คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : #SFเซมที่รัก | ตอนที่ 05 (100%)
(05)
“เซมฮะ วันนี้เค้ามีเรื่องจะต๋าดะพาบผิด”
“...”
ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้นยืนทำหน้าเมาง่วง พลางมองไปยังเด็กน้อยแปดขวบที่ยืนช้อนตามองเขาอยู่หน้าประตูโรงเรียนประถม ชานยอลถอนหายใจเตรียมพร้อมรับความน่าปวดหัวที่ใกล้จะมาถึง เพียงเพราะตรงหน้าคือเด็กน้อยที่คอยสร้างแต่เรื่องสะพรึงไม่ว่าจะกลางวันหรือกลางคืน จนอดคิดไม่ได้ว่านี่คนหรือผ้าอนามัย
“ไหนว่ามา”
“ตั๋นยาก่อนว่าจะไม่ดุเค้า”
“ไม่มีการสัญญาอะไรทั้งนั้นอะ เป็นเด็กไม่ดีก็ต้องโดนดุดิ” ชานยอลย่อตัวนั่งลงยอง ๆ ตรงหน้าเจ้าตัวน้อยที่ทำปากจู๋หลังจากยื่นข้อตกลงแรกไม่สำเร็จ
“หูย ใจร้าย”
“จะเล่าไม่เล่า” โนสนโนแคร์ จะตอนแปดขวบหรือสิบแปดกูก็พร้อมจะโชว์เหนือใส่แบบไม่แยกแยะด้วย
แบคฮยอนกอดกระติกน้ำสีเหลืองไว้แนบอก ราวกับว่ามันจะช่วยปกป้องอะไรได้ถ้าหากเกิดภัยธรรมชาติขึ้นตอนนี้ ชานยอลมองความไร้เดียงสาตรงหน้าที่ทำให้นึกไม่ออกเลยว่าสิ่งใดในโลกที่กล่อมเกลาให้เด็กนี่โตไปแก่แดดได้ขนาดนั้น
ชายหนุ่มเลิกคิ้วเมื่ออยู่ ๆ เจ้าตัวดื้อก็ถอดสายกระติกน้ำออกมาให้เขาถือ ก่อนเจ้าตัวหันซ้ายขวาแล้วดึงแขนเสื้อขึ้นจนพบรอยเล็บที่ข่วนเป็นทางยาวอย่างน่าตกใจ
“ไปทำอะไรมา”
“แฟนของมินจ๊อกอยากได้กระติกน้ำ แต่เค้าไม่ให้ มินจ๊อกเลยแปลงร่างเป็นจูเรนเจอร์มาแย่งฮะ”
“ว่าไงนะ ตัวเท่าลูกหมาแค่นี้ริอาจมีแฟนแล้วเรอะ” กูนี่จะสามสิบแล้วยังได้แค่นั่งหน้าแห้งอย่างสิ้นหวัง!!!
“อื้อ! มินจ๊อกจับมือกับจียอน มินจ๊อกจะแต่งงานกับจียอนฮะ”
“เลอะเทอะ แล้วอะไรคือการแย่งกระติกน้ำเอาใจผู้หญิง” ชานยอลหรี่ตามอง แก้มยุ้ย ๆ ของเด็กแปดขวบตรงหน้า
“มินจ๊อกบอกว่าเค้าเป็นตุ๊ดด้วย”
“เชี่ย”
ทำไมรู้!
“ไหงมินจ๊อกถึงพูดงั้น เล่าให้เซมฟังซิ” น่าสงสารเด็กน้อยแปดขวบที่ไม่รู้เลยว่าในอนาคตตัวเองจะแก่แดดแก่ลมแค่ไหน ใจจริงอยากกระซิบข้างหูเพื่อบอกหนูว่าที่มินจ๊อกพูดน่ะ... จริงตั้งครึ่งนึง
“ก็ครูถามว่าอยากแต่งงานกับใคร เค้าเลยตอบว่าเซม”
“จะบ้าเร๋อออออออออออ” เสียงร.เรือกูนี่ชัดกว่าคนสุรินทร์อีก “งั้นก็ไม่ต้องสงสัยแล้วว่าทำไมถึงโดนล้อว่าเป็นตุ๊ด ผู้ชายแต่งงานกันได้ที่ไหน”
“ทำไมจะไม่ได้” นั่น คำสุดท้ายนี่มีขึ้นเสียงสูง ไม่เขย่งขาแล้วจิกหัวกูเลยล่ะซั้ซ
“พ่อหนูเป็นผู้ชายหรือผู้หญิง”
“ผู้ชาย”
“แล้วแม่ล่ะ?”
“ผู้หญิงฮะ”
“นั่นแหละ หายงงยัง?” อีกนิดเดียวกูจะเดินไปขอชอล์กจากครูมาวาดรากต้นไม้เพื่ออธิบายความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิงให้ดูละ ต่อให้กูจะฟันเด็กผู้ชายไปแล้วก็ตาม แต่จะไม่มีการหลอกให้ความหวังเรื่องโตขึ้นมาแล้วจะแต่งงานกันเด็ดขาด เลอะเทอะ!
