้าไอ้เคี้ยงชนะในศึกครั้งนี้ คาดว่าเรื่องที่เขาสั่นไหวเพราะกรรมกรท้ายซอยคงกลายเป็น Gossip เรื่องถัดไปอย่างเป็นแน่แท้

     

    *ตั่วเฮีย = พี่ชายคนโต

     

    ไอ้ชาญอะป๊า คือเก็บร้านแล้วก็อยากเตะบอลไง เลยไปด้วยกัน บู้ขมวดคิ้ว พูดออกมาเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่สามารถเกิดขึ้นได้

     

    แต่โกวไม่ได้เตะบอล <- กูต้องชนะ

     

    อ๋อ ลูกชายอาโสรยาใช่ไหม

     

    โกวเป็นตุ๊ดจริง ๆ นะกง!” <- ไม่มีใครสนใจ

     

    ใช่ป๊า ลูกชายคนเล็กน่ะ บู้มองหน้าผู้ให้กำเนิด ซึ่งดูเหมือนว่าป๊าจะทิ้งน้ำหนักความเชื่อมาฝั่งเขามากกว่าไอ้หลานกะโหลกที่เอาแต่แหกปากโวยวาย

     

    ก็ดีแล้ว ดูแลเพื่องบ้างที่เพิ่งย้ายมาอยู่ ต่อไปเวลาใครลังบากจะได้ช่วยเหลือกาง

     

    แต่กง!!!”

     

    ลื้อหยุกเลอะเทอะได้เลี้ยวอาเคี้ยง เป็งเด็กเป็งเล็กอย่าขึ้งเสียงใส่ผู้หย่าย เข้าใจหม้าย

     

    เคี้ยงขมวดคิ้วกำหมัดแน่น พลางมองไปยังอาทั้งสองคนที่มองมาพร้อมรอยยิ้มที่พร้อมจะเปิดศึกว่า สงครามได้เกิดขึ้นแล้ว

     

     

    .

    .

     

     

    เจ็ดโมงเช้าเป็นเวลาตื่นของใครหลายคน แต่หนึ่งในนั้นไม่ใช่หาญ ชายหนุ่มหน้าตาดีที่ต้องตื่นมาเข้าวินแต่เช้าเพื่อทำงานหาเงินอย่างสุจริต เขาหวังว่าสักวันจะใช้เงินเก็บทั้งหมดไปสู่ขอน้องหมวยหมินเมื่อน้องเรียนจบมหาลัย

     

    ชายหนุ่มเท้าแขนลงกับประตูรถกระป้อเมื่อขับมาหยุดอยู่หน้าบ้านที่เขาฝากหัวใจเอาไว้ หาญเอาเจลที่อยู่ในเก๊ะออกมาละเลงลงบนมือ ใช้เวลาในการเซ็ทเผ้าผมให้เข้าทรงอยู่ไม่ถึงนาทีก่อนจะยิ้มให้กำลังใจตนเองในกระจกบานเล็ก

     

    เปิดเพลงโปรดดังลั่นเรียกความสนใจจากผู้คนที่เดินผ่านไปมาได้เป็นอย่างดี แต่ก็เท่านั้นแหละ หาญไม่เคยชายตามองผู้หญิงคนไหนอีกนอกจากน้องหมวยหมินผู้เป็นที่รัก

     

    เพียงครู่เดียวเด็กสาวในชุดนักเรียนมอปลายก็เดินออกมาพร้อมกระเป๋าถือสีดำ หมวยหมินขมวดคิ้วมองคนขับรถกระป้อที่มองมาพร้อมรอยยิ้มซึ่งเจ้าตัวคงคิดว่าหล่อที่สุดแล้ว เธอถอนหายใจก่อนจะหันไปยกมือไหว้แม่ ความบาปในวันนี้คือหมวยหมินต้องไปโรงเรียนกับพี่หาญ

     

     

    ได้เกิดมาเจอเธอทั้งที ไม่ว่ายังไงจะลองดีสักวัน อยากรักก็ต้องเสี่ยง ไม่อยากให้เธอเป็นเพียงภาพในความฝัน

     

     

    ปิดเพลงสักที

     

    หมวยหมินไม่ชอบบิ๊กแอสเหรอจ๊ะ

     

