ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ZOMBIES HARD CREEPER | KAIHUN CHANBAEK FT.EXO

    ลำดับตอนที่ #44 : Chapter 41 :: Liveliness

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 12.87K
      122
      17 ก.พ. 57

    ? Tenpoints!

     

     

     

    Chapter 41

    Liveliness

     

     
     

     

    ครืน...

    รถจอดตรงหน้าทางเข้าย่านแฟชั่นสตรีทเล็ก ๆ ที่ก่อนหน้านี้คงเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตสำหรับวัยรุ่นเพราะสังเกตได้จากซากศพที่เดินป้วนเปี้ยนอยู่เป็นจุด ๆ แม็คโดนัลที่อยู่ข้างขวาเต็มไปด้วยผีเด็กแก่เรียนกับผีนักติวเตอร์ที่กำลังตะกุยตะกายกระจกบานใสเมื่อเห็นรถของเขาจอดลง จงอินพยักหน้าบอกให้ทุกคนลงจากรถแล้วอีกสามคนก็เดินตามลงมา

    นิ้วเรียวยาวชี้พิกัดไปทางซ้ายและลู่หานก็เดินตรงไปอย่างรู้งานพร้อมกับมีดแล่ปลาปลายแหลมที่ค้นเจอในครัว ร่างโปร่งเลิกคิ้วขึ้นสูงหลังจากแทงเข้าที่หัวตัวกินคนได้อย่างง่ายดาย ก้มลงมองอาวุธในมือแล้วก็หันไปยิ้มพอใจให้กับเด็กน้อยอายุสิบแปดทั้งสองคนที่ยืนมองอยู่ข้างหลังกับผลงานเมื่อครู่

    เข้าท่าเว้ย

    ลู่หานครับ ข้างหน้าคุณน่ะ เซฮุนชี้ไปยังเด็กสาวในชุดนักเรียนที่กำลังเดินโซซัดโซเซมาทางนี้ ลู่หานยกยิ้มพอใจแล้วแทงเข้าปากที่อ้ากว้างของอีกฝ่ายก่อนจะถีบเข้ากลางอกเพื่อผลักมันออกไป

    ซอรี่นะน้องเมื่อกี้โดนนมเต็ม ๆ เลย ขอโทษขอโพยศพที่นอนกองอยู่กับพื้นแล้วผิวปาก

    พูดก็พูดเหอะ อาวุธที่กูถืออยู่นี่แม่งโคตรจะเส็งเคร็งเลยว่ะ เทาก้มลงมองค้อนตอกตะปูในมือหลังจากลังเลอยู่พักใหญ่ว่าจะเอามันมาเป็นอาวุธดีไหม

    ทำไงได้ ปืนที่เคยมีก็หายไปกับค่ายนรกนั่นแล้ว จงอินพูดทั้งที่ยังคงง่วนอยู่กับการฆ่าพวกตัวกินคนที่ยืนอยู่บนทางเท้า เซฮุนพยักหน้าบอกเทาให้เดินไปกลางถนนเพื่อช่วยกันดันรถออกจากทาง

    เราควรมีปืนกลไม่ก็ลูกซอง อาก้าหรืออะไรก็ได้ จงอินหัวเราะกับคำพูดโง่ ๆ ของเทา เขาหันกลับไปมองเด็กน้อยสมองกลวงแล้วก็เกาหัว

    เทามึงตื่นยัง?

    ตื่นเหี้ยไรล่ะ นี่กูจริงจังนะ มึงก็เห็นว่าพวกมันถือปืนกลกันแทบทุกคนอ่ะ จริง ๆ นะเซฮุน พอหันไปทางลู่หานก็เห็นมันทำหน้าเอือมเหมือนจงอินเลยหันมาขอความเห็นจากร่างบางที่กำลังค้นของในเก๊ะรถที่จอดอยู่ข้างทาง

    นายงอแงเหมือนรู้ว่าจะไปหาของพวกนั้นได้จากที่ไหน เซฮุนพูดเสียงเรียบ เทายืนนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะกลอกตามองจงอินที่ยืนปั้นหน้ากวนตีนอยู่ฝั่งตรงข้าม

    ก็ไม่รู้หรอก นี่ฉันกำลังชวนให้ออกไปหาอยู่นี่ไง มันน่าจะมีร้านขายปืนสักร้านสิ

    ใช่ แต่ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะออกไปหาปืน ข้าวเขิ้วไม่ต้องแดกแล้วไง? จงอินเลิกคิ้วขึ้นสูง ทำไมนะ...พอเป็นเสียงของไอ้เชี่ยจงอินแล้วอะไร ๆ ก็ดูกวนตีนไปหมด เทาเพ่งมองคนที่กำลังเดินเข้าไปในร้านขายเสื้อผ้าแล้วก็หันไปข้างหลังแล้วก็พบว่าลู่หานกำลังเข้าไปในร้านขายอุปกรณ์สับเพเหระ

    นี่เซฮุน

    ว่าไง เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองเพื่อนตัวสูงที่เท้าแขนลงกับประตูรถที่เปิดอ้าเอาไว้พร้อมกับโน้มหน้าลงมาใกล้ ๆ เขา

    นายเข้าใจใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงอยากได้ปืนกลมาก

    เข้าใจสิเซฮุนพยักหน้าช้า ๆ พร้อมกับส่งยิ้มให้ ตั้งแต่ออกจากบ้านเทาก็เอาแต่พูดถึงเรื่องนี้ตลอดทางจนลู่หานหันมาด่าขอให้หยุดแต่หมอนี่ก็ยังอ้างว่าถ้าจะบุกเข้าไปช่วยยุนฮากับอี้ฟานพวกเขาต้องมีอาวุธครบมือก่อน ซึ่งนั่นก็คือปืนกลที่รัวยิงเท่าไหร่ก็ได้ไม่ใช่ปืนแก๊บกาก ๆ ที่บรรจุกระสุนได้แค่สิบสองนัดเท่านั้น

    พวกมันมีกันเยอะ ถ้าเรามีปืนกลเราจะสาดกระสุนมั่วซั่วยังไงก็ได้ เทานั่งลงยอง ๆ พร้อมกับวางท่อนแขนลงบนหน้าขาอีกคนที่ยังคงนั่งอยู่บนเบาะคนขับ

    ดูหนังมากเกินไปแล้ว เซฮุนหัวเราะ

    เฮ้ยนี่พูดจริงนะ ถ้าเราขับเข้าไปในเมืองมันต้องมีร้านขายปืนดิสักร้านดิ ขนาดชุงช็องใต้ยังมีเลย...เฮ้ย!” เทาเบิกตาโพลงเมื่อจู่ ๆ เขาก็ถูกหิ้วคอเสื้อให้ลุกขึ้นยืน เด็กหนุ่มหันไปมองผู้ชายผิวสีแทนที่ยืนทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่แล้วก็รีบปัดมือออกอะไรของมึงวะ

    เสียงมึงแม่งดังชิบหาย จะล่อให้พวกตัวกินคนมาที่นี่หรือไง?