“ก็ยังงงอยู่ดี”
“ซื่อบื้อ ไหนบอกว่าเรียนได้ที่หนึ่งไง” ชานยอลบีบจมูกรั้นของเด็กน้อยที่เอาแต่ฉายแววตาสงสัย ทีตอนเป็นเด็กสิบแปดล่ะมึงเข้าใจอะไรง๊ายง่ายจนกูงง “เจ็บมากไหมล่ะนั่น”
“เจ็บมากเลยฮะ เหมือนจะล้มเลย โอ๊ยโอ๊ย...” ไอ้ตัวดื้อมันแกล้งสำออยว่ะ ขอเปลี่ยนคำพูดเดี๋ยวนี้เลยที่บอกว่าเด็กแปดขวบช่างใสซื่อ เพราะตอนนี้เหมือนมันเพิ่งถอดร่างวัยสิบแปดมายังไงอย่างนั้น
“แล้วมินจ๊อกเป็นไงบ้าง”
“ไม่เป็นอะไรเลย”
“ไหงงั้น ยืนให้เขาตีเฉย ๆ เนี่ยนะ” ชายหนุ่มเลิกคิ้ว ซึ่งอีกฝ่ายก็พยักหน้าหงึกเป็นคำตอบ
“เค้าต้องปกป้องจูรีรินี่ฮะ...” น้ำเสียงแผ่วเบามาพร้อมสีหน้าแบบพระเอกละครหลังข่าวในร่างเด็กแปดขวบ มือเล็กที่ทาบลงบนกระติกน้ำราวกับอยากจะบอกมันว่า ‘ไม่เป็นไรนะจูรีริ เตงจะปลอดภัยถ้าอยู่กับเค้า’
“ตีกับมินซอกงี้คยองซูยอมเหรอ” เพื่อนรักผู้ซื่อสัตย์นัมเบอร์วันเลยนะนั่น
“คยองซูเข้ามาดึงกุงเกงเค้าอย่างงี้ แล้วช้างน้อยของเค้าก็ออกมาจ๊ะเอ๋ ทุกคนคงสนุกมาก ๆ ถึงเอาแต่หัวเราะเค้าใหญ่เลย” แบคฮยอนทำท่าประกอบให้ดู เล่นเอาผู้ใหญ่วัยเหยียบเลขสามถึงกับกุมขมับ
“จังไรแต่เด็ก” ชานยอลส่ายหน้าระอา แต่พูดก็พูดเถอะ สมัยเป็นเด็กก็ไม่ได้ต่างไปกว่านี้นัก แต่กลับกันตรงที่เขาเป็นฝ่ายถอดกางเกงเพื่อน
“เซมเป่าแผลให้เค้านะ เพี้ยง ๆ อย่างงี้” รอยยิ้มไร้เดียงสามาพร้อมดวงตาสดใสคู่นั้นที่ทำให้ปาร์คชานยอลรู้สึกบาปหนาขึ้นมาที่กลายเป็นไอ้บ้ากามตอนกลางคืน
ทั้งคู่สบตากันอยู่ครู่หนึ่ง ซึ่งไอ้ตัวดื้อก็ไม่ได้ส่งเสียงเร้าเยว ๆ เพื่อให้เขาปลอบขวัญในทันที ชานยอลยังคงตบตีอยู่กับความย้อนแย้งในใจเหมือนทุกครั้งถ้าเป็นเรื่องของแบคฮยอน แม้จะรู้ดีว่าเด็กแปดขวบตรงหน้าจะไม่มีทางจำเรื่องตอนกลางคืนได้
ชายหนุ่มจับแขนเล็กขึ้นมาใกล้ เป่าลมอุ่นลงไปเบา ๆ เป็นการปลอบใจ ซึ่งเด็กน้อยก็ฉีกยิ้มกว้างตาหยีแล้วพูดเบา ๆ ว่า ‘เค้าหายเจ็บแล้วฮะ เซมสุดยอดไปเดย’
“ทีหลังถ้าโดนแกล้งอีกให้รีบวิ่งไปหาครูนะรู้เปล่า เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าหัดเป็นจิ๊กโก๋”
“จิ๊กโก๋คืออะไร เหมือนปาต้องโก๋ไหมฮะ”
“เดี๋ยวโตก็รู้ เลิกถาม” ชานยอลแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะอุ้มเด็กน้อยขึ้น พอเห็นไอ้ตัวดื้อแย่งกระติกน้ำไปกอดอย่างทะนุถนอมก็หมั่นไส้ ตอนนี้มันยังเป็นของล้ำค่า แต่ใครจะรู้ว่าพอโตขึ้นมันหันไปเล่นของที่สั่งมาจากเวปด้านมืด
“เพื่อนไม่ชอบเค้า”
“อะไรที่ทำให้คิดว่าเพื่อนไม่ชอบ”
“พอเค้าได้คะแนนเต็มเพื่อนก็จะโกรธ ถ้าครูชมเค้า เพื่อนก็จะโกรธเหมือนกัน”
ชีวิตเด็กประถมที่เกิดการแบ่งกลุ่มก้อนนั้นชานยอลเข้าใจเป็นอย่างดี แต่เขาก็ไม่ได้อธิบายอะไรมากนัก เพราะเด็กแปดขวบคงไม่มีทางเข้าใจ เดี๋ยวพออยู่ประถมปลายหรือมอต้น ก็คงปรับตัวเข้ากับสังคมได้เอง
“ฮึก”
“อย่าร้องดิ ไหนบอกหายเจ็บแล้วไง” ชานยอลมองตัวก้อนในอ้อมกอดที่ซบหน้าลงกับไหล่กว้าง ๆ ของเขาอย่างอ่อนใจ ไม่รู้ว่าเจ็บแผลหรือน้อยเนื้อต่ำใจที่เพื่อนไม่รักกันแน่
“แต่มันเจ็บที่ใจเค้านี่” จร้าาาาา คมมากคำพูดคำจาเนี่ย “เพื่อนไม่อยากเล่นกับเค้า”
“เซมก็เล่นกับหนูแล้วนี่ไง ทดแทนกันได้ไหมล่ะ อะป๋องแป๋ง ๆ” พูดจบก็ทำมือเป็นเด็กปัญญาอ่อนโอ๋เจ้าตัวดื้อในอ้อมกอด แต่ดูทรงจะไม่ได้ผล
“แต่เซมไม่ได้ไปโรงเรียนกับเค้า”
“แต่หลังเลิกเรียนเพื่อนก็ไม่ได้ตามมาแกล้งหนูถึงบ้านเหมือนกันถูกไหม?”
“อื่อ” แบคฮยอนขานตอบอย่างไม่เต็มใจ คนอายุมากกว่าที่มีนิสัยหยาบกระด้างจึงยกมือขึ้นลูบหลังเบา ๆ ซึ่งไม่ใช่งานถนัดของปาร์คชานยอลเลยสักนิด “เซมไปเรียนกับเค้าได้ไหม”
“จะบ้าเรอะ เซมจะสามสิบแล้ว ให้ไปเรียนกับหนูมีหวังโดนด่าว่าเป็นไอ้เฒ่าทารกพอดี”
“เซมเป็นเฒ่าตาโด๊ก”
“เดี๋ยวเหอะ” แยกเขี้ยวใส่เจ้าตัวดื้อที่เมื่อกี้นี้ยังเป่าปี่เบะปากร้องไห้เพราะเพื่อนไม่รัก ก่อนจะตีก้นนิ่ม ๆ ไปทีนึงเพราะมันเขี้ยว แต่แบคฮยอนกลับหัวเราะคิกคักจนดูเหมือนว่าจะลืมความเศร้าที่ได้รับจากโรงเรียนอย่างปลิดทิ้งแล้ว
“เซมจ๋า”
เสียงสวรรค์คาบกึ่งนรกทำเอาต้องกำเมาส์ปากกาแน่นจนกลัวหักคามือ ดวงตาเฉี่ยวรูปหยดน้ำมองจอคอมอย่างสภาพวิญญาณหมา ก่อนจะเซไปด้านหน้าเล็กน้อยเพราะถูกจู่โจมโดยการกอดจากข้างหลัง
“พาผมไปกินข้าวข้างนอกโหน่ย”
แหม่... วันนี้มันมาสายแบ๊ว...
