ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] "NERDY BOY" มนุษย์แบคฮยอน | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 06 :: My Wounds, Your Wounds.

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 21.9K
      193
      9 ธ.ค. 57

     

     

     

    Chapter 6

    My Wounds, Your Wounds.

     

     


     

    หลังจากวันนั้นทุกอย่างก็กลับไปเป็นเหมือนเดิม อ่อ...ที่พูดไปเมื่อกี้น่ะหมายถึงไอ้บ้านนอกนะ ส่วนปาร์คชานยอลอย่างเก่งก็แค่ตีหน้ามึนทำเหมือนว่าไม่เคยทะเลาะกันมาก่อน ทำเหมือนว่าไม่รู้สึกอะไร ทุกอย่างคือเรื่องเล็ก ในขณะที่เขาไม่ได้คิดอย่างนั้น

     

    มนุษย์ฮอบบิทยิ้มและหัวเราะกะอีแค่เห็นหมาจรจัดเอาปากออกจากกล่องขนมข้างถังขยะไม่ได้ วินาทีนั้นเขาก็แค่มองอย่างรู้สึกผิด ทั้งที่พยายามปลอบใจตัวเองแล้วว่าถ้ารีบหาเงินมาคืนไอ้เตี้ยได้ความรู้สึกแบบนี้ก็จะหายไป

     

    แต่มันไม่ใช่อย่างนั้นน่ะสิ ถ้าเกิดว่าโดยเนื้อแท้แล้วปาร์คชานยอลเป็นเด็กเชี่ยคนนึงที่ไม่เซนซิทีฟเรื่องพรรค์นี้ก็คงดี แต่มันติดอยู่ที่ว่าเขากำลังรู้สึกสงสารและเห็นใจชีวิตไอ้บ้านนอกจนไม่กล้าเล่นแรง ๆ เหมือนก่อนหน้านี้อีกแล้ว

     

    วันนี้เด็กหนุ่มได้แต่นั่งฟังเพื่อนทั้งสองคนพูดถึงโอเซฮุนที่เรียนอยู่ห้องข้าง ๆ แน่นอนว่าปาร์คชานยอลได้ยินเรื่องนี้มานับครั้งไม่ถ้วนและมีหลายหนที่เขาเคยเข้าผสมโรงด้วย ซึ่งเหตุผลหลัก ๆ ก็ไม่พ้นการดักคอพวกมันทั้งสองคน และสาปแช่งว่าขอให้ตกหลุมรักมนุษย์หลงตัวเองอย่างโอเซฮุนเข้าสักวัน

     

    ไอ้จงอินมันไม่ค่อยเสือกเรื่องของเขาอยู่แล้ว ถ้าถามไม่ตอบคือทุกอย่างจบ แต่ไอ้เทาไม่ใช่อย่างนั้น มันจะเซ้าซี้จนกว่าจะได้คำตอบซึ่งมันก็ได้รับกลับไปอย่างสวยงามเป็นฝ่ามือใหญ่ ๆ ของเขานี่แหละ

     

    เป็นอีกครั้งที่ปาร์คชานยอลรู้สึกหงุดหงิดตัวเองที่ในหัวมีแต่เรื่องของไอ้บ้านนอก ว่ามันจะอยู่กินยังไงในอนาคต จะเอาเงินจากไหนมาจ่ายค่าเทอมในเมื่อไม่มีคนคอยอุปการะ อีกทั้งสายตาไม่รักดีที่เอาแต่มองหามันอยู่นั่น

     

     

    มันเริ่มจะเกินขอบเขตแล้วนะปาร์คชานยอล

     

     

    พักเที่ยงคือเวลาเดียวที่เด็กหนุ่มจะเลิกคิดเรื่องของมนุษย์ฮอบบิทได้ เขาสามารถคุยเรื่องฟุตบอล บาสเกตบอล ไปจนถึงเกมออนไลน์ที่ชอบอย่างออกรสโดยไม่ต้องหุบยิ้มแล้วจมอยู่กับความคิดอีก

     

    เด็กตัวสูงอาสาเดินไปซื้อน้ำให้ด้วยเหตุผลว่าไอ้จงอินต้องเลี้ยง ซึ่งเจ้าตัวก็ไม่ได้บ่นทางสายตาหรือคำพูด มันเพียงแค่ยื่นเงินให้แล้วนั่งกินข้าวต่อไป

     

    สองขาเดินไปข้างหน้าอย่างไม่เร่งรีบจนกระทั่งป๊ะหน้าเข้ากับคนแคระทั้งสี่ แน่นอนว่าคนแรกที่เขาสะดุดตาคือไอ้บ้านนอกที่ยืนอยู่ทางด้านซ้าย แต่พอเลื่อนระดับสายตาไปทางด้านขวาก็รู้สึกได้ถึงสายตาแปลก ๆ ของคนแคระอีกสามคนที่มองเหยียดเขาอยู่

     

    อย่างกับเป็นระบบอัตโนมัติเมื่อจู่ ๆ พวกมันสามคนก็ค่อย ๆ ถอยหลังไปยืนต่อแถวหน้ากระดานตัวตรงแล้วปล่อยให้มนุษย์ฮอบบิทยืนอยู่กับเขาสองต่อสอง ไอ้ท่าทางแบบนั้นน่ะเขาเห็นมาแล้วล้านครั้งแต่นี่เป็นครั้งแรกที่มีไอ้บ้านนอกอยู่ด้วย

     

    มายืนนี่สิแบคฮยอน!” จงแดดึงแขนเพื่อนให้มายืนอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะมองไปยังร่างสูงที่ยังไม่เดินไปไหน

     

    ทำไมล่ะ เราจะไปซื้อข้าวกันไม่ใช่เหรอ ร่างเล็กหันไปถามเพื่อนก่อนจะหันไปยิ้มให้คนตัวสูงที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้มากนักชานยอลกินข้าวหรือยัง

     

    อ่าฮะ เจ้าของชื่อตอบแบบขอไปทีขณะที่สายตายังคงจับจ้องอยู่กับมนุษย์เตี้ยทั้งสี่ที่ยืนนิ่งเป็นเทพีเสรีภาพ หึ...ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าไอ้พวกคนแคระห้องสมุดมันมองเขายังไง เดี๋ยวมึงเดี๋ยว...

     

    ไงประธานชมรมห้องสมุด...

     

    ...!!!”

     

    ทั้งสามคนยืนตัวเกร็งเมื่อชานยอลเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงกลาง เว้นแต่แบคฮยอนที่เอาแต่ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนเขาถึงได้เหงื่อแตกพลั่ก ๆ แบบนั้น

     

    อ...อะไร

     

    วันนี้จะกินข้าวกับอะไรดีล่ะ

     

    ...

     

    งั้นถามนายดีกว่า...โดคยองซู เด็กตัวสูงหันไปทางคนที่ยืนอยู่ท้ายแถว แน่นอนว่าในร่างกายของคนตัวเล็กมีเพียงสิ่งเดียวที่ขยับได้นั่นก็คือตาที่กลอกไปมากินอะไรดีล่ะ เส้นผมสีดำแทนจาจังดีไหม...

