ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [EXO] "NERDY BOY" มนุษย์แบคฮยอน | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #17 : Chapter 16 :: My Bed (100%)

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 29.58K
      212
      20 ม.ค. 58

     

     

     

    Chapter 16

    My Bed

     

     

     

    ชานยอลจ่ายค่าโดยสารหลังจากแท็กซี่ขับมาเทียบจอดหน้าบ้าน เขาเปิดประตูแล้วกางร่มออกก่อนจะรับกระเป๋าเป้มาสะพายไว้ให้ แบคฮยอนเก้ ๆ กัง ๆ เมื่อคนตัวสูงกำลังปกป้องเขาจากสายฝนที่ยังคงตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ผู้ชายคนนี้ปล่อยให้ตัวเองเปียกซีกหนึ่งเพื่อที่จะให้คนป่วยอย่างเขาไม่โดนฝน

     

    ไม่ชินเลยกับการถูกดูแลเอาใจใส่ แต่ยอมรับว่าแบคฮยอนรู้สึกดีมาก ๆ กับสิ่งที่ชานยอลมอบให้ ในใจของเขาเอาแต่พูดว่าโห...ดีจังเลยอ่ะ ชานยอลเท่สุด ๆ ไปเลย กับเขินจัง เขินไปหมดแล้ว

     

    ร่างเล็กรู้สึกประหม่าทันทีที่ก้าวผ่านประตูรั้วเข้ามา บ้านของชานยอลไม่ได้หรูหราใหญ่โตอะไร มันเป็นบ้านสองชั้นที่สร้างให้ต่างจากบ้านหลังอื่น  ๆ ในละแวกนี้ ซึ่งคงไม่แปลกถ้านึกถึงอาชีพของคุณลุง

     

    มีรถยนต์ทางด้านขวาจอดอยู่หนึ่งคัน ตรงนั้นเหลือที่ว่างไว้สำหรับจอดอีกคันซึ่งตอนนี้คงถูกส่งซ่อมอยู่ ถัดไปอีกหน่อยคือบ่อปลา มีต้นไม้สีเขียวที่พอมองแล้วรู้สึกสบายตาอย่างบอกไม่ถูก มีเปลญวณสีขาวผูกอยู่กับเรือนไม้เล็ก ๆ ซึ่งดูเหมือนว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับนั่งเล่นพักผ่อนหย่อนใจ

     

    ร่างเล็กหลุดออกจากความคิดเมื่อถูกมือเย็นคว้าแขนเอาไว้ ชานยอลกำลังขยี้ผมที่เปียกน้ำฝนแล้วพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้เข้าไปข้างในด้วยกัน แบคฮยอนพยายามแกะมืออีกคนออกทันทีที่เห็นน้องเจโน่อยู่ในห้องนั่งเล่น เด็กคนนั้นมองตาปริบ ๆ ก่อนจะลดระดับสายตาลงมองมือพี่ชายตัวเองที่กำลังถูลู่ถูกังใครอีกคนไปบนชั้นสอง

     

    พี่ชานยอลกินข้าวมาหรือยัง!”

     

    ยัง จัดโต๊ะได้เลย เจ้าของชื่อก้มลงมาบอกเด็กน้อยที่พยักหน้าหงึกอย่างรู้งานก่อนจะลากแบคฮยอนขึ้นบันไดต่อ

     

    ชานยอล...น้องมองแล้ว

     

    มันไม่สงสัยหรอก อย่าคิดมาก

     

    หูย ไม่คิดได้ไงอ่ะ ปล่อยเลยปล่อย ร่างเล็กชักมือกลับแล้วมองคนตรงหน้าหวาด ๆ ชานยอลเลิกคิ้วขึ้น เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้นที่ทั้งสองคนต่อสู้กันทางสายตา คนตัวสูงก็หมุนลูกบิดเข้าไป

     

    กลับมาแล้วนะ

     

    สวัสดีครับคุณลุง... แบคฮยอนโค้งเต็มองศาพลางยิ้มเจื่อนก่อนจะโบกมือให้หนุ่มชาวจีนที่กำลังจัดแจงถาดอาหารที่คนเป็นพ่อกินเสร็จเรียบร้อยแล้ว ลู่หานยิ้มพลางพยักหน้ารับแล้วนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเตียง

     

    แบคฮยอนจะนอนห้องเดียวกับผม มันบอกว่าเดี๋ยวจะช่วยทำงานบ้าน แล้วสอนพิเศษให้ผมกับเจโน่ด้วย ร่างเล็กถึงกับตาเหลือกทันทีที่ได้ยินอย่างนั้น ใช่ว่ามันยากเกินไปสำหรับเขาหรอกนะ แต่ที่ตกลงกันไว้มันไม่ใช่แบบนี้นี่นา

     

    ทานข้าวมาหรือยังล่ะ? ชายวัยกลางคนถามคนตัวเล็กที่ยังคงเลิกลักเพราะทำตัวไม่ถูก แบคฮยอนไม่รู้ว่าจะตอบยังไงดี ถ้าบอกว่ากินแล้วก็คงโกหก แต่ถ้าบอกว่ายังไม่ได้กินก็จะดูรบกวนเกินไป มันเหมือนเป็นการบอกว่าคนบ้านนี้ต้องหาข้าวให้เขากินนะยังไงอย่างนั้น

     

    เดี๋ยวจะลงไปกิน เจโน่มันกำลังจัดโต๊ะ ชานยอลเป็นคนตอบคำถามแทนอีกแล้ว แบคฮยอนรู้สึกเป็นใบ้อย่างฉับพลันเพราะไม่รู้จะวางตัวยังไง

     

    ฮัดเช้ย!” รีบยกขึ้นปิดปากหลังจากหลุดจามมาซะเสียงดัง นับครั้งไม่ถ้วนแล้วมั้งที่แบคฮยอนเอาแต่ยิ้มโง่ ๆ แล้วโค้งหัวขอโทษกับสิ่งที่ทำลงไป

     

    ไม่สบายหรือไงเรา?

     

    มันเป็นหวัดน่ะ

     

    ให้เพื่อนแกพูดบ้างก็ได้มั้ง แล้วเสื้อผ้านี่ไม่คิดจะเปลี่ยนหรือไง เดี๋ยวก็เป็นหวัดไปอีกคนหรอก ปาร์คจองซูมองค้อนลูกชายที่เอาแต่ตอบแทนเพื่อนอยู่ได้ราวกับกลัวว่าเขาจะเข้าไปหักคอเด็กคนนั้นงั้นแหละ

     

    ยินดีต้อนรับนะแบคฮยอน ลู่หานยิ้ม ส่วนเจ้าของชื่อก็เช่นกัน

     

    ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็หายาให้เพื่อนกินซะ

     

    รู้แล้วน่า ขี้บ่นจัง

     

    ชานยอลกลอกตาแล้ววางมือลงบนศีรษะคนตัวเล็กก่อนจะดึงประตูกลับเข้าหาตัว ตรงทางเดินยาวที่ไม่กว้างและไม่แคบจนเกินไปนั้นเงียบสงบ ตรงนี้มีเพียงแค่เขากับคนตัวเล็กเท่านั้นที่ยืนอยู่ด้วยกัน ชานยอลอมยิ้มอย่างอารมณ์ดีก่อนจะเลื่อนลงไปกุมมือเล็กของคนข้าง ๆ

     

    มือของไอ้บ้านนอกร้อนมากถ้าเทียบกับมือของเขาที่เย็นยะเยือกเพราะโดนฝนมา แต่เด็กหนุ่มกลับรู้สึกดีที่อีกฝ่ายกำลังถ่ายทอดความอบอุ่นนั้นมาให้ มนุษย์ฮอบบิทคนขี้เกรงใจไม่โวยวายขอให้ปล่อยมือแล้ว ดูเหมือนว่ามันจะโล่งใจขึ้นมาบ้างหลังจากได้ลองคุยกับพ่อและพี่ชายต่างแม่ของเขาไป

     

    พ่อชานยอลใจดีมาก ๆ

     

    กว่ากูไหมล่ะ เด็กตัวสูงหันกลับไปถามพร้อมเปิดประตูห้องเข้าไป

     

    มากกว่าเยอะ ชานยอลมีแต่โวยวายอ่ะ จะเอาอะไรมาใจดี พูดจบก็สะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคนขี้หงุดหงิดฟาดมือลงบนผนังอย่างแรงจนเกิดเสียง...โหย นี่เจ็บมือแทนเลย

     

    โอ้โห ห้องใหญ่จัง แบคฮยอนก้มลงลอดใต้แขนอีกคนเข้าไปข้างในหน้าตาเฉย ชานยอลแค่นหัวเราะแล้วปิดประตูก่อนจะตรงไปที่ตู้เสื้อผ้า วางกระเป๋าของคนตัวเล็กไว้แล้วเปลี่ยนชุดที่เปียกฝนออก

     

    จ้า ทำเหมือนคนไม่เคยมา

     

    แบคฮยอนกวาดสายตาไปรอบ ๆ อย่างตื่นตาตื่นใจ เขาจำได้ว่าครั้งหนึ่งเคยพาชานยอลมาขโมยของแต่ตอนนั้นมันมืดเพราะใกล้เข้าช่วงหัวค่ำ ร่างเล็กอมยิ้มก่อนจะค่อย ๆ หยัดตัวนั่งลงกับขอบเตียงอย่างหมิ่นเหม่ตามประสาคนขี้เกรงใจ พอหันไปทางชานยอลที่เปลือยท่อนบนแล้วก็กระพริบตาปริบ ๆ

     

    มองไร

     

    มองคนแก้ผ้า

     

    ทีงี้ล่ะมานั่งดูคนอื่นเปลี่ยนเสื้อผ้า พอกูจ้องบ้างล่ะทำโวย ชานยอลหันหน้าเข้าหาอีกคนแล้วเลิกคิ้วมอง แต่ดูเหมือนว่าไอ้บ้านนอกจะไม่มีท่าทีจะเขินเลยสักนิด

     

    ก็เจตนาของเรากับชานยอลไม่เหมือนกันอ่ะ เราไม่ได้ทะลึ่งเรารู้ตัวเอง แบคฮยอนย่นจมูกก่อนจะยิ้มพอใจเมื่อคนตัวสูงชูกำปั้นกลับมาขออนุญาตนอน ว่าแล้วเอนตัวนอนคว่ำหน้าบนเตียงนุ่ม กลิ่นหอมจากผ้าปูที่นอนและผ้านวมทำให้คนตัวเล็กยิ้มออกมาได้ นี่สินะกลิ่นของชานยอล

     

    ไม่อนุญาต

     

    หูยไรอ่ะ ขอนอนดมกลิ่นผ้าห่มชานยอลหน่อยไม่ได้เหรอ มันหอมจริง ๆ นะ

     

    ตัวกูหอมกว่านั้นอีกทำไมไม่มาดมใกล้ ๆ มองมนุษย์ฮอบบิทที่กำลังซุกหน้าลงกับผ้านวมบนเตียงแล้วก็หัวเราะเบา ๆ คนบ้านนอกนี่มันบ้านนอกจริง ๆ

     

    เราหมายถึงกลิ่นน้ำยาปรับผ้านุ่มต่างหาก กลิ่นชานยอลไม่ได้เป็นแบบนี้สักหน่อย แบคฮยอนหันมาขยับปากพูดงุบงิบทั้งที่แก้มยังแนบอยู่กับผืนเตียง ชานยอลสวมกางเกงวอร์มขายาวแล้วเดินมานั่งบนเตียงก่อนจะกระตุกผมคนตัวเล็กอย่างหมั่นเขี้ยวโอ๊ะ!”

