คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 06 :: His Fanclub (100%)
Chapter 6
His Fanclub
Always with HUNNIE @HunniizBabiigalz 15m
กูล่ะรำคาญอีแอดมินซาแซงชื่อดังจริง ๆ เก่งแต่เรื่องแบบนี้ ถุยๆๆๆๆๆ #แอดมินคาอิโรคจิตชีวิตซาแซง
LUCKY OHSE @officialohsegirl 22m
[SCAN] #SEHUN MANLY MAGAZINE (1) cr: officialohsegirl pic.twitter.com/kEX3QnwUi2
แควนพรี่ฮุน @beautifulloveeee 25m
คือมึงคิดดู ตามเซฮุนไปทุกที่ละแบบแอบถ่ายรูปเค้ามารวมเล่มโฟโต้บุ้คขายคือร่ะ? อีด้อน ให้เวลาส่วนตัวเค้าบ้างนะมึงอย่าเยอะอีคาอิจัง #แอดมินคาอิโรคจิตชีวิตซาแซง
เซฮุนผัวกู @zuzukijung 30m
เอาให้ติดเทรนด์โลกค่ะมึง #แอดมินคาอิโรคจิตชีวิตซาแซง
ดอกหญ้ากับหมาวัด @rareITEM 31m
กูไปงานเดียวกันกับนางตลอดนะ แต่ประเด็นคือไม่มีใครเคยเห็นแอดมินบ้านนี้เลย ใครมีรูปนางบ้างมะ ขอดู #แอดมินคาอิโรคจิตชีวิตซาแซง
เซฮุนผัวกู @zuzukijung 35m
กูเคยตามฟอลนางช่วงนึงค่ะ เห็นว่าตามทุกงานมีรูปสวย ๆ มาปล่อยตลอด พอกูเมนชั่นไปถามว่าวันนี้ไปตามเซฮุนโอป้าไหมคะ คาอิจังคะขอเบอร์หน่อยจะโทรไปคุยเรื่องโปรเจควันเกิดฮุน อยากทำร่วมกัน แม่มึงค่ะไม่ตอบเมนชั่นกูเลย หยิ่งไปเถอะอีลูกครึ่งชะนีผี #แอดมินคาอิโรคจิตชีวิตซาแซง
Overdose @GuZaMakKa 35m
แฟนคลับเซฮุนแม่งชอบดราม่าจังเป็นห่าไรกันมากป่ะวะ เขาจะตามถ่ายรูปเพื่อเอาไปขายหรือไปทำอะไรแล้วมึงเสือกทำไมวะ ไม่มีปัญญาถ่ายได้เหมือนเขาก็บอกมาเหอะ ประสาทอ่ะพวกมึง #แอดมินคาอิโรคจิตชีวิตซาแซง
Always with HUNNIE @HunniizBabiigalz 37m
มึงคิดเอาเองว่านางทำถูกเหรอที่เที่ยวติดตามชีวิตเซฮุนขนาดนั้นเพื่อที่จะถ่ายรูปมาทำโฟโต้บุ้คขายแล้วเอาเงินไปตามศิลปินคนอื่นต่อ อย่าคิดว่ากูไม่รู้นะว่ามึงก็ติ่งฮยอนอา #แอดมินคาอิโรคจิตชีวิตซาแซง
อื้อหืม...
ติดเทรนด์เกาหลีจริง ๆ ด้วย...
ชายหนุ่มนั่งคาบมวนบุหรี่อยู่หน้าโต๊ะคอมทำได้แค่เพียงกระพริบตาตามจังหวะที่มันควรจะเป็น มือขวาจับเมาส์ มือซ้ายเกาตีนที่ยกขึ้นพาดโต๊ะคอมก่อนจะเอาบุหรี่ออกมากระเทาะขี้เบา ๆ
“ติ่งพวกนี้ดิ้นห่าอะไรกัน” พึมพำคนเดียวแล้วกดคลิกเข้าไปในกล่องเมนชั่นหลังจากส่องแท็กจนสาแก่ใจแล้ว
เนื้อ ๆ คือติ่งเซฮุนทั้งผองเผ่ากำลังพากันแห่เทรนด์กันอย่างพร้อมเพรียงด้วยเหตุผลเดียวกันว่าอีแอดมินคาอิจังแห่งบ้าน Oh Yes Sehun เป็นซาแซงแฟนที่ตามติดชีวิตเซฮุนจนโอป้าซารางแฮแทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว
อีพวกนี้ก็น่ารำอย่างนึงนะ ตอนกูปล่อยรูป Preview ทีก็ฟินดิ้นเหมือนหมาโดนน้ำร้อนลวกแต่พอได้โมเม้นไม่เท่าก็เกิดอาการอิจฉาหันมาด่ากูซะงั้น ขอบใจมากหนู กล่องเมนชั่นเต็มไปด้วยข้อความให้กำลังใจปนกับเมนชั่นคำหยาบคายที่ไม่คิดว่าชะนีวัยใสจะกลายเป็นสัตว์ดุร้ายได้เพียงเพราะคลั่งเมียกู
เหตุเกิดเมื่อวานที่เซฮุนบอกให้ไปรับที่สตูดิโอ นั่งรอเบื่อ ๆ เลยถ่ายรูปเล่นไปเรื่อยเปื่อย ส่วนตัวเลยนะ คิมจงอินเป็นคนชอบเล่นหูเล่นตากับยอดรักผ่านเลนส์กล้องมากกว่าตอนสบตาแบบปกติไม่รู้ทำไม ตอนสตาฟเข้าไปซับเหงื่อเติมแป้งก่อนเริ่มถ่ายแบบอีกครั้งแล้วหันมาป๊ะหน้าพอดีจังหวะขยิบตาตอบโต้กันนั่นน่ะแม่งใช่ แล้วก็จะไม่อธิบายด้วยเพราะมีแต่ศิลปินเท่านั้นที่จะเข้าใจความรู้สึกนี้
