คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter 06 :: Teach me how to feel the warmth of you.
? cactus
Chapter 06
Teach me how to feel the warmth of you
กินนอนอิ่มแล้วถึงได้กล้าเก่งกับคนที่ช่วยชีวิตแกไว้สินะ”
เวลาตีหนึ่งครึ่ง เด็กสาวเพียงนั่งนิ่ง ๆ เพื่อให้อีกคนช่วยทำแผลซึ่งเกิดจากแมวตัวเล็ก ๆ ที่ตอนนี้เอาแต่วิ่งเล่นกับถุงเท้าไม่ใช้แล้วของอาจารย์ ขณะที่เธอนั่งปวดแสบปวดร้อนกับแผล คนอุตส่าห์เป็นห่วง ลุกมาให้อาหาร มาเล่นด้วย แต่มันกลับข่วนเธอจนเป็นรอย
“มันคงยังไม่ชินกับการมีเจ้าของน่ะครับ”
“แต่มันก็น่าจะรู้ว่าหนูคือคนให้ความอบอุ่น ถึงจะเป็นช่วงเวลาสั้น ๆ ก็เถอะ” ชานยอลยิ้มขำกับความงอแงของเด็กสาวที่ไม่เข้าใจว่าทำไมแมวเด็กตัวนั้นถึงได้ทำให้เธอเป็นแผล
“คุณเห็นสิงโตในสวนสัตว์ไหม กว่ามันจะเชื่อฟังเจ้าหน้าที่ ทั้งคู่ก็ต้องใช้เวลาเรียนรู้กันและกันพอสมควรเลยทีเดียว” แบคฮีเบ้ปากกับคำพูดอีกฝ่าย เธอไม่อยากเข้าใจ แต่ก็ปล่อยให้อีกฝ่ายพูดต่อ “คุณพูดภาษาหนึ่ง มันก็พูดอีกภาษาหนึ่ง ต่างคนต่างไม่เข้าใจภาษาของกันและกัน”
“แต่หนูพูดภาษาแมวได้นะ”
“เหรอครับ?” อาจารย์ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาลุ้นกับคำพูดเธอเลยสักนิด ผู้ชายคนนี้ เอาแต่ทำแผลให้เธอราวกับรู้ว่าประโยคเมื่อครู่มันต้องไร้สาระแน่ ๆ
“เมี๊ยว♥”
ชานยอลละสายตาจากรอยข่วนแล้วให้ความสนใจเจ้าของแววตายั่วยวน แม้จะหน้าซีดตัวร้อนเพราะมีไข้จากการปล่อยให้ตัวเปียกมาทั้งวัน อีกทั้งยังผ่านการร่วมรักไปถึงสองครั้ง แต่แบคฮีก็ยังซนและลุกออกมากลางดึกทั้ง ๆ ที่ควรจะนอนพักผ่อน
“มองหนูแบบนั้นหมายความว่าไง?”
“กำลังคิดว่าเสียง ‘เมี๊ยว’ เมื่อกี้คือ ‘หนูกำลังยั่วอาจารย์อยู่นะ’ หรือเปล่าน่ะครับ”
“หนูจำเป็นต้องทำอย่างนั้นเหรอ ในเมื่อผู้ชายหื่นอย่างอาจารย์แค่จับนิดเดียวก็ตื่นแล้ว” แบคฮีแค่นหัวเราะอย่างรู้ทัน ก่อนจะอ้าปากเบิกตากว้างเพราะถูกดีดหน้าผากเข้าเต็มแรง “อาจารย์!”
“คุณก็ไม่ได้แพ้ผมหรอกครับ”
“เพราะหนูอยากเอาชนะอาจารย์ต่างหาก ไม่ได้มีความพิศวาสเลยสักนิด รู้ไว้ด้วย ย๊า! อย่าทำเป็นไม่สนใจหนูนะ” เด็กสาวฟาดท่อนแขนแกร่งของชายหนุ่มที่สวมเพียงเสื้อกล้ามสีดำกับกางเกงนอนขายาว พอเงยหน้าขึ้นมาสบตากันอีกครั้งอาจารย์ก็เอาแต่อมยิ้มราวกับว่าเธอเป็นตัวตลก
“ขนาดยังไม่พิศวาสยังเร่าร้อนไปสองรอบ คิดภาพตอนหลงผมไม่ออกเลย”
“ฝันไปเถอะ อาจารย์พูดได้แค่ตอนนี้เท่านั้นแหละ เพราะเช้านี้หนูจะกลับบ้านแล้วไปโรงเรียนเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น” ทันทีที่พูดจบแบคฮีก็ขมวดคิ้ว มองใบหน้าหล่อที่กำลังยิ้มอย่างเอ็นดู พร้อมลูบศีรษะเธอโดยไม่สนใจประโยคอวดเก่งเมื่อครู่ “อะไร”
