ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] "CHANFECT" #โธ่พี่ชาร์ล ภาค 2 | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #22 : Scene 21 :: พี่เขาชื่อปาร์คชานยอล (100%)

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 22.39K
      209
      4 ต.ค. 58

    ? themy butter





    Scene 21

    พี่เขาชื่อปาร์คชานยอล




     

     

    ชายหนุ่มแวะนั่งดื่มกาแฟร้อนในร้านกาแฟใต้คอนโด เช็กตารางงานที่เห็นแล้วยังต้องสงสารดาราในความดูแล แต่มันเป็นเรื่องที่ปฏิเสธไม่ได้ เมื่อช่วงเวลาชีวิตของปาร์คชานยอลได้เดินทางมาถึงจุดพีค เจ้านั่นก็ควรรีบกอบโกยทุกอย่างเอาไว้ก่อนที่เรตติ้งจะต่ำลงเมื่อมีดาราหน้าใหม่ขึ้นแท่นมาแทนที่

     

    อี้ฝานถอนหายใจ มันเป็นเรื่องน่าใจหายแต่โลกมายาเป็นยังไงเหล่านักแสดงต่างก็เข้าใจดี ในวันนี้ชานยอลได้เป็นพระเอกที่โด่งดังจนไปที่ไหนใครก็รู้จัก แต่ในห้าปีหรือสิบปีข้างหน้า หมอนั่นอาจจะกลายเป็นแค่ตัวประกอบหรือไม่ก็พ่อพระเอก

     

    ชานยอลเป็นเหมือนน้องชายแท้ ๆ ของเขา ท่านประธานเองก็เอ็นดูจนนักแสดงในสังกัดต่างก็อิจฉาที่หมอนั่นได้แต่งานดี ๆ แต่ของแบบนี้มันพูดกันยาก เมื่อท่านประธานไม่สามารถให้ทุกคนได้อย่างเท่าเทียมกันได้ เมื่อความเอ็นดูเหล่านั้นแฝงไปด้วยการลงทุน

     

    ธุรกิจก็คือธุรกิจ ชานยอลคือสินค้าที่ยังขายได้และทำกำไรให้กับบริษัทได้กว่าใคร ๆ ซึ่งความเอ็นดูที่ท่านประธานมีให้ก็ไม่สามารถใช้ได้กับเรื่องความรักที่เป็นปัญหาใหญ่ระดับต้น ๆ สำหรับดาราไอดอลรองจากการฆ่าคนตาย

     

    กาแฟดำถูกดื่มไปแค่ครึ่งเดียวเท่านั้น ร่างผอมสูงของผู้จัดการหนุ่มวางแก้วเซรามิกส์สีขาวลงแล้วลุกขึ้นยืนกระชับสูทนอกก่อนจะตรงไปขึ้นลิฟท์ คาดว่าตอนนี้ชานยอลน่าจะตื่นแล้วต่อให้เมื่อคืนจะดื่มไปเยอะพอสมควร

     

    กดรหัสผ่านประตูแล้วเข้าไปข้างใน เขาหยุดยืนอยู่กับที่แล้วก็ได้แต่คิดในใจว่าหมอนั่นคงเมาหนักจริง ๆ ถึงยังไม่ลุกขึ้นมาใส่ใจมื้อเช้าเพื่อสุขภาพเหมือนอย่างเคย

     

    ที่จริงเขาก็อยากให้ชานยอลได้พักผ่อนบ้างหลังจากบากบั่นทำงานอย่างหนักมาตลอดเดือน แต่วันนี้ท่านประธานอยากตามให้หมอนั่นเข้าไปคุยเรื่องเป็นพรีเซนเตอร์แบรนด์เสื้อผ้าวัยรุ่นสักหน่อย เขารู้ว่ามันขัดกับลุคส์ของชานยอลอย่างสิ้นเชิง แต่ในเมื่อแบรนด์นั้นต้องการให้เป็นพรีเซนเตอร์เพราะอ้างว่าอยากเห็นพระเอกหนุ่มชื่อดังแต่งตัวย้อนวัย ก็เลยต้องปรึกษาเจ้าตัวเสียหน่อย

     

    แต่พอเดินไปแค่ไม่กี่ก้าวสองขาก็หยุดชะงัก เมื่อสายตาพลันไปเห็นบางอย่างซึ่งมันแปลกตาในห้องที่เจ้าของรักความสะอาดยิ่งกว่าอะไรดี แต่การมีอะไรบางอย่างกองทิ้งอยู่ที่พื้นนั่นมัน...

     

    ...

     

    ชายหนุ่มก้มลงเก็บวิกผมขึ้นมาตรงระดับสายตา ก่อนจะหันไปเห็นยกทรงและฟองน้ำที่อยู่บนพื้นไม่ห่างจากตรงนี้มากนัก ในหัวเกิดคำถามว่าต้องรู้สึกยังไงก่อนดี ระหว่างรสนิยมของพระเอกหนุ่มที่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาเองก็รู้ดีว่าเป็นยังไง แต่การเห็นวิกผมกับฟองน้ำเสริมหน้าอกบนพื้นนี่...

     

    เขามองสิ่งของในมืออีกครั้งก่อนจะตัดสินใจเดินไปหยุดอยู่หน้าประตูแล้วเปิดเข้าไปเพียงเล็กน้อย ภาพแรกที่เห็นคือเสื้อผ้ากระจัดกระจายอยู่บนพื้น พอไล่ระดับสายตาขึ้นไปอีกนิดก็พบร่างพระเอกหนุ่มนอนกอดนักเขียนเด็กอยู่บนเตียง ทั้งคู่หลับไม่ได้สติในสภาพไม่สวมเสื้อ และคงไม่ต้องเสียเวลาคาดเดาให้ยากว่าส่วนล่างที่ถูกผ้าห่มปกคลุมจะปิดบังอะไรเอาไว้

     

    ผู้จัดการหนุ่มยืนนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจแล้วปิดประตูกลับไปอย่างเบามือ ไม่ต้องเสียเวลาคิดว่าทำไมเด็กคนนั้นถึงมาอยู่ที่นี่ได้ ตั้งแต่เกิดมาสามสิบกว่าปี อู๋อี้ฝานคิดว่าเขาเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย เพราะฉะนั้นทางออกที่ดีในเวลานี้คงไม่ใช่การปลุกทั้งคู่ขึ้นมาเจอความจริงว่าพวกเขาไม่ควรอยู่ด้วยกัน

     

    ชายหนุ่มเอามือถือออกมาจากกระเป๋ากางเกงแล้วกดเบอร์โทรออก รอเพียงแค่ครู่เดียวคนที่อยู่ปลายสายก็กดรับ

     

    ท่านประธานเหรอครับ เมื่อคืนชานยอลดื่มหนักไปหน่อยผมคิดว่าเขาคงตื่นไม่ไหว ครับ ผมว่าให้เขานอนพักก่อน ถ้ายังไงผมจะติดต่อท่านไปอีกทีตอนเย็นนะครับ ครับ ผมจะจองโต๊ะไว้แล้วสั่งไวน์รอท่านเองครับ

     

     

     


     

     

    สิ่งที่แรกรู้สึกได้ตอนลืมตาตื่นคือความหนักอึ้งที่ไม่คุ้นชิน ชายหนุ่มหลุบสายตาลงมองศีรษะทุยที่นอนซบอยู่กับท่อนแขนก่อนจะหลุดยิ้มออกมา นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่เห็นเด็กตัวแสบนอนอยู่ในอ้อมกอดเขาอย่างนี้

     

    ริมฝีปากหยักกดจูบลงบนหน้าผากมน ก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อเจ้าตัวดิ้นยุกยิกในอ้อมกอด ชายหนุ่มหลุดยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้เมื่อเด็กน้อยกอดก่ายแขนกับขาไว้ที่ตัวเขา แล้วลืมตาขึ้นมาสบตากัน

     

    “Good Morning Sweetie.

     

    ร่างเล็กไม่ได้ตอบอะไรกลับมา แบคฮยอนเพียงแค่ยิ้มแล้วซุกหน้าลงกับซอกคอเขาแล้วจูบซ้ำ ๆ อย่างเอาใจ ชานยอลหัวเราะกับท่าทางแฟนเด็ก ก่อนจะรั้งเอวคอดเข้ามากอดแน่น ๆ แล้วกดจมูกลงบนศีรษะทุยอย่างหมั่นเขี้ยว

     

    ซนแต่เช้าเดี๋ยวจะโดนอีกรอบนะครับ

     

    เมื่อคืนเจ็บจะแย่ ถ้าทำอีกพี่ต้องอุ้มผมเดินแล้วนะ เสียงอู้อี้ในลำคอนั้นแผ่วเบา เจ้าตัวคงอายที่จะพูดถึงเรื่องลามกที่เกิดขึ้นเมื่อคืนเลยได้แต่ซุกหน้าลงกับแผงอกของเขา

     

    รู้สึกผิดเลยครับ โอ๋นะเด็กดีของผม ชานยอลเชยคางเด็กดื้อขึ้นมาสบตากัน แบคฮยอนทำตาปริบ ๆ ชี้ริมฝีปากตัวเองเป็นเชิงขอจูบมอนิ่งคิส เขาอมยิ้มกับความน่ารักของอีกฝ่ายก่อนจะโน้มลงไปจุ๊บปากเบา ๆ

     

    เจ็บมากเลยใช่ไหม?

