ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    DON'T GROW UP, IT'S A TRAP #ฟิคเปย์เด็ก | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #6 : CHAPTER 05 :: Girlfriend

    • อัปเดตล่าสุด 15 ม.ค. 59


    T
    h
    e
    m
    y

     

     

    Chapter 05

     



     

     

    เมื่อไหร่ที่คาดหวัง

    ก็ต้องทำใจยอมรับความผิดหวังที่จะตามมา

     

     

     

    ชานยอลเคยชอบวันจันทร์ถึงศุกร์มากกว่าอะไรใด ๆ จนกระทั่งได้เจอกับคุณแบคฮยอน เด็กหนุ่มเพิ่งรู้ว่าเย็นวันศุกร์มันน่าตื่นเต้น เพียงเพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าจะเปลี่ยนเป็นวันเสาร์ วันที่เขาเฝ้ารอเจอคุณแบคฮยอน เหมือนทุก ๆ สุดสัปดาห์

     

    หากวันไหนอีกฝ่ายไม่ว่าง วันหยุดนั้นก็กลายเป็นวันธรรมดาวันหนึ่งที่ทำให้เด็กหนุ่มหงอยไปทั้งวัน ชานยอลเริ่มกลัวใจตัวเอง เมื่อความรู้สึกดี ๆ ที่มีต่อผู้มีพระคุณมันเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จนไม่อยากเชื่อแล้วว่ามันคือความเคารพ และสุดท้าย เขาก็ไม่สามารถหลีกหนีความจริงได้

     

     

    ความจริงที่ว่า ปาร์คชานยอลตกหลุมรักคุณแบคฮยอนเข้าให้แล้ว

     

     

    แต้รู้ใจตัวเองแล้วยังไง มันก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี ในเมื่อความรู้สึกของเขาที่มีต่อคนอายุมากกว่าถึงสิบห้าปี เพศเดียวกัน อีกทั้งยังเป็นผู้อุปการะ มันแทบไม่มีความเป็นไปได้เลย ชานยอลมองเห็นอุปสรรคมากมายตั้งแต่ยังไม่เริ่มต้น เขาควรบอกตัวเองให้เจียมตัว อย่าคิดอะไรมากเกินไปกว่าสิ่งที่ควรเป็น เขาจึงเลือกเก็บทุกอย่างเอาไว้ในใจ และแอบมองอีกฝ่ายอยู่ตรงนี้มันก็น่าจะเพียงพอแล้ว

     

    แต่วันหนึ่งชานยอลก็ได้รู้ว่ามันไม่มีอะไรที่พอดีอย่างที่คาดคิดไว้ เมื่อเขาได้รู้ว่าความจริงแล้ว... คุณแบคฮยอนไม่ได้ยืนอยู่ห่างแค่ช่วงแขน แต่อีกฝ่ายกลับอยู่ไกลจนสุดสายตา จุดที่ทำยังไงเด็กอย่างเขาก็ไม่สามารถเอื้อมถึงได้

     

    นี่รูปใครเหรอครับ?

    อ๋อ นั่นไอ้จงอิน เพื่อนสนิทที่ฉันจะพาเธอไปฝากทำงานพิเศษไง ส่วนอีกคนชื่อจูฮยอน แฟนฉันเอง

    ฟ... แฟน?

    อื้ม

    ...คุณมีแฟนด้วยเหรอครับ ทำไมผมไม่เคยรู้เลยล่ะ

    ก็เธอไม่เคยถามนี่

     

     

    ชานยอลรู้สึกเหมือนโลกพังลงตรงนั้น ในขณะที่คุณแบคฮยอนแค่ยิ้มขำ ราวกับว่ามันเป็นเรื่องธรรมดา ซึ่งก็คงใช่ จะมีใครหน้าไหนเจ็บปวดกับการรู้ว่าผู้อุปการะมีแฟนบ้าง นอกจากเด็กอายุสิบเก้าคนนี้

     

    มันก็ถูกอย่างที่บอก ในเมื่อชานยอลไม่เคยถาม มันคงไม่ใช่ธุระกงการอะไรที่คุณแบคฮยอนจะเล่าเรื่องส่วนตัวให้ฟัง นึกแล้วก็น้อยใจเป็นบ้า ตลอดเวลาที่คุยกัน ทำไมเขาถึงไม่มีความกล้ามากพอที่ถามกันนะ

     

    แบบนี้เขาเรียกอาการอกหัก

     

    ชานยอลไม่ได้โต้ตอบกลับไป เพราะมันก็ถูกอย่างที่ไอ้มินโฮว่า เด็กหนุ่มตัวสูงนั่งนิ่ง แล้วปล่อยให้ความเศร้ากัดกินความรู้สึกตนเองต่อไปโดยไม่มีกระจิตกระใจทำอะไรสักอย่าง ไม่แม้แต่จะหันไปหัวเราะกับเรื่องที่ไอ้นัมจุนอ้วกแตกในร้านอาหาร