“ถึงจะพูดจาไม่น่ารัก แต่การที่คุณไม่งอแงหนีปัญหานาน ๆ มันทำให้ผมชอบตรงนี้ครับ” อาจารย์ต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ ที่พูดจาแปลก ๆ จนทำให้เธอเผลอใจเต้นไปหลายวินาที
ชานยอลอมยิ้มแล้วลุกขึ้นเอากล่องยาไปเก็บก่อนจะเดินกลับมานั่งที่เดิม
“หนูไม่ได้พูดเพราะอยากเอาใจอาจารย์ ห้ามคิดอย่างนั้นเด็ดขาด”
“ผมยังไม่เคยคิดอะไร แต่พอได้ยินคุณพูดผมก็เริ่มอยากคิดขึ้นมาซะแล้วสิ” ชายหนุ่มวาดแขนลงบนพนักโซฟา มองใบหน้าไม่ยอมแพ้ของเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ
“อาจารย์เป็นแค่เรื่องตื่นเต้นในช่วงเวลาสั้น ๆ เดี๋ยวหลังจากนี้หนูก็เบื่อแล้ว”
“เร็วอะไรขนาดนั้นครับ คุณเพิ่งได้กินผมแค่สองครั้งเองนะ”
“แล้วไง?” ดูหน้าเชิด ๆ นั่นสิ น่าบีบกรามให้อ้าปากออกแล้วยัดบางอย่างใส่เข้าไปให้จุกคอจริง ๆ
“เจ็บจังครับ... ข้างในนี้มันต้องพังแล้วแน่ ๆ” ยิ่งเห็นอาจารย์แกล้งทำเป็นทาบมือกับหน้าอกข้างซ้ายพร้อมทำหน้าเจ็บปวดแบคฮีก็ยิ่งหงุดหงิด
“คนเจ้าชู้อย่างอาจารย์รู้สึกอย่างนั้นเป็นด้วยหรือไง?”
“ผม?” เขาชี้หน้าตนเอง แบคฮีจึงแค่นหัวเราะ
“เรื่องฉาวจากโรงเรียนเก่า แล้วก็ผู้หญิงในรถวันนั้น อธิบายมาได้ไหมล่ะว่ามันจริงหรือไม่จริง”
“อ่า... ที่พูดตั้งนานก็เพราะอยากรู้เรื่องส่วนตัวของผมเหรอครับ หนูแบคฮีไม่เนียนเลยนะ”
“บ้าแล้ว เป็นใครก็ต้องสงสัยหรือเปล่า ผู้ชายเจ้าชู้ที่ชอบเล่นกับความรู้สึกคนอื่นไปทั่วอย่างอาจารย์น่ะหลอกได้แค่เด็กผู้หญิงเพ้อฝันเท่านั้นแหละ คนพวกนั้นไม่มีวันรู้ว่าพอดวงอาทิตย์ตกดินคนบางคนก็ลอกคราบเป็นอีกแบบ”
“ยังไงครับ?” ชานยอลเชยคางมนขึ้นมาสบตากัน แบคฮีจึงเบือนหน้าหลบ
“แบบนี้ไง”
“แปลกตรงไหน ผมเป็นผู้ชายในวัยที่ยังเที่ยวเล่นสนุกได้อยู่นะครับ”
“อ้อ แต่ไม่ปฏิเสธเรื่องผู้หญิง แสดงว่าเป็นเรื่องจริง”
“ก็ส่วนหนึ่ง”
“แล้วอีกส่วนหนึ่งล่ะ” จะกลั้นยิ้มอย่างไรดี กับความฟอร์มจัดของเด็กตัวแสบที่อยากรู้เรื่องของเขาแต่ก็เลือกถามด้วยน้ำเสียงแข็ง ๆ อย่างนั้น
“ผมปล่อยให้คุณเข้าใจแบบนี้ไปดีกว่า” ชายหนุ่มเอนหลังพิงกับพนักโซฟา เปลี่ยนความสนใจไปทางแมวเด็กเพื่อให้คนตัวเล็กร้อนใจ
“อาจารย์ไม่อยากปล่อยให้หนูเข้าใจแบบนี้หรอก” ชานยอลหันไปสบตากับเด็กสาวที่ยังคงแสดงออกทางสีหน้าว่าไม่ได้ยอมเขาไปกว่าเดิมเลย “ไอ้เรื่องคิดน้อย คิดมากอะไรนั่นน่ะ อาจารย์เคยบอกหนูแต่กลับทำเองแบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน”
“ไม่ยักรู้ว่าคุณจำคำพูดของผมได้” แม้ตอนนี้เด็กตัวแสบจะมองด้วยแววตาโกรธเคือง แต่เขาก็รู้สึกดีไม่น้อยเลยทีเดียว กับคำพูดธรรมดาที่พูดไปในค่ำคืนวันคล้ายวันเกิด แต่แบคฮีกลับจำมันได้
“บอกมาสักทีสิ ทำไมลีลาแบบนี้นะ” พูดจบก็ต่อยแขนแน่น ๆ ของอาจารย์ไปหนึ่งที
“ผมไม่รู้ว่าคุณได้ยินเรื่องฉาวอะไรมา แต่ผู้หญิงในรถวันนั้นคือนักเรียนที่ผมเคยสอนครับ”
“นักเรียน?”
