ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DON'T GROW UP, IT'S A TRAP #ฟิคเปย์เด็ก | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #1 : Intro (ตอนหายค่ะ เลยมาแก้ใหม่)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21.15K
      268
      26 เม.ย. 60

    PROLOGUE 

    ถ้ารู้ว่าโตขึ้นมาแล้วเป็นอย่างนี้

    บางทีการเป็นเด็กที่ไม่รู้อะไรมากไปกว่าการกิน เล่น นอนกลางวันก็อาจจะดีกว่า

     

    มนุษย์เติบโตมาในสังคมที่ต่างกัน บางคนถูกเลี้ยงเหมือนไข่ในหินจนไม่รู้ว่าโลกใบนี้มีปีศาจที่เรียกว่าความเจ็บปวดอยู่ด้วย แต่บางคนที่ถูกเลี้ยงมา-- ไม่สิ ต้องเรียกว่า ‘โตมาด้วยตัวเอง’ คนเหล่านั้นจะมีภูมิคุ้มกันมากกว่าคนปกติทั่วไป

    ซึ่งนั่นไม่ได้หมายความว่าพวกเขาเก่ง แต่มันเป็นข้อบังคับที่ทำให้ต้องเก่งกับปีศาจบนโลกใบนี้ที่คุกคามชีวิตอยู่ตลอดเวลา

    ปาร์คชานยอล’ เป็นเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่ธรรมดา แต่ก็ไม่มีอะไรพิเศษ ฟังดูสับสนดีใช่ไหม? แต่นั่นแหละคือชีวิตของเขาหลังจากที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปเพราะหนี้สินบานตะไทที่พ่อและแม่ได้สร้างไว้

    เด็กชายจำได้ว่าตอนนั้นบรรยากาศที่บ้านตึงเครียดแค่ไหน ซึ่งมันเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานเหลือเกิน เป็นอย่างนั้นอยู่ซ้ำ ๆ จนเขาแทบลืมไปแล้วว่าสิ่งที่เรียกว่ารอยยิ้มซึ่งเกิดจากความสุขเป็นอย่างไร

    บนโต๊ะกินข้าวตอนเย็นที่เคยมีแต่เมนูดี ๆ ได้เริ่มเปลี่ยนไป เมื่อพักหลังมีแต่กิมจิ และน้ำซุปเป็นกับเพี่อเพิ่มรสชาติให้กับข้าวเปล่าที่ต้องจบภายในถ้วยเดียว

    พ่อกับแม่ทะเลาะกันอยู่บ่อยครั้งจนหูฟังกลายเป็นเพื่อนสนิทของเขาไปโดยปริยาย แต่นั่นก็ไม่แย่เท่ากับเสียงทุบประตูบ้านจากเจ้าหนี้ซึ่งดูเหมือนว่ามันพร้อมจะพังเข้ามาได้ทุกเมื่อถ้าฝั่งนั้นนึกเอาจริง

    เด็กอายุสิบสี่อย่างชานยอลทำได้เพียงแค่กอดน้องสาวอยู่ในตู้เสื้อผ้า จับศีรษะของเธอกดลงกับอกของตนแม้รู้ดีว่าหากประตูบานนั้นพังเข้ามาเขาคงไม่สามารถปกป้องเธอไว้ได้ หลังจากที่พ่อกับแม่ตัดสินใจหนีไปอย่างไร้ร่องรอยเพราะถูกเจ้าหนี้ตาม

    ท่านไม่ได้ทิ้งเขากับน้อง แต่ก็เหมือนทิ้ง สถานการณ์มันบีบบังคับให้ทุกอย่างออกมาเป็นแบบนี้ เพราะถ้าพ่อกับแม่อยู่ก็ไม่รู้ว่าจะถูกเจ้าหนี้ทวงเงินด้วยวิธีใด ซึ่งมันคงสาหัสกว่าเสียงทุบประตูบ้านที่ข่มขวัญเขาและน้องสาวจนไม่กล้าออกไปไหน

    เด็กอายุสิบสี่ที่ชีวิตมีเพียงการเรียนและเล่นดนตรี เขาต้องทิ้งความฝันไปเพื่อประคองความจริงให้อยู่รอด ด้วยการเก็บไม้กลองไว้ในตู้ ลาออกจากวงดนตรีแล้วหันหน้าเข้าหามินิมาร์ทเพื่อทำงานพิเศษในช่วงหลังเลิกเรียน

    สำหรับเด็กที่ไม่เคยลำบากมาก่อน และไม่รู้ว่าจะต้องพาตัวเองและน้องสาวเดินไปในทิศทางไหนกับเงินที่เหลืออยู่น้อยนิด แต่นับว่าเป็นโชคที่คนข้างบ้านอย่างอาจงแดคอยทำกับข้าวเผื่ออยู่ตลอด เขาและน้องสาวเลยรอดตายไปได้ในแต่ละวัน