“เอาเงินไปจ่ายค่าพัสดุโง่ ๆ หมดแล้วจะเหลือง่ามดากอะไรให้ออกไปเร่ร่อนข้างนอกอีก ไม่มีจะแดกอะแบคฮยอน เข้าใจไหม อ่านปากเซม ไม่ – มี – จะ – แดก” เจอกูตัดพ้อไปหนึ่งดอกเป็นไง ปาร์คชานยอลจะไม่ย้ายตูดไปไหนทั้งนั้นสาบานตรงนี้
“แต่ผมอยากกินเนื้อนี่”
“เพราะใคร ห๊ะ เพราะใคร? ถ้าหนูนั่งอยู่เฉย ๆ ไม่สร้างเรื่องให้เซมเสียเงินป่านนี้จะสั่งยานอวกาศราดต๊อกปกกีให้กินก็ยังได้” กูสูนแล้ว ถึงแม้ว่าเซ็กส์ทอยพวกนั้นจะพาเพลินเพิ่มอรรถรสก็ตามทีเถอะ แต่ปาร์คชานยอลมีความเจ๋งกว่านั้น ไม่ต้องพึ่งของไร้สาระก็พาหนูไปถึงสวรรค์ได้!
“นั่งเฉย ๆ แบบนี้สิน้า” ไอ้เด็กแสบในชุดนักเรียนหญิงก้าวขาคาบหน้าตักพร้อมใช้สองมือโอบรอบคอเขาเอาไว้ แล้วเอาก้นกลม ๆ ถูไถจนระบบหื่นกามเริ่มทำงาน
แหม่... พอฟ้ามืดก็ตอกกะออกเวรเด็กแปดขวบเลยดิ... มาเร็วเคลมเร็วจนไม่เหลือเวลาให้กูสร้างงานสร้างอาชีพเลย
ชายหนุ่มหรี่ตาคาดโทษอย่างเหลือใจ แต่อีกฝ่ายกลับยิ้มอย่างมีความสุขที่กวนส้นตีนเขาสำเร็จยกแรกตั้งแต่หัวค่ำ ไม่ได้นะชานยอล... ถ้าปล่อยให้บรรยากาศเคลิ้มกว่านี้อีกนิดมึงได้เสียตัวแน่ ๆ ควรหาประเด็นมาคุย!
“แผลหายแล้วดิ”
คนถูกถามเพียงเลิกคิ้วราวกับว่าคำถามนี้มันช่างธรรมดาจนไม่จำเป็นต้องเดือดร้อน ต่างกับเด็กแปดขวบเมื่อตอนเย็นที่สะอึกสะอื้นและต้องการความยุติธรรมจากโลกใบนี้หลังจากถูกเพื่อนแกล้งจนได้แผล
“เซมตุงแล้วอะ”
“ไม่อยากให้ตุงก็ย้ายก้นออกไปค่า” ม่างงง ความผิดกูหร๊า มานั่งถู ๆ ไถ ๆ แบบนี้ถ้ายังหดได้ก็ก้อนหินแล้วคับ
“งั้นใส่เข้ามาไหม”
“แก่แดดว่ะ” ชานยอลรีบเอามือปิดปากคนตัวเล็กที่พูดออกมาได้อย่างหน้าตาเฉย แถมยังปั้นหน้านิ่งเหมือนไม่รู้สึกว่าประโยคเมื่อครู่มันทะลึ่งตึงตังแค่ไหน
“ที่เซมคิดคาแรกเตอร์พระเอกไม่ออกก็เพราะเอาแต่กินรามยอนไง ออกไปข้างนอกบ้างสิจะได้เกิดไอเดียใหม่ ๆ” หลังจากแกะมือสาก ๆ ของเขาออก ปากสีเชอร์รี่นั่นก็เริ่มปั่นประสาทอีกครั้ง
“หาเรื่องแดกแพงก็บอกมา ทำเป็นพูดชักแม่น้ำทั้งโลก”
“อ๊า!” คนตัวเล็กนิ่วหน้าสะดุ้งสุดตัวเพราะถูกฟาดก้นเข้าเต็มแรง พอลืมตาขึ้นก็เห็นสีหน้าหื่น ๆ ปนโมโหของคนอายุมากกว่า ที่คงไม่รู้ว่าจะจัดการความรู้สึกตนเองยังไงขณะโดนยั่วทั้งที่หงุดหงิดอยู่
“ไปเดทข้างนอกกันนะ”
“เดทเดิทไร เลอะเทอะ”
“ก็เราเป็นแฟนกันเฉพาะตอนกลางคืนอะ ที่รักลืมแล้วเหรอ” แบคฮยอนพูดอย่างออดอ้อน พร้อมซบหน้าลงกับซอกคอแกร่งของผู้ชายหุ่นดีที่ฟัดกี่ครั้ง ๆ ก็ไม่เคยเบื่อ
ชานยอลพยายามหายใจเข้าลึก ๆ แม้ช่วงล่างจะถูกสะโพกกลมถูไถจนมันพองนูน แต่จะไม่หน้ามืดฟันไอ้เด็กนี่เด็ดขาด ทุกวันนี้ก็ทำติดต่อกันถี่เกินไปแล้ว บยอนแบคฮยอนตั้งใจทำให้เขาเป็นพวกเสพติดเรื่องอย่างว่าหรือไง อาทิตย์ละสองครั้งก็พอ #ถุ้ย
“เซมจ๋า ผมหิว...” ไม่พูดอย่างเดียว ไอ้เด็กแสบมันงับซอกคอพร้อมหายใจรดลงมากระตุ้นอารมณ์ดิบนักวาดที่กำลังสมองตื้อ ส่วนมือก็ล้วงเข้าไปในกางเกงที่ไม่มีแม้แต่กางเกงลิงปกปิดปราการด้านใน จนฐานทัพถูกบุกรุกในที่สุด มันพองตุงและพร้อมใช้งานอย่างเต็มที่ ซึ่งถ้าปาร์คชานยอลไม่อยากโดนดูดพลังจนหมดตัวด้วยเซ็กส์ดุเดือดสามชั่วโมงแบบไม่ได้พักหายใจ เขาก็ควรทำอะไรสักอย่าง
“โอเค!!! หนูไปรื้อตู้เสื้อผ้าหาชุดดี ๆ ใส่แล้วเซมจะพาออกไปกินข้างนอก!!!”