“เธอเรียนมอปลายปีสุดท้ายตอนที่ผมเข้าสอนเป็นปีแรก”
“แฟนกันเหรอ?” ชายหนุ่มส่ายศีรษะเป็นคำตอบ “งั้นก็เหมือนหนู”
“ไม่เชิงครับ” ชานยอลเงียบไปครู่หนึ่ง มองสีหน้าและท่าทีของคนข้าง ๆ เพื่อดูว่าเธอกำลังรู้สึกอย่างไร ทั้งแววตาที่มองมา และริมฝีปากที่ยิ่งมองก็ยิ่งอยากบดขยี้
“อาจารย์ยังนอนกับเธออยู่เหรอ?” แบคฮีไม่ชอบที่อาจารย์เงียบไปเหมือนว่าเรื่องนี้ต้องใช้เวลาคิด เธอกำลังหัวเสียกับความไม่ชัดเจนในวินาทีเดียวของเขา แต่ก็ไม่อยากให้เหตุผลว่าทำไม
“แค่ช่วงแรกที่เธอเพิ่งเข้ามหาลัยครับ”
“แล้ววันนั้นล่ะ?”
“...”
“เธอเป็นคนพิเศษใช่ไหม?”
“ครับ ใช่”
“แล้วตอนนี้อาจารย์ยังรู้สึกพิเศษกับเธออยู่หรือเปล่า?”
กว่าจะรู้ตัวว่าแหกกฎเหล็กของตัวเอง บยอนแบคฮีก็รัวความอยากรู้ใส่อาจารย์ไปเป็นร้อยแล้ว ทั้งคู่สบตากันนิ่ง และสายตาของคนตรงหน้ากำลังตอกย้ำให้รู้ว่าเธอพลาดแล้วที่ขุดหลุมฝังตัวเอง
“เงียบแบบนี้แสดงว่าตกหลุมรักนักเรียนของตัวเอง เพราะเธอเรียนจบไปอาจารย์เลยฝังใจอยู่กับสถานที่เดิม ๆ ไม่ได้ถึงดีดตัวเองย้ายมาอยู่โรงเรียนหนูสินะ” เด็กสาวชี้นิ้วย้ำ ๆ แสร้งทำเหมือนว่าเรื่องนี้ไม่มีส่วนไหนน่าเก็บมาใส่ใจเลยสักนิด แต่พอหันกลับไปก็พบว่าอาจารย์ยังคงมอง ราวกับดูบยอนแบคฮีออกอย่างทะลุปรุโปร่ง
“นั่นเป็นเหตุผลที่อาจารย์ไม่ควรมีความสัมพันธ์กับนักเรียนครับ” ชานยอลยิ้ม “เพราะถ้าเลือกก้าวขาเข้าหาความสัมพันธ์นั้น คำว่าอาจารย์กับลูกศิษย์จะกดดันให้ทั้งคู่ต้องพูดคุยกันเหมือนปกติ”
“เจ็บล่ะสิ”
“ไม่ยักรู้ว่าคุณอ่านใจคนออกด้วย” ชายหนุ่มมองหยั่งเชิง ตอนนี้แบคฮีคงคิดไปต่าง ๆ นานา ไกลเกินกว่าที่เขาคิดไว้พอสมควร
“อาจารย์นึกถึงเธอหรือเปล่าเวลานอนกับหนู?” ชานยอลเลิกคิ้วกับคำถามที่ไม่คิดว่าจะหลุดออกมาจากปากเด็กอย่างบยอนแบคฮี
“ครับ?”
“ห้ามเด็ดขาดนะ หนูไม่ชอบเป็นตัวแทนของใคร”
ชานยอลไม่ได้อธิบาย และไม่รู้จะพูดเพื่ออะไรถ้าจะทำให้มีโอกาสได้เห็นมุมน่ารัก ๆ ของเด็กคนนี้เพราะเรื่องเข้าใจผิด ชายหนุ่มยิ้มในใจ เขาจะไม่อธิบายว่าเราทั้งคู่เคยนอนด้วยกันไม่กี่ครั้ง และตอนนี้เด็กคนนั้นก็มีคนรักอยู่แล้ว ที่เห็นในรถก็คือแค่วันแย่ ๆ ของเด็กสาวที่เคยเป็นลูกศิษย์ เธอทะเลาะกับแฟนจึงลงจากรถกลางทางและโทรเรียกเขาออกไปรับ
“โตแล้ว อย่าจมปลักกับคนเก่า ๆ สิ” แบคฮีมองด้วยหางตา
“ห้ามได้ด้วยเหรอครับ ในเมื่อตอนนี้ผมเองก็ยังไม่มีใคร”
“งั้นก็เชิญชอกช้ำใจตายไปเลย ให้ตาย โตแล้วยังจัดการความรู้สึกตัวเองไม่ได้อีก ดีแต่เอาความรู้สึกไปผูกกับคนอื่นหรือไง”
หนูแบคฮีจะรู้ตัวหรือเปล่าว่ากำลังหึงเขาจนควันออกหูไปหมดแล้ว
“ก็ฝังใจนี่ครับ ถ้ามีใครสักคนมาช่วยดามใจให้ก็คงดี” ชานยอลหันไปสบตากับคนตัวเล็กที่กำลังมองอย่างไม่สบอารมณ์เพราะคำพูดของเขา ชายหนุ่มวางมือลงบนขาขาว ก่อนจะค่อย ๆ ลูบตามเนินผิวลื่นแล้วหยุดที่ซอกขาด้านใน
“คนอย่างอาจารย์หยุดอยู่ที่ใครไม่ได้หรอก”
“เหรอครับ อะไรที่ทำให้คุณคิดอย่างนั้นล่ะ?” เรียวนิ้วสาละวนอยู่กับกางเกงในอุ่น ๆ กดคลึงอยู่ในที หากแต่เด็กสาวกลับนั่งนิ่งและยังคงแสดงออกอย่างจริงจังผ่านทางสีหน้า
“เพราะอาจารย์ทำแบบนี้กับหนูไง”
“อืม... แล้วมันหมายถึงคุณด้วยหรือเปล่าครับ?”