     

    ไปสักทีเถอะน่า!! ฮึก!!” จงแดทำหน้าเหมือนจะร้องไห้ ขนาดโดคยองซูผู้แข็งแกร่งต่อศาสตร์มืดมากที่สุดในกลุ่มยังขี้หดตดหายได้ขนาดนี้แล้วนับประสาอะไรกับเขาและจุนมยอนล่ะ ถ้าขืนอยู่ต่อนานไปกว่านี้พวกเขาต้องตายแน่ ๆ

     

    ชานยอลเป็นอะไรอ่ะ พูดเรื่องของกินแล้วก็หัวเราะอยู่คนเดียว ใครจะไปบ้ากินเส้นผมกัน ติงต๊องจัง

     

    มึงเงียบไปเลยไอ้บ้านนอก พูดจบก็หันไปตบหัวเบา ๆ ซึ่งเอาจริง ๆ แล้วก็แค่ปัดผมให้เสียทรงซะมากกว่า

     

    โห...เราเพิ่งอ้าปากพูดเมื่อกี้เองนะ ชานยอลไม่สบายเหรอทำไมเอาแต่พูดคนเดียวเหมือนพวกตัวโกงในหนัง คนอื่นไม่เห็นจะตลกด้วยเลย เห็นปากแดง ๆ นั่นพูดแล้วก็หงุดหงิด มันชักจะไม่ธรรมดาแล้วล่ะที่มือของเขามันเริ่มใช้งานกับมนุษย์ฮอบบิทไม่ได้แล้ว ทั้งที่เมื่อก่อนมันมักจะไปไวกว่าความคิดเสมอ

     

    ปล่อยพวกเราไปเถอะ เราจะไม่มองหน้านายอีกแล้วก็ได้ จุนมยอนทำหน้าเหมือนจะร้องไห้อีกคน นี่ยิ่งปวดฉี่อยู่ด้วย ถ้าขืนยืนสบตากับหมอนี่นานกว่านี้มีหวังเยี่ยวราดแน่เลย

     

    อะไรกัน แค่ไปกินข้าวไม่เห็นต้องขอชานยอลเลยนี่...โอ้ย!” แบคฮยอนกุมหัวตัวเองก่อนจะเงยหน้ามองคนตัวสูงที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา ทั้งสามคนแทบผวากับภาพที่เห็น เราเจ็บนะ ไหนชานยอลบอกว่าจะทำดีกับเราไง

     

    กูบอกตอนไหน มีแต่มึงพูดเองเออเองคนเดียว

     

    เอ้า ก็ชานยอลไม่ปฏิเสธก็ถือว่าเราตกลงกันแล้วนี่นา

     

    ไม่มีการตกลงอะไรทั้งนั้นแหละ เลิกมองกูด้วยสายตาแบบนี้สักทีเดี๋ยวต่อยแว่นแตกเลย พูดจบก็กำหมัดขึ้นมาให้ดู แต่ยังไม่ทันได้โชว์โหดก็ต้องรีบชักมือไปข้างหลังเพราะคนตัวเล็กทำท่าจะงับมือเขา เดี๋ยวเหอะมึงเนี่ย!”

     

    ถึงจะดุยังไงแต่ดูเหมือนว่าจะถูกใจไอ้มนุษย์ฮอบบิทไปซะทุกอย่าง ไอ้เตี้ยเอาแต่หัวเราะตาหยีจนน่าหมั่นไส้ ซึ่งมันทำให้เขาเสียศูนย์เป็นอย่างมากทันทีที่หันไปทางแก๊งคนแคระทั้งสามที่ยืนมองอยู่

     

    เย็นนี้กลับบ้านด้วยกันอีกนะ

     

    ไม่กลับ

     

    อ้าวทำไมล่ะ ร่างเล็กเลิกคิ้วถาม ทั้งที่เมื่อวานกับเมื่อวานก่อนชานยอลยังซ้อนท้ายจักรยานเขากลับอยู่แท้ ๆ

     

    ไม่มีเหตุผล เลิกถามมากได้แล้ว พูดจบก็ยีหัวอีกคนแรง ๆ จนยุ่งเหยิงไปหมด แบคฮยอนมุ่ยหน้ามองคนตัวสูงที่เดินล้วงกระเป๋ากางเกงไปอย่างหน้าตาเฉยจนกระทั่งเพื่อนอีกสามคนรีบเข้ามาช่วยจัดเผ้าผมให้

     

     

     

     

    วันนี้เป็นวันเสาร์และมันทำให้เด็กหนุ่มใช้เวลาอยู่บนฟูกนุ่ม ๆ ได้นานขึ้นกว่าวันปกติที่ต้องแหกตาไปเรียน พอตื่นมาตอนเที่ยงก็พบเพียงแค่ความว่างเปล่า ซึ่งเขาไม่ชินเอาซะเลยที่เป็นแบบนี้เพราะปกติต้องเห็นไอ้บ้านนอกนั่งทำการบ้านไปด้วยดูทีวีไปด้วย ไม่ก็ทำความสะอาดทั่วห้องจนเขาต้องลุกขึ้นมาด่าให้มันเลิกส่งเสียงน่ารำคาญ

     

     

    แต่วันนี้ไม่อยู่ อาทิตย์ที่แล้วก็ด้วย...มันหายหัวไปไหนวะ?

    หรือว่าไปหางานพิเศษทำเพิ่ม?

     

     

    ครั้งนึงไอ้บ้านนอกเคยขอยืมโน๊ตบุ้คของเขาใช้อินเทอร์เน็ต เห็นมันนั่งขมวดคิ้วจิ้มคีย์บอร์ดอยู่นานแต่ก็ไม่ได้สนใจว่ามันจะทำอะไร เพราะถ้าทำแบบนั้นปาร์คชานยอลคงได้ตบตีกับตัวเองเป็นรอบที่ล้านแน่ว่าทำไมเขาถึงต้องสนใจมนุษย์ฮอบบิทไปซะทุกเรื่องด้วย

     

     

    คราวนี้เป็นไงล่ะ พอไม่เสือกก็ไม่รู้เลยว่ามันหายไปไหนตั้งแต่หัววันแบบนี้

     

    เปิดตู้เย็นหาข้าวกินก่อนเป็นอันดับแรก ก่อนจะนั่ง ๆ นอน ๆ เล่นมือถือไปเรื่อยจนถึงบ่ายสามโมงแล้วก็เบื่อเลยลุกขึ้นไปอาบน้ำแต่งตัวออกไปข้างนอก ตอนนี้ไอ้จงอินเล่นเกมอยู่บ้านไอ้เทา แน่นอนว่าเขาจะตามไปถึงในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า

     