60%
“จับมือหน่อย”
“ไม่ หนูคิดว่าตัวเองเป็นเด็กแปดขวบเหรอ”
“มันไม่ใช่แค่ความคิดหรอกเซมจ๋า” เสียงออดอ้อนมาพร้อมสีหน้ายียวนกวนประสาท เหมือนอยากจะบอกว่า ‘ผมเป็นเด็กแปดขวบที่โดนเซมปู้ยี้ปู้ยำทู๊กคืนไงล่ะ จำไม่ได้เร๋อ’
ชานยอลหรี่ตามองไอ้ตัวแสบที่เดินประกบข้าง และแสดงละครด้วยการแกล้งเดินไปชนชาวบ้านแล้วเซมาซบแขนเขาอย่างสำออย
“โอ๊ย เจ็บจังเลย”
“ความตอหลดตอแหลนี้”
“อะไรอะ ใช้คำแบบนี้กับแฟนได้ยังไง ที่รักพูดไม่เพราะอีกแล้วนะ นี่แน่ะ” พูดจบก็อ้าปากงับกล้ามคนใส่เสื้อแขนกุด ชานยอลเหลือกตามองบน ปล่อยให้หมาในร่างเด็กอายุสิบแปดแทะแขนตามอำเภอใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอามือดันหัวออก
“เดินห่าง ๆ ได้ปะ เซมร้อน เหงื่อออกละเนี่ย”
“มีอารมณ์เหรอ”
“อากาศมันอบอ้าวปะล่ะบางที”
โอยยยยยยยยยยยยยย กูอยากตรัย ไม่ว่าจะเป็นหอกหักอะไร แบคฮยอนมันก็โยงเข้าเรื่องหื่นกามตลอด ร้อนก็หาว่ามีอารมณ์ ขนลุกก็หาว่าหื่น บางทีกูอาจจะปวดขี้เฉย ๆ ก็ได้ไหม
“ไม่กลัวผมหลงทางหรือไง ผมเป็นเด็กแปดขวบที่อยู่ ๆ ก็ตัวโตเท่าเด็กอายุสิบแปดนะ ถ้าเกิดเซมหันกลับมาอีกทีแล้วไม่เห็นผมยืนอยู่ตรงนี้จะทำไง”
ละกูต้องทำอะไรด้วยหร๊า
“เงียบแบบนี้แสดงว่าจะปล่อยเซอร์ผมไปตามยถากรรมสินะ เหอะ เซมรออ่านข่าวหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์พรุ่งนี้เลยแล้วกัน พาดหัวข่าวเด็กหนุ่มมอปลายผู้น่ารักที่อยู่ ๆ ก็กลายร่างเป็นเด็กประถมต่อหน้าต่อตาผู้คนนับร้อยพันกลางฮงแด หลังจากนั้นคลิปเป็นแสนล้านก็จะถูกอัพลงเวปยูนูป และถูกพวกเพจคลั่งยอดไลค์ในเฟสบุ๊กดูดไปลงอีกที”
อื้อหือ... มันล่อมาเป็นภาพเลย
“แค่จับก็จบใช่ปะ เอ้าจับซะ! จับให้พอใจ!” ชายหนุ่มตัวสูงในชุดแขนกุดสีดำกับกางเกงขาสั้นแบมือออกมาอย่างโมโห ถลึงตามองไอ้เด็กแผนสูงที่ยืนอมยิ้มเขินแล้วแปะมือแหมะลงมาก่อนจะสอดประสานกันในที่สุด
“แฟนใครเอ่ยน่ารักจัง” เสียงหัวเราะนี่คือสุด ลัลล้าเหมือนผู้ชนะสิบทิศ
“แฟนหนูเองจ้า” พูดเองน้ำตาก็จะนองหน้า แม้ว่าไอ้ตัวแสบที่เขาเพิ่งพาไปซื้อชุดใหม่จะน่ารักน่าหยิกมากสักแค่ไหน แต่ถ้าเดินล่อเป้าอยู่ข้างนอกแบบนี้ก็เสี่ยงคุกเหมือนกัน เกิดตำรวจนึกครึ้มเดินมาเซย์ไฮ พร้อมขอดูบัตรประชาชนแบบแพ็คคู่กูจะตอแหลยังไงไหว...
“คนนี้แฟนผมนะ ห้ามมอง หันหน้าไปเลย” ปากสีเชอร์รี่ที่เคยน่ากัดกำลังสร้างงานสร้างอาชีพให้ชายหนุ่มวัยเหยียบสามสิบ ชานยอลเหลือกตามองไอ้ตัวแสบที่หันไปพูดกับผู้หญิงหลายคนที่เดินผ่านไปเพื่อประกาศกร้าวว่าเราสองนั้นได้เสียเป็นเมียผัวกันแล้ว และแลทรงจะไม่แคร์ไอ้อีหน้าไหนทั้งนั้นว่าเราเป็นตัวผู้ทั้งคู่
ฮึก... มึงจะเกินไปแล้วนะแบคฮย๊อน
“หนูเป็นมะเขืออะไร ตั้งแต่ออกมาก็ยังพูดไม่หยุดเลยนะรู้สึก” ชานยอลอยากบ้า นั่งขี้ชักwowแปรงฟันพร้อมกันตอนเช้ายังไม่เหนื่อยเท่าใช้ชีวิตอยู่กับไอ้เด็กนี่เลยสังคัง เอ๊ย สังคม
“ก็ผมมีความสุขอะ”
“บนความทุกข์ของเซมเหรอ ใจคอหนูทำด้วยอะไร ห๊ะ” หันไปปั้นหน้าจริงจังปนสำออยบ้าง ถ้าแบคฮยอนมันตอแหลได้รางวัลตุ๊กตาทอง กูก็ต้องได้รางวัลตุ๊กตายางล่ะวะ
“ผมก็ไม่เห็นเซมจะทุกข์ตรงไหน ตอนผมขึ้นให้เซมก็เสียวจนครางเอา ๆ ไม่ใช่เหรอ”
“ช่วยพูดเรื่องเดียวกันสักครั้งนึงได้ปะ กูไหว้ล่ะ” ชานยอลพนมมือขึ้นเหนือศีรษะ โดยที่คนตัวเล็กยังไม่ปล่อยมือออก
“คนมองเต็มเลยอะ เซมอย่าทำแบบนี้สิ อายเขา”
“แล้วที่เดินจับมือเซมนี่ไม่อายบ้างเรอะ” ทีนี้ล่ะทำเป็นอาย กูล่ะงึด
“จับมือกับยกมือไหว้มันไม่เหมือนกันปะ เซมเข้าใจอะไรยากจัง”
“...”