    กูพูดเบา ๆ เองเหอะ มึงแม่งเว่อ เทาขมวดคิ้วแล้วเถียงกลับ เซฮุนมองทั้งคู่สลับกันไปมา

    มึงไปเก็บของช่วยไอ้ลู่หานเลยป่ะ

    กูยังไม่เสร็จกับเซฮุน

    ทะลึ่งละ เสร็จไม่เสร็จไรมึง

    เขาคงพูดผิดน่ะครับจงอิน...” เซฮุนกลั้นขำจนตัวสั่นเมื่อได้ยินคำพูดแปลก ๆ ที่เพื่อนชาวจีนพูดออกมา

    กูหมายความว่ากูใกล้เสร็จแล้ว ขออีกแป๊ปนึง เทาชูนิ้วชี้แล้วทำท่าจะหันหน้าเข้าหาเซฮุนอีกครั้งแต่ก็ถูกจงอินคว้าไหล่ให้หันกลับมา

    ไปเสร็จกับไอ้ลู่หานไป ทางนั้นครับ เชิญ จงอินผายมือไปทางร้านขายอุปกรณ์ที่ลู่หานเพิ่งหายเข้าไปเมื่อครู่นี้ เทาขมวดคิ้วมองคนตรงหน้าที่จู่ ๆ ก็ขัดใจเขาไปซะทุกเรื่อง ปกติมันไม่เคยกวนส้นตีนขนาดนี้เลยนะ

    เออ ไปก็ได้ งั้นค่อยคุยกันที่บ้านนะเซฮุน

    โอเค

    สองต่อสอง ประโยคนี้หันไปหาคนที่ยืนตีหน้าโหดอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะเดินเข้าไปในร้านขายอุปกรณ์

    จงอินถอนหายใจแล้วเหล่มองเด็กหน้าตายที่กำลังเงยหน้ามองเขาอยู่ ยืนล้วงกระเป๋าสบตากับอีกคนอยู่อย่างนั้นโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรก่อนที่จงอินจะหันกลับไปมองลาดเลาอีกครั้งแล้วเท้าแขนไว้บนหลังคารถพร้อมกับโน้มตัวลงไปเล็กน้อย

    สนิทกันจังเลยนะ

    ไม่ดีเหรอครับ? เด็กหนุ่มถามตรงไปตรงมาอย่างที่คิด จงอินแค่นยิ้มแล้วโน้มต่ำลงไปอีก

    แล้วนายคิดว่ามันดีหรือเปล่าล่ะ?

    ถ้าสนิทกับมินซอกกับอึนจีด้วยผมว่ามันก็คงดีกว่านี้นะ เซฮุนยิ้มบาง ๆ ก่อนจะชะงักไปเล็กน้อยเมื่อถูกนิ้วเรียวเขี่ยปลายจมูกเบา ๆ ใบหน้ามนเงยหน้ามองอีกฝ่ายที่มองเขาด้วยแววตาแปลก ๆ จะว่าโกรธก็ไม่ใช่ แต่มันก็อดคิดไปในทางนั้นไม่ได้แฮะ

    อย่ามาแกล้งทำหน้าซื่อทั้งที่รู้ว่าฉันกำลังพูดถึงเรื่องอะไรได้ไหมโอเซฮุน

    ... ได้แต่มองแววตาคู่นั้นที่กำลังจับจ้องเขาอยู่ จู่ ๆ ก็รู้สึกร้อนที่แก้มขึ้นมาเมื่อนึกย้อนไปตอนไม่กี่นาทีที่แล้ว เด็กหนุ่มหลุบสายตาลงมองมือหนาที่แบมาตรงหน้าก่อนจะเงยขึ้นมองอีกฝ่าย

    ไปเก็บของกัน

    ครับ... เด็กหนุ่มอมยิ้มแล้วจับมืออีกคนไว้เพื่อดึงตัวเองให้ลุกขึ้น แต่ก็แค่ห้าวินาทีเท่านั้นที่เขามีโอกาสได้จับมือกันแบบนี้ สุดท้ายก็ต้องปล่อยมือออกเพื่อไม่ให้เป็นที่สงสัยมากจนเกินไป

     

     

    อย่างที่เข้าใจกันทั้งสองฝ่าย...ว่าเขาอยากเก็บเรื่องนี้ไว้เป็นความลับกันแค่สองคนเท่านั้น

     

     

     








     

     

    เก็บนั่นไปทำไม? ลู่หานถามขณะที่เขากำลังเก็บของใช้จำเป็นใส่ในกระเป๋าเป้

    กูเห็นครูอยู่ว่าง ๆ เลยว่าจะหาอะไรให้เธอทำแก้เซ็ง เทายิ้มพลางก้มลงมองไหมพรมหลากสีที่เขาหยิบออกมาวางเรียงกัน ถักนิตติ้งอ่ะ มึงรู้จักเปล่า?

    เออ แล้วครูคนสวยเขาถักเป็นด้วยเหรอวะ?

    ไม่รู้ดิ ผู้หญิงส่วนใหญ่น่าจะถักเป็นกันทุกคนป่ะ

    ผู้ชายก็ไม่ได้เอาผู้หญิงเป็นทุกคนนะมึง

    ... เทาถึงกับพูดไม่ออกเมื่อเห็นไอ้เตี้ยยืนทำหน้าอ้อล้อใส่เขา

    โดยเฉพาะเพื่อนมึงอ่ะ น้องแมมมอธคนนั้น

    อึนจี

    เออ กูเอาไม้แขวนเสื้อแพ็คนี้พนันกับมึงได้เลยว่าน้องแมมมอธเลือดเย็นคนนั้นถักไหมพรมไม่เป็นแน่ล้านเปอร์เซ็น เทาเงียบไปครู่หนึ่งดูเหมือนว่าเขาจะเอนเอียงไปกับคำพูดของลู่หานอยู่ไม่น้อย จากที่รู้จักกันมานาน จองอึนจีก็ไม่เคยแสดงความเป็นกุลสตรีให้เขาเห็นสักเท่าไหร่เสียด้วย...