    ระหว่างทางก็ไลน์ถามไอ้บ้านนอกว่ามันอยู่ไหน แน่นอนว่ามันเป็นประโยคที่ห้วนมากที่สุดและแสดงออกอย่างชัดเจนว่าแค่ถามไปอย่างนั้นไม่ได้คิดอะไรมากมาย นานพอสมควรเลยกว่ามนุษย์ฮอบบิทมันจะตอบกลับมา แต่อย่างน้อยเขาก็ได้รู้แล้วว่าตอนนี้มันทำอะไรอยู่ที่ไหน ยังไง และกับใคร

     
     

     

    PM  15:55  มึงอยู่ไหนวะ

     

    ไอ้บ้านนอก

    อ๋อ ตอนนี้เราสอนภาษาเกาหลีอยู่ห้าง K น่ะ

    ชานยอลเห็นข้าวในตู้เย็นแล้วใช่ไหม 16:33  PM

     

    PM  16:34  เห็นละ แล้วมึงเอาอะไรไปสอนเขาวะฮอบบิท

    พูดภาษาคนยังจะไม่รู้เรื่อง 555555555555555555555555555

     

    ไอ้บ้านนอก

    แม่เราเคยบอกว่าหมามันฟังภาษาคนรู้เรื่องแต่ควายอ่ะไม่แน่

    เพราะงั้นคนที่ฟังเราพูดไม่รู้เรื่องก็คงเป็นควาย  16:35  PM

     

    PM  16:35  นี่มึงหลอกด่ากู?

    เชี่ยนี่ปากดีเดี๋ยวกูตามไปกระทืบถึงห้างเลยดีไหมเนี่ยหื้อ!!

     

    ไอ้บ้านนอก

    ไม่คุยด้วยแล้ว นักเรียนเราขยันมาก

    ไม่เหมือนชานยอลเลยเอาแต่นั่งหลับในเวลาเรียน ใช้ไม่ได้ ๆ  16:37  PM

     

    PM  16:37  เออไปเหอะ ไม่มีน้ำหูน้ำตาให้หรอก

     

    ไอ้บ้านนอก

    บ๊ายบาย

      16:38  PM

     

    PM  16:38  กาก

     

     

    ขยับปากบ่นอุบอิบก่อนจะยัดมือถือใส่กระเป๋ากางเกง ใครบอกว่ามันเป็นคนซื่อ ๆ นี่ขอเถียงเลยครับ ไอ้บ้านนอกมันก็เป็นแค่เด็กเนิร์ดที่ชอบหลอกด่าคนอื่นตาใสเท่านั้นแหละ นี่กูโดนมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน

     

    เอาเถอะ อย่างน้อยก็ได้รู้แล้วว่ามนุษย์ฮอบบิทมันยืมโน๊ตบุ้คไปทำอะไร ถ้าปาร์คชานยอลขยันได้สักเศษเสี้ยวของมันป่านนี้คงมีเงินใช้ไม่ขาดมือแล้ว แต่ก็อย่างว่าล่ะนะ คนเรามันเหมือนกันซะที่ไหน มีคนขยันก็ต้องมีคนขี้เกียจมันคือสัจธรรมที่เป็นของคู่กัน

     

    เล่นเกมกับเพื่อนไปจนถึงตอนพลบค่ำไอ้จงอินก็ขอกลับบ้านก่อนเขาก็เลยใช้โอกาสนั้นนั่งแท็กซี่ไปพร้อมมันแล้วขอให้จอดหน้าห้างที่ไอ้บ้านนอกสอนพิเศษอยู่ อยากรู้ว่ามันจะสอนเกาหลีให้ใคร คนต่างชาติเหรอ? เขาเห็นว่ามนุษย์ฮอบบิทมันชอบทำหน้าโง่ตอนคาบภาษาอังกฤษอยู่ประจำเพราะงั้นจะเป็นไปได้เหรอที่มันจะสอนให้ฝรั่ง?

     

    การสอนพิเศษตามห้างคงไม่พ้นแมคโดนัลกับสตาร์บั้ค ซึ่งเด็กตัวสูงเลือกที่จะเข้าแมคโดนัลก่อนแต่เดินวนรอบร้านแล้วก็ไม่เจอ ตอนนั้นได้แต่บอกกับตัวเองว่าอาจจะมาเสียเที่ยวก็ได้ เพราะบางทีไอ้บ้านนอกอาจจะกลับบ้านแล้ว แต่พอไปถึงสตาร์บั้คเท่านั้นก็ได้คำตอบ...

     

     
     

    เมื่อเขาเห็นไอ้บ้านนอก...กำลังนั่งคุยกับพี่ชายต่างแม่ของเขาอย่างออกรส

     

     
     

    อ้าวชานยอล!”

     

    ...

     

    ...

     

    เหมือนกับเวลาหยุดนิ่งเมื่อทั้งคู่หันมาสบตากัน มีเพียงแค่แบคฮยอนคนเดียวเท่านั้นที่ยิ้มให้กับคนมาใหม่ในขณะที่หนุ่มชาวจีนยังคงอึ้งเมื่อได้เห็นน้องชายต่างแม่อีกครั้งหลังจากเจ้าตัวหนีออกจากบ้านไปหลายเดือน

     

    ลู่หานหยัดตัวลุกขึ้น เขาเลียริมฝีปากคลายอาการประหม่าตอนมองไปยังเด็กตัวสูงที่ยืนอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้มากนัก แบคฮยอนมองทั้งสองคนสลับกันไปมาอย่างไม่เข้าใจจนกระทั่งชานยอลตรงมาเก็บซองใส่ปากกาและสมุดยัดเข้ากระเป๋าเป้ที่วางอยู่ข้างตัวร่างเล็กอย่างลวก ๆ แล้วดึงแขนอีกฝ่ายให้ลุกขึ้นมา

     

    เดี๋ยวนะชานยอล เกิดอะไรขึ้น?

     

    กลับบ้าน

     

    ชานยอล ลู่หานคว้าแขนเด็กตัวสูงเอาไว้ แน่นอนว่าเขายังไม่ละสายตาออกห่างจากน้องชายตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้เจอกันอีกครั้ง

     

    เด็กตัวสูงสะบัดแขนออกอย่างไม่ใยดีทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกห่างเช่นกัน สิ่งที่ปาร์คชานยอลต้องการสื่อให้ผู้ชายคนนี้เห็นก็คือความว่างเปล่าที่เขามีให้พี่ชายต่างแม่  

     

    “Dad wants you to come home.” (พ่ออยากให้นายกลับบ้าน)

     

    “I'm sure he never says that, I know him more than you do.” (เขาไม่มีทางพูดแบบนั้นหรอก ผมรู้จักพ่อดีกว่าคุณ)

     

    “I also want you to come.” (พี่เองก็อยากให้นายกลับมาอยู่บ้านเหมือนกัน)

     

    “It doesn't matter.” (เปล่าประโยชน์)

     

    เด็กหนุ่มพูดเสียงเย็นเป็นประโยคสุดท้ายก่อนจะลากคนตัวเล็กออกไป แบคฮยอนหันกลับไปมองข้างหลังเป็นระยะ เขาเห็นว่าสีหน้าลู่หานแย่ลงอย่างเห็นได้ชัดทั้งที่เจ้าตัวหัวเราะมาตลอดทั้งวันกับทักษะการพูดภาษาเกาหลีที่ยังไม่แข็งแรงนัก

     

     

     

     

    มึงไปรู้จักกับมันได้ยังไง?