ระหว่างขากลับก็แอบถ่ายรูปตอนเซฮุนเดินไปขึ้นรถกะจะเอามาเรียกน้ำย่อยในทวิตเตอร์สักหน่อย แต่ติ่งที่ไม่ชอบขี้หน้าเสือกยกเรื่องนี้ขึ้นมาโจมตีกูซะงั้นค่ะ จงอินเลื่อนจอลงมาเรื่อย ๆ ก่อนจะเปลี่ยนไปเข้าลิงค์บ้านโอ้เยสเซฮุน
‘สู้ ๆ นะ ออนนี่ทุกคนเป็นกำลังใจให้’
‘คาอิจังเป็นยังไงบ้าง ร้องไห้หรือเปล่า อย่าร้องนะออนนี่เป็นห่วง TT’
‘คาอิจังอยู่ไหม หายไปเลยอ่ะฮืออออ’
‘อีพวกนั้นน่าเอาคีมล็อกดึงปากนะ อยู่ดีไม่ว่าดีชอบหาเรื่อง’
‘จริง ๆ คาอิไม่ผิดเลยเว้ยออนนี่ อีบ้านนั้นมันถ่ายรูปไม่ได้แล้วอิจฉา จบ’
สงครามผู้หญิงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คิมจงอินเกือบจะบรรลุแล้วหลังจากแฝงตัวเข้ามาอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยสตรีเพศ สังคมที่เต็มไปด้วยหน้าไหว้หลังหลอก ในทวิตเตอร์เมนชั่นตอบโต้จ๊ะจ๋า แต่มึงอย่าหันหลังค่ะ โดนนินทาตั้งแต่หนังกำพร้ายันกล้ามเนื้อ การที่จะอยู่ในโลกนี้ได้ต้องตอแหลเป็นไฟ ตามน้ำให้เก่ง อย่าเด่นเกินหน้าใครไม่งั้นมึงจะอยู่ยาก
“คา...อิ...มา...แล้ว...ค่ะ...ออนนี่...ทุกคน” ปลายนิ้วเรียวยาวกดแป้นคีย์บอร์ดราคาแพงอย่างชำนาญส่วนปากก็ขยับพูดตามไปด้วยทั้งที่คาบบุหรี่ไว้นั่นแหละ
ไม่ถึงห้าวิข้อความในกล่องแชทหน้าเพจก็เด้งขึ้นมารัว ๆ จนแทบอ่านไม่ทัน ดราม่าครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่คิมจงอินประสบกับตัวเอง เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาจะเป็นพวกนั่งมองดราม่าบนทามไลน์แล้วเบ้ปากเป็นรูปสะพานลอนดอนบริดจ์อย่างเอือมระอาเสียมากกว่า แต่ในเมื่อเลี่ยงดราม่าครั้งนี้ไม่ได้เห็นทีว่าคิมจงอินควรจะทำอะไรสักอย่างเพื่อสั่งสอนให้ติ่งวัยขบเผาะทุกคนต้องสะพรึงจนรู้สึกแสบดากกันทั้งแผ่นดิน
‘คาอิไม่ต้องเข้าทวิตนะ ปล่อยไปก่อนเดี๋ยวพวกมันก็หยุดเอง’
‘ใช่ ๆ เราอยู่ในบ้านของเราก็พอแล้ว’
‘ออนนี่เข้าใจหนูนะ หนูรักเซฮุน หนูไม่ผิด อย่าโทษตัวเองนะคะ’
‘วันหลังก็ปล่อยรูปแค่ในบ้าน ไม่ต้องปล่อยรูปให้พวกแม่มดู เหอะ!’
‘คาอิเหนื่อยใช่ไหม ออนนี่เข้าใจนะ TT’
แค่นหัวเราะแล้วกดสลับหน้าจอเข้าทวิตเตอร์ ชะนีน้อยหอยสังข์ยังคงติดแท็กกันอย่างไม่มีท่าทีว่าจะหยุดง่าย ๆ หนำซ้ำพวกนางยังสนุกกับการรุมด่าคนอื่นผ่านโลกโซเชียลอีกต่างหาก อีพวกนี้อยากท้าทายอำนาจมืดจากผู้คุมความตายอย่างกูใช่ไหม ได้ค่ะ...มึงเจอกู
“คาอิจะลาออก”
‘ห๊า!!’
‘อะไรนะ?!!!’
‘ไม่สิ ไม่ๆๆๆๆๆ’
‘อย่านะคาอิจัง TT[]TT’
“คาอิคงก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวเซฮุนโอป้าเกินไปจริง ๆ นั่นแหละค่ะ...” จุดจุดจุดเพิ่มความดราม่าเข้าไปอีก กล่องแชทหน้าบ้านยังคงได้รับความสนใจอย่างไม่หวาดไม่ไหวเมื่อคนที่ก่อสร้างบ้านเล็ก ๆ หลังนี้จนกลายเป็นบ้านแฟนเบสใหญ่ที่ใคร ๆ ต่างก็รู้จักเพียงแค่ได้ยินชื่อกำลังจะถอนตัวออก “คาอิทนไม่ได้จริง ๆ ที่ถูกทุกคนเกลียดแบบนี้...คาอิเสียใจค่ะออนนี่...”
‘ตอนนี้คาอิอยู่โรงเรียนใช่ไหม อย่าร้องไห้นะ’
‘ให้ออนนี่โทรหาหรือเปล่า? อย่าคิดอะไรเองคนเดียวสิเราเป็นพี่น้องกันไม่ใช่เหรอ?’