     

    บอกไม่ถูก ลองโดนเองสักทีไหมจะได้รู้

     

    ตลกเหรอครับ

     

    ชายหนุ่มมองคาดโทษเด็กน้อยที่กำลังหัวเราะอย่างพอใจ ก่อนจะขึ้นคร่อมอีกฝ่ายแล้วดึงผ้าห่มคลุมโปง แบคฮยอนหัวเราะในลำคอก่อนจะเผยอปากรับจูบยามเช้า ร่างเล็กตวัดแขนกอดรอบคอคนตัวโตกว่าภายใต้ความมืดในผ้าห่ม

    จูบของพี่พระเอกเหมือนแม่เหล็กที่ดึงดูดไม่ให้เด็กอย่างเขาไปไหน เราจูบกันซ้ำ ๆ ผละริมฝีปากออกมาเพียงเล็กน้อยเพื่อย้ำบอกรักกันและกันอย่างไม่รู้จักเบื่อ

     

    อยากอยู่ด้วยกันให้นานกว่านี้ แต่แบคฮยอนรู้ดีว่ามันถึงเวลาแล้วที่เขาควรจะไปจากที่นี่ ร่างเล็กหลับตาลงรับสัมผัสที่ต้นคอ เขาได้ยินคำขออนุญาตเบา ๆ ตรงข้างหูซึ่งคนที่กำลังเคลิบเคลิ้มก็ส่งเสียงอื้ออึงในลำคอเป็นการตกลง

     

    ปลายจมูกเย็นคลอเคลียไปตามเนื้อผิวร้อน แบคฮยอนผ่อนลมหายใจออกมาหนัก ๆ ก่อนจะกัดริมฝีปากล่างแน่นเมื่ออีกฝ่ายขบเม้มตรงช่วงอกจนรู้สึกขนลุกซู่ไปทั้งร่าง เราจูบกันอีกครั้ง เหมือนว่าอยากให้อีกฝ่ายจดจำความรู้สึกนี้เอาไว้จนกว่าจะได้เจอกันอีกครั้ง

     

    ผมต้องกลับแล้วร่างเล็กโอบใบหน้าอีกคนเอาไว้ ไว้จะแอบมาหาอีก พี่ต้องรอผม ร่างสูงอมยิ้มแล้วคลอเคลียกับปลายจมูกรั้นก่อนจะพยักหน้าเป็นคำตอบ

     

    คราวหน้าจะมาในรูปแบบแม่บ้านอีกหรือเปล่าครับ?

     

    ไม่เอาอะ แค่นี้ก็อายจะแย่ เสียงเน้น ๆ ของร่างเล็กทำเอาเขาหลุดหัวเราะออกมา เขารู้แล้วน่าว่าแบคฮยอนไม่ชอบแต่งหญิงจริง ๆ จะมาในแบบคนส่งพิซซ่าแทน

     

    แบบนั้นก็เข้าท่านะ ชุดถอดไม่ยากดี

     

    ใจคอจะคิดแต่เรื่องแบบนี้ใช่ป่ะ

     

    ขอโทษครับ ผมมันเป็นตาแก่ลามก

     

    รู้ตัวก็ดี แบคฮยอนดึงผ้าห่มออกเพื่อที่จะได้สบตากับคนบนร่างชัด ๆ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ารอยยิ้มของพี่พระเอกในตอนนี้มันทำให้เขายิ้มตามได้ กับความสุขที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาแห่งความทุกข์ของเรา

     

     
     

     
     

     

    ร่างสูงยืนกอดอกพิงกับกับผนังมองเด็กน้อยก้มลงเก็บวิกและยกทรงขึ้นมาใส่ แบคฮยอนหันมามองอย่างขลาดอายก่อนจะทำมือปัด ๆ เป็นเชิงบอกให้อีกคนหันหน้าไป ซึ่งพระเอกหนุ่มก็ทำตามอย่างว่าง่ายแม้ว่าแทบจะหลุดขำออกมาอยู่แล้ว

     

    แบคฮยอนบอกให้ส่งแค่นี้พอ ถ้าขืนเดินออกมาส่งหน้าประตูคงไม่วายต้องวกกลับมาขอกอดอีกสักครั้ง ชานยอลมองอีกฝ่ายจนกระทั่งเดินออกไปจากห้อง หลังจากนั้นรอยยิ้มบนใบหน้าที่เคยเกิดขึ้นเวลาอยู่กับคนตัวเล็กก็หายไป

     

    ...

     

    ...

     

    ร่างสูงเบิกอย่างตกใจทันทีที่เห็นว่ามีใครอีกคนเดินออกมาจากประตูห้องเก็บของ ท่ามกลางความเงียบในห้องสูทกว้าง ผู้จัดการส่วนตัวหนุ่มมองมาด้วยสายตาเรียบเฉยโดยที่ไม่พูดอะไรสักคำ ซึ่งเขาเชื่อว่าพี่อี้ฝานคงเห็นเหตุการณ์เมื่อครู่นี้

     

    ชานยอลนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ เขาไม่ได้หลบสายตาหนีความผิดใด ๆ ทั้งนั้น อี้ฝานล้วงมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกงแล้วยิ้มบาง ๆ ให้กับดาราหนุ่มในความดูแล

     

    ออกไปหาอะไรกินข้างนอกกันหน่อยไหม?

     

     

     

     

     
     

    ไงบ้างมึง

     

    อะไร

     

    แบคฮยอนมองเพื่อนสนิทที่เสนอหน้าเข้ามาถามทันทีที่เปิดประตูบ้านต้อนรับเขาเข้าไป คืนนี้เขาจะค้างที่นี่เพราะบอกแม่ไว้แล้ว เด็กน้อยขี้เสือกทำตาโตก่อนจะแค่นยิ้มแล้วมองหัวจรดตีน

     

    ไม่สำเร็จสินะ

     

    สำเร็จ กูให้เค้กพี่พระเอกกับมือนี่เลย แบคฮยอนแบมือทั้งสองข้างออกก่อนจะล้วงกระเป๋าเป้เอาวิกออกมาปาใส่หน้าเพื่อน

     

    เควี่ยนี่ กูยืมเพื่อนมานะ รักษาของหน่อย คยองซูถลึงตามองแล้วง้างมือขึ้นทำท่าจะโบ้หัวอีกคน

     

    ก็แค่จับ ๆ เดี๋ยวก็กลับเป็นทรงแล้วป่ะวะ

     

    มึงไม่เข้าใจหรอก ผู้หญิงไม่รู้จักคำว่าเหมือนเดิมหลังจากเกิดความรุนแรง จำไว้ คยองซูชี้หน้าอีกฝ่าย

     

    เดี๋ยวกูเอาขาหน้าสางวิกให้ แบคฮยอนยิ้มประชดแล้วจับวิกมาสาง ๆ จนเป็นทรง

     

    เดี๋ยวมันจะมาบ้านกูตอนเย็น ขอบคุณมันด้วยล่ะ เด็กน้อยตาโตสั่ง และเขาก็พยักหน้ารับ แล้วมึงคืนชุดแม่บ้านป่ะ

     

    กูพับแล้ววางไว้หน้าประตูว่ะ ห่าเอ๊ย รู้สึกผิดสุด เด็กน้อยกุมขมับ ตั้งแต่เกิดมารู้สึกว่าครั้งนี้แหละที่บาปหนาสุด ๆ ซักก็ยังไม่ซัก กูยังมีหน้าเอาไปคืนอีก

     

    แล้วพี่ชานยอลว่าไงมั่ง

     

    ว่าไงล่ะ เขาไม่แดกเค้กแต่แดกกูแทนเนี่ย

     

    อ้าว แป๊กเหรอ สงสารเนอะ คุ คุที่หน้ามึง นอกจากจะไม่เป็นห่วงแล้วสีหน้านี่สะใจยิ่งกว่าอะไรดี เอาน่า ถือว่าโชคดีแค่ไหนแล้วที่อุตส่าห์ปลอมตัวเป็นผีตานีแล้วได้เจอพี่เขา แต่ถ้าอึดอัดทนไม่ไหวก็เลิก ๆ ไปเถอะ กูเป็นห่วงมึงนะเพื่อน ไม่อยากให้จมอยู่กับความรักแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ

     

    คยองซูกอดคอเพื่อนรักแล้วรั้งเข้ามาใกล้ แบคฮยอนแค่นหัวเราะมองหนังหน้าคนที่พ่นความหวังดีที่แฝงนัยยะชั่ว ๆ ไว้แล้วก็อยากกระทืบมันเหลือเกิน

     

    กูไม่เลิกหรอก เรารักกัน

     

    สัด ย้ำจัง พ่อมึงชื่ออะเกนไหมล่ะเพื่อน คยองซูถลึงตาก่นด่าคนข้าง ๆ ที่เหยียบย่ำหัวใจเขาอีกแล้ว มึงนี่มันขี้บาปจริง ๆ แบคฮยอน ชั่ว!

     

    ถ่ายรูปพี่พระเอกตอนตื่นมาให้ด้วย

     

    ถั๋มมมมถูกกกกแหล๋ววววว คยองซูเอื้อนเสียงพร้อมประคองมือเขาขึ้นมาอย่างอ่อนโยน ราวกับกลัวว่ามือของบยอนแบคฮยอนจะบุบสลายไปถ้ารุนแรงกว่านี้

     

    และทันทีที่เห็นรูป คยองซูก็ถอนหายใจหนัก ๆ ก่อนจะทิ้งตัวลงไปตายบนที่นอนแล้วเอาผ้าห่มอัดหน้า สภาพพี่ชานยอลตอนไม่ใส่เสื้อนี่มันดีกับหัวใจติ่งน้อยในสภาพทรงผมรองทรงอย่างกูจริงจริ๊ง!

     

    เดี๋ยว

     

    ...

     

    ว่าแต่ทำไมพี่เขาถอดเสื้อ? คำถามหยุดโลกมาพร้อมกับแววตาหาเรื่อง แบคฮยอนขนลุกซู่ไปทั้งร่างเมื่อนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ก่อนจะค่อย ๆ เหล่มองเพื่อนสนิท

     

    ก็ ร่างเล็กยิ้มแห้ง พี่เขาชอบนอนถอดเสื้ออะ

     

    ห๊ะ?

     

    เออ พี่พระเอกแม่งเป็นโรคไรไม่รู้ ชอบนอนถอดเสื้อ เป็นงี้ตั้งแต่สมัยกูไปช่วยซ้อมบทให้แรก ๆ ละ แบคฮยอนกลอกตาแล้วทำท่าก้มลงพับขากางเกง ถ้าเงยหน้าขึ้นสบตากันไอ้คยองซูต้องจับโกหกได้แน่ แล้วรูปนั้นก็มาจากกล้องพี่เขา

     

    แน่ใจ๋?

     

    กูจะโกหกทำไมเนี่ย มึงคิดว่ากูกับพี่เขานอนด้วยกันเหรอ? ที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด เฉกเช่นเดียวกับการโกหกที่แนบเนียนก็คือการพูดความจริง

     

    ไม่อะ เด็กน้อยตาโตส่ายหน้า ต่อให้พี่ชานยอลจะชอบไอ้หอกนี่ก็เถอะ แต่จากประวัติการเดทของพระเอกหนุ่มคนดีแล้ว พี่ชานยอลไม่น่ามีอารมณ์ตอนเห็นบักเตี้ยนี่

     

    ก็นั่นแหละ แบคฮยอนยักคิ้ว และเรื่องนี้ก็จบไปอย่างงง ๆ

     

    อาทิตย์หน้าจะมีงานคอนเสิร์ตการกุศล พี่ชานยอลไปด้วยนะมึงรู้ยัง?