    ปาร์คซูยอง’ ยังเด็ก ไม่ว่ายังไงชานยอลก็ไม่อยากให้น้องสาวต้องปวดหัวไปกับเรื่องนี้ แต่เขาก็ไม่รู้เลยว่าต้องทำยังไง เพราะเงินจากการทำงานพิเศษก็ช่วยอะไรได้ไม่มากนัก ทั้งเรื่องอาหารการกินที่ต้องยัดเกรงใจเข้าปาก และอีกไม่นานก็ต้องจ่ายค่าเทอมแล้ว ซึ่งเขาคงไม่มีปัญญาหาเงินมาจ่ายให้ครบทั้งของตัวเองและน้องสาว แต่จะให้ขอยืมคนข้างบ้านอย่างอาจงแดก็คงจะเกินไป

    ชานยอลรู้ว่าตนเองกำลังลำบาก แต่การขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นก็ต้องอยู่ในความพอดี ไม่ให้มากเกินไป

    มนุษย์เราชอบทำอะไรโง่ ๆ ตอนรู้สึกสิ้นหวัง ใช่ ปาร์คชานยอลเชื่อแล้วว่าเป็นอย่างนั้น เมื่อเขาเอาแต่นั่งจ้องจอสี่เหลี่ยมพร้อมวางมือไว้บนคีย์บอร์ดในคาบคอมพิวเตอร์ สีหน้าของเขาอิดโรยเนื่องจากนอนไม่พอ เด็กชายวัยสิบสี่จ้องมองมันอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเขียนเรื่องราวบัดซบในชีวิตตนเองลงไปในเวปบอร์ดที่มีคนเข้าเล่นวันละไม่ต่ำกว่าสามล้านครั้ง

    ชานยอลจำไม่ได้ว่าเขาพิมพ์อะไรลงไปบ้าง มันอาจเต็มไปด้วยความน้อยเนื้อต่ำใจในชีวิต หรือความเศร้าทั้งหมดที่อัดอั้นอยู่ในใจ รวมไปถึงการขอความช่วยเหลือลม ๆ แล้ง ๆ ซึ่งไม่รู้ว่าจะมีใครยื่นมือเข้ามาช่วย กับเด็กที่เป็นใครก็ไม่รู้ และไม่มีส่วนได้ส่วนเสียในชีวิต

    แต่มันก็ไม่แย่ถึงขนาดนั้น เมื่อพระเจ้าได้กระซิบบอกเขาว่า ‘ปาฏิหาริย์มีจริง

    หลังจากนั้นได้ไม่นานอาจารย์ที่ปรึกษาก็เรียกเขาไปพบ พร้อมบอกว่ามีใครคนหนึ่งเห็นข้อความของเขาในเวปบอร์ด และต้องการให้ความช่วยเหลือเรื่องค่าเทอมและค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือน มันอาจจะไม่มากนัก แต่ฝ่ายนั้นก็ยินดีช่วยอย่างเต็มใจ จึงขอให้ชานยอลเอาเลขที่บัญชีมาให้ครูที่ปรึกษา

    เด็กชายไม่อยากเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน เขาอยากตบหน้าตัวเองสักครั้งเพื่อยืนยันว่าไม่ได้ฝันไป มันเป็นไปได้จริงหรือกับการที่คน ๆ หนึ่งจะยื่นมือเข้ามาช่วยเด็กอย่างเขาที่ไม่รู้ว่าเป็นใคร ชานยอลนั่งเงียบไปพักใหญ่ซึ่งอาจารย์ที่ปรึกษาก็ไม่ได้ว่าอะไร ถ้าหากเขาอยากใช้เวลาไปกับการตั้งสติ

    ชานยอลยังคงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง จนกระทั่งมียอดเงินเข้าบัญชีจริง ๆ นั่นแหละถึงได้รู้ว่าโลกใบนี้ไม่ได้มีแต่ปีศาจที่อยู่รอบตัวเขา คน ๆ นั้นเป็นใครกัน? ต้องเป็นเทวดาแน่ ๆ เขาเชื่ออย่างนั้น เด็กชายยังจำความตื้นตันใจในวินาทีแรกได้เป็นอย่างดี รวมไปถึงขอบตาที่แดงก่ำจนน้องสาวต้องเข้ามากอดปลอบ เพื่อให้พี่ชายคนนี้ได้เข้มแข็งต่อไป

    วันรุ่งขึ้นชานยอลเข้าพบอาจารย์ที่ปรึกษาอีกครั้ง หลังจากนอนก่ายหน้าผากครุ่นคิดมาตลอดคืนว่าเพราะอะไร?’ เขาอยากรู้จริง ๆ ว่าคนใจดีที่ดึงเขาและน้องสาวออกมาจากฝูงปีศาจเหล่านั้นเป็นใคร และเพราะอะไรถึงได้ตัดสินใจช่วย ทั้งที่ในโลกอินเทอร์เน็ตมันเต็มไปด้วยความฉาบฉวย คน ๆ นั้นไม่กลัวว่าข้อความที่เขาโพสต์ลงไปมันจะเป็นเรื่องโกหกหรืออย่างไร และสุดท้าย อาจารย์ที่ปรึกษาก็ยิ้มบาง ๆ พร้อมบอกกับเขาว่า...

    ผู้ชายคนนั้นเขาชื่อ บยอนแบคฮยอน

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×