จงอินบี้ก้นบุหรี่พลางอ้าปากหาวอย่างไม่กลัวขากรรไกรค้าง นั่งอึนอยู่แปปนึงแล้วก็ลุกขึ้นเดินเกาตูดไปเปิดตู้เย็นเพื่อหยิบขวดนมสดขึ้นมากระดกอึก ๆ ก่อนจะเดินไปเปิดเครื่องเสียงใส่แผ่นเพลงท่วงทำนองเบา ๆ ชนิดที่ว่าคนฟังโยกตัวไปด้วยประหนึ่งคนบ้าแต่ถึงอย่างนั้นเจ้าตัวก็ยังคงอ้างว่าการกระทำที่เป็นอยู่มีแต่ศิลปินเท่านั้นที่จะเข้าใจ
เดินกลับมานั่งเก้าอี้โซฟาตัวเดิมแล้ววางขวดนมไว้หน้าคอม โอ้โห้...ข้อความในกล่องแชทดราม่าเรื้อรังขึ้นเรื่อย ๆ ประหนึ่งว่าอีคาอิจังจะ delete เพจนี้ทิ้งยังไงอย่างงั้น ไหนจะข้อความส่วนตัวเป็นสิบ ๆ ที่ส่งเข้ามาอย่างต่อเนื่องอีก ติ่งนี่แม่ง Beyond จริง ๆ
“จ๊ะเอ๋!~”
เสียงอ้อล้อมาพร้อมกับสองมือนุ่มที่ปิดเปลือกตาทั้งสองข้าง คนถูกแกล้งนั่งนิ่งไม่มีปฏิกิริยาตอบรับเกือบนาทีผู้มาใหม่ถึงได้ยอมผละตัวออก เซฮุนชะโงกมองคนรักที่ยังคงปั้นหน้านิ่งแต่แค่ครู่เดียวจงอินก็ยอมหันมาสบตากัน
“ไคจ๋าเป็นอะไร”
“เป็นซาแซงแฟนมึงไง”
อ้าวสรรถ อยู่ดี ๆ ขึ้นศัพท์เฉพาะกับกูซะงั้น
“อารมณ์ไหนเนี่ย” ไอดอลหนุ่มยังคงใจดีสู้เสือ ร่างบางโน้มตัวลงต่ำสองแขนยาวตวัดกอดรอบคอคนรักแล้วเกยคางทับลงไปและไม่ลืมที่จะหอมแก้มเพื่อสูดลมกลิ่นบุหรี่เหม็น ๆ เหมือนกับทุกครั้ง
“อารมณ์งิด”
“หิวเหรอ”
“กูงิด”
“ป่ะ เดี๋ยวเค้าพาไปกินข้าว”
“กูแดกนมแล้วมึงแหกตาดูบ้างไหม เนี่ยนม เขาเรียกว่านม” พูดพร้อมกับชี้ไปยังขวดนมโง่ ๆ ที่ตั้งอยู่หน้าโต๊ะคอมอย่างอ้างว้างเปล่าเปลี่ยวเดียวดาย อีห่าจงอินมึงเป็นเชี่ยอะไร ทำตัวเหมือนคนใกล้เป็นเมนส์
“เป็นอะไรก็บอกดิ”
“กูบอกไปแล้วว่าเป็นซาแซงแฟน”
“เออ แล้วไงต่อ”
“ก็ไม่ไง มึงอ่ะไปไกล ๆ ได้ป่ะ” เซฮุนเลิกคิ้วขึ้นเมื่อจู่ ๆ ไอ้ห่าที่รักเสือกแกะมือเขาออกอย่างรำคาญแถมยังทำมือปัด ๆ ไล่อีก
“อ้าวเชี่ยถ่าน ทำไมกวนส้นตีนแบบนี้” กูเพิ่งถ่ายแบบเสร็จกลับมาเหนื่อย ๆ จะหันหน้ากลับมาหอมแก้มให้กำลังใจกูสักนิดก็ไม่มี
“เหอะ ก็แบบนี้แหละ”
“มึงอยากเลิกกับกูใช่ป่ะ” ประโยคยอดฮิตที่มักจะหลุดออกจากปากเซฮุนทุกครั้งที่ทะเลาะกัน
“อย่ามาหาเรื่อง บอกให้ไปไกล ๆ ไง” จงอินหันมามองคนข้าง ๆ ที่ทำหน้าหงิกไม่พอใจอยู่ “จะไปไหนก็ไปเลย ไปมีเวลาส่วนตัวของมึงให้พอ คาอิจังจะไม่ตามถ่ายรูปมึงอีกแล้วค่ะ ลาแล้วลาลับตลอดกาลตามความต้องการแฟนคลับทั้งโลกของมึง”
“โหที่รัก มึงเครียดเรื่องนี้เองเหรอ เรื่องโคตรบั่นทอนปัญญา”
“มึงลองมาเป็นอีเจ้าของแท็กนี้ดูไหมล่ะ” พูดพร้อมกับคลิ๊กเข้าไปให้อีกคนดู เซฮุนลากเก้าอี้มานั่งข้าง ๆ คนรักแล้วเอื้อมไปใช้เมาส์ที่อยู่สุดแขน จงอินมองอีกคนที่กำลังให้ความสนใจกับหน้าจอคอม เสื้อผ้าหน้าผมที่ใส่อยู่บ่งบอกว่าคุณที่รักเพิ่งเสนอหน้าออกมาจากสตูดิโอถ่ายแบบแถมใส่ชุดกีฬาด้วย โดนใจกูไปอีก
ถ้าไม่ติดว่ากูเดือดเรื่องแท็กนี้อยู่จะลากมันเข้าไปพรีเมียมในห้องทั้งที่ใส่ชุดเทนนิสซะให้เข็ด
50%
“ตรงนั้นคือห้องปกครอง ถัดไปอีกหน่อยเป็นห้องประชุมซึ่งทางครูอาจารย์ที่สอนม.ต้นจะประชุมกันวันที่หนึ่ง ส่วนอาจารย์สอนม.ปลายจะประชุมกันวันที่สองของทุกเดือนตอนหลังเลิกเรียน” แบคฮยอนหยิบสมุดพกเล่มเล็กขึ้นมาจดยิ๊ก ๆ ขณะเดินขนาบข้างครูตัวสูงที่กำลังพาเขาเดินแนะนำโรงเรียน
ตอนนี้เป็นช่วงพักเที่ยงครูอี้ฟานเลยมีเวลาพาเขามาเดินสำรวจโลก ก่อนหน้านี้ก็นั่งง่อยอยู่ในห้องพักครูตั้งนานไม่รู้จะทำอะไรตารางเข้าสอนคาบแรกก็โน่นเลยบ่ายสอง ระหว่างรับคำแนะนำนักเรียนที่วิ่งมาทางนี้ต้องหยุดฝีเท้าแล้วก้าวอย่างสำรวมทันทีที่ครูชีวะหันไปเห็น แต่พอพ้นระยะสายตาเด็กพวกนั้นก็สวมวิญญาณกลับเป็นลิงเป็นค่างเหมือนเดิม
“คุณจดทุกอย่างเลยเหรอครับ” อี้ฟานยิ้ม ใช่ ครูอี้ฟานกำลังยิ้มให้เขา และผู้ชายคนนี้ก็ยิ้มทุกครั้งที่หันมามองหน้ากันนั่นแหละ
บยอนแบคฮยอนไม่ได้เข้าข้างตัวเองนะ แต่คิดดูดิ...ถ้าคนมันไม่มีใจให้เลยจะมองแล้วยิ้มแบบนี้เหรอวะ จะว่าเฟรนด์ลี่ก็ไม่ใช่ จะว่าตามมารยาทก็ไม่เชิง สรุปขอฟันธงตรงนี้เลยว่าครูชีวะกำลังอ่อยกูอยู่
“ก็ไม่ทุกอย่างหรอกครับ ก็จดเท่าที่จำได้”
“เก็บเถอะ คุณไม่จำเป็นต้องใช้มันหรอก” แบคฮยอนเลิกคิ้วมองครูสุดหล่อที่ดันสมุดเล่มเล็กในมือเขาลงเสียอย่างนั้น
“เอ้า ทำไมอ่ะครับ?”