    หนูไม่ชอบเพลงที่พี่ - ฟัง - ซัก - เพลง

     

    ไม่ชอบเพลงไทย งั้นแสดงว่าชอบเกาหลีใช่ไหม ซอรี ซอรี เนกาเนกาจั้มปึดจัมปั้ด พี่ก็มีนะ

     

    หมวยหมินขมวดคิ้วจิ๊ปากกับสำเนียงเพี้ยน ๆ ที่อีกฝ่ายพยายามเอาใจเธอ นั่งหน้าไหมจ๊ะ

     

    หนูอยากนั่งหลัง

     

    ทำไมล่ะ นั่งตรงนี้สบายดีออก ให้อารมณ์เหมือนรถเปิดประทุน หาญมองดวงหน้าขาวที่เข้ากับผมหางม้าซึ่งมัดรวบไว้ข้างหลัง น้องหมวยหมินน่ารักอยากจะฟัดแก้มสักทีตังเงย

     

    หนูเป็นเมนส์ นั่งที่แคบแล้วเจ็บน้องสาว

     

    อุ่ย รอยยิ้มบนใบหน้าหนุ่มขับกระป้อหายไป เมื่อได้ฟังเหตุผลที่เขาก็คงหาคำตอบให้ตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่ามันมีเรื่องแบบนั้นบทโลกสตรีเพศด้วยเหรอ แต่ในเมื่อน้องหมวยหมินบอกว่าเจ็บ พี่ก็เจ็บด้วย

     

    พี่หาญ! รอด้วย ๆ

     

    เสียงคุ้นหูดังมาจากข้างหลัง ซึ่งก็ไม่ใช่ใครไหนไกลนอกจากไอ้เจิ้นและน้องชายของมันที่วิ่งมาพร้อมกัน ก่อนจะขึ้นไปบนท้ายรถกระป้อ คือกูไม่ได้ตั้งใจมารับพวกเมิ๊งงงงงงงง กูจะพาน้องหมวยหมินนั่งกินลมชมวิวก่อนไปส่งโรงเรียน เข้าใจหม้ายยยยยยยยยยยยยยยยยย

     

    ถ่าแหน่ ๆ

     

    ฉิบหาย!!! นอกจากจะมีสองพี่น้องเชื้อสายปลาร้าแล้วยังพ่วงไอ้กรังนั่นมาด้วยอีกเรอะ!!!

     

    น้องหมวยหมินรีบขึ้นมาเร็ว! เดี๋ยวไอ้บ้านนอกมันถึงก่อน!” หาญถลึงตามองเด็กสาวที่ยังยืนอยู่ข้างรถ เธอมองชายหนุ่มผิวแทนคนนั้นก่อนจะหันมายิ้มให้

     

    รอพี่อินทร์ด้วยสิ

     

    ห้ะ!”

     

    พี่อินทร์เร็ว ๆ น้องหมวยหมินส่งยิ้มหวานให้ไอ้บ้านนอกนั่น พร้อมโบกมือเรียกอย่างเต็มใจ หาญหันหลับไปมองด้านหลัง เพียงครู่เดียวไอ้นั่นก็ขึ้นไปอยู่ท้ายรถกระป้อพร้อมสองพี่น้องร้านส้มตำแล้ว

     

    น้องหมวยหมินอะ!”

     

    เดี๋ยวหนูนั่งข้างหน้ากับพี่ก็ได้ เด็กสาวอมยิ้ม พลางหันไปสบตากับชายหนุ่มผิวแทนเป็นครั้งสุดท้าย แล้วไหนเมื่อกี้บอกเมนส์มา เจ็บน้องสาวนั่งไม่ได้ไง

     

     

    ให้ตายเถอะโรบิ้น... เขาต้องขับรถไปส่งไอ้กรังนั่นจริง ๆ น่ะเหรอ?

     

     

    .

    .

