คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Scene 3 :: พี่เขาแถ
Scene 3
พี่เขาแถ
“ถามหน่อย ทำไมต้องเริ่มจากฉากนี้”
เด็กน้อยถาม เมื่อบทแรกที่กำลังซ้อมกันดันเป็นบทกะโหลกที่เด็กหัวโปกอย่างเขาไม่สามารถเข้าถึงได้ ซึ่งนั่นก็คือบทเกือบเลิฟซีนกับพระเอก พูดก็พูดเถอะห่า ต่อให้ตัดไปโคมไฟยังไงก็ต้องมีล้มทับกันบนที่นอน แถมไซร้กันอีกต่างหาก แบบนั้นธาตุไฟกูแตกซ่านแน่นอน ฮัลโหล
“ผมเป็นกังวลเรื่องบททหารก็จริง แต่ผมก็ไม่ใช่คนใจร้ายจนมองข้ามความรู้สึกคู่ซ้อมบทที่ไม่มีพื้นฐานการแสดงถึงขนาดนั้น” พี่พระเอกพูดอ้อมโลกให้เด็กเกรดท้ายห้องต้องงงอีกแล้ว แบคฮยอนขมวดคิ้วมองคนหน้าหล่อที่ยืนอยู่หน้ากระจกบานใหญ่กับเขา “อย่างคุณ ถ้าผ่านบทนี้ได้ก็มีชัยไปกว่าครึ่ง”
“มันใช่เรื่องที่ผมต้องผ่านเหรอวะ พี่ดิ มันต้องเป็นพี่” แบคฮยอนเลิกคิ้วทำตาโต แต่ดูเหมือนว่าพี่พระเอกจะยังยึดมั่นในสมองอันชาญฉลาดของตัวเองว่า ‘อย่าเถียงครับ ความคิดของผมมันกลั่นกรองออกมาอย่างถี่ถ้วนแล้วว่าอะไรดีที่สุด’ ยังไงอย่างนั้น
“เราเสียเวลาไปกับการโต้แย้งกัน ถ้าไม่นับเศษก็รวม ๆ แล้วเจ็ดนาที ถ้าคุณตั้งใจกว่านี้ ผมคิดว่าเราคงข้ามไปฉากพระเอกกับนางเอกนอนสบตากันบนฟูกนุ่มสีขาว หลังจากตื่นมาพบว่าเราทั้งคู่ได้กลายเป็นหนึ่งเดียวกันแล้วเมื่อคืน”
“แหวะ จะอ้วก บทกาก ๆ”
“เคยได้ยินไหมว่านักเขียนที่ดีไม่ควรดูถูกผลงานคนอื่น? งานของคุณก็ไม่ต่างกันนักหรอกครับ” แบคฮยอนหรี่ตามองคนขี้เก๊กที่ยืนล้วงกระเป๋ากางเกง ส่วนมืออีกข้างถือบทเอาไว้
“พี่พูดงั้นแล้วก็มาดูถูกงานเขียนผม คือไร?” เด็กน้อยเชิดหน้ามองหาเรื่อง นี่กระโดดชกหน้าดาราจะเสียเงินกี่ล้านวอนครับ พี่เขาทำประกันหน้าไว้เท่าไหร่
“ผมไม่ใช่นักเขียน เพราะงั้นผมดูถูกงานคุณได้ เห็นไหมว่าคุณก็เจ็บกับคำดูถูกของคนอื่น”
“ไม่เจ็บเว้ย”
“เหรอครับ” ร่างสูงยิ้มอ่อน “งานกระจอก ตัวละครเอกก็เก่งเวอร์เกินจริง This is Sparta มากไหมให้พระเอกหลุดเดี่ยวออกไปสู้กับศัตรูอีกเป็นร้อยด้วยปืนกลเบากระบอกเดียว เขียนแบบนี้ถ้าบอกว่าพระเอกชื่อโงกุนผมก็เชื่อ” ชานยอลมองดูแคลนเด็กน้อย แบคฮยอนรู้สึกได้ถึงแววตาเหยียด ๆ ที่บ่งบอกว่าพี่เขาแม่งพูดจริงไม่ได้ล้อเล่นด้วย ทำไมพี่พระเอกอำมหิตจังครับ หลุดปากพูดไม่เข้าหูไม่ได้เลย ตอกกลับมาทีกูหอบเสื้อผ้าหนีออกจากบ้านทรายทองแทบไม่ทัน สรัส
“บทพระเอกเท่แล้วมันผิดเหรอ อิจฉาที่บทตัวเองไม่หล่อเท่าก็บอกดิ” แบคฮยอนทำจมูกบาน ก่อนจะเบี่ยงหน้าหลบเมื่ออีกคนบีบจมูกเขา “พี่!!!”