“ถ้ามีอะไรสงสัยถามผมไม่ดีกว่าเหรอครับ?” อีกละ งานให้ท่า งานอ่อย มาทุกดอกเดี๋ยวก็ชอบแม่งซะเลยสึด “ในห้องพักครูน่ะ แค่หันหลังมาคุณก็เจอผมแล้ว”
จริงครับ อย่างกับในซีรี่ย์เกาหลี คิดภาพออกป่ะว่าในห้องพักครูจะเป็นแบบโต๊ะยาว ๆ แบ่งแต่ละหมวดวิชา แล้วบยอนแบคฮยอนก็เสือกได้นั่งข้างอีอาจารย์ป้าที่ชอบแดกขนมหวานจนมดลามมาแดกอาณาเขตกู ฝั่งตรงข้ามคือหมวดภาษาต่างประเทศ ส่วนข้างหลังที่หมุนเก้าอี้ไปแล้วป๊ะหน้ากันพอดีเลยก็คือหมวดวิทยาศาสตร์ ซึ่งครูสอนชีวะก็นั่งอยู่ข้างหลัง...
“ถามบ่อย ๆ ก็เกรงใจไงครับแหม”
“คุณอายุยี่สิบสี่ใช่ไหม?” อีกละ โยงไปเรื่องอื่นแบบงง ๆ ตลอด ตั้งแต่เริ่มคุยกันรู้สึกครูอี้ฟานจะเปลี่ยนเรื่องเร็วมากจนเขาแทบตามไม่ทัน
“ก็ใกล้จะยี่สิบห้าแล้วครับ”
“ผมอายุมากกว่าคุณสี่ปี มันจะดีไหมถ้าเกิดเราแทนสรรพนามอื่นเพื่อเพิ่มความสนิทกันให้มากขึ้น”
น้าน...ให้ท่าอีกแล้วสินะครับครูอี้ฟาน
คิดว่าจะเขินสินะ? เออ กูเขิน
“จะดีเหรอครับครู”
“ผมยังจำความรู้สึกของการเป็นครูใหม่ที่นี่ได้ วันแรกแทบไม่มีใครคุยกับผมเลย จะมีก็แค่แม่บ้านคนเมื่อเช้านั่นแหละที่เข้ามาทักทายแล้วถามไถ่ว่าผมทานข้าวหรือยัง” ร่างสูงหัวเราะ “การที่ต้องทำอะไรตามลำพังโดยที่ไม่มีใครคุยด้วยมันน่าอึดอัดจะตายไป คุณไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?” ครูชีวะพูดในท่าทีสบาย ๆ พลางหัวเราะในลำคอเบา ๆ เอาเถอะครับถ้าคิดว่าจะฆ่ากันได้ด้วยความหล่อก็เอาเลย มา!
“แล้วจะให้เรียกอะไรดี พี่อี้ฟานงี้เหรอครับ? แบบนั้นจะฟังดูหน่อมแน้มไม่น่านับถือไปไหม เกิดคุณอยู่ฝั่งโน้นแล้วผมจะตะโกนเรียกยังไง ‘พี่อี้ฟานฮะ แบคอยู่นี่!!’ งี้เหรอ เด็ก ๆ ได้หาว่าผมเป็นตุ๊ดพอดี” ทั้งคู่หยุดฝีเท้า แบคฮยอนหันไปมองคนข้าง ๆ ที่กำลังจ้องเขาหน้านิ่งแล้วสุดท้ายคนตัวสูงก็หลุดขำออกมา
แม้แต่ตอนหัวเราะก็ยังหล่อ...กูไม่รู้จะสรรหาคำไหนมาบรรยายความหล่อครูชีวะได้แล้ว เกิดมาเป็นครูทำไมครับ ทำไมไม่รู้จักไปเดบิวต์เป็นไอดอล เดี๋ยวแบคฮยอนผู้นี้จะบอกให้อีคาอิจังเปิดแฟนไซต์ให้
“แบบนั้นก็ดีนะครับ แต่ถ้าอยู่โรงเรียนก็เรียกให้มันห่างเหินกว่านั้นก็ได้” น้าน...ที่ว่าห่างเหินนี่คือไรครับ หมายความว่าอนาคตเรามีสิทธิ์สนิทสนมชิดเชื้อกันได้อีกสินะ ทำไมบยอนแบคฮยอนถึงได้รู้สึกว่าโดนให้ท่าทุกเม็ด ถ้าครูชีวะอ่อยแล้วปล่อยเซอร์กูจะตามเจาะยางรถทุกวันเลยขอสาบาน
“แหม่...ครูอี้ฟานชอบพูดอะไรกำกวมนะครับ” เจ้าของชื่อมองหน้าคนตัวเล็กแล้วก็ยิ้มน้อย ๆ
“สมแล้วที่เป็นครูสอนสังคม”
แน่นอน...ถึงแบคฮยอนจะโดนหลอกแดกมาตลอดชีวิตการเป็นมนุษย์เพศเก้งแต่ก็พอมีประสบการณ์มาบ้างแหละครับแหม่
“งั้นก็ตกลงตามนั้น...พี่อี้ฟาน” คิดว่าอ่อยเป็นคนเดียวเหรอครับ นี่กูช้อนตามองด้วย น่าเสียดายที่วันนี้ไม่ได้กรีดตามาไม่งั้นล่ะมึงเจอวิชามารอายไลน์เนอร์พิฆาตศึกแท้ ๆ แต่ก็นะ...ใครจะไปรู้ว่าที่โรงเรียนจะมีอะไรเจริญหูเจริญตาให้เสพตั้งแต่วันแรก แถมเป็นฝ่ายยื่นขาเข้ามาเองแบบนี้ด้วย ถึงแบคฮยอนจะไม่ใช่สเป็คเก้งกวางหลาย ๆ คนแต่ครั้งนึงไอ้เซฮุนเคยปลอบใจว่า...
