ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] "CHANFECT" #โธ่พี่ชาร์ล ภาค 2 | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #20 : Scene 19 :: พี่เขาทำให้เรา...

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 19.51K
      199
      1 ก.ย. 58

    ? themy butter

     

     
     

    Scene 19

    พี่เขาทำให้เรา...

     



     

     

    ดูหนังประสาอะไรกลับบ้านห้าทุ่มเที่ยงคืน นี่แกชักจะเถลไถลใหญ่แล้วนะ ย่าห์! แบคฮยอน ไม่ได้ยินที่แม่พูดเหรอ!”

     

    คนเป็นแม่มองตามลูกชายคนเล็กที่เดินเข้าไปในห้องเหมือนร่างไร้วิญญาณ ไอ้เด็กนั่นเคยทำหูทวนลมเสียที่ไหน ปกติมีแต่จะหันมาแลบลิ้นปลิ้นตาต่อล้อต่อเถียงจนทำให้เส้นเลือดตรงขมับของเธอกระตุกอยู่บ่อย ๆ

     

    ยังคงได้ยินเสียงบ่นของแม่หลังจากประตูห้องปิดลง นัยน์ตาทอดมองไปยังความมืดในห้อง สองขาพาร่างไปนั่งบนเตียงโดยไม่คิดที่จะเปิดไฟ บางทีความมืดมันอาจช่วยเยียวยาความเจ็บปวดได้ดีกว่าแสงสว่างที่ทำให้มองเห็นความจริงได้อย่างชัดเจน

     

    ถึงจะไม่อยากเชื่อ ไม่อยากจำ แต่ข้อความในจดหมายนั้นก็ชัดเจนจนรู้สึกเหมือนได้ยินเสียงอู๋อี้ฝานกระซิบบอกอยู่ข้างหู แบคฮยอนทิ้งตัวลงนอนหงายบนเตียงแล้วปล่อยให้หัวใจที่กำลังผุพังเต้นต่อไป

     

    ความรู้สึกของเขาก็เหมือนจดหมายในมือที่ถูกขยำจนยับไม่เหลือชิ้นดี มันถูกกำแน่นกว่าเดิมเมื่อความจริงย้อนกลับมาให้นึกถึงอีกครั้งว่าบยอนแบคฮยอนอาจจะไม่ได้เจอพี่พระเอกอีกแล้ว

     

    ...

     

    เอื้อมไปคว้ารีโมทเล็กกว่าฝ่ามือมาถือเอาไว้ ทันทีที่กดปุ่มตรงกลางแสงสว่างมีลวดลายก็ฉายไปทั่วเพดานจนห้องสี่เหลี่ยมธรรมดากลายเป็นท้องฟ้าจำลอง ไม่น่าเชื่อว่าสิ่งที่เรียกรอยยิ้มได้เป็นอย่างดีแต่ในวันนี้มีแต่ความเศร้าเมื่อหยุดสายตาอยู่กับมัน มีเพียงแค่หยดน้ำที่ไหลออกจากหางตาที่ทำให้รู้ว่าโลกนี้ยังคงหมุนอยู่

     

     

    โลกของบยอนแบคฮยอนบิดเบี้ยว คล้ายว่ามันกำลังจะถูกพังลงมา

     
     

     

    ก่อนเขียนจดหมายฉบับนี้ผมได้ไตร่ตรองเป็นอย่างดีแล้ว

    กับเรื่องราวระหว่างคุณกับชานยอลนั้นผมแกล้งทำเป็นไม่รู้ไม่เห็นมาตลอด และมันเป็นความผิดของผมเองที่ปล่อยให้เลยเถิดมาจนถึงตอนนี้ ซึ่งผมคิดว่ามันถึงเวลาที่ควรทำให้ทุกอย่างมันเดินไปในทางที่ถูกต้องสักที

    ขอโทษที่ต้องพูดอย่างนี้ครับแบคฮยอน

    มุมมองของเด็กกับผู้ใหญ่นั้นต่างกัน วันนี้คุณอาจจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ผมต้องการสื่อ และผมคงบังคับให้คุณเข้าใจไม่ได้ คุณยังเป็นเด็ก ความรักที่เป็นอยู่มันคงน่าตื่นเต้น แต่ก็คาบเส้นอยู่กับความฉาบฉวย

    ชานยอลอยู่ในที่โล่งแจ้ง ที่ที่ทุกคนมองเห็นเขาได้ง่ายเพียงแค่ขยับตัว สิ่งที่เขาทำทุกอย่างมีผลกระทบเสมอ ไม่ว่าจะเป็นด้านดีหรือด้านลบ

    ส่วนคุณเป็นเด็กผู้ชาย ขอโทษอีกครั้งที่ต้องพูดแบบนี้ มันอาจจะทำร้ายจิตใจคุณ แต่ความจริงคือสิ่งที่มนุษย์หลีกเลี่ยงไม่ได้ ปัญหาระหว่างคุณสองคนมีมากมายจนผมนึกภาพออกเป็นฉาก ๆ เลยว่าในอนาคตจะเป็นยังไง

    คุณอาจจะศรัทธาในความรัก เชื่อในตัวชานยอล เชื่อในความรักว่าขอแค่กำมันไว้ในมือทุกอย่างก็จะผ่านไปได้ด้วยดี แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ ต่อให้อีกสิบปีข้างหน้าชานยอลหมดความนิยมในวงการบันเทิง ก็ใช่ว่าสังคมจะไม่หยิบยกเรื่องคู่รักเพศเดียวกันระหว่างอดีตนักแสดงชื่อดังกับนักเขียนซึ่งอายุน้อยกว่าถึงสิบปีมาเขียนจนตกเป็นกระแสในสังคมช่วงหนึ่ง พอถึงตอนนั้นความรู้สึกของคุณอาจจะเปลี่ยนไปแล้ว จากที่เคยคิดว่าพร้อมยอมรับทุกอย่าง คุณอาจจะเป็นฝ่ายคิดไม่ตกกับผลกระทบต่อชื่อเสียงในวงการนักเขียน 

    ถ้าผมปิดหูปิดตาปล่อยให้คุณคบกัน แต่วันหนึ่งคุณก็ได้รู้ว่าความรักครั้งนี้ต้องจบลง แน่นอนว่าต้องมีใครสักคนที่ต้องทนอยู่กับความเจ็บ เพราะฉะนั้นการจบมันตั้งแต่ตอนแรกเริ่มคงดีกว่า ที่ผมพูดไปทั้งหมดก็แค่ปัญหาปลีกย่อย แต่ปัญหาหลักมันอยู่ที่โลกคงทำใจยอมรับความรักของคุณสองคนไม่ได้

    ชานยอลเป็นดารานักแสดง เป็นคนของสังคม และเป็นที่รักของผู้คนนับหมื่นแสน ส่วนคุณเป็นนักเขียนที่มีนักอ่านอีกมากมายคอยติดตามผลงาน คุณยังไปได้ไกลมากกว่าการจมอยู่กับความรักในความลับนะครับ

    สำหรับเด็กอายุสิบเจ็ด วันนี้ความรักอาจจะยิ่งใหญ่ที่สุด แต่พอโตขึ้นคุณจะรู้ได้ด้วยตัวเองว่าการงานและที่ยืนในสังคมก็จำเป็นไม่แพ้ความรักเลย