“ไม่เหนื่อยเหรอครับ ไหนจะเรียนมาทั้งวัน ไหนจะช่วยผมซ้อมบท ตอนนี้ยังมาส่งเสียงโวยวายลั่นห้องผมอีก คุณกักเก็บเรี่ยวแรงเอาไว้ตรงไหนกัน ร่างกายอยู่ได้ด้วยพลังงานจากแสงอาทิตย์เหรอครับ?” ดาราหนุ่มไม่ว่าอย่างเดียว เขาจับคนตัวเล็กหมุนตัวไปมาอยู่สองสามรอบ แม้ว่าดวงตาคู่นั้นจะฉายแววสงสัยพร้อมขมวดคิ้วมองทุกครั้งที่หมุนตัวมาครบหนึ่งรอบ
“หยุดกวนตีนซักทีดิ๊!!!”
“กับคนที่อายุมากกว่าสิบปี คุณควรขึ้นเสียงกับผมแบบนี้เหรอครับ” ชานยอลกอดอกมองคาดโทษเด็กน้อยที่เซถอยหลังไปก้าวหนึ่งพลางกุมหัวตัวเอง หลังจากเสียหลักเพราะถูกจับหมุนไปหลายรอบ
“พี่ก็กอดอกเหมือนกันอะ ผิดสัญญา เอามือลงเลย” แบคฮยอนใช้มือข้างที่ว่างอยู่ปัดแขนแกร่งลงเบา ๆ
ชานยอลถลึงตามองคนตรงหน้าที่บังอาจตีแขนเขา ให้ตายเถอะ ท่าทางเมื่อกี้ดูยังไงก็เหมือนคนพร้อมจะใช้กำลังอย่างแน่นอน เด็กคนนี้จะก้าวร้าวเกินไปแล้วนะ เขาไม่ได้ขอให้มาช่วยฟรี ๆ สักหน่อย เงินก็ได้ เผลอ ๆ ดังเป็นพลุแตกเพราะเขาจะช่วยดันอีก ทำไมไม่รู้จักนอบน้อมถ่อมตนบ้าง
“คุณนักเขียน”
“แทบอ้วก เวียนหัวชิบหาย”
“คุณบยอน”
“เออ” เด็กน้อยนั่งยอง ๆ พลางกุมหัวตัวเอง นี่กูเริ่มเข้าใจสัจธรรมคำว่าเมาอย่างถ่องแท้โดยที่ไม่ต้องไปถามแม่แล้วว่าทำไมพ่อถึงเดินโซซัดโซเซเหมือนหมาข้างถนนเวลาแกไปกินเหล้ามา
“หลังจากซ้อมบทนี้เสร็จ ผมจะอัพอินสตาแกรมว่ากำลังอ่านนิยายเล่มนี้อยู่” แบคฮยอนชำเลืองมองอีกคนที่นั่งลงยอง ๆ ข้างเขา พร้อมหนังสือหน้าตาคุ้น ๆ
ร่างสูงแกว่งมันไปมาพร้อมยิ้มมุมปาก แน่นอนว่าจนถึงตอนนี้แบคฮยอนยังแข็งแกร่งและจะไม่ยอมอ่อนข้อให้ง่าย ๆ ด้วย กวนตีนมากวนตีนกลับ พี่เขาคิดว่าเราเป็นพวกเห็นแก่ได้มากเหรอ ไม่รู้จักบยอนแบคฮยอนซะแล้ว
“‘นี่คือนิยายที่ผมอ่านอยู่ตอนนี้ ติดงอมแงมจนไม่ได้หลับได้นอน คุณบยอนยอดเยี่ยมจริง ๆ ไม่อยากเชื่อเลยว่าเด็กม.ปลายจะเขียนได้ดีถึงขนาดนี้ (:’”
“...”
“พอผมอัพอินสตาแกรม วันพรุ่งนี้ก็รอดูยอดขายได้เลย ถ้าไม่ถึงหนึ่งหมื่นเล่มผมพร้อมจ่ายให้คุณห้าแสนวอน”
“...”