     

    ไล่ไปนอนพื้นเลยดีไหมเนี่ย

     

    ไม่ดี

     

    ทำไม

     

    เตียงตั้งกว้างชานยอลจะนอนคนเดียวได้ไง แบ่งให้เรานอนด้วย

     

    ไม่แบ่ง มึงพูดจากวนตีน กูทนฟังไม่ได้

     

    อยู่ด้วยกันมาตั้งนานเราก็เพิ่งรู้วันนี้แหละว่าชานยอลเป็นคนเซนซิทีฟ

     

    พูดมากเดี๋ยวต่อยปากแตก ชานยอลกดหัวคนตัวเล็กลงกับเตียงนุ่มแต่คนช่างพูดกลับทำปากจู๋ท้าทายให้เขาต่อยปาก เสียอย่างนั้น เด็กหนุ่มยิ้มขำแล้วก้มหน้าลงไปจุ๊บปากอีกคนแช่ไว้อย่างนั้น  

     

    เราทั้งคู่หัวเราะในลำคอทั้งที่ยังไม่ละริมฝีปากออกจากกัน ชานยอลกำลังจะสำลักความสุขตายอยู่แล้ว และเขาก็ได้แต่หวังว่าคนตรงหน้าจะรู้สึกเหมือนกัน เด็กหนุ่มทิ้งตัวลงนอนข้าง ๆ แล้วสบตากับแฟนจ๋าที่กำลังสูดจมูกเพราะพิษไข้หวัด มือแกร่งยกขึ้นอังหน้าผากมนเพื่อเช็กดูอาการ มันคงจะดีกว่าถ้าเขาให้ไอ้บ้านนอกกินยาแล้วนอนพักผ่อนหลังจากกินข้าวเสร็จแทนที่จะพาเดินชมรอบบ้าน

     

    เด็กหนุ่มหลุดออกจากความคิดเมื่อจู่ ๆ มือเล็กก็ยกขึ้นมาอังหน้าผากของเขาบ้าง แววตาของมนุษย์ฮอบบิทยังคงใสเหมือนกับวันแรกที่เจอกัน ซึ่งชานยอลได้แต่ถามตัวเองว่าทำไมตอนนี้มันดูน่ารักทั้งที่เมื่อก่อนทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นไอ้บ้านนอกมันน่าหงุดหงิดในสายตาเขาไปหมดจนต้องรีบรนหาตลับเมตรมาใช้

     

    ตัวเราร้อนกว่าชานยอลอีก

     

    เป็นหนุ่มฮ๊อตเหรอเราอ่ะ

     

    แอ่ะ เมื่อไหร่ชานยอลจะติดหวัดจากเรา

     

    ก็กอดแน่น ๆ ดิเดี๋ยวพรุ่งนี้ป่วยเป็นเพื่อน คนฟังหลุดยิ้มออกมาแล้วขยับเข้าไปอยู่ในอ้อมกอดคนตัวโตกว่าพร้อมยกขาขึ้นก่ายเอวเหมือนลูกลิงอย่างที่ชานยอลชอบว่า

     

    ไม่เอา เราไม่ให้ชานยอลป่วยแล้ว

     

    แล้วไหนตอนแรกบอกจะแบ่งหวัดให้ไง ชานยอลก้มลงจูบศีรษะคนรักเบา ๆ ก่อนจะใช้เท้าหนีบผ้าห่มผืนเล็กที่อยู่ปลายเตียงขึ้นมาคลุมให้

     

    เราพูดเล่นนะ

     

    ชานยอลเอาแต่ยิ้มเหมือนคนบ้า ซึ่งตอนนี้มันก็ดีมากที่ไอ้บ้านนอกไม่เห็นว่าเขากำลังทำหน้าแบบไหน การที่ทุกอย่างมันเป็นไปตามที่คาดหวังนี่มันดีจริง ๆ เด็กหนุ่มคิดอย่างนั้น ตอนแรกก็หวั่นใจว่าไอ้เตี้ยนี่จะเรื่องมากไม่ยอมมาอยู่ด้วยเพราะความขี้เกรงใจ

     

    แต่เขาคิดผิด...ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าปาร์คชานยอลจะมีอิทธิพลต่อความรู้สึกไอ้บ้านนอกขนาดที่ทำให้มันยอมทิ้งทุกอย่างมาอยู่ด้วยกันได้

     

    เด็กหนุ่มหลับตาลงแล้วซึมซับช่วงเวลาดี ๆ เหล่านี้เอาไว้ ก็รู้หรอกว่ายังมีเวลาอยู่ด้วยกันอีกเยอะ แต่พอเห็นแฟนป่วยแล้วอ้อน ปาร์คชานยอลก็อดที่จะให้ความสนใจไม่ได้

     

    ป่วยแล้วงิ้งอย่างกับหมา

     

    เรารู้ว่าชานยอลชอบให้เราเป็นแบบนี้

     

    ปากดี เด็กตัวสูงดึงแก้มนิ่มให้ยืดออก จะว่าไปเวลาเขินนี่ก็ชอบทำร้ายร่างกายมนุษย์ฮอบบิทตลอดเลยว่ะ

     

    ไหนลองเรียกชื่อเราอีกครั้งหน่อย

     

    เรียกทำไม ไร้สาระ เด็กตัวสูงพลิกตัวนอนหงายก่อนจะไขว้แขนไว้หลังศีรษะ ไอ้บ้านนอกยันตัวลุกขึ้นเท้าแขนลงกับเตียงพลางมองตาปริบ ๆ ก่อนจะเอาคางเกยแผงอกเขาเหมือนกับลูกหมาขอความเอ็นดูจากเจ้านาย

     

    เรียกนะ ยิ้มให้เราแล้วพูดว่า แบคฮยอนอย่างงี้หมั่นเขี้ยวครับ เมื่อไหร่มันจะเลิกหยุดทำตัวอ้อยสักที ไม่เกรงใจระดับความหื่นกามของกูเลยเวรกรรม

     

    กูไม่เรียก

     

    หูย

     

    ไม่ต้องมาหูย มึงฟินอะไรวะฮอบบิทก็แค่เรียกชื่อ เด็กหนุ่มบีบปลายจมูกรั้นแช่ไว้ ส่วนคนถูกแกล้งพยายามถดหน้าออกแล้วทำท่าจะงับมือเขา

     

    ก็เราอยากเขินอีกอ่ะ

     

    ติงต๊องว่ะ ทีตอนกูจุ๊บปากทำไมไม่เขิน

     

    ก็มันไม่เหมือนกันนี่ อันนั้นเราชินแล้ว ให้จุ๊บอีกทีตอนนี้ก็ยังได้

     

    งั้นไม่ต้องจุ๊บห่าไรทั้งนั้นละ อะไรที่มึงชินกูจะไม่ทำ

     

    ได้ เราชินที่ถูกชานยอลจุ๊บ ชินที่ถูกนอนกอดทุกวัน ชินที่ถูกหอมแก้ม ชินที่ถูกหึงด้วย

     

    ที่มึงพูดมาทั้งหมดเป็นข้อยกเว้น พูดจบก็เขกหัวคนช่างพูดไปทีนึง อะไรที่ขัดใจกูนี่ชอบนักล่ะ

     

    ชานยอลเอาแต่ใจอีกแล้วอ่ะ แล้วจะพูดทำไมเนี่ย

     

    แล้วมึงจะพูดให้กูเสียเซลฟ์ทำไม นี่จะกอดจะจูบแต่ละทีก็ต้องคิดละมึงว่าจะเซ็งป่ะวะ เบื่อป่ะวะ ชินป่ะวะ กูเป็นฝ่ายกระทำพอเห็นปฏิกิริยาตอบรับแบบนั้นจะให้รู้สึกไงไหนบอกดิ๊

     

    ที่บอกว่าชินคือไม่เขินแล้วอ่ะ แต่เราก็ชอบนะ เด็กตัวสูงแค่นหัวเราะแล้วดันหัวอีกคนออกตัวเจ้าตัวกลับยื้อเอาไว้ มาจุ๊บกัน

     

    ไม่มีการจุ๊บอะไรทั้งนั้น อย่ามากวนตีน

     

    อะไรเล่า เราไม่เหมือนชานยอลสักหน่อย

     

    เหมือนอะไร มึงพูดให้ดีนะฮอบบิท เด็กหนุ่มชี้หน้าคาดโทษขู่คนตัวเล็กเพราะเริ่มรู้สึกได้ว่าจะโดนหลอกด่าอีกแล้ว

     

    ชานยอลชอบฉวยโอกาสจุ๊บพร่ำเพรื่ออ่ะ พอเรายอมหน่อยชานยอลก็เริ่มเลื้อยทำท่าเหมือนจะเคลมเรา ดูมันครับ มนุษย์ฮอบบิทสามารถด่าแฟนว่าเหี้ยทางอ้อมออกมาได้อย่างหน้าตาเฉยโดยที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลย

     

    คนโง่ก็ต้องตกเป็นเหยื่อของคนฉลาดอยู่แล้ว ผิดตรงไหนวะ

     

    แต่ชานยอลไม่ได้ฉลาด

     

    เออ กูโง่ มึงก็โง่ สมเป็นคู่รักหน้าโง่อ่ะจริง ๆ ด่ากูได้ด่ากูดี คราวนี้กูด่าตัวเองบ้าง ชานยอลหรี่ตามองคนที่ยังคงเอาคางเกยแผงอกเขา เพียงแค่ครู่เดียวเท่านั้นที่เราสบตากัน ไอ้บ้านนอกก็ซบหน้าลงแล้วพูดอะไรก็ไม่รู้อยู่คนเดียว พอพยายามตั้งใจฟังแล้วก็จับใจความได้ว่า

     

     

    เราโง่ ชานยอลก็โง่ เป็นคนโง่ทั้งสองคนเลยอ่ะ ชานยอลเป็นคนโง่ที่น่ารักมาก ๆ

     

     

    โอเค...กูยอมมึงแล้วฮอบบิท

     

     

    ชานยอลจะไม่ทำงานพิเศษร้านกาแฟแล้วใช่ไหม หลังจากถามจบก็ได้รับคำตอบเป็นการพยักหน้างี้ชานยอลก็ต้องกลับบ้านก่อนเราน่ะสิ

     

    กลับก่อนอะไร ก็กลับพร้อมกันเหมือนเดิมนั่นแหละ

     

    ชานยอลจะรอเราเลิกงานเหรอ

     

    ไม่รอ กูลาออกจากที่ทำงานแล้วมึงก็ต้องออกเหมือนกัน

     

    เอ้า เราลาออกไม่ได้หรอกเดี๋ยวไม่มีเงินหมุน แบคฮยอนส่ายหน้าปฏิเสธ

     

    ไม่มีได้ไง ทำงานสอนพิเศษลูกชายบ้านนี้ทั้งสามคนมึงก็เป็นเศรษฐีมกโพแล้วฮอบบิท

     

    หูย ไม่ได้อ่ะ เรามาอยู่ฟรี ๆ แล้วจะเอาค่าสอนพิเศษอีกไม่ได้ ร่างเล็กขมวดคิ้วพึมพำก่อนจะมองไปทางประตูที่ถูกเคาะจากทางด้านนอก

     

    พี่ชานยอล ผมจัดโต๊ะเสร็จแล้วนะ

     

    เออ เดี๋ยวตามลงไป เจ้าของชื่อตะโกนตอบแล้วหันหน้าเข้าหาคนตัวเล็กอีกครั้ง

     

    ทำไมชานยอลไม่พูดดี ๆ กับน้องอ่ะ

     

    แล้วที่กูพูดมันไม่ดีตรงไหน?

     

    งี้ถ้าชานยอลชวนเราไปกินข้าว แล้วเราตอบกลับมาว่าเออ เดี๋ยวกินแบบนี้ชานยอลจะรู้สึกยังไง

     

    ไม่รู้สึกอะไร เพราะมึงคงไม่พูดแบบนั้น

     

    ไว้เดี๋ยวเราหยาบคายกับชานยอลมั่ง

     

    ไม่อนุมัติ

     

    งี้ทู๊กที

     

    ป่ะ ไปกินข้าว

     

    แบคฮยอนทำหน้าเนือยก่อนจะถูกชานยอลดึงให้ลุกขึ้น คนตัวเล็กปล่อยให้ไททันลากตัวของเขาไปตามเตียงกว้างเหมือนของเล่น และแน่นอนว่าถ้าพูดถึงของเล่นก็ต้องทำให้ยิ้มได้ ชานยอลกำลังยิ้มอย่างอารมณ์ดีหลังจากแกล้งคนตัวเล็กสำเร็จ แบคฮยอนจามเบา ๆ สองครั้งก่อนจะถูปลายจมูกเบา ๆ พอหันกลับมาอีกทีก็เห็นว่าใครอีกคนยืนหันหลังให้

     

     

    แล้วพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่าให้เขาขึ้นไปขี่หลัง

     

     
     

     

     

     

    บนโต๊ะอาหารที่มีอาหารหลายอย่างวางเรียงอย่างสวยงาม ลู่หานกำลังตักข้าวใส่ถ้วยสแตนเลสให้น้องชายคนเล็กที่นั่งทำตาละห้อย เด็กคนนั้นท่าทางจะหิวมากแต่ก็ต้องรอกินพร้อมพี่ชายทั้งสอง

     

    แบคฮยอนนั่งลงข้างชานยอล ส่วนลู่หานนั่งฝั่งตรงข้ามถัดจากเจโน่ เด็กน้อยกัดริมฝีปากบนแล้วมองหน้าพี่ชายคนรองตาปริบ ๆ พอเห็นอย่างนั้นชานยอลเลยเอาช้อนเคาะหัวเบา ๆ

     

    กินดิ รอพ่อมึงมาตัดริบบิ้นเหรอ เจโน่ได้แต่มองหน้าพี่ชายคนรองแล้วคิดในใจว่าเอ๊...พ่อของเขากับพ่อของพี่ชานยอลก็คนเดียวกันไม่ใช่เหรอ

     

    พี่ลู่หานบอกว่าต้องรอพี่กินก่อนผมถึงจะกินได้

     

    สอนกันมาดีเหลือเกิน แบคฮยอนมองสองพี่น้องที่กำลังพยายามสร้างบทสนทนา พอเห็นชานยอลคีบไก่ไปนั่นแหละเด็กน้อยถึงได้กินบ้าง ลู่หานยิ้มขำพลางส่ายหน้าหน่าย ๆ ก่อนจะหันมาทางแบคฮยอนที่ถือช้อนเอาไว้โดยที่ยังไม่ลงมือกิน

     

    เป็นอะไรเหรอ?

     

    เปล่าครับ ผมแค่ยังไม่ชินน่ะ... ร่างเล็กหัวเราะแห้ง ๆ ชานยอลมองคนรักสลับกับพี่ชายต่างแม่ไปมาเพราะฟังภาษาจีนไม่รู้เรื่อง และแบคฮยอนรู้ว่าตอนนี้คนตัวสูงกำลังรอให้เขาอธิบายอยู่

     

    ถ้าจะบอกว่าไม่ให้คิดมากก็คงยากใช่ไหม แต่ไม่เป็นไรนะ พี่ก็เห็นเราเป็นเหมือนน้องชายคนนึง

     

    เสียงของพี่ลู่หานนุ่มจัง เวลาพูดอะไรก็ฟังรื่นหูไปหมดเลย แต่เขาจะไม่เอาไปเทียบกับเสียงแว๊ด ๆ ของชานยอลหรอกนะ รายนั้นห้ามเอาใครไปเปรียบด้วยเด็ดขาดถ้ายังไม่อยากตาย ชานยอลคือที่หนึ่ง ชานยอลคือเดอะเบสท์ แบคฮยอนรู้ว่าเจ้าตัวคิดอย่างนี้

     

    ถ้าพี่ไปอยู่บ้านเพื่อนก็คงไม่ต่างจากเราเหมือนกัน แต่ทำตัวสบาย ๆ เถอะ คิดมากเดี๋ยวปวดหัว ยิ่งไม่สบายอยู่ด้วย

     

    ผมจะพยายาม แต่ถ้าลู่เกออยากใช้ให้ผมทำอะไรก็บอกได้เลยนะ ร่างเล็กทำหน้าจริงจัง ลู่หานเลยพยักหน้ารับเพราะอยากให้คนตรงหน้าสบายใจ

     

    คุยไรกันทำไมไม่ใช้ภาษาเกาหลี นี่มึงสอนกันประสาไร คนขี้หึงมองค้อนทั้งที่ยังเคี้ยวไก่ในปาก แบคฮยอนทำหน้าเหรอหราแล้วหันไปยิ้มให้หนุ่มชาวจีน และนั่นยิ่งทำให้ชานยอลหงุดหงิดเข้าไปใหญ่

     

    เขาพูดว่าไงเหรอ? ลู่หานยังคงถามเป็นภาษาจีน ซึ่งในกรณีนี้ชานยอลจะอนุโลมให้เพราะมันอาจจะฟังไม่รู้เรื่องว่าเขาพูดอะไรเลยเสนอหน้าไปถามไอ้บ้านนอก

     

    เขาถามว่าทำไมเราไม่พูดเกาหลีกันอ่ะ ว่าแต่พี่เคยลองใช้ภาษาเกาหลีคุยกับเขาหรือยัง

     

    ยังเลย ปกติพี่ใช้คุยกับเจโน่น่ะ เพราะน้องพูดภาษาจีนก็ไม่ได้ ส่วนภาษาอังกฤษก็นะ... ลู่หานยิ้มขำพลางลูบหัวน้องชายคนเล็กที่เพิ่งละสายตาจากมื้อเที่ยงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองสมาชิกใหม่ในบ้าน

     

    แล้วพี่กับน้องเจโน่คุยกันรู้เรื่องไหม แบคฮยอนทำตาโต เขากำลังสนใจเรื่องการสื่อสารต่างภาษาของพี่น้องครอบครัวนี้มาก

     

    ก็มีบ้าง ถ้าอันไหนเข้าใจยากเราจะผลัดกันวาดรูปน่ะ ลู่หานเดินไปเอาสมุดวาดภาพที่วางอยู่บนโต๊ะกระจกในห้องนั่งเล่นมาเปิดให้ดู และทุกการเคลื่อนไหวของทั้งคู่อยู่ในสายตาปาร์คชานยอลทั้งหมด และกูกำลังหึง

     

    พี่ลู่หานวาดรูปไม่สวยเลย...โอ๊ะ!” เจโน่พูดทั้งที่ข้าวยังเต็มปากเลยถูกพี่ชายขี้โมโหตบหัวเบา ๆ ไปทีนึง

     

    พี่แกไม่สอนเหรอว่าเวลาข้าวเต็มปากห้ามพูด

     