     

    ทำไมกูไม่เคยเอะใจเลยวะ สายตาของเด็กหนุ่มหยุดอยู่กับโต๊ะเรียนตรงหน้า แล้วจมอยู่กับความคิดมากมายในหัววันนั้นที่ไปค้างที่บ้านคุณแบคฮยอน พ่อแม่เขาก็พูดเรื่องแต่งงาน

     

    อ่าฮะ

     

    แค่รู้ว่าคุณแบคฮยอนยังไม่อยากแต่งงาน กูก็มองข้ามเรื่องนี้ไปเลย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ถูกไหมวะมินโฮ?เด็กหนุ่มตัวสูงหันไปขอความเห็นกับเพื่อนสนิท กูควรดีใจกับเขา แต่กู...

     

    ก็อยากให้กำลังใจมึงนะเพื่อน แต่เรื่องของมึงมันยากจริง ๆ

     

    ...

     

    กูจะไม่ฟันธงนะว่าที่มึงเป็นแบบนี้เพราะอะไร แต่กูจะให้มึงลองคิดดู ว่าที่รู้สึกอยู่ตอนนี้เป็นเพราะมึงไม่เคยมีใครหรือเปล่า แล้วคุณแบคฮยอนเข้ามาจังหวะที่มึงเริ่มโตเป็นหนุ่มพอดี มึงเลยคิดไปว่าเออ ชอบคนนี้

     

    ...

     

    กูก็เคยเป็นเหมือนกันเพื่อน เวลารู้สึกหวั่นไหวเพราะมีคนมาทำดีด้วยอะ แต่มันก็แค่ช่วงเวลานึง พอผ่านไปสักพัก เริ่มเห็นคนอื่นที่ทำให้รู้สึกแตกต่าง ทุกอย่างก็จะชัดเจนเองว่ามันเป็นแค่ความชั่ววูบ

     

    สักพักที่มึงว่ามันก็นานมากแล้วนะ

     

    เออไง กูเข้าใจ มินโฮมองอีกคนที่ทำหน้าเคร่งเครียด ราวกับว่าเหตุผลของเขามันสมถุยสิ้นดีหรือถ้ามึงคิดว่าไม่ใช่ความชั่ววูบ ก็ยังมีวิธีแก้

     

    อย่างเช่น?

     

    เดทกับคนอื่นสิ

     

    ห๊ะ? ชานยอลขมวดคิ้ว มองเพื่อนสนิทที่ยักคิ้วให้

     

    เราจะรู้สึกน้อยลง เมื่อเอาเวลา หัวใจ และความคิดถึงแบ่งไปให้คนอื่น

     

    ...

     

    ไม่เชื่อมึงลองดูสิ มีคนรอดามใจมึงอยู่ตั้งคนนึง มินโฮเอาศอกสะกิด ก่อนทั้งคู่จะมองไปยังกลุ่มเด็กสาวหน้าห้อง ซึ่งกำลังหัวเราะกับบทสนทนาตามประสาเด็กผู้หญิง

     

    ชั่วอึดใจเดียวเท่านั้นที่ชานยอลจมอยู่กับคำพูดของเพื่อนสนิท จนกระทั่งจื่อวีหันมา ทั้งคู่สบตากันอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนเด็กสาวจะเป็นฝ่ายยิ้มให้ ซึ่งเขาก็ยิ้มตอบราวกับว่ามันเป็นมารยาทที่ต้องทำ

     

     

    .

    .

     

     

    เป็นอะไรหรือเปล่า ช่วงนี้ดูเงียบ ๆ ไปนะ

     

    แบคฮยอนหันไปถามด้วยความเป็นห่วง จากที่คุยกันมาหลายปี พักหลังมานี้ชานยอลตอบช้าลง อีกทั้งยังตอบสั้นเหมือนว่าไม่อยากคุย ก็อยากคิดว่าน่าจะเป็นปัญหาที่วัยรุ่นต้องเจอ แต่ใจก็ไม่อยากปล่อยปะละเลยไป เขาอยากช่วยแก้ไข ถ้าหากไม่ใช่เรื่องเหลือบ่ากว่าแรง

     

    เหรอครับ? ชานยอลเลิกคิ้วขึ้น พลางหันไปมองคนตัวเล็กที่หันมามองเขาสลับกับถนนเบื้องหน้าคงเป็นเพราะช่วงนี้งานเยอะมั้งครับ...