แบคฮยอนเม้มปาก ความแข็งแกร่งที่สร้างมาได้พังทลายลงทันทีที่ได้ยินข้อเสนอของพี่เขา ซึ่งมาพร้อมอนาคตอันกว้างไกลไปสู่ทางช้างเผือก หวั่นใจเหลือเกิน นั่นเส้นทางสู่เงินทองเลยนะ ถ้าทำเป็นซึนต่อไปนี่อดแดกแน่
“บทนี้มันยากเกินไปสำหรับผมอะ ผมเป็นผู้ชายนะเว้ย”
“คุณไม่ใช่ชายแท้ ผมรู้สึกได้”
“พี่จะเอาความรู้สึกมาตัดสินความเป็นจริงได้ยังไงกัน!!!” แบคฮยอนตวาดกลบเกลื่อนความตกใจ หลังจากถูกจับได้ว่าเป็นเก้งกวางอาราเล่
พูดก็พูดเถอะ นี่ไม่เคยบอกใครเลยนะว่าชอบผู้ชายด้วยกัน มีแค่ไอ้คยองซูเพื่อนรักคนเดียวที่รู้เรื่องนี้ และมันก็ไม่น่าจะขายเพื่อนให้ไอดอลในดวงใจฟังขนาดนั้น...
ปะ...วะ...
“พี่ถามเพื่อนผมมาเหรอ”
“เปล่า ก็บอกแล้วว่าผมรู้สึกได้”
“...”
“เซนส์ผมถูกต้องสินะครับ?” ร่างสูงยิ้มพอใจ ดูเหมือนว่าตอนนี้เขาจะทำแต้มล่วงหน้าเด็กอวดดีได้แล้วหนึ่ง
ชานยอลเอาสันนิยายเคาะหัวเด็กน้อยที่กำลังปั้นหน้าไม่พอใจ ก่อนจะดึงแขนเล็กให้ลุกขึ้นยืน แบคฮยอนรีบชักมือกลับ แล้วถอยหลังไปสร้างระยะห่างจากคนตรงหน้า
“ไม่รู้ตัวเลยเหรอครับว่าชอบทำตาเยิ้มเวลามองผม”
“โหพี่ ผมก็แค่ดูว่าพี่ศัลยกรรมมาเปล่าเหอะ ไม่ได้พิศวาสอะไรเลย” ยอมรับก็ได้ว่ามอง แต่มองเพราะหล่อ ถ้าถามว่าให้ทำแฟนงี้เอาไหม ก็คงตอบว่าไม่เหมือนกันแหละวะ ปวดประสาทตายห่าแน่ ๆ
“เรามาจริงจังกันเถอะครับ” ชานยอลกระดิกนิ้วเรียกเด็กน้อยที่มองเขาอย่างหวาด ๆ ยิ่งเห็นว่านักเขียนฝึกหัดอวดดีกำลังเป็นฝ่ายด้อยกว่าเขาก็ยิ่งมีความสุข
“ถ้าทำผ่านแล้วต้องอัพรูปลงไอจีจริง ๆ นะ?” อยากจะหัวเราะออกมาให้ดังก้องโลก สุดท้ายแล้วเด็กคนนี้ก็ปากดีได้ไม่สุดทาง ปาร์คชานยอลแค่นยิ้มแล้วพยักหน้าตกลง
แบคฮยอนเบะปากอย่างฝืนใจ บอกเลยว่านอกจากพี่จื่อเทาที่แอบปลื้มมาเกือบปีแล้ว เขาก็ไม่เคยแตะต้องตัวผู้ชายหล่อที่ไหนอีก เด็กน้อยวางมือลงบนแผงอกแกร่งครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ แต่ที่รู้คือมันแน่นและทำให้หัวใจเต้นตุบตับทุกทีเลยซาร่า พี่พระเอกหุ่นโคตรดี
“ถามอะไรหน่อยดิ”
“ครับ”
“พี่เล่นกีฬาอะไรบ้างอะ”
“ผมเข้าฟิตเนสอย่างเดียว อาทิตย์ละสี่วัน” ดาราหนุ่มไม่พูดอย่างเดียว มือที่ว่างอยู่ก็ตวัดกอดรอบเอวเด็กน้อยที่สะดุ้งจนสุดตัวเพราะถูกสัมผัส ชานยอลไม่ปล่อยให้แบคฮยอนได้ตั้งหลัก เขายกยิ้มมุมปากพร้อมโน้มใบหน้าลงมาใกล้
เด็กน้อยรู้สึกเหมือนกำลังเข้าใกล้ดวงอาทิตย์เข้าไปทุกที เมื่อเขาร้อนหน้าไปหมดเพราะคนตัวสูง ร่างกายพ่ายแพ้คนหล่อ ถึงแม้ว่าจะเอาความกะโหลกกะลาของพี่พระเอกมาหักลบแล้ว แต่ก็เปล่าประโยชน์อยู่ดี
เหมือนอย่างที่แม่พูดไว้ไม่มีผิด...ว่าคนหล่อคือผู้ชนะสิบทิศ
“ฮานา...”
“ข...ข่ะ”
“รู้ไหม...ว่าผมชอบคุณตอนไหนมากที่สุด?”