‘มึงมีทุกอย่างนะแบคฮยอน โดยเฉพาะความโง่ ผู้ชายครึ่งโลกเขาชอบคนโง่ เพราะฉะนั้นมึงจงภูมิใจในความโง่ที่มึงมีเถอะ’
“วันนี้พี่จะพาดูแค่คร่าว ๆ แล้วกัน พอให้เดินไปไหนมาไหนแล้วไม่หลง ว่าแต่ตอนนี้เราไปหามื้อเที่ยงทานกันก่อนดีไหม?” วันแรกก็ชวนกินข้าวแล้ว ถ้าไม่ติดว่าเป็นครูทำงานห้องเดียวกันหันหลังปุ๊ปเจอนี่จะคิดว่าครูชีวะกำลังจีบกูจริง ๆ นะ ไหนจะเริ่มแทนสรรพนามที่ทำให้แบคฮยอนอยากจะถลาเข้าไปซบอกแกร่งนั่นอีก ไม่ต้องมาด่าว่ากูแรดเลยครับ กูรู้ว่าคนอ่านก็คิดจะทำแบบนี้เหมือนกัน
“เอาสิ หิวจริง ๆ ด้วย” ความเขินอายทำให้แบคฮยอนพูดอะไรโง่ ๆ ออกไป มือก็ลูบท้องแสดงออกถึงความหิวให้อีกคนเห็นอีก เอาเถอะครับนาน ๆ ทีจะมีเหยื่อมาให้กระชุ่มกระชวยหัวใจ
แต่ยังไม่ทันได้คุยว่าจะไปกินกันที่ไหนแบคฮยอนก็ต้องล้วงกระเป๋ากางเกงแล้วหยิบมือถือขึ้นมาดู มันคือสายเข้าจากศาสตร์แห่งความมืดคิมจงอินเขาเลยต้องกดรับ
“โหล” หงิดครับ มึงโทรมาสร้างธุระอะไรตอนกูกำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม
( กินข้าวกัน )
“ข้าวห่าไรกูอยู่โรงเรียน”
( ก็กินข้าวไง นี่พักเที่ยงเขาพักเวลานี้กันทั้งแผ่นดิน ไปกินข้าวกัน )
“เอ่อ...” แบคฮยอนหันไปมองคนตัวสูงที่ยืนเช็ดเลนส์แว่นสายตากรอบดำอยู่ข้าง ๆ ถ้าไปแดกข้าวกับไอ้ห่าจงอินก็จะพลาดเดทแบบไม่เป็นทางการครั้งแรกไปอย่างน่าเสียดาย เพราะฉะนั้นขอโทษนะเพื่อน คำขอร้องของมึงครั้งนี้ไม่ได้รับการอนุมัติ “กูไม่ว่างอ่ะ มีสอนบ่ายกลัวกลับมาไม่ทัน”
( ไม่เป็นไร กูซื้อข้าวแดกในโรงเรียนมึงก็ได้ )
แบคฮยอนขมวดคิ้วทำหน้าเหวอมองภาพตรงหน้าเมื่อจู่ ๆ ก็เห็นบักเสี่ยวในชุดเสื้อยืดมอซอที่ช่างเข้ากันกับเกงยีนส์สีซีดที่ยืนทำหน้ามืดอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้นัก ไอ้สรัสกูนึกว่าทำ MV แบบพระเอกมาเซอร์ไพร์สนางเอกถึงโรงเรียนทั้งที่ยังคุยโทรศัพท์กันยังไม่วางสาย ครูอี้ฟานมองคนตัวเล็กสลับกับผู้มาใหม่ไปมาด้วยความสงสัย
“มึงมาไงเนี่ยสัด”
“นั่งรถเมล์มา”
“กูไม่ได้หมายความแบบนั้น...” แบคฮยอนเบาเสียงลงเมื่อเพิ่งรู้ตัวว่าได้ปล่อยสวนสัตว์ออกมาวิ่งเล่นต่อหน้าครูชีวะ
“ไปเหอะ กูหิวแล้ว” ห่านี่นอกจากจะไม่เห็นหัวครูอี้ฟานแล้วมึงยังชวนกูไปแดกข้าวหน้าด้าน ๆ อีก อะไรเข้าฝันมึงให้เฟดตัวเองออกมาจากหน้าจอคอมพิวเตอร์เหรอกูอยากรู้
“นี่ครูอี้ฟาน เพื่อนน่าจะทำความรู้จักเอาไว้นะครับ” สุภาพที่สุด
“อ้อ ดีครับพี่” จงอินยกมือขึ้นไหว้เหนือหัวส่วนครูอี้ฟานโค้งหัวเล็กน้อยตามมารยาท ห่าจงอิน ใครสั่งสอนการทักทายหมวดวิชาหักหน้าเพื่อนแบบนั้นให้มึงฟายเย่อ