    ไม่เป็นไร ของแบบนี้มันสอนกันได้เว้ย ถึงจะเขวไปทางไอ้เตี้ยบ้างแต่เขาก็ต้องออกตัวปกป้องเพื่อนผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เหลืออยู่ในตอนนี้ไว้ก่อน ลู่หานหัวเราะจนไหล่สั่นแล้วหันไปเก็บของ ช่วงหน้าหนาวอ่ะ กูล่ะโคตรอิจฉาคู่รักที่เขาถักผ้าพันคอให้กัน

    มึงไม่เคยได้สินะ

    เออดิ แฟนที่เคยคบแม่งก็มีดีแค่สวย กูเคยได้ยินมาว่าผู้หญิงมักจะมีความเพ้อฝันสูง อ่านการ์ตูนตาหวานแล้วเก็บมามโนเป็นเรื่องเป็นราวงี้ โอป้าคะ ช่วยรับขนมที่ฉันทำเองไว้ด้วยนะคะ!’ ให้เสร็จแล้วก็วิ่งสี่คูณร้อย ประโยคหลังทำลู่หานระเบิดหัวเราะออกมาเพราะเสียงเทาที่ดัดขึ้นสูงจนดูเหมือนตุ๊ดหัวโปก

    เหี้ยมาก

    ใช่ มันเหี้ยมากตรงที่กูไม่เคยเจอโมเม้นนั้นเลย

    กูควรสงสารมึงไหม ตอบ

    ไม่ต้องมาสงกูหรอก มึงก็คงไม่เคยเหมือนกันแหละ เทาหันไปเถียงคนที่ยืนเก็บของอยู่มุมห้อง

    เออ กูก็ไม่เคยแล้วกูก็ไม่เคยโหยหาด้วยไง โอเคไหมครับ? ลู่หานปั้นหน้าล้อเลียนแล้วเด็กตัวสูงก็ขยับปากบ่นอยู่คนเดียวก่อนที่ทั้งคู่จะหันกลับไปที่ประตูเมื่อจงอินกับเซฮุนเดินเข้ามา

    กูเอาเสื้อผ้าไปเก็บในรถเรียบร้อยละนะ มีพวกเสื้อโค้ท ถุงมือ ถุงเท้า รองเท้าคละสีคละแบบเผื่อพวกมึงอยากจะแฟชั่น

    เอาสีแดงมาด้วยไหม?

    มึงจะตรุษจีนไปไหน ใส่สีแดงในสถานการณ์แบบนี้มึงอยากเป็นเป้านิ่งเหรอครับ จงอินถามแล้วหยิบจับของที่อยู่รอบข้างขึ้นมาดู

    เป้านิ่งยังไงวะ เทาขมวดคิ้วสงสัย

    หน้าหนาวก็ต้องมีหิมะ พอมีหิมะทุกอย่างก็จะเป็นสีขาว มึงหิว คนอื่นก็หิว พอหิวแล้วก็ต้องออกมาหาเสบียง แล้วยุคนี้ไม่ใช่ยุคที่จะใช้เงินเพื่อแลกเปลี่ยนสิ่งของ แล้วมันคงไม่ดีเท่าไหร่แน่ถ้ามึงใส่เสื้อสีแดงแปร๊ดออกไปเดินลุยหิมะเป็นจุดเด่นให้คนอื่นเห็น

    ...

    กูเชื่อว่าพวกมันคงทักทายมึงด้วยลูกปืน

    เออ เข้าใจแล้ว เทาพูดตัดรำคาญแล้วหันหน้าเข้าไปโกยกองไหมพรมเข้าถุงพลาสติกใบใหญ่

    ที่นี่ของเยอะมากจะขนกลับกันยังไงดีวะ? กูอยากเอากลับรอบเดียวจะได้ไม่ต้องออกมาเสี่ยงตีนอีก ลู่หานกวาดสายตามองไปรอบ ๆ จงอินเห็นด้วยกับความคิดนี้เลยเดินสำรวจของใช้จำเป็นที่ควรเก็บกลับไป

    กูว่าเราควรหารถกระบะสักคัน

    ปิ๊งป่อง ลู่หานกระดิกนิ้วชี้เห็นด้วยกับคำพูดเพื่อนซี้ ตอนนี้แต่ละคนแยกย้ายเก็บของใช้จำเป็นใส่กระเป๋าอย่างตั้งอกตั้งใจแล้วร่างโปร่งก็นึกอะไรขึ้นมาได้

    ไอ้เทา

    อะไร

    มึงให้ครูคนสวยสอนมินซอกถักไอ้นั่นด้วยดิ

    ไอ้นั่น? เทาขมวดคิ้วแล้วหันหน้าเข้าหาคนที่ยืนอยู่ฝั่งตรงข้ามด้วยความสงสัยถักไรวะ ขนจั๊กแร้เหรอ?

    เตี่ยมึงดิครับ กูหมายถึงไหมพรมน่ะไหมพรม ลู่หานเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มแล้วหรี่ตามองไอ้เจ๊กตัวสูงที่ยืนทำหน้าซื่อบื้ออยู่ ใช้เวลาเกือบครึ่งนาทีกว่ามันจะอ้าปากแล้วพยักหน้าหงึก ๆ

    อ๋อ...

    เออ ตามนั้นนะ

    ทำไมต้องให้สอนด้วยล่ะครับ? เป็นเซฮุนที่ถามขึ้นมาด้วยความสงสัย ทั้งสามคนมองกดดันลู่หานโดยการที่ไม่หยิบจับสิ่งของใด ๆ ใส่กระเป๋าเป้ต่อ

    ...