    แต่ความรักไม่ใช่ทุกสิ่งหรอกนะครับแบคฮยอน

    ปัญหาอีกมากมายที่เกิดขึ้นในตอนนี้ และอาจจะตามมาอีกเรื่อย ๆ ถ้าหากว่าผมยังไม่รีบตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ซึ่งผมคงไม่สามารถอธิบายให้คุณเข้าใจได้ภายในจดหมายฉบับเดียว แต่สิ่งที่ผมทำได้คือเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคุณทั้งคู่ แม้ว่ามันจะทำให้คุณเกลียดขี้หน้าผมไปโดยปริยายเพราะความไม่เข้าใจ

    สัญญาจ้างละครเรื่องนั้นจบไปแล้ว เงินทั้งหมดผมจะโอนเข้าบัญชีของคุณฮโยลินภายในวันพรุ่งนี้ เพราะฉะนั้น... อย่าไปเจอชานยอลอีกเลยนะครับ

    อย่าทำให้เรื่องมันยากไปกว่านี้เลย

     
     

     

    ท้องฟ้าจำลองยังคงเป็นที่ยึดสายตา ข้อความในจดหมายฉบับนั้นกลับมาเล่นงานเขาอีกครั้งเพื่อตอกย้ำว่าโลกนี้มีกฎอีกมากมายที่บยอนแบคฮยอนจำเป็นต้องรู้และทำความเข้าใจกับมัน

     

    กฎเกณฑ์ของความรักระหว่างคนธรรมดาและศิลปินงั้นเหรอ เรื่องนี้เขารู้ตั้งแต่แรกแล้ว หากแต่คนตัวเล็กเลือกที่จะปิดหูปิดตาเพราะคิดว่ายังไงก็ไม่ได้ตั้งใจเปิดเผย เพราะเป็นความรักระหว่างผู้ชายสองคน แบคฮยอนเคยกังวลกับเรื่องนี้แต่สุดท้ายเขาก็หาข้อดีสำหรับข้อห้ามนี้ได้

     

    เพราะเป็นผู้ชายเหมือนกันเลยทำให้การไปไหนมาไหนสองคนสะดวกมากขึ้น ใครถามก็แค่บอกไปว่าเป็นรุ่นพี่ รุ่นน้องคนสนิท ไม่ได้อยากป่าวประกาศให้โลกรู้สักหน่อยว่าเขากับพี่พระเอกรักกันแค่ไหน

     

     

    แต่ทำไมถึงเป็นอย่างนี้ล่ะ?

     

     

    แบคฮยอนยกมือขึ้นปิดหน้าแล้วพยายามหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนจะคว้าเอาผ้าห่มมาปิดหน้าแล้วปล่อยโฮออกมาอย่างเหลืออดเมื่อความเข้มแข็งที่มีมันได้ถูกใช้ไปจนหมดแล้ว

     

    ไม่มีสัญญาณเตือนให้รับรู้ถึงการจากลาเลยสักนิด คนตัวเล็กรู้สึกเหมือนถูกจูงมือขึ้นไปอยู่บนชั้นดาดฟ้าของตึกสูงก่อนจะถูกผลักให้ตกลงมาตายข้างล่าง เจ็บไปหมดแล้ว คนอกหักเกินครึ่งโลกเขาผ่านความรู้สึกบ้า ๆ แบบนี้ไปได้ยังไงกัน 

     

    ในหัวเต็มไปด้วยคำถาม ว่าทำไมพี่พระเอกถึงให้พี่อี้ฝานบอกทุกอย่างแทนที่จะพูดกับเขาเอง มันเป็นเรื่องยากขนาดนั้นเลยหรือไง บอกง่าย ๆ ว่าไปกันไม่ได้แค่นั้นเด็กอย่างเขาก็พร้อมที่จะเข้าใจได้ ต่อให้มันเป็นเรื่องยากแต่ก็ยังดีกว่าการที่ต้องรู้สึกเหมือนถูกปล่อยลอยแพอย่างนี้

     

    ไม่กี่วันก่อนยังดี ๆ กันอยู่เลย อ้อมกอด เสียงหัวเราะ รอยยิ้ม ความสุขที่เคยมีด้วยกันมันเปลี่ยนแปลงได้ภายในวันสองวันเลยหรือไงกัน หรือเพราะว่าพี่พระเอกแคร์หน้าตาในสังคมจนยอมทิ้งเขาไว้ข้างหลังอย่างนี้ได้

     

    แค่คิดว่าเป็นอย่างนั้นก็เจ็บไปทั้งหัวใจแล้ว ผู้ชายคนนั้นจะทิ้งกันจริง ๆ เหรอ ได้โปรดเถอะ ช่วยบอกให้รู้ทีว่ามันไม่ใช่ ตะคอกเด็กที่กำลังหวาดกลัวกับการถูกทิ้งให้รู้และเข้าใจที บยอนแบคฮยอนจะได้รู้สึกผิดที่มองคนรักอย่างนั้น เขายอมถูกโกรธดีกว่าต้องทนอยู่กับความว่างเปล่าโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย

     

     
     

     
     

     

    ครั้งล่าสุดที่กูเห็นหน้ามึงเป็นงี้คือตอนดูหนังแล้วหมาในเรื่องมันตายแทนเจ้านาย

     

    คยองซูมองหน้าเพื่อนสนิทที่นั่งเงียบมาตลอดช่วงเช้าโดยที่ไม่คิดจะขยับตัวไปไหน ตาก็บวมเหมือนคนร้องไห้มา นี่ลองสะกิดมันแล้วทีหนึ่งแต่ก็ยังเฉย แสดงว่าเศร้าจริง

     

    แบคฮยอน

     

    ไม่มีการตอบรับใด ๆ จากไอ้เตี้ยหมาตืด คยองซูคิดว่าการที่เขาแตะต้องตัวเพื่อนสนิทเมื่อครู่นั้นเป็นเหมือนการกดสวิตซ์ด้านอารมณ์ เมื่ออยู่ ๆ คนที่นั่งนิ่งมาตลอดก็น้ำตาไหลออกมาเสียอย่างนั้น

     

    ท่าจะไม่ดีแล้ว คยองซูกลอกตาก่อนจะก้มลงเล็กน้อยเพื่อจับผิดอาการเพื่อนซี้ ปกติถ้ามันจะโศกเรื่องหนังกับเกมคงฟูมฟายเป็นเผาเต่าไปแล้ว แต่ที่เป็นอยู่คาดว่าคงไม่ใช่ คยองซูวางมือลงบนหัวคนข้าง ๆ ด้วยความเป็นห่วง

     

    เป็นไรก็บอกดิ

     

    ...