กูหมดคำจะพากย์ ไม่ว่ายังไงแบคฮยอนมันก็คือเครื่องหมายถูกต้องอยู่วันยังค่ำสินะ ชายหนุ่มวัยเหยียบสามสิบยอมแพ้ต่อชะตากรรมแล้ว เขาเดินตาลอยไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมายโดยปล่อยให้ตัวน่าบีบวัยสิบแปดจับมือซบหน้าลงมากับกล้ามแขนเขาจนกว่าจะสาแก่ใจ
ร้านเนื้อย่างที่ไม่ค่อยมีคนคือเป้าหมาย ซึ่งเป็นเรื่องแรกที่เราสองคนเห็นตรงกันแม้ว่าเหตุผลจะดีดไปคนละฟาก ชานยอลคิดว่าที่นี่เงียบดี ปลอดผู้คน และไม่เสี่ยงตำรวจ แต่แบคฮยอนกลับให้เหตุผลว่ายิ่งคนน้อยเท่าไหร่ก็คงล้วงเป้ากางเกงเขาได้ง่ายมากขึ้นเท่านั้น คือยังไง ตอนแดกหมูก็จะจับหรรมกูไว้งี้เหรอ มึงจะเกินไปแล้ว
หมูสามชั้น เนื้อ และเห็ดโง่ ๆ ถูกย่างลงบนกระทะ ซึ่งแน่นอนว่าขี้ข้าเบอร์หนึ่งอย่างปาร์คชานยอลเป็นคนทำเองทั้งหมด โดยไอ้ตัวแสบที่อยู่ข้าง ๆ กำลังมองอย่างตื่นตาตื่นใจ แต่เสือกน่ารักจนกูบ่นไม่ออก
ชายหนุ่มใช้กรรไกรตัดสามชั้นให้เป็นชิ้นพอคำ แล้วคีบใส่จานใบเล็กให้ ซึ่งแบคฮยอนมันก็คีบใส่ผักกินราวกับว่าคุ้นชินกับการกินหมูย่างมาทั้งชีวิต ซึ่งเท่าที่จำได้ ไอ้เด็กแปดขวบมันไม่แดกผักและใช้ตะเกียบไม่เป็น
“...?”
คนตัวเล็กเลิกคิ้วเป็นเชิงถามหลังจากยัดหมูย่างและเครื่องเคียงคำโต ๆ เข้าปากจนแน่นกระพุ้งแก้ม ชานยอลนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะส่ายหน้าปฏิเสธเป็นเชิงบอกว่าไม่มีอะไร เด็กมันเจริญอาหารแดกผักได้ก็ดีแล้ว
“เดี๋ยวผมป้อนนะ”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวเซม --”
“อ้าม”
“...”
“อ้าปากเร็ว อ้าเหมือนตอนทำแบบนั้นให้ผมไง” ไม่พูดอย่างเดียว ไอ้เด็กนี่มันทำตาเยิ้มพร้อมอ้าปากแลบลิ้นออกมานิดนึงด้วย อีโรติกยันตอนแดกหมูย่าง... “อร่อยไหม”
“อือ” คนอายุมากกว่าเคี้ยวหมูกับผักที่อัดแน่นอยู่เต็มปากแล้วหันไปพลิกสามชั้นบนกระทะกลบเกลื่อน ปาร์คชานยอลต้องท่องนะโมสามจบเพื่อสงบจิตใจ เขาจะมีอารมณ์ตอนนี้ไม่ได้ มันลำบาก
“เซม...”
“อือ”
“อยากลองเอาท์ดอร์ดูไหม...”
“มะเหงกเถอะ อยากให้เซมเข้าคุกเหรอวะ?”
“ก็ทำในที่ ๆ ไม่มีคนสิ อย่างห้องลองเสื้อ ห้องคาราโอเกะ ลานจอดรถอะไรประมาณนั้นอะ ผมว่าน่าตื่นเต้นดีออก...” ประโยคหลังเสียงแผ่วลง และตามมาด้วยมือนุ่มนิ่มที่ลูบบนหน้าขาของเขาก่อนจะไล่ขึ้นมาจนถึงง่ามขา อย่านะแบคฮยอน สวิตซ์กูติดง่ายนะพูดเลย
“ถ้ามีคนเห็นล่ะ”
“ก็ปล่อยให้เห็นไปสิ เขาไม่ได้มาทำกับเราสักหน่อย” เด็กขี้ยั่วกัดปากล่างแล้วเกยคางลงบนไหล่กว้าง พร้อมพ่นลมหายใจอ่อน ๆ ใส่ซอกคอของคนที่กำลังถูกล้างสมองให้ทำเรื่องจันไรข้างนอก ซึ่งปาร์คชานยอลรู้อยู่แก่ใจดีว่าอะไรผิดอะไรถูก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเขาก็แอบมีความคิดอยากลองทำในสถานที่แบบนั้นดูสักครั้ง หลังจากดูการ์ตูนโป๊มามากกว่าร้อยเรื่อง
“ไม่ได้ ถ้าเซมถูกจับเข้าคุกหนูยอมเหรอวะ” ชายหนุ่มถอนหายใจแต่ในหัวเสือกกำลังคิดว่าห้องลองเสื้อที่ไหนหนอที่จะมีกระจกทุกรอบด้าน
“ใครจะมาจับเซมเล่าโธ่...” แบคฮยอนกอดท่อนแขนล่ำ ๆ แล้วจุ๊บลงไปหนึ่งทีอย่างออดอ้อน ก่อนชานยอลจะเบิกตากว้างอย่างตกใจทันทีที่คำพูดของแบคฮยอนมันสำฤทธิ์ผลอย่างทันตาเห็น เพราะตอนนี้คนที่ผลักประตูร้านหมูย่างเข้ามาก็คือ...
ไอ้เชี่ยจงอินกับบาทหลวงพี่จุน!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!