“ถ้าหนูคิดจะรักใครสักคน หนูก็พร้อมจะเลิกทำแบบนี้แล้วกัน”
“อ่า...”
“ต่อให้ลีลาอาจารย์จะเด็ดแค่ไหน หนูก็จะเลือกคนที่หนูรักคนเดียว”
“เราเริ่มต้นกันโดยสมยอมทั้งสองฝ่าย แต่ทำไมกลายเป็นคุณคนเดียวที่พร้อมจะทิ้งทุกอย่างได้เพราะความรักล่ะครับ?” ชานยอลโน้มตัวเข้าหาเด็กสาว สบตากันในระยะใกล้ ซึ่งเธอไม่มีท่าทางหวั่นไหวเลยสักนิด
“เพราะหนูรู้ใจตัวเองไง”
“แล้วคุณรู้ใจผมหรือเปล่า แบคฮี?”
“...”
“คุณยังไม่เคยเห็นผมรักใครจนคลั่ง เพราะฉะนั้นอย่าพูดเหมือนว่ารู้จักผมดีสิครับ”
จะทำอย่างไรกับหัวใจดี จากที่เคยบังคับมันได้มาตลอด แต่ตอนนี้กลับมาหวั่นไหวเพราะคำพูดคลุมเครือของผู้ชายอันตรายอย่างอาจารย์ อาจเป็นเพราะกำลังมีไข้ และหัวใจมันบอบบางจากเรื่องต่าง ๆ ในชีวิต เธอถึงได้รู้สึกดีกับผู้ชายคนนี้จนร่างกายมันพร้อมจะปล่อยใจให้อยู่ตลอดเวลา
“งั้นก็มาทำความรู้จักกันให้มากกว่านี้สิ”
“ครับ?”
“หนูจะไม่ให้อาจารย์เป็นความตื่นเต้นในช่วงเวลาสั้น ๆ ก็ได้ เพราะหนูไม่อยากซ้ำรอยกับผู้หญิงคนนั้น”
วิธีปกป้องหัวใจของบยอนแบคฮีเริ่มมีปัญหาเสียแล้ว เธอแพ้สัมผัสแผ่วเบาจากปลายนิ้วของอาจารย์ที่อยู่ใต้กางเกงใน และริมฝีปากที่คลอเคลียแก้มพร้อมกระซิบว่า ‘คุณไม่เคยเหมือนใคร และจะไม่มีใครเหมือน’ เพื่อให้เธอเข้าข้างตัวเองว่าเป็นคนพิเศษ
“พูดให้น่ารักกว่านี้สิครับ”
“ไม่”
“แบคฮี...”
“...”
“พูดสิว่าคุณเป็นเด็กดีของผมคนเดียว”
แม้ไม่ใช่ประโยคคำสั่ง แต่ร่างกายที่กำลังร้อนรุ่มก็เอนหลังลงนอนราบกับโซฟาเพื่อให้อีกฝ่ายคร่อมตัวลงมา แม้จะไม่ยอมเอ่ยปากทำตามที่พูดเสียทีเดียว แต่ดวงตาที่เคยแข็งกร้าวก็ยอมโอนอ่อนลงอย่างเห็นได้ชัด
สองร่างฟัดจูบกันจนได้ยินเสียงจ๊วบจ๊าบ แลกลิ้นสาละวนจนเหมือนว่าถ้าไม่ได้ซ้ำรอบสามอีกรอบคืนนี้คงไม่มีใครได้นอน ทั้งคู่ถอนจูบออกมาสบตากัน เพียงเสี้ยววิเท่านั้นก็จูบกันอีกครั้ง
“เดี๋ยว”
มือที่กำลังจะสอดเข้าไปในกางเกงในหยุดชะงัก ชายหนุ่มขมวดคิ้วเมื่ออยู่ ๆ แบคฮีก็ดันร่างเขาออกแล้วลุกขึ้นยืนนิ่ง เพียงครู่เดียวเท่านั้นเธอก็รีบวิ่งไปเข้าห้องน้ำ
ชานยอลมองประตูซึ่งปิดสนิทพร้อมอาการปวดหนึบตรงเป้ากางเกงที่เพิ่งถูกปลุกและดูท่าว่าคงไม่สงบลงง่าย ๆ อาจจะสักราว ๆ ห้านาทีประตูก็เปิดออก พร้อมใบหน้าของแบคฮีที่โผล่พ้นออกมาเพียงเล็กน้อย
“อาจารย์”
“ว่าไงครับ?”