     

    แบคฮยอน

     

    เด็กน้อยตาโตลดระดับสายตาลงมองสมาร์ทโฟนในมือเพื่อนสนิทที่มันขึ้นหน้าจอข่าวของใครคนหนึ่ง ซึ่งเขาอ่านเรียบร้อยแล้วตอนนั่งรถเมล์มาโรงเรียน มันคือข่าวพระเอกหนุ่มตอบตกลงเล่นละครเรื่องใหม่ ซึ่งพี่ชานยอลต้องเล่นเป็นคนญี่ปุ่น และคงอยู่ถ่ายทำที่นั่นหลายเดือนพร้อมจัดงานแฟนมีตที่โอซาก้าด้วย

     

    ทางต้นสังกัดออกมาบอกว่าอยากให้พี่ชานยอลไปอยู่ที่นั่นก่อนเพื่อศึกษาภาษาญี่ปุ่นก่อนเริ่มเปิดกองถ่าย มันคงดีกว่าถ้าพระเอกหนุ่มชื่อดังจากแดนโสมพูดภาษาญี่ปุ่นปร๋อเยี่ยงเจ้าของภาษา ทางนั้นเลยเคลียร์ตารางทุกอย่างทิ้งเพื่องานนี้โดยเฉพาะ มันอาจจะดูกะทันหันไปสักหน่อย ซึ่งทางต้นสังกัดก็ได้แต่หวังว่าแฟนคลับจะชื่นชอบบทบาทใหม่ของพี่ชานยอล

     

    กระแสก็ไม่แย่นัก แน่นอนว่ามีทั้งคอมเมนท์ด้านดีและด้านลบ บางคนบอกว่าปาร์คชานยอลก็ดีแต่เล่นบทเงียบขรึม ลองให้เล่นบทตลกดูบ้างก็คงไม่รอด บางคนอยากให้เล่นหนังจีนแนวพีเรียต เดินตามรอยชเวซีวอนนักแสดงรุ่นพี่ที่เล่นกับเฉินหลง ในอนาคตคงได้โกอินเตอร์ได้ไม่ยาก

     

    คยองซูคิดว่าไอ้บริษัทหัวหมอนั่นคงอยากเจาะตลาดญี่ปุ่น ตอนแรกก็แอบเซ็งที่พี่ชานยอลไปอยู่ไกลหูไกลตา แต่พอคิดว่าจะได้เห็นพี่เขาใส่ยูกาตะจิบน้ำชาอยู่บนชานบ้านไม้โบราณแถมมีต้นซากุระเสริมความหล่อก็เลยยอม

     

    มึงรู้เรื่องนี้มาก่อนป่ะ? เด็กน้อยตาโตถาม ซึ่งแบคฮยอนก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบโห แสดงว่ากะทันหันจริง ขนาดมึงยังไม่รู้เลย

     

    นั่นสิ ทำไมกูถึงไม่รู้อะไรเลย

     

    ไลน์ไปถามดิ บางทีพี่เขาอาจจะยุ่งเลยไม่ได้บอก

     

    ถามแล้ว

     

    พี่เขาว่าไงมั่ง สิ้นสุดคำถามเพื่อนสนิทก็ส่ายหน้าเป็นคำตอบอีกครั้งออนเซนอยู่มั้งมึง

     

    ...

     

    อย่าบอกนะว่าที่หงอยเป็นหมาเหงานี่เพราะพี่ชานยอลไปไม่บอก

     

    ...

     

    หยุดเลยมึงหยุด คยองซูชี้หน้าคาดโทษพร้อมจิ๊ปากรัว โธ่ถัง ไปช่วยพี่เขาซ้อมบท ซ้อมละครบ่อย ๆ แล้วมีอาการงี้มันต้องใช่แน่ ๆ

     

     

     

    ไอ้แบคฮยอนได้กลายเป็น CHANFECT อีกคนแล้วสินะ!!

     

     

     

    กูชอบพี่ชานยอล

     

     

    เปรี้ยง!!!!!!!!!!!!!!!!!

     

     

    รู้สึกเหมือนโดนรัสเซียยิงขีปนาวุธใส่หน้าทันทีที่ได้ยินเรื่องไม่คาดฝันออกมาจากปากเพื่อนรักเพื่อนสนิทที่คบกันมาเนิ่นนาน คยองซูส่ายหน้าไล่ความคิดพร้อมแยงนิ้วแคะขี้หูก่อนจะยื่นหน้าเข้าหาเพื่อนเพื่อย้ำความแน่ใจ นานเกือบนาทีเลยกว่าไอ้หอกนี่จะหันมา

     

    กูรักเขา

     

    ...

     

    แต่กูจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วว่ะมึง

     

    อยากจะด่าแต่ก็ได้แต่กลืนทุกคำหยาบลงคอไปหมด เมื่อเห็นว่าหน้าหมา ๆ กำลังน้ำตาไหลอาบแก้ม ถ้าไอ้ชั่วแบคฮยอนบอกว่าพูดเล่นล่ะก็งานนี้มีตบกะโหลกแยกแน่ แต่จากที่เห็นคาดว่าไอ้เพื่อนบ้าคงไม่ตลก

     

    คยองซูพยายามเรียบเรียงความคิด และถามตัวเองว่าต้องรู้สึกยังไงก่อนหลังจากรู้ว่าเพื่อนสนิทที่เห็นหน้ากันเกือบทุกวันมันเสือกชอบไอดอลที่เขาหวงนักหนา แล้วไม่ได้ในฐานะแฟนคลับกับศิลปินด้วย มันไปเอาความมั่นหน้ามาจากไหน

     

    บ้าเอ๊ย! ก็รู้หรอกนะว่ามันได้มีโอกาสได้ใกล้ชิดพี่ชานยอลที่สุด แต่ตอนแรกมันกับพี่เขาก็ตบตีแดกหัวกันอยู่ตลอดไม่ใช่เหรอ เออ ถึงช่วงหลัง ๆ มันจะชอบอวยพี่เขาอยู่บ่อย ๆ ก็เถอะ แต่มันก็...

     

     
     

    สัส ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อยากข่วนหน้ามันแต่ก็สงสาร!!!!!!

    เรื่องนี้จะปรึกษาใครได้บ้าง สรยุทธจะช่วยกูได้ไหมห่านนนนนนนน

     

     
     

    คยองซูฉีกสมุดขยำเป็นก้อนก่อนจะลุกขึ้นแล้วปาอัดหัวไอ้เด็กเนิร์ดที่นั่งอยู่ข้างหน้าอย่างแรงเพื่อระบายอารมณ์ แต่ท่าทางบาปกรรมจะมีจริงก้อนกระดาษโง่ ๆ นั้นถึงเด้งกลับมาโดนหน้าตัวเองเยี่ยงบูมเมอแรง

     

     
     

    โว๊ย!!!! กูสูนนนนนนนนนนนนนนนนนนแล้ว!!!!

     
     

     

    ต่อให้พี่เขากลับโซล กูก็คงไม่ได้เจอ

     

    ไอ้ห่า พวกกูก็ไม่ได้เจอเหมือนกันไหมล่ะ คยองซูเหล่มองเพื่อนสนิทอย่างหัวเสีย นี่กูพีคอยู่นะพูดเลย บางทีมึงก็ควรมาในฉบับปกติ กูจะได้เหนี่ยวหนัก ๆ ได้โดยไม่ต้องรู้สึกผิดอะไร

     

    มันไม่เหมือนกัน กูไม่ได้ชอบพี่เขาเหมือนที่พวกมึงชอบ

     

    ไม่เหมือนยังไง ถึงปากกูจะบอกว่าเป็นแฟนคลับแต่ถ้าได้เป็นแฟนครับกูก็โอเคป่ะวะ มึงอย่ามาสองมาตรฐานเดี๋ยวกูโบกหน้าแยก ด่าทีก็รู้สึกผิดทีเพราะมันเอาแต่สะอึกสะอื้นจนน่าสงสาร

     

    ไอ้แบคฮยอนมันไม่เคยอาการสาหัสขนาดนี้มาก่อนเลย ท่าทางมันจะชอบพี่ชานยอลจริง ๆ แต่ก็ไม่แปลกหรอก ได้อยู่ใกล้พระเอกหน้าหล่ออย่างนั้นใคร๊ใครจะไม่หวั่นไหว แต่เป็นหมาวัดริอาจแหงนมองเครื่องบินก็ต้องเจ็บอย่างนี้ แล้วพี่เขาก็ไม่ใช่ขี้ ๆ ด้วยนะ นั่นระดับแอร์บัสเคลือบทองฝังเพชร

     

    กูจะทำยังไงดี...