    ขอโทษครับ... เจโน่ทำหน้าหงอย แต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้นแหละน้องเล็กที่เพิ่งโดนดุก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นเมื่ออยู่ ๆ คนใจร้ายตักอาหารจานที่อยู่ไกลเกินกว่าแขนของเขาจะยืดถึงใส่ถ้วยแยกให้

     

    กินเข้าไป

     

    ขอบคุณครับ

     

    รอยยิ้มของไอ้เด็กเจโน่ทำอะไรปาร์คชานยอลไม่ได้หรอก เขาแกล้งทำหูทวนลมแต่ก็แอบมองน้องชายคนเล็กที่กำลังมีความสุขกับการกิน พอหันไปหาคนข้าง ๆ ที่เอาแต่โม้อยู่นั่นเลยตักซุปใส่ถ้วยแยกให้เพื่อเป็นการบังคับคนป่วยกิน แบคฮยอนหันมายิ้มเหมือนหมาอีกแล้ว และมันเป็นเหมือนข้อบังคับให้ปาร์คชานยอลต้องปั้นหน้านิ่งห้ามแสดงออกเพราะตอนนี้มีพี่น้องนั่งอยู่ด้วย

     

    เดี๋ยวไว้เรามาช่วยสอนพี่ลู่หานพูดเกาหลีด้วยกันนะ แบคฮยอนยิ้มให้เด็กน้อยที่รีบพยักหน้าหงึกอย่างดีใจ ชานยอลแค่นยิ้มแล้วยัดของกินใส่ปากจนแก้มตุ่ยก่อนจะหรี่ตามองไอ้บ้านนอกที่ดูเหมือนว่าตอนนี้จะเข้ากับพี่น้องต่างแม่ของเขาได้แล้วทั้งคู่

     

    ถ้ารู้ว่าโง่ตรงไหนก็ถาม เข้าใจไหม ไอ้นี่มันเรียนเก่ง ชานยอลวางมือลงบนหัวแบคฮยอนแล้วโคลงไปมาจนคนถูกกระทำต้องรีบคว้าข้อมือเอาไว้ เจโน่มองพี่ชายที่เอาแต่แกล้งเพื่อน วูบหนึ่งเด็กน้อยแอบรู้สึกดีที่เขาไม่ได้ถูกเลือกปฏิบัติคนเดียว เพราะพี่ชายคนรองอย่างปาร์คชานยอลก็ทำตัวถ่อยกับทุกคนได้อย่างไม่มีข้อยกเว้น

     

    พี่แบคฮยอนทำกับข้าวเป็นหรือเปล่าครับ

     

    ก็พอได้นิดหน่อยนะ ทำไมเหรอ

     

    ที่นี่ไม่มีใครทำเป็นเลย พวกเราต้องซื้อจากข้างนอกตลอดเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ชานยอลเข้าใจ เพราะก่อนหน้าที่ลู่หานกับเจโน่เข้ามาเขาเองก็ต้องออกไปซื้อข้าวกินตลอดเพราะทำกับข้าวไม่เป็น ส่วนพ่อน่ะไม่ต้องพูดถึง รายนั้นก็กินจากข้างนอกมาก่อนอยู่แล้ว

     

    หมายความว่าอยากให้พี่เป็นคนทำกับข้าวงี้เหรอ แบคฮยอนชี้หน้าตัวเองขณะที่เด็กน้อยกำลังป้องปากกระซิบพี่ชายชาวจีนก่อนจะผละตัวออกมาทำไม้ทำมือประกอบและปิดท้ายด้วยการชี้มาทางเขา

     

    ชานยอลเท้าคางมองมนุษย์ฮอบบิทที่กำลังทำหน้าเป็นกังวลหลังจากได้ยินว่าไอ้เด็กเจโน่อยากให้มันเป็นพ่อครัวประจำบ้าน ซึ่งเรื่องนี้เขาไม่คัดค้านเพราะลึก ๆ ก็อยากกินข้าวฝีมือแฟนดูสักครั้งเหมือนกัน

     

    ดูเหมือนว่าน้องจะอยากลองชิมฝีมือมึงนะฮอบบิท

     

    “เราไม่รู้ว่าจะถูกปากคนบ้านนี้หรือเปล่าน่ะสิ...ถ้าท้องเสียขึ้นมาจะทำยังไงอ่ะ

     

    จะต้องทำไงอีก ก็ต้องออกเงินจ่ายค่ารักษาดิ” แบคฮยอนหันขวับมองคนขี้แกล้งที่นั่งเท้าคางเลิกคิ้วมองเขาอยู่

     

    อะไรอ่ะ ท้องเสียก็ทนเข้าห้องน้ำก่อนไม่ได้เหรอ มันมียาแก้ท้องเสียด้วยนะ ห่อละไม่กี่วอนเอง

     

    ถ้าเกิดมันไม่หายล่ะพ่อ งี้ไม่ต้องวิ่งเข้าห้องน้ำทั้งคืนเลยหรือไง? ไม่รู้ล่ะ ถ้าฝีมือมึงห่วยแตกก็ต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลมา

     

    เอาเปรียบกันชัด ๆ เลยอ่ะ งั้นเราจะทำรามยอนให้กินทุกวันแล้วกันเพราะชานยอลยังไม่เคยท้องเสียจากเมนูนี้

     

    อะไรนะ มึงย้ายมาอยู่ที่นี่แล้วยังกล้าพูดถึงอาหารขยะนั่นอีกเหรอ โห...พูดแล้วขนลุก ชานยอลถึงกับยี๊ทันทีที่พูดถึงเมนูคนจนที่เขาเกลียดนักหนา

     

    ผมชอบกินรามยอน แบคฮยอนยิ้มกว้างหลังจากได้ยินว่าน้องเล็กของบ้านก็ชอบเมนูเดียวกับเขาเหมือนกัน

     

    พี่ก็ชอบนะ ลู่หานพูดเป็นภาษาเกาหลี ซึ่งมันทำให้ชานยอลรู้สึกเป็นส่วนเกินที่นั่งหัวโด่อยู่ตรงนี้โดยที่ไม่มีใครเข้าข้าง

     

    พอหันไปทางมนุษย์ฮอบบิทตอนนี้ก็ยิ่งหมั่นไส้ สีหน้าของมันตอนเดินเข้ามาในบ้านแรก ๆ เป็นยังไงเจ้าตัวคงลืมไปหมดแล้ว ความอึดอัดลำบากใจคืออะไรฮอบบิทไม่รู้จัก ตอนนี้มีเพียงแค่คนบ้านนอกที่กำลังสนุกอยู่กับการพูดคุยกับพี่น้องต่างแม่ของเขา

     

    เด็กหนุ่มไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ ถึงจะหงุดหงิดที่ถูกละความสนใจไปบ้างแต่จะหยวนให้ก็ได้ เพราะความน่ารักของมันทำให้พ่อเอ็นดู และความตรงไปตรงมาอีกทั้งยังอัธยาศัยดีเลยทำให้พี่น้องของเขาสนิทใจที่จะอยู่ด้วย

     

     

     

    60%





     

     

    ฮัดเช้ย!!!”

     

    ท่ามกลางความเบื่อหน่ายของนักเรียนจำนวนหนึ่งในคาบคณิตศาสตร์ถูกคั่นโฆษณาด้วยเสียงจามของคนที่นั่งอยู่หลังห้องมาตั้งแต่คาบแรกและตอนนี้ก็ยังคงทำหน้าที่ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง

     

    มันช่างน่ารำคาญเหลือเกินที่จะฟังเสียงปาร์คชานยอลกับบยอนแบคฮยอนผลัดกันจามเหมือนมีใครเอาขนหน้าแข้งคิมนัมจุนไปแยงจมูกอยู่ตลอดเวลา แต่ก็คิดว่ามันเป็นเรื่องช่วยไม่ได้กับเรื่องจามเพราะไข้หวัด สิ่งหนึ่งที่นักเรียนทั้งห้องอึ้งก็คือคนอย่างปาร์คชานยอลเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นกับเขาด้วยเหรอ

     

    จงอินเอี้ยวตัวหันไปหาเจ้าของเสียงจามก่อนจะเท้าศอกมองกึ่งเห็นใจปนสมเพช บอกตามตรงว่ารำคาญเสียงไอ้สองตัวข้างหลังที่นั่งน้ำตาคลอเพราะจาม ไหนจะผ้าปิดปากที่ดูเหมือนจะหวังดีไม่อยากแพร่เชื้อให้ใครนั่นน่ะ

     

    ไหวเปล่าห่า

     

    ไม่ไหวว่ะ ถ้าเชื้อโรคมีชีวิตกูจะท้าแม่งต่อยซักยก สัดจะเอายังไง ชานยอลบ่นอย่างหัวเสีย นี่กูจามตั้งแต่วินาทีแรกที่อาจารย์เข้าห้องยันปัจจุบัน ถึงจะไม่ได้จามทุก ๆ หนึ่งนาทีแต่มันก็น่าหงุดหงิดป่ะวะ

     

    ฮัดเช้ย!!!” เอาเข้าไป เมื่อกี้ก็ไอ้ชานยอลตอนนี้เป็นคราวของแบคฮยอน เด็กหนุ่มผิวแทนเลิกคิ้วมองเพื่อนสนิทที่รีบดึงทิชชู่ออกมาสองสามแผ่นแล้วยื่นให้คนข้าง ๆ ที่เพิ่งจาม เห็นอย่างนั้นแล้วก็ได้แต่หันไปเบ้ปากกับไอ้เทา

     

    แบคฮยอนดึงผ้าปิดปากไว้ตรงปลายคางแล้วเช็ดน้ำมูกเหมือนกับเด็ก แน่นอนว่าภาพทุกอย่างอยู่ในสายตาของปาร์คชานยอลผู้ซึ่งเป็นห่วงเป็นใยแฟนโดยไม่สำเหนียกดูสภาพตัวเองเลยว่าสาหัสไม่ต่างกัน

     

    ฮัดเช้ย!!!”