“พ่อมึง!!!!!!!!!” <- ชานยอล
“อ้าว นั่นชานยอลนี่” <- บาทหลวงพี่จุน
“หืม?” <- ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์จงอิน
พัมพัมพัมผ่ามมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม
“ไอ้ฉิบหาย เพื่อนชวนออกไปไหนไม่เคยไปด้วย แต่ดันมากับ... ใครวะ?” จงอินเดินมาหยุดอยู่ข้างโต๊ะ พร้อมมองไปยังเด็กหนุ่มที่เงยหน้าสบตากันอย่างท้าทาย ในขณะที่ชานยอลรีบดึงทิชชู่ออกมาซับเหงื่อซึ่งไหลออกมาพลั่ก ๆ โดยที่บาทหลวงจุนมยอนได้แต่ยิ้มอ่อน พร้อมยกมือขวาขึ้นระดับพุงและบิดข้อมือเบา ๆ เป็นการทักทายคนตัวเล็ก
“ผมชื่อแบคฮยอน” เอ้อ ดีมากที่รู้จักหัดตอบสั้น ๆ “เป็นเมียเซม”
เชี้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
“เมียเซม?” จงอินเลิกคิ้วอย่างสงสัย ว่าไอ้เพื่อนเขาไปเป็นครูบาอาจารย์ใครตั้งแต่เมื่อไหร่ ก่อนจะอ้าปากพยักหน้าทันทีที่นึกถึงเรื่องโทรศัพท์เมื่อวันนั้นได้ “อ้อ... คนที่รับสายแทนมึงวันนั้น”
“...”
“แล้วก็ที่พี่จุนเล่าให้ฟังด้วย”
“เดี๋ยว มึงเล่าไรวะหลวงพ่อ” ชานยอลขมวดคิ้วกึ่งหาเรื่อง ซึ่งคนตกเป็นเป้าถึงกับเหลือกตาอย่างร้อนตัว
“พ่อเปล่านะชานยอล พ่อแค่บอกว่าตอนนี้ลูกกำลังพัวพันอยู่กับสิ่งหนึ่ง เลยไม่ว่างมาพบปะเพื่อนฝูง พ่อเล่าแค่นี้จริง ๆ ไม่ได้บอกเลยว่ากำลังคั่วเด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะ อุ่ฟส์!”
“ใครยังไม่บรรลุภาวะนะพี่จุน?” จงอินขมวดคิ้วมองเพื่อนรุ่นพี่ ที่กำลังส่ายหน้าพรืดปฏิเสธหัวสั่น
“พ่อบอกว่าตอนนี้หิวมากเลยนะจ๊ะน่ะ...” บาทหลวงยิ้มแห้งรอบโต๊ะ แม้จะไม่เนียน แต่การที่จงอินไม่ซักไซ้ก็ถือว่าเป็นเรื่องดี
“พี่จุนยังบอกอีกด้วยว่ามึงซูบลงมากเพราะโดนเมียเด็กสูบพลังงาน”
“...”
“อันนั้นพ่อแค่เป็นห่วงสุขภาพลูกน่ะชานยอล พ่อพูดแค่นั้นจริง ๆ นะ”
“ว่าแต่แบคฮยอนอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ คงอายุสักยี่สิบสองแต่หน้าเด็กใช่ไหม?” จงอินยิ้มทักทายเมียใหม่ของเพื่อนสนิทที่แห้งเหี่ยวมาหลายปี
“เฮ้ยพวกมึงไม่รีบหาโต๊ะนั่งวะ ร้านนี้ลูกค้าอย่างเยอะ อีกไม่กี่นาทีวัยรุ่น วัยทำงานก็แห่กันเข้ามาจองโต๊ะแล้ว เดี๋ยวไม่มีที่นั่งแดกหรอก” ชานยอลยิ้มกลบเกลื่อนสู้
“ชานยอลพูดถูก พ่อว่าเรา --”
“งั้นกูนั่งแดกด้วย”
เปรี้ยงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง
“ก็เอาสิ” แบคฮยอนยิ้ม ก่อนจะยกมือเรียกพนักงานเพื่อขอจานใบเล็กและตะเกียบเพิ่มอีกสองชุด โดยไม่สนใจเลยว่าตอนนี้ปาร์คชานยอลจะมีสีหน้าเยี่ยงไร
“นั่งสิวะพี่จุน” จงอินขยับเข้าไปด้านใน พร้อมพยักหน้าบอกบาทหลวงหนุ่มที่ยืนยิ้มแห้งอยู่ข้างโต๊ะให้นั่งลง
“งั้นขอกินเลยแล้วกันนะ พ่อหิว” จุนมยอนถือวิสาสะ เอาตะเกียบของรุ่นน้องตัวสูงมาคีบหมูเข้าปากเพื่อปิดกั้นไม่ให้ใครถามอะไรทั้งนั้น เขาและชานยอลสบตากัน ซึ่งคนน้องคงอยากถามว่าบาทหลวงที่เดินเข้าสู่ทางธรรมได้เล่าเรื่องผิดผีอะไรไปบ้าง ซึ่งเขาขอบอกเลยว่าไม่!
“แบคฮยอนยังไม่ได้ตอบพี่เลยว่าอายุเท่าไหร่ และมาคบกับไอ้เวรนี่ได้ยังไง”
“เฮ้ยจงอิน มึงเจอเซฮุนบ้างปะวะ ช่วงนี้กูไม่ค่อยได้คุยกับมันเลย” ปาร์คชานยอลจะไม่เปิดโอกาสให้เรื่องนี้ถูกขุดขึ้นมาอีกเด็ดขาด กูรู้ว่าแบคฮยอนมันต้องตอบตามความจริงและทิ้งขี้ไว้ให้กูเช็ดอีกแน่ ๆ
“ไม่เจอเลยว่ะ เห็นว่าตอนนี้มันไปเอาดีแข่งแรปในรายการโชว์มีเดอะปั๊บปี้ ไม่รู้ตกรอบยัง”
“ผมอายุแปดขวบ”
“พรวดดดดดดดดดดดดดด” จุนมยอนรีบยกมือขึ้นป้องปากเพื่อไม่ให้ทุกสิ่งอย่างที่อัดแน่นอยู่ข้างในทะลักออกมาเลอะโต๊ะ ซึ่งก็ไม่มีใครใจดีช่วยดึงทิชชู่ให้เลยสักคนเดียว ทั้งชานยอลและจงอินต่างนั่งตาแข็งสบตากันเพื่อรอใครสักคนหนึ่งแถลงไขว่า ‘แปดขวบ’ ที่ว่านี่มันคือเรื่องตลกแดกใช่หรือไม่
“เด็กมันพูดเล่นน่ะ ฮะ ๆ” ชานยอลยกมือขึ้นกุมขมับ พลางเหล่มองไอ้เด็กแสบที่กำลังจะฆ่าเขาให้ตายด้วยคำพูด
“ผมอายุแปดขวบ แต่ตอนกลางคืนกลายร่างเป็นเด็กอายุสิบแปดได้”
“...”