     

    ประโยคแรกที่ชานยอลพูดขึ้นหลังจากที่เขาถูกลากออกมาข้างนอก ตอนนี้ฟ้ามืดแล้ว มีเพียงแค่แสงสว่างจากเสาไฟฟ้าและไฟหน้ารถที่วิ่งผ่านมาเท่านั้นที่ทำให้มองเห็นหน้ากันและกันได้ แบคฮยอนไม่รู้ว่าเขาทำอะไรผิดทำไมอีกคนถึงโมโหเป็นฟืนเป็นไฟขนาดนี้

     

    เราบอกชานยอลไปแล้วนี่ว่าเขาเป็นลูกศิษย์ของเรา

     

    เรื่องนั้นกูรู้ แล้วมันเกิดขึ้นได้ยังไง? มึงรู้ว่ามันเป็นพี่ชายต่างแม่กูหรือว่าเป็นแผนของมัน?

     

    หา? อะไรนะ?

     

    ... เด็กตัวสูงขบกรามแน่น เขากำลังโมโหสุด ๆ ทั้งที่เห็นอยู่ตำตาว่าไอ้บ้านนอกมันไม่ได้รู้เรื่องด้วยเลย เพราะถ้าใช่...ก็คงเป็นแผนของไอ้คนฉลาดสุดโต่งคนนั้นที่พยายามหาทางเข้าหาเขาอยู่ทุกวิถีทาง

     

    พี่ลู่หานเป็นพี่ชายของชานยอลเหรอ

     

    ไม่ใช่พี่ชาย ก็แค่คนที่มีสายเลือดเดียวกันครึ่งนึง

     

    ...

     

    ...

     

    ชานยอลถอนหายใจแล้วเบือนหน้าหลบไปอีกทางก่อนจะเสยผมขึ้นอย่างหัวเสีย เด็กหนุ่มเพิ่งรู้สึกผิดก็ตอนเห็นไอ้บ้านนอกทำหน้าหงอยราวกับจะขอความเป็นธรรมว่ามันไม่ได้ทำอะไรผิด

     

    เราไม่รู้จริง ๆ ชานยอลอย่าโมโหได้ไหม เสียงของคนตัวเล็กแผ่วลงราวกับว่ากำลังรู้สึกผิดกับความผิดที่ไม่ได้ทำ

     

    ช่างมัน

     

    จุนมยอนแนะนำว่างานสอนพิเศษก็ได้เงินดีเราก็เลยสนใจ แบคฮยอนยังคงไม่ละสายตาจากคนตัวสูงที่ไม่แม้แต่จะหันหน้ามาฟังเขาพูดเขาบอกว่าแค่บรรยายความสามารถที่มีลงไปในอินเทอร์เน็ต ตอนนั้นเราไม่ได้คิดอะไรเลยขอแค่มีคนติดต่อมาเราก็โอเคแล้ว ฟิสิกส์เราก็พอได้ คณิตศาสตร์เราสอนได้ เราเรียนศิลป์จีนมาเลยพอพูดจีนได้บ้าง แล้วพี่ลู่หานก็ติดต่อมาพอดี

     

    ...

     

    เรารู้ว่าถ้าพูดแบบนี้ชานยอลอาจจะโมโห แต่พี่เขาไม่ได้พูดถึงชานยอลเลยนะ เขาก็แค่อยากพูดภาษาเกาหลีได้

     

    ...

     

    ชานยอล

     

    มึงจะไปไหนก็ไป

     

    เด็กตัวสูงถอนหายใจก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงบนหินขัดหน้าบ่อน้ำพุ เขาต้องเป็นบ้าตายเพราะไอ้บ้านนอกเอาแต่พรรณนาถึงความดีของผู้ชายคนนั้นแน่ ๆ ในหัวมีแต่คำถามว่าทำไม? เพราะโลกกลมหรือไงลู่หานถึงได้เป็นนักเรียนของมัน หรือเป็นเพราะความจงใจกันแน่?

     

    แต่จากสีหน้าท่าทางของผู้ชายคนนั้นแล้วเห็นทีว่าข้อหลังมันไม่น่าจะใช่ถ้าเขาลบอคติลงไปสักนิด ซึ่งต่อให้เป็นอย่างนั้นมันก็ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นมาเลย เพราะไม่ว่าเมื่อไหร่ที่เห็นหน้าผู้ชายคนนั้น มันก็เป็นการตอกย้ำว่าพ่อไม่ได้มีแค่แม่คนเดียว ถึงแม้ว่าความจริงแล้วแม่ของเขาจะมาทีหลังแม่ของลู่หาน...

     

     

    หรือความจริงที่มันทิ่มแทงใจปาร์คชานยอลทุกวันนี้ว่าทั้งพ่อและแม่ของเขาต่างก็แยกย้ายไปมีชีวิตของตัวเอง

     

     

    แล้วจะให้เราไปไหน

     

    อะไร?

     

    ก็เรามาที่นี่เพราะพี่ลู่หานไปรับ ตอนขากลับเขาก็อาสาว่าจะไปส่งด้วย แล้วชานยอลไล่ให้กลับเองงี้เราจะกลับยังไงอ่ะ

     

    เด็กตัวสูงขมวดคิ้วมองหน้าโง่ ๆ ของอีกฝ่ายที่ไม่ได้ดูสะทกสะท้านกับคำด่าทอของเขาเมื่อไม่กี่นาทีก่อนหน้านี้เลยสักนิด มนุษย์ฮอบบิทเอาแต่ยืนก้มหน้าค้นหาปากกาสิบกว่าแท่งที่ตกลงไปอยู่ใต้กระเป๋าขึ้นมาก่อนจะเก็บมันใส่ซองใสอย่างเป็นระเบียบ

     

    มันหันกลับมาอีกแล้ว คราวนี้เด็กหนุ่มใช้เวลาหลายวินาทีพอสมควรกับการสังเกตดูท่าทีว่ามันจะน้อยอกน้อยใจที่ถูกเหวี่ยงหรือเปล่า ทั้งที่ไอ้บ้านนอกเคยออกปากว่าอยากให้ปาร์คชานยอลคนนี้ใจดีด้วย ซึ่งเขาก็ไม่เคยแสดงออกให้มันเห็นเลยสักครั้งเดียว

     

    จะไม่กลับด้วยกันจริงอ่ะ

     

    กูไม่กลับ

     

    ทำไมล่ะ เดินคนเดียวมืด ๆ งี้อันตรายนะ เหงาด้วย

     

    ใครจะไปกล้าทำอะไรมึงเหรอมนุษย์ฮอบบิท ส่วนเหงาไม่เหงานี่เรื่องของมึงแล้ว ไปซะ กลับบ้าน ชานยอลทำมือปัด ๆ มายืนหัวโด่อยู่ได้เดี๋ยวกูด่าระบายอารมณ์อีกยกซะหรอก

     

    แล้วจะให้เราไปทางไหน ร่างเล็กกระพริบตาปริบ ๆ นั่นทำให้คนถูกถามถึงกับเลือดขึ้นหน้า

     

    ไปทางซ้ายคือกลับบ้าน ทางขวาคือนรก มึงเลือกเอาว่าอยากไปทางไหน!!!”