     

    ทำไรล่ะ

     

    กูเจ็บไปหมดแล้ว... ทำไมแม่งแย่แบบนี้...

     

    โว๊ย!!!!!!!!!!!! ยิ่งเห็นมันตาแดงสะอึกสะอื้นเหมือนคนจะขาดใจตายแบบนี้ก็ยิ่งโมโห นี่มันเรื่องบ้าอะไรที่โดคยองซูจะต้องมาสับสนด้วยวะ อยากตบหัวมันก็อยาก อยากรู้ว่ามันชอบพี่ชานยอลได้ไงก็อยาก

     

    พี่เขารู้ไหมว่ามึงชอบ เด็กน้อยตาโตพยายามตั้งสติ บอกเลยนะว่าแรงอาฆาตจากคิมดาซมอดีตแฟนสาวของพี่ชานยอลนั้นยังอยู่ แล้วกูก็ค่อนข้างเฮี้ยนด้วย

     

    โดคยองซูกับเด็กผู้หญิงร่วมแฟนไซต์อีกนับสิบที่เป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์กรีดผ้าเชียร์ร่วมสาบานกันว่าจะแอนตี้ทุกคนบนโลกที่กล้าท้าทายอำนาจมืดเดทกับพี่ชานยอล

     

    รู้

     

    เอาดี ๆ นะแบคฮยอน กูไม่ขำ

     

    อือ เจ้าของชื่อยังคงสะอื้น เห็นอย่างนั้นก็สมเพชเลยยื่นมือไปขอซองทิชชู่จากเพื่อนผู้หญิงโต๊ะข้าง ๆ มาเขวี้ยงอัดลงบนโต๊ะเพื่อนสนิทอย่างแรงเพื่อให้มันเช็ดน้ำหูน้ำตาทุกอย่างแย่ไปหมดเลยว่ะ...

     

    ...

     

    กูก็แค่อยากอยู่กับพี่เขา แต่มันเป็นไปไม่ได้ใช่ไหมวะ...

     

    คยองซูมองจมูกรั้นของเพื่อนสนิทที่ขึ้นสีจัด หยดน้ำตาร่วงเผาะลงบนโต๊ะเป็นหลักฐานว่าความเจ็บปวดเป็นเรื่องจริง มึงไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้เหยียบจมูกกูด้วยคำพูดแบบนี้ นี่ถ้าเป็นคนอื่นจะตะโกนใส่หน้าแล้วบอกว่าฝันไปเหอะ ชาติหน้าก็ยังเร็วไปที่จะได้อยู่ใกล้พี่ชานยอลของกู!’

     

    แต่วินาทีนี้โดคยองซูได้แต่กุมขมับ ใจหนึ่งก็ไม่อยากเชื่อ แต่อีกใจก็เป็นห่วงไอ้เชี่ยนี่ กลัวแม่งจะตายห่าไปเพราะน้ำตาไหลออกหมดตัว ถ้าจะขนาดนี้กูน่าจะปล่อยให้มึงโดนหวงจื่อเทาหลอกแดกซะตั้งแต่ตอนนั้นจะได้มีภูมิต้านทานเรื่องความโศก

     

    มึงเล่ามาให้หมดเลยนะแบคฮยอน เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ แล้วมันยังไงกันแน่

     

     

     

     

     
     

    ช่วงเวลาของความลำบากผ่านไปอย่างเชื่องช้า แบคฮยอนได้แต่ถามตัวเองทุกวันว่าเขาถูกทิ้งแล้วจริง ๆ เหรอ เหมือนความสุขมันเพิ่งผ่านไปไม่นาน และความเศร้าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวานยังไงอย่างนั้น

     

    ไม่มีการอัพเดทอินสตาแกรมของพระเอกหนุ่มตลอดสองเดือน ที่บยอนแบคฮยอนทำได้คือการการตามเซฟรูปที่แฟนไซต์ถ่ายและอัพเดทในทวิตเตอร์ สิ่งเดียวที่ทำให้รู้ถึงการเป็นอยู่ของผู้ชายคนนั้นคือแฟนแอคจากคนญี่ปุ่นซึ่งต้องรอคนแปลให้อ่านถึงจะเข้าใจ

     

    บางคนแนบรูปและเล่าว่าเจอพี่เขาออกมาข้างนอกกับผู้จัดการส่วนตัว เธอคิดว่าวันนั้นพี่พระเอกคงอารมณ์ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังคงยิ้มให้เมื่อแฟนคลับเรียก

     

    วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบอายุสิบแปด แม่ทำซุปสาหร่ายให้กินแต่เช้าแล้วบอกให้รีบกลับบ้านมากินข้าวเย็นด้วยกัน ซึ่งแบคฮยอนก็ขานตอบอย่างว่าง่าย มันคงน่าประหลาดใจที่เด็กกวนประสาทอย่างเขากลายเป็นคนพูดน้อย ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นมักจะมีผลกระทบตามมาเสมอ

     

     
     

    ผู้ชายคนนั้นไม่ได้จากไปมือเปล่า แต่เขาเอารอยยิ้มของบยอนแบคฮยอนไปด้วย

     

     
     

    แต่อย่างน้อยสิ่งดี ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้ก็คือรอยยิ้มและอ้อมกอดของแม่ แม้ว่าจะมีความทุกข์อัดแน่นอยู่เต็มหัวใจ แต่คนที่มีความสุขที่สุดในวันนี้ก็คือคนที่ทำให้บยอนแบคฮยอนเกิดมา

     

    คยองซูให้โฟโต้บุ๊กพี่พระเอกเป็นของขวัญ มันทำหน้าซึนใส่แล้วบอกว่าพอถึงวันเกิดกูมึงต้องให้มากกว่านี้เป็นสองเท่า ซึ่งเขาได้แต่หัวเราะแล้วยอมให้มันตบหัวไปที เอาเถอะ ถือว่าให้แก้แค้นที่บังอาจไปหลงรักดาราในดวงใจของมัน

     

    โทรศัพท์มือถือยังคงเงียบสนิท ในใจยังคงภาวนาว่าจะได้รับข้อความอวยพรสักฉบับแม้ว่าจะเป็นไปได้ยาก ก็แน่ล่ะ... ถ้าพี่เขาจะติดต่อมาก็คงทำตั้งนานแล้ว คงไม่รอให้ถึงวันนี้หรอก จะจำได้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย

     

    ลงจากรถเมล์แล้วกระชับกระเป๋าเป้ พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นป้ายโฆษณาสูทราคาแพงหูฉีกของแบรนด์ชื่อดังที่พี่พระเอกเป็นพรีเซนเตอร์ แบคฮยอนยืนนิ่งมองภาพตรงหน้าแล้วปล่อยให้เวลาเดินผ่านไปเรื่อย ๆ โดยไม่คิดเดินเข้าบ้าน

     

    ใครเป็นคนบอกว่าเมื่อเวลาผ่านไปความเจ็บปวดจะทุเลาลงและทำให้เข้มแข็งขึ้น ซึ่งมันอาจจะใช้ได้กับคนส่วนใหญ่แต่ไม่ใช่สำหรับบยอนแบคฮยอน เขาคงเป็นส่วนน้อยที่ยังรู้สึกเหมือนวันแรกที่พี่พระเอกจากไป

     