    เออ ทำไมต้องให้สอนด้วยอ่ะ <- เทา

    ตอบไปดิว่ามึงอยากให้น้องเปาเป็นแม่ศรีเรือน <- จงอิน

    น้องเปาพ่อง ชื่อนั้นกูเรียกได้คนเดียว <- ลู่หาน

    แค่ชื่อยังให้คนอื่นเรียกไม่ได้ ลู่หานนี่น่ารักจังเลยนะครับ <- เซฮุน

    ทำไมวะ แล้วชื่ออะไรของมึง งุ้งงิ้งชิบหาย <- เทา

    เรื่องของผู้ใหญ่ เด็กไม่เกี่ยว <- ลู่หาน

    มันจะสื่อว่าเรื่องของมันกับเด็กนั่นเป็นเรื่องส่วนตัวมึงอย่าเสือก <- จงอิน

    ถูกต้อง...เห้ยไม่ใช่ละสัด” <- ลู่หาน

    นี่พวกมึงพูดเรื่องอะไรกันอยู่วะกูงงไปหมดละ <- เทา

    เรื่องสอนให้มินซอกถักผ้าพันคอไง <- เซฮุน

    ไม่ดิ เมื่อกี้ยังพูดอยู่เลยว่าเรื่องส่วนตัว แล้วเกี่ยวอะไรกับมินซอกอ่ะ น้องเปาอะไร โค้ดลับเหรอ <- เทา

    ทำไมมึงถามมากแบบนี้วะ เก็บของเร็ว <- ลู่หาน

    เออ มึงอย่าถามอะไรโง่ ๆ ดิวะ ของแบบนี้เขาต้องสัมผัสได้เอง จริงไหมเพื่อน? <- จงอิน

    สัมผัสที่หน้า <- ลู่หาน

    พวกมึงเข้าใจกันอยู่สามคนอ่ะ มีไรบอกกูมั่งดิ <- เทา

    เสือก <- ลู่หาน

    บทสนทนาสิ้นสุดอยู่แค่นั้น เทาเลิกคิ้วขึ้นสูงแล้วปรายตามองแต่ละคนอย่างช้า ๆ ก่อนจะไปหยุดที่ไอ้เตี้ยนั่น

    งั้นกูจะไม่บอกครูให้ช่วยสอนมินซอกถักไหมพรม

    เออ ไม่บอกก็ไม่บอกดิ คิดว่ากูจะง้อไง? ลู่หานยักไหล่อย่างไม่ยี่หระ ตอนแรกก็มีความคิดว่าอยากให้มินซอกหัดถักไหมพรมเผื่อว่าวันนึงเด็กคนนั้นจะนึกใจดีเอามาให้เขาใช้บ้างก็เท่านั้น

    กูจะบอกมินซอกเรื่องนี้ด้วย

    อย่านะมึง ลู่หานชี้หน้าคาดโทษ เซฮุนกับจงอินได้แต่กลั้นขำแล้วตั้งหน้าตั้งตาเก็บของต่อไป พอเป็นเรื่องของเด็กคนนั้นลู่หานก็ถึงกับเสียหลัก

    กูจะบอก

    ถ้ามึงบอกกูจะประกาศให้ทุกคนรู้ว่าเมื่อคืนมึงใส่บ๊อกเซอร์ลายมิกกี้เมาส์นอน

    มึงรู้ได้ไงวะ!” เทาเบิกตากว้างแล้วแหกปากลั่น

    กูมีตาทิพย์ ต่อไปโปรดเรียกกูว่าพี่หานญาณดริฟท์ด้วยนะครับ ลู่หานยิ้มกริ่ม

    มึงบอกมาเลยนะว่ารู้ได้ยังไง

    กูไม่บอกมึงหรอก เอาดิ...ไปบอกมินซอกเลยเรื่องไหมพรมอ่ะ ลู่หานกลอกตาไปมาแล้วจงอินก็หอบของออกไปเก็บไว้ที่รถ ตอนนี้เหลือเพียงแค่ชายหนุ่มสามคนที่อยู่ในร้านเท่านั้น

    นี่เด็กกรงหมา

    ครับ?

    มึงหันมาคุยกับกูให้รู้เรื่องก่อนดิ เทาเดินมาคั่นกลางแล้วก็โดนลู่หานผลักออกไปให้พ้นทางแล้วปิดท้ายด้วยการถีบเข้าที่สีข้างก่อนจะหันกลับมาเท้าแขนลงกับตู้กระจกแล้วมองคนข้าง ๆ

    นายน่ะ

    ครับ?

    กูจะเริ่มไงดีวะ -*- ลู่หานถอนหายใจหนัก ๆ เพราะนึกคำถามปลายเปิดไม่ออก เซฮุนรูดซิบกระเป๋าแล้วสะพายไว้กับไหล่ข้างซ้ายพลางมองหน้าคนข้าง ๆ

    ถามตรง ๆ ก็ได้ครับ ผมเป็นคนเข้าใจอะไรง่าย

    นายคิดว่าฉันกำลังคิดคำถามอ้อมค้อมอยู่หรือไง?

    แล้วมันใช่อย่างที่ผมคิดอยู่หรือเปล่าครับ?

    เออ ใช่ก็ได้...แล้วมึงจะมายืนหัวโด่อะไรตรงนี้วะ รีบขนไหมผอกไหมพรมไปเก็บที่รถไป๊ลู่หานปัดมือไล่เทาที่มายืนฟังอย่างตั้งอกตั้งใจ พอถูกไล่เด็กตัวสูงก็ขยับปากบ่นแล้วหอบของเดินออกไปข้างนอกร้าน

    เอาล่ะกลับมาเข้าเรื่องกันต่อ ที่ฉันอยากรู้ก็คือ...ไอ้ห่าจงอินมันทำอีท่าไหน นายถึงได้หลงหัวปักหัวปำขนาดนี้วะ?เซฮุนชะงักไปกับคำถามที่ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะฮุคหมัดตรงมาขนาดนี้ ทุกเรื่องในโลกที่คิดว่าเขากล้าตอบคำถามได้อย่างมั่นใจแต่พอเจอคำถามนี้ถึงกับจุกจนพูดไม่ออก...ลู่หานรู้ด้วยเหรอ? ไม่ต้องทำหน้าตกใจขนาดนั้นหรอกน่า

    ผมก็ต้องตกใจอยู่แล้ว...คุณ...ดูออกด้วยเหรอครับ? เด็กหนุ่มเบาเสียงลงพลางมองออกไปข้างนอกร้านแล้วก็พบว่าเทากับจงอินกำลังสู้กับตัวกินคนที่ทยอยเข้ามาทางนี้ทีละตัวสองตัว

    จะว่าอย่างนั้นก็ไม่เชิง

    คุณดูออกตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ... เด็กหนุ่มมองอีกฝ่ายด้วยสีหน้าหวาด ๆ

    ก็ตั้งแต่ตอนที่อยู่ท่าเรือลู่หานยักคิ้วแล้วหันกลับไปมองข้างหลังเพื่อดูลาดเลาเรื่องนั้นน่ะช่างมันเถอะ ที่ฉันอยากรู้คือมันไปทำอีท่าไหนนายถึงได้ติดไอ้จงอินขนาดนี้

    ...

