ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ZOMBIES HARD CREEPER | KAIHUN CHANBAEK FT.EXO

    ลำดับตอนที่ #42 : Chapter 39 :: Coward

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.45K
      126
      10 ก.พ. 57

    ? Tenpoints!

     

     

     

    Chapter 39

    Coward

     

     

     

    ทุกคนนั่งทำหน้าเคร่งเครียดอยู่ในห้องนั่งเล่นบ้านหลังที่สองหลังจากที่ได้ยินเทาเล่าเรื่องคังยุนฮาให้ฟัง ถึงทุกคนจะไม่ได้สนิทกับหมอนั่นเป็นการส่วนตัวแต่การที่ต้องทิ้งใครสักคนไว้ข้างหลังแบบนั้น คนที่รู้สึกผิดที่สุดคงไม่ใช่ใครนอกจากหวงจื่อเทา แต่ที่น่ากังวลมันไม่ใช่แค่เรื่องนี้ ยังมีอีกเรื่องที่น่าเป็นห่วงคือใครอีกคนที่ยังกลับมาไม่ถึงบ้านหลังจากแยกย้ายกันหนีไปคนละทิศคนละทาง

     

     
     

    ปัง!

     

     
     

    ลู่หาน?!”

    ร่างโปร่งหอบหายใจหนักแล้วหันกลับไปปิดประตูก่อนจะเดินเข้ามาในสภาพมอมแมมไม่เหลือเค้าความดี น้ำลายเจือฝุ่นโคลนถุยลงพื้นบ้านพร้อมกับถอดเสื้อนอกออกแล้วโยนไปข้างหลัง สีหน้าของลู่หานดูไม่สู้ดีนัก เขายังคงโกยอากาศเข้าปอดโดยที่ไม่พูดอะไร

    ไหนใครบอกว่าอี้ฟานตายแล้ว

    อะไรของมึงวะ จู่ ๆ ก็พูดเรื่องนี้ จงอินลุกขึ้นยืนเมื่อได้ยินคำถามแปลก ๆ ของเพื่อนซี้ ลู่หานเสยผมขึ้นแล้วหายใจเข้าลึก ๆ ทำไมถามแบบนั้น

    ก็เพราะว่ากูเพิ่งป๊ะหน้ากับมันมานี่ไง

    หะ?

    ฟังกูนะลู่หานชี้ริมฝีปากตัวเองขณะกวาดสายตามองทุกคนที่อยู่ในห้องนี้ อี้ ฟาน ยัง ไม่ ตาย

    ...

    ไม่มีใครถามอะไรออกมาอีก ทุกคนต่างมีสีหน้าประหลาดใจกับสิ่งที่เขาพูด จงอินเดินเข้ามาหาเขาก่อนจะพูดให้ได้ยินกันแค่สองคน

    มึงพูดห่าอะไร

    มึงคิดว่ากูพูดอะไรอยู่ล่ะ พวกที่ยิงไอ้เด็กยุนฮาก็คือพวกของอี้ฟานไง เสียงของลู่หานไม่ได้เบาตามอีกคนไปเลยสักนิด ร่างโปร่งมองไปยังคนอื่น ๆ ที่นั่งอยู่ข้างหลังราวกับต้องการคำอธิบายจากปากเขาต่อ

    จำคนผิดหรือเปล่า? ลู่หานแค่นหัวเราะเมื่อได้ยินเทาถามโง่ ๆ ออกมา

    คนนะไม่ใช่วัวควายจะได้หน้าตาเหมือนกันหมด

    ...

    นี่พวกมึงคิดว่ากูโกหกเหรอวะ? ลู่หานขมวดคิ้วเมื่อไม่มีใครแสดงอาการออกมาว่าเชื่อเขาเลยสักคนเดียวแม้กระทั่งจงอิน

    กูก็อยากจะเชื่ออยู่หรอกนะ แต่มึงแน่ใจได้ยังไงว่านั่นคืออี้ฟานจริง ๆ

    มึงเห็นใช่ไหมว่าพวกมันไล่ยิงเรา ซึ่งนั่นก็หมายความว่ามันต้องการที่จะฆ่าเรา แล้วถ้ามันจะฆ่า ไอ้ผู้ชายตัวสูงที่พวกมึงกำลังคิดว่าอาจเป็นใครสักคนที่หน้าเหมือนอี้ฟานน่ะ มันบอกให้กูหาที่เกาะเอาไว้แน่น ๆ แล้วก็ผลักกูตกหน้าผาเพื่อช่วยไม่ให้กูถูกพวกเปรตที่วิ่งตามมาทีหลังฆ่าเอา

    ...

    ...

    คำอธิบายของลู่หานเริ่มมีน้ำหนักมากขึ้นจนร่างหนายืนนิ่งใช้ความคิด จงอินหันกลับไปหาคนอื่น ๆ ก่อนจะหยุดสายตาที่ร่างสูง

    นายเห็นเขาถูกยิงจริง ๆ หรือเปล่าชานยอล

    ครับ ผมเห็นกับตา

    เห็นกับตาเหรอ กูก็เห็นอี้ฟานมากับตาเหมือนกันว่ะ

    ครับ? ชานยอลเลิกคิ้วขึ้นสูง

    ถ้าอี้ฟานถูกยิงจริง ๆ มันจะรอดมาได้ยังไงวะ?

    เรื่องนั้นผมก็ไม่รู้หรอกครับว่าเขาจะรอดมาได้ยังไง

    ไหนลองงัดเอาความรู้ที่อัดแน่นอยู่เต็มหัวออกมาอธิบายความเป็นไปได้ให้กูฟังหน่อยซิ ตอนนี้มีเพียงแค่ปาร์คชานยอลเท่านั้นที่ตอบคำถามเรื่องนี้ได้ เพราะมีแค่มันเพียงคนเดียวที่บอกว่าเห็นอี้ฟานตายไปต่อหน้าต่อตา

    ผมก็พูดในสิ่งที่เห็น เหมือนกับที่คุณกำลังพยายามอธิบายให้คนอื่นเชื่อว่าอี้ฟานยังมีชีวิตอยู่

    ก็ใช่ไง กูก็พูดในสิ่งที่กูเห็น มันคือปัจจุบัน

    ใจเย็นน่า... จงอินปรามคนข้าง ๆ ที่เอาแต่เถียงหัวชนฝาโดยไม่สนใจว่ามันกำลังจะเป็นเรื่องใหญ่โตเข้าไปทุกที

    ในเมื่อคุณเชื่อในสิ่งที่เห็น แล้วจะมาถามผมทำไมล่ะครับ?

    ก็ถามเพื่อให้แน่ใจไง หรือไม่ก็ถามเพื่อให้มึงยอมรับว่าไม่ได้เห็นอี้ฟานถูกยิงตายไปต่อหน้าต่อตา

    ไอ้สัดพอ จงอินห้ามเมื่อลู่หานแรงขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนนี้ไม่มีใครผิดไม่มีใครถูก ต่างคนต่างมีเหตุผลของตัวเอง เขาเชื่อว่าคนอย่างชานยอลคงไม่โกหกกับเรื่องแบบนี้แน่ แต่ที่ลู่หานเจอมามันก็มีเค้าความเป็นไปได้เหมือนกัน

    ขอโทษที่ทำให้ผิดหวังนะครับ แต่ผมไม่ได้เป็นแบบที่คุณกำลังกล่าวหาอยู่

    มึงกำลังจะสื่อว่ากูเบลอจนจำคนผิดแล้วใส่ร้ายมึงสินะ ลู่หานแค่นหัวเราะ

    เท่าที่จำได้ผมยังไม่ได้พูดไปในทางนั้น มีแต่คุณที่พูดเองเออเองตั้งแต่แรก

    เรื่องของมึงเหอะงั้น ลู่หานเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มพลางหายใจฟึดฟัด ตอนนี้ต้องสงบสติอารมณ์ก่อนที่ขาของเขาจะพาหมัดลุ่น ๆ ไปซัดหน้าปาร์คชานยอลเสียก่อน

    แล้วยุนฮาล่ะ? เทาถาม

    กูเห็นมันนอนจมกองตีนพวกนั้น ไม่รู้ว่าเป็นหรือตาย

    ทำไงดีคะครู...” อึนจีหันไปหาครูสาวที่นั่งทำหน้าคิดไม่ตกอยู่ข้าง ๆ ทุกสายตามองไปยังคนสี่คนที่มาจากโรงเรียน แน่นอนว่าพวกเขากำลังวิตกเกี่ยวกับเรื่องคังยุนฮามากที่สุด

    กูจะไปช่วยอี้ฟาน

    ว่าไงนะ?

    ในเมื่ออี้ฟานยังอยู่ กูก็จะไปช่วยมันออกมา

    มึงจะไปยังไง เห็น ๆ อยู่ว่าพวกมันมีกันกี่คน ไหนจะอาวุธอีก?ใช่ว่าเขาไม่เห็นด้วยกับความคิดของลู่หาน แต่พอคิดดูดี ๆ แล้วคนของเขามีแต่เด็กและผู้หญิงซะส่วนใหญ่ จะให้ไปสู้รบกับพวกเวรนั่นก็คงไม่ไหวแน่

    หาสิวะ พวกมันหาปืนได้เราก็ต้องหาได้เหมือนกัน

    มึงพูดเหมือนทุกอย่างเป็นเรื่องง่าย

    กูไม่ชอบทำอะไรให้มันยาก

    แต่เรื่องง่ายของคุณมันกำลังเป็นเรื่องยากสำหรับคนอื่น ชานยอลยืนกอดอกมองอีกฝ่ายที่กำลังพูดเอาแต่ใจอย่างไร้เหตุผล

    คนอื่นที่ว่านี่ใคร มึงสินะครับ?