“หนูว่าหนูคงไม่ต้องกินยาคุมแล้วล่ะ” เด็กสาวดูขลาดอายที่ต้องพูดมัน เธอหันไปมองทางอื่นก่อนจะสบตากับเขาอีกครั้ง “เพราะตอนนี้หนูต้องใช้ผ้าอนามัย”
*
“เปลี่ยนจากซื้อถุงยางเป็นผ้าอนามัยแล้วเหรอพี่”
“เงียบไปเลย”
“แหม่... มีเขิน” แคชเชียร์กะดึกมินิมาร์ทหน้าปากซอยแซวลูกค้าประจำที่แวะเวียนมาใช้บริการบ่อยจนค่อนข้างสนิทกัน ชานยอลถูจมูกเบา ๆ พลางมองผ้าอนามัยที่ถูกหยิบใส่เข้าไปในถุงสีดำ มันทำให้เขานึกถึงน้องสาวเมื่อตอนที่เธอเป็นประจำเดือนครั้งแรก
“วันหลังพามาเจอบ้างดิพี่”
“ตลกแล้ว นี่ของน้อง”
“พี่น้องท้องชนกันเปล่า”
“เออ เมื่อคืนชนไปหลายรอบ”
“พี่แม่งดุสัด...” เด็กหนุ่มปรบมือเน้น ๆ พร้อมชูนิ้วหัวแม่มือให้ลูกค้ารุ่นพี่ที่คว้าถุงพลาสติกสีดำก่อนจะออกไปจากมินิมาร์ททันทีที่จ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย
ในเวลาตีสองครึ่งฝนยังคงตก แต่ก็ไม่หนักเท่ากับตอนกลางวันที่ร่มคันเดียวก็แทบบังฝนไม่ได้ ตามข่าวในทีวีบอกว่าพรุ่งนี้พายุก็จะผ่านพ้นไป และท้องฟ้าที่เคยสดใสก็จะกลับมาทำหน้าที่ของมัน
“แบคฮี เปิดประตูหน่อยครับ”
หลังจากเคาะเพียงสองครั้งเด็กสาวก็แง้มประตูห้องน้ำเล็กน้อย แบคฮียื่นมือออกมาหยิบห่อผ้าอนามัยโดยไม่แม้แต่จะโผล่หน้ามาพูดอะไรสักอย่างเช่น ‘ขอบคุณค่ะ’ หรือ ‘ทำดีนี่’ คนที่ยืนรออยู่ข้างนอกจึงยิ้มขำ
แบคฮีออกมาจากห้องน้ำด้วยสีหน้าไม่สู้ดีนัก เขาคิดว่าร่างกายของเธอคงเก่งไปกว่านี้ไม่ได้แล้ว หลังจากผ่านเรื่องราวมากมายมาตั้งแต่เมื่อวาน อีกทั้งยังเป็นประจำเดือนตอนมีไข้อย่างนี้
“เหลือตัวสุดท้ายพอดี เด็กแรดแบบหนูใช้กางเกงในเปลืองจัง”
“เดี๋ยวกินยาอีกสองเม็ดนะครับ ถ้าเช้านี้ไข้ไม่ลดก็นอนพักก่อน อย่าเพิ่งไปเรียน” ชายหนุ่มเดินไปเอากระปุกยาออกมากะเทาะ ตามด้วยรินน้ำเปล่าอุณหภูมิห้องใส่แก้ว เขากลับมาหาเด็กสาวที่ยังคงยืนอยู่หน้าห้องน้ำและยื่นยาให้กิน
“ถ้าหนูอยู่ต่อ อาจารย์อย่าแอบชิ่งไปบอกพ่อหนูนะ”
“ไม่บอกก็ได้ครับ แต่ต้องมีข้อแลกเปลี่ยนกันหน่อย”
“อะไรอีกล่ะ” แบคฮีมองอีกคนด้วยหางตา ก่อนร่างของเธอจะถูกอุ้มขึ้นในท่าเจ้าสาว
“คุณต้องหยุดว่าตัวเอง ถ้าผมได้ยินอีกคุณต้องถูกลงโทษ”
“ก็นึกว่าจะขอฝ่าไฟแดงซะอีก”
“แบบนี้ก็นับเป็นการว่าตัวเอง เขกหัวตัวเองไปหนึ่งทีครับ” แบคฮีเลิกคิ้วมองคนตัวโตที่อุ้มเธอเข้ามาในห้องนอน ก่อนจะวางลงบนเตียงนุ่ม ๆ อย่างเบามือ
“ทำไมหนูต้องตีตัวเองเหรอคะ ไหนลองตอบแบบวิชาการหน่อย?” เธอนั่งไขว่ห้าง เชิดหน้ามองอย่างไม่ยอมและถ้าจะมีใครเขกหัวตัวเอง คนนั้นก็ต้องเป็นอาจารย์
“เพราะคุณไม่ทำตามข้อตกลง เขกหัวตัวเองได้แล้วแบคฮี”
“บ้าเหอะ ให้ตายหนูก็ไม่ทำ”
“หรือจะให้ผมโทรบอกพ่อคุณดี?”