    เร็วสิ เดี๋ยวพวกมันกลับมาก่อน

    เขาไม่ได้ทำอะไรเลยครับ เซฮุนหน้าขึ้นสีเล็กน้อยเมื่อนึกถึงใครอีกคน จงอินก็แค่อยู่เฉย ๆ ของเขา 

    ...

    เพราะเขาทำให้รู้สึกว่าผมสำคัญล่ะมั้งครับ...น่าจะเป็นอย่างนั้นนะ เด็กหนุ่มหัวเราะแห้ง ๆ พลางเม้มริมฝีปากเล็กน้อยเมื่อต้องเล่าความรู้สึกของตัวเองให้คนตรงหน้าฟัง ถ้าผมไม่ได้คิดไปเองน่ะ...

    ...

    ที่คุณถามไม่ใช่เพราะอยากรู้เรื่องของผมกับเขาหรอกใช่ไหมครับ?ลู่หานยืดตัวตรงแล้วกลอกตาไปด้านข้างก่อนจะกลับมามองหน้าเซฮุนอีกครั้ง คุณกับมินซอก ไม่ราบรื่นเหรอครับ?

    มีเพียงแค่เสียงถอนหายใจของลู่หานที่เขารู้สึกได้ โอเซฮุนไม่ใช่คนชอบยุ่งเรื่องของชาวบ้านแต่จากที่เห็นผ่าน ๆ ตามันก็พอทำให้เขาประติดประต่อเรื่องได้พอสมควร หนึ่งเดือนที่ผ่านมาเขาเห็นแต่ลู่หานที่เข้าหามินซอกอยู่ฝ่ายเดียว

    เรื่องของผมมันคงช่วยอะไรคุณไม่ได้หรอกนะครับ ปัญหาความรักของแต่ละคนไม่เหมือนกันหรอก

    คิดไม่ตกเลยว่ะ เอาตรง ๆ นะ ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยตามจีบใครนานขนาดนี้

    นี่เรียกจีบเหรอครับ?

    เออดิ

    ผมไม่รู้นะว่าคุณสองคนคุยกันแบบไหน แต่การที่จะเข้าหาใครสักคนคุณก็ควรทำตัวให้อีกฝ่ายรู้สึกแง่บวกกับคุณก่อน

    อธิบายง่าย ๆ ได้ไหม เอาแบบประโยคเดียวรู้เรื่องอ่ะ ลู่หานทำหน้าเนือย ไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้จะต้องมาปรึกษาเรื่องความรักกับเด็กที่อายุน้อยกว่าแบบนี้

    อะไรที่มินซอกไม่ชอบคุณก็อย่าทำ แค่นั้นแหละครับ ง่าย ๆ

    แล้วจะรู้ไหมว่าเด็กนั่นไม่ชอบอะไร

    ไม่มีใครรู้เองหรอกครับลู่หาน คุณต้องใช้เวลาศึกษาแล้วจดจำเรื่องของเขาแล้วพอถึงตอนนั้นคุณจะรู้เองว่าควรทำอะไรและไม่ควรทำอะไร

    เหมือนที่นายเข้าใจไอ้หมอนั่นสินะ ทั้งคู่มองออกไปข้างนอกแล้วก็เห็นจงอินกำลังผลักหัวเทา ส่วนเด็กตัวสูงได้แต่ไล่กระโดดถีบเพราะความโมโห เซฮุนยิ้มแล้วพยักหน้าช้า ๆ เป็นคำตอบให้กับคนข้าง ๆ

     

     

     
     

     

     

     

    ครืน...

    มายืนอออะไรกันอยู่หน้าบ้านวะ? ลู่หานพึมพำพลางหรี่ตามองทุกคนที่ยืนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา จงอินลงมาจากรถคันใหม่ที่จอดอยู่ข้างหลังรถของลู่หานแล้วทั้งสี่คนก็เดินเข้าไปหาคนอื่น ๆ ที่กำลังมองมาทางนี้

    เกิดอะไรขึ้น? ร่างหนาขมวดคิ้วมองทุกคนโดยเฉพาะแบคฮยอนกับอี้ชิงที่มีสีหน้าไม่สู้ดีที่สุดในตอนนี้

    คุณชานยอลหนีไปแล้วค่ะ... เป็นอึนจีที่ตอบคำถามแทนหนุ่มชาวจีนที่ยืนเงียบอยู่ คนที่เพิ่งกลับมาเบิกตากว้างด้วยความตกใจก่อนจะหันไปหาอี้ชิงที่กำลังมองมาทางนี้

    ว่าไงนะ?

    ...

    เป็นไปได้ไงวะ นี่ไปด้วยกันประสาอะไร? ประโยคแรกสบถเป็นภาษาเกาหลีและตามมาเป็นภาษาจีน อี้ชิงหลุบสายตาลงก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองลู่หาน

    เราไปดื่มด้วยกันแล้วผมเผลอหลับไป พอตื่นมาก็ไม่เจอเขาแล้ว

    ให้ตายเหอะ อยู่ด้วยกันสองคนยังปล่อยให้มันหายไปได้เนี่ยนะ?

    ปล่อยงั้นเหรอ? ผมไม่ได้อยู่ในสถานะพี่เลี้ยงเด็กนะ อี้ชิงแค่นหัวเราะเมื่อถูกอีกฝ่ายยัดเยียดความผิดให้หน้าด้าน ๆ

    แต่ก็ควรรับรู้ป่ะ ทำไมถึงปล่อยให้มันหนีไปได้

    ที่เขาหนีมันไม่ใช่เพราะเขาไม่อยากอยู่อีกต่อไปหรอกเหรอ? คำพูดของอี้ชิงทำให้คนปากดีชะงักไป จงอินกับเซฮุนเงี่ยหูฟังเทาที่กำลังอธิบายบทสนทนาของทั้งคู่เป็นภาษาเกาหลีให้ฟังตั้งแต่เมื่อไหร่ที่พวกคุณเอาแต่ตามหาคนผิดแทนที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหา?