     

    แล้วมาทำงานพิเศษแบบนี้จะดีเหรอ ไว้รอผ่านช่วงนี้ไปก่อนดีไหม เดี๋ยวฉันคุยกับเพื่อนให้

     

    ไม่เป็นไรครับ ผมทำได้ ชานยอลโพล่งออกมา เขาไม่อยากเป็นตัวปัญหาให้คุณแบคฮยอนกับคุณจงอินต้องลำบากใจ เพราะเขาเป็นคนคิดอยากทำงานพิเศษเอง

     

    มีอะไรให้ช่วยก็บอกนะ

     

    อีกแล้ว... คุณแบคฮยอนก็เป็นซะอย่างนี้ไง บางทีถ้าเป็นห่วงน้อยลงกว่านี้ เขาอาจจะ... บ้าเอ้ย! ไม่จริงสักหน่อย ต่อให้เป็นห่วงมากหรือไม่เป็นห่วงเลย เขาก็ชอบคุณแบคฮยอนอยู่ดี

     

    คุณก็ด้วยนะครับ เด็กหนุ่มพูดทั้งที่ไม่หันไปมองอีกฝ่าย เจ็บหัวใจทุกครั้งต้องหันไปเพื่อรู้ว่าเอื้อมมือยังไงก็ไม่มีทางถึง

     

    ได้เลย คุณแบคฮยอนยังคงยิ้มอย่างอารมณ์ดี และนั่นทำให้อดคิดไม่ได้ว่าอะไรในโลกนี้ที่ทำให้คนตัวเล็กมีความสุขได้ ซึ่งมันคงไม่ใช่เด็กผู้ชายอย่างเขาแน่ ให้ตายเถอะ คิดแล้วก็น้อยใจเอง

     

    ครู่เดียวรถก็ขับเทียบจอดหน้าร้านกาแฟ ซึ่งถูกตกแต่งต่างจากร้านทั่วไป อยู่ในโทนสีอุ่น ดูมีสไตล์ และบรรยากาศด้านในกับกลิ่นกาแฟนั้นชวนให้รู้สึกดีขึ้นมาบ้าง

     

    ไง?

     

    รอนานไหม พอดีกูตื่นสาย

     

    ตลอดแหละมึง นั่งก่อนสิ ผู้ชายผิวแทนละสายตาจากคนตัวเล็ก ก่อนจะผายมือให้เขานั่งลงบนโซฟาเดี่ยว

     

    ชานยอลโค้งศีรษะ พอนั่งลงก็เห็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ ง่วนอยู่กับของเล่นในมือบนโซฟาตัวฝั่งตรงข้าม ก่อนที่คุณแบคฮยอนจะอุ้มมานั่งตัก ไงคับคิมแทโอ จำอาได้ไหม?

     

    มึงหายหนังหน้าไปนานขนาดนี้ยังกล้าถามอีกว่าเด็กสามขวบจะจำได้ไหม คนถูกแซวหัวเราะพอใจ ก่อนจะเอาลูกอมขึ้นมาล่อเด็ก ซึ่งมันได้ผล เมื่อเจ้าตัวแก้มยุ้ยปล่อยของเล่นจากมือแล้วคว้าเอาขนมจากมือคุณแบคฮยอนใหญ่เลย

     

    เห็นปะ ลูกมึงจำกูได้

     

    มันจำได้ว่าขนมคือของแดก แค่นั้นแหละ

     

    อย่าหยาบคายต่อหน้าลูกสิวะ โตขึ้นมาเป็นเด็กเหี้ยนี่ให้โทษพ่อมันเลยนะ

     

    เออ โทษกูนี่แหละ ไอ้แม่ไม่สั่งสอน คนผิวแทนสบตากับลูกชาย พร้อมย่นจมูกใส่ ซึ่งเด็กตัวเล็กก็เลียนแบบจนคุณแบคฮยอนหลุดขำออกมา

     

    อัปป้าคนเลว!”

     

    นั่นไง โดนเลยกู คุณจงอินกุมขมับ ในขณะที่คุณแบคฮยอนกำลังก้มหน้าลง สั่งสอนให้เด็กสามขวบรู้ว่าควรพูดหรือไม่ควรพูดอะไร

     

    เด็กกำลังอยู่ในวัยจดจำ อะไรที่มันแย่ ๆ มึงก็อย่าพูดถึงนักเลย

     

    เช่นเรื่องเมียเก่ากูน่ะเหรอ

     

    เออน่า...

     

    กูเลี้ยงลูกแบบฮาร์ดคอ ถ้าเรื่องแค่นี้ทนไม่ได้โตขึ้นจะไปทำมาหาแดกอะไร

     

    ชานยอลมองทั้งคู่ที่ลับฝีปากกันจนดูเหมือนเป็นเรื่องปกติ แต่เด็กคนนี้ก็ดูท่าจะฮาร์ดคอเหมือนที่คุณจงอินว่าจริง ๆ นั่นแหละ... ดูจากความรุนแรงเวลาฉีกซองลูกอมยัดเข้าปากน่ะนะ...

     

    ไหนตะโอเรียกชื่ออาก่อน อาแบคฮยอน ลองพูดซิ ชานยอลไม่สามารถละสายตาออกจากใบหน้าซึ่งเต็มไปด้วยรอยยิ้มนั่นได้ อีกเรื่องที่เด็กหนุ่มได้รู้วันนี้ก็คือ เกิดเป็นหมากับเด็กน่ะดีเป็นไหน ๆ เลย

     

    ชื่อชานยอลใช่ไหม?