    คุณเอาแต่คิดจะไปช่วยอี้ฟานจนลืมอะไรไปหรือเปล่าลู่หาน?

    เหอะ

    ถูกอย่างที่จงอินพูด คนของเรามีน้อยแถมไม่มีอาวุธอีก ถ้าจะต้องสู้กันจริง ๆ มันต้องเกิดการสูญเสียแน่ แล้วคุณคิดว่ามันดีแล้วเหรอที่เราจะต้องสูญเสียใครไปอีกเพื่อช่วยคน ๆ หนึ่งกลับมา

    เพราะมึงเห็นแก่ตัวแบบนี้ไง มึงถึงได้ทิ้งอี้ฟานไว้ตรงนั้น” ประโยคนี้ราวกับถูกจี้ใจดำ ไม่มีคำพูดหลุดออกมาจากปากปาร์คชานยอลอีก ถ้ามึงอยู่ในสภาพครบสามสิบสอง มึงจะทิ้งอี้ฟานไว้ตรงนั้นหรือเปล่าวะจงอิน? คราวนี้ลู่หานหันไปถามเพื่อนซี้ ร่างหนายืนเงียบไม่ได้ตอบคำถามของคนข้าง ๆ แน่นอนว่าถ้าเขาอยู่ตรงนั้น ไม่ว่าจะเป็นใครเขาก็คงพยายามช่วยอย่างสุดความสามารถเหมือนกัน

    พอเห็นจงอินเงียบไม่ได้โต้ตอบลู่หานกลับไปเมื่ออย่างก่อนหน้านี้ปาร์คชานยอลเลยกลายเป็นคนเห็นแก่ตัวอย่างสมบูรณ์แบบตามที่ถูกตราหน้าเอาไว้

    แล้วถ้ามองอีกแง่ว่าคนที่คุณเห็นไม่ใช่คุณอี้ฟานล่ะ? ทุกคนหันไปมองมินซอกที่นั่งเงียบอยู่นาน เด็กหนุ่มจ้องมองลู่หานด้วยสายตาเรียบเฉยไม่ต่างจากที่ชานยอลมองเขาเลยสักนิดคุณเคยคิดบ้างไหมว่าถ้าเกิดไม่ใช่คุณอี้ฟานแล้วจะเป็นยังไง

    นั่งฟังเฉย ๆ ก็พอมินซอก ถึงจะไม่พอใจที่คนตัวเล็กพูดดักทางเขาแบบนั้นแต่ลู่หานก็ยังพูดด้วยน้ำเสียงโทนปกติ

    ผมมีสิทธิ์ออกความเห็นไม่ใช่เหรอ?

    งั้นก็ว่ามา จงอินมองเด็กน้อยที่กล้าพูดแทรกขึ้นมาตอนที่ลู่หานกำลังอารมณ์ไม่ดีในขณะที่คนอื่นเลือกที่จะนั่งฟังเฉย ๆ 

    หรือถ้าใช่จริง ๆ คุณจะแน่ใจได้ยังไงว่าเขาอยากกลับมาอยู่กับพวกเรา ประโยคนี้ทำให้รู้สึกใจหายอย่างบอกไม่ถูก ถึงจะมีความเป็นไปได้อย่างที่มินซอกพูดแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าพวกเขารู้สึกแย่ถ้าเกิดมันเป็นแบบนั้นจริง ๆ

    มันต้องอยากกลับมาแน่ ลู่หานมองหน้าอีกฝ่ายที่กำลังมองเขาอยู่เช่นกัน

    ผมกำลังถามว่าถ้าเขาไม่อยากกลับ...คุณตอบไม่ตรงคำถามนี่

    เอาเถอะ นี่ไม่ใช่เวลาที่จะมาทะเลาะกัน จงอินพูดแทรกขึ้นมาเพื่อสงบศึก ลู่หานถอนหายใจหนัก ๆ เขารู้สึกหงุดหงิดจนไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้กับการที่มินซอกพูดดักคอเขาแบบนั้น

    ถ้ามึงไป กูไปด้วย กูจะไปช่วยยุนฮา

    หนูไปด้วย พอเห็นเทาออกตัวอึนจีก็เลยตามเพราะเป็นห่วงเพื่อน

    โอเค ตอนนี้มีสามคนแล้ว ลู่หานหันไปทางเด็กหนุ่มชาวจีนที่ยืนอยู่ฝั่งทางซ้ายกับเด็กสาวที่นั่งอยู่บนโซฟา

    มึงใจเย็น ๆ ก่อนเหอะ แม่งใช้แต่อารมณ์ เคยคิดบ้างไหมว่าคนอื่นจะเดือดร้อนไปด้วย

    กูก็ไม่ได้ขอร้องให้ใครไปเสี่ยงตายกับกูป่ะวะ อย่างไอ้ห่าเทามันก็แค่อยากช่วยเพื่อนลู่หานมองไปยังปาร์คชานยอลที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมไม่ใช่ใครบางคนที่พร้อมจะทิ้งเพื่อนให้ตายห่าไว้ตรงไหนก็ได้

    ...

    เป็นครั้งที่สองที่ถูกแทงใจดำกับคำพูดที่มาพร้อมกับแววตารังเกียจของลู่หาน ภาพเหตุการณ์วันนั้นฉายขึ้นมาเป็นฉาก ๆ เขารู้สึกได้ถึงความร้อนของเปลวไฟที่ลุกโชนอยู่รอบข้าง กับเสียงหวีดร้องของความเจ็บปวดในค่ายนั่น...และภาพของอี้ฟานที่ถูกยิงต่อหน้าต่อตาเขา

    ทั้งที่พยายามทำให้ทุกอย่างมันดีขึ้นแต่ดูเหมือนว่าคนอื่น ๆ จะมองไม่เห็นความพยายามของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว ความเงียบเข้าครอบคลุม เสียงถอนหายใจเบาหวิวของปาร์คชานยอลคือสิ่งเดียวที่คนรอบข้างได้ยิน ในเมื่อเด็กสองคนนั้นเห็นด้วยและคนอื่น ๆ ก็ไม่โต้แย้งมันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่เขาจะพูดต่อไปอีก ร่างสูงลุกขึ้นเดินออกมาจากตรงนั้นก่อนจะหยุดอยู่ตรงทางเลี้ยวขึ้นบันไดชั้นสอง ใบหน้าคมเอี้ยวหันกลับมามองทุกคนด้วยแววตาเรียบเฉยไม่ต่างไปจากทีแรก  

    ต่อไปนี้พวกคุณอยากทำอะไรก็ทำเลยแล้วกันนะครับ ผมจะไม่พูดอะไรอีก

    ...

    ผมมันคงขี้ขลาดเกินไปที่จะดูแลพวกคุณ

    พูดจบร่างสูงก็เดินขึ้นบันไดไปโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรออกมาอีก บรรยากาศตรึงเครียดเข้าไปทุกทีและดูเหมือนว่าคนที่ทำให้เรื่องราวมันใหญ่โตนั้นจะไม่สะทกสะท้านเลยแม้แต่นิดเดียวกลับกันแล้วลู่หานยังสะใจด้วยซ้ำที่เห็นปาร์คชานยอลเถียงไม่ออกแบบนี้

    มึงจะไปไหน?

    กูจะไปหาปืน

    ฟ้าจะมืดอยู่แล้ว รอพรุ่งนี้ไม่ได้ไงวะ? เขาล่ะเหนื่อยใจกับนิสัยดื้อรั้นของลู่หานเสียเหลือเกิน พอแม่งบ้าแล้วลงยากซะด้วยสิ

    เฮ้ย! มึงจะรอพรุ่งนี้เปล่าวะ? ไม่มีอะไรจะหยุดความตั้งใจของลู่หานได้ ร่างโปร่งหันไปถามเทาที่กำลังลุกขึ้นยืน เด็กหนุ่มส่ายหน้าเป็นคำตอบเมื่อนึกถึงคนเป็นเพื่อนที่ไม่รู้ว่าตอนนี้จะเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง

    มึงก็รอไปแล้วกัน แต่กูจะออกไปหาอาวุธข้างนอก

    ไร้สาระ มินซอกสบถพลางส่ายหน้าระอาก่อนจะเปิดประตูออกไปข้างนอก ลู่หานถอนหายใจฟึดฟัดแล้วหันไปเรียกรั้งท้ายคนตัวเล็กที่กำลังทำให้เขาโมโห

    มินซอก!”