     

    อ้อ แบคฮยอนพยักหน้าช้า ๆ แล้วบิดข้อเท้าไปทางขวาก่อนที่เท้าซ้ายจะเลื่อนมาชิดกันในวินาทีถัดมากลับบ้าน!”

     

    ... ได้แต่มองตามไอ้เตี้ยที่เอาแต่พึมพำกับตัวเองว่าซ้ายขวาซ้าย อย่างกับพวกลูกเสือสำรองกำลังเดินสวนสนาม ชานยอลตบหน้าผากตัวเองอย่างแรง จนถึงวินาทีนี้เขาถึงได้ทบทวนกับตัวเองว่าเรื่องที่เกิดขึ้นมันใหญ่หลวงมากขนาดต้องพาลไอ้บ้านนอกด้วยเหรอวะ

     

    พอหันไปทางด้านซ้ายก็เห็นร่างเล็กยืนนิ่งอยู่ข้างเสาไฟก่อนจะชี้ซ้ายชี้ขวาเพราะไม่รู้ว่าจะไปทางไหนต่อ พอเห็นอย่างนั้นเด็กตัวสูงเลยลุกขึ้นยืนอย่างหัวเสียแล้วตรงเข้าไปหาอีกคนด้วยความเร็วก่อนจะคว้าคอเสื้อฮู๊ดเอาไว้แล้วดึงขึ้นจนแบคฮยอนต้องห่อไหล่

     

    โอ๊ะ!”

     

    มึงนี่มันเหลือทนจริง ๆ

     

    ยอมกลับบ้านกับเราแล้วเหรอ เห็นไหมล่ะ สุดท้ายชานยอลก็เหงา ร่างเล็กยิ้มกว้างก่อนจะอ้าปากหวอเพราะถูกหิ้วคอเสื้อให้เดินข้ามถนนเมื่อสัญญาณเปลี่ยนเป็นสีเขียว

     

    พอข้ามฝั่งมาได้ชานยอลก็ปล่อยมือออก มือที่เคยสัมผัสโดนต้นคออุ่น ๆ นั้นปัจจุบันเลื่อนลงมาอยู่ในกระเป๋าเสื้อฮู๊ดสีดำ สายตามองไปยังเบื้องหน้าในเวลาค่ำคืน เสียงรถยนต์ที่ขับผ่านไปมานั้นดังกว่าเสียงฮัมเพลงของคนข้าง ๆ แต่เชื่อเถอะว่าหูของเขาได้ยินแต่เสียงแหบทุ้มที่ฟังแล้วเพราะใช้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ

     

    หนวกหู

     

    ยิ่งพูดเหมือนยิ่งยุ ไอ้บ้านนอกร้องดังขึ้นแล้วหันมายิ้มให้เด็กตัวสูง ชานยอลเบือนหลบไปอีกทางพร้อมดันหน้าอีกคนออกไปแต่มันหลบได้ทัน สองขานั้นเดินถอยหลังนำเขาไป เพลงที่มันร้องโคตรน่ารำคาญแต่มันก็เพราะในเวลาเดียวกัน

     
     

    “Baby baby 그대는 caramel macchiato

    Baby baby เธอคือคาราเมล มัคคิอาโต้

     

    여전히 입가엔 그대 향이 달콤해

    ยังคงติดริมฝีปากฉัน กลิ่นของเธอช่างหอมหวาน

     

    Baby, baby, tonight

    Baby baby ในค่ำคืนนี้

     

    Baby baby 그대는 caffè latte 향보다

    Baby baby เธอหวานยิ่งกว่าคาเฟ่ลาเต้

     

    포근했던 느낌 기억하고 있나요

    เธอจะจำความรู้สึกนี้ได้หรือเปล่านะ ความหวานละมุนนี้

     

    Baby, baby, tonight

    Baby baby ในค่ำคืนนี้

     
     

    เพลง Coffee Latte ของ Urban Zakapa ทำให้บรรยากาศในตอนนี้ดูผ่อนคลายขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ สายตาของเขานั้นจดจ้องอยู่กับใครอีกคนที่สะพายกระเป๋าเป้โง่ ๆ เดินนำไปข้างหน้า ขานั้นก้าวข้ามตามบล็อกสี่เหลี่ยมเหมือนกับเด็ก หลายครั้งที่มนุษย์ฮอบบิทหันมายิ้มให้เขาก่อนจะหันกลับไปเดินเหมือนในทีแรก

     

    ที่ไอ้บ้านนอกเป็นแบบนี้เพราะมันอ่อนต่อโลกหรือเพราะมองทุกอย่างในแง่ดีไปหมดกันแน่? เพราะไม่ว่าเขาจะทำอะไรมันก็ไม่เคยโกรธเลย ยกเว้นแต่เรื่องที่เอาเงินไปทำในเรื่องผิด ๆ เหมือนกับตอนนั้น ไหนจะไม่เคยอ้าปากทวงเงินอีก

     

    ปาร์คชานยอลตกอยู่ในห้วงของความคิด กับสิ่งที่ยังหาคำตอบไม่ได้แน่นอนว่ามันจะวนเวียนอยู่ในหัวไปอย่างนี้จนกว่าทุกอย่างจะกระจ่าง แต่ก็ต้องหลุดออกจากความคิดเมื่อร่างของเขาถูกถีบจากข้างหลังจนล้มลงไปกับพื้น และมันทำให้รู้สึกแสบโหนกแก้มและฝ่ามือไปหมด

     

    แบคฮยอนหยุดร้องเพลงก่อนจะหันกลับไปเพราะได้ยินเสียงฝีเท้ากับเสียงโอดร้องของใครอีกคน มันทำให้คนตัวเล็กถึงกับเบิกตาอย่างตกใจเมื่อพบว่าตอนนี้ชานยอลกำลังถูกเด็กผู้ชายห้าคนที่ตัวสูงไล่เลี่ยกันรุมทำร้ายอยู่

     

    ถึงชานยอลจะเสียเปรียบแต่ก็สามารถเอาคืนได้ด้วยการซัดหมัดใส่หน้าจนอีกฝ่ายเสียหลักก่อนที่แขนทั้งสองข้างจะถูกล็อกเอาไว้จากข้างหลัง และนั่นมันทำให้เด็กหนุ่มกลายเป็นเป้านิ่ง แต่ถึงอย่างนั้นขาทั้งสองข้างก็ยังกระโดดถีบอีกคนจนเซถอยไปข้างหลังได้แม้ว่าแขนจะถูกล็อกอยู่

     

    เวรเอ้ย!!”