แบคฮยอนรู้สึกเหมือนจะตาย เมื่อมือแกร่งค่อย ๆ ลูบมือจากเอวเขาลงมาเรื่อย ๆ จนมันจะโดนก้นของเขาอยู่แล้ว อยากจะตัดบทตอนนี้แล้วถามพี่เขาเหลือเกินว่าทำไมทำตัวเป็นคนบาป ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าบยอนแบคฮยอนเป็นไส้เดือน แล้วยังมีหน้ามาอ่อยอีก จะอ้างว่าเพราะบทละครก็ไม่ใช่ กูไม่เชื่อ หนังทหารห่าไร นี่มันอีโรติกชัด ๆ
กูจะระเบิดอยู่แล้ว...
“ต...ตอนไหนเหรอคะ” เสียงกูนี่ยิ่งกว่าหมาเยี่ยวใส่สังกะสีเวลาดัดให้มันเล็ก รู้เลยรู้ว่าพี่เขาต้องกลั้นขำอยู่ แต่ด้วยดีกรีพระเอกพันล้าน คงไม่หลุดออกมาง่าย ๆ
“ผมชอบ...”
“...”
“ตอนที่คุณกำลังถูกเปลื้องผ้าทีละชิ้นด้วยมือของผมยังไงล่ะครับ”
ติ๊ดดดดด....
บยอนแบคฮยอนรู้สึกเหมือนเห็นภาพตัวเองหยุดหายใจอยู่ในห้อง ICU หลังจากทีมแพทย์พยายาม CPR ช่วยชีวิตเอาไว้แต่ก็ไม่เป็นผล กับการที่คนตัวสูงโน้มใบหน้าลงมากระซิบข้างหู แถมยังพ่นลมหายใจอุ่น ๆ รดลงมาอีก ฆาตกรเลือดเย็นที่สุด จิตใจพี่เขาทำด้วยอะไร
“คนบ้า... ฉันไม่เปลื้อง...หรอกนะคะ”
โอย กูอยากตบหน้าตัวเองแรง ๆ กับน้ำเสียงที่พ่นออกมา พร้อมท่าทางตอนเขินอายจนต้องหันหลังให้พี่พระเอกโอบกอดจากข้างหลัง ถ้าจะเกี้ยวพาราสีกันขนาดนี้ เราควรได้เสียเป็นเมียผัวกันจริง ๆ เลยไหม ซั้ซ พระนางเขาทนเล่นกันโดยไม่อายได้ไงวะ
“ผมว่าผมหนักแล้ว แต่คุณท่าจะหนักกว่า” ชานยอลถอยหลังออกมาสองก้าว พลางมองเด็กน้อยที่กำลังเอาบทละครพัดหน้ารัว ๆ ราวกับว่าอุณหภูมิในห้องนี้ร้อนจนแทบตับแตก “เล่นบทธรรมดาก็ไม่ได้ บทเลิฟซีนยิ่งแล้วใหญ่ ตอนมองคุณ ผมรู้สึกเหมือนกำลังจะร่วมรักกับสาวประเภทสอง”
“ตุ๊ดก็บอกว่าตุ๊ดเหอะ ถ้าจะพูดขนาดนั้น” แบคฮยอนทำหน้าเนือย
“ผมจะไม่ว่าร้ายคุณด้วยคำนั้น มันรุนแรงเกินไปสำหรับเด็กอายุสิบเจ็ดที่ไม่ใช่ชายแท้ แถมยังติดลบเรื่องการแสดงขั้นสูงสุด”
“ผมก็ไม่ได้อยากเป็นนักแสดงปะวะ ผมเป็นนักเรียน แล้วก็เป็นนักเขียนเว้ย” แบคฮยอนเถียงคอเป็นเอ็น ถ้าเอาดีด้านดาราป่านนี้ได้แจ้งเกิดนานละ ไม่อยากจะคุย
“เคยมีแฟนหรือเปล่าครับคุณนักเขียน?”
“เคย” เด็กน้อยมองตาขวาง มันเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่ต้องปรับอารมณ์ หลังจากเขินจะตายห่าเพราะเสียงกระซิบข้างหู แต่ถูกตบหน้าด้วยสายตาคู่นั้น
“จูบล่ะ”
“ไม่เคย ทำไม มีใครตายไหม” ทันทีที่ได้ยินคำตอบ ชานยอลก็หลุดขำออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ให้ตายสิ นี่เขาเผลอพูดแทงใจดำเด็กคนนี้เข้าให้แล้วสินะ
“เด็กจังครับ”
“ผมปักตะไคร้ได้แล้วกัน!” แบคฮยอนย่นจมูก แต่คนตัวสูงกลับไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระ ผู้ชายคนนั้นดูสะใจมากกว่าจะเหลือเชื่อว่าเขายังซิงอยู่จนสามารถปักตะไคร้หยุดฝนบนท้องฟ้าได้
แม่งเง้ย กลับบ้านดีกว่า ไม่คงไม่ค้างละหงุดหงิด เก่งมากก็ซ้อมเองคนเดียวไปเลยไป๊!