    ไปอาบน้ำก่อนดีไหมครับลู่หาน เซฮุนพูดหลังจากที่เงียบมานาน แต่เจ้าของชื่อกลับไม่ได้ใส่ใจกับประโยคนั้นเลยสักนิด

    อาบยังไงก็ดับอารมณ์ร้อนมันไม่ได้หรอก จงอินเหล่มองคนข้าง ๆ ที่สภาพเละเทะไม่เหลือชิ้นดีถ้ามึงเสี้ยนมากนักเดี๋ยวกูจะพาไปสำรวจโลกเอง

     

     
     

     


     

     

     

     

    อยู่นี่แหละ เดี๋ยวฉันจะไปกับมันสองคน ได้ยินเสียงจงอินยืนคุยกับเซฮุนอยู่หน้าบ้านโดยที่มีลู่หานสตาร์ทรถรออยู่แล้ว ร่างบางพยักหน้ารับก่อนที่ใครอีกคนจะเดินไปขึ้นรถ ตอนนี้คนอื่น ๆ แยกกลับไปที่บ้านหลังแรกแล้ว ส่วนอี้ชิงนั่งอยู่บนโซฟาแล้วเปิดดูนิตยาสารผ่าน ๆ แบคฮยอนปิดม้าม่านลงแล้วเดินไปเอาไม้ถูพื้นออกมาถูคราบโคลนที่ลู่หานก่อเอาไว้

    เซฮุนเดินกลับเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก เขานึกเป็นห่วงทั้งคู่ที่ออกไปเสี่ยงข้างนอกทั้งที่ฟ้ากำลังจะมืดแบบนี้ พอขอไปด้วยก็ถูกจงอินห้ามเอาไว้

    สรุปบ้านหลังนั้นเขาว่ากันยังไงเหรอเซฮุน แบคฮยอนถาม เพราะก่อนหน้านี้เขาเห็นกลุ่มคนที่โรงเรียนหยุดคุยกับจงอินอยู่ที่หน้าบ้านอยู่นานสองนาน

    ตอนนี้มีลู่หานกับเทาที่พร้อมจะออกไปตามหาอี้ฟานกับยุนฮาน่ะ ส่วนจงอินก็ดูชั่งใจอยู่ว่าจะเอาด้วยหรือเปล่า

    หมอนั่นนี่แย่จริง ๆ เลย แบคฮยอนขมวดคิ้ว นึกโมโหที่ลู่หานเอาแต่ใช้อารมณ์จนเกือบเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้ว

    ตอนนี้เราคงต้องรอให้ทุกคนใจเย็นก่อน ว่าแต่ชานยอล...

    เดี๋ยวฉันจะขึ้นไปดูเอง แบคฮยอนว่าแล้วเซฮุนก็พยักหน้ารับ คนตัวเล็กเอาไม้ถูพื้นไปเก็บแล้วเดินขึ้นไปบนชั้นสอง เด็กน้อยหยุดยืนอยู่หน้าห้องตัวเองแล้วเคาะประตูไปเพียงแค่สองครั้งตามมารยาทก่อนจะหมุนลูกบิดแต่ก็พบว่าประตูล็อคอยู่

    ชานยอล

     

     

     

    เงียบ...

     

     

     

    ก๊อก ๆ

     

     

     

    ชานยอลครับ

     

     

     

    ก๊อก ๆ

     

     

     

    ชาน...

     

     

     

    ปึง!!!!

     

     

     

    แบคฮยอนสะดุ้งถอยหลังออกมาสองก้าวเมื่อมีบางอย่างถูกเขวี้ยงมากระแทกกับประตูอีกฝั่งอย่างแรง ร่างเล็กยืนอึ้งอยู่ครู่หนึ่งขณะมองบานประตูที่ยังคงปิดสนิทอยู่ หัวใจของเขาเต้นเร็วแรงเพราะความตกใจ เสียงเมื่อครู่ที่เพิ่งเกิดขึ้นไม่ต้องเดาก็พอจะรู้ว่ามันคือการสั่งให้เขาหยุดเคาะประตูซะ

    โอเค... เด็กน้อยพูดกับตัวเองเบา ๆ แล้วเดินไปนั่งพิงกำแพงข้างประตูแล้วชันเข่าเข้าหาตัว แบคฮยอนไม่โกรธที่ชานยอลทำแบบนี้เพราะที่ลู่หานพูดมันก็แรงเกินไปจริง ๆ ขนาดคนฟังอย่างเขายังจุกแทน ประสาอะไรกับคนที่โดนเต็ม ๆ อย่างชานยอล คงไม่แปลกที่จะโมโหขนาดนั้น แต่ที่เขานั่งอยู่ตรงนี้ก็เพราะอยากให้ชานยอลระบายความอึดอัดให้เขาฟังบ้าง ถึงชานยอลจะไม่ต้องการก็เถอะ...

     

     

     

     


     

     

     

     

    ไง

    สัดเอ๊ย

    สองหนุ่มยืนอยู่บนถนนหน้ามินิมาร์ทที่พวกเขาเพิ่งมาขนเสบียงไปเมื่อตอนกลางวันแต่บัดนี้กระเป๋าที่อัดแน่นไปด้วยอาหารนั้นไม่อยู่ที่เดิมแล้ว จงอินมองคนข้าง ๆ ที่กัดฟันกรอดแถมยังขยับปากสบถด่าพวกเวรนั่นไม่เหลือชิ้นดี

    บอกก่อนเลยนะว่าถ้าที่มึงเห็นมันไม่ใช่อี้ฟานจริง ๆ กูกระทืบมึงแน่ จงอินนำไปข้างหน้าโดยมีอีกคนเดินตามมาติด ๆ

    ให้สิบตีนเลยครับ กูจะนอนนิ่ง ๆ ให้พวกมึงเอาไนกี้ คอนเวิร์สนวดหน้ากันให้พอใจเลยล่ะ ลู่หานแค่นหัวเราะ

    รถก็โดนขโมย ไหนจะเสื้อกันหนาวอีก คงต้องย้อนกลับไปขนใหม่อีกรอบ นี่ก็เริ่มอากาศเย็นแล้วด้วย จงอินถอนหายใจเบา ๆ ทุกวันนี้พวกเขาก็ใช้ชีวิตยากอยู่แล้ว พอมาเจอภัยมนุษย์แบบนี้แล้วยิ่งเหนื่อยเข้าไปใหญ่

    ว่าไปแล้วกูก็น่าจะอาบน้ำก่อน คนปากดีเบ้หน้าเล็กน้อยพลางเกาส่วนใต้ร่มผ้า จงอินเห็นแบบนั้นแล้วก็ได้แต่มองด้วยสายตาเวทนา

    ระวังเด็กดาดฟ้าไม่ให้นอนด้วยเพราะสังฆังแดกนะมึง

    เลิกพูดเรื่องนี้ พอได้ยินชื่ออีกคนแล้วก็หงุดหงิดขึ้นมาเสียอย่างนั้น จงอินเหล่มองคนข้าง ๆ ที่กำลังเอาฝ่ามือยีแก้มตัวเองแรง ๆ เพื่อให้โคลนดินที่แห้งกรังหลุดออก

    ทำไมพูดไม่ได้ ก่อนหน้านี้กูเห็นพูดถึงไม่หยุด

    ต่อให้ไข่กูเรืองแสงได้แม่งก็ไม่ให้กูนอนด้วยอยู่ดี จะใจแข็งเอาโล่ไปไหนกูอยากรู้ ลู่หานบ่นอุบอิบ เขาล่ะหงุดหงิดที่ต้องตบตีกับมินซอกเพราะเด็กนั่นไม่ยอมให้เขานอนด้วย ต้องให้ใช้กำลังทุกทีถึงจะยอมให้ตายเหอะ

    หรือว่าเด็กมันเกลียดขี้หน้ามึงวะ? ลู่หานมองหน้าเพื่อนซี้ที่เหมือนจะกลั้นหัวเราะสุดขีด

    ใช่สิ ใครจะไปยอมมึงเหมือนเด็กกรงหมาล่ะ ก่อนออกมาก็อาลัยอาวรณ์กันเหลือเกิน กูนึกว่าอังศุมาลินเดินมาส่งโกโบริที่ท่าเรือ

    คนละเรื่องละสัด ร่างหนาผลักหัวคนข้าง ๆ ไปทีนึงแล้วหยุดยืนอยู่กับที่เมื่อเห็นอะไรบางอย่าง ถ้าไอ้ยุนฮาตายแล้วมันคงเดินเพ่นพ่านอยู่แถวนี้ แต่นี่... จงอินเดินถอยหลังไปตามคราบเลือดขาด ๆ หาย ๆ ที่ยาวไปตามเส้นถนน

    แสดงว่ามันคงถูกจับตัวไป

    น่าจะเป็นอย่างนั้น มึงเห็นหรือเปล่าว่ามันถูกยิงตรงไหน?

    ไม่รู้ว่ะ ตอนนั้นกูก็ตกใจเหมือนกัน เห็นอีกทีแม่งก็ร่วงลงไปกับพื้นละ

    ตอนนี้เรารู้แล้วว่าไอ้ยุนฮาโดนพวกมันลากกลับไปด้วย แล้วทีนี้มึงจะเอายังไงต่อครับ? น้ำเสียงประชดประชันถูกส่งไปยังเพื่อนซี้ที่ยังคงกวาดสายตามองไปรอบ ๆ เพื่อสังเกตรายละเอียด

    ไปหาปืนมาเป่าหัวพวกแม่งดิครับเพื่อน

     

     

     



     

     

     

    แอ๊ด...