     

    ทั้งใบหน้าและช่วงท้องถูกต่อยไปแล้วไม่รู้กี่ครั้ง แต่ชานยอลก็ไม่คิดจะปริปากร้องขอให้หยุด แบคฮยอนได้ยินคนพวกนั้นคุยกันแล้วก็จับใจความได้ว่าชานยอล จงอิน และจื่อเทาเคยมีเรื่องกับคนกลุ่มนี้มาก่อน

     

    น่าเสียดายที่เพื่อนมึงอีกสองคนไม่อยู่ ไม่งั้นคงได้จัดหนักพร้อมกันทั้งสามตัว

     

    ร่างเล็กยืนนิ่ง เขาไม่เคยเห็นเหตุการณ์แบบนี้กับตาเลยสักครั้งตั้งแต่เกิดมา ในละครมันดูเบากว่านี้เป็นไหน ๆ ถึงจะรู้ดีว่ามันเป็นเรื่องปกติที่เด็กผู้ชายจะมีเรื่องกัน แต่การที่รุมทำร้ายคน ๆ เดียวมันไม่แฟร์เอาเสียเลย แบคฮยอนกำหมัดแน่นเมื่อเห็นว่าชานยอลหันมาทางเขาแม้ริมฝีปากกับโหนกแก้มจะมีรอยแดง ๆ พร้อมเลือดที่ซึมออกมา

     

     

    วิ่ง

     

     

    ประโยคเดียวที่หลุดออกมาจากปากคนเจ็บ ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีเสียงแต่เขาก็สามารถเข้าใจมันได้ง่าย ๆ แม้ว่าชานยอลจะพูดอยู่บ่อย ๆ ว่าเขาน่ะโง่แล้วก็ซื่อบื้อที่สุดในโลก หัวใจของคนตัวเล็กเต้นแรงไม่เป็นจังหวะ แบคฮยอนกำลังจะสติแตกเพราะเห็นเพื่อนถูกรุมทำร้ายจนแทบไม่มีแรงยืนหากไม่ถูกคนที่ยืนอยู่ข้างหลังล็อกแขนขึ้นมา

     

    ...!!!”

     

    ทุกสายตาหันไปทางอีกคนที่เซไปชนกับถังขยะเพราะถูกกระเป๋าเป้ที่อัดแน่นไปด้วยหนังสือเหวี่ยงใส่เต็มแรง แบคฮยอนยืนลนลานทำตัวไม่ถูกและนั่นเป็นจังหวะให้ชานยอลโหม่งหัวไปข้างหลังจนอีกฝ่ายเสียหลักต้องปล่อยแขน

     

    เด็กหนุ่มหลบหมัดอีกฝ่ายได้อย่างหวุดหวิดก่อนจะเอาคืนด้วยการคว้าคอนั้นไว้แล้วทุ่มลงกับพื้น แต่ไวเท่าความคิด ทุกอย่างมันเกิดเร็วมาก พอหันไปอีกทีก็เห็นว่าไอ้บ้านนอกกำลังคลานอยู่บนพื้นโดยมีใครอีกคนเดินไล่ต้อนไปอย่างช้า ๆ

     

    ลุกขึ้นมาสิไอ้แว่น

     

    คนตัวเล็กหรี่ตามองเมื่อภาพเบื้องหน้ามันมัวไปหมด แว่นที่เคยทำให้โลกของเขาชัดขึ้นนั้นหล่นหายไปตอนถูกชกเมื่อครู่นี้ ได้ยินเสียงตะโกนเรียกไอ้บ้านนอก คำนี้มันกลายเป็นชื่อที่สองของเขาไปแล้วโดยไม่รู้ตัว แต่มันคงไม่ทำให้ทุกอย่างน่ากลัวไปกว่านี้เท่ากับเสียงในลำคอของชานยอลตอนถูกรุมทำร้ายอีกแล้ว

     

    หาแว่นอยู่เหรอวะ? เสียงนี้ทำให้ร่างเล็กต้องเงยหน้าขึ้นก่อนจะพบว่าใครคนหนึ่งถือแว่นของเขาเอาไว้พร้อมยิ้มมุมปาก ผู้ชายคนนั้นยื่นคืนมาให้ พอเห็นว่าเขากำลังจะคว้ามันแว่นก็ถูกปล่อยลงพื้นก่อนจะถูกเหยียบด้วยรองเท้าสนีกเกอร์จนแตกออกจากกรอบ

     

    ไม่นะ

     

    เสียงหัวเราะเยาะดังก้องอยู่ข้างหูประสานกับเสียงของชานยอลที่ถูกรุมกระทืบอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ ซึ่งเขามองเห็นได้ไม่ชัด แบคฮยอนไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นกำลังมองมาด้วยสายตาแบบไหน แต่ที่รู้คือเสียใจที่เขาช่วยอะไรชานยอลไม่ได้เลย

     

    เฮ้ยตำรวจมา!!!”

     

    เด็กหนุ่มทั้งห้าละความสนใจจากทั้งสองคนที่นอนอยู่บนพื้นก่อนจะเตะท้องคู่อริซ้ำเป็นครั้งสุดท้ายแล้ววิ่งหนีไปเพราะเห็นแสงไฟจากรถตำรวจที่จอดเทียบอยู่ข้างฟุตปาธ ชานยอลพยายามหยัดตัวลุกขึ้นอย่างทุลักทุเลแล้วตรงไปช่วยประคองอีกคนให้ลุกขึ้น

     

    ก...กระเป๋ากับแว่นเรา เสียงของคนตัวเล็กแผ่วลงและมันทำให้ชานยอลหงุดหงิดเพราะต้องวกกลับไปเก็บของที่ตกอยู่บนพื้นทั้งที่เขาทั้งสองคนควรจะไปจากตรงนี้ได้แล้ว

     

    เด็กตัวสูงเหวี่ยงกระเป๋าเป้ไปข้างหลังแล้วก็เห็นแว่นที่เลนส์แตกหักเป็นสามชิ้นอยู่บนพื้นซึ่งสภาพของมันคงใช้งานไม่ได้อีกต่อไป เขาจำเป็นต้องตัดใจทิ้งมันแล้วหิ้วปีกไอ้บ้านนอกให้วิ่งหนีตำรวจไปด้วยกัน ถึงจะเป็นฝ่ายถูกทำร้าย แต่เขาคงไม่รู้สึกดีขึ้นกับความเป็นธรรมที่ได้รับหากว่าทางตำรวจจะโทรตามผู้ปกครองมาที่สถานีตำรวจ

     

     

     

     

    ทั้งคู่ผลัดกันไปอาบน้ำโดยที่ชานยอลไล่ให้เขาเข้าไปอาบก่อน สายตาคนตัวสูงในตอนนั้นน่ากลัวและจริงจังมากจนคนตัวเล็กไม่กล้าหือ ตอนนี้ทั้งสองคนนั่งอยู่บนพื้นโดยมีกล่องพยาบาลเล็ก ๆ ตั้งอยู่ตรงกลาง แน่นอนว่าสภาพของชานยอลในตอนนี้สาหัสกว่าเขาเยอะ แต่ถึงอย่างนั้นคนตัวสูงก็ไม่ได้ปริปากบ่น