     

    จริงดิ ไม่เห็นพี่เขาบอกเลย

     

    คยองซูยกยิ้มพอใจหลังจากได้ยินเพื่อนพูดอย่างนี้ โถเพื่อนรัก มึงไปถึงคอนโดคนที่ปากเรียกว่าแฟน แต่พี่เขาดันไม่เล่าอะไรให้ฟังเลย แบบนี้เรียกว่าไม่ค่อยสำคัญหรือเรียกว่าใกล้หมดโปรดีนร๊า น่าสงสารมึงจังเลยเกลอเอ๋ย อีกไม่นานก็คงถูกเขี่ยทิ้งสินะ พอถึงตอนนั้นคยองซูคนนี้จะเป็นเพื่อนที่ดีคอยปลอบใจเอง คริ

     

    ไปด้วยกันเปล่า

     

    แบคฮยอนนั่งนิ่งก่อนจะหันไปมองเพื่อนพร้อมรอยยิ้ม คยองซูเห็นอย่างนั้นแล้วก็ได้แต่เบ้ปาก หน้าหมา ๆ ของเพื่อนสนิทที่แสดงออกถึงความดีใจนั้นบ่งบอกได้ดีว่าตอนนี้โดคยองซูกลายเป็นพระเจ้าของบยอนแบคฮยอนไปแล้ว

     

    กูไปได้ใช่ไหม?

     

    เออดิ ซื้อบัตรเข้าไป งานการกุศล

     

    เยี่ยม แล้วต้องทำยังไงมั่ง กูพร้อมโอนเลยเนี่ย

     

    เด็กน้อยทั้งสองคนนั่งวางแผนเกี่ยวกับคอนเสิร์ตงานกุศลที่ใกล้จะมาถึง คยองซูออกปากบอกว่าจะหาบัตรให้ แต่ต้องแลกด้วยรูปเซลฟี่โชว์หน้าท้องของพี่พระเอกที่มันบอกว่า กูรู้ว่ามึงมี ของดีอย่าเก็บไว้ให้แบ่งปันกับเพื่อนฝูง

     

    แบคฮยอนยิ้มกว้างอย่างมีความสุข ต่อให้ไม่ได้อยู่ใกล้ ๆ แต่อย่างน้อยได้มองไกล ๆ ก็ยังดี

     

     

     

     

     
     

    สวนสาธารณะบนชั้นดาดฟ้าของตึกสูง ที่มีเพียงแค่คนใหญ่คนโตเท่านั้นที่สามารถขึ้นมาใช้พื้นที่บริเวณนี้ได้ ชายหนุ่มร่างสูงทั้งสองคนทอดสายตาไปยังกรุงโซลเบื้องหน้ารับสายลมหวีดหวิวในช่วงบ่าย

     

    บุหรี่ที่คาบอยู่กับริมฝีปากถูกจุด ชายหนุ่มพ่นควันสีหม่นให้ลอยไปกับลมโดยไม่หันไปมองสีหน้าคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ

     

    พี่มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่จบมอปลาย ช่วงแรกมันยากจริง ๆ กับการที่ต้องทำความเข้าใจโลกใบใหม่ที่ใช้อีกภาษาหนึ่งในการสื่อสาร แต่สำหรับพี่ ชีวิตคือกาเรียนรู้ สิ่งแปลกใหม่ท้าทายเสมอ และนั่นทำให้พี่อยากลองทำงานด้านนี้ดูสักครั้ง

     

    ...

     

    การเป็นดารานักแสดงทำให้จัดการเวลาชีวิตยาก ต่างจากงานทั่วไปที่มีตารางงานทุกอย่างชัดเจนในแต่ละวัน ตื่นเช้าไปทำงาน ตกเย็นกลับบ้าน แต่สำหรับนักแสดงแล้ว ถ้ามีงานเข้าก็ต้องพร้อม ไม่มีตารางงานที่แน่นอน ไม่มีเวลาพักผ่อนในช่วงสุดสัปดาห์ ถ้าดังหน่อยเวลานอนก็ลดน้อยลง หน้าที่ผู้จัดการส่วนตัวถึงได้จำเป็นขึ้นมา

     

    ชานยอลยังคงนิ่งเงียบแล้วปล่อยให้อีกฝ่ายพูดต่อไป

     

    ถือว่าเป็นโชคของพี่ที่นายไม่งี่เง่าถึงขั้นต้องขยาดลับหลัง ชายหนุ่มหัวเราะในลำคอ พี่เจอมานักต่อนัก กับดาราที่ดังเป็นพลุแตกแล้วหลงระเริงจนลืมว่าครั้งหนึ่งเคยอยู่จุดไหน คนที่ถ่อมตัวและรู้จักกาละเทศะที่จะอยู่ตรงนี้ได้นาน

     

    ...

     

    สำหรับข่าวเดท บางคนอาจจะมองเป็นเรื่องธรรมดา แต่มันก็ยากที่จะรับได้สำหรับคนที่จิตใจไม่เข้มแข็งพอ คนนอกอาจจะมองว่าแฟนคลับเป็นบ้า ที่หลงรักศิลปินที่พวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอชื่ออะไร ชายหนุ่มหันไปมองพระเอกหนุ่มที่ยืนนิ่งอยู่ข้าง ๆ แต่สิ่งที่นายต้องทำคือรักษาความรู้สึกของพวกเธอไว้ เหมือนที่พวกเธอพยายามปกป้องนาย

     

    ครับ เรื่องนั้นผมรู้ดี

     

    อะไรหลายอย่างที่ผ่านเข้ามาในชีวิต มันสอนให้พี่รู้ว่าปาฏิหาริย์ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกเรื่อง อี้ฝานวางมือลงบนไหล่อีกฝ่าย เหมือนกับความรักของนาย ที่ปาฏิหาริย์คงช่วยให้แฟนคลับเป็นหมื่นแสนยอมรับไม่ได้

     

    ...

     

    ในฐานะคนทำงานด้วยกัน พี่อยากให้นายคิดให้มากกว่านี้นะชานยอล ชายหนุ่มพ่นควันบุหรี่ออกมาอีกครั้งแล้วเท้ามือลงกับราวเหล็ก

     

    แล้วในฐานะพี่ชายล่ะครับ อี้ฝานมองพระเอกหนุ่มที่ยังคงทอดสายตาไปยังเบื้องหน้าเหมือนในทีแรก ชั่วอึดใจเลยทีเดียวที่ทั้งคู่ปล่อยให้ความน่ากลัวของความจริงเล่นงาน ก่อนที่ชานยอลจะหันหน้าเข้าหาอีกฝ่าย ในฐานะพี่ชาย พี่อยากแนะนำผมยังไง?

     

    ...

     

    พี่เป็นคนเดียวที่รู้จักผมดีที่สุด ผมไม่เคยเสียใจที่เลือกเส้นทางนี้ ผมมีความสุขกับการเป็นปาร์คชานยอลที่มีแฟนคลับมากมาย และผมก็รู้ว่าการเป็นดารานักแสดงมันมีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่ถึงอย่างนั้นมันก็เป็นเรื่องยากสำหรับผมจริง ๆ

     

    ...

     

    ครั้งหนึ่งผมคือผู้ชายเห่ย ๆ ที่ไม่เคยมีใครสนใจ แต่ความทะเยอทะยานมันพาผมมายืนอยู่จุดนี้ได้ ผมรักแฟนคลับ แต่ผมก็รักแบคฮยอน ปัญหาตอนนี้คือผมจำเป็นต้องเลือกสักทาง ทั้ง ๆ ที่อยากจะรักษาพวกเขาเอาไว้ทั้งหมด

     

    ผู้จัดการหนุ่มถอนหายใจแล้วหันหน้ากลับไปสนใจวิวทิวทัศน์ตรงหน้าอีกครั้ง ใช่ อู๋อี้ฝานเป็นคนเดียวที่เข้าใจหมอนี่มากที่สุด เพราะฉะนั้นก่อนหน้านี้เขาถึงได้เก็บเงียบมาตลอด แกล้งทำเป็นไม่รู้ถึงความสัมพันธ์ระหว่างพระเอกหนุ่มกับนักเขียนคนนั้น

     

    แต่ในเมื่อถูกช่างภาพจับได้ และทุกคนต่างก็รู้ดีว่าถ้ามีรูปหลุดออกไปเมื่อไหร่คงไม่ใช่แค่ชานยอลและบริษัทที่จะได้รับผลกระทบ จากเหตุการณ์แฟนคลับของชานยอลอัดคลิปเผานิยายเมื่อคราวนั้น มันทำให้เขาเป็นห่วงจนไม่อยากให้ชีวิตแบคฮยอนต้องมาเจอเรื่องแย่ ๆ ตั้งแต่ยังอายุแค่นี้

     

    ผมแอบคบกับแบคฮยอนไม่ได้เหรอ? นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่เห็นชานยอลในมุมสิ้นหวังอย่างนี้ อี้ฝานอัดนิโคตินเข้าปอดกับความกดดันที่เขาสร้างมันขึ้นเอง

     

    พี่ไม่ใช่คนตัดสินเรื่องนี้

     

    ต้องบอกว่าผมถูกตัดสินไว้แล้วว่าต้องเลือกทางไหนถึงจะถูก

     

    นายก็รู้ ชานยอล

     

    พระเอกหนุ่มไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเพียงแค่เงยหน้าขึ้นมองนกบนท้องฟ้าที่บินไปอย่างที่ใจต้องการ เปลือกตาปิดลงแล้วปล่อยให้ลมเย็นพัดผ่าน ชานยอลรู้สึกเหมือนเขาได้กลับไปยืนมองตัวเองตอนอายุยี่สิบต้น ๆ

     

    ความรู้สึกแรกตอนเข้าวงการ ความประหม่า ความหลงระเริง ความสุขที่เกิดขึ้นจากชื่อเสียง และความน่าเบื่อหน่ายกับความสัมพันธ์ชู้สาวที่เกิดขึ้นเป็นครั้งคราว เขาผ่านความรู้สึกเหล่านั้นมาแล้ว

     

     

    RRRrrrr!!!