    เด็กน้อยที่นั่งฟุบหน้าลงกับเข่าเงยหน้าขึ้นปรือตามองใครอีกคนที่เดินออกมาหลังจากที่ขังตัวเองอยู่ในห้องมานานร่วมชั่วโมง ชานยอลหลุบสายตาลงมองคนตัวเล็กที่กำลังลุกขึ้นยืนแล้วก็ปิดประตูกลับเข้าไป

    คุณโอเคไหมครับ? คำถามที่แสดงถึงความเป็นห่วงเป็นใยแต่มันไม่เคยใช้ได้ผลกับคนที่กำลังอยู่ในอารมณ์ขุ่นมัว ปาร์คชานยอลเข้าใจถึงความหวังดีของแบคฮยอน แต่คำถามนี้มันชักจะดูน่าหงุดหงิดไปสักหน่อย

    ครับถึงจะไม่สบอารมณ์นักแต่ร่างสูงก็ส่งยิ้มฝืน ๆ ไปยังคนตรงหน้าเพื่อหวังว่าจะให้บยอนแบคฮยอนตัดใจจากเรื่องนี้ซะ เพราะเขาเองก็ไม่อยากพูดถึงมันเหมือนกัน

    ผมขอโทษแทนลู่หานด้วยนะ อีกประโยคที่ทำให้ปาร์คชานยอลถอนหายใจออกมาเบา ๆ

    แบคฮยอนไม่ผิดที่กำลังจะปลอบใจเขา แต่สำหรับคนที่กำลังตกอยู่ในอารมณ์ขุ่นมัว การเซ้าซี้หรือไถ่ถามว่าน่ารำคาญแล้ว แต่การขอโทษแทนใครอีกคนที่สร้างความโมโหให้เขานี่สิ...

     

     

     

    การขอโทษแทนคนอื่น...มันเป็นอะไรที่งี่เง่าสิ้นดี

     

     

     

    ช่างมันเถอะ คุณไปอาบน้ำเข้านอนได้แล้ว

    แล้วคุณล่ะครับ? เดินตามไปได้แค่สองก้าวก็ต้องหยุดกับที่เมื่อร่างสูงหันกลับมามองเขาด้วยแววตาเฉยชา

    ผมจะออกไปข้างนอก

    ไปตามลู่หานกับจงอินเหรอ?ถามออกไปเพราะความไม่รู้ แต่ความไม่รู้ของบยอนแบคฮยอนกำลังจะทำให้ปาร์คชานยอลแทบระเบิดออกมาเสียเดี๋ยวนั้น

    นั่นคือสิ่งสุดท้ายที่ผมจะทำ ราตรีสวัสดิ์ล่วงหน้าครับ พูดจบก็เดินลงไปข้างล่างโดยที่ไม่รอให้คนตัวเล็กพูดอะไรอีก สองขาก้าวไปหยุดอยู่ที่ทางลง เห็นเพียงแค่แผ่นหลังของชานยอลที่เดินลับหายไปแล้วเท่านั้น

    ร่างสูงเดินออกไปข้างนอกแล้วมองซ้ายขวาเพื่อหารถสักคันที่จะพาเขาออกไปจากสถานที่ ๆ สร้างความอึดอัดให้เขาได้ และดูเหมือนว่าจะสวรรค์จะเป็นใจเมื่อมีรถคันหนึ่งเปิดประตูทิ้งไว้พร้อมกับซากตัวกินคนไส้ทะลักที่นอนจมกองเลือดอยู่ข้าง ๆ เตะศพออกไปให้พ้นทางเกะกะแล้วแทรกตัวเข้าไปในตัวรถ กุญแจเสียบคาไว้อยู่แล้วทำให้เขาไม่ต้องเสียเวลากับการหามันตามซากศพในละแวกนี้

     

     

     

    ปัง

     

     

     

    ... ร่างสูงขมวดคิ้วมองอี้ชิงที่เข้ามานั่งข้าง ๆ เขาหน้าตาเฉย ร่างผอมดึงเข็มขัดนิรภัยออกมาคาดเตรียมพร้อมก่อนจะหันไปถามร่างสูงที่ยังคงมองเขาอยู่

    “Where’re you going? (คุณจะไปไหน?)

    “Somewhere.”  (สักที่)

    “Okay, I’ll go with you.” (โอเค งั้นผมจะไปกับคุณ)

     

     

     

     


     

     

     

     

    ครืนนน...

    รถจอดลงหน้าสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง จงอินกับลู่หานเปิดประตูออกมาก่อนจะเท้าเอวมองซากความเสียหายของรถตำรวจที่ขวางทางเข้าเพราะอุบัติเหตุเมื่อก่อนหน้านี้ ในเมื่อทั้งคู่ขับวนหามาร่วมชั่วโมงแล้วแต่กลับไม่เจอร้านขายปืนเลย เพราะฉะนั้นที่นี่เลยกลายเป็นความหวังสุดท้ายที่พวกเขาจะหาปืนกลับไปได้

    มึงแน่ใจเหรอว่าที่นี่จะมีปืนให้เก็บ ร่างโปร่งถามพลางมองแผ่นหลังของคนเป็นเพื่อนที่กำลังเดินไปเปิดประตูรถตำรวจแล้วแทรกตัวเข้าไปสำรวจเก๊ะข้างใน ไม่ถึงนาทีจงอินก็เดินออกมาพร้อมกับปืนพกตำรวจสีดำ ลู่หานตาโตทำปากจู๋แล้วผิวปากทีหนึ่งก่อนจะปีนกระโปรงรถเพื่อข้ามเข้าไปข้างในสถานีตำรวจตามจงอิน

    เอาจริงป่ะ กูว่าใน สน. ก็ไม่มีห่าอะไรให้ปล้นหรอก ปืนตำรวจที่เหน็บเอวอยู่นั่นก็ปืนเปล่า ๆ ไม่มีกระสุน ดูดิ สน.เล็กแบบนี้คงเอาไว้ขังพวกเด็กแว๊นที่รอพ่อแม่มาประกันตัวเท่านั้นล่ะวะ ลู่หานพูดขณะที่เขาทั้งคู่กำลังเดินเข้าไปข้างใน

    แล้วไอ้นี่คือหอกไร จงอินชูปืนขึ้นมาพลางเลิกคิ้วขึ้นสูง

    อาวุธชีวภาพที่เอาไว้ฟาดหน้าใครสักคนแทนการเหนี่ยวไก

    มึงอาจจะเป็นรายแรกที่ได้ชิมความหอมหวานของสันปืน เงียบปากไปได้ละสัด บ่นอย่างกับหมา ลู่หานแทบหน้าคะมำเมื่อถูกเพื่อนซี้ตบหัว ร่างโปร่งเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มแล้วมองตามแผ่นหลังของใครอีกคนที่กำลังเปิดประตูเข้าไปอย่างช้า ๆ

    ใช่สิ ใครจะไปมีความคิดฉลาดเป็นกรดเหมือนกับไอ้ชานยอลล่ะ

    ประชดอย่างกับตุ๊ด ไม่เกิดมาเป็นผู้หญิงให้มันรู้แล้วรู้รอดไปเลยวะ

    ถ้ากูเป็นผู้หญิง กูจะอ่อยให้มึงอยากแล้วจากไป

    ถามกูก่อนไหมว่ากูอยากมึงหรือเปล่า นมเล็กกูไม่มองนะครับบอกก่อน

    นมเล็กก็อัพได้

    ถ้ามึงมีความพยายามที่จะอ่อยกูขนาดนั้นน่ะนะ ไอ้สัดขนลุก เลิกพูดเหอะกูกราบล่ะ ร่างหนาแผ่วเสียงลงเมื่อทั้งคู่เข้ามาในสถานีตำรวจแล้ว

    ทางด้านขวามีเก้าอี้ยาวที่เอาไว้ให้ญาติผู้ต้องหานั่งรอหรืออะไรสักอย่าง ส่วนฝั่งตรงข้ามคือโต๊ะสี่เหลี่ยมโง่ ๆ ที่เอาไว้ใช้ติดต่อประชาสัมพันธ์คดีเล็ก ๆ น้อย ๆ กับแฟ้มกระดาษเอสี่ที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นเต็มไปหมด ไหนจะเก้าอี้ที่ล้มระเนระนาดไม่เป็นท่าคงไม่ต้องคาดหวังถึงผู้รอดชีวิตที่นี่

    ในห้องขังมีตัวกินคนในชุดนักโทษอยู่สองสามตัว จากสภาพร่างกายที่ซูบผอมคาดว่าคนพวกนั้นคงอดตายมากกว่าถูกกัด แต่นั่นมันไม่ใช่ธุระของเขาที่จะต้องเข้าไปเก็บพวกมันเพื่อหวังให้เลเวลอัพ

    โอ... ลู่หานอ้าปากหวอเมื่อเห็นตำรวจสี่นายเดินออกมาจากประตูห้องหนึ่ง ชุดเครื่องแบบผู้พิทักษ์สันติราชเลอะคราบเลือดที่เปลี่ยนเป็นสีดำไปตามกาลเวลา