     

    ทำแผลแล้วก็รีบนอนซะ

     

    เราทำแผลให้

     

    ไม่ต้อง

     

    ให้เราทำเถอะ ชานยอลทำเองไม่ถนัดหรอก ถ้าถามว่ากลัวชานยอลเหวี่ยงหรือกลัวชานยอลเจ็บ แบคฮยอนขอตอบว่ากลัวอย่างหลังมากกว่า เพราะงั้นคนตัวเล็กเลยเลือกที่จะเปิดกล่องออกมาแล้วเทเบตาดีนลงบนสำลีให้พอชุ่มก่อนจะเงยหน้าขึ้นสบตากับคนตัวสูง

     

    ชานยอลเห็นว่ามือของไอ้บ้านนอกกำลังสั่น ตรงข้อนิ้วชี้นั้นมีรอยแผลถลอกซึ่งคงแสบมาก ๆ ตอนอาบน้ำ ไหนจะตรงแก้มขาวนั่นอีก ของตัวเองไม่รู้จักทำยังมีหน้ามาดูแลคนอื่น จะไม่ให้โมโหได้ไงกัน?

     

    แบคฮยอนไม่รู้ตัวว่ากำลังเลื่อนหน้าเข้าไปใกล้อีกฝ่ายเพราะมองเห็นได้ไม่ชัด นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้ทำแผลให้ใครสักคน มันต่างจากตอนทำแผลให้เพื่อนตอนอยู่มกโพเพราะมันไม่ได้ทำให้เขารู้สึกแปลก ๆ แบบนี้

     

    ทำไมไม่วิ่ง

     

    เราจะวิ่งได้ไง

     

    กูบอกให้มึงวิ่ง กูรู้ว่ามึงเห็น

     

    อ้าวเหรอ ตอนนั้นเรานึกว่าชานยอลบอกให้ลุย!’ ซะอีก คนตัวเล็กยิ้มขำเบา ๆ ก่อนจะนิ่วหน้าเล็กน้อยเพราะเจ็บริมฝีปากตรงที่ถูกชก

     

    ชานยอลถอนหายใจ เขาไม่เคยคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ตอนอยู่กับไอ้บ้านนอกสองคน แน่นอนว่าถ้ามีไอ้จงอินกับไอ้เทาอยู่ด้วยพวกมันทั้งห้าคงไม่รอด เด็กหนุ่มไม่รู้เลยว่าไอ้อาการไม่สบายใจที่เป็นอยู่มันเป็นเพราะถูกกระทืบหรือเพราะลากคนตรงหน้าเข้ามาเอี่ยวด้วยอย่างไม่ตั้งใจกันแน่

     

    แบคฮยอนชะงักมือก่อนจะหลุบตาลงมองอีกคนที่กำลังเทเบตาดีนลงบนสำลี ก่อนจะเบิกตาอย่างตกใจเมื่อมันถูกแตะลงบนแก้มเขา ดวงตาคู่นั้นจดจ้องอยู่กับรอยแผล และมันดีมาก ๆ เลยที่ชานยอลไม่คิดจะหันมาสบตากับเขาในเวลาแบบนี้

     

    เป็นเรื่องคาดไม่ถึงที่คนตรงหน้ากำลังหยิบยื่นความช่วยเหลือให้เขาโดยที่ไม่ได้ร้องขอ แบคฮยอนกำลังเรียกสติตัวเองกลับคืนมาหลังจากสับสนอยู่นานว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับผู้ชายคนนี้

     

     

    คนตัวเล็กไม่แน่ใจว่าตอนเห็นชานยอลถูกรุมทำร้ายกับตอนชานยอลกำลังทำแผลให้เขา...อันไหนมันทำให้ใจเต้นแรงได้มากกว่ากัน

     

     

    เราจะทิ้งชานยอลไว้ตรงนั้นได้ไง

     

    ...

     

    ขอโทษที่ช่วยไล่เตะตูดพวกนั้นไม่ได้นะ

     

    มือใหญ่ชะงักไว้แค่นั้นก่อนจะหันมาสบตากับคนตรงหน้า ถึงจะเคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาแล้วหลายครั้ง แต่การมองตาคู่นี้โดยไม่มีแว่นคั่นกลางนั้นมันไม่ชินเอาเสียเลย ไอ้บ้านนอกมันพูดออกมาอย่างหน้าตาเฉยได้ยังไงกัน

     

    ถ้าบ่นว่ากูทำตัวเป็นเด็กเกเรที่เอาแต่ก่อเรื่องให้คนอื่นเดือดร้อนสิถึงจะสมเป็นมึง

     

    ชานยอลไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อนสักหน่อย เราสองคนแค่เดินกลับบ้าน คนพวกนั้นนั้นต่างหากที่เกเร ร่างเล็กยิ้มเจื่อนก่อนจะหันไปสนใจแผลตรงโหนกแก้มคนตัวสูงอีกครั้ง

     

    มึงไม่กลัวเจ็บหรือไง?

     

    กลัว แต่เจ็บสองคนก็ยังดีกว่าเจ็บคนเดียวนะ อย่างน้อยก็แบ่งคนมาทางนี้บ้าง แบคฮยอนหัวเราะเบา ๆ ถือว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตแล้วกัน เพื่อนเราเคยบอกว่ามันไม่ใช่เรื่องใหญ่หรอกถ้าเด็กผู้ชายจะมีเรื่องชกต่อยกับคนอื่น ก็ไม่ได้ถึงขั้นต้องนอนซมโรงพยาบาลเพราะแขนขาหักน่ะนะ

     

    เพื่อนมึงนี่คงผ่านตีนมาเยอะ

     

    ไม่ขนาดนั้น เราสองคนแค่ปลอบใจตัวเองเวลาถูกพวกขาโจ๋ในโรงเรียนแกล้งน่ะ

     

    มึงเคยถูกแกล้งแบบนั้นด้วย?

     

    ไม่ใช่ ๆ ร่างเล็กเม้มปากแล้วส่ายหน้าก่อนจะแกะพลาสเตอร์มาแปะให้อีกคนเราเป็นคนง่าย ๆ เลยไม่เคยมีเรื่องกับใคร เวลาถูกสั่งให้ทำอะไรก็ทำหมดแต่เพื่อนเราไม่ทำ

     

    ก็เลยโดนอัดสินะ สิ้นสุดคำถามแบคฮยอนก็พยักหน้าเป็นคำตอบ

     

    แต่เราไม่เคยเห็นกับตาหรอก ทุกครั้งที่เห็นเขาก็กลับมาในสภาพปากแตก หน้าช้ำไปหมด แต่เพื่อนเราเจ๋งนะ พอถูกแกล้งบ่อย ๆ เลยมีแรงฮึดเข้าชมรมมวย ฝึกซ้อมอยู่เป็นเดือน ๆ หลังจากนั้นเขาก็ไม่ถูกแกล้งอีกเลย แบคฮยอนหัวเราะเมื่อนึกไปถึงเพื่อนที่อยู่มกโพโอ้ย!” คนตัวเล็กนิ่วหน้าเพราะอีกฝ่ายลงน้ำหนักมือมากขึ้นกว่าเดิม

     

    พูดมากจริงมึงไม่เจ็บปากไง?