     

    อ่า... ครับ

     

    คุณจงอินละสายตาจากเพื่อนสนิทและลูกชาย พร้อมยื่นแบบฟอร์มใบสมัครงานให้กรอก ชานยอลกวาดสายตาอ่านโดยละเอียด และเขียนลงไปอย่างบรรจง

     

    ลายมือสวยนะเนี่ย

     

    ขอบคุณครับ

     

    มารยาทดีเหมือนอย่างที่ไอ้เตี้ยมันโม้ให้ฟังเลย เด็กหนุ่มชะงักมือ ก่อนจะค่อย ๆ เงยหน้าขึ้น แล้วก็ได้รู้ว่าตอนนี้คุณแบคฮยอนกำลังก้มอ่านเอกสารที่เขากำลังกรอกอยู่ และศีรษะของเราทั้งคู่ห่างกันเพียงน้อยนิดเท่านั้น

     

    กรอกแค่ส่วนนี้ก็พอแล้ว ที่เหลือถ้ามีปัญหาเดี๋ยวไอ้บ้านี่มันจะโทรตามฉันเอง ในกรณีที่เธอทำให้ร้านมันเดือดร้อนน่ะนะ เราสบตากันในระยะใกล้ ซึ่งคงมีแค่เด็กหนุ่มอายุสิบเก้าเท่านั้นที่ใจเต้นแรง

     

    ชานยอลพยักหน้าพลางหลุบสายตาลง มันยากเหลือเกินที่จะทำตัวเป็นปกติ ในขณะที่หัวใจกำลังเจ็บหนัก วูบหนึ่งเด็กหนุ่มรู้สึกผิดหวังที่เกิดช้าไปสิบห้าปี แต่ต่อให้เกิดเร็ว ก็ใช่ว่าอีกฝ่ายจะหันมามองเพศเดียวกันเสียเมื่อไหร่กัน

     

    จูฮยอนเป็นไงบ้าง?

     

    ก็เหมือนเดิม

     

    พวกมึงไปเจอกันบ้างเปล่าเนี่ย? จงอินนั่งขาไขว่ห้าง เอนหลังพิงกับพนักโซฟาพลางมองเพื่อนสนิทที่เอาแต่เล่นกับลูกชายเขานัดกันไปแดกข้าวบ้าง พวกมึงชักจะห่างเหินกันเกินไปแล้ว

     

    จะเอาอะไรกับหมอศัลวะ นั่นน่ะคนของประชาชนแบคฮยอนหัวเราะ

     

    ฮั่นแน่ะ มีตัดพ้อ

     

    เฮ้ย อันนี้พูดจริง กูไม่มายด์หรอก เป็นงี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ชานยอลไม่คิดว่าหัวใจคุณแบคฮยอนจะยิ้มตามริมฝีปาก ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่เด็กอย่างเขาก็รู้สึกได้ถึงความน้อยใจ

     

    แต่งงานกันให้มันจบ ๆ ไปเลยไหม อย่างน้อยก็ตื่นมาเจอหน้ากันก่อนไปทำงาน อึ้บกันสักรอบก่อนเข้าเวรงี้ก็เก๋ดีไม่หยอก

     

    ไม่ดีกว่าว่ะ กลัวชีวิตพังเหมือนมึง

     

    อ้าว เชี่ยนี่ จงอินถลึงตามองเพื่อนสนิท ที่พูดจี้ใจดำกันได้อย่างหน้าด้าน ๆ ใช่สิ เขามันก็แค่พ่อหม้ายเมียทิ้ง

     

    เลิกพูดเรื่องทะลึ่งได้แล้ว เด็กนั่งอยู่ตรงนี้ตั้งสองคน คุณแบคฮยอนว่า พร้อมหันมายิ้มให้เขา

     

    เด็กอะไรกัน จะยี่สิบอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?

     

    ไม่เป็นไรครับ คุยกันตามสบายเลย ชานยอลคิดว่ามันดีเสียอีก เขาจะได้รู้เรื่องคุณแบคฮยอนโดยที่ไม่ต้องออกปากถามเอง

     

    อ้าว นั่นไง มาแล้ว ผู้จัดการโอ!”

     

    ครับ?