    เอาไงดีครับ

    มึงจะรอให้ผู้กองออกมาต้อนรับไหมล่ะครับ บวกสิครับบวก

    จงอินดึงไขควงออกมาพร้อมกับแยกตัวออกไปทางซ้ายส่วนลู่หานได้แต่ยืนอยู่กับที่พร้อมกับก้มลงมองมือที่ว่างเปล่าทั้งสองข้าง ไอ้เชี่ยนี่แม่งบอกให้บวก มึงถามบ้างไหมว่ากูจะเอาอะไรไปสู้มัน ไอ้มีดอีโต้แม่ค้านั่นเขาก็ทำหายตั้งแต่ตอนออกไปหาเสบียงแล้วด้วย

    จงอินหันกลับไปมองลู่หานหลังจากแทงหัวผีดิบตายไปแล้วหนึ่งตัว ร่างโปร่งแบมือทั้งสองข้างพร้อมกับยักไหล่เป็นเชิงบอกว่า ก็กูไม่มีอาวุธอ่ะ เห็นแบบนั้นแล้วก็ขยับปากด่าโคตรเหง้ามันเบา ๆ ก่อนจะหันกลับไปถีบตัวกินคนที่กำลังเดินเข้ามาให้ถอยหลังออกไปแล้วก้มลงดึงปากกาที่เหน็บอยู่กับกระเป๋าเสื้อตรงช่วงอกของซากศพเมื่อครู่

    เอาไป!”

    ไรวะ?!” ลู่หานรับไว้ได้อย่างพอดิบพอดี แต่คิ้วเรียวก็ต้องเลิกขึ้นสูงเมื่อเห็นปากกาในมือ

    อาวุธชีวภาพว่ะ พลานุภาพโหดสัดยิ่งกว่านิวเคลียร์รัสเซีย

    นิวเคลียร์ที่หน้า

    มึงอย่าโง่ ปากกาแม่งแหลมกว่าเสียงไอ้ห่าเทากรี๊ดอีก แทง ๆ เข้าไปเหอะเดี๋ยวมันก็ตาย หรือถ้ามึงโง่มากก็เอาเขาบนหัวมึงขวิดมันซะ ถึงจะหลอกด่าทางอ้อมแล้ววกกลับมาทางตรงแต่จงอินก็ยังบากบั่นเข้าไปไฝว้กับผีดิบตัวที่สองอย่างไม่ยี่หระ

    ลู่หานถอนหายใจอย่างเซ็ง ๆ แล้วหันไปมองผีดิบที่กำลังเดินโซซัดโซเซเข้ามาหาเขา ช้าแบบนี้นอนหลับไปสามตื่นก็ไม่ได้แดกกูหรอก ร่างโปร่งกลอกตาขึ้นแล้วย่างสามขุมตรงเข้าหาผีดิบในชุดเครื่องแบบ นิ้วโป้งกดหัวปากกาลงเพื่อเพิ่มความแหลมให้กับอาวุธเส็งเคร็งที่ไอ้เพื่อนหอกหักประทานมาให้

    ฮืออออ...

    เสียงสุดท้ายของตัวกินคนหลังจากถูกปากกาโง่ ๆ แทงเข้าที่เบ้าตาอย่างแรง ลู่หานถีบเข้ากลางหน้าท้องมันแล้วชักปากกาออกมาก่อนจะสะบัดคราบเลือดออก พอหันไปทางด้านข้างก็พบว่าจงอินกำลังยืนมองเขาอยู่ พอเห็นอย่างนั้นก็เลยยืดอกภาคภูมิใจกับผลงานตัวเอง

    ทึ่งเลยดิสัด

    งั้น ๆ อ่ะ

    ต่อให้เป็นไม้จิ้มฟันกูก็ฆ่าพวกมันได้ มึงคิดดูเอาว่ากูโหดขนาดไหน คนหลงตัวเองยังคงพูดไม่หยุด ลู่หานเดินเข้าไปทางด้านในแล้วก็ต้องผงะถอยหลังก้าวหนึ่งเมื่อเห็นผีดิบคลานออกมาจากหลังโต๊ะ

    พอเห็นว่าอีกฝ่ายไร้ทางสู้คนอวดดีก็เลยอยากโชว์พาวให้เพื่อนได้เห็นเป็นบุญตาสักหน่อย รองเท้าสนีกเกอร์เลอะโคลนกระทืบเข้าที่เบ้าแก้มตัวกินคนอย่างแรงจนกระแทกกับพื้นซีเมนต์ก่อนที่เขาจะยกขาขึ้นอีกครั้งแล้วกระทืบซ้ำจนกะโหลกบุบลงไปได้ง่าย ๆ เพราะร่างกายที่ตายหยาบมานานพอสมควร

    กูขอถามอะไรอย่าง

    หลายอย่างก็ได้ กูชอบตอบคำถามของคนขี้เสือก ฝ่าเท้ายังคงบดขยี้หัวตัวกินคนที่สมองทะลักออกมาจากเบ้าตาโดยไม่มีท่าทีรังเกียจเลยสักนิด จงอินเหล่มองคนกวนตีนที่ยังคงไม่สำนึกถึงความผิดเมื่อก่อนหน้านี้แล้วก็งิดขึ้นมา

    มึงรู้เหรอว่าจะไปตามอี้ฟานที่ไหน

    ไม่รู้

    จบ

    จบไรวะ ลู่หานขมวดคิ้วมองคนเป็นเพื่อนที่กำลังเดินไปค้นลิ้นชักโต๊ะทำงานของตำรวจที่สภาพไม่เหลือเค้าความดี พอเห็นแสงแดดที่ส่องเข้ามาทางหน้าต่างที่เปิดทิ้งไว้ลู่หานได้สำเหนียกว่าเป้าหมายที่มาสถานีตำรวจคือหาอาวุธก่อนที่ดวงอาทิตย์จะตกดิน

    จบเพราะคำตอบของมึงมันงี่เง่าไง

    การที่กูไม่รู้นี่มันงี่เง่าตรงไหน?

    ตรงที่เป็นมึงนี่แหละ จงอินส่ายหน้าหน่าย ๆ บางทีเขาก็เบื่อกับมุมเด็กของลู่หานที่เอาแต่คิดว่าตัวเองถูกจนไม่สนใจเหตุผลอะไรทั้งนั้น แต่ถ้าจะปล่อยให้มันมาคนเดียวก็ใช่เรื่องอีก จุดประสงค์ที่มาก็เพราะอยากเกลี้ยกล่อมให้ลู่หานสงบลง ส่วนอาวุธพวกนี้ก็คือผลพลอยได้ก็เท่านั้น

    ถ้าไม่รู้ก็แค่ตามหาป่ะวะ?

    ถ้าตามแล้วไปเจอตอมึงจะทำไง?

    วิ่งดิครับวิ่ง...เยด เจอคลังกระสุนแล้วว่ะ ลู่หานยิ้มกว้างเมื่อเห็นกล่องกระสุนปืนที่อยู่ในตู้ด้านในสุด ถึงจะมีเพียงแค่สามสี่กล่องแต่ก็ยังดีกว่าไม่ได้อะไรติดมือกลับไปเลย

    ลองคิดเล่น ๆ นะว่าถ้าเกิดกู มึง ไอ้ห่าเทา อึนจี มินซอกบุกเข้าไปช่วยอี้ฟาน พวกมันมีกันเยอะมาก สาดกระสุนมาไม่หยุด พวกเราทุกคนหนีกันจ้าละหวั่น มึงเอาตัวรอดได้ แล้วคนอื่นล่ะ?

    ก็หนีไง

    แล้วถ้ามินซอกถูกยิงล่ะลู่หานกริบกับคำพูดของจงอิน เขาก็ลืมนึกถึงเรื่องนี้ไปว่าคนอื่น ๆ ไม่ได้ตีนผีเหมือนกับเขาโดยเฉพาะมินซอกที่ไม่ได้โดดเด่นเรื่องการเอาตัวรอด สองมือกอดกล่องกระสุนทั้งหมดเอาไว้แล้วเดินออกมาจากตรงนั้น

    ก็บอกแล้วไงว่ากูไม่ได้ขอให้ใครไปเสี่ยงตายด้วย

    มึงฟังคนอื่นบ้างเถอะอย่าเอาอารมณ์เป็นหลัก มึงเห็นสีหน้าคนอื่น ๆ ตอนมึงลมบ้าหมูขึ้นบ้างไหม? จงอินก้มลงปลดกุญแจมือที่ห้อยอยู่ตรงเข็มขัดนายตำรวจที่นอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น คาดว่าเขาอาจจะได้ใช้งานมันเข้าสักวัน

    เออ กูผิด

    กว่าจะสำนึกได้ คนอื่นเขาเอียนหนังหน้ามึงไปแล้วว่ะ

    “WHO CARES?? ถามหน่อยครับว่าใครแคร์?