“นี่เพื่อนผมชื่อจงอินครับ...”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับจงอิน คุณเป็นครูเหมือนกันเหรอ?” ประโยคนี้ทำเอาแบคฮยอนหน้าสั่นเล็กน้อย คนถูกถามทำหน้าเมาง่วงแล้วให้สมองประมวลผลอยู่ครู่หนึ่ง
“อ้อเปล่าพี่ ผมตีดอทสองกับเปิดเวปไซต์ดาราแล้วปั้มรูปขายไปวัน ๆ อ่ะหนุกดี” ส้นตีนละครับคำตอบเพื่อน ร่างสูงสตั้นไปหลายวิอยู่ก่อนจะหัวเราะออกมา บางทีครูอี้ฟานอาจจะคิดว่าเรื่องที่ไอ้จงอินพูดเป็นเรื่องตลก
“มันจบครูโสตมาน่ะครับ ฮะ ๆ ๆ” นี่ช่วยแก้หน้าให้เพื่อนสุดฤทธิ์แล้วนะครับ จากการแต่งตัวยันเบ้าหน้าไอ้ห่าจงอินไม่ได้ต่างอะไรไปจากพวกนั่งดมกาวอยู่ข้างถนนเลยสักนิด ถ้าให้บอกว่าเรียนจบครูมาแต่เสือกนอนง่อยอยู่บ้านเฉย ๆ ให้เมียหาเลี้ยงแดกก็จะกระไรอยู่
“มีคนเรียนจบมาทำงานไม่ตรงสายก็เยอะแยะไป การทำในสิ่งที่ชอบถือว่าเป็นเรื่องที่ดีครับ” ร่างสูงยิ้ม นี่ก็จะหล่อไปไหน ทำตัวเหรี้ลใส่ไอ้จงอินมันบ้างก็ได้
“หิวแล้วอ่ะ หาไรกินกัน”
“แล้วไม่แด...แล้วเพื่อนไม่หาอะไรกินแถวบ้านล่ะครับหื้ม?”
“กินที่โรงเรียนมึงไม่ได้? หรือว่าที่นี่เขาขายให้แค่คนใส่ชุดนักเรียน? สองมาตรฐานหรือยังไง? ได้นะ...เดี๋ยวกูเดินไปซื้อชุดนักเรียนก็ได้” ถนัดนักล่ะเรื่องประชดประชันแบบกวนตีนเนี่ย แบคฮยอนมองหน้าครูชีวะพลางยิ้มแห้ง ๆ มึงทำลายความฝันกูตั้งแต่วันแรก ไอ้เพื่อนเชี่ย มึงควรปีนต้นงิ้วในนรกแล้วโดนเสียบดากอย่างเลือดเย็น
“ไปทานด้วยกันก็ได้นะครับ”
“เด็ด” จงอินชูนิ้วหัวแม่มือแล้วยัดสมาร์ทโฟนใส่กระเป๋ากางเกงด้านหลังแล้วเดินนำหน้าไป
“เดินอย่างกับรู้ว่าโรงอาหารอยู่ไหน”
“เออว่ะ แล้วทำไมมึงไม่เดินให้มันเร็วกว่านี้ล่ะครับเพื่อน”
“ทางนี้ครับ” อี้ฟานหัวเราะแล้วผายมือไปทางขวา
ไม่นานนักก็เดินมาถึงโซนโรงอาหาร ที่นั่งสำหรับอาจารย์ยังว่างอยู่หลายโต๊ะ จงอินกวาดสายตามองไปรอบ ๆ มองหาเป้าหมายที่จะทำให้ท้องอิ่มได้ ร้านข้าวหน้าเนื้อคือทางออกที่ดีที่สุดในตอนนี้ สั่งข้าวเสร็จก็ยืนรอแต่พอหันไปก็ต้องขมวดคิ้วเมื่อเห็นเพื่อนตัวเตี้ยยืนขนาบข้างอยู่
“เอาเหมือนคนนี้ครับ” สั่งอาหารเสร็จแล้วหันหน้าเข้าหาเพื่อน “มึงเห็นยัง”
“ไร”
“ครูอี้ฟาน”
“อ้อ คนที่ตัวสูงกว่ามึงเกือบยี่สิบเซ็นน่ะนะ”
“สิบพอสัด”
“เออนั่นแหละ มีไร”
“ผ่านป่ะวะ”
“เลิกคิดเหอะ เขาไม่เอามึงหรอก” โหสรัส กูยังไม่ทันเริ่มอินโทรมึงก็กดปิดเรื่องให้กูแล้วหรือ “อึ้ง พูดเรื่องจริงแค่นี้อึ้ง”
“ไม่ไงคือ...”