     

    ว่างอยู่ใช่ไหม ช่วยพาเด็กใหม่ไปทำความรู้จักร้านทีสิ ผมจะสอนวิธีเลี้ยงลูกให้เพื่อนสักหน่อย

     

    ชายหนุ่มร่างผอมในชุดเชิ้ตสีขาว พับแขนเสื้อถึงข้อศอก พร้อมคาดด้วยผ้ากันเปื้อนสีดำเดินมาหยุดอยู่ข้างเขา ก่อนจะโค้งศีรษะทักทายคุณแบคฮยอน

     

    นี่ผู้จัดการโอเซฮุน เขาจะคอยแนะนำและด่านายทุกครั้งที่ทำข้าวของเสียหาย ถึงจะโหดไปหน่อยแต่เลี้ยงเด็กเก่งมากเลยนะ

     

    เรียกว่าจำเป็นต้องเลี้ยงให้ดีกว่าครับ

     

    ดุ บอกแล้วว่าดุ คุณจงอินเดาะลิ้น พลางมองใบหน้าเรียบเฉยของคุณเซฮุนที่กระดิกนิ้วเป็นเชิงเรียกให้เขาลุกขึ้นเดินไปด้วยกัน

     

     

    .

    .

     

     

    อยากไปไหนหรือเปล่า?

     

    วันนี้คุณไม่ต้องไปไหนเหรอครับ? เด็กหนุ่มถามอีกคนที่ยืนอยู่อีกฟากฝั่งของประตูรถ พร้อมแก้วกาแฟร้อนแบบเทคอเวย์ในมือ

     

    หลังจากตกลงทำงานพิเศษที่ร้านกาแฟของคุณจงอินทุกวันจันทร์ อังคาร พุธ เราก็ไม่มีแพลนว่าจะไปไหนกันอีก ก็บอกแล้วไงว่าวันนี้ฉันยกให้เธอทั้งหมดเลย

     

    ...

     

    ชานยอลมั่นใจว่าเขาไม่ใช่คนหวั่นไหวง่ายแน่ ก็ดูสิ่งที่อีกฝ่ายแสดงออกสิ เขาก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งที่มีความรู้สึก เล่นฮุคหมัดตรงใส่กันครั้งแล้วครั้งเล่าแบบนี้จะไม่ให้หวั่นไหวได้อย่างไร ทุกวันนี้มีแต่จะชอบคุณแบคฮยอนมากขึ้นเรื่อย ๆ

     

    อืม... เธอไปสวนสนุกครั้งล่าสุดเมื่อไหร่?

     

    ตอนอายุสิบสองมั้งครับ ทำไมเหรอ?

     

    เด็กหนุ่มหันไปมองอีกคนที่เอาแต่ยิ้มขณะทอดสายตาไปยังท้องถนน ก่อนที่เขาจะก้มศีรษะเล็กน้อย เมื่อฝ่ามือเล็กวางลงมาเราจะไปที่นั่นกัน

     

    หา? สวนสนุกน่ะนะครับ?

     

    ใช่

     

    ไม่รู้ว่าคุณแบคฮยอนคิดอะไรอยู่ พอรู้ตัวอีกที เราสองคนก็มาถึงสถานที่ที่เต็มไปด้วยเด็กและเสียงหวีดร้องแล้ว ชานยอลมองอีกคนที่ดูเงอะงะกับบัตรผ่านซึ่งรัดอยู่กับข้อมือ จนเขาต้องช่วยจัดให้

     

    คุณมาบ่อยเหรอครับ?

     

    ไม่เลย และนั่นคือเหตุผลที่ฉันอยากมา

     

    ไม่ยักรู้ว่าคุณก็มีมุมเป็นเด็กอยู่เหมือนกัน ชานยอลอมยิ้ม ก่อนจะปล่อยมือออกแล้วเดินเข้าไปในสวนสนุกซึ่งมีเครื่องเล่นให้เลือกมากมาย

     

    ทุกคนมีมุมดูเป็นเด็ก และมุมที่โตเป็นผู้ใหญ่ ไม่เห็นต้องแบ่งแยกเลยว่าเราต้องเป็นอะไร อีกอย่าง สวนสนุกก็ไม่ได้จำกัดว่ามีแค่เด็กที่เล่นได้ คนตัวเล็กดูผ่อนคลาย ขณะหลับตาสูดอากาศบริสุทธิ์ในช่วงบ่ายของวัน

     

    ขายาวชะงัก เมื่อเดินทางมาหยุดอยู่ตรงหน้าม้าหมุนสำหรับเด็ก ชานยอลส่ายหน้าพรืดเมื่ออีกคนลากดึงให้ขึ้นไปเล่นด้วยกัน ในขณะที่เด็กวัยรุ่นคนอื่น ๆ แค่เดินผ่าน และเลือกเครื่องเล่นหวาดเสียวมากกว่า

     

    อายหรือไง

     

    ก็... นิดนึงครับ คุณไม่รู้สึกเหรอ? หันไปมองรอบตัวก็เห็นตาแป๋ว ๆ ของเด็กตัวเล็กที่เกาะแหมะอยู่บนม้าหมุน สายตาที่มองมาคงสงสัยว่าเขาทั้งคู่ขึ้นมาทำอะไรกันบนนี้

     