แต่ยังไม่ทันก้าวไปไหนไกลฝีเท้าก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อมือแกร่งทาบลงกับกระจกกั้นไว้จนเขาไม่สามารถแทรกตัวไปไหนได้ ใบหน้าคมที่เคยมองไปทางอื่น กำลังค่อย ๆ หันมายังเขา ด้วยสายตาที่ต่างออกไป แต่ก็คงไม่ใช่ในแง่ที่ดีขึ้นแน่ ๆ
“ถ้าคิดจะกลับโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต... ผมคิดว่าหลังจากนี้คุณอาจจะปักตะไคร้ไม่ได้อีกตลอดชีวิต...”
“...”
“ในนิตยสารฉบับหนึ่งเคยจัดโพล ‘พระเอกหน้าหล่อที่เล่นบทตบจูบแบบพิศาลได้ฟินโลกลืมที่สุด?’ และผมฟาดที่หนึ่งมาได้ด้วยคะแนน 67.44%”
แบคฮยอนตาเหลือก บางทีกูก็น่าจะกลัวกับสายตาเจ้าเล่ห์ปนชั่วร้ายของพี่พระเอก มากกว่าการจะมาเขินเพราะคำพูดแปลก ๆ ที่มาพร้อมใบหน้าสุดหล่อของพี่เขา หรือที่จริงแล้วกูจะเป็นพวกมาโซคิส ถ้าพี่พระเอกจะเป็นพวกซาดิสม์ ตายห่าละมึงมวยถูกคู่
“ก็จะไปฉี่ได้ไหมล่ะ...เอ้อ...”
ทั้งคู่ยังคงสบตากันอย่างหยั่งเชิง ซึ่งบอกเลยว่าบยอนแบคฮยอนจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด ถ้าพี่พระเอกเอาความหล่อมาสู้ กูก็จะเอาความกระโปกเข้าช่วย งานนี้ต้องมีคนตาย
“ให้ไปเป็นเพื่อนไหมครับ?”
“ไม่ต้อง โตแล้ว มีแรงเดิน” ร่างเล็กมุดหัวออกมา แล้วหันกลับไปมองอีกคนเป็นระยะ โคตรน่าหงุดหงิดเลยที่พี่พระเอกแม่งเอาแต่ยิ้มอยู่ได้
“ถ้าไม่มีก็บอก ผมจะได้อุ้มคุณไป ...จองฮานา”
นั่น จะกวนตีนก็ยังจะละครใส่อีก นี่อยากโทรไปคุยกับคนเขียนบทขอให้เปลี่ยนตอนจบพระเอกตายแล้วนางเอกหาผัวใหม่เหลือเกิน แต่ลืมว่าตัวเองกระจอก ยังไม่ดังขนาดที่จะไปเจรจาเรื่องนี้กับใครที่ไหนได้ เพราะงั้นเลยต้องด่าในใจไม่ให้พี่เขารู้
ดึกแล้ว หลังจากผลัดกันอาบน้ำ แบคฮยอนก็ง่วงเพราะอยู่ต่างที่ แถมแอร์ยังเย็นจับใจอีก เด็กน้อยกึ่งนั่งกึ่งนอนบนโซฟา จนกระทั่งพี่พระเอกเดินมานั่งข้าง ๆ พร้อมเหยียดขาออกท่าเดียวกัน
“ง่วงแล้วเหรอครับ”
“อือ เมื่อคืนผมนอนน้อย” แบคฮยอนปรือตามองคนข้าง ๆ ที่กำลังชำเลืองมองเขาอยู่
“เล่นเกมหรือเขียนนิยายล่ะ”
“ไม่ได้ทำอะไรเลย เพราะเรื่องพี่ทำให้ผมคิดมากจนเอาเวลาไปทำอย่างอื่นไม่ได้” เด็กน้อยซบหน้าลงกับหมอนพร้อมชี้นิ้วไปยังอีกฝ่าย ก่อนจะปล่อยให้แขนร่วงตามแรงโน้มถ่วงของโลก หลังจากถูกพี่พระเอกปัดออกอย่างรังเกียจ
ถ้าหลับไปเลยจะเป็นไรไหม ง่วงจะตายละ กว่าจะซ้อมผ่านฉากนางเอกแรดเงียบได้นี่เกือบเอาตาย ทำไมเหรอครับ นางเอกจะแรดก็แรดไปเลยสิ อยากได้พระเอกแต่ก็ลีลาหันซ้ายหนีทีขวาที สุดท้ายก็โดนเขาดูดปากอยู่ดี แถมตวัดแขนกอดรอบคอด้วย นี่ถ้ากระโดดเอาขาเกี่ยวเอวจะโกรธคนเขียนบท