     

     

    ครับท่านประธาน

     

    ...

     

    ครับ ตอนนี้ผมอยู่กับเขา ครับ เราจะเข้าไปเดี๋ยวนี้

     

    ชานยอลหันไปมองคนที่ยืนข้างตัว สีหน้าของพี่อี้ฝานเปลี่ยนไปราวกับคนกำลังร้อนใจ ซึ่งไม่เกิดขึ้นบ่อยนัก ผู้จัดการหนุ่มเก็บมือถือแล้วสบตากับอีกฝ่าย

     

    เกิดเรื่องแล้ว เราต้องเข้าบริษัทเดี๋ยวนี้

     

     
     

     

     
     

    พวกหน้าเลือดนั่นจะเกินไปแล้ว ผมจ่ายให้ตั้งเท่าไหร่ ยังบอกอีกว่าไม่ได้มีแค่รูปเดียว

     

    เสียงของท่านประธานในห้องส่วนตัวนั้นไม่ได้รื่นหูเลยสักนิด ชานยอลกับอี้ฝานนั่งนิ่งบนเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามแล้วมองชายแก่ที่เดินวนไปวนมาอยู่หลังเก้าอี้โซฟาตัวโปรดอย่างร้อนใจ เมื่อเห็นเรื่องปั่นประสาทในเวปไซต์ชื่อดังว่า

     

     

    เตรียมเปิดเผยคู่รักคู่ใหม่

     

     

    พร้อมรูปประกอบ มันเป็นรูปเงาสีดำไม่ใช่ผู้ชายกับผู้หญิง แต่มันคือผู้ชายสองคน ซึ่งหนึ่งในเงานั้นใคร ๆ ต่างก็รู้ดีว่าเป็นรูปของปาร์คชานยอลที่เพิ่งถ่ายแบบไปเมื่อไม่นานมานี้ ทางช่างภาพบอกว่าถ้าไม่อยากให้ปล่อยรูปก็ต้องจ่ายมากกว่าที่ทางนักการเมืองให้มาเป็นสองเท่า

     

    แน่นอนว่าพวกเขารู้ดี กับข่าวเดทที่มักจะปล่อยออกมากลบการคอรัปชั่นที่เกิดขึ้น มันเป็นอย่างนี้เสมอ ความใหญ่โตในสังคมมาก่อนความถูกต้อง พวกนั้นถึงได้ข่มขู่เรียกจะเอาเงินจากบริษัทเขาอีกครั้ง

     

    นายก็เหมือนกันชานยอล ก็รู้ไม่ใช่หรือไงว่าถูกจับตามองอยู่ ทำไมถึงได้สะเพร่าให้รูปมันหลุดออกมาได้

     

    มันเป็นความผิดของผมเอง พระเอกหนุ่มไม่ได้แก้ตัวหรือขอความเห็นใจจากอีกฝ่าย

     

    รู้ไหมว่าฉันหมดเงินไปกับรูปบ้า ๆ นั่นเท่าไหร่แล้ว?

     

    ผมยินดีจ่ายทั้งหมด ชานยอลเงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่าย ที่ผมทำไม่ใช่เพราะอยากให้ท่านสบายใจขึ้น แต่ผมกำลังรับผิดชอบในสิ่งที่ทำลงไป

     

    ชายแก่ถอนหายใจอย่างหัวเสีย ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าปาร์คชานยอลเป็นคนยังไง เจ้าเด็กนี่มันก็เหมือนเขาสมัยยังเป็นหนุ่ม คิดว่ารับผิดชอบแล้วทุกอย่างจะจบงั้นเหรอ

     

    ถ้าจ่ายแล้วก็ต้องจ่ายอีกเรื่อย ๆ เสียงของผู้จัดการหนุ่มไม่ได้ช่วยให้ประธานใจเย็นลงเลยสักนิด ชานยอลเลือกที่จะเงียบ แล้วมองปากการาคาแพงที่วางอยู่บนเอกสารบนโต๊ะใหญ่

     

    แต่ถ้าไม่จ่ายเราก็พัง

     

    แต่การเล่นตามเกม เราก็มีแต่จะเสียนะครับท่าน

     

    ทั้งสามคนนั่งเงียบในห้องที่อัดแน่นไปด้วยความกดดัน เสียงถอนหายใจหนัก ๆ ของท่านประธานนั้นพวกเขาทั้งสองคนได้ยินชัดเจนเป็นอย่างดี อี้ฝานรู้ว่าชานยอลพร้อมที่จะเผชิญกับปัญหา แต่ตอนนี้ติดอยู่แค่ว่าหมอนี่ไม่สามารถตัดสินใจจัดการเองได้ทุกอย่าง

     

    ท่านครับ

     

    ...

     

    ผมว่ามันอาจจะแย่ที่ต้องพูดอย่างนี้ อี้ฝานสบตากับชายแก่ เขาเว้นจังหวะไปครู่หนึ่งเพื่อดูท่าทีอีกฝ่ายก่อนจะตัดสินใจพูดในสิ่งที่คิดมาตั้งแต่ช่วงกลางวัน ระหว่างต้องจ่ายปิดปากไปเรื่อย ๆ โดยที่ไม่รู้ว่าจะถูกขู่เพิ่มเงินอีกเท่าไหร่ กับยอมปล่อยให้เป็นข่าวเลย อะไรจะดีกว่ากัน?

     

    คุณพูดอะไรอี้ฝาน?

     

    ชายแก่ขมวดคิ้วมองผู้จัดการหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ และชานยอลเองก็เช่นกัน แต่ไหนแต่ไรที่อู๋อี้ฝานเป็นสุขุมใจเย็นมาตลอด เขาไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้ยินประโยคนั้นออกมาจากปากผู้ชายคนนี้มากกว่าการคิดหาทางออกที่ไม่มีใครต้องเสียหาย

     

    เรื่องมันอาจจะยากในช่วงแรก แต่มันก็ยังดีกว่าการปล่อยรูปออกมาตอนที่ชานยอลมีสัญญาจ้างงานมากกว่านี้นะครับ อี้ฝานได้ทบทวนมาอย่างดีแล้ว ตอนนี้มีสินค้าแค่ไม่กี่อย่างที่ชานยอลยังผูกสัญญาอยู่ ถ้าเทียบกับเมื่อเจ็ดเดือนก่อนที่มีงานชุกเข้ามาก็นับว่าจังหวะนี้น่าจะเสียหายน้อยที่สุด

     

    แต่เราจะเสียชื่อเสียง

     

    เรื่องนั้นมันแน่นอนอยู่แล้วครับท่าน แต่ที่เราต้องคิดคือ จะให้ข่าวนี้ออกมายังไงให้ชานยอลแย่น้อยที่สุด และไม่ส่งผลในระยะยาวจนกระทบบริษัทและงานในอนาคต

     

    เจ้าของชื่อหันไปมองผู้จัดการหนุ่มอย่างไม่เข้าใจ เขาได้แต่คิดว่าอีกฝ่ายคงไม่คิดสาดเรื่องบ้า ๆ นี่ให้แบคฮยอนยอมรับคนเดียวหรอกใช่ไหม?

     

    อี้ฝานยังคงสบตากับท่านประธานอย่างมุ่งมั่น ก่อนจะลุกขึ้นยืนพร้อมกระชับสูทตัวนอก

     

     

    ผมจะทำให้เรื่องมันง่ายขึ้นเอง

     

     

     

     

    50%

     



     

     

    ฉิบหาย ฉิบหาย ฉิบหาย

     

    ตลอดหนึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา เขาได้ยินแต่เสียงคยองซูพูดคำนี้ไม่หยุดหลังจากเห็นข่าวลือในเวปชื่อดังที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จักเป็นอย่างดี แบคฮยอนนั่งนิ่ง ในหัวเต็มไปด้วยความกังวลมากมายจนไม่สามารถบอกตัวเองตั้งสติรับกับเรื่องนี้ได้

     

    นี่มันเรื่องห่าไรกันอีกวะ กูคิดว่าพวกมันจะจบแล้ว

     

    นั่นสิ มันควรจะจบไปตั้งแต่ตอนนั้นแล้วไม่ใช่เหรอ แบคฮยอนเสยผมค้างไว้แล้วก้มหน้าลง ทั้งที่พี่พระเอกก็ถูกจับแยกไปอยู่ญี่ปุ่นตั้งครึ่งปีแล้วแท้ ๆ หรือว่าคนพวกนั้นจะถ่ายรูปเขาได้ตอนปลอมตัวเป็นผู้หญิง?

     

    ซีเรียสนะแบคฮยอน มึงกับพี่เขาจูบกันจริงเหรอ? คยองซูหันหน้าเข้าหาเพื่อนสนิทอย่างจริงจัง หลังจากฟังเพื่อนเล่าให้ฟังว่ามีเหตุการณ์ล่อแหลมอะไรบ้างที่อาจทำให้พวกบ้านั่นขุดขึ้นมาทำข่าวอีกครั้ง ซึ่งก็มีแค่สองเรื่อง หนึ่งจูบกันที่ทะเล สองเรื่องแอบปลอมตัวไปหาพี่เขาในวันเกิด

     

    พอเห็นว่าไอ้ชั่วพยักหน้าเขาก็อยากจะเอามีดมาคว้านท้องตัวเองให้ตาย ๆ ไปซะ จะได้ไม่ต้องมาพบกับความจริงว่าเพื่อนที่เห็นหน้าค่าตากันเกือบทุกวันแม่งคาบคนของกูไปแดกกกกกกกกกกก ซั้ซ

     

    กูอยากร้องไห้ เกิดมาไม่เคยหน่วงขนาดนี้มาก่อน เคยคิดว่าทำใจเรื่องพี่ชานยอลกับไอ้เวรนี่ได้แล้ว แต่พอรู้ว่ามันเอาปากนั่นไปแตะกับริมฝีปากเลี่ยมทองของพี่เขา คยองซูก็อยากจะตายวันละร้อยรอบ มันเต็บหัวใต

     

    ทำไงดี ถ้ารูปถูกปล่อยออกมาคราวนี้พี่พระเอกคงไม่รอดเหมือนครั้งก่อนแน่

     

    มึงห่วงตัวเองก่อนได้ไหมล่ะไอ้ฉิบหาย คยองซูหันมาคาดโทษไอ้หอกหักที่เอาแต่กังวลเรื่องคนอื่นจนลืมนึกถึงตัวเอง ถึงแบคฮยอนมันจะเป็นบ้าเป็นบอ แต่ในฐานะเพื่อนสนิทที่รู้นิสัยมันดีที่สุด เขารู้ว่าไอ้เวรนี่ขี้คิดมากยิ่งกว่าใคร

     

    ถ้ากูโดน ไม่นานคนก็ลืม แต่คนรู้จักพี่พระเอกตั้งเท่าไหร่ แล้วกูไม่ใช่เด็กผู้หญิงที่พอเป็นข่าวแล้วคนจะพูดว่าอ๋อ ที่แท้ก็เลี้ยงต้อยเด็กกูเป็นเด็กผู้ชาย มันคือความผิดพลาดที่สังคมตั้งกรอบไว้แล้ว

     

    แล้วไง ทีตอนมึงจูบพี่เขาเสือกไม่คิด

     

    ...