     

    เจ็บ แต่ถ้าไม่พูดแล้วมันเงียบอ่ะ... แบคฮยอนพูดเสียงอู้อี้

     

    ก็เปิดทีวีดิ

     

    ไม่เอา ชานยอลก็คุยกับเราด้วยสิ

     

    ไม่คุย กูเจ็บปากจะตายห่าอยู่ละยังจะให้พล่ามอะไรอีก เด็กตัวสูงถลึงตามองไอ้เตี้ยที่กำลังทำหน้าเหมือนหมาหูตก แถมยังเบ้ปากขอความเห็นใจอีก

     

    ถ้าเราทำให้ชานยอลเจ็บ ชานยอลจะว่าเราไหม

     

    ไม่ว่า แต่จะต่อยหน้าเลย

     

    โหดอีกแล้วอ่ะ... ร่างเล็กย่นจมูกแล้วสังเกตการณ์อยู่ไม่กี่อึดใจก่อนจะออกแรงกดสำลีลงบนแผลไปเล็กน้อย

     

    โอ้ย!!!!!”

     

    โอ๊ะ!!!” แบคฮยอนทำตาโต พอเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังมองมาทางนี้ด้วยสายตาอาฆาตก็รีบลุกขึ้นเดินถอยหลัง ชานยอลลุกขึ้นยืนกัดฟันแน่นพลางหลับตาลงถอนหายใจหนัก ๆ ซึ่งคนตัวเล็กสามารถเข้าใจได้ง่าย ๆ ว่าอีกฝ่ายกำลังโมโห หายกันนะ?

     

    หายเชี่ยไร มึงมานี่!!!” เด็กตัวสูงก้าวดุ่ม ๆ เข้าหาอีกฝ่ายแต่ก็ต้องหยุดฝีเท้าเมื่อสองมือเล็กนั้นยกขึ้นตั้งการ์ด

     

    เข้ามาเราสู้!!!”

     

    ...

     

    อิส อิส แบคฮยอนทำท่าฮุคหมัดโชว์เหมือนในรายการทีวีที่เคยดูตอนอยู่มกโพ ซึ่งภาพที่เห็นมันตลกมากจนเด็กตัวสูงอยากระเบิดหัวเราะออกมาดัง ๆ

     

    ทำไรของมึงวะมนุษย์ฮอบบิท

     

    นักมวยสากลรุ่นไลท์เวท มุมแดง...บยอน...แบคฮยอน... คนตัวเล็กเลียนเสียงโฆษกในรายการมวยทั้งที่ยังไม่เลิกทำท่าชกผู้สนับสนุนหลักคือข้าวกล่องวันต่อวันจากร้านสะดวกซื้อที่ทำงานพิเศษ ส่วนมุมน้ำเงินมาจากรุ่นเฮฟวี่เวท...ปาร์คชานยอล!!”

     

    เพี้ยนแล้วมึง เด็กหนุ่มยิ้มขำก่อนจะเอามือดันศีรษะคนตัวเล็กที่กำลังพยายามจะชกอกเขา

     

    ชานยอลอย่าขี้โกงสิ ปล่อยมือเร็ว อิส อิส

     

    เร็วไปสิบปีว่ะ เด็กตัวสูงรู้สึกได้ถึงแรงดันจากศีรษะอีกทั้งสองมือนั้นที่เคยทำท่าชกอากาศแต่ก็ไม่ถึงตัวเขาสักที จนสุดท้ายไอ้บ้านนอกเลยต้องคว้าแขนแกร่งเอาไว้แล้วเงยหน้าขึ้นสบตากับเขา

     

    ดีใจจังที่ชานยอลกลับมาพร้อมกัน

     

    ...

     

    อย่าคิดมากนะ เดี๋ยวแผลเราก็หายแล้ว

     

    กูไม่ได้กังวลเรื่องนั้น มึงช่วยดูตัวเองก่อนค่อยคิดเรื่องคนอื่นเถอะ เด็กตัวสูงปล่อยมือออกแล้วเดินไปนั่งลงบนที่นอนจะเอาแว่นจากไหนใส่ไปเรียน ร้านแว่นเปิดทีก็ตอนสาย

     

    จริงด้วยอ่ะ

     

    ลาก่อน ชานยอลนอนหันหลังให้แล้วปล่อยให้อีกคนยืนบื้ออยู่ที่เดิมโดยไม่หันไปสนใจ คนตัวเล็กยืนเกาหัว พออีกคนพูดถึงแว่นเขาก็เพิ่งนึกได้ว่ามันถูกเหยียบจนพังไปแล้วต่อหน้าต่อตา

     

    ถ้าไม่มีแว่นแล้วเราจะทำยังไงล่ะ พรุ่งนี้ต้องไปโรงเรียน ต้องเดิน ต้องข้ามถนน ต้องปั่นจักรยาน ต้องมองกระดานด้วย โอ้ย...กว่าจะถึงตอนเย็นนี่แย่แน่เลย

     

    เสียงกุกกักดังมาจากข้างหลังหลังจากมันเลิกบ่นอุบอิบแล้ว แน่นอนว่าพรุ่งนี้เขาต้องเอาเรื่องพวกมันทั้งห้าตัวไปเล่าให้เพื่อนสนิททั้งสองฟังเพื่อที่จะได้ไปเอาคืน จะได้เอาค่าแว่นมาคืนไอ้บ้านนอกด้วย ไอ้พวกห่านี่ชักจะเหิมเกริม เล่นด้วยแล้วทำเคลิ้ม มันต้องปากแตกจนแดกข้าวไม่ได้ ฟั้ค

     

    ได้ยินเสียงขาโต๊ะญี่ปุ่นครูดกับพื้นพร้อมเสียงซี๊ดปากของไอ้บ้านนอก พอแอบชำเลืองหันกลับไปก็เห็นว่ามันกำลังหรี่ตาคลำหาสวิตซ์ไฟอยู่ ทันทีที่แสงสว่างดับลงก็มีเพียงแค่แสงจากดวงจันทร์เท่านั้นที่ทำให้มองเห็นภาพลาง ๆ ได้ และท่าทางตอนมนุษย์ฮอบบิทกำลังเดินทีละก้าวท่ามกลางความมืดอย่างระมัดระวังนี่...

     

     
     

     

    ทำไมมันน่ารักจังวะ?

     

     

     

     

     

     

    TBC

     
     

     

    ไอ้บ้านนอกแว่นแตกๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

     ปล. ขอบคุณอี @dhiver0111 ที่ช่วยแปลช่วงบทสนทนาภาษาอังกฤษให้นะคะ มันบอกว่าจะได้มีเครดิตท้ายตอนแล้วเขินมาก ตอแหลสุด 55555555555555555555555

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×