     

     

     

    ไปไสมื้อหนิ ไปตลาดหาซื้อแนวเฮดกินตี้

     

    ใช่ วันนี้หยุดอะ ว่าจะทำก๋วยเตี๋ยวกินที่บ้าน พี่อินทร์มากินด้วยกันดิ สักเที่ยง ๆ คงทำเสร็จพอดี เจิ้นยิ้มให้กับชายหนุ่มผิวแทนที่นั่งอยู่ด้านซ้ายสุด พี่อินทร์คือลูกค้าวีไอพีที่อุดหนุนส้มตำร้านของเขาบ่อยมาก เรียกได้ว่าแทบจะกินทุกวัน

     

    แน่นอนว่าส้มตำเป็นอาหารที่เหมาะกับการกินหลาย ๆ คน ซึ่งคนงานก่อสร้างมักจะเอาอาหารของตนเองออกมาวางแล้วแชร์กินกับคนอื่น ๆ อย่างเป็นเรื่องปกติ และจะมีส้มตำเป็นอาหารหลักอยู่ตรงกลาง พี่อินทร์บอกว่าปลาร้าร้านของเขาแซ่บนัวมาก ซึ่งเจิ้นก็ไม่เถียง เพราะสูตรนี้พ่อได้ทิ้งไว้ให้ก่อนตาย

     

    เป็นจั่งได๋ซาญ มื้อนี้ทรงเมื่อย ๆ แท้

     

    เมื่อคืนนอนดึกอะพี่ พอตื่นเช้าแล้วมันเพลีย ๆ

     

    บ่แม่นหาแนวเฮดเบิ่ดคืนจนบ่ได้นอนบ๊อ อินทร์ยิ้มล้อ

     

    ยังไม่ถึงขั้นนั้นหรอกพี่... ก็ดู ๆ ใจกันอยู่ ชาญเกาท้ายทอยแก้เขิน ถึงห้องนอนเขากับบู้จะอยู่ติดกัน แต่อย่างเก่งก็แค่เคาะผนังไม้แล้วเปิดเพลงจีบเท่านั้นแหละ เรายังไม่ถึงขั้นนั้นกันเลย...

     

    เออ แม่งเล่นดูกันตั้งแต่วันแรกเลยว่ะพี่อินทร์ เจิ้นเสริม นึกแล้วก็หมั่นไส้ตอนเห็นมันหยอดกัน

     

    กั๊บไผล่ะ

     

    ลูกชายร้านผัดไทยอะ โกวบู้ ชาญเกาแก้มแก้เขิน อะไรกัน แค่ได้ยินชื่อหมูบู้เขาก็เขินแล้วเหรอ ความน่ารักนี้ชักจะอันตรายเกินไปแล้ว

     

    ตกใจเบิด นึกว่าบักฮุน

     

    อ้าว พี่รู้จักลูกชายคนเล็กบ้านนั้นด้วยเหรอ? เจิ้นถามอย่างใคร่รู้ ไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่อินทร์จะสนใจอย่างอื่นนอกจากของแดกอีก

     

    ฮู้ล่ะเนาะ เพิ่นให้ซานมไข่มุกอ้ายกินฟรี ใจดีแฮงลูกซายบ้านเหนี่ย

     

    โห... ให้กินฟรีด้วย ไปทำอีท่าไหนวะ ชาญเลิกคิ้วขึ้น แต่ก็ไม่น่าแปลกใจสักเท่าไหร่ เพราะเขาเคยได้ยินคนในซอยพูดกันอยู่บ่อย ๆ ว่าฮุนแจกชานมฟรีเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว นี่ก็สงสัยว่าจะขายทำไม

     

    เพิ่นบอกว่าเฮาเป็นตาฮักพะนะ

     

    อย่างพี่นี่โดนสิบล้อเหยียบสองรอบก็ไม่น่าเรียกว่าน่ารักได้ปะวะ เจิ้นขอพูดด้วยความสัตย์จริง กูไม่รู้จะเอียงซ้าย เอนขวา ตีลังกาดูท่าไหนถึงจะมองพี่อินทร์น่ารักได้

     

    ส่างเถาะ มื้อหน้าอาจสิได้กินผัดไทยฟรี บัดนี้ล่ะมึงเอ้ย กูซำบายยาว ๆ เลย

     

    เฮ้ย! จะลงไหนวะ!” เสียงคนขับตะโกนออกมา ทำลายบทสนทนาของชายหนุ่มทั้งสาม ตามด้วยน้องหมวยหมินคนน่ารักที่ลงมาจากเบาะข้างคนขับ พร้อมโบกมือลาพี่อินทร์