    คนที่แคร์มึงน่ะไม่มีหรอก

    สัด ลู่หานวางกล่องกระสุนปืนลงแล้วเขวี้ยงกล่องเก็บปากกาใส่หัวจงอิน

    มึงก็มีเหตุผลของมึง ชานยอลก็มีเหตุผลของมัน มึงจะพีคทำห่าอะไรขนาดนั้นกูถามหน่อย สิ่งสุดท้ายที่เก็บขึ้นมาคือกระบองตำรวจ ถึงจะใช้ฆ่าตัวกินคนไม่ได้แต่หยิบติดไม้ติดมือกลับไปก็ดี

    ก็กูหมั่นหน้ามันอ่ะ มึงไม่เข้าใจหรอก

    ไม่ใช่กูคนเดียวด้วยนะ คนทั้งโลกก็ไม่เข้าใจมึงเหมือนกัน

    มึงเพื่อนกูป่ะถามจริง

    เพราะกูเป็นเพื่อนมึงไง กูถึงได้ด่าเตือนสติมึงมาจนถึงวินาทีนี้

    ...

    แดกข้าวหม้อเดียวกันแล้วยังทะเลาะกันอีก จงอินส่ายหน้าหน่าย ๆ แล้วเดินเข้าไปหาศพผีดิบตัวอื่นที่มีปืนพกเหน็บอยู่ตรงช่วงเอว

    โอเค กูผิด กูยอมแล้วลู่หานขึ้นไปนั่งบนโต๊ะทำงานพลางมองไปยังใครอีกคนที่กำลังตั้งหน้าตั้งตาค้นตัวศพนายตำรวจอยู่แต่ที่ทำไปก็เพราะว่ากูอยากให้อี้ฟานกลับมาอยู่ด้วยกันป่ะวะ

    ทุกคนก็อยาก แต่ทุกอย่างมันต้องมีขั้นตอน

    นี่แหละขั้นตอนของกู

    ขั้นตอนของมึงมันไม่ผ่านความเห็นของส่วนรวม

    แต่ไอ้เทากับอึนจีก็เห็นด้วยนะ

    มึงจะเอาอะไรกับเด็กอายุสิบแปดที่แม่งจัดการพวกตัวกินคนโดยการโยนเข้ากองไฟวะห่า

    อย่างน้อยก็สองคนล่ะวะ

    แล้วที่เหลือล่ะ?

    คนที่เหลือก็แค่ไม่กล้าออกไปเสี่ยงตายเหมือนกูก็เท่านั้น

    ชีวิตคนไม่ใช่เกมออนไลน์นะสัด ที่จะโดนยิงตายแล้วกลับไปเกิดใหม่ได้ง่าย ๆ มันก็ไม่ผิดที่เขาจะกลัวตาย เพราะกูก็กลัวเหมือนกันหรือมึงไม่กลัว? จงอินพยายามอธิบายให้คนหัวรั้นเข้าใจ เพราะนาทีนี้ลู่หานคงไม่ยอมฟังใครแล้วนอกจากเขา

    เออกลัวก็ได้ แล้วไงต่อ

    กูบอกแล้วว่ามันต้องมีขั้นตอน ไม่ใช่บุ่มบ่ามบุกเข้าไปแบบนั้นคือตายฟรี มึงช่วยสำเหนียกตัวเองด้วยว่าพ่อมึงไม่ได้เป็นคนเหล็ก โดนยิงแล้วตายห่านะครับ

    เออ

    แล้วมึงไปประชดชานยอลแบบนั้นก็ไม่ถูก มันเคยช่วยชีวิตมึง มันเคยช่วยดูแลทุกคนตอนที่มึงนอนเดี้ยงไส้จะทะลักออกมา

    โห มึงจะขุดคุ้ยอีกนานไหม กูก็เข้าไปช่วยมันในค่ายเหมือนกันป่ะ เรื่องนี้มันทดแทนกันได้

    ไม่มีเรื่องไหนทดแทนกันได้หรอก คนเราต้องรู้จักบุญคุณคน ไอ้สัดพูดแล้วกระดากปากชิบหาย ร่างหนาส่ายหน้าหน่าย ๆ ที่จะต้องมาพูดมาสอนไอ้หอกนี่ด้วยคำพูดดี ๆ ซึ่งดูแล้วมันก็ไม่ได้อินกับสิ่งที่เขาพร่ามสักเท่าไหร่ด้วย

    แล้วสิ่งที่กูเคยทำให้ทุกคนอ่ะ

    การทวงบุญคุณทำให้มึงรู้สึกดีขึ้นมาป่ะ

    นาทีนี้คงไม่มีอะไรทำให้กูรู้สึกดีขึ้นได้นอกจากเห็นพิธีกรเดินเข้ามาพร้อมกับตากล้องแล้วพูดว่านี่คือรายการเรียลลิตี้ที่จัดฉากทั้งหมดขึ้นมาอ่ะสัด ที่กูถามแบบนั้นก็แค่อยากรู้ว่าคนอื่น ๆ จะนึกถึงสิ่งที่กูเคยทำให้บ้างไหมก็เท่านั้น พูดแล้วแม่งก็น้อยใจชิบหาย พอเอาเข้าจริง ๆ ก็พากันแห่ไปเข้าข้างไอ้ชานยอลกันหมด

    เรื่องนั้นมันไม่สำคัญหรอก ตอนนี้มันไม่ใช่เวลาที่จะมาทวงบุญคุณอะไรทั้งนั้นแหละ แค่หายใจไปวัน ๆ ไปโดยที่ไม่ต้องวิ่งหนีหัวซุกหัวซุนก็น่าจะพอแล้วไม่ใช่เหรอวะ

    แต่มึงกำลังบอกให้กูสำนึกบุญคุณของไอ้ห่าชานยอล

    กูบอกเพื่อให้มึงมองโลกให้กว้างขึ้นไง ไม่ใช่ก้มลงมองแต่ปลายตีนตัวเอง

    มึงแม่งสองมาตรฐาน นรก

    ตามนั้น

    เพื่อนเหี้ย เห็นจงอินยักไหล่ตอนกำลังหอบของออกมาแล้วก็หงุดหงิดเลยถีบสีข้างไปทีนึง ร่างหนาเซไปทางด้านข้างเล็กน้อย พอตั้งหลักได้ก็เสตามองเพื่อนซี้ที่กำลังแสดงสีหน้าไม่พอใจอยู่

    ใช่ มึงมันเหี้ย

    เหี้ยกับเหี้ยอยู่ด้วยกันได้

    ใครอยากอยู่กับมึง? โน่นเลยรถตำรวจ อยากโชว์เหนือมากก็ขับรถเปิดหวอไปเลยครับ ตามสะดวก จงอินผายมือออกไปข้างหน้าหลังจากที่ทั้งคู่เดินออกมาจากสถานีตำรวจแล้วหากแต่ลู่หานไม่สนใจ เขาถีบก้นร่างหนาจนแทบหน้าทิ่มแล้วก็ต้องเป็นฝ่ายวิ่งหนีบ้างเมื่ออีกคนคิดจะเอาคืน

     

     
     

    ถึงคำพูดของจงอินจะทำให้เขาคิดได้บ้าง แต่ไอ้ความคิดที่ว่าจะให้เข้าไปญาติดีกับปาร์คชานยอลน่ะ...ลืมไปได้เลย

     

     

     

     

     

     

     
     

    ประตูกระจกดำถูกเปิดออกเพื่อให้คนกลุ่มหนึ่งเข้ามา ร่างของเด็กหนุ่มถูกผลักเข้าไปทางด้านในจนไถลไปกับพื้น คังยุนฮานิ่วหน้าเจ็บกับบาดแผลที่ถูกยิงเฉียดขา บางคนแค่เดินผ่านก็เตะเด็กหนุ่มเพราะเห็นว่ามันเป็นเรื่องสนุก ยุนฮางอเข่าเข้าหาตัว เสียงโอดครวญของเขาคือสิ่งที่ทำให้พวกเลวนี่ยิ้มออกมาได้

    เปลือกตาปรือมองบรรยากาศโดยรอบ...แสงสว่างที่เกิดขึ้นจากเทียนหลายเล่ม มีชายหนุ่มยืนอยู่ข้างในบาร์น้ำที่มีเหล้าและไวน์หลากชนิดตั้งอยู่ข้างหลัง มีผู้ชายอีกสามสี่คนที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์บาร์ บางคนถือขวดเบียร์ขนาดเหมาะมือ บางคนดื่มเหล้า เสียงทุ้มของจังหวะเพลงฮาร์ดคอดังมาจากที่ไหนสักแห่ง ยุนฮาขยับตัวเล็กน้อยเพื่อให้มองเห็นทุกอย่างได้ถนัดยิ่งขึ้น และเขาก็ได้รู้ว่าเสียงเพลงที่ดังทุ้มรอบสถานที่แห่งนี้มาจากรถราคาแพงคันหนึ่งที่ถูกตกแต่งอย่างสวยงามจอดอยู่กลางฟลอร์

     

     

     

    ที่นี่คือผับ...

     

     

     

    วันนี้มีแขกใหม่เหรอวะ?

    ใช่พี่ แต่จับมาได้แค่คนเดียว อีกสองคนหนีไปได้ อีกคนนึงตกหน้าผาตายห่าไปละฮ่า ๆ ได้ยินเสียงประจบสอพลอชัดเจนแม้ว่าเสียงเพลงจะดังทุ้มจนทำให้ปวดหัวไปหมด

    ไปทำห่าอะไรที่หน้าผาวะ?