    เคยคิดถึงมากแค่ไหนในวันนี้ก็ยังคงรู้สึก ผู้ชายคนนั้นจะอยู่จะกินยังไง สบายดีไหม มีสักเสี้ยวนาทีที่คิดถึงกันบ้างหรือเปล่า แม้ว่าใจหนึ่งจะบอกว่าพี่พระเอกใจร้าย แต่อีกใจก็ยังอยากเชื่อว่าเรื่องนี้มันต้องมีเหตุผล ถึงแม้ว่าเหตุผลนั้นจะเป็นชื่อเสียงในสังคมที่พี่เขาจำเป็นต้องมี

     

    รักกับดาราก็เป็นอย่างนี้ มันไม่มีอะไรราบรื่นเหมือนในละครที่เคยดูตอนนั่งกินข้าวกับแม่สักหน่อย บยอนแบคฮยอนควรเผื่อใจตั้งแต่แรกงั้นเหรอ ตลกน่า... มีใครที่ไหนขีดเส้นความรู้สึกได้กันล่ะ รักก็คือรัก มันเผื่อไว้ให้เสียใจไม่ได้หรอก

     

    ร่างเล็กก้มลงมองโฟโต้บุ๊กที่ถูกห่อด้วยบับเบิ้ลกันกระแทกก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองป้ายโฆษณาอีกครั้ง ไม่เคยคิดเลยว่าวันหนึ่งเขาจะทำได้แค่มองพี่พระเอกจากมุมนี้ สถานะของบยอนแบคฮยอนทำได้แค่มองโดยที่จับต้องไม่ได้ และถึงได้ก็ต้องแลกกับเงินจำนวนมากกับเงื่อนไขที่ทางต้นสังกัดมีให้นักแสดงกับแฟนคลับ

     

    พื้นหลังหน้าจอสมาร์ทโฟนเป็นรูปพี่พระเอกกำลังทำอาหารในครัว มันเป็นรูปเดียวที่เจ้าตัวยอมให้ถ่ายแถมยังยิ้มอีกด้วย ตอนนั้นเขารู้สึกดีแค่ไหนนะ ตอนซบหน้าลงกับแผ่นหลังพี่พระเอกมันอุ่นใจมากแค่ไหน ตอนจามออกมาเพราะหัวหอม หัวเราะทั้งน้ำตาแต่ก็ช่วยกันทำมื้อเย็นจนเสร็จนั่นน่ะ...

     

    ความสุขในวันนั้นมันบางเบาเหมือนถูกความเศร้าในใจกลบไปเสียหมด

     

    นิ้วเรียวกดโทรออกเบอร์เดิม แน่นอนว่ามันเหมือนกับทุกครั้งที่เขาได้ยินเพียงแค่เสียงตอบรับจากโอเปอเรเตอร์แทนที่จะเป็นสัญญาณรอสาย บางทีพี่พระเอกอาจจะเลิกใช้เบอร์นี้ไปแล้ว แต่ตราบใดที่ยังไม่ได้ยินว่าเบอร์นี้ถูกยกเลิกใช้งาน แบคฮยอนก็จะโทรต่อไปจนกว่าอีกฝ่ายจะรับ

     

     

    เหมือนคนโง่ไม่มีผิด

     

     

    พอมีความรักแล้วก็ขาดสติจนดูเหมือนไม่รักตัวเอง ทั้งที่คยองซูมันพูดกรอกหูบอกให้ตัดใจอยู่ทุกวันแต่เขาก็ยังฝืน เพราะความหวังบ้า ๆ ที่คิดว่าจะไม่ยอมเชื่อจนกว่าจะได้ฟังจากปากอีกฝ่ายเอง

     

     

     

    ไม่มีสัญญาณตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก...

     

     

     

    ริมฝีปากสั่นเครือดวงตาร้อนผ่าว บยอนแบคฮยอนกลายเป็นคนร้องไห้ง่ายเหมือนโดนคำสาปยังไงอย่างนั้น ร่างเล็กเงยหน้าขึ้นมองป้ายโฆษณาที่อยู่ฝั่งตรงข้ามถนนอีกครั้ง โทรศัพท์มือถือยังคงแนบอยู่กับหูหลังจากสิ้นสุดเสียงโอเปอเรเตอร์บอกให้ฝากข้อความ

     

    วันนี้วันเกิดผม เสียงของเขากำลังสั่น น้ำตาไหลออกมาอย่างห้ามไม่ได้กับความเจ็บปวดที่ยังกัดกร่อนหัวใจเด็กอย่างเขาแทบทุกวันตอนนี้บยอนแบคฮยอนอายุสิบแปดแล้วนะ

     

    สีหน้าเรียบเฉยในชุดสูทนั้นดูดีราวกับภาพวาด แบคฮยอนยังคงไม่ละสายตาไปไหน เขาได้แต่ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มอย่างไม่สิ้นสุด ถ้าตอนนี้ยังอยู่ด้วยกันผู้ชายคนนั้นคงกลับมาพร้อมเค้กปอนด์ใหญ่และของขวัญสักชิ้นซึ่งเขาไม่มีทางรู้เลยว่ามันเป็นอะไร

     

    พี่คิดถึงผมบ้างไหม เด็กน้อยเว้นจังหวะไปครู่หนึ่งผมเหมือนคนบ้าเลยที่ปล่อยให้ในหัวมีแต่เรื่องของพี่ตลอดสองเดือนที่ผ่านมา

     

    เสียงรถยนต์บนถนนไม่ใช่ปัญหาเมื่อไม่มีคนปลายสายคอยพูดตอบโต้ แบคฮยอนไม่สนใจว่าคนที่เดินผ่านไปมาจะมองยังไง กับการที่เขายืนร้องไห้อยู่ตรงนี้ ซึ่งมันหนักขึ้นเรื่อย ๆ

     

    ผมจำได้ว่าเมื่อก่อนตอนคิดถึงพี่ผมเอาแต่ยิ้ม แต่ทำไมตอนนี้ผมถึงทำได้แค่ร้องไห้ล่ะ ร่างเล็กก้มหน้าลงแล้วปล่อยให้น้ำตาไหลออกมาจนกว่ามันจะแห้งเหือดไป สะอื้นจนตัวโยนให้ตายยังไงคนที่อยู่บนป้ายโฆษณาก็ไม่มีวันรับรู้ พี่ชานยอล...

     

    เสียงของเขาสั่นจนแทบจับใจความไม่ได้ แบคฮยอนกลัวตัวเองเหลือเกินที่เจ็บปวดกับความรักได้ถึงขนาดนี้ แน่นอนว่ามันไม่ทำให้เขาตาย แต่การใช้ชีวิตอยู่กับการคิดถึงคนที่รักไม่ได้มันก็ทรมาน

     

    ผมคิดถึงพี่...