พี่พระเอกก็เหมือนกัน พี่เขาจริงจังมากชนิดว่าถ้าบยอนแบคอยอนได้มีโอกาสไปออดิชั่นเป็นนักแสดงก็คงผ่านได้ไม่ยาก เพราะพี่เขาเข้มงวดเหลือเกิน สรุปใครต้องช่วยใครวะงง
“เพราะอะไรคุณถึงนอนน้อยล่ะครับ?” ร่างสูงจิบชาร้อน แล้วกดเปิดทีวีไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะเห็นว่าคนตัวเล็กส่ายหน้าปฏิเสธเป็นคำตอบ “จะไม่บอกเหรอ”
“ไม่เอาอะ ขี้เกียจพูด วันนี้ผมเหนื่อยทำสงครามกับพี่แล้ว”
“มีคนเคยบอกผมว่าการคุยกันบ่อย ๆ จะทำให้คนสองคนรู้จักกันมากขึ้น หรือที่ใคร ๆ เรียกว่าสนิท”
“พูดให้งงอีกละ แค่บอกว่าคุยกันแล้วเดี๋ยวก็สนิทกันก็จบ”
พี่พระเอกเงียบไป แบคฮยอนไม่รู้ว่าตอนนี้ผู้ชายคนนั้นกำลังทำหน้าแบบไหน อาจจะแค่นยิ้มหรือคิดหาคำพูดมาด่าเขา แต่จะอะไรก็ช่างเถอะ ตอนนี้ง่วงจะแย่
“คุณศึกษาเรื่องทหารจากไหน”
“ผมดูหนังเยอะ แล้วก็เล่นเกม”
“เหรอ ยกตัวอย่างมาสักเรื่องสิ ผมจะเปิดดูสักหน่อย นี่ยังไม่ถึงเดทไลน์เวลานอนของผม” พอได้ยินอย่างนั้นเด็กน้อยก็ลืมตาขึ้น ก่อนจะลุกขึ้นนั่งสบตากับคนตัวสูงที่ยังดูดีได้แม้ไร้เมคอัพ
งงว่ะ พี่เขาดูทีเล่นทีจริง บางครั้งก็ดูเหมือนแค่อยากแกล้ง แต่บางครั้งก็ดูสนใจกับบททหารสุด ๆ
“Saving Private Ryan”
“เรื่องนี้ผมเคยดูตั้งแต่สมัยเรียนมัธยม คุณเกิดทันด้วยเหรอ?”
“เกิดทัน แต่โตไม่ทันดูช่วงนั้น หนังเรื่องนี้ดีมากนะเว้ย โคตรสุดยอดในดวงใจ ผมให้เป็นที่หนึ่งเลยอะ” แบคฮยอนว่าแล้วชูนิ้วโป้งประกอบ ชานยอลนิ่งไปครู่หนึ่งระหว่างใช้ความคิด ก่อนจะพยักหน้า
“แล้วเรื่องที่สองล่ะ”
“Black Hawk Down”
“เรื่องนี้ยังไม่เคยดู งั้นดูเรื่องที่หนึ่งในดวงใจคุณนักเขียนก่อนแล้วกัน หวังว่าผมจะได้อะไรจากหนังเรื่องนี้บ้าง” ร่างสูงยิ้มแล้วกดค้นหาหนัง เพียงแค่ครู่เดียวก็เจอ แบคฮยอนมองเสี้ยวหน้าของพี่พระเอกที่กำลังยกชาร้อนขึ้นจิบ แววตาคู่นั้นดูจริงจัง ต่างจากผู้ชายขี้แกล้งเมื่อไม่กี่ชั่วโมงก่อน
“นี่พี่”
“ครับ?”
“ถ้าไม่มีผม พี่จะไปหาใครมาทำหน้าที่นี้อะ” ไม่รู้หรอกว่าพี่เขาจะตอบกวนตีนมาหรือเปล่า แต่เขาอยากรู้เหตุผลจริง ๆ ว่าเพราะอะไร ทำไมถึงต้องเป็นเด็กที่ไม่รู้งานอย่างเขา ซึ่งพี่พระเอกก็หันมามองด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เพราะคุณอยู่ตรงนี้แล้ว ผมเลยไม่ได้คิดถึงเรื่องนั้นอีก”
“...”