    มันมีคนนึงวิ่งหนีไงพี่ ไอ้เจียเหิงเลยจัดการแม่ง

    หืม? ชายวัยกลางคนที่สักลายเต็มแขนจนลามมาถึงช่วงคอเลิกคิ้วขึ้นสูงราวกับไม่เชื่อในสิ่งที่ลูกสมุนบอกกล่าว ยุนฮาหันไปมองใครอีกคนที่ก้าวมาหยุดอยู่ข้าง ๆ เขาพร้อมกับถอดหมวกโม่งสีดำออกมึงน่ะเหรอฆ่าคน?

    อืม ร่างสูงขานตอบในลำคอ เขาไม่ได้พยายามอธิบายเพื่อให้ได้รับคำชมเยินยอเหมือนอย่างที่คนอื่น ๆ ทำ

    จะว่าไปเราก็ไม่เจอคนเป็น ๆ มานานพอสมควรแล้วนะ ชายวัยกลางคนที่ใคร ๆ เรียกว่าลูกพี่หยิบบุหรี่ขึ้นมาคาบไว้ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้สูงหน้าเคาน์เตอร์บาร์พร้อมกับไฟแช็คที่ถูกจุดโดยคนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ อย่างรู้งานล่าสุดก็ตอนก่อนค่ายแตก นัยน์ตาเรียวรีมองไปยังชายหนุ่มร่างสูงที่ยังคงยืนอยู่ที่เดิมด้วยสีหน้าเรียบเฉย ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มเมื่อนึกถึงเหตุการณ์วันนั้นแม้ว่ามันจะทำให้พวกเขาเสียที่อยู่และพรรคพวกไปเกินครึ่งก็ตาม โดยเฉพาะน้องรักของเขา...คิมนัมจุน

    ไหน มึงพามันมาให้กูดูหน้าใกล้ ๆ หน่อยซิ คนเป็นผู้นำเท้าแขนไปข้างหลังพลางเอนพิงกับเคาน์เตอร์บาร์ ลูกสมุนที่ซื่อสัตย์พยักหน้าแล้วลากคอเสื้อเด็กหนุ่มให้เข้ามาหยุดอยู่ที่ปลายเท้าเขาก่อนจะจิกผมให้เงยหน้าขึ้น

    โอ๊ย!”

    อ้าว หน้าไม่คุ้น ชายวัยกลางคนหัวเราะแล้วโน้มตัวลงไปมองใกล้ ๆ กูนึกว่าจะโชคดีเจอเพื่อนเก่ามึงซะอีกนะเจียเหิง พูดจบก็เงยหน้าขึ้นมองร่างสูง

    ทำไมเหรอลูกพี่? ลูกสมุนที่อยู่ข้าง ๆ ถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

    กูแค่คิดว่ามันจะเป็นยังไงนะถ้าเกิดพวกไอ้เด็กเปรตนั่นได้เจอมันอีกครั้ง พวกมันจะมีความพยายามฝ่าลูกปืนเข้ามาช่วยมันเหมือนตอนค่ายแตกหรือเปล่า ชายวัยกลางคนกระตุกยิ้ม

    มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่คิดจะทำแบบนั้น ชายหนุ่มร่างสูงพูดเสียงเรียบกับคนที่แค่ผ่านมาเจอกันยิ่งเป็นไปไม่ได้ ยุนฮาขมวดคิ้วมองคนข้าง ๆ ก่อนจะพยายามหยัดตัวลุกขึ้นนั่ง และสิ่งที่ทำให้เด็กหนุ่มต้องเบิกตากว้างก็คือใครคนหนึ่งที่เขาเคยคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี

    คุณอี้...คำพูดถูกกลืนลงคอไปหมดเมื่อเห็นสายตาของร่างสูงที่ส่งมาเป็นเชิงห้าม

    ใช่พี่ ไอ้เจียเหิงมันเล่าให้ผมฟังว่ามันแค่หนีไปด้วยกันเฉย ๆ ไม่ได้เป็นเพื่อนกับไอ้พวกเวรนั่นเลย

    งั้นเหรอ แววตาที่มองมาราวกับไม่เชื่อว่าสิ่งที่ร่างสูงพูดเป็นเรื่องจริงแม้จะได้ยินจากปากลูกสมุนผู้ซื่อสัตย์แล้วก็ตาม ชายหนุ่มชาวจีนยังคงยืนนิ่ง เขาเป็นอย่างนี้เสมอ

    เหตุการณ์วันนั้นที่เกือบตายในค่ายนรก พวกมันเล็งปืนมาตรงหน้าเขา...เปลือกตาปิดลงเพื่อรับชะตากรรมหากแต่กระสุนปืนกลับฝังลงบนพื้นซีเมนต์จนหูอื้อไปหมด ความเจ็บปวดร้อนแผ่ซ่านไปทั่วเพราะสะเก็ดกระสุนปืนที่ยิงเฉียดจนใบหูจนบิ่นไปเล็กน้อยรวมถึงรอยแผลเป็นตรงโหนกแก้มของเขาด้วย

    ร่างของเขาถูกลากออกมาจากตรงนั้นอย่างทุลักทุเล ไม่เข้าใจว่าคนพวกนี้ต้องการอะไร อาจจะจับเขาไปทรมานทีหลังหรือว่าจะใช้เป็นเกราะกำบังพวกตัวกินคน แต่สุดท้ายอู๋อี้ฟานก็ได้คำตอบว่าพวกมันแค่คิดจะเก็บเขาไว้ดูเล่นเพื่อเอาไว้เป็นลูกน้องหากว่าเขาทำตัวดี แน่นอนว่าการบอกชื่อที่แท้จริงกับพวกมันคงไม่ใช่เรื่องที่เข้าท่า หลี่เจียเหิง คือชื่อใหม่ที่เขาคิดขึ้นมาเองตอนพวกมันถามระหว่างถูกซ้อม...

    แต่ไม่อยากเชื่อเลยนะ ว่าคนอย่างมึงจะฆ่าคนได้ลง

    มันไม่ใช่เรื่องสำคัญหรอก

    นั่นสิ ชายวัยกลางคนยกยิ้มแล้วใช้เท้าเขี่ยเด็กหนุ่มที่อยู่บนพื้นออกไปกูยกไอ้เด็กนี่ให้มึงแล้วกัน

    ... ร่างสูงอึ้งไปชั่วอึดใจ นัยน์ตาคมหลุบมองเด็กหนุ่มที่ยังคงเลือดไหลไม่หยุด เขารู้ดีว่า ยกให้ ในที่นี้หมายความว่ายังไง เพราะเขาก็เคยผ่านจุดนี้มาแล้วเหมือนกัน เด็กหนุ่มมองเขาด้วยสายตาหวาดกลัวเมื่อเห็นร่างสูงปลดเข็มขัดหนังสีดำแล้วรูดมันออกมาก่อนจะพันกับมือเอาไว้

    ฮ่า ๆ เสียงหัวเราะพอใจของพวกระยำกรอกเข้าหูไม่หยุด ทุกอย่างกดดันให้เขาต้องทำไม่งั้นเด็กคนนี้ต้องเจ็บตัวมากกว่าที่คิดเอาไว้แน่ ยุนฮาส่ายหน้าพรืดเมื่อร่างสูงง้างมือขึ้นก่อนจะฟาดเข็มขัดลงบนตัวเขาอย่างแรง

    อ๊ากกกกกกกกกกกกกกก!!!”

    ฮ่า ๆ

    เอาอีก! เอาให้เลือดสาดเลย!”

    ... นัยน์ตาสั่นเครือเมื่อเห็นภาพเด็กหนุ่มนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด ร่างสูงทำใจฟาดลงไปอีกครั้ง...อีกครั้ง...และอีกครั้ง ทุกครั้งที่เข็มขัดฟาดลงเสียงแผดร้องก็ดังตามมาให้รู้สึกผิด โชว์นี้กลายเป็นเรื่องน่าสนใจเพียงแค่ห้านาทีคนอื่น ๆ ก็หันไปสนใจกับเรื่องที่เคยทำเมื่อก่อนหน้านี้แทน

    อี้ฟานเงยหน้าขึ้นกวาดสายตาไปรอบ ๆ แม้แต่ไอ้เลวยองจุนที่เป็นผู้นำก็หันไปสนใจกับขวดเหล้าที่วางอยู่เคาน์เตอร์บาร์ ร่างสูงฟาดเข็มขัดลงบนพื้นแทนที่จะฟาดลงบนตัวยุนฮา เพียงแค่ไม่กี่ครั้งเขาก็หยุดการกระทำแล้วก้มลงกระชากคอเสื้ออีกคนขึ้นมา

    คุณ...ทำไมคุณถึงทำแบบนี้...