     

     

     

     

     

     

    วันหยุดสุดสัปดาห์ที่กะว่าจะเขียนนิยายก็เป็นอันต้องล้มเลิก เมื่อไอ้เพื่อนตัวดีตามมาปลุกถึงเตียงแล้วบอกว่าวันนี้ต้องออกไปเที่ยวเล่นด้วยกัน ตอนแรกก็อยากปฏิเสธ แต่พอเห็นคยองซูมันบอกว่าเผื่อเกิดไอเดียดี ๆ จะได้มีแรงเขียนนิยายรักต่อ ได้ยินอย่างนั้นเลยตบหัวมันไปทีหนึ่ง ไม่รู้เหรอว่าเป็นคำต้องห้าม

     

    เด็กไซส์มินิทั้งสองใช้เวลาไปกับการดูหนังสองชั่วโมง ร้องคาราโอเกะสามชั่วโมง แหกปากร้องเหมือนคนเก็บกด พอทำแล้วก็รู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่ก็แลกมากับการเสียงแหบเสียงหาย คยองซูคิดว่ามันเป็นเรื่องดีที่เขาปล่อยให้ไอ้เพื่อนบ้าได้ปลดปล่อย ตลอดหกเดือนที่ผ่านมามันเอาแต่เขียนนิยายเป็นบ้าเป็นหลัง เกมก็เล่นน้อยลงจนไม่อยากเชื่อ

     

    ปิดท้ายด้วยการนั่งแช่ในแมคโดนัล เฟรนด์ฟรายกล่องเดียวอยู่ได้ยันชาติหน้า เด็กหนุ่มทั้งสองยังคงสนุกไปกับการวิเคราะห์หนังที่เพิ่งดูจบไปเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน

     

    คยองซูเอาพาวเวอร์แบงค์ขึ้นมาวางบนโต๊ะแล้วแชร์สายชาร์จ เลื่อนทวิตเตอร์ดูข่าวสารแล้วก็กวักมือเรียกเพื่อนสนิทให้ชะโงกหน้ามาดูคลิปสามสิบวินาทีที่แฟนคลับในโอซาก้าอัพเดทลงในทวิตเตอร์หลังจากแฟนมีตจบไปตั้งแต่ช่วงบ่าย

     

    แบคฮยอนจ้องชายหนุ่มที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สูงพร้อมกีต้าร์โปร่งบนตัก เสียงทุ้มนุ่มที่เคยคุ้นหูทำให้หัวใจของเด็กอายุสิบแปดปั่นป่วนจนแยกแยะไม่ออกว่ากำลังรู้สึกยังไงอยู่ ระหว่างดีใจหรือเสียใจ

     

    หล่อจัง

     

    เออว่ะ โคตรงานดี แต่พี่เขาไม่ควรเซ็ทผมเปิดเถิกป่ะวะมันออลคิล โอ๊ยหวง! ทำไมญี่ปุ่นต้องได้อะไรดี ๆ ตลอดเลย คยองซูบ่นอุบอิบจนกระทั่งคลิปจบ

     

    ร้องเพลงญี่ปุ่นด้วย

     

    ได้ใจพวกเมียเงินถุงไปอีก คยองซูยังคงก้มหน้าก้มตาไถทวิตเตอร์ เมียหลวงอย่างเกาหลีใต้จะทำอะไรได้นอกจากรอผัวกลับบ้าน เฮ้ยมึง พี่เขากำลังจะกลับโซลแล้วว่ะ

     

    ...

     

    เนี่ย รูปจากสนามบิน โอ๊ย หกเดือนของกูสิ้นสุดลงแล้ว!”

     

    ...

     

    โอ๊ะ... เดี๋ยวนะ แบคฮยอนมองอีกคนอย่างร้อนใจ ดูเหมือนว่าในวินาทีนี้ทุกอย่างมันดูน่าตื่นเต้นไปหมดขอแค่เป็นข่าวของพี่พระเอก รอภาพโหลดแป๊บ

     

    คยองซูเลื่อนมือถือให้เพื่อนดูเมื่อเห็นแคปชั่นในทวิตจากบ้านแฟนคลับที่คอยอัพเดทข่าวสาร และทันทีที่ภาพขึ้น... โลกทั้งใบของแบคฮยอนก็ได้หยุดหมุน

     

    ใครบอกว่าชัลโยรุซังเป็นคนเย็นชา ดูนั่นสิ แหวนของเล่นที่คล้องอยู่กับสร้อยคอเขาน่ะโมเอะสุด ๆ ไปเลย คึคึคึ

     

    เด็กน้อยตาโตใช้นิ้วชี้กับนิ้วหัวแม่มือซูมขยายภาพดูอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง บ้าน่า... พี่ชานยอลน่ะเหรอจะเอาแหวนของเล่นกิ๊กก๊อกมาห้อยคอ พวกชานเฟ็คญี่ปุ่นมโนเปล่าวะ

     

    อห. จริงด้วย... อ้าว เป็นไรวะ?

     

    ...

     

    คยองซูเลิกคิ้วมองเพื่อนสนิทที่อยู่ ๆ ก็ลุกขึ้นยืน ไม่มีอีกแล้วคนที่หัวเราะเหมือนคนบ้าตอนช่วยกันร้องเพลงลูกทุ่งในห้องคาราโอเกะ เขารู้สึกเหมือนเพื่อนสนิทถูกดึงกลับเข้าสู่วงเวียนความเศร้าอีกครั้ง ถ้าจะบอกว่าเป็นเพราะข่าวพี่ชานยอลก็ไม่น่าใช่ เพราะมันเป็นคนบอกเองว่าทุกวันนี้โอเคดีกับการรับรู้ข่าวสารของพี่เขา

     

    แบคฮยอน?

     

    กู... กูว่ากูต้องไปแล้ว

     

    เจ้าของชื่อเสยผมขึ้นพลางกลอกตาระหว่างใช้ความคิด ไม่สิ... ที่จริงในหัวของเขาไม่มีอะไรเลยนอกจากปล่อยให้คำถามมากมายวิ่งแล่นอยู่ในหัว ไม่มีทางที่บยอนแบคฮยอนจะจำแหวนของเล่นวงนั้นผิด เมื่อเขาเป็นคนพยายามสวมมันใส่นิ้วพี่พระเอกเองกับมือ

     

     

    แต่คำถามคือ... ทำไมมันถึงห้อยอยู่ที่คอผู้ชายคนนั้น...?

     
     

     

     



     

    ชายหนุ่มปิดประตูรถแล้วถอนหายใจ หลังจากได้ยินทางบริษัทโทรมาบอกว่ามีใครคนหนึ่งยืนยันจะขอพบเขาให้ได้แม้ว่าจะถูก รปภ. ไล่ แต่ด้วยหลักฐานบางอย่างที่ทำให้ทางบริษัทต้องปล่อยให้คน ๆ นั้นเข้าไปนั่งรอข้างใน ซึ่งมันจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากเบอร์โทรของเขาและปาร์คชานยอลที่เจ้าตัวยกมาอ้างเพื่อยืนยันว่ารู้จักกันจริง

     

    อู๋อี้ฝานคิดว่าการเข้าบริษัททันทีเมื่อเหยียบถึงโซลหลังจากผ่านงานแฟนมีตที่ญี่ปุ่นนั้นไม่ใช่เรื่องน่าสบอารมณ์สักเท่าไหร่ ยิ่งเป็นเรื่องที่คิดว่าเคลียร์ไปจบแล้ว แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ใช่ เมื่อเขาเห็นคนที่นั่งอยู่บนโซฟาในห้องโถงกว้างคือบยอนแบคฮยอน

     

    ...

     

    ...

     

    ไม่มีใครเอ่ยทักทายก่อน ในที่แห่งนี้มีเพียงแค่เสียงส้นสูงของนักแสดงสาวที่เข้าบริษัทมาเพื่อคุยงานเท่านั้น แบคฮยอนลุกขึ้นยืนโค้งหัวทักทาย เขาจึงโค้งเล็กน้อยก่อนจะกระชับสูทตัวนอกแล้วเดินไปหยุดอยู่หน้าโซฟาแล้วผายมือเป็นเชิงบอกให้คนตัวเล็กนั่งลง

     

    คุณคงรอนาน น้ำสักแก้วไหมครับ?