     

    ย่าห์!!! สองคนที่นั่งอยู่ข้างหลังน่ะไปนอนห้องพยาบาลเลยไป

     

    เด็กนักเรียนทั้งห้องหันหลังมามองทั้งสองคนอย่างไม่ได้นัดหมายก่อนจะส่งสายตาไล่เพราะรำคาญเหมือนกัน แบคฮยอนทำตาปริบ ๆ ก่อนจะชำเลืองมองคนตัวสูงที่ไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระแล้วลุกขึ้นยืน

     

    พอเห็นว่าไอ้บ้านนอกยังนั่งงงอยู่เลยหิ้วคอเสื้อให้ลุกขึ้นด้วยกัน เด็กตัวสูงโค้งลาอาจารย์หน้าโหดและไม่ลืมที่จะกดหัวคนตัวเล็กให้โค้งลาเช่นกัน จงอินพยักหน้าพร้อมโบกปากกาเป็นเชิงบอกว่าเดี๋ยวโน๊ตไว้ให้ ตอนนั้นชานยอลถึงได้ลากมนุษย์ฮอบบิทออกไปห้องพยาบาลด้วยกัน

     

    นี่เป็นครั้งแรกเลยที่เราโดนเชิญออกจากห้องเรียน

     

    เรียกว่าไล่ดีกว่า

     

    เพราะเราสองคนเอาแต่จาม อาจารย์ก็เลยรำคาญอ่ะ ชานยอลยิ้มก่อนจะมองคนข้าง ๆ ที่เอาแต่พูดโดยที่ผ้าปิดปากยังคงอยู่ที่ปลายคาง เขาล่ะอยากรู้จริง ๆ ว่ามีอะไรบ้างที่ทำให้ไอ้บ้านนอกหงอยเหงาเศร้าซึมได้ เพราะขนาดไม่สบายมันก็ยังทำตัวเหมือนคนปกติ จะต่างหน่อยก็แค่เสียงที่ขึ้นจมูกกว่าเมื่อวาน ซึ่งทั้งเขาและมนุษย์ฮอบบิทต่างก็มีอาการที่เหมือนกันถ้าเราจามคนเดียวก็ไม่ถูกไล่แล้ว

     

    จะโทษว่าเป็นเพราะกูว่างั้น?

     

    ไม่ใช่อย่างนั้น อย่าเข้าใจผิดซี่

     

    มึงชอบพูดให้กูเข้าใจไปในทางนั้นเอง พูดจบก็ผลักหัวคนตัวเล็กเบา ๆ แบคฮยอนสูดน้ำมูกแล้วมองหน้าคนตัวสูงที่หันมามองเขาเป็นระยะขณะเดินลงบันไดไปด้วยกัน

     

    เพราะเมื่อคืนเรานอนกอดกันอ่ะ ชานยอลก็เลยไม่สบาย

     

    งั้นคืนนี้จะไม่กอดแล้วกัน คนขี้งอนพูดเสียงเรียบพลางล้วงกระเป๋ากางเกงอย่างเซ็ง ๆ

     

    จะไม่กอดจริงเหรอ

     

    เออ กูจะให้มึงนอนจามทั้งคืนเลย ส่วนกูก็จะใส่หูฟังหลับอย่างสบายใจ ชานยอลหันไปกระแทกแดกดันใส่คนตัวเล็กที่ทำตาใสราวกับไม่รู้สึกรู้สาอะไรกับประโยคเมื่อครู่

     

    อะไรเล่า เราแค่ไม่อยากให้ชานยอลขาดเรียนคาบนี้เฉย ๆ

     

    เหรอ ก่อนที่มึงจะแสดงความเป็นห่วงเป็นใยช่วยคิดบ้างนะว่ากูจะเฟลหรือเปล่า คนขี้งอนเร่งฝีเท้าเร็วยิ่งขึ้นแบคฮยอนเลยต้องรีบก้าวขาให้ยาวกว่าเดิม

     

    หงุดหงิดว่ะ คนเขาอุตส่าห์อยากโรแมนติกนอนกอดเพื่อที่จะได้ป่วยด้วยกันแต่ดูไอ้บ้านนอกดิ ทำตัวขวางโลกอยู่ได้

     

    แต่คาบคณิตศาสตร์มันยากนี่ ชานยอลยิ่งไม่ฉลาดวิชานี้อยู่ด้วย

     

    จะด่าว่าโง่ก็พูดมาตรง ๆ ก็ได้ฮอบบิท กูชินละ เด็กตัวสูงกลอกตามองบน

     

    เรายังไม่ได้พูดแบบนั้นเลย ไม่ฉลาดมันไม่เหมือนกับโง่ซะทีเดียวนะ ชานยอลลองคิดดูดี ๆ ต่อให้ใช้เวลาทั้งชีวิตมานั่งตีแตกคำถามนี้ปาร์คชานยอลก็ได้คำตอบเดิมอยู่ดีว่ามันเหมือนกัน ไม่ฉลาดกับโง่มันต่างกันตรงไหนวะกูอยากรู้นัก

     

    ถ้ากลัวเสียการเรียนมากมึงก็กลับห้องไปเลยไป เด็กตัวสูงผลักหัวคนช่างพูดให้ถอยออกห่างก่อนจะถูกคว้าข้อมือเอาไว้ แบคฮยอนยิ้มทะเล้นแล้วพุ่งเอาหัวมาชนกับแผงอกเขาไปดิ!!!”

     

    ไม่ เราไม่ไป

     

    กูจะไปนอนขี้เกียจในห้องพยาบาลแล้วปล่อยให้มึงนั่งทำหน้าง่าวเพราะไม่มีคนนั่งข้าง ๆ

     

    ชานยอลเวอร์อีกแล้ว นั่งเรียนคนเดียวไม่เห็นจะเป็นไรเลยอ่ะ

     

    ห่า งั้นก็กลับไปเลยดิ ชานยอลพยายามดันหัวอีกคนออกแต่มนุษย์ฮอบบิทกับยื้อเอาไว้อย่างสุดพลัง

     

    ไม่ เราจะไปนอนขี้เกียจกับชานยอล

     

    พูดมากจริง ที่สภาพกูเป็นแบบนี้เพราะใครวะ เด็กตัวสูงดึงผ้าปิดปากไว้ตรงปลายคางแล้วทอดสายตาไปตามทางเดินยาว พอหันไปหาไอ้คนช่างพูดก็ต้องถอนหายใจเมื่อพบว่ามันยกมือขึ้นจนสุดแขนอย่างภาคภูมิใจว่าเราเอง! เราเป็นคนทำให้ชานยอลเป็นหวัด!’ ยังไงอย่างนั้นคืนนี้มึงลงไปนอนพื้นเลยนะ

     

    ไอ้บ้านนอกยู่ปากทำตาละห้อยมองเขาที่เพิ่งเลื่อนประตูห้องพยาบาลออก ข้างในนั้นเงียบสงบ มีเพียงแค่อาจารย์หนังเหี่ยวคนเดียวเท่านั้นที่นั่งเฝ้าอยู่ ส่วนทางด้านในโล่งมาก มีแต่เด็กผู้หญิงคนเดียวที่นอนหลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงด้านในสุด

     

    อาจารย์ไล่ผมสองคนมานอนครับ

     

    หืม เป็นอะไรมาล่ะ

     

    เป็นหวัดครับ

     

    เป็นพร้อมกันเลยเหรอ? หญิงวัยสี่สิบกว่าขยับแว่นมองเด็กหนุ่มทั้งสองคนที่ใส่ผ้าปิดปากสีเดียวกัน

     

    ถ้าเลือกได้ผมก็อยากให้มันเป็นคนเดียวหรอกจารย์ ชานยอลชำเลืองมองคนตัวเล็กที่ยืนยิ้มเจื่อนอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะใช้นิ้วชี้ดันปลายจมูกตัวเองขึ้นเหมือนหมู ห่าเอ๊ย! เวลาแบบนี้ยังจะมาน่ารัก! ผมขอยาลดไข้ด้วยนะครับ

     

    นี่ไม่ได้หาเรื่องมาแอบนอนอู้เพราะเมื่อคืนเล่นเกมดึกใช่ไหม? เธอลุกจากเก้าอี้แล้วเดินไปเปิดตู้ยา ระหว่างนั้นก็หันมาทางเด็กสองคนที่มีส่วนสูงต่างกันอย่างสงสัย

     

    ผมไม่ได้เล่นเกมนะครับครู

     

    ใช่ หน้าอย่างนี้เล่นแคนดี้ครัชในมือถือเป็นก็บุญหัวแล้ว ชานยอลกระตุกผมแกล้งคนข้าง ๆ แบคฮยอนพยายามจะดึงมือใหญ่ออกแต่ไม่เป็นผล ชานยอลยังคงตั้งหน้าตั้งตาแกล้งเขาต่อไปอย่างไม่ลดละ

     

    เราเจ็บ

     

    เบา ๆ เอง แค่นี้ทำสำออยเหรอฮอบบิท

     

    อะแฮ่ม!!!”