ไอ้ชิบหาย คนที่ไหนเขาพูดประโยคธรรมดา ๆ ให้น่าเขินได้แบบนี้
แบคฮยอนรู้สึกเหมือนถูกบอสในเกมออนไลน์ตบหน้าด้วยท่าสุดยอด เด็กน้อยหลับตาลงเมื่อมือใหญ่ของคนใจร้ายวางบนศีรษะเขาแล้วยีเบา ๆ
“นอนเถอะ เดี๋ยวผมจะนั่งดูไปเรื่อย ๆ”
เด็กน้อยกุมหัวตัวเองอย่างงง ๆ เกิดอะไรขึ้นทำไมอยู่ ๆ พี่พระเอกถึงใจดีขึ้นมาอย่างน่าประหลาด ไหนจะสีหน้าจริงจังระหว่างดูหนัง ที่เจ้าตัวหวังจะได้ความรู้ไปเติมบททหารให้ตัวเองอีก แบคฮยอนรู้สึกได้ถึงความตั้งใจของคนข้าง ๆ จนแทบลืมผู้ชายบ้าบอไปแล้ว
ถึงจะสับสนและหมั่นไส้อยู่เกินเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ก็อดคิดไม่ได้เลยว่าถ้าพี่เขาไม่ซ้อมกับนักเขียนฝึกหัดง่อย ๆ อย่างเขาแล้วจะไปจ้างใคร กับคนที่พร้อมจะไม่เอาความลับของพี่พระเอกไปขายต่อ
แล้วอะไรที่ทำให้ผู้ชายคนนี้ไว้ใจเด็กอย่างเขาขนาดนั้น ถ้าบอกว่าเป็นเรื่องติดสินบนที่จะให้ยอดขายนิยายของแบคฮยอนดีขึ้น หรือน้ำที่พี่ชานยอลพร้อมจะปั้นเป็นตัวเพื่อเอาผิดเขาได้ง่าย ๆ
มันใช่เหรอวะ?
หนังเล่นไปเกือบสิบนาทีแล้ว แบคฮยอนได้แต่มองทีวีจอใหญ่ แล้วถามตัวเองว่าจะเอายังไง นอนเลยดีไหม พี่พระเอกเขาไม่ได้สนใจหรอกว่าบางทีอาจจะมีเสียงกรนขึ้นมาดังรบกวน แต่สิ่งที่เด็กน้อยกำลังคิดคือ ถ้าพี่ชานยอลนั่งดูคนเดียวแล้วจะได้อะไรไปบ้าง อย่างน้อยถ้านั่งดูด้วยกัน เขาก็น่าจะช่วยแนะนำได้ว่าการเป็นผู้นำควรอยู่ในอารมณ์ไหน สีหน้าตอนลูกน้องตาย หรือเรื่องปืนในยุคนั้นที่บางคนอาจจะไม่รู้จัก
เอาวะ ถึงจะง่วงมาก แต่การนั่งดูหนังแนวที่ชอบกับคนที่หมั่นไส้ก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร
“งั้นเดี๋ยวนั่งดูเป็นน้อง”
“หืม?”
“ก็ห่างกันตั้งสิบปี เป็นเพื่อนไม่ได้ไม่ใช่ไง ก็นั่งดูหนังเป็นน้อง พูดผิดตรงไหน” เด็กน้อยยังคงรักษาฟอร์มเอาไว้ ก่อนที่ดาราหนุ่มจะแค่นยิ้มออกมา
“ถ้าทำตัวน่าเอ็นดูแบบนี้แต่แรกก็จบแล้ว”
“เงียบน่า ถึงฉากไคลแม็กซ์แล้วเห็นไหม” แบคฮยอนนอนซบกับหมอนอีกครั้ง เขาจะไม่ยอมหันไปมองหน้าหล่อ ๆ ของพี่พระเอกอีกเด็ดขาด
“นอนท่านั้นไม่ปวดคอเหรอครับ?”
“ปวด แล้วจะให้ทำไงอะ พี่ซื้อโซฟาตัวใหม่ดิ”
“เพ้อเจ้อ ผมไม่ใช่พระเอกนิยายที่จะลงทุนสปอยล์ผู้ช่วยที่เป็นเพศเดียวกันขนาดนั้น” แบคฮยอนดีดตัวลุกขึ้นนั่งแล้วมองอีกคนตาขวาง
“ถ้าเป็นผู้หญิงก็จะโอเคว่างั้น?”