     

    ไม่เป็นไร ผมมาคุยธุระแค่เดี๋ยวเดียว ไม่มีแววตาของเด็กขี้เล่นอย่างที่เคยเห็น ในวินาทีนี้บยอนแบคฮยอนดูจริงจังจนผู้จัดการหนุ่มถึงกับชะงักไปครู่หนึ่ง

     

    ครับ งั้นก็เริ่มเลยดีกว่า ชายหนุ่มเอนหลังพิงพนักโซฟาพร้อมไขว่ห้างประสานมือไว้บนตัก

     

    ร่างเล็กใช้เวลาเรียบเรียงคำพูดอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะหันไปมองคนใจร้ายที่เคยตัดสินใจเลือกทางที่แย่ที่สุดให้กับชีวิตเขา

     

    ทำไม?

     

    ...

     

    คำถามสั้น ๆ ของเด็กวัยสิบแปดมาพร้อมนัยยะผ่านทางสายตาคู่นั้น ผู้จัดการหนุ่มไม่ได้ตอบคำถามที่รู้อยู่แก่ใจว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร หากแต่เขายังคงปั้นสีหน้าเรียบเฉยไม่แสดงท่าที

     

    ผมคิดว่าจดหมายฉบับนั้นจะทำให้คุณเข้าใจแล้วเสียอีก

     

    ผมไม่มีวันเข้าใจ จนกว่าพี่จะอธิบายให้ผมรู้ น้ำเสียงกับดวงตานั้นแข็งกร้าว แน่นอนว่าอู๋อี้ฝานรู้ดีว่าเด็กคนนี้กำลังรู้สึกยังไง

     

    ผมพยายามใช้คำพูดดี ๆ เพื่อให้เด็กอย่างคุณรู้สึกแย่น้อยที่สุด แต่แบคฮยอนครับ

     

    ชายหนุ่มถอนหายใจ งานที่เขาทำอยู่ต้องใช้ความอดทนกับความเรื่องมากของดารานักแสดงในความดูแล แต่ถึงอย่างนั้นคนตรงหน้าก็ไม่ใช่คนที่เขาจำเป็นต้องใช้ความอดทน

     

    เพราะเป็นเด็ก ผมถึงมีสิทธิ์ถามเพื่อที่จะรู้คำตอบไม่ใช่เหรอ?

     

     
     

    ผมเป็นเด็ก จะรู้เหรอว่าอะไรควรไม่ควร

    เพราะเป็นเด็ก คุณถึงมีสิทธิ์ได้เรียนรู้ว่าอะไรควรไม่ควรนะ

     

     

     

    ทั้งคู่สบตากันอย่างหยั่งเชิง อี้ฝานเบือนหน้าหลบไปอีกทาง เขาไม่ได้อยากทำในสิ่งที่ไม่ต้องการ ชานยอลเป็นนักแสดงในความดูแลของเขา แน่นอนว่านอกจากจะจัดการสิ่งดี ๆ ให้ เขาก็ต้องจัดการเรื่องไม่ดีออกไปตามที่บริษัทสั่งมาเหมือนกัน ใช่ว่าเขาจะอยากพูดจาทำร้ายเด็กคนนี้เสียเมื่อไหร่ แต่ถ้ายังใจอ่อนเรื่องมันก็จะยิ่งบานปลาย

     

    ความรักของคุณมีแต่จะทำให้ชานยอลพัง

     

    ...

     

    รู้สึกเหมือนถูกผู้ชายคนนี้ควักหัวใจออกมาแล้วบีบจนมันเละคามือ แบคฮยอนนั่งนิ่งโดยที่ไม่สวนกลับไปเหมือนเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้ ในหัวได้แต่ถามว่าอะไรที่ทำให้อู๋อี้ฝานคิดอย่างนั้น?

     

    ถ้าคุณเอาความเป็นเด็กมาอ้าง งั้นผมจะบอกความจริงให้ทราบก็ได้ครับ

     

    สายตาของผู้จัดการหนุ่มนั้นเรียบเฉย คนตัวเล็กรู้ว่าผู้ชายคนนี้คงรำคาญความดื้อรั้นของเขาเต็มที แต่แบคฮยอนไม่มีทางเลือกแล้ว ในเมื่อเขาไปเจอพี่พระเอกไม่ได้

     

    มีช่างภาพจากสำนักข่าวหนึ่งถ่ายรูปคุณกับชานยอลในที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรูปที่ไปทะเลด้วยกัน รูปที่คุณสองคนกอดคอกัน

     

    ...

     

    ผมต้องบอกคุณไหมว่านอกเหนือจากนั้นยังมีรูปจูบ ซึ่งเป็นไพ่ตายที่เขาเอามาขู่โดยที่ยังไม่ปล่อยออกมาให้บริษัทเห็น

     

    ความรู้สึกผิดเหล่านี้มาจากไหนกัน สมองของบยอนแบคฮยอนมันรวนไปหมดกับเรื่องราวที่เพิ่งรับรู้ ไม่เคยมีเรื่องนี้อยู่ในหัวมาก่อน ทะเลงั้นเหรอ ตอนนั้นเขาจูบกันในน้ำก็จริง แต่ไม่คิดว่า...

     

    อี้ฝานหลุบสายตาลงมองมือเล็กที่บีบกันแน่นจนขึ้นริ้วแดงจัด ทั้งที่คิดว่าจดหมายฉบับนั้นจะทำให้ทุกอย่างจบลงได้ แต่เขาคงคิดง่ายเกินไป

     

    เขาส่งรูปเหล่านั้นมา แล้วยื่นข้อเสนอว่าถ้าไม่อยากให้ปล่อยรูปลงหน้าเวปไซต์ก็ต้องจ่ายเป็นเงิน

     

    แล้ว... ทางบริษัทก็จ่ายให้เหรอครับ แววตาแข็งกร้าวคู่นั้นเปลี่ยนไป ชายหนุ่มมองดวงหน้าขาวที่เหมือนคนกำลังจะร้องไห้แล้วก็ใจอ่อน แต่ก็ต้องเก็บสีหน้าเอาไว้

     

    ครับ บริษัทไหนก็ทำอย่างนี้ทั้งนั้น เพราะถ้าไม่จ่าย... ข่าวเดทก็หลุด เหมือนที่พวกคุณเห็นกันอยู่บ่อย ๆ ในโลกโซเชียล ชายหนุ่มเว้นจังหวะไปครู่หนึ่งแต่ถ้าคู่ไหนอยากเปิดเผย ก็แค่ปล่อยไป

     

    แล้วจะรู้ได้ยังไงว่าเขามีรูปจูบจริง ๆ บางทีพวกเขาอาจจะ--”

     

    บริษัทเราไม่ได้อยู่ในสภาวะพร้อมเสี่ยง แบคฮยอน อี้ฝานพูดแทรกขึ้นมายิ่งตัวชานยอลออกปากยอมรับเองด้วยแล้ว คุณคิดว่าบริษัทจะจัดการกับเรื่องนี้ยังไง?

     

    ...

     

    ถ้ามีรูปหลุดออกไป ผมคิดว่าคราวนี้มันคงไม่ตลกเหมือนตอนนั้น ชายหนุ่มสบตากับคนอายุน้อยกว่าซึ่งผมไม่อยากเสี่ยงให้เขาตั้งโต๊ะแถลงข่าวเป็นครั้งที่สอง

     

    ทำไมล่ะ พี่ชานยอลเป็นคนฉลาด เขาต้องแก้สถานการณ์ได้แน่ ๆ ผมเชื่อ

     

    แล้วถ้าเขาไม่อยากแก้ล่ะครับ? คำถามของผู้จัดการหนุ่มทำเอาร่างเล็กกลืนคำพูดลงคอไปหมด ถ้าเขายอมรับต่อหน้าสื่อมวลชน? คุณนึกภาพไม่ออกหรอกว่าหลังจากนั้นจะเกิดความเสียหายมากมายแค่ไหน

     

    ...