    ไม่เห็นจะน่าอายเลย คุณแบคฮยอนหัวเราะ พลางยีหัวเด็กหนุ่มตัวสูงที่นั่งอยู่บนม้าอีกตัวเห็นกลุ่มนั้นไหม? ชานยอลมองตามอีกคน แล้วก็พบกลุ่มเด็กวัยรุ่นที่มองมาทางนี้ คนพวกนั้นคงประหลาดใจว่าทำไมเขาทั้งคู่ถึงเลือกเล่นฝั่งเด็ก แทนที่จะเล่นม้าหมุนฝั่งที่ผู้ใหญ่นั่งได้อย่างพอดี

     

    ใจจริงก็คงอยากเล่นเหมือนเรา แต่เพราะเด็กพวกนั้นคิดว่าตัวเองโตแล้ว และนี่มันเป็นเครื่องเล่นสำหรับเด็ก พวกเขาเลยพลาดความสนุกไปหนึ่งอย่างในวันนี้

     

    ชานยอลมองอีกคนที่ซบศีรษะอยู่กับเสาม้าหมุน พร้อมยกสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายรูป ก่อนจะปรับองศากล้องจนเขาหลุดเข้าไปอยู่ในเฟรมด้วย เด็กหนุ่มยิ้มบาง ๆ พร้อมชูสองนิ้วอย่างขลาดอาย และแล้ววันนี้เราก็มีรูปคู่กันโดยที่ปาร์คชานยอลไม่ต้องออกปากชวน

     

    ส่งให้ผมด้วยนะครับ...

     

    ได้เลย

     

    ช่างหัวความรู้สึกของปาร์คชานยอลเถอะ เขาไม่อยากเลิกชอบคุณแบคฮยอนแล้ว ต่อให้รู้ดีว่ายังไงก็ต้องอกหัก แต่เด็กหนุ่มก็อยากรู้สึกแบบนี้ไปเรื่อย ๆ จนกว่าอีกฝ่ายจะรับรู้และรังเกียจมัน

     

    นี่ชานยอล

     

    ครับ?

     

    เด็กหนุ่มโค้งศีรษะขอบคุณ เมื่ออีกคนยื่นกระป๋องน้ำอัดลมพร้อมเปิดฝาให้อย่างเสร็จสรรพ เราหยุดนั่งพักหลังจากสนุกไปกับเครื่องเล่นหลากหลายชนิด รวมไปถึงบ้านผีสิงที่ชานยอลผงะหลายครั้งเพราะเพิ่งเคยเข้าเป็นครั้งแรก ถึงจะน่าอาย แต่พอเห็นว่าทำให้คุณแบคฮยอนหัวเราะได้ เขาก็เริ่มชอบความน่าอับอายเหล่านั้น

     

    อย่าลังเลที่จะไปเที่ยวกับเพื่อนล่ะ มีโอกาสก็สร้างความทรงจำกับเพื่อนไว้เยอะ ๆ จะได้ไม่เสียใจทีหลัง ว่าทำไมตอนนี้เราไม่ทำนะ ทำไมตอนนั้นเราไม่ไปกับเพื่อน เด็กหนุ่มพยักหน้า มองอีกคนสั่งสอนอย่างตั้งใจ น่าแปลกที่เขาควรจะซาบซึ้ง แต่กลับเห็นคนตัวเล็กน่ารักขึ้นมาเสียอย่างนั้น พอเรียนจบก็หาเวลาเจอกันยากแล้ว

     

    เหมือนคุณกับคุณจงอินใช่ไหมครับ?

     

    ใช่ ต่างคนต่างงานยุ่ง หาเวลาเจอกันก็ยาก มีเรื่องที่อยากคุยเยอะแยะไปหมด แต่พอเจอกันทีก็ลืม เอาแต่คุยเรื่องไร้สาระอะไรก็ไม่รู้ คุณแบคฮยอนหัวเราะ

     

    ถ้าเพื่อนชวนไปเที่ยวอีก ผมจะไปด้วยครับ ชานยอลไม่ได้พูดเอาใจอีกฝ่าย แต่รอยยิ้มที่ได้รับ เขาจะเรียกว่ากำไรแล้วกัน

     

    ว่าแต่กับเด็กผู้หญิงคนนั้นน่ะ ไปถึงไหนแล้ว?

     

    ครับ?