     

    แบคฮยอนถอนหายใจหนัก ๆ มันก็จริงอย่างที่ไอ้คยองซูด่าไม่มีผิด กับการที่เขาเอาแต่มองเห็นแต่ความสุขจนไม่ทันระวังตัว แต่พอมานึกได้ตอนนี้ก็ไม่ช่วยอะไรขึ้นมา ทุกอย่างมันสายไปหมดแล้ว

     

    จ๊ะเอ๋!!!”

     

    ...

     

    เด็กน้อยทั้งสองหันไปทางประตูบ้านที่ถูกเปิดเข้ามาโดยไม่มีการกล่าวขออนุญาตคนเป็นเจ้าของที่นั่งหัวโด่อยู่ข้างใน ดวงหน้าหวานเหมือนลูกลิงของผู้มาใหม่ฉีกยิ้มกว้างพร้อมโบกมือทักทาย

     

    บอกให้หัดกดกริ่ง เคยจำใส่สมองกลวง ๆ บ้างไหม

     

    หูย ถ้ากดกริ่งก็ไม่เซอร์ไพรส์น่ะซี เด็กสาวว่าแล้วถือวิสาสะวิ่งเข้ามาด้านในพร้อมหยัดตัวนั่งลงบนโซฟาข้างคยองซู นั่งตัวสั่นกับความหนาวเย็นของสภาพอากาศด้านนอกก่อนจะซุกมือไว้ในหว่างขา

     

    ยัยผีนี่ชื่อเวนดี้ เจ้าของวิกที่มึงยืมไป ส่วนนี่ไอ้ชื่อแบคฮยอน เพื่อนนักเขียนที่ฉันเคยเล่าให้ฟัง

     

    อ๋อ จำได้ ๆ ที่แกบอกว่าเพื่อนรักหน้าปลวกผู้โชคดีจากซองมาม่าที่พี่ชานยอลสอยดาวได้ไปเป็นคู่ซ้อมบทจนตกเป็นข่าวฉาวตั้งโต๊ะแถลงข่าวจนผ่านไปด้วยดีแล้วไปยิงบีบีกันเพื่ออรรถรสละครทหารแถมไปเที่ยวทะเลด้วยกันกับผู้จัดการและการ์ดอีกหกคนใช่ไหม? สองเพื่อนสนิทชำเลืองมองกันอย่างไม่ได้นัดหมายหลังจากได้ฟังเด็กสาวผู้มาใหม่แรปยาวเป็นหางว่าว

     

    กูเล่านิดเดียวเองมึง ส่วนไอ้คำว่าหน้าปลวกนั่นกูใส่เข้าไปเพื่อเพิ่มความอร่อย คยองซูนั่งยืดหลังตรงประสานมือไว้บนตักอย่างมีมารยาท แบคฮยอนเหล่มองเพื่อนตัวดี อร่อยพ่อมึงนี่ ต้องขี้เมาท์ขนาดไหนผู้หญิงคนนี้ถึงรู้เรื่องเยอะเหลือเกิน

     

    แต่แก มันดีกับใจมากเลยนะรู้ป่ะ เด็กสาวยิ้มกริ่มแล้วทำมือปัด ๆ แบคฮยอนได้แต่ยิ้มเจื่อนกลอกตาไปมา ปกติเห็นแต่พี่ชานยอลมีโมเม้นกับผู้หญิง เห็นเยอะจนเบื่อ พอเจอคู่ผู้ชายก็เจอแบบ-- ชานยอล x จงอินเงี้ย แกคิดดูดิ คือ-- มันไม่ใช่อะ มันไม่โอเค

     

    นางเคยเขียนฟิคคู่พี่พระเอก x มึงด้วยนะ เห็นงี้ใช่ย่อยที่ไหน แรงมโนก้าวล้ำยิ่งกว่าเน็ตนาซ่า กูล่ะยอมใจ คยองซูเหล่มองเพื่อนในโซเชียลที่รู้จักกันอย่างงง ๆ ตอนไปตามติ่งพี่ชานยอลในงานแฟนไซต์เมื่อปีที่แล้ว เวนดี้อมยิ้มพลางบิดตัวไปมา

     

    ก็ชอบเคะแบบการ์ตูนวายอะ มันฟิคมากเลยนะแก ดาราชื่อดังกับนักเขียนหน้าโง่

     

    คือเธอไม่ได้หลอกด่าเราใช่ป่ะแบคฮยอนชี้หน้าตัวเอง

     

    เฮ้ยเปล่า เราว่าแกน่ารักดีออก

     

    ดีออก คยองซูย้ำ

     

    ถ้าจะเข้ากันเป็นปี่เป็นขลุ่ยขนาดนี้แนะนำให้เคี้ยวขี้แล้วพ่นใส่หน้ากูเลยดีกว่าซั้ซ

     

    แต่ไม่มีคนอ่านนางก็เลยเลิกเขียน น่าสงสารกว่านี้มีอีกไหม

     

    โธ่ แรงมโนย่อมขับเคลื่อนได้ด้วยคอมเมนท์นะเว้ย ฟิคแกคนอ่านเยอะก็พูดได้สิ เวนดี้เบะปาก มองอีกคนที่ยกไหล่ทั้งสองข้างขึ้นพร้อมแบมือออกอย่างกวนประสาท

     

    ใครบอกว่าไม่มีคนเมนท์ เข้าไปก็เห็นเป็นร้อยอยู่

     

    อันนั้นเมนท์ด่าค่ะผู้ แฟนคลับคู่ชานอินถล่มแหลกไม่เหลือชิ้นดีเลยแก บอกว่าเลิกชงคู่นี้สักทีเถอะ เขาก็แค่พี่น้องกันคือยังไงอะ คู่อื่นผัวเมียเหรอ ฮัลโหล เวนดี้ปั้นหน้าปั้นตาจริงจัง

     

    แบคฮยอนกุมขมับ เขายังไม่สามารถเข้าถึงบทสนทนาระหว่างแฟนคลับที่เขียนนิยายให้ศิลปินรักกันได้เท่าที่ควร

     

    มาถึงก็เอาแต่พูดไม่หยุด เก็บกดมากไหมล่ะ

     

    เออ ก็อยู่บ้านกับพี่ชายสองคนมันอึดอัดอะ ไม่เกมก็ฟุตบอล น่าเบื่อ ถ้ามีผู้ชายอย่างแกได้สักครึ่งโลกก็คงดี เวนดี้ยกขาขึ้นมานั่งขัดสมาธิบนโซฟาแล้วคว้าหมอนมากอด

     

    ผู้ชายอย่างฉันนี่มันยังไงวะ

     

    เด็กผู้ชายส่วนสูงไม่ถึงมาตรฐานปากกรรไกรแต่เข้าใจชะนีผีนับหมื่นแสนอย่างเรา ๆ

     

    นั่นคำชมช่ะ คยองซูเลิกคิ้วมองหาเรื่อง เวนดี้หัวเราะร่าแล้วเซลงไปซบไหล่เพื่อนพร้อมเอาหัวถู ๆ ว่าแต่อ่านข่าวยัง

     

    จะเหลือเหรอ

     

    ปกติเห็นเดือดเป็นฟืนเป็นไฟไหงคราวนี้ดูสติครบถ้วน คยองซูปรายตามองเด็กสาวที่กำลังเกล้าผมขึ้นลวก ๆ ก่อนจะถอนหายใจ

     

    แกว่าคราวนี้กับใคร ประโยคนี้ทำเอาคยองซูเหลือบมองเพื่อนสนิท เวนดี้นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วมองตามอย่าบอกนะ

     

    ประมาณนั้น

     

    เฮ้ย ได้ไงอะ พี่ชานยอลจะมีข่าวกับเพื่อนแกรอบสองได้ไง พระเอกหนุ่มสุดฮอตกับนักเขียน... ว่าแต่แกเขียนนิยายอะไรนะฉันจำไม่ได้ เวนดี้ขมวดคิ้วพลางหมุนนิ้วชี้ระหว่างรอคำตอบ

     

    เห็นไหม ขนาดเพื่อนมึงยังจำไม่ได้เลยว่ากูเขียนนิยายเรื่องอะไร เชื่อดิว่าถ้าเป็นข่าวแป๊บเดียวคนก็ลืมกู แต่พี่พระเอกอะโดนระยะยาวแน่ แบคฮยอนกุมขมับก่อนจะเขกหัวตัวเองซ้ำ ๆ กับปัญหาที่คิดไม่ตก

     

    เวนดี้กลอกตา มองเพื่อนสนิทของคยองซูแล้วก็ได้แต่เลิกคิ้วถามว่าเพื่อนแกเป็นไรวะ

     

    เรื่องมันยาวน่ะ แต่เชื่อเถอะว่าถ้าข่าวปล่อยออกมาคราวนี้ฉิบหายกันทั้งแผ่นดินแน่

     

    ถ้าเป็นข่าวซ้ำสองงี้สื่อต้องลั่นแรงแน่อะ กับเด็กผู้ชายคนเดิมถึงสองครั้ง เด็กสาวว่า

     

    ใช่ไง

     

    แต่ไม่เป็นไรหรอกมั้ง เพื่อนแกกับพี่ชานยอลก็ไม่ได้เป็นอะไรกันไม่ใช่เหรอ ไม่มีอะไรต้องกลัว เวนดี้ตบบ่าอีกคนปุ ๆ คยองซูกับแบคฮยอนหันมามองหน้ากันอย่างไม่ได้นัดหมายก่อนจะมองเด็กสาว

     

    เป็นแน่ ทั้งคู่พูดพร้อมกัน

     

    ไหงงั้นอะ

     

     

    RRRrrrrr!!!!