     

    แบรนด์สินค้าที่ชานยอลเป็นพรีเซนเตอร์คงขอยกเลิก งานละครลดน้อยลง อีกทั้งชื่อเสียงทางสังคม มันต่างจากการมีข่าวเดทกับผู้หญิงเป็นไหน ๆ

     

    ...

     

    พอรู้อย่างนี้แล้ว คุณยังอยากดันทุรังไปเจอเขาอยู่หรือเปล่าครับ?

     

     

     

     
     

     
     

    บางทีความจริงมันก็โหดร้ายเกินไป ใช่ มันโหดร้าย แต่การอยู่กับความไม่รู้มันก็แย่ไม่ต่างกันเลย แล้วมันมีอะไรบ้างที่พอดีกับใจเด็กอายุสิบแปดอย่างเขา ถ้าเป็นผู้ใหญ่... ก็จะมีทางเลือกให้ตัดสินใจมากกว่านี้ใช่ไหม?

     

    แบคฮยอนหยุดยืนอยู่บนฟุตปาธแล้วเงยหน้าขึ้นมองป้ายโฆษณาที่เปลี่ยนไปแล้ว เมื่อปัจจุบันมันคือภาพโทนขาวดำของคิมจงอินในชุดชั้นในชาย มันคือสัจธรรมอย่างหนึ่งกับการอยู่ในวงการนี้ ถ้าไม่มีงานกระแสก็ตก ซึ่งในปัจจุบันพี่พระเอกนั้นมีชื่อเสียงอยู่ในญี่ปุ่นมากกว่าในเกาหลี ดารานักแสดงคนอื่น ๆ เลยมีบทบาทมากขึ้น

     

     
     

    ตอนนี้กำลังรู้สึกยังไงอยู่นะ...

     

     
     

    มันถูกต้องแล้วใช่ไหมที่เรื่องระหว่างเขาทั้งคู่ได้จบไป แบคฮยอนรักพี่พระเอก แต่ถ้าจะให้ชีวิตอีกฝ่ายพัง... เขายอมอยู่เงียบ ๆ ตรงนี้ก็ได้

     

    นักแสดงกับคนธรรมดาคือรักต้องห้าม ปาร์คชานยอลไม่ใช่คนที่เขาจะจับต้องได้ตราบใดที่ผู้ชายคนนั้นยังเป็นคนของสังคม อดคิดไม่ได้ว่าถ้าเขาอยู่เงียบ ๆ ในห้องโดยไม่งอแงชวนออกไปข้างนอกด้วยกัน เรื่องมันก็คงไม่เป็นอย่างนี้

     

    แต่จะรู้ได้ยังไงกันล่ะ จากที่ไอ้คยองซูเล่าเรื่องเลนส์กล้องของแม่ ๆ ชาวต่างชาติ ว่าต่อให้อยู่ไกลแค่ไหนก็ถ่ายชัด มันเลยทำให้แบคฮยอนรู้ว่าโลกนี้มันไม่ปลอดภัยอย่างที่คิด

     

    ร่างเล็กก้มลงเปิดดูสมาร์ทโฟนจนขึ้นจอสว่าง ภาพพื้นหลังยังคงเป็นผู้ชายคนเดิม คนที่เขาคิดถึงมาตลอดหลายเดือน และต่อไปนี้ก็คงคิดถึงมากกว่าเดิมด้วย

     

    ความจริงแล้ว... พี่ไม่ได้ทิ้งผมไปใช่ไหม?

     

     

     

     

     

     

    คุณได้รับข้อความจาก...

    มะขามป้อมตราโดคยองซู

    [ วันนี้ก็สู้ ๆ ล่ะมึง ยิ้มเข้าไว้เผื่อได้เหยื่อเป็นแฟนบอยนิยาย จะได้ตัดใจจากผู้ชายของกูสักที ]

     

     

    คุณกำลังส่งข้อความถึง...

    มะขามป้อมตราโดคยองซู

    [ สาธุจ้า ]

     

     

    แบคฮยอนยิ้มขำกับข้อความที่เพื่อนสนิทส่งมาให้กำลังใจ กับงานแจกลายเซ็นซึ่งทางสำนักพิมพ์จัดขึ้น มีนักเขียนนั่งเรียงกันเกือบสิบคนในวันที่สาม ซึ่งงานจัดขึ้นทั้งหมดห้าวัน นักอ่านจำนวนมากที่มาในวันนี้ทำเอาคนเพิ่งออกงานแรกตื่นเต้นจนมือเย็นไปหมด

     

     

    มันอดหวั่นใจไม่ได้จริง ๆ ว่าจะมีคนมาต่อแถวรอลายเซ็นจากเขากี่คน เพราะรอบข้างก็มีแต่นักเขียนชื่อดังที่นิยายถูกตีพิมพ์ซ้ำแล้วหลายรอบ ถ้าคนไปต่อแถวเดียวกันหมดแล้วแถวของเขาไม่มีคนเลยล่ะ คงหน้าแห้งกลับบ้านไปอวดแม่แน่

     

    แต่พอถึงเวลาเริ่มงานถึงใจชื้นขึ้นมา เมื่อภาพตรงหน้ามันตรงกันข้ามกับความกังวลในหัว แบคฮยอนยิ้มตาหยีพร้อมโค้งศีรษะขอบคุณนักอ่านทุกคนที่กางหน้าหนังสือออกให้เขาเซ็น ร่างเล็กตั้งใจจรดปลายปากกาลงไปโดยไม่คิดจะทำลวก ๆ เพียงเพราะเมื่อยมือ

     

    ผ่านไปเกือบชั่วโมงคนก็เริ่มซาลงบ้าง แบคฮยอนกลั้นยิ้มไว้ไม่ได้จริง ๆ ที่ได้รับความรักมากมายถึงขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นคำชมและขนมที่คนอ่านหิ้วมาฝาก

     

    ให้เซ็นว่ายังไงดีครับ?

     

    ร่างเล็กก้มหน้าตวัดลายเส้นลงบนหน้าหนังสือ และตามด้วยการเขียนชื่อคนอ่านปิดท้ายเหมือนทุกครั้ง หากแต่ไม่มีเสียงตอบกลับมาแม้ว่าจะผ่านไปแล้วหลายวินาที แบคฮยอนจึงเงยหน้าขึ้นก่อนจะเห็นว่านักอ่านคนนี้เป็นผู้ชายตัวสูงใส่เสื้อฮู้ดพร้อมผ้าปิดปากสีดำ

     

    พอหลุบสายตาลงก็เห็นกระดาษแผ่นหนึ่งวางลงบนหน้าหนังสือ ข้อความสั้น ๆ ที่ถูกเขียนด้วยปากกาดำนั้นทำให้หัวใจที่เต้นแผ่วเบามาตลอดเจ็ดเดือนกลับมาเต้นเป็นจังหวะอีกครั้ง

     

    ...

     

    ปากกาในมือสั่นไปหมด แบคฮยอนนั่งนิ่งอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่าย คนที่ต่อให้ห่างกันไปนานแค่ไหนเขาก็จำดวงตาคู่นั้นได้เป็นอย่างดี

     

     

     

     

     

     

     


     

    TBC

     

     

     

    กี๊สสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสสส

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×