“จงอิน คืองี้” ชานยอลเลียริมฝีปาก ในหัวกำลังพยายามคิดหาสารพัดคำพูดดี ๆ เพื่อมาแก้ตัวให้เพื่อนเข้าใจ
“ไม่เชื่อก็กลับบ้านเซมไปค้างด้วยกันสักคืนสิ เดี๋ยวตอนตีสี่ตีห้าผมก็กลับไปเป็นเด็กประถมให้ดูเองแหละ”
“พูดเป็นเล่น มันจะเป็นอย่างนั้นไปได้ยังไง” จงอินขมวดคิ้วคาดโทษเด็กหนุ่มที่กำลังพูดจาเลอะเทอะ เขาเป็นถึงตำรวจระดับแนวหน้าชนิดว่าโอป้าไอดอลทั้งหลายยังพ่ายแพ้ความหล่อนะ ไม่ใช่พวกกะโหลกกะลาที่จะหลอกได้ง่าย ๆ
“ถึงบอกให้พิสูจน์ไง บาทหลวงข้าง ๆ พี่ก็ลองมาแล้ว”
“เวรละ” คนถูกพาดพิงถึงกับตาเหลือกอีกรอบ จุนมยอนรีบคีบหมูสามชั้นที่ยังไม่สุกดีขึ้นมาเตรียมจะยัดเข้าปาก แต่ก็ถูกผู้พิทักษ์สันติราษฎร์คว้าข้อมือไว้ก่อน
“มึงรู้อะไรงั้นเหรอพี่จุน”
“จงอิน มึงจะขัดขวางการแดกของบาทหลวงไม่ได้นะเว้ย คนของศาสนาจะปล่อยให้หิวโซไม่ได้ มาพี่จุน กูจะช่วยมึงเอง” ชานยอลหยิบตะเกียบของแบคฮยอนขึ้นมาคีบทุกสิ่งที่อยู่ใกล้มือใส่ผักจนเป็นคำอย่างดีแล้วยื่นให้ และเป็นเรื่องดีเหลือเกินที่ไอ้จงอินไม่ได้หยุดเขา แต่ความนรกยังไม่จบเท่านี้ เพราะไอ้ตัวแสบเสือกแกล้งผลักแขนเขาจนหมูหมากาไก่ที่อยู่ในผักกระฉอกออกมาเลอะโต๊ะไปหมด
แบคฮย๊อนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน
“ขอโทษนะเซม เมื่อกี้มือมันกระตุกอะ”
“มึงบอกกูเองว่าไม่ค่อยหิว เพราะงั้นก็อย่าเพิ่งแดก” จงอินพูดเสียงลอดไรฟันขู่บาทหลวงหนุ่มที่นั่งเบ้ปากเรียกร้องขอความเห็นใจ
“กินกันก่อนแล้วค่อยคุยกันก็ได้น่าเพื่อน” ชานยอลยังคงใจดีสู้เสือ บ่ดั้ยดอก ถ้าเกิดเล่าความจริงตอนนี้กูได้ถูกจับเข้าคุกเข้าตารางแน่ เพื่อนทั้งรุ่นต่างก็รู้กันว่าไอ้จงอินมันเฮี้ยนแค่ไหนพอเป็นเรื่องของความถูกต้อง มันเคยประกาศกร้าวมาว่าต่อให้เป็นเพื่อนรักเพื่อนตาย มันก็จะลากไปเข้าคุกให้ได้ถ้าทำผิดกฎหมาย
“ผมจะพูดความจริงก็ได้ ไหน ๆ ก็มากันพร้อมหน้าพร้อมตาแล้ว” แบคฮยอนนั่งกอดอกด้วยท่าทีสบาย ๆ ท่ามกลางสายตาของสามหนุ่มที่กำลังให้ความสนใจ “ความจริง...”
ตึกตึก... ตึกตึก...
สามหนุ่มต่างลุ้นกับคำพูดคนตัวเล็ก ชานยอลกลัวใจเหลือเกินว่าแบคฮยอนมันจะลั่นอะไรออกมาให้ปวดหัวอีกหรือไม่ ส่วนจงอินกำลังรอคำตอบที่สามารถพิสูจน์ได้ว่าคนที่มีร่างกายเท่า ๆ กับเด็กกมอปลายจะอายุแปดขวบได้ยังไง ส่วนบาทหลวงจุนมยอน เขาหิวมาก
“มีเพียงหนึ่งเดียว”
“ถุ้ย!!!” <- ชานยอล
“นั่นโคนันไหมล่ะลูก” <- บาทหลวง
“อย่ามาเล่นลิ้น พี่เป็นคนจริงจังนะแบคฮยอน” จงอินขมวดคิ้ว เพ่งสายตามองอย่างเอาเรื่อง เพื่อให้ทุกคนทั้งโต๊ะได้เห็นศักยภาพตำรวจหนุ่มคนนี้
“ที่จริงเราเคยเจอกันนะพี่จงอิน” คนตัวเล็กยิ้มขณะสบตากับอีกฝ่าย
“จริงดิ ที่ไหนวะ?” ชายหนุ่มผิวแทนขมวดคิ้ว เขาจำไม่ได้เลยสักนิดว่าเคยเจอเด็กคนนี้มาก่อน
“ผมเคยไปงานศพพี่ครั้งนึง”
“...”