     

     

    ทุกสายตาหันไปหยุดอยู่ที่สมาร์ทโฟนสีแดงที่สั่นสะเทือนอยู่บนโต๊ะ คยองซูถึงกับตาเหลือกเมื่อเห็นว่าเจ้าของเบอร์นั้นเป็นของใคร และแน่นอนว่าเลือดแห่งความอยากรู้อยากเห็นของเด็กสาวตัวเล็กก็ทำให้รู้ได้เช่นกัน จากทักษะการอ่านแบบกลับหัว

     

    แบคฮยอนคว้ามือถือขึ้นมา จ้องมันอยู่ชั่วอึดใจขณะปล่อยให้ความคิดต่าง ๆ นานาเข้ามาเล่นงานอีกครั้ง บอกตามตรงว่ากลัวเหลือเกิน ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขารู้สึกหวั่นใจเมื่อเห็นชื่อของอู๋อี้ฝาน

     

    ฮัลโหล...

     

    ( ออกมาเจอกันหน่อยครับ ผมจะรออยู่ที่ร้านกาแฟ T ใกล้ ๆ โรงเรียนคุณ )

     
     

     

     

     
     

    เด็กมอปลายทั้งสามคนหยุดยืนอยู่หน้าร้านกาแฟเล็ก ๆ ที่อยู่ไม่ห่างจากโรงเรียนมากนัก พวกเขาใช้เวลาเดินทางไม่ถึงครึ่งชั่วโมงกับท้องถนนในช่วงหัวค่ำ

     

    คยองซูไม่ยอมให้แบคฮยอนออกมาคนเดียว หลังจากรู้ว่าผู้จัดการหน้าหล่อนั่นซ่อนกรงเล็บไว้ข้างหลังและเคยข่วนหนังหน้าเพื่อนของเขาอย่างเลือดเย็น พี่เขาคิดว่าตัวเองหล่อแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ ไม่รู้อะไรซะแล้ว กรงเล็บที่เอาไว้ข่วนไอ้แบคฮยอนมีแค่คยองซูคนเดียวเท่านั้นที่ทำได้!

     

    ส่วนเวนดี้ตามมาเพราะความติ่งพี่ผู้จัดการล้วน ๆ เด็กสาวชะโงกหน้ามองในร้านกาแฟก่อนจะกระโดดเหยง ๆ ชี้เข้าไปยังเบาะโซฟาทางด้านในสุด ซึ่งเป็นมุมที่ไม่มีใครนั่งอยู่แถวนั้นเลย

     

    ไปเลยแบคฮยอน ขึ้นเขียง!” สาบานว่าเพิ่งได้คุยกับเวนดี้วันแรก... แบคฮยอนเหล่มองเด็กสาวที่ฉีกยิ้มกว้างราวกับว่าสถานการณ์ตอนนี้คือเรื่องสนุก

     

    มึงอยากบอกอะไรก่อนที่กูจะไปหาพี่เขาไหมคยองซู

     

    เซื่อในสิ่งที่เฮ็ด เฮ็ดในสิ่งที่เซื่อ คนฟังถึงกับตบหน้าผากตัวเอง พวกมึงสองคนมากับกูเพื่อไรเหรอ งี้สู้ยืนสูดอากาศเน่า ๆ หน้าร้านท่ามกลางความหนาวเหน็บเรียกเอากำลังใจกูยังรู้สึกดีกว่ามาฟังคำพูดไร้สาระเหล่านี้

     

    ฉันกับคยองซูจะเป็นกำลังใจให้ด้วยการนั่งกินฮันนี่โทส นมร้อนกับเครปสตรอว์เบอร์รี่อยู่ตรงนั้นนะ แกไม่ต้องกลัวเลย

     

    จ้ะ

     

    ไปสิ มึงไปสู้!” คยองซูทำหน้ามุ่งมั่นแล้วดันหลังเพื่อนให้เดินเข้าไปสู่ความตายเบื้องหน้า มารอบนี้พี่ฝานเมเนจะร่ายคาถาปราบผู้คุมวิญญาณใส่มันยังไง ไม่วายคงจัดเต็มเรื่องข่าวในเวปดิสแป๊ดแน่

     

    แบคฮยอนเลียริมฝีปากคลายความประหม่า พอเห็นว่าผู้จัดการหนุ่มรับรู้ถึงการมา ร่างเล็กก็โค้งหัวทักทาย ก่อนจะหยัดตัวนั่งลงบนโซฟาตัวฝั่งตรงข้ามหลังจากอีกฝ่ายผายมือให้

     

    ดื่มอะไรดีครับ?

     

    ...เอ่อ คือ แบคฮยอนรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กเพิ่งหัดพูด กะอีแค่ตัดสินใจว่าจะดื่มอะไรมันกลายเป็นเรื่องยากสำหรับเขาไปแล้ว ในวินาทีนี้คนตัวเล็กอึดอัดกับความเงียบที่เราทั้งคู่สร้างขึ้นจนทำตัวไม่ถูก

     

    โกโก้ร้อนดีไหม?

     

    ...ครับ

     

    ชายหนุ่มยิ้มบาง ๆ ขณะมองอีกฝ่ายที่เอาแต่หลบสายตาเขา ก่อนจะกระดิกนิ้วเรียกพนักงานเสิร์ฟ แบคฮยอนมองอีกคนที่กำลังจัดการออเดอร์ด้วยสำเนียงภาษาอังกฤษที่ฟังแล้วก็รู้ว่าไม่ใช่งู ๆ ปลา ๆ ก่อนจะลดระดับสายตาลงมองกาแฟดำในถ้วยเซรามิกส์ที่ลดไปเพียงเล็กน้อย

     

    หรือว่าคุณอยากดื่มกาแฟ?

     

    อ้อ เปล่าครับเปล่า ผมแค่-- สงสัยว่าพี่ดื่มแบบนี้ไม่กลัวตาค้างเหรอ? แบคฮยอนยิ้มเจื่อนพร้อมประสานมือไว้บนโต๊ะ อี้ฝานยิ้มบาง ๆ หลุบสายตามองเรียวนิ้วที่จิกลงบนหลังมือแล้วยกกาแฟขึ้นจิบ

     

    ผมดื่มเพราะคืนนี้ต้องอยู่ดึกน่ะครับ อี้ฝานระบายยิ้มออกมาเพื่อให้อีกฝ่ายรู้สึกผ่อนคลายขึ้น นั่นแฟนเพื่อนคุณเหรอ?

     

    แบคฮยอนชะโงกหน้ามองไปยังโต๊ะที่นั่งอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้มากนัก คยองซูหรี่ตามองมาเป็นเชิงข่มขู่ ราวกับจะบอกผู้จัดการหนุ่มว่าวันนี้บยอนแบคฮยอนไม่ได้มาแค่คนเดียว ส่วนเวนดี้เอาแต่ฟาดแขนคยองซูอย่างขลาดเขิน เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มหน้าหล่อมองไปยังโต๊ะของเธอ

     

    เปล่าครับ นั่นเพื่อนติ่งของมัน

     

    อ่า แฟนคลับชานยอล ร่างสูงพยักหน้าเข้าใจ งั้นเราเข้าเรื่องกันเลยดีไหม?

     

    อือ ผมว่านั่นคือสิ่งที่เราควรทำที่สุดในตอนนี้ แบคฮยอนเม้มริมฝีปาก ก่อนจะถอนหายใจออกมา

     

    คุณมานั่งตรงนี้ดีกว่าครับ อี้ฝานลุกขึ้นยืนเต็มความสูง กระชับสูทนอกแล้วผายมือให้คนตัวเล็กเข้าไปนั่งแทนที่เขา แบคฮยอนเลิกคิ้วมองอย่างไม่เข้าใจแต่ก็ยอมทำตาม ก่อนจะขยับเข้าไปชิดด้านในเมื่ออีกฝ่ายนั่งลงข้าง ๆ เขา

     

    พี่กลัวมีคนแอบถ่ายรูปเหรอ แบบว่า-- ผู้จัดการส่วนตัวของปาร์คชานยอลแอบนัดเจอนักเขียนกระจอก

     

    เปล่าครับ เป็นเพราะคุณแสดงออกว่ากลัว ผมเลยอยากให้บรรยากาศระหว่างเราดูผ่อนคลายขึ้นน่ะ ร่างสูงยิ้ม

     

    โธ่พี่... ก็สมควรกลัวไม่ใช่เหรอ แบคฮยอนถอนหายใจหนัก ๆ ตั้งแต่เรื่องจดหมายคราวนั้นไปจนถึงตอนที่เขาบุกไปถึงบริษัท การเจอหน้าพี่อี้ฝานก็ไม่ใช่เรื่องน่ายินดีอีกต่อไป

     

    และถึงคำพูดของอีกฝ่ายจะทำให้กังวล แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในขณะเดียวกันเขาเองก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นอย่างที่พี่อี้ฝานพูดจริง ๆ

     

    คุณเป็นคนเก่ง ชายหนุ่มยังคงยิ้มขณะมองหน้าเขา ทั้งที่กลัว แต่ก็กล้าที่จะเผชิญกับมัน

     

    ผมไม่รู้ว่าจะต้องทำยังไง ผมรู้แค่ว่าหนีปัญหานี้ไม่ได้ เอ่อ-- หมายถึงเรื่องข่าว พี่เองก็มาเพราะเรื่องนี้ใช่ไหม?แววตาของเด็กคนนี้ฉายแววสงสัย อี้ฝานปล่อยให้ความเงียบทำงานอยู่ครู่หนึ่งแล้วหันหน้าเข้าหาคนตัวเล็ก

     

    ผมกลายเป็นคนร้ายกาจ เพราะขัดขวางเรื่องของคุณกับชานยอล ชายหนุ่มยังคงนั่งหลังตรงเหมือนในทีแรก แบคฮยอนมองอีกฝ่ายที่ดูดีไปหมดจนไม่อยากเชื่อว่าที่นั่งอยู่ตรงนี้คือผู้จัดการส่วนตัวศิลปินที่มีบทบาทอยู่แค่เบื้องหลัง ไม่บ่อยหรอกที่การคาดเดาของผมจะผิดพลาด จนกระทั่งเจอเรื่องของคุณ

     

    ...ครับ? แบคฮยอนเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม

     

    ทุกครั้งที่ชานยอลเดทกับใครสักคน ผมจะบอกให้เขาจบมันเองก่อนที่ผมจะยื่นมือเข้าไปจัดการให้ จริงอยู่ที่นอกเวลางานเราสองคนคือพี่น้องกัน แต่ในเวลางานผมก็จะกลายเป็นผู้จัดการส่วนตัวของปาร์คชานยอล พระเอกหนุ่มที่ค่าตัวเป็นเงินทุกวินาที

     

    แบคฮยอนตั้งใจฟังอีกฝ่ายพูด พร้อมพยักหน้าทุกครั้งที่เสียงนั้นเงียบลง

     

    ครั้งหนึ่งตอนเพิ่งเข้าวงการ ชานยอลเคยจริงจังกับดาราสาวรุ่นพี่ แต่ผมก็ไม่เห็นว่าเขาจะพยายามเหมือนเรื่องของคุณ อืม... มันอาจเป็นเพราะเขาโตขึ้น เลยรู้ว่าอะไรที่ควรปล่อย และอะไรที่ควรรักษาเอาไว้แม้ว่ามันจะทำให้ใช้ชีวิตยุ่งยากขึ้น

     

    ...