     

    เสียงกระแอมไอทำเอาเด็กหนุ่มทั้งสองคนค้างอยู่ท่านั้น แบคฮยอนเอี้ยวศีรษะออกจากมือคนขี้แกล้งก่อนจะจามซะเสียงดัง พอเห็นอย่างนั้นชานยอลเลยหันซ้ายขวาลนลานหาทิชชู่ให้

     

    ผมขอนะจารย์ ปากเหมือนขออนุญาตแต่มือหยิบเอาม้วนทิชชู่มาแล้ว ครูประจำห้องพยาบาลขมวดคิ้วอ้าปากค้างมองเด็กตัวสูงที่กำลังดึงกระดาษทิชชู่ให้แล้วก้มหน้ามองคนตัวเล็กกว่าที่กำลังทำท่าว่าจะจามอีกครั้งอย่างเป็นห่วงเป็นใย ขัดจากเมื่อครู่นี้ที่เจ้าตัวเอาแต่แกล้ง

     

    นี่ยาลดน้ำมูกกับยาลดไข้ กินแล้วจะง่วงหน่อย พอเลิกเรียนแล้วครูจะเข้าไปปลุก

     

    ขอบคุณมากครับครู แบคฮยอนโค้งหัวเต็มองศาแล้วรับยามาก่อนจะหันไปทางขวา ตอนนี้ชานยอลตรงไปทางตู้น้ำพร้อมแก้วพลาสติกสองใบในมือ

     

    อย่าลืมลงชื่อไว้ด้วยล่ะว่ามานอนตั้งแต่กี่โมง

     

    ครับ เด็กทั้งสองคนขานตอบเบา ๆ เพราะไม่อยากให้เด็กสาวที่นอนอยู่บนเตียงด้านในสุดต้องตื่น

     

    ร่างเล็กถูปลายจมูกพลางเดินเข้าไปทางด้านในที่มีเตียงสีขาวเรียงกันเป็นแถวยาวทั้งสองฝั่ง อยู่ ๆ เด็กสาวคนนั้นก็ลุกขึ้นนั่งแล้วมองมาทางนี้ด้วยสายตาคาดโทษก่อนที่เธอจะกระชากผ้าม่านออกมาบังเตียงตัวเอง

     

    แบคฮยอนยืนนิ่ง สงสัยผู้หญิงคนนั้นคงหงุดหงิดเพราะเสียงคุยกันเมื่อกี้แน่เลย รู้สึกผิดจังอ่ะ แต่ถ้าให้เดินเข้าไปบอกว่าขอโทษนะ เมื่อกี้ไม่ได้ตั้งใจจะเสียงดังเลย ก็กลัวว่าจะโดนเธอฆ่าเอา

     

    ไปมุมนั้น แบคฮยอนเซไปข้างหน้าเล็กน้อยเพราะถูกอีกคนดันหลัง ร่างเล็กขึ้นไปนั่งบนเตียงด้านในสุดของฝั่งซ้ายแล้วรับแก้วน้ำมาถือไว้ กินซะ

     

    แล้วชานยอลล่ะ

     

    เดี๋ยวกูกินตาม

     

    เราไม่เชื่อ เมื่อเช้าชานยอลก็ไม่ได้กินยา เรารู้ แบคฮยอนหรี่ตาจับผิดคนตรงหน้าที่กำลังกลอกตาไปมา

     

    กูกินแล้วแต่มึงไม่เห็นเอง

     

    ไม่เชื่อ กินให้เราดูเลย พูดจบก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ๆ

     

    เด็กตัวสูงนั่งนิ่งจากสายตากดดัน ซึ่งมันถูกอย่างที่ไอ้บ้านนอกพูดไปทั้งหมดนั่นแหละว่าเขาไม่ได้กินยา แล้วก็ไม่อยากกินด้วย ยามันขมจะตายห่าและเขาไม่ต้องการที่จะให้ของแบบนี้เข้าไปในร่างกาย แต่ถ้าถามว่าแล้วมึงบังคับให้แบคฮยอนกินทำไม ปาร์คชานยอลก็จะหัวเราะแล้วตอบด้วยเหตุผลหล่อ ๆ ว่ากูเป็นแฟนมัน

     

    มึงก็กินไปดิ

     

    ไม่เอาอ่ะ พอเรากินยาแล้วดื่มน้ำตามอย่างนี้ ชานยอลก็จะแอบเอายาไปทิ้ง มนุษย์ฮอบบิททำท่ายกแก้วขึ้นดื่ม เห็นอย่างนั้นแล้วก็ได้แต่ขยับปากบ่นอุบอิบ นี่อยู่กับมันมาไม่กี่เดือนเองป่ะวะ ทำไมไอ้บ้านนอกมันอ่านใจเขาออกได้อย่างทะลุปรุโปร่งแบบนี้งั้นมากินพร้อมกัน

     

    อะไร เด็กตัวสูงมองคนตัวเล็กที่แบมือออกมาออกมาตรงหน้าเขา

     

    ผลัดกันป้อน เราจะได้เห็นว่าชานยอลกินยาแล้วจริง ๆ

     

    โธ่มึง กินเฉย ๆ กูก็ทำได้ไม่ต้องถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง

     

    นี่! ตรงนั้นน่ะช่วยคุยกันเบา ๆ หน่อยได้ไหม? ทั้งสองคนนั่งกริบทันทีที่ได้ยินเสียงเด็กสาวจากฝั่งนั้นตะโกนมา ชานยอลเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มแล้วหันกลับไปสู้สายตากับเพศที่อ่อนแอกว่าก่อนจะกระชากผ้าม่านมาบังเพื่อโชว์เหนือ

     

    ผู้หญิงนี่ขี้บ่นทุกคน

     

    ไม่ใช่แค่ผู้หญิงนะ ชานยอลก็ด้วย

     

    มึง -_-”

     

    ขอโทษอ่ะ แบคฮยอนอมยิ้มแล้วรีบเม้มปากทั้งที่ยังแบมืออยู่อย่างนั้น ชานยอลดุคนตัวเล็กทางสายตาอยู่แค่ครู่เดียวแล้วใช้จังหวะนั้นทำใจด้วย เขาจะต้องกินยาจริง ๆ เหรอ ไม่ได้งอแงนะเว้ยแต่ไม่ชอบก็เลยไม่อยากกิน

     

    อ้าปากดิ

     

    ชานยอลด้วย

     

    เออรู้แล้ว พอได้ยินคำตอบคนตัวเล็กก็อ้าปาก แล้วดูสายตามันที่มองมาดิ มีความสุขมากไหมกับการบังคับคนอื่นให้กินยาเนี่ย กูใส่ยาเข้ามาก่อนไม่ได้ โดนลิ้นแล้วมันขม

     

    งั้นชานยอลก็รีบดื่มน้ำตามสิจะได้ไม่ขมอ่ะ

     

    ไม่ได้เว้ย กูต้องอมน้ำไว้ก่อนแล้วค่อยใส่เข้าปากได้...แต่เดี๋ยวนะ ชานยอลขมวดคิ้วแล้วยกมือปรามหลังจากนึกขึ้นได้ว่าเขาเอาแต่พูดอม กับใส่  อยู่สองสามหนแล้ว

     

    งั้นเราจะกินวิธีเดียวกับชานยอล แบคฮยอนไม่รอให้เสียเวลา ร่างเล็กอมน้ำไว้เต็มกระพุ้งแก้มแล้วทำปากจู๋รอให้อีกคนเอายาใส่ในปากให้

     

    ปาร์คชานยอลถึงกับเครียด ไอ้บ้านนอกมันจะยัดเยียดให้เขากินยาจนได้เลยสินะ ให้ตายเถอะตั้งแต่เด็กจนโตเคยมีความทรงจำอยู่กับการกินยาแค่ไม่กี่หน ซึ่งนั่นก็จำใจกินเพราะถูกแม่บังคับ พอโตขึ้นทำอะไรเองเป็นก็ตรงดิ่งไปหาหมอเลย ฉีดยาเข็มเดียวรู้เรื่อง นอนซมไปเถอะรอให้หายเอง

     

    เด็กหนุ่มยัดยาเข้าปากคนที่ทำปากจู๋รอนานแล้ว แต่ก็ต้องผงะถ่างขาออกกว้างเพราะน้ำในปากไอ้บ้านนอกมันพุ่งออกมา มือเล็กยกขึ้นตะปบปากตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้นรีบกลืนยาก่อนจะล้มลงไปนอนขำบนเตียง

     

    หัวเราะบ้าไร

     

    ชานยอลตลกอ่ะ ตอนเราทำน้ำพุ่งใส่ถึงกับทำหน้าเหวอเลย

     

     

     

    ตึง!!!

     

     

     

    เราทำน้ำ...พุ่ง...ใส่...

     

    น้ำ...พุ่ง...ใส่...

     

     

    ชานยอลเป็นอะไรเหรอ

     

    เด็กตัวสูงปั้นหน้านิ่งไม่ตอบคำถามก่อนอมน้ำไว้ในปากแล้วยัดยาตาม เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ปาร์คชานยอลกินยาได้เร็วที่สุด เขายังรู้สึกละอายใจที่ในหัวมีแต่คำว่าอม ใส่ ทำน้ำพุ่งใส่ อยู่เต็มไปหมด

     

    นอนได้แล้ว

     

    ไอ้บ้านนอกพยักหน้าหงึกก่อนจะถอดแว่นวางไว้บนโต๊ะข้างเตียงแล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงคอ ขาสั้น ๆ นั้นก็งอเข้าหาตัวเพราะความหนาวเหน็บจากพิษไข้ เด็กหนุ่มทั้งสองคนหันหน้าเข้าหากันโดยที่ไม่พูดอะไรอีก แบคฮยอนดึงผ้าปิดปากขึ้นแล้วปล่อยให้สายตาทำงานและชานยอลเองก็เช่นกัน

     

    ข้างนอกฝนตกอีกแล้วทั้งที่เพิ่งหยุดไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมง แต่จากสถานการณ์ที่เป็นอยู่มันกลับโรแมนติกขึ้นมาได้อย่างน่าประหลาด เสียงฝนที่ตกลงมาอย่างหนักกับเสียงจามที่มาเป็นระลอก ยาลดน้ำมูกออกฤทธิ์ช้าหรือเพราะอะไรที่ทำให้เราเอาแต่นอนจ้องตากันอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่มีใครยอมหลับพักผ่อน

     

    เวลาผ่านไปกี่นาทีก็ไม่รู้ ตอนนี้กลายเป็นคนตัวเล็กแล้วล่ะที่มองชานยอลอยู่ฝ่ายเดียว เพราะผู้ชายคนนั้นหันไปสนใจกับสมาร์ทโฟนแทนแล้ว แบคฮยอนเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าอาการน้อยใจเพราะแฟนสนใจอย่างอื่นมากกว่าตัวเองมันเป็นยังไง ลองจามเบา ๆ เรียกร้องความสนใจก็แล้วแต่ชานยอลก็ยังสนใจแต่มือถืออยู่ดี

     

    ร่างเล็กเลิกคิ้วเมื่ออยู่ ๆ คนตัวสูงก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วแหวกผ้าม่านที่ปิดเพียงแค่ครึ่งเดียวออกไป พอเห็นอย่างนั้นเลยลุกขึ้นนั่งพลางชะโงกหน้ามองแต่ก็ไม่เห็น เพียงแค่ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้นที่แบคฮยอนจมอยู่กับความสงสัย ผู้ชายที่เอาแต่สนใจมือถือจนลืมแฟนก็เดินกลับมาพร้อมกับผ้าห่ม