     

    ที่นัดกันไปบ้านพักคนชราวันนั้นไง ชื่ออะไรนะ... ฉันจำชื่อไม่ได้ คุณแบคฮยอนยื่นแฮมเบอร์เกอร์มาให้ และนี่คืออาหารเที่ยงของเรา และอาจจะควบเป็นมื้อเย็นด้วย

     

    อ๋อ... เธอชื่อจื่อวีครับ ชานยอลค้างอยู่ท่านั้น ขณะที่อีกฝ่ายขานตอบในลำคอ พร้อมงับแฮมเบอร์เกอร์ชิ้นใหญ่เข้าปาก ...นี่ก็น่ารักอีกแล้ว ไม่ถึงไหนหรอกครับ เราแค่เพื่อนกัน

     

    เธอไม่สวยเหรอ หรือว่าไม่ใช่สเปก

     

    ผมไม่เคยมีสเปกเป็นของตัวเองหรอกครับ ผมรู้แค่ว่าถ้าตกหลุมรักใครสักคน เขาก็จะกลายเป็นทุกข้อยกเว้นในเรื่องที่ผมไม่ชอบ

     

    ว้าว... ฟังดูพิเศษจัง น่าอิจฉา คนตัวเล็กกำลังแซว ไม่ว่าจะด้วยน้ำเสียงหรือสายตาที่มองมา ใจจริงอย่างจะโพล่งออกไปว่า ก็คุณนั่นแหละ จะอิจฉาตัวเองทำไมกันแต่เขาก็แค่ยิ้มขำ

     

    แล้วคุณล่ะครับ ชานยอลชำเลืองมอง พลางแกะซองแฮมเบอร์เกอร์กินบ้าง เขาไม่ควรนั่งทื่อเกินไปจนอีกฝ่ายจับผิดได้ คุณจูฮยอนเป็นสเปกของคุณหรือเปล่า

     

    คนถูกถามขมวดคิ้วใช้ความคิด พร้อมเคี้ยวเบอร์เกอร์ที่อัดแน่นกระพุ้งแก้มไปด้วย ไม่รู้สิ ตอนนั้นเรายังเด็กกันอยู่เลย

     

    ผมถามได้ไหม? ทั้งคู่หันมามองกัน ก่อนที่คุณแบคฮยอนจะยิ้มแล้วพยักหน้าเป็นคำตอบตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอครับ?

     

    มอปลายปีสอง เราเป็นเพื่อนสนิทกันน่ะเด็กหนุ่มพยักหน้ากับคำตอบ ไม่ต้องยกนิ้วขึ้นมานับเขาก็มองเห็นความผูกพันของทั้งคู่แล้ว

     

    คุณอยากแต่งงานกับเธอหรือเปล่าครับ? เด็กหนุ่มสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อรู้สึกได้ถึงสัมผัสจากนิ้วหัวแม่มืออีกคน ที่แตะลงกับมุมปากของเขา ชานยอลลืมไปหมดแล้วว่าเขาเคยลั่นคำถามโง่ ๆ อะไรออกไป เมื่อตอนนี้ใบหน้าของคุณแบคฮยอนน่ามองกว่าเป็นไหน ๆ

     

    จะบอกว่ายังไงดี มันก็มีช่วงเวลาที่คิดว่าเราน่าจะแต่งงานกันนะ แต่พอคิดดูอีกที ฉันก็ไม่เห็นความเปลี่ยนแปลงระหว่างเราสักเท่าไหร่

     

    ทำไมล่ะครับ?

     

    เราต่างก็งานยุ่งจนแทบไม่มีเวลาว่าง เธออยากฟังเรื่องตลกไหม?

     

    คุณแบคฮยอนเช็ดคราบซอสจากปลายนิ้ว แล้วเงยหน้าขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม ชานยอลพยักหน้าเป็นคำตอบ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ถ้าเกี่ยวกับคุณแบคฮยอนล่ะก็ เขาอยากรู้ทั้งนั้น

     

    เรากำลังจะมีเซ็กส์กัน แต่จูฮยอนก็ถูกโทรตามไปโรงพยาบาล แล้วฉันก็ถูกลอยแพ ค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น แทบนับครั้งไม่ได้เลยล่ะ...

     

    คนตัวเล็กกระซิบราวกับกลัวว่าใครจะมาได้ยินเข้า เด็กหนุ่มหน้าร้อนผ่าวลามไปถึงใบหู กับเรื่องใต้สะดือที่เขายังไม่เคยลองทำกับใครสักครั้งในชีวิต แบคฮยอนยิ้มขำ กับท่าทางของคนข้าง ๆ ที่รีบยัดแฮมเบอร์เกอร์เข้าปากแก้เขินกับเรื่องที่ได้ฟัง

     

    เอาน่า เรามันผู้ชายด้วยกัน ไม่เห็นมีอะไรต้องเขินเลย

     

    ...

     

    หัดเรียนรู้ไว้ จะได้ไม่เป็นไอ้ไก่อ่อน หนังโป๊น่ะดู ๆ ไปเถอะ ช่วยตัวเองบ้างจะได้ไม่เครียด แต่ถ้าลองสนามจริงเมื่อไหร่ก็ต้องป้องกัน เข้าใจไหม?