     

    ผมเคยคิดว่าคุณสองคนคงเลิกกันไปเอง ไม่ใครคนหนึ่งที่ทนอยู่กับสภาวะหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่ได้ และนี่คือเรื่องที่ผมบอกว่าการคาดเดามันผิดพลาด

     

    ผมก็เคยคิดอย่างนั้น แต่พระเจ้าไม่ได้สร้างให้มนุษย์รักใครก็ได้ที่ตามองเห็นนี่

     

    คำพูดของแบคฮยอนจะว่าเจ้าบทเจ้ากลอนก็คงได้ แต่อี้ฝานกลับรู้สึกถึงความไร้เดียงสาของเด็กคนนี้เสียมากกว่า ชายหนุ่มนิ่งไประหว่างใช้ความคิด ความจริงแล้วเขายังไม่มีแผนอย่างที่ได้บอกท่านประธานไว้ เพราะในวินาทีนั้นผู้จัดการหนุ่มอย่างเขาคิดเพียงแค่ว่าคงปล่อยให้คนอื่นจัดการเรื่องนี้ไม่ได้

     

     

     

     

     
     

    หลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการถ่ายแบบนอกสถานที่มาตลอดทั้งวัน ดาราหนุ่มเจ้าของสีผิวแทนก็ชำระร่างกายด้วยการแช่น้ำอุ่นพร้อมจิบไวน์ในอ่าง หลังจากนั้นก็ออกมานั่งบนโซฟาตัวโปรด ใช้เวลาอยู่ในจุดพักผ่อนหย่อนใจด้วยการเปิดจอทีวีขนาดใหญ่ เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตเข้าไปแล้วเสิร์ชหาชื่อตัวเองเหมือนกับทุกวัน

     

    มันเป็นเรื่องปกติที่ไอดอลและนักแสดงจะทำอย่างนี้ การเป็นดาราที่ดีจะต้องเช็กเรตติ้งทุกวันเพื่อดูว่าแฟนคลับกล่าวถึงว่ายังไงบ้าง ถ้าเห็นคนโพสด่าก็ได้แต่แค่นหัวเราะ แล้วพูดกับตัวเองว่าก็แค่พวกขี้อิจฉา คิมจงอินหล่อขนาดนี้ยังด่าได้ลงคอ คนเหล่านั้นควรตกนรกหมกไหม้ไปให้หมด

     

     

    RRRRRrrrrrrrrrrr!!!

     

     

    ไงตัวแสบ เพิ่งนึกได้เหรอว่ามีพี่ชายอยู่ตรงนี้ตั้งหนึ่งคน? ชายหนุ่มกรอกเสียงของความน้อยใจไปเต็มพิกัด หลังจากกดรับสายน้องสาวคนสวยที่หายหน้าหายตาไปนาน เพราะเธอต้องฝึกซ้อมทักษะป้องกันตัวเพื่อถ่ายหนังใหญ่ในอเมริกา ถึงจะเป็นแค่ตัวประกอบ แต่มันก็เป็นก้าวแรกที่ดีที่จะทำให้คนทั้งโลกได้รู้จักดาซมในนามนักแสดงชาวเกาหลีใต้

     

    ( หนูเหนื่อย )

     

    ก็เคยบอกแล้วไม่ใช่หรือไงว่ามีอะไรก็ให้โทรหาพี่

     

    ( ท้อด้วย ครูฝึกที่นี่ใจร้ายชะมัด หนูไม่ชอบบทนี้เลย นางเอกทำอะไรบ้าง แค่ยืนสวย ๆ กับบทตัวถ่วงพระเอก ไม่เห็นต้องมาซ้อมหนักเหมือนหนูเลย ถ้าพี่เห็นรอยช้ำบนตัวหนูแล้วจะรู้ )

     

    เราเป็นคนบอกพี่เองนะว่าอยากฝึกฝีมือให้มากกว่านี้ แล้วดูพูดเข้าสิ

     

    ( พี่อะ ทำไมไม่โอ๋หนูบ้าง ไหนบอกว่ามีอะไรให้โทรหา ถ้าโทรมาแล้วได้ยินแบบนี้หนูสู้คุยกับหมอนข้างไม่ดีกว่าเหรอ )

     

    พูดแบบนี้รู้ไหมว่าพี่เสียใจ โตแล้วนะดาซม อดทนหน่อย

     

    ( ... )

     

    จะเอาแต่ใจกับพี่แค่ไหนก็ได้ แต่อย่าไปงอแงใส่คนอื่น เข้าใจที่พี่พูดหรือเปล่า?

     

    ( หนูรู้แล้วน่ะ )

     

    ดีมาก ถ้ากลับเกาหลีเมื่อไหร่จะพาไปกินเค้กแถวบ้านเก่าเรา ร้านป้าฮานะของเด็กหญิงดาซมไง จำได้ใช่ไหม? คนเป็นพี่ชายหัวเราะในลำคอ ไม่ว่าจะผ่านไปกี่ปีน้องสาวของเขาก็ยังคงเป็นเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่เอาแต่ใจเป็นที่หนึ่งเสมอ

     

    ( พี่ก็ต้องดูแลตัวเองดี ๆ นะ เป็นกำลังใจให้หนูด้วย ห้ามบ่นเยอะ )

     

    รับทราบแล้วเจ้าหญิง

     

    ( ถ้าเหงาก็หาสาวคุยบ้าง ชีวิตจะได้ไม่ห่อเหี่ยว แต่ต้องเลือกให้ดีล่ะ เอาให้สวยแล้วก็ฉลาดเหมือนหนู )

     

    ฝันไปเถอะ เรื่องอะไรที่พี่จะหาเรื่องใส่ตัวเพราะเรื่องเดทเหมือนปาร์ค--

     

    ( คะ? )

     

    อ๋อเปล่า จงอินปั้นหน้านิ่งแม้ว่าอีกฝ่ายจะไม่เห็น สายตาหยุดอยู่ที่ทีวีจอใหญ่ซึ่งขึ้นหัวข่าวเดทของดาราดังที่คุ้นชื่อเป็นอย่างดี แม้ว่าข่าวจะผ่านไปหลายชั่วโมงแล้ว แต่ก็ยังมีคอมเมนท์กล่าวถึงเข้ามาเรื่อย ๆ จนอดไม่ได้ที่จะให้ความสนใจ

     

    ( พี่ก็อย่านอนดึกมาก แค่นี้ก็หล่อไม่ทันพี่ชานยอลแล้ว บ๊ายบายนะ หนูง่วง )

     

    ย่าห์! คิมดาซม!”

     

    เจ้าของผิวสีแทนได้แต่ขยับปากบ่นอุบอิบหลังจากน้องสาวตัวดีชิงวางสายไปก่อน อยากจะลั่นออกไปเหลือเกินว่าผู้ชายที่เธอรักเธอหลงนักหนากำลังตกเป็นข่าวอีกแล้ว แต่ถ้าทำอย่างนั้นก็เกรงว่าระเบิดจะลงจนต้องตีตั๋วเครื่องบินกลับเกาหลีแทบไม่ทัน คิมจงอินคงไม่รู้สึกยินดีเท่าไหร่ถ้าต้องนั่งฟังน้องสาวเพ้อเจ้อถึงหมอนั่นเป็นครั้งที่ล้านแปด

     

    เสียงกดออดหน้าประตูดังขึ้นสร้างความประหลาดใจให้กับชายหนุ่ม ถ้าจะบอกว่าเป็นผู้จัดการส่วนตัวก็คงไม่น่าใช่ เพราะป่านนี้คิมจงแดคงสลบเหมือดไปแล้วหลังจากเหน็ดเหนื่อยกับการตามล้างตามเช็ดมาตลอดทั้งวัน

     

    สองขาพาไปหยุดอยู่ตรงกล้องหน้าประตู แน่นอนว่ามันเป็นเรื่องสุดเซอร์ไพรส์ตลอดหลายปีเมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ข้างนอกคือพระเอกหนุ่มราคาค่าตัวเหยียบร้อยล้านวอนต่อหนึ่งตอน

     

    ลมอะไรพัดนายมาจากฝั่งนั้นกันนะ?

     

    ( ขอเข้าไปหน่อย )

     

    เจ้าของร่างผอมสูงไม่ได้โต้ตอบอย่างกวนประสาทกลับมาเหมือนทุกครั้ง จงอินเบ้ปากพลางเลิกคิ้วมอง ทิ้งช่วงไปหลายวินาทีก่อนจะเปิดประตูให้

     

    ...

     

    เจ้าของผิวสีแทนเลิกคิ้วขึ้นสูงพลางมองตามใครอีกคนที่เดินล้วงกระเป๋ากางเกงเข้าไปในห้องเขาอย่างถือวิสาสะโดยไม่คิดที่จะกล่าวทักทายกันสักคำ โทษทีนะ ไอ้ท่าทางแบบนั้นน่ะมันจะเกินไปแล้วหรือเปล่า!