    ...

    ใจเย็นก่อนนะ...เฮ้ยมึงบอกเขาให้ใจเย็นหน่อยดิ จงอินเอาศอกสะกิดเทา เด็กหนุ่มทำหน้าลำบากใจเมื่อเห็นสีหน้าเย็นชาของใครอีกคนที่เขาแทบจะไม่เคยมีบทสนทนาต่อกันมาก่อน

    ใจเย็นก่อนนะ ค่อย ๆ คุยกันก่อน

    คนที่ควรเย็นเป็นใครพวกคุณน่าจะรู้ดีที่สุดนะ อี้ชิงปรายตามองทีละคนก่อนจะเดินหายเข้าไปในตัวบ้านอย่างไม่สบอารมณ์นัก ทุกคนถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อนแล้วเงยหน้าขึ้นมามองกันและกัน

    มึงไปเหวี่ยงใส่อี้ชิงแบบนั้นก็ไม่ถูก

    เออกูรู้ เดี๋ยวกูจะตามไปขอโทษเอง ลู่หานถอนหายใจแล้วเงยหน้ามองแบคฮยอนที่ยืนจ้องเขามานานแล้ว

    ...

    ...

    แววตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง โกรธ หรืออะไรก็ตามโดยรวมแล้วมันเป็นไปในทางแง่ลบ แบคฮยอนหลุบสายตาลงแล้วเอี้ยวตัวหันหลังก่อนจะค่อย ๆ เดินเข้าไปในบ้านราวกับคนหมดเรี่ยวแรง

     

     

     

    จุก...จุกจนพูดไม่ออกกับเรื่องที่ได้ยิน...

    ชานยอลไปแล้ว...

    ไป...โดยที่ไม่บอกเขาเลยสักคำเดียว...

     

     

     

    แล้วจะเอาไงต่อ ออกตามหาเหรอ? เทาหันไปถามจงอินที่ยืนใช้ความคิดอยู่ข้าง ๆ

    คงไม่ ร่างหนาเงยหน้าขึ้นแล้วถอนหายใจถ้ามัวแต่วิ่งตามหาคนที่หายไปแบบนี้ชีวิตก็คงไม่ต้องทำอะไรแล้ว

    ...

    เราจะตามหาแค่คนที่หายไป...ไม่ใช่คนที่หนี

    ความรู้สึกเคว้งคว้างตามมาหลังจากได้ยินประโยคที่แฝงไปด้วยความตัดพ้อ ถึงจะฟังดูไร้เยื่อใยแต่พวกเขาก็เห็นด้วยกับสิ่งที่จงอินพูด

    เขาทิ้งพวกเราเหรอคะ อึนจีพูดเสียงอู้อี้คิ้วทั้งสองข้างตกลงเมื่อนึกถึงใครอีกคนที่ก่อนหน้านี้ทำหน้าที่ผู้นำมาตลอด

    เราไม่ใช่เจ้าชีวิตใคร ในเมื่อเขาเลือกที่จะไปเราก็ต้องเคารพการติดสินใจของเขา

    ...

    ทุกคนได้เพียงแค่มองตามแผ่นหลังของชายหนุ่มที่เดินหายเข้าไปในตัวบ้าน ลู่หานเป็นคนเดียวที่รู้สึกแย่มากที่สุดในตอนนี้ จนได้แต่คิดว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานมันทำให้ปาร์คชานยอลน้อยอกน้อยใจอะไรขนาดนั้นเลยเหรอ? เขาไม่คิดว่าเรื่องราวมันจะบานปลายมาจนยากที่จะกลับไปแก้ไขได้ จริงอยู่ที่เขาเหม็นขี้หน้ามันแต่พอชานยอลหนีไปจริง ๆ เขาก็รู้สึกไม่ดีเหมือนกัน

     

     

     
     

     

     

     

    หมุนลูกบิดแล้วดันประตูเข้าไปในห้องอย่างช้า ๆ เซฮุนหายใจเข้าลึก ๆ แล้วเม้มริมฝีปากก่อนจะก้าวเข้าไปหาใครอีกคนที่นอนเอาแขนก่ายหน้าผากอยู่บนเตียงราวกับคิดไม่ตก เปลือกตาค่อย ๆ ลืมขึ้นเมื่อรู้สึกได้ถึงแรงยวบของเตียง ทั้งคู่สบตากันแค่ครู่เดียวจงอินก็หลับตาลงอีกครั้ง

    ผมทำให้คุณตื่นเหรอครับ ขอโทษนะ ไม่มีประโยคคำตอบจากคนที่นอนหลับตาอยู่ มีเพียงแค่มือหนาที่รวบเอวเขาให้ขยับเข้ามาใกล้ ๆ เซฮุนขยับตัวเพื่อให้จงอินกอดได้ถนัดก่อนจะลูบหัวเบา ๆ พักผ่อนเถอะ ผมจะนั่งอยู่ตรงนี้เอง

    ปลายนิ้วเรียวที่เกลี่ยปรอยผมเขากำลังช่วยดูดเอาความเหนื่อยล้าทุกอย่างออกไป ร่างหนานอนให้อีกคนปลอบใจอยู่อย่างนั้นเกือบสิบห้านาทีแล้วก็ลืมตาขึ้นมองอีกฝ่าย

    คนอื่น ๆ ล่ะ

    เพิ่งช่วยกันเก็บของเข้าบ้านเสร็จเมื่อกี้เองครับ บ้านนั้นกำลังนั่งหาอะไรทำแก้เซ็งกันอยู่ล่ะ

    ทำอะไร?

    ไหมพรมที่เทาเก็บมาไงครับ บังเอิญว่าครูกาฮีถักนิตติ้งเป็น ตอนนี้เธอกำลังสอนอึนจีอยู่น่ะ

    อ้อ...