“เปล่าครับ ผมไม่ค่อยสนิทใจกับผู้หญิงสักเท่าไหร่” ชานยอลทำมือปัด ๆ เป็นท่าประกอบ
“สนิทใจกับผู้ชายมากกว่าเหรอ เป็นเสือไบสินะ” แบคฮยอนหรี่ตายิ้มพร้อมชี้หน้าอีกฝ่าย แต่ก็ถูกปัดมือออกอย่างรำคาญ
“ผมไม่ชอบให้ใครมาชี้หน้า และผมก็ไม่ใช่เสือไบ แต่ถ้าผมจะร่วมรักกับผู้ชายสักคน ก็ต้องดูก่อนว่าคน ๆ นั้นมีเสน่ห์ทำลายล้างได้มากแค่ไหน”
“แหม่...พูดอย่างกับตัวเองช่ำชอง ผมเคยได้ยินมานะ ว่าพวกที่ชอบคุยอวดเรื่องเซ็กส์เนี่ย ส่วนมากจะยังซิงอยู่ 55555” แบคฮยอนหัวเราะสะใจ ก่อนจะเซไปข้างหลังเพราะถูกมือแกร่งดันหน้าเอาไว้
“ตอนผมมีเซ็กส์ครั้งแรกคุณยังนั่งเขี่ยไพ่ยูกิเล่นกับเพื่อนอนุบาลอยู่เลยมั้งครับ คุณนักเขียน”
นั่นแน่ะ... ยังจะคุยข่มอยู่
“แล้วถามทำไมว่าปวดคอเปล่า โด่ นึกว่าจะใจดี เอาหมอนเพิ่มไหม? ผมขยับไปนั่งตรงนั้นให้ไหมคุณจะได้นอนสบาย ๆ ไรงี้ไม่มี๊”
“มันเป็นเรื่องปกติของคนเป็นนักเขียนสินะครับ ที่จะจินตนาการออกมาเองได้โดยไร้ความจริงอ้างอิง” สัส พี่พระเอก มึง
“แล้วถามเพื่อ”
“การถามก็เป็นการชวนคุย เราจะได้สนิทกันเร็วขึ้น”
“อยากสนิทด้วยว่างั้น” เด็กน้อยยิ้มกริ่มพร้อมเลิกคิ้วมอง ชานยอลไม่ได้ตอบคำถามในทันที เขาเพียงแค่หันไปมองทีวีจอใหญ่แล้วเอนหลังพิงพนักโซฟา ซึ่งมันเป็นการหักหน้าบยอนแบคฮยอนอย่างรุนแรง!
“คุณ?”
“คนสนิทกันเขาก็ทำแบบนี้แหละ” แบคฮยอนหันไปดูหนังที่ยังคงเดินหน้าไปเรื่อย ๆ แม้ว่าคนสองคนจะยังคงไฝว้กันอย่างไม่มีใครยอมใคร เด็กน้อยขยับตัวให้เข้าที่ หลังจากเอาขาพาดลงบนตักอีกคน และแน่นอนว่ามันสร้างความไม่พอใจให้กับคนตัวสูง
มันก็นานมากแล้วที่ปาร์คชานยอลไม่ถูกกระตุกหนวดเสือ ซึ่งครั้งแรกก็ตอนอยู่ม.ปลาย และครั้งนี้บยอนแบคฮยอนได้ทำมันสำเร็จแล้ว
“วันนี้ผมจะปล่อยคุณไปก่อน”
“วันหลังพี่ก็ต้องปล่อย -.-” แบคฮยอนยิ้มอย่างมีชัย แถมยังขยับตัวก่าย ๆ ขาลงบนหน้าตักดาราหนุ่มอีก ถ้ารู้ว่ากวนตีนแล้วจะชนะความหล่อแบบนี้นะ จ้างก็ไม่ได้เขินหรอก
“ครับ ผมจะปล่อย...”
ดาราหนุ่มยิ้มมุมปากโดยที่สายตายังไม่ละออกห่างจากภาพในจอแก้ว ที่กำลังฉายฉากทหารยิงปืนใหญ่ใส่ป้อมปราการนับครั้งไม่ถ้วนจนมันแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ
ชายหนุ่มปล่อยให้หนังเล่นไปเรื่อย ๆ จนกระทั่งหนูน้อยหมวกแดงติดกับ เขาเห็นว่านักเขียนฝึกหัดกำลังสนใจกับหนังบนจอแก้ว...โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่ามือของหมาป่ากำลังลูบไปตามต้นขาผ่านกางเกงนอนขายาวตัวบางอยู่
คุณนักเขียนครับ...
เดี๋ยวคุณจะได้รู้... ว่ากำลังเล่นกับใครอยู่
TBC
พี่พระเอก มึงไม่ได้เป็นเสือไบจริงหรา แถสรัสสสสสสส 555555555555555555555555
ความคิดเห็น