“คนเราแม่งมีงานศพกันกี่ครั้งวะลูก” คนเป็นบาทหลวงถามด้วยสีหน้าเรียบเฉย ซึ่งคนฟังอย่างตำรวจหนุ่มได้แต่ขมวดคิ้วแล้วทบทวนว่านี่กูยังมีชีวิตอยู่จริงหรือไม่
“งานศพอะไร บ้าแล้ว”
“ไม่เชื่อก็ตามใจ” แบคฮยอนยิ้มอย่างผู้ชนะ ซึ่งคนที่ถูกกล่าวหาว่าตายแล้วถึงกับเขว
“ถ้าเป็นเรื่องจริงก็บอกมาสิว่าพี่ตายยังไง”
“ถูกโจรยิงตอนปี 2019 แต่ไม่ได้ตายเพราะโดนยิง พี่ตายเพราะดันเล่นท่าพระเอกกระโดดทิ้งตัวไปหลังกล่อง แต่ไม่เห็นว่ามีเหล็กอยู่ตรงนั้นเลยโดนเสียบตายคาที่ ไม่ต้องรอหมองัดกระสุนออกจากหัวไหล่เลย”
“ก็ตายอนาถดีนะพ่อว่า” บาทหลวงหนุ่มวางมือลงบนไหล่รุ่นน้องพร้อมพยักหน้าอย่างเวทนา
“ถ้าผมไล่ทามไลน์ไม่ผิด ตอนนี้พี่เพิ่งได้คู่หูคนใหม่ ชื่ออีแทมิน ถูกไหม?”
“...”
“จริงปะเพื่อน?” ชานยอลขมวดคิ้วมองอย่างลุ้น ๆ ซึ่งดูเหมือนว่าจงอินจะช็อกไปแล้ว
“จริง” จงอินปั้นหน้าเครียด ขมวดคิ้วเป็นเงื่อนตะกรุดเบ็ด “กูเพิ่งรู้เมื่อบ่ายนี้ แล้วก็ยังไม่ได้บอกใครด้วยแม้แต่พ่อกับแม่”
“พระเจ้าช่วยกล้วยไม่สุก...” จุนมยอนยกมือขึ้นทาบอก แล้วหันไปสบตากับชานยอล เพื่อหันไปมองแบคฮยอนอีกที
“นายรู้ได้ยังไง บอกพี่มาเดี๋ยวนี้!” จงอินมองเด็กหนุ่มอย่างก้าวร้าว ซึ่งคนเป็นเพื่อนทั้งสองได้แต่ชำเลืองมองความพระเอกละครที่กำลังกัดฟันแน่นจนคอเป็นเอ็น
“ผมไม่บอกหรอก ถ้าบอกพี่ก็จับเซมเข้าคุกอะดิ”
“มันก็แน่อยู่แล้ว! คนชั่ว ๆ แบบนี้จะเก็บให้อยู่รกสังคมทำไม?!” ชายหนุ่มผิวแทนกล่าวเสียงแข็ง
“กูเพื่อนมึงปะบางที” ชานยอลชี้หน้าตัวเอง ก่อนจะผงะเล็กน้อยเพราะไอ้ตำรวจขี้ซุยหันมาขู่ด้วยสายตา
“มึง ปาร์คชานยอล” จงอินหยัดตัวลุกขึ้นเต็มความสูง พร้อมชี้หน้าเพื่อนสนิทที่คบกันมาตั้งแต่สมัยเรียน แต่มันกลับทำตัวชั่วช้าสามานย์ ไม่เกรงกลัวกฎหมาย! “กูไม่เคยคิดเลยว่าจะต้องลากคอเพื่อนเข้าคุกเข้าตาราง เพราะกูเชื่อใจ และไม่คิดว่ามึงจะเลวแบบนี้!”
“ใจเย็นนะลูก หมูสุกแล้ว ลงมานั่งกินกันก่อน” จุนมยอนกระตุกเสื้อเชิ้ตของตำรวจหนุ่ม ก่อนจะถูกสะบัดออกอย่างไม่ใยดี
“นี่อนาคตของชาตินะชานยอล เด็กมันยังไม่บรรลุนิติภาวะ!”
“แล้วไงอะ ทีพี่ยังมีเซ็กส์ตั้งแต่ตอนอายุสิบห้าเลย”
ชานยอลชำเลืองมองเจ้าของคำพูดอย่างหวาด ๆ มึงไม่ธรรมดาแล้วล่ะแบคฮยอน ชักจะรู้เยอะเกินไปละ “เรื่องนี้กูไม่ได้เล่านะจงอิน สาบานได้”
“กับผู้ชายด้วย”
“อ้าวลั่น” จุนมยอนตาเหลือก ทุกสายตาเพ่งมองไปยังตำรวจหนุ่มซึ่งนั่งเกร็งตัว ตาแข็งอยู่กับที่หลังจากถูกจับได้
“คือ...”
“ปฏิเสธสิพี่จงอิน บอกเพื่อนของพี่ไปว่าผมโกหก” แบคฮยอนยังคงยิ้มอย่างแม่มดที่พร้อมสาปให้เขาตายตรงนี้ ตำรวจหนุ่มเริ่มมีเหงื่อ พอหันไปทางเพื่อนตัวสูงหวังจะขอความช่วยเหลือ แต่ไอ้เชี่ยชานยอลกลับส่ายหัวเป็นเชิงบอกว่า ‘ช่วยตัวเองสิคะเพิ่ล’
“ไหนลูกบอกว่าถูกสาวสวยหุ่นเซ็กส์เปิดซิงไงจงอิน นี่หลอกพ่อมาตลอดเลยหรือ”
“ไม่ใช่อย่างนั้นเว้ยพี่จุน คือ...”
“ถ้าพี่ยังคิดจะจับเซมเข้าคุก ผมจะพูดเรื่องน่าอายที่พี่ไม่เคยเล่าให้เพื่อนฟังตรงนี้”
“ไม่ดีมั้งแบคฮยอน...” จงอินมองเด็กหนุ่มอย่างอ่อนใจ ก่อนจะชำเลืองตามองไอ้ชั่วเบอร์ใหญ่ที่กำลังอมยิ้มกรุ้มกริ่มอย่างผู้ชนะหลังจากมีแบ็คดีคอยปกป้อง ...ไอ้ชานยอล มึงนะมึง!
ชานยอลหลุบตามองเสื้อลายทางแนวตั้งสีขาวดำของเพื่อนสนิทที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม ตอนนี้กูไม่ห้ามแล้วแบคฮยอน อยากพูดอะไรก็พูดเลยคร๊
“เสื้อมึงสวยดีนะจงอิลล์”
“ลายเดียวกับที่ ๆ มึงจะเข้าไปอยู่ไงสัด”
“อั๊ยย๊ะ ชั่ยชั่ย...”
TBC
เอาเถอะ อย่างน้อยเซมก็ยังไม่ได้เข้าคุกวันนี้
ความคิดเห็น