    คุณไม่ต้องห่วงนะ ทุกคนโอเคดีครับ เด็กหนุ่มยิ้มบาง ๆ เป็นกำลังใจให้กับคนที่กำลังแบกทุกอย่างไว้ในตอนนี้ส่วนแบคฮยอนเดี๋ยวผมจะไปคุยกับเขาเอง

    อืม

    คุณพักผ่อนเถอะครับ

    หยิบอะไรติดมือมาด้วยเหรอ? เงยหน้าขึ้นมองโต๊ะข้าง ๆ เตียงแล้วก็เห็นกรรไกรกับหวี เซฮุนหยิบมันมาถือไว้แล้วชูให้อีกคนดู

    ผมข้างหน้าคุณยาวจนปิดตาไปหมดแล้ว เด็กหนุ่มยิ้มแล้วง้างขากรรไกรออก

    จะตัดให้หรือไง?

    เชื่อใจกันไหมครับ พอเห็นรอยยิ้มตาหยีของเซฮุนแล้วเขาก็หลุดยิ้มตามออกมา

    ถ้าบอกว่าไม่ล่ะ? เด็กหนุ่มกลอกตาขึ้นแล้วหลุบตาลงมองใครอีกคนที่นอนจ้องเขาอยู่บนเตียง

    งั้นผมจะไปเอากิ๊บหนีบผ้ามาให้คุณใช้แก้ขัดแล้วกัน ร่างบางลุกขึ้นยืนแต่ก็ถูกจงอินคว้าข้อมือเอาไว้ เด็กหนุ่มผินหน้ามองอีกคนที่หยัดตัวลุกขึ้นนั่งทั้งที่ยังจับข้อมือเขาอยู่ ทั้งคู่จ้องหน้ากันก่อนที่มือหนาจะค่อย ๆ เลื่อนลงมากุมมือเขา

    ไหนบอกว่าจะนั่งอยู่ตรงนี้ไง

    ผมแค่จะไปเอากิ๊บมาให้คุณเองครับ

    ไม่ให้ไป

    ...

    ไม่ใช่เรื่องที่จะเกิดขึ้นบ่อยเลยกับการที่จงอินจะเอาแต่ใจกับเขาแบบนี้ ขาเรียวก้าวไปหยุดอยู่ตรงขอบเตียงตามแรงดึงของอีกฝ่ายก่อนที่ใบหน้าคมจะซบลงกับหน้าท้องเขา

    ทำไมไม่นอนดี ๆ ล่ะครับ เซฮุนก้มลงมองอีกคนที่ตวัดแขนกอดเอวเขาไว้ทั้งที่ยังซบหน้าอยู่อย่างนั้น พอเห็นอีกฝ่ายไม่ตอบริมฝีปากก็ค่อย ๆ คลี่ยิ้มบาง ๆ ร่างบางยกมือขึ้นลูบหัวคนตรงหน้าเบา ๆ ก่อนจะเปลี่ยนเป็นเกลี่ยปรอยผมดำที่ยาวขึ้นมากพอสมควรแล้ว

    ตกลงจะให้ผมตัดให้หรือเปล่าครับ?

    ตัดเป็นหรือไงหื้ม? จงอินผละตัวออกมาแล้วเงยหน้าขึ้นมอง เซฮุนยิ้มพลางส่ายหน้าเป็นคำตอบ

    วันนั้นแบตมือถือหมด ผมไม่มีอะไรเล่นเลยนั่งมองตัวเองในกระจกตอนช่างกำลังตัดผมให้ จากที่เห็นมันคงไม่ยากสักเท่าไหร่ แค่เล็มส่วนปลายออกพอให้มันไม่ทิ่มตาคุณก็พอ เซฮุนถอยหลังออกไปก้าวหนึ่งพลางโน้มตัวลงเล็กน้อยเพื่อกะความยาวของเส้นผม

    ถ้าแหว่งฉันฆ่านายแน่

    กลัวไม่หล่อเหรอครับ เซฮุนเลิกคิ้วมองแล้วเดินไปหยิบนิตยาสารเล่มหนึ่งมาให้จงอินถือเอาไว้พร้อมกับจัดท่าทางให้เรียบร้อย

    ไม่หล่อต้องโทษน้องฮุนบาร์เบอร์แล้วล่ะครับงานนี้ ร่างบางยิ้มขำกับคำพูดคำจาของคนที่นั่งอยู่กับขอบเตียง ก่อนจะก้มตัวลงเล็กน้อยแล้วใช้นิ้วชี้กับนิ้วกลางหนีบผมออกมาจำนวนหนึ่งแล้วตัดส่วนปลายออกเพียงนิดเดียวก่อนจะถอยออกไปดูผลงานห่าง ๆ

    แหว่งยัง

    ผมเพิ่งตัดไปแค่นิดเดียวเองนะ ร่างบางหรี่ตามองอีกคนที่กำลังอมยิ้มอยู่

    พอดีว่าเป็นคนใจร้อน จงอินยักไหล่พลางเงยหน้าขึ้นมองดวงหน้าหวานที่กำลังตั้งอกตั้งใจตัดผมให้กับเขาก่อนจะหลุบสายตาลงมามองหน้ากัน

    เรื่องนั้นผมรู้

    เหรอ? แล้วมีเรื่องไหนที่นายไม่รู้บ้างไหม?

    อืม...ไม่รู้สิครับ เซฮุนอมยิ้มแล้วทิ้งเศษผมลงบนนิตยาสารที่อีกคนถือเอาไว้อย่างเช่นผมไม่รู้ว่าตอนนี้คุณกำลังคิดอะไรอยู่

    ลองเดาดูสิ เรื่องนี้นายถนัดอยู่แล้วนี่

    เมื่อไหร่กัน

    เร็วเข้า คำพูดเอาแต่ใจที่มาพร้อมกับน้ำเสียงอ่อนโยนใช่ว่าเขาจะได้ยินบ่อย เซฮุนเล็มผมข้างหน้าออกให้อีกนิดหน่อยแล้วก็เอาหนังสือที่จงอินถือไว้ไปวางบนโต๊ะข้าง ๆ

    คุณกำลังเหนื่อย ท้อ สับสน ไม่อยากทำอะไรแล้ว

    ...

    อยากนอนอยู่เฉย ๆ ไม่อยากพะวงกับคนรอบข้าง

    ...