     

    ไม่เข้าใจอะไรทั้งนั้นแหละ เขากำลังจะระเบิดตัวตายอยู่รอมร่อ เพราะในหัวมันจินตนาการไปถึงฉากอย่างว่าที่มีคุณแบคฮยอนนอนเปลือยร่างอยู่บนเตียง ให้ตายสิ! ปาร์คชานยอลจะลามกเกินไปแล้ว

     

    แค่ก ๆ

     

    เอ้า ค่อย ๆ กินสิ

     

    เด็กตัวสูงรับกระป๋องน้ำจากมืออีกคนมาดื่มเสียยกใหญ่ ชานยอลกำลังสงบสติอารมณ์ไปพร้อม ๆ ฝ่ามือเล็กที่ลูบอยู่กลางแผ่นหลังของเขา จนกระทั่งทุกอย่างสงบลง

     

    คุณ... อยากมีลูกไหมครับ?

     

    เด็กก็น่ารักดีไม่ใช่เหรอ? รอยยิ้มของคุณแบคฮยอนน่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนที่สุด ชานยอลนิ่งไป ก่อนจะถูกคนตัวเล็กบีบริมฝีปากจนยู่ลงทำไมทำหน้าแบบนี้ กลัวถูกแย่งความสำคัญหรือไง?

     

    ถ้าผมรู้สึกอย่างนั้นจริง ผมต้องขออนุญาตคุณก่อนไหมครับ คนตัวเล็กยิ้มขำ ชานยอลปล่อยให้อีกฝ่ายบีบกรามเบา ๆ แล้วโคลงศีรษะไปมา

     

    คิดมาก

     

    ถึงผมจะอายุสิบเก้า แต่พออยู่กับคุณ ผมก็รู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ไม่รู้เลยว่าจะโตเป็นผู้ใหญ่เมื่อไหร่

     

    เด็กหนุ่มคิดอย่างนั้นจริง ๆ หลายครั้งที่พยายามทำให้อีกฝ่ายเห็นว่าเขาเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่กลับกลายเป็นว่าปาร์คชานยอลยิ่งเด็กลงไปกว่าเดิมอีก เขาไม่มีวันตามความคิดของอีกฝ่ายทันเลยสักครั้งเดียว

     

    ดีแล้ว ถ้าไม่อยากเจ็บปวด ก็อย่ารีบเป็นผู้ใหญ่เลย

     

    ...

     

    ปล่อยให้ร่างกายและความคิดเติบโตไปตามกาลเวลาเถอะ ฉันชอบที่จะมองเธอแบบนี้นะ

     

    สายตาของคุณแบคฮยอนคงเต็มไปด้วยความเอ็นดูจริง ๆ มันทำให้ชานยอลนิ่งเพราะไม่รู้ว่าต้องพูดอะไรถึงจะเหมาะสม เขาปล่อยให้ความคิดในหัวช่วยจัดการความรู้สึก พอได้คำตอบ เด็กหนุ่มรวบรวมความกล้าลุกขึ้นยืนตรงหน้าคนตัวเล็ก พร้อมยื่นมือออกมา

     

    ผมไม่กล้าเล่นไวกิ้ง... เพราะงั้นคุณจับมือผมไว้ได้ไหมครับ?

     

    ชานยอลไม่เคยมีความกล้าเลย มันเป็นครั้งแรกที่เด็กหนุ่มลองเสี่ยง โดยใช้สถานะและความเป็นเด็กในการฉวยโอกาส ซึ่งคุณแบคฮยอนก็คงประหลาดใจเหมือนกัน ที่อยู่ ๆ ไอ้เด็กปอดแหกก็ยื่นมือออกมา ราวกับคนละคน

     

    แต่แล้วชานยอลก็ได้รู้ว่า ถ้ามีความกล้า เขาก็จะได้รับในสิ่งที่ต้องการ... เหมือนตอนนี้คุณแบคฮยอนจับมือเขาเอาไว้ แล้วลุกขึ้นยืนในระดับที่สายตามองเห็นได้ชัดโดยไม่ต้องพึ่งแว่นที่คนตัวเล็กพาไปตัดเมื่ออาทิตย์ก่อน เพื่อให้ใช้เวลาอ่านหนังสือ

     

    เด็กน้อย ฉันควรจูบขมับปลอบใจเธอตอนขาลงด้วยหรือเปล่านะ?

     

    ชานยอลลืมไปแล้วว่าความทุกข์ใจก่อนหน้านี้เป็นอย่างไร เพียงเพราะเห็นรอยยิ้มของคนที่จับมือเขาเอาไว้ ก่อนจะสอดประสานเรียวนิ้วกันในที่สุด เด็กหนุ่มไม่อยากสนใจอะไรอีกแล้ว... ตอนนี้สิ่งเดียวที่รู้ก็คือ เขาอยากใช้เวลาอยู่กับคุณแบคฮยอนให้มากที่สุด ก่อนที่วันนั้นจะมาถึง

     

    เหงื่อเต็มฝ่ามือเลยนะ กลัวมากหรือไง?

     

    ครับ... เพราะงั้นจับมือผมแน่น ๆ เลยนะ

     

     

     

    TBC

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×