     

    เฮ้ ๆ นั่นที่นั่งประจำของฉัน ย่าห์ ปาร์คชานยอล

     

    จงอินขยับปากบ่นขณะมองตามคู่อริหมายเลขหนึ่งที่แทบจะหาบทสนทนาดี ๆ ต่อกันไม่ได้นอกจากตอนอยู่หน้าสื่อ ไอ้หมอนั่นนอกจากจะยึดบัลลังก์ของเขาแล้วยังกล้ากระดกไวน์ราคาแพงจากฝรั่งเศสได้อย่างหน้าตาเฉยอีก

     

    ขออีก เสียงทุ้มต่ำมาพร้อมแก้วไวน์ที่ยื่นมา จงอินเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มยืนกอดอกมองอีกฝ่ายอย่างไม่สบอารมณ์นัก ปาร์คชานยอลพยักหน้าเป็นเชิงเร่ง ส่วนเขาก็ได้แต่ขยับปากก่นด่าแล้วรินไวน์ให้อย่างไม่เต็มใจนัก ไปเอาแก้วมาเพิ่มสิ

     

    บางทีนายอาจจะลืมไปว่าฉันเป็นเจ้าของห้องนี้

     

    จะพูดมากทำไม ในเมื่อสุดท้ายนายก็ต้องนั่งลงตรงนี้แล้วดื่มกับฉัน

     

    ช็อกกับข่าวจนต้องหาเพื่อนดื่มย้อมใจหรือไง น่าเห็นใจจริง ๆ เลยน้า จงอินชี้ไปยังทีวีจอใหญ่ที่ยังคงค้างอยู่กับข่าวฉาวของอีกฝ่าย ชานยอลถอนหายใจแล้วพยักหน้าส่ง ๆ

     

    ความจริงฉันแค่เข้ามาขอยืมโทรศัพท์

     

    “WHAT?

     

    ขอยืมโทรศัพท์หน่อย สาบานให้ตายว่าสีหน้ากวนประสาทนั่นกำลังขอความช่วยเหลืออยู่ ชานยอลแบมือออกมาพร้อมกระดิกนิ้ว วูบหนึ่งเจ้าของผิวแทนรู้สึกเหมือนว่าตัวเองกำลังตกเป็นผู้เสียเปรียบ

     

    โทรศัพท์หายเหรอครับคุณพระเอก หรือถูกคุมความประพฤติด้วยการยึดมือถือถึงต้องบากหน้ามาขอยืมถึงที่นี่? จงอินคิดว่าเขาเดาถูก เมื่อดวงตาคู่นั้นหลุบลงทันทีที่ได้ยินประโยคหลัง ในฐานะที่ฉันเป็นเจ้าของโทรศัพท์เครื่องนี้ ฉันก็ต้องมีสิทธิ์รู้ว่านายจะโทรออกไปไหน ชายหนุ่มผิวแทนชูสมาร์ทโฟนขนาดเหมาะมือขึ้นมาแล้วอย่างผู้ชนะ

     

    ...

     

    ถ้าเกิดเป็นเรื่องใหญ่โตจนสาวมาถึงเบอร์ฉันแล้วจะทำไง อย่างน้อยฉันก็ควรรู้ไว้

     

    ฉันจะโทรหาแบคฮยอน

     

    อ่า

     

    และฉันคงไม่เล่าว่าเพราะอะไรถึงโทร

     

    โอเค ตามนั้น

     

    เจ้าของผิวสีแทนวางสมาร์ทโฟนลงบนมืออีกฝ่ายแล้วเดินไปเอาแก้วไวน์ใบใหม่มา เขาเห็นว่าสีหน้าของพระเอกหนุ่มดูเป็นกังวลเมื่อคนปลายสายยังไม่กดรับสักที นานพอสมควรเลยทีเดียวกว่าชานยอลจะล้มเลิกความตั้งใจ

     

    “Mission Failed.”

     

    เงียบน่ะ

     

    นายไม่ควรพูดกับฉันด้วยน้ำเสียงแบบนั้นทั้งที่นั่งอยู่ในห้องนี้นะ จงอินหัวเราะในลำคอ เขายกแก้วไวน์ขึ้นจิบแล้วมองสีหน้ากระอักกระอ่วนของอีกฝ่าย

     

    ถ้าฉันพูดว่า ขอบคุณนะบรรยากาศระหว่างเรามันจะดีขึ้นหรือไง?

     

    อาจจะ ชายหนุ่มผิวแทนวางแก้วลงแล้วยกขาขึ้นพาดกับโต๊ะ นายพลาดมันมาแล้วครั้งหนึ่ง ไม่อยากแก้ตัวหน่อยหรือไง?

     

    ชานยอลรู้ดีว่าอีกฝ่ายกำลังพูดถึงเรื่องอะไร กับเรื่องราวที่เคยเกิดขึ้นและผ่านมาเกือบสิบปีแต่เขาก็ยังจำได้เป็นอย่างดี พระเอกหนุ่มยังคงรู้สึกเหมือนอยู่ในห้องเปลี่ยนชุดในสระว่ายน้ำวันนั้น กลิ่นคลอรีน กลิ่นคาวเลือดยังคงคละคลุ้งแตะจมูก เหมือนบนร่างกายยังคงเต็มไปด้วยน้ำลายของคนพวกนั้น

     

    ชุดนักเรียนและชุดวอร์มที่ไหม้เกรียมไปเกินครึ่งถูกทิ้งไว้ให้ดูต่างหน้า ชานยอลไม่คิดว่าช่วงหนึ่งของชีวิตเขาจะต้องเจอกับเรื่องแบบนี้ วินาทีนั้นในหัวคิดอะไรไม่ออกสักอย่าง เขาเหลือเพียงแค่น้ำตาที่ไหลอาบหน้ากับบ็อกเซอร์ตัวเดียวที่ติดตัวในตอนนั้น

     

    จนกระทั่งคิมจงอินเดินเข้ามา หมอนี่เป็นหนึ่งคนที่ยืนดูพวกนั้นทำร้ายเขา จงอินมาพร้อมเสื้อยืดสีขาวเก่า ๆ กับกางเกงเอวยืด จากลายสกรีนบนเสื้อคาดว่าคงเป็นชุดของพ่อค้าร้านอาหารซึ่งมีขนาดตัวไม่ต่างจากเขามากนัก ชานยอลไม่รู้ว่าสภาพของเขาในตอนนั้นมันทุเรศทุรังสักเท่าไหร่ และสายตาของอีกฝ่ายกำลังมองมาด้วยแววตาแบบไหน

     
     

    รีบใส่แล้วกลับบ้านไปอาบน้ำซะ

     
     

    สำหรับเด็กมอปลายที่เพิ่งผ่านเรื่องแย่ ๆ มาสด ๆ ร้อน ๆ ปาร์คชานยอลไม่รู้ว่าจะต้องรู้สึกยังไงกับคนที่กำลังหยิบยื่นความช่วยเหลือให้ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นเจ้าตัวเพียงแค่ยืนมองเฉย ๆ โดยไม่มีการกล่าวห้ามเพื่อนสักคำ

     

    ไม่มีบทสนทนาใด ๆ เกิดขึ้นอีก ไม่มีคำขอโทษ หรือคำขอบคุณที่อีกฝ่ายควรได้รับหลังจากเกิดบาดแผลในใจ เจ้าของผิวสีแทนอยู่ตรงนั้นเพียงแค่ครู่เดียวก็เดินออกไป และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่ปาร์คชานยอลได้เห็นคิมจงอิน จนกระทั่งเข้าวงการอีกครั้ง

     

    ทั้งคู่แสดงออกให้อีกฝ่ายเห็นว่าไม่ชอบขี้หน้า เพื่อกลบเกลื่อนความรู้สึกผิดในใจที่เคยกระทำ

     

     

    หนึ่งคนรู้สึกผิดที่ไม่เคยพูดว่าขอบคุณ

    หนึ่งคนรู้สึกผิดที่ไม่เคยพูดว่าขอโทษ

     

     

    โลกใบเล็กเริ่มขยายกว้างทีละนิดเมื่อเราโตเป็นผู้ใหญ่ ยังมีเรื่องราวอีกมากมายที่ยังต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจกับมัน ชายหนุ่มทั้งสองคนรู้สึกเหมือนย้อนเวลากลับไปตรงจุดนั้นอีกครั้ง เหมือนเดจาวู เปรียบไอ้อ้วนตอนนั้นเป็นพระเอกชื่อดังในตอนนี้ ส่วนเพื่อนฝูงของเขาที่เปรียบเหมือนสื่อในปัจจุบัน ปาร์คชานยอลกำลังถูกรุมทำร้ายอีกครั้ง และได้รับบาดแผลทางความรู้สึกแทนทางร่างกาย

     

    ขอบคุณ

     

    ขอโทษ

     

    ชายหนุ่มทั้งสองคนไม่ได้เงยหน้าขึ้นสบตากับอีกฝ่าย ในตอนนี้มีเพียงแค่ขวดไวน์ราคาแพงเท่านั้นที่ยึดสายตาของพระเอกหนุ่มในตอนนี้ เขาปล่อยให้ความเงียบโรยตัวอยู่โดยรอบ ความอีโก้ทำให้คนเราเลือกที่จะเหยียบความรู้สึกผิดเอาไว้ให้จมดินเพื่อไม่ให้ตนเองเสียฟอร์ม

     

    ซึ่งบางทีคนที่คิดว่าเป็นศัตรูตัวฉกาจ เขาอาจเป็นคนที่อยู่เพื่อเราในวันที่โลกหันหลังให้ก็ได้

     

    นายควรไปนอนมาร์กหน้าเพื่อเตรียมตั้งโต๊ะแถลงหลังจากเวปนั้นปล่อยข่าว

     

    นั่นสิ ฉันคงไม่โอเคสักเท่าไหร่ถ้าสภาพออกมาแย่ตอนขึ้นกล้อง

     

    ทั้งคู่หัวเราะกับบทสนทนาที่เริ่มผ่อนคลายขึ้น จงอินมองอีกฝ่ายที่ดื่มย้อมใจไปจนหมดแก้วก่อนจะยักคิ้วให้เมื่อนึกอะไรดี ๆ ได้

     
     

    อยากให้สอนไหมล่ะ ว่าการแสดงระดับตุ๊กตาทองเขาทำกันยังไง?

     

     

     

    TBC

     

     

    ตอนแรกคิดว่าจะเอาให้จบภายในตอนนี้ แต่มันยาวละเกิน ตอน 22 จบจริง ๆ ละ เจอกันตอนหน้านะคะ เริ้บบบบบบบบบบบบ

     

     

     

     


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×