     

    ตั้งใจเรียนเด้ออีหล่าคำแพง

     

    ค่ะ เจอกันตอนเย็นนะพี่อินทร์

     

    หาญกัดฟันกรอด ไอ้กรรมกรนั่นมันอยากทำสงครามใจกลางหมู่บ้านใช่ไหม ถึงได้กล้าเล่นหูเล่นตากับน้องหมวยหมินทั้ง ๆ ที่นั่งอยู่บนซุปเปอร์คาของเขาเนี่ย!!!

     

    เราจะลงตลาดน่ะหาญ เจิ้นโผล่หน้าออกไป แม้ว่าคนขับจะถอนหายใจฟึดฟัด แต่เขาก็ยอมกลับเข้าไปขับรถในวินาทีถัดมาอยู่ดี

     

     

    ชาญขมวดคิ้วแล้วส่งมือถือให้พี่ชายแท้ ๆ ดู หลังจากเขาได้รับรูปที่บู้ส่งมาให้ เพียงครู่เดียวเจิ้นก็ขมวดคิ้วกับภาพถ่ายบนหน้าจอ

     

    อะไรวะ

     

    บู้ถามว่าน่ารักไหม

     

    ไอ้ฉิบหาย เจิ้นคืนมือถือให้น้องชายที่ทำหน้าเครียดประหนึ่งเจอคำถามสุดท้ายในเกมเศรษฐี แฟนมึงอยากแดกลาบหมาแล้วล่ะกูว่า

     

    ใส ๆ ผู้ได๋สิโหย๋ยหมา อินทร์โผล่หน้าเข้ามากับหัวข้อสนทนาน่าสนใจในเช้านี้ เขาชอบมาก สมัยไปก่อสร้างอยู่สกลนี่เคยเอาคุถังไปแลกบ่อย อร่อยจานโต

     

    คือ... หมายความว่าผมต้องไปหาหมามาทำลาบให้บู้เหรอวะพี่ ชาญกำลังเจอปัญหาหนัก เขาสบตากับพี่ชายแท้ ๆ ที่กำลังเป็นกังวลกับเมนูหยาบในวันนี้ ไม่ยักรู้เลยว่าบู้จะชอบกินอะไรที่มันลึกซึ้งจนยากหยั่งถึง

     

    มึงลองถามดี ๆ จะได้ไม่สื่อสารกันผิด ถ้าอยากแดกจริงมานี่มึงต้องเล็งเลยนะ ในซอยมีหมาเยอะ แต่กูไม่แน่ใจว่ามึงหรือหมาที่จะโดนแดกก่อนกัน เจิ้นวางมือลงบนไหล่ เป็นกำลังใจให้น้องชายที่กำลังงมกับมือถือ


     

     

    ลองเอากะคุไปแลกเบิ่ง ท้ายซอยนี่หมาหลายแฮง แต่เห็บทรงสิหลายอยู่ เบิ่งดี ๆ ฮ่าเจ้าของเพิ่นสิแลกนำกะคุพี่อินทร์เสนอให้เขาเอาถังพลาสติกไปแลกกับหมาท้ายซอย ถ้าหากว่าเจ้าของไม่อยากเลี้ยงแล้ว แต่นั่นก็ไม่ใช่วิธีที่เข้าท่าสักเท่าไหร่ ชาญเป็นคนเซนซิทีฟเรื่องสัตว์เลี้ยง เพราะฉะนั้นเขาคงโหย๋ยหมาไม่ลง

     

    เดี๋ยวลองถามบู้ในแชทเฟสก่อน ชาญถอนหายใจ ก้มหน้าก้มตาจิ้มมือถืออย่างจริงจัง รออยู่ไม่ถึงสองนาทีก็ได้ข้อความตอบกลับมาว่า

     

     

     

     

    โอเค ผมว่าเราคงไม่ต้องซื้อถังพลาสติกแล้วล่ะ

     

     

     

    TBC

     

     

    โหย๋ยหมา = ทำเนื้อหมา

     

     ส่วนนี่คือ โสรยา แม่เจิ้นกับชาญ
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×