“ตัดใจดีกว่า เขาก็แค่เห็นใจครูใหม่อย่างมึงเท่านั้นแหละ ดูนี่นะ” จงอินกอดคอเพื่อนให้ส่องกระจกตู้โชว์ลูกชิ้นหน้าร้านแล้วก็เห็นเงาตัวเองกับเงาเพื่อนซี้ แบคฮยอนตั้งใจฟังว่าเพื่อนที่แสนดีจะพูดห่าไรให้เขาเจ็บช้ำน้ำใจอีก “ปากก็ไม่ได้มีความน่าจูบ ตาก็ตี่ เบ้าหน้ารวม ๆ แล้วพอไปวัดไปวาได้ ส่วนมากเป็นที่นิยมสำหรับพวกผู้ชายเบื่อของสูง”
“หมายความว่าไงวะ” แบคฮยอนถามพลางลูบหน้าตัวเอง
“ก็หมายความว่าอย่างมึงเหมาะสำหรับการคบแก้เซ็งที่สุดไง คบแปป ๆ เลิกงี้”
“โห เบ้าหน้าอย่างมึงนี่น่าคบตลอดชีวิตมากเลยสินะครับ” แบคฮยอนสะบัดแขนเพื่อนออกแล้วขยับเสื้อให้เข้าที่
“เอาเถอะ เรื่องของมึงไม่สำคัญเท่าเรื่องที่กูจะพูดหรอก” อ้าวห่านี่ เรื่องครูอี้ฟานไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นะเว้ย มันสำคัญพอ ๆ กับการรอดูสามีตีตราตอนจบแล้วต่อด้วยอย่าลืมฉันเลยนะ
“รีบแดกรีบกลับเหอะ กูมีอะไรต้องทำอีกเยอะ” รีบเฉดหัวมันกลับไปจะดีที่สุด บยอนแบคฮยอนจะได้มีเวลาศึกษาดูใจกับครูชีวะให้มากกว่านี้
“ก็ไม่ไร กูว่าจะเลิกถ่ายรูปเซฮุนละ”
“ไหงงั้น” อาการหลงเมียขั้นโคม่าของมึงได้รับการบำบัดแล้วเหรอเพื่อน บยอนแบคฮยอนวางมือลงบนไหล่คนตัวสูงกว่าพร้อมกับตบบ่าปุ ๆ ด้วยสีหน้าภาคภูมิ สุดท้ายมึงก็หลุดพ้นจากวงจรอุบาทว์นั่นสักที
“แต่กูจะไปตามฮยอนอาแทน”
“ถุ้ย”
“ช่วงนี้น้องทำผมทอง ปากแดง ตัดผมสั้น นมนี่ชี้หน้าเลยนะห่า เอ็กซ์สุด กูจะห้ามใจยังไงไหว” จงอินทำหน้าพริ้มก่อนจะรับถาดข้าวมา แบคฮยอนจ่ายเงินแล้วรับถาดมาเช่นกันแล้วเดินตามเพื่อนกลับไปนั่งโต๊ะ
“ถ้าภารเมียมึงรู้นี่มีบ้านแตก แล้วหัวมึงก็แตกด้วย”
“ใครกันแน่ที่จะแตก มันน่ะผิดเต็ม ๆ ที่ปล่อยให้แฟนคลับมารังแกกู” โถ...อยากเอากระจกให้มันส่องเบ้าหน้าตัวเองตอนนี้จริง ๆ อย่างมึงโดนรถถังสหรัฐยิงใส่ก็ไม่รู้จะเรียกว่ารังแกได้ไหม “แฟนที่ดีต้องปกป้องแฟนป่ะวะ”
กูหมดคำจะพูดกับมึง สรุปใครเมะใครเคะ
“แล้วมึงไม่ปกป้องมันอ่ะ”
“กูเป็นฝ่ายถูกกระทำ ส่วนมันเป็นดาราชื่อดังที่ไม่มีใครรู้ว่าผัวมันเป็นแอดมินแฟนไซต์ เหอะ!” แค่นหัวเราะแล้วตักข้าวเข้าปากคำใหญ่ ๆ ขอให้เม็ดข้าวจุกคอมึงตายทีเถอะ กูจะโทรไปจองวัดพร้อมต้นคริสมาสต์ให้ เพลียจะพูดกับมึงแล้วครัชคิมจงอิน คนอย่างมึงควรไปนอนให้หมาหน้าเซเว่นเยี่ยวใส่ปาก
ไม่นานนักครูอี้ฟานก็กลับมาและที่ทำให้หัวใจบยอนแบคฮยอนเต้นเป็นจังหวะทูกึนทูกึนคือการที่ร่างสูงหยัดตัวลงข้าง ๆ เขาทั้งที่มีพื้นที่ว่างอีกสี่ล้านเอเคอร์ให้เลือกนั่ง มึงเห็นยังจงอิน มึงเห็นยังว่าเขามีใจให้กู
“เรายังมีเวลาว่างกันอีกสี่สิบนาทีโดยประมาณ พอถึงตอนนั้นพี่จะไปส่งเราหน้าห้องเรียนแล้วกันนะ” แบคฮยอนพยักหน้ารับแล้วหันไปยิ้มให้เพื่อนซี้ที่นั่งอึ้งอยู่ฝั่งตรงข้าม จงอินมองทั้งสองคนสลับกันไปมาก่อนจะตักข้าวเข้าปากอีกครั้ง
“เย็นนี้กูไปค้างด้วยดิ”
“อ้าว ไม่กลับบ้านมึงล่ะครับ”
“กูไม่อยากกลับ”
“เป็นห่าไรอีกล่ะ อย่าบอกว่าทะเลาะกับมันเพราะเรื่องนั้น”
“ก็ใช่ไง เอาเถอะ เดี๋ยวกูนอนกับหลานมึงก็ได้” แน่ล่ะ มึงจะได้เล่นเกมด้วยกันยันเช้ากูรู้
สองทุ่มแล้ว...
นี่มัน...สองทุ่มแล้วนะที่ไอ่ห่าถ่านยังไม่กลับบ้านแถมไม่ยอมรับสายเขาอีก!!!
“มึงอยากลองดีกับกูใช่ไหมไอ้ที่รัก” เซฮุนเบ้ปากแล้วกดส่งสติกเกอร์เกรียน ๆ ไปให้เจ้าของไลน์ที่เปลี่ยนรูปดิสเป็นฮยอนอา ที่เหี้ยกว่านั้นคือมันเปิดอ่านแล้วเสือกไม่ตอบนี่แหละ อยากเอาตีนยีหรรมมันจริง ๆ
“ฮัลโหล มึงอยู่ไหนแบคฮยอน”
( ไอ้จงอินอยู่บ้านกู แต่มันไม่อยากกลับเพราะงั้นคืนนี้มึงนอนกระเซ้าหมอนข้างไปก่อนนะ )
กูยังไม่ได้ถามเลยสักคำ มึงเลี้ยงกุมารหรือแบคฮยอน...