    ผมพอจะเดาถูกสักข้อไหมครับจงอิน? ปลายนิ้วเรียวเกลี่ยเศษผมที่ติดอยู่ตามสันจมูกอีกคนออกให้อย่างเบามือก่อนที่ร่างของเขาจะถูกรวบให้ลงไปนั่งทับบนตักหนา เซฮุนก้มลงมองอีกคนที่ซบหน้าลงกับอกเขาอีกทั้งยังกระชับกอดแน่นขึ้นอีก

    อืม

    ผมเป็นห่วงคุณนะ จงอินไม่ได้ขานตอบ เขาเพียงแค่พยักหน้าเล็กน้อยทั้งที่ยังซบอยู่กับแผงอกบางถึงผมจะช่วยอะไรคุณไม่ได้ แต่ผมเป็นผู้ฟังที่ดีได้นะครับ

    ...

    ผมนั่งฟังคุณพูดได้ทั้งวัน ถ้าคุณอยากระบาย

    ...

    ผมคงห้ามไม่ให้คุณคิดมากไม่ได้แต่ผมอยากให้คุณคิดน้อยลงแล้วหันมาวางแผนว่าจะเอายังไงต่อไป...แบบนั้นจะดีกว่าไหมครับ? เซฮุนกระซิบข้างหูอีกคนพร้อมกับลูบหัวปลอบใจ มีใครหลายคนที่ไม่เข้าใจกับการตัดสินใจของชานยอล ผมเองก็เหมือนกัน

    ...

    แต่พอลองคิดกลับกันว่าถ้าผมตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเขาผมจะทำยังไงนะ? ผมจะช่วยทุกคนให้รอดมาได้จนถึงตอนนี้หรือเปล่า? เซฮุนยังคงลูบหัวจงอินอยู่อย่างนั้น ตอนที่อยู่เกาะเชจู เขานอนเป็นคนสุดท้ายและตื่นก่อนคนอื่นเสมอ ชานยอลไม่เคยชวนใครออกไปหาเสบียงด้วยมีแต่ผมที่อาสาออกไปกับเขา

    ...

    ในตอนแรกพวกเราช่วยกันตัดสินใจแก้ไขกับสิ่งที่ไม่ลงรอย แต่พอไม่มีอี้ฟานทุกอย่างก็เปลี่ยนไป ผมเข้าใจว่ามันเป็นเรื่องยากที่ต้องดูแลทุกคนแต่สิ่งที่ผมไม่สามารถเข้าใจได้เลยก็คือความรู้สึกของคนที่แบกรับทุกอย่างเอาไว้ว่ามันเหนื่อยมากแค่ไหน

    ...

    ชานยอลโตแล้ว...ผมคิดว่าเขาน่าจะใช้เวลาทบทวนทุกอย่างอยู่พอสมควรก่อนที่จะตัดสินใจ ร่างบางเม้มริมฝีปากแล้วผละตัวออกมาสบตากับอีกฝ่าย สิ่งที่เราควรทำในตอนนี้คือทำที่นี่ให้เป็นบ้านอย่างที่คุณบอกผมเอาไว้ ส่วนเรื่องอื่นเอาไว้ก่อน...แบบนั้นจะดีกว่าไหมครับจงอิน? สองมือเรียวโอบใบหน้าคนที่กำลังเหนื่อยล้ากับสิ่งที่ได้พบเจอ ร่างหนาพยักหน้าช้า ๆ เป็นคำตอบก่อนจะรั้งท้ายทอยอีกฝ่ายเข้ามาจูบอย่างอ่อนโยน

    ใบหน้าเรียวเอียงปรับองศาเพื่อรับจูบให้ได้ถนัดขึ้น สองแขนเรียวเลื่อนลงก่อนจะเปลี่ยนเป็นโอบกอดรอบคอหนาเอาไว้พร้อมกับลิ้นร้อนที่เกี่ยวกระหวัดกันอยู่อย่างไม่รู้จบ จูบที่เป็นกำลังใจ...จูบเพื่อให้จงอินรู้ว่าเขาอยู่ตรงนี้

    ทั้งคู่ละริมฝีปากออกจากกันอย่างอ้อยอิ่ง หน้าผากมนแนบลงกับหน้าผากอีกฝ่ายพร้อมกับจ้องเข้าไปยังนัยน์ตาของร่างหนา จงอินยิ้มบาง ๆ แม้ว่ามันจะเป็นรอยยิ้มที่ฝืนออกมาแต่ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขารู้สึกดีขึ้นได้เพราะคำปลอบใจของเซฮุน

    นายนี่นะ...

    ยิ่งมองก็ยิ่งหมั่นเขี้ยว จงอินเลื่อนใบหน้าเข้าไปกดจูบริมฝีปากอิ่มเบา ๆ ก่อนจะผละออกแล้วรวบตัวเซฮุนเข้ามากอดแน่น ร่างหนาซบหน้าลงกับไหล่บางแล้วปิดเปลือกตาลง...

     
     

     

    ขอแค่ตอนนี้เท่านั้นที่เขาจะแสดงความอ่อนแอให้เซฮุนเห็น...

    พอเช้าวันรุ่งขึ้นเขาจะกลับมาเป็นคนเดิม...คิมจงอินที่ไม่เคยยอมแพ้กับอะไรใด ๆ ในโลกใบนี้...

     

     

     

     

     






     

    TBC

     

     

     

    ตอนนี้มาสั้นหน่อยนะคะ มลินปวดตาค่ะ จ้องคอมนาน ๆ ไม่ได้

    ไปหาหมอมาสองครั้งหมดไป 2100 ได้ยาหยอดตามากระจึ๋งเดียว ชีวิตยิ่งกว่านิยาย #ปาดน้ำตา

    ถ้ามันสั้นไปไม่จุใจก็ขออภัยไว้ ณ ที่นีด้วยนะคะ T_T แล้วจะรีบเสิร์ฟตอนต่อไปมาให้อ่านเลยเนาะ ไม่ให้รอนานแล้ว

     

     

    [ประกาศ] สามารถเช็ครายชื่อการจองฟิค – โอนเงินได้ในลิงค์นี้นะคะ เก็บไว้เช็คได้ตลอดค่ะเพราะมันอัพเดทแบบออนไลน์ https://docs.google.com/spreadsheet/lv?key=0Al9PwNDbG1JGdExMYVhJUlZmaXQ2QWljVlRhSmo5VFE&usp=sharing&pli=1

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×