     

    ลุกขึ้นมาทำไม แบคฮยอนควรจะตอบยังไงดีล่ะ ก็ใครจะไปนอนหลับถ้าเห็นกับตาว่าชานยอลเดินไปจากตรงนี้ ร่างเล็กส่ายหน้าแล้วเอนตัวนอนลงทั้งที่ยังไม่ละสายตาจากอีกคน

     

    ชานยอลห่มผ้าทับลงมาอีกผืนพร้อมจัดแจงให้เป็นอย่างดี แบคฮยอนสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นที่มาจากความรู้สึกของคนตัวสูงซึ่งมันมาจากความใส่ใจอีกทั้งมือใหญ่ที่ช้อนศีรษะเล็กไว้เพื่อจัดหมอนให้สูงขึ้นเล็กน้อยนั่นอีก

     

    ทำอะไรเหรอ

     

    ในเน็ตบอกว่าจัดหมอนให้สูงกว่าเดิมนิดหน่อยจะทำให้หายใจสะดวกขึ้นแบคฮยอนยังคงไม่ละสายตาจากใบหน้าของอีกคน

     

    ทั้ง ๆ ที่ชานยอลคาดผ้าปิดปากไว้ครึ่งนึงแท้ ๆ แต่ทำไมถึงได้ดูหล่อขึ้นมาเป็นเท่าตัวเพียงแค่ผู้ชายคนนี้แสดงออกถึงความเอาใจใส่ นี่เหรอที่เขาบอกว่าการกระทำหล่อแล้วอย่างอื่นจะหล่อตามเอง

     

    ที่เล่นมือถือเมื่อกี้คือดูอันนี้อยู่เหรอ

     

    อืมเสียฟอร์มชะมัด ปาร์คชานยอลไม่เคยทำแบบนี้กับใครมาก่อนเลยสาบานได้ ตัวเองยังไม่ดูแลแล้วประสาอะไรกับคนอื่น แต่เพราะไอ้บ้านนอกนั่นแหละ...ถ้ามันไม่ทำหูตกเหมือนหมาหงอยแบบนั้นเขาก็คงไม่เป็นห่วงหรอก

     

    เด็กตัวสูงชะงักมือเมื่อร่างเล็กยืดตัวขึ้นมาจุ๊บเขาผ่านผ้าปิดปาก แบคฮยอนยิ้มตาหยีแล้วนอนลงอย่างอารมณ์ดี ซึ่งมันเป็นเรื่องเหนือความคาดหมายสำหรับคนที่ตั้งใจอยากดูแลแฟนอย่างเขา ถามว่าจูบกันมาแล้วกี่ครั้งก็คงนับไม่ได้ แต่ครั้งนี้มันทำให้เขินอย่างบอกไม่ถูกทั้ง ๆ ที่ปากเราแทบจะไม่ได้แตะกันจริง ๆ เลยด้วยซ้ำ โชคดีที่ตอนนี้ใส่ผ้าปิดปากอยู่ไม่อย่างนั้นไอ้บ้านนอกคงได้เห็นสีหน้าของปาร์คชานยอลที่กำลังแดงเห่อแน่

     

    นอนได้แล้ว พอเลิกเรียนจะพากลับไปคุยกับป้าเจ้าของหอแล้วเก็บของสำคัญกลับบ้านกัน

     

    รับทราบ

     

    เด็กหนุ่มยิ้มแล้วหันซ้ายขวาก่อนจะก้มลงไปจุ๊บเหม่งคนขี้อ้อน ทั้งที่มีผ้าม่านกั้นอยู่แต่ยังไงที่นี่ก็คือโรงเรียน การที่เขาจะแสดงความรักกันที่นี่มันไม่ใช่เรื่องปกติ เพราะฉะนั้นจะทำอะไรก็ต้องระวังหน่อย

     

     

     

     
     

    ฟ้ามืดลงตามกาลเวลาและให้แสงสว่างจากหลอดไฟทำหน้าที่แทน บนถนนชื้นแฉะยังคงมีรถวิ่งผ่านและบนฟุตปาธก็เช่นกัน เด็กหนุ่มสองคนเดินกางร่มคนละคันมาถึงสถานที่คุ้นเคยคือร้านสะดวกซื้อที่แบคฮยอนเพิ่งเข้าไปคุยเรื่องขอลาออก และร้านกาแฟที่ชานยอลแวะเข้าไปทักทายพนักงานพร้อมโค้งหัวให้กับหญิงสาวรุ่นพี่อย่างโบรา ทุกคนยังเอ่ยทักทายด้วยรอยยิ้มแม้ว่าเขาจะลาออกไปแล้ว

     

    เด็กหนุ่มสั่งโกโก้ร้อนสองแก้วแล้วยืนคุยอยู่หน้าเคาน์เตอร์ระหว่างรอไอ้บ้านนอกจัดการเรื่องงานพิเศษ พอทุกอย่างเรียบร้อยขายาวก็กางร่มข้ามถนนไปฝั่งนั้นแล้วยื่นถุงกระดาษที่มีแก้วโกโก้ร้อนอยู่ข้างในให้

     

    ทั้งสองคนเดินเข้าไปในตรอกเพื่อตรงไปยังบ้านพักที่เคยอยู่ด้วยกัน ไม่มีใครพูดอะไรและไม่มีใครถามออกมาว่าทำไม เพราะทั้งคู่ต่างก็รู้สึกไม่ต่างกันที่จะต้องย้ายออกจากที่แห่งนี้ ที่ ๆ เต็มไปด้วยความทรงจำ

     

    แบคฮยอนอยู่ชั้นล่างสุดกับคุณป้าเจ้าของบ้านส่วนเขาขึ้นไปเก็บของส่วนที่เหลือให้ซึ่งก็มีไม่มากนัก ตู้เย็นทีวีคงต้องฝากเอาไว้ก่อนแล้วค่อยบอกให้ลู่หานเอารถมาช่วยขนกลับไปที่บ้าน

     

    ขายาวหยุดยืนอยู่กลางห้องแล้วกวาดสายตาไปรอบตัว ที่นี่เคยเป็นห้องสี่เหลี่ยมโง่ ๆ ที่เขากะจะใช้เป็นที่หลบภัยสักพักตอนหนีออกจากบ้าน โดยที่ไม่รู้เลยว่าในวันนี้มันจะกลายเป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวมากมาย

     

    เปิดประตูออกแล้วมองไปยังรั้วที่ถูกทาสีใหม่ก่อนจะหยุดสายตาอยู่กับม้านั่งชิงช้าซึ่งเมื่อก่อนมันเคยเป็นสนิมจนไม่อยากเดินเข้าไปใกล้ ไม่รู้ว่าเมื่อก่อนมันเคยเป็นสีไหนแต่ตอนนี้มันกลายเป็นสีขาวดูสะอาดตาแล้ว

     

    เด็กหนุ่มถอนหายใจเบา ๆ ขณะที่สายตายังคงไม่ละออกห่างจากม้านั่งชิงช้าตัวนั้น รู้สึกโหวงเพียงแค่มองมันเปียกฝนที่ตกลงมาอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดง่าย ๆ ราวกับว่าถ้าม้านั่งชิงช้ามันมีชีวิต...มันคงกำลังร้องไห้แล้วบอกกับเขาว่าไม่ไปได้ไหม?

     

    ยังจำวินาทีแรกที่ก้าวเข้ามาในนี้ได้ ทุกอย่างติดลบไปหมดแม้กระทั่งความรู้สึกที่มีต่อเจ้าของบ้าน ชานยอลยิ้มขำเมื่อนึกไปถึงเหตุการณ์เปลี่ยนหลอดไฟที่ทำให้เขากลายเป็นโรคไอ้บ้านนอกโฟเบียไปโดยปริยาย

     

     

    อีกทั้งความทรงจำอีกมากมายที่ทำให้รู้สึกใจหาย ถ้าหากว่าเขาจะไม่ได้กลับมาที่นี่อีก

     

     
     

     

     
     

    ฝนซาลงบ้างแล้วแต่ถ้าเดินตัวเบาแบบไม่กางร่มก็คงเปียกได้เหมือนกัน แบคฮยอนฝากจักยานไว้ก่อนเพราะช่วงนี้เข้าหน้าฝนแล้วคงปั่นไปโรงเรียนไม่ได้ ถ้าวันไหนฝนไม่ตกเขาจะมารับมันย้ายไปอยู่บ้านใหม่ด้วยกัน

     

    ชานยอลถือกรอบรูปที่ถูกห่ออย่างดีไว้ข้างตัว ส่วนแบคฮยอนถือตุ๊กตาหน้าโง่ที่เจ้าตัวบอกว่าคงไม่มีอะไรกอดแล้วหลับสบายเท่าตุ๊กตาตัวนี้อีกแล้ว พอได้ยินอย่างนั้นก็อยากจะแอบเอามันไปเผาทิ้งจริง ๆ

     

    คุณป้าเจ้าของหอไม่อยากให้เราย้ายออก แต่ท่านก็เข้าใจนะ

     

    แล้วบอกป้าแกไปว่าไง

     

    เราบอกว่าไว้จะแวะมาเยี่ยมบ่อย ๆ ป้าก็โอเค

     

    ได้กอดลากันไหมล่ะ

     

    กอดสิ ป้ากอดแล้วก็ลูบหัวเรา คนตัวเล็กพูดจ้อเจื้อยพร้อมทำท่าประกอบแม้ว่ามืออีกข้างยังคงถือร่มเอาไว้

     

    รักกันเหลือเกิน

     

    มากอ่ะ ชานยอลก็ต้องรักเราให้มาก ๆ เหมือนที่คุณป้าเจ้าของบ้านรักเรานะ คนช่างพูดยังคงฮุคหมัดตรงเก่งเสมอ

     

    ชานยอลชำเลืองมองคนตัวเล็กที่จามอีกแล้ว ถึงจะอาการดีขึ้นมาหน่อยหลังจากได้นอนพักในห้องพยาบาล แต่การโดนละอองฝนนาน ๆ แบบนี้คงไม่ดีแน่

     

    ใส่ฮู๊ดด้วย ต้องให้บอกกี่ทีเนี่ย

     