“ถ้าอาจารย์ปริปากพูดหนูก็จะบอกพ่อเหมือนกันว่าอาจารย์ฟันหนู”
“เถียงไปเถอะครับ เพราะสุดท้ายคุณก็ต้องทำโทษตัวเองอยู่ดี” คนตัวสูงยืนกอดอกพลางเลิกคิ้วมองความเอาแต่ใจของเด็กสาว ทั้งคู่สบตากันอย่างหยั่งเชิง เขาได้ยินเสียงเธอถอนหายใจอย่างหัวเสีย แต่สุดท้ายก็ยอมเขกหัวตัวเองในที่สุด “Good girl.”
“เหอะ” ใครอยากเป็นเด็กดีของอาจารย์เหรอ บ้าบอ แบคฮีใช้เท้าเขี่ยผ้าห่มขึ้นคลุมถึงคอพร้อมหันหน้าหนีไปอีกทาง แต่คนตัวโตก็เดินอ้อมมาหยุดอยู่ข้างเตียงอีกฝั่งแล้วเอนตัวลงนอนกับเธอ
“จะคิดว่าเป็นเพราะอารมณ์แปรปรวนในวันมามากนะครับ”
“หนูหงุดหงิดเป็นนิสัยไม่ใช่เพราะเมนส์มา ข้อแลกเปลี่ยนของอาจารย์มันงี่เง่ามาก รู้ไว้ด้วย”
“ไม่เท่ากับตอนได้ยินคุณว่าตัวเองแรดหรอกครับ ไม่รื่นหูเอาซะเลย” ชานยอลส่ายหน้าพลางดึงผ้าห่มขึ้นคลุมศีรษะคนตัวเล็ก
“ก็หนู!” แบคฮีดึงผ้าห่มลงพลางสบตากับอาจารย์หนุ่มที่มองมาราวกับจะบอกว่าถ้าเธอด่าตัวเองว่าแรดอีกครั้งจะต้องมีคนเขกหัวตัวเองอีกแน่ “หนูสวยมาก”
“เพิ่งรู้ว่าวันนั้นของเดือนทำให้คนเพ้อเจ้อได้ด้วย...”
“ทำพูดดีไปเถอะ อีกสี่ปีหนูก็โตเต็มตัวแล้ว พอถึงตอนนั้นอย่ามาตามจีบแล้วกัน”
“จะรอดูนะครับ ถ้าไม่สวยนี่รู้เรื่องเลยนะ” อาจารย์หนุ่มเอนตัวลงนอนข้าง ๆ พร้อมหันหน้าเข้าหาเด็กตัวแสบที่เอาแต่เถียงไม่หยุด เขาอมยิ้มพร้อมวาดแขนออก ตบกล้ามตนเองเบา ๆ เพื่อให้อีกคนเข้ามานอนในอ้อมกอด ซึ่งแบคฮีก็ใช้เวลาไปกับการหยั่งเชิงเป็นนาทีกว่าจะยอม
*
นานแค่ไหนแล้วที่แบคฮีไม่ได้หลับอย่างเต็มตื่นอย่างนี้ แม้จะเพลียร่างกายจนไม่อยากลุกไปไหน แต่เด็กสาวก็เดินออกไปข้างนอกเพื่อได้รู้ว่าอาจารย์ลงทุนขับรถจากโรงเรียนมาจัดแจงมื้อเที่ยงให้เธอกิน
ความสัมพันธ์ของเราช่างประหลาดเหลือเกิน บางครั้งดูฉาบฉวยจนเหมือนว่าจะจบลงง่าย ๆ บางครั้งเหมือนอาจารย์ที่คอยสั่งสอนลูกศิษย์ บางครั้งเหมือนคนรัก บางครั้งเหมือนคนแปลกหน้า และบางครั้งเราทั้งคู่ก็เหมือนคนที่วิ่งหนีความรู้สึกของตัวเอง
ถ้าไม่นับแม่กับป้าแม่บ้าน อาจารย์ก็คงเป็นผู้ชายคนแรกที่คอยดูแลเช็ดตัวให้ในเวลาที่บยอนแบคฮีสิ้นฤทธิ์ ช่วงเวลาแห่งความสับสนในใจมันช่างสั้นเหลือเกิน เด็กสาวจะไม่บอกใครเด็ดขาดว่าเธออบอุ่นใจแค่ไหนที่ได้อยู่กับอาจารย์
แต่ทุกอย่างจะผ่านไป บยอนแบคฮีจะกลับไปใช้ชีวิตเหมือนเดิมโดยไม่เอาตัวเองไปผูกกับความสุขที่ไม่แน่นอนอย่างนั้นเด็ดขาด
นานเลยทีเดียวกว่าป้าแม่บ้านจะหยุดร้องไห้หลังจากเห็นเธอเดินเข้าไปในบ้านในสภาพครบสามสิบสอง แบคฮีขอโทษและเข้าไปกอดให้ป้าแกอุ่นใจ อย่างน้อยผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ตะโกนด่าความงี่เง่าของบยอนแบคฮี