    อย่าเพิ่งพูดอะไรถ้ายังไม่อยากตาย ร่างสูงพูดเบา ๆ พอให้ได้ยินกันแค่สองคนก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วกระชากลากดึงเด็กหนุ่มให้คลานตามมาอย่างทุลักทุเลฉันจะเอามันไปเก็บไม่ได้ต้องการให้ไอ้เลวยองจุนขานตอบอะไรกลับมา ก็แค่การบอกกล่าวเพื่อให้มันรับรู้เท่านั้น

    โอ๊ย... เด็กหนุ่มนิ่วหน้าเจ็บพลางปรือตามองร่างสูงที่กำลังลนลานค้นหากล่องปฐมพยาบาลขึ้นมาวางไว้บนลังขวดเบียร์ที่กองกันขั้นสูงถึงช่วงอก ชายหนุ่มที่เคยฟาดเขาอย่างทารุณกำลังกรูเข้ามาดูบาดแผลที่ขาให้ด้วยความเป็นห่วง

    คุณคือคุณอี้ฟานจริง ๆ ใช่ไหม?

    คุณเป็นใคร ทำไมถึงรู้จักชื่อผม?

    ผมมาจากโรงเรียน คุณคงจำผมไม่ได้ เราเคยทักทายกันแค่หนเดียวตอนที่ผมช่วยยกซากตัวกัดคนขึ้นท้ายกระบะ

    โอเค เรื่องนั้นเอาไว้ก่อน ร่างสูงหันไปสังเกตการณ์ข้างหลังแล้วหันกลับมาอีกครั้งเมื่อพบว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้เมื่อกี้คุณมากับใครบ้าง?

    เทา...ลู่หาน...แล้วก็จงอิน เด็กหนุ่มนิ่วหน้าเมื่อร่างสูงกำลังราดแอลกอฮอล์ลงบนแผลเขา

    พวกคุณมีกันกี่คน

    อ๊ากกก...ทั้ง...ทั้งหมดรวมกับกลุ่มของพวกจงอินแล้วก็ประมาณสิบคน...อึ่ก...

    ทำไมมีกันแค่นั้นล่ะ คนที่เหลือไปไหนหมด?

    ร...โรงเรียนแตก พวกเราเหลือรอดกันมาแค่สี่คน...มีผม...เทา...ครูกาฮี...แล้วก็อึนจี...อ๊ากกก

    แข็งใจไว้นะ ร่างสูงกดผ้าลงบนแผลหลังจากราดทิงเจอร์และตามด้วยเบตาดีนไปแล้วก่อนจะใช้ผ้าขาดมัดเอาไว้แล้วกลุ่มของจงอินล่ะ

    อ...อยู่ครบครับ...

    ดี... ร่างสูงตบบ่าเด็กหนุ่มพร้อมกับก้มหน้าลงถอนหายใจเบา ๆ นี่เป็นข่าวดีที่สุดในรอบเดือนที่เขาได้ยิน

    พ...พวกเขาคิดว่าคุณตายแล้ว

    เอาล่ะ คุณฟังผมนะ ตอนนี้สิ่งที่คุณต้องทำคืออดทน ไม่ว่ามันจะทำอะไรก็ตาม อย่ายั่วโมโห อย่าสู้ อย่าคิดหนี

    คุณจะพาผมหนีไปใช่ไหม...?

    ยังไม่ใช่ตอนนี้

    ครับ...ผมชื่อ...

    ไม่ต้องแนะนำตัว ผมไม่อยากหลุดเรียกชื่อคุณให้พวกมันสงสัย ร่างสูงพูดก่อนจะลุกขึ้นยืนผมต้องไปแล้ว

    ผมจะโดนทำอะไรอีกหรือเปล่า...

    อาจจะ ร่างสูงถอนหายใจแล้วทิ้งเด็กหนุ่มไว้ตรงนั้น ขายาวก้าวออกมาข้างนอก ในหัวของเขามีแต่เรื่องคิดที่จะหนีออกไปจากที่นี่หลังจากได้รู้ว่าคนอื่น ๆ ยังคงมีชีวิตอยู่

    ขายาวหยุดชะงักเมื่อเห็นใครคนหนึ่งยืนจ้องเขาด้วยแววตาเรียบเฉย...เด็กหนุ่มคนนี้ที่เขามักจะเดินสวนทางกันอยู่บ่อย ๆ แต่ทั้งคู่กลับไม่เคยคุยกันเลยสักครั้งเดียว แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา เพราะสิ่งที่ทำให้เขากลัวก็คือระยะห่างที่เด็กคนนั้นยืนอยู่กับที่ ๆ เขาเพิ่งเดินออกมาเมื่อครู่มันอยู่ใกล้กันเหลือเกิน...

    มองหน้าผมแบบนั้นหมายความว่าไง

    เปล่า

    คุณกลัวผมจะปากโป้งงั้นเหรอแววตาที่ว่าน่ากลัวอยู่แล้วแต่พอมากับประโยคเชิงขู่มันเลยทำให้เด็กตัวเล็กดูถือไพ่เหนือกว่า มันคงไม่ดีแน่ถ้าพวกยองจุนรู้เรื่องที่เขาคิดจะหนีออกไปจากที่นี่กับเด็กคนนั้น

    นายพูดเหมือนรู้อะไร

    รู้?

    นาย...

    เฮ้ย! ไอ้ลูกหมาโดคยองซูอยู่ไหนวะ มาเสิร์ฟเหล้าหน่อยดิ๊!” เสียงที่ตะโกนมาจากทางด้านนอกดึงความสนใจจากทั้งคู่ออกจากกัน

    ครับ! ผมจะไปเดี๋ยวนี้ เจ้าของชื่อตะโกนกลับแล้วหันมามองร่างสูงเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะเดินออกไปข้างนอก

    ร่างสูงมองไปยังเด็กที่ดูเหมือนจะอายุน้อยที่สุดกำลังรีบปรี่เข้าไปหยิบแก้วใส่ถาดกลมแล้วรินเหล้าใส่จนครบแล้วเดินวนส่งให้ทุกคนอย่างรู้งาน คนตัวเล็กโค้งหัวขอโทษเมื่อถูกไอ้กุ๊ยต่อว่าเรื่องไร้สาระแล้วรีบวิ่งกลับไปเอาขวดเบียร์มาให้แล้วโค้งหัวซ้ำอีกครั้ง ตอนนี้เขากำลังลุ้น...ลุ้นว่าเด็กนั่นจะบอกความลับของเขาหรือเปล่า...แต่ดูเหมือนว่าอู๋อี้ฟานจะคิดผิด...

     


     

     

    เพราะโดคยองซูไม่ได้ปริปากพูดอะไร...มีเพียงแค่แววตาคู่นั้นที่มองมายังเขาเท่านั้น...

     

     

     

     

     







     

    TBC

     



     

     

    หายไป 1 อาทิตย์เต็ม ๆ เพราะหนีไปเที่ยวต่างจังหวัดมา เรายังอยู่นะคะ ยังไม่ถูกตัวกินคนงาบไป ยังไม่ตายยยยยยยยยยยยยย

    เอาล่ะ เราเฉลยปมพี่อี้ฟานไปบ้างแล้ว คงคลายความค้างคาใจของหลาย ๆ คนไม่มากก็น้อยแหละเนอะ แต่ที่สำคัญคือ...น้องคยองซูของขุ่นแม่ออกมาแล้วนะคะ (ลุกขึ้นปรบมือ) น้องคยองจะเป็นคนไม่ดีหรือเปล่า ทำไมทำตัวลึกลับน่ากลัวแบบนั้น คู่ชานลู่ก็กลับมาไฝว้กันอีกแล้ว คราวนี้คนอ่านจะยังเข้าข้างพี่ลู่คนไร้เหตุผลอยู่ไหม?! คนนึงใจร้อนเพราะห่วงเพื่อน อีกคนใจเย็นทำเพื่อส่วนรวม แต่ก็นะ ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง ร้อยพ่อพันแม่มาเจอกัน มันก็ต้องมีบ้างที่ความเห็นไม่ตรงกันถูกไหมคะ #แพร่มไรเยอะแยะจะหน้า A4 ละ

     

    สุดท้ายนี้ 555555555555555555555555555555

    สวัสดีข่ะคุณคนที่ก๊อปฟิคมงิน คุณเข้ามาอ่านหรือเปล่าคะ ถ้าอ่านอยู่มลินอยากถามว่าอะไรเข้าฝันให้คุณทำแบบนี้เหรอคะ มีสติไหมคะตอนก๊อป หรือคิดว่าก๊อปไปบอร์ดปิดแล้วจะไม่มีใครรู้ไม่มีใครเห็น มันไม่ดีนะคะแบบนี้ อย่าทำอีกเลยนะคะ มลินไม่ชอบตอนตัวเองโมโหค่ะ ตกมันแล้วไม่น่ารัก ไม่อยากโดนใครนินทาเพราะเรื่องก๊อปฟิคค่ะ

    ใครจะอยากถูกก๊อปฟิคอ่ะเนอะ พอเราดราม่าก็มีคนแซะว่าเออ ฟิคมึงสนุกมากเหรอ คิดไปเองเปล่าไรงี้ ก็ไม่ได้คิดหรอกค่ะ แค่โมโหที่ถูกก๊อปเฉย ๆ

     

    สุดท้ายจริง ๆ แล้ว มลินปิดจองฟิคซีซั่น 1 วันที่ 15 กุมภาแล้วนะคะ ใครยังไม่จองก็รีบจองเด้อ <3

     

    #ficzombie

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×