    ลืมไปเลย แบคฮยอนไม่ได้เถียงแต่กลับรีบเอาแขนอีกข้างหนีบตุ๊กตาไว้แล้วดึงฮู๊ดขึ้นสวมอย่างไม่รีรออีกสองอาทิตย์ก็จะสอบแล้ว ชานยอลต้องอ่านหนังสือนะ

     

    รู้แล้วน่า

     

    เราเป็นห่วง อยากให้ชานยอลได้คะแนนดี ๆ

     

    ถ้าเป็นห่วงก็ติวให้ดิ

     

    ได้ งั้นเริ่มกันอาทิตย์นี้เลยนะ ส่วนชานยอลก็ติวภาษาอังกฤษให้เราด้วย เด็กตัวสูงเลิกคิ้วขึ้นทันทีที่เห็นคนตัวเล็กกำหมัดมาทางนี้ชกมือสัญญากัน

     

    ไปจำวิธีนี้มาจากไหน ชานยอลยิ้มขำพร้อมกอดกรอบรูปไว้แล้วใช้มือข้างนั้นถือร่มก่อนจะกำหมัดชกมือกลับไปเบา ๆ

     

    จงอินสอนเราว่าเวลาสัญญาต้องทำอย่างนี้

     

    ไปแอบคุยกันตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมมีสัญญงสัญญาด้วย

     

    ก็คุยตอนที่ชานยอลไม่อยู่ เราสองคนรวมหัวกันนินทาชานยอล

     

    เหรอ นินทาว่าไงบ้างล่ะ

     

    ถ้าเล่าให้ฟังแบบนั้นจะเรียกว่านินทาได้ไงอ่ะ เราไม่บอกชานยอลหรอก เราชกมือกับจงอินแล้ว แบคฮยอนทำท่าชกมือไปข้างหน้า

     

    นินทาว่าแย่แล้ว แต่นี่ยังกล้ามีความลับกับแฟนอีก ใช้ได้ที่ไหนวะฮอบบิท

     

    คนที่ผิดสัญญาก็ใช้ไม่ได้เหมือนกัน

     

    จ้า พ่อคนรักษาสัญญาเก่ง ชานยอลแค่นหัวเราะแล้ววางมือลงบนศีรษะอีกคนก่อนจะโคลงไปมาเบา ๆ

     

    แถวนี้มืดจังเลยอ่ะ

     

    ระวังตกหลุมล่ะ

     

    ตรงนี้มีหลุมด้วยเหรอ? ร่างเล็กเลิกคิ้วค่อย ๆ ก้าวอย่างระมัดระวังก่อนจะชะงักไปเพราะถูกอีกคนจับมือ

     

    หลุมรักน่ะ

     

    ไม่คิดเลยว่าชานยอลจะกล้าเล่นมุกทั้งที่ฝนกำลังตกแบบนี้ ชานยอลไม่กลัวฟ้าผ่าหรือไงนะ แถมยังยักคิ้วใส่อีก ท่าทางเจ้าตัวคงจะภูมิใจเอามาก ๆ เลย

     

    แต่ถึงมุกเมื่อกี้จะเลี่ยน แต่การจับมือกันท่ามกลางสายฝนโดยมีร่มคนละคันมันก็ดีไปอีกแบบนะ

     

    หลุมใหญ่จัง

     

    ใช่ ยิ่งตัวเตี้ย ๆ แบบนี้ยิ่งปีนหนีไม่ได้

     

    แย่เลยอ่ะ เราคงติดอยู่ในหลุมนั้นไปตลอดชีวิตแหง ๆ แบคฮยอนก้มหน้าอมยิ้มก่อนจะชำเลืองมองคนตัวสูง

     

    ชานยอลยิ้มอย่างอารมณ์ดีแม้ว่าสายตาจะเอาแต่ทอดมองไปตามทางเดินเท้า เขาจะไม่ยอมให้มนุษย์ฮอบบิทรู้เด็ดขาดว่ากำลังยิ้มอยู่ วันนี้ปาร์คชานยอลใช้ผ้าปิดปากได้คุ้มเลยทีเดียว

     

    แขนเสื้อของทั้งคู่เปียกชุ่ม แต่ไอร้อนจากมือของอีกฝ่ายทำให้ร่างเล็กรู้สึกอบอุ่นแม้ว่าบรรยากาศโดยรอบจะชื้นไปด้วยน้ำฝน มือใหญ่ที่เคยจับอยู่ฝ่ายเดียวค่อย ๆ คลายออกเมื่อคนตัวเล็กขยับเรียวนิ้วเปลี่ยนเป็นสอดประสานกันในวินาทีถัดมา

     

    ผู้คนยกกระเป๋าขึ้นเป็นกำบังต่างรีบวิ่งฝ่ากระแสฝนมุ่งไปตามจุดหมาย บางคนเลือกที่จะเปียกเพื่อปกป้องกระเป๋า หากแต่ไม่มีใครสนใจว่าเด็กผู้ชายสองคนกำลังเดินจับมือกันท่ามกลางสายฝนแบบนี้ ทั้งคู่แกว่งมือเล่นเหมือนเด็ก ๆ แบคฮยอนรู้สึกดีที่จะเดินกลับบ้านแทนที่จะเรียกแท็กซี่หรือนั่งรถเมล์

     

    แบคฮยอนชอบเดิน ถ้าหันไปข้างตัวแล้วเจอปาร์คชานยอล

    แบคฮยอนชอบง้อ ถ้าคนขี้งอนคือปาร์คชานยอล

    แบคฮยอนชอบโลกสีแดง ถ้าคนขี้โมโหคือปาร์คชานยอล

    แบคฮยอนชอบที่จะเป็นคนตัวเตี้ย ถ้ามันทำให้เขาได้อยู่ในอ้อมกอดของปาร์คชานยอล

     
     

    และแบคฮยอนชอบทุกอย่าง...ถ้ามันทำให้โลกของเขาเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตที่ชื่อว่าปาร์คชานยอล

     
     

    รักชานยอลจัง

     

    หืม อารมณ์ไหน?

     

    อารมณ์อยากบอกรัก คนตัวเล็กขยับเข้าไปเดินใกล้อีกคนมากยิ่งขึ้น ชานยอลยิ้มบาง ๆ ก่อนจะสอดประสานเรียวนิ้วให้แน่นยิ่งขึ้นจนไม่เหลือช่องว่าง

     

    เด็กหนุ่มสบตากับคนที่กำลังมองมาอย่างคาดหวังว่าจะได้คำตอบที่เหมือนกัน และแน่นอนว่าปาร์คชานยอลคงไม่ปล่อยให้มนุษย์ฮอบบิทส่งสายตาแบบนั้นนานเกินไปกว่านี้ ขายาวหยุดยืนกับที่แล้วหันหน้าเข้าหาคนตัวเล็กกว่าก่อนหันซ้ายหันขวาพร้อมดึงผ้าปิดปากของตัวเองลง

     

    แบคฮยอนกระพริบตาปริบ ๆ เมื่อคนตัวสูงโน้มใบหน้าลงมาจูบผ่านผ้าปิดปากที่คั่นกลางเอาไว้เหมือนกับตอนกลางวันที่เขาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน ในทีแรกคิดว่าคงจะเป็นจูบธรรมดาที่บางทีชานยอลอาจจะแค่อยากแกล้งเอาคืนหรือทำให้บรรยากาศตอนนี้หวานขึ้น

     

     

    แต่เปล่าเลย...

     

     

    เพียงแค่เสี้ยววินาทีเดียวเท่านั้นที่คนตัวสูงผละออก ผ้าปิดปากของเขาที่เคยเป็นอุปสรรคก็ถูกดึงลงไปกองที่ปลายคางเสียแล้ว ชานยอลเลื่อนใบหน้าเข้ามาจูบอีกครั้งโดยไม่เปิดโอกาสให้แบคฮยอนได้ปริปากพูดสักคำ

     

    มือของเรายังคงถือร่มไว้เหมือนในทีแรก ร่างเล็กเพียงแค่ยืนนิ่งแล้วปล่อยให้อีกคนขบริมฝีปากล่างของเขาเบา ๆ ก่อนจะแทรกลิ้นเข้ามาในโพรงปาก

     

    จูบของชานยอลชวนให้เคลิ้มได้ง่าย ๆ แบคฮยอนคิดอย่างนั้น มันทั้งอ่อนโยนและร้อนแรงในคราวเดียวกัน เขากำลังใจเต้นแรงกับสิ่งที่เป็นอยู่ทั้ง ๆ ที่เคยคิดว่าชินกับจูบของผู้ชายคนนี้แล้ว ชานยอลไม่ได้จูบเล่น ๆ เพราะลิ้นร้อนเริ่มกระหวัดหยอกล้ออย่างซุกซน

     

    คนตัวสูงผละริมฝีปากออกอย่างอ้อยอิ่งก่อนจะกดจูบซ้ำเป็นครั้งสุดท้าย ร่างเล็กไม่แน่ใจว่าที่รู้สึกร้อนจนแทบระเบิดเป็นเพราะพิษไข้หรือพิษจูบของผู้ชายคนนี้กันแน่ แบคฮยอนปรือตามองคนตัวโตที่กำลังยิ้ม พร้อมกับกระซิบข้างหูบอกอะไรบางอย่างที่ทำให้รู้สึกอุบอุ่นไปทั้งหัวใจ

     

     

    รักเหมือนกัน

     

     

     

    TBC

     

    ห่างหายไปนาน ขออภัยจริง ๆ ค่า

     

     FANART by คุณ @blueharo21 ขอบคุณมากเลยนะคะ น่ารักมาก ๆ >< 






    ส่วนอันนี้ FANART จากคุณ @IKOOP จ้า น่ารักมาก ตัวเองก็ไม่สบายแต่ก็เป็นห่วงเค้า kkkkkkkkkkk


    ฮอบบิทผู้หลงใหลในกลิ่นหอมของผ้าห่มไททัน FANART นี้จากคุณ @IKOOP อีกเช่นกันค่าาา 




    มาอีกรูปสำหรับ FANART จุ๊บ ๆ ท่ามกลางสายฝน By คุณ @Fonlaung_NRW จ้า

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×