“เรียกมันมาคุยกับกูเดี๋ยวนี้”
( ให้ผมคุย ๆ ๆ ๆ ๆ )
“บอกหลานมึงอย่าเสือก ไล่มันออกไปกูรำคาญเสียงมัน” ไอดอลหนุ่มพลิกตัวนั่ง พลิกตัวนอนอยู่บนโซฟาราคาแพงอยู่หลายท่าจนตอนนี้อยู่ในสภาพห้อยหัวลงจากโซฟาแล้ว ถ้าทำแบบนี้เลือดคงไหลลงหัวตายเผื่อว่าจะมีใครเสียใจมั่ง
( อย่ายุ่ง ผู้ใหญ่คุยกันอยู่ / ขอคุยแป๊ปเดียวเอง นะ ๆ แบคฮยอน / บอกมันเก็บผ้าให้กูด้วย )
งอนกูแล้วยังมีหน้ามาใช้ให้เก็บผ้าอีกเหรอคิมจงอิน มึงไปเอาความกล้ามาจากไหนถึงได้ใช้ไอดอลเงินล้านอย่างกูแบบนี้...
“เรียกไอ้ชานยอลมาคุยกับกู”
( เอาไป / เห็นไหมล่ะ บอกแล้วว่าพี่เซฮุนอยากคุยกับผม ฮัลโหล ๆ พี่เซฮุนว่าไง? )\
น้ำเสียงระริกระรี้ตื่นเต้นเกินเหตุแม้ว่าเวลาจะผ่านไปแล้วสิบปี เซฮุนหายใจฮึดฮัดแล้วเหล่มองนาฬิกาที่ติดอยู่กับผนัง ถ้าอยู่บ้านต่อไปเขาต้องเป็นบ้าตายแน่ ๆ เพราะฉะนั้นต้องหาเรื่องออกไปข้างนอก
“ออกมาเจอกูที่สตาร์บั้คห้าง LLL มาถึงแล้วไลน์มา”
นี่เป็นครั้งแรกที่โอเซฮุนคิดจะตอบไลน์เด็กหัวหลิมที่เป็นแฟนคลับเขาตั้งแต่ยังไม่เดบิวต์ ร่างบางกดตัดสายทิ้งแล้วเดินไปหยิบกุญแจรถ ยังไม่ทันจะออกไปไหนก็หยุดชะงักแล้วเอี้ยวตัวหันหลังกลับไปเปิดประตูหลังบ้านเพื่อเก็บผ้าให้อีห่าคาอิจัง
ไอดอลหนุ่มได้แต่ทำหน้าอึนเมื่อเห็นเด็กหนุ่มสองคนตัวสูงไล่เรี่ยกันนั่งยิ้มเบิกบานอยู่ฝั่งตรงข้าม ไอ้คนขวายังจำหน้าได้ดีถึงมันจะตัวสูงชะลูดแซงเขาไปแล้วก็เถอะ แต่ไอ้เด็กเขียวข้าง ๆ นี่ดิ
“ผมชื่อเทานะพี่เซฮุน หวง จื่อ เทา” สีหน้าโซพราวด์ของเด็กเขียวพร้อมกับหันไปเขย่าแขนเพื่อน จริงอยู่ที่เซฮุนมีแฟนบอยแต่คนพวกนั้นส่วนมากจะทำตัวขี้เก๊กไปวัน ๆ แล้วแต่งตัวเลียนแบบเขาเสียมากกว่ามานั่งสั่นดิ๊ก ๆ ตอนเจอตัวจริงแบบนี้
“นี่บัตรมีทที่แกอยากได้” เซฮุนดันบัตรมีทไปตรงหน้าแล้วเด็กม.ปลายทั้งสองคนก็ตาเป็นประกาย ชานยอลหยิบกระดาษแข็งสีขาวแดงขึ้นมาดูใกล้ ๆ แล้วเทาก็เสนอหน้าเข้ามา ทั้งคู่กระซิบกระซาบกันแล้วหันมามองเขา “บัตรมีทในมือแกเป็นแบบ VIP ที่จะได้ถ่ายรูปคู่กับฉันชนิดที่ว่าแก้มแนบแก้ม โอบไหล่พร้อมลายเซ็นแถมไปดินเนอร์ยามเย็นด้วยกันอีก”
ยิ่งได้ยินแบบนี้เด็กทั้งสองคนก็ยิ่งตาประกายเข้าไปใหญ่ เทาเขย่าแขนเพื่อนตัวสูงกว่ารัว ๆ ด้วยท่าทางดีใจสุดชีวิต
“ใบเดียวเองเหรอพี่”
“พี่เซฮุนให้ผมด้วยสิ นะ นะ นะ!”
“ใช่ ให้เพื่อนผมอีกใบนึงนะ”
“เดี๋ยว ไอ้เด็กนี่ชื่อไรนะขออีกที” เซฮุนหรี่ตามองอีกคนที่ยิ้มเก้อไปครู่หนึ่ง
“เทาไงพี่ ผมเพิ่งบอกไปเมื่อกี้เอง หวงจื่อเทา ๆ ” เด็กเขียวระริกระรี้ขัดกับเบ้าหน้าแบดบอยเหลือเกิน ในทีแรกเซฮุนคิดว่าไอ้เด็กนี่น่าจะเป็นพวกนักเลงหัวไม้ซะอีกแต่ที่ไหนได้...
“จะให้อีกใบก็ได้แต่มีข้อแม้...”
“ว่ามาเลยพี่เซฮุน จะให้ผมกับไอ้เทาไปตบเด็ก เตะหมา ท้าผู้หญิงต่อย หรือสอยกางเกงในแบคฮยอนให้หมาข้างบ้านขย้ำเล่นก็ยังได้!” ชานยอลทำหน้าจริงจัง ซึ่งไอดอลหนุ่มหน้าหล่อได้แต่คิดว่าอะไรที่ทำให้ไอ้เด็กหัวหลิ่มนี่คลั่งเขาได้ขนาดนี้ ไอ้เรื่องถ่ายรูปคู่ กินข้าวด้วยกันแบบนั้นถ้ามันขอดี ๆ โอเซฮุนผู้นี้ก็ให้ได้...
“เรื่องมันมีอยู่ว่า...”
TBC
เซฮุนจะให้เด็กหัวหลิมสองคนนี้ทำอะไรอ่ะ ทำไมคาอิจังขี้งอนแบบเนี้ย อิน้าคือสุดละ เจอผู้ชายหล่อ ๆ ไม่ได้หางโผล่เชีย 55555555555555555555555555555555
ความคิดเห็น