เธอขอให้อาจารย์ส่งข้างถนนแทนที่จะมาส่งหน้าบ้าน เด็กสาวยังจำรอยยิ้มของอาจารย์ที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ และมันเพียงพอแล้วสำหรับความกล้า ไม่มีการพูดคุยปรับความเข้าใจระหว่างพ่อกับลูกสาว ทั้งเขาและเธอปล่อยให้เรื่องเลยผ่านไป ซึ่งคนตัวเล็กก็ไม่ได้คาดหวังว่าพ่อจะเข้ามากอดปลอบพร้อมคำขอโทษ
ข้อความและสายโทรเข้าล้วนเต็มไปด้วยของเซฮุน เธอเป็นห่วงว่าหมอนั่นจะกังวลมากไปกว่านี้จึงโทรหาเพื่อบอกว่าอยู่บ้านแล้ว
พายุฝนผ่านไป ท้องฟ้าสดใสจนมองเห็นเงาตนเองบนพื้น แบคฮียังไม่หายป่วยดี แต่ถ้าให้เลือกนอนง่อยอยู่ที่บ้านกับมาโรงเรียนเพื่อดูสีหน้ากระอักกระอ่วนของเพื่อนในกลุ่มล่ะก็... เธอขอเลือกอย่างหลังดีกว่า
“ขอโทษนะแบคฮี ตอนนั้นพวกเราตกใจมากเลยวิ่งหนีออกมา พอคิดจะกลับไปช่วยก็ไม่ทันแล้ว”
คำแก้ตัวของคิมยูจินช่างน่าตลกเสียจริง คนตัวเล็กมองเพื่อนทั้งสามคนที่เอาแต่แสร้งทำเป็นเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไปอย่างตั้งใจ มันคงดีถ้าหากว่าบยอนแบคฮีซื่อบื้อกว่าที่เป็นอยู่ เธอจะได้ไม่ต้องตามสืบเพื่อให้รู้ว่าคืนนั้นมีผู้หญิงโทรตามตำรวจไปจับเด็กอายุไม่ถึง
“ใช่ ๆ เราเป็นห่วงเธอมากเลยนะ” พาดาจับแขนแบคฮี คนตัวเล็กไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่ามือของยัยนี่น่าขยะแขยงได้ถึงขนาดนี้
“ขอบคุณนะ ฉันซาบซึ้งในความเป็นเพื่อนของพวกเธอจริง ๆ” เด็กสาวกุมมือเพื่อนทั้งสองคน ก่อนจะหันไปหยุดสายตาที่แชรอน ซึ่งเอาแต่ก้ม ๆ เงย ๆ ไม่กล้าสบตาเธอ
“ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องแบบนี้หรอก เธอก็รู้” ยูจินวางมือทับลงมา พร้อมลูบเบา ๆ เพื่อปลอบใจลวง ๆ
“ฉันรู้น่า พวกเธอคงไม่มีทางทำเรื่องชั่ว ๆ แบบนั้นหรอก ใครที่ไหนจะทำร้ายเพื่อนได้ลงคอกัน คงมีแต่พวกสันดานเสียขี้อิจฉาเท่านั้นแหละที่อยากทำร้ายชีวิตเพื่อน” ทั้งสามคนหน้าเจื่อนในทันทีที่ได้ยินประโยคเมื่อครู่ แบคฮียังคงยิ้มราวกับว่าคำพูดของเธอมันไม่มีนัยยะใด ๆ ก่อนจะคลายมือออกแล้วเดินไปจูงมือเซฮุนออกไปด้วยกัน
โดยไม่สนใจเสียงแซวของเพื่อนผู้ชายและสายตาของคิมดาซม
*
ทันทีที่เข้ามาในห้องเก็บของ ร่างของเด็กสาวก็ถูกรั้งเข้าไปในอ้อมกอด สักพักเลยทีเดียวที่ทั้งคู่เพียงยืนอยู่นิ่ง ๆ ท่ามกลางความเงียบ แบคฮีจึงกอดตอบแล้วลูบหลังเซฮุนเบา ๆ
“ขอบใจนะ”
“อย่าทำแบบนี้อีก”
“แบบไหนล่ะ”
“แบบที่หายไปจนทำฉันเกือบเป็นบ้า”
“แต่นายก็ยังไม่เป็นนี่”
“เพราะเธออยู่ตรงนี้แล้วไง แม่งเอ๊ย เจ็บใจฉิบหาย” เซฮุนสบถอย่างหัวเสีย เขาคลายอ้อมกอดออกพร้อมมองใบหน้าเรียบเฉยของคนตัวเล็กและสำรวจร่างกายตั้งแต่หัวจรดเท้าไปพร้อม ๆ กัน “แขนไปโดนอะไรมา”
“แมวข่วน”
“แมวที่ไหน?”
“บ้านแม่ไง เลิกทำหน้าตูดสักทีได้ไหม?” แบคฮียีผมอีกคน ก่อนจะหลับตาลงเมื่อคนที่ทำหน้าอมทุกข์โน้มตัวลงมาจูบเธอ แต่น่าแปลกที่วันนี้จูบของเซฮุนบางเบาไม่รุนแรงเหมือนกับทุกครั้ง
“ฉันโกรธเธอจริง ๆ”
“ก็ขอโทษแล้วไง เป็นตุ๊ดเหรอ เอาแต่น้อยใจอยู่ได้” คนตัวเล็กยิ้มขำ มองหน้าหงอย ๆ ของเด็กผู้ชายตัวโตที่ต้องการให้เธอปลอบใจอย่างไรก็ได้เพื่อขับไล่ความรู้สึกแย่ ๆ ไป
แบคฮีมองเห็นตัวเองที่กลายเป็นคนละคน เวลาอยู่กับอาจารย์เธอเหมือนเด็กอนุบาลที่เอาแต่งอแงและเถียงเพื่อเอาชนะ แต่เธอกลับดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาเมื่ออยู่กับเซฮุน
“ตุ๊ดก็ทำเธอท้องได้แล้วกัน... อ๊า!” เด็กหนุ่มกุมศีรษะตนเองเมื่อถูกคนตัวเล็กทำร้ายอีกแล้ว
“พูดอะไรโง่ ๆ”
“ใช่ โดยเฉพาะเวลาอยู่กับเธอ”
“เรามันก็โง่กันทั้งคู่นั่นแหละ” พาลนึกถึงรอยยิ้มของอาจารย์ชานยอลที่บังเอิญเห็นตอนเธอเดินเข้ามาในโรงเรียน แม้จะเป็นเพียงช่วงเวลาสั้น ๆ แต่มันก็ทำให้เรื่องของผู้ชายคนนั้นเข้ามาทำงานในความคิดเธอได้อย่างเต็มที่เลยทีเดียว
‘อย่าให้ดวงอาทิตย์เช้าวันนี้สดใสไปกว่าคุณ หายป่วยไว ๆ นะครับ’
แบคฮีหงุดหงิดที่รู้สึกดีกับข้อความบ้า ๆ นั่น มันทำให้เธออยากไปหาอาจารย์ และงี่เง่าใส่ทุกวิถีทางเพื่อให้โดนดุ ซึ่งแบคฮีรู้ดีว่ามันเป็นวิธีของคนโง่ที่ตัวเธอไม่เคยชอบเลยสักนิด เด็กสาวเหนื่อยกับความย้อนแย้งในใจ ที่ทั้งผลักไสและโหยหาอาจารย์ในเวลาเดียวกัน
“ยอมคบกับฉันเถอะแบคฮี”
“...”
“ฉันสัญญาว่าจะไม่ทำให้เธอเสียใจ”
เซฮุนรู้ตัวว่าจริงจังมานานแล้ว และยิ่งเกิดเหตุการณ์แบบนี้เขาก็ยิ่งอยากจริงจังมากขึ้นไปอีก เด็กหนุ่มอยากเป็นคนแรกที่แบคฮีนึกถึง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องในชีวิตหรือเรื่องบ้าบออะไรก็ตาม
ขายาวก้าวถอยหลังจนชนกับโต๊ะเก่า ๆ เพราะถูกเรียวนิ้วดันกลางแผงอก เด็กหนุ่มนั่งลงไปเพียงหมิ่นเหม่ขณะที่สายตาจับจ้องอยู่กับเด็กสาวตัวเล็กตรงหน้า มันเกินความคาดหมายที่แบคฮีเป็นฝ่ายเริ่มก่อนทั้งที่เขาไม่ได้ร้องขอ มันน่าตื่นเต้นแต่ก็อดคิดไม่ได้ว่าสิ่งที่คนตัวเล็กทำคือการจงใจตัดบทเพื่อให้โอเซฮุนหยุดพูดเรื่องคบกันหรือเปล่า
เสียงหัวเข็มขัดชนกันตามด้วยซิปที่ถูกรูดลงก่อนส่วนในกางเกงจะถูกปรนเปรอด้วยลิ้น มือแกร่งบีบมุมโต๊ะแน่นจนเลือดห้อเพียงเพราะส่วนนั้นหายเข้าไปในปากสีเชอร์รี่ เซฮุนยังคงต้องการคุยเรื่องนี้อย่างจริงจัง
แต่เขาก็ต้านความเสน่หาที่มีต่อบยอนแบคฮีไม่ได้เลย
TBC
วันนี้ปล่อยให้กลับไปพบญาติ แต่ตอนหน้าพวกเทอจะต้องกลับมานั่งต่อคิวกันอย่างเปงระเบียบในห้องขังรวม
คนที่เข้ามาก่อนแล้วชิดในด้วย แบ่งพื้นที่ให้เพื่อนใหม่นั่ง และแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมกันโดยถามคนข้าง ๆ ว่าที่บ้านเทอชอบกินอะไรระหว่างส้มตำกับราดหน้ายอดผัก
ปล. ขอลาสองวันไปเที่ยว ถ้าใครรอไม่ไหวก็โทรมานะ เด่วเล่าให้ฟังว่าตอนหน้ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง (แต่ไม่มีครางใส่ทอสับนะ กามเว้อ)
ความคิดเห็น