คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 02 :: His Idol
Chapter 2
His Idol
“เฮ้อ นึกถึงตอนนั้นมันยังบอกว่า ‘เค้าอยากอยู่กับแบคฮยอน’ อยู่เลย” พ่นลมหายใจออกทางปากเบา ๆ ทั้งที่มือยังคงถือโฟโต้บุ้คซึ่งยังไม่ได้ใส่เข้าไปในซอง นัยน์ตาเหม่อลอยไปข้างหน้า ถึงตอนนั้นเด็กอ้วนมิสเตอร์ชาร์ลจะอยู่กับเขาแค่สองวันก็เถอะ แต่ถ้าให้เทียบกับไอ้หลานหอกหักคนปัจจุบันแล้วล่ะก็ กูรักมึงตอนเป็นไอ้ตุ้ยนุ้ยมากกว่าครับ
“เป็นห่วงก็โทรหามันดิวะ” เซฮุนว่าแล้วส่ายหน้าน้อย ๆ
“ฝันนนนนนนนนนนนนนนนน” เรื่องอะไรกูจะทำแบบนั้นครับ เมื่อไหร่ที่บยอนแบคฮยอนคนนี้กดปุ่มโทรออกหาไอ้หลานเทพเจ้าเมื่อไหร่ก็เท่ากับว่าเขาแพ้น่ะสิ
“งั้นก็อกแตกตายไปเหอะมึง” เซฮุนจิ๊ปาก “ป่านนี้มันจะกินข้าวยังวะ ปกติมีขี้ข้าคอยทำให้ตลอด ออกไปแบบนั้นมีเงินติดตัวเปล่าก็ไม่รู้” พูดลอย ๆ แกล้งให้คนเป็นน้าปั่นป่วนเล่น สายตาก็เหล่มองเพื่อนตัวเตี้ยที่ก้มหน้าก้มตาดึงสก๊อตเทปจนสุดความยาวแล้วแปะติดซอง
“หลานกูไม่โง่หรอก ถึงจะลืมว่ากูเป็นน้าได้แต่คนอย่างมันไม่มีทางลืมแดกข้าวแน่นอนกูมั่นใจ” แบคฮยอนแค่นหัวเราะ ปากท้องมาก่อนที่หนึ่ง พอถึงเวลาแดกนี่รีบคลานออกมาเอาไปกินในห้องเชียวล่ะคุณ บางทียังไม่ทันเรียกก็เสนอหน้าออกมาละ ไม่รู้จมูกมันดีหรือว่าจับเวลาจนชินแล้วกันแน่ จงอินได้ยินอย่างนั้นก็นั่งกลั้นขำอยู่หน้าคอมขณะตอบอีเมลล์สั่งจองซื้อโฟโต้บุ้คของเวปเพจที่มันเป็นแอดมินอยู่
“มึงจำตัวเองตอนอายุเท่ามันได้เปล่า?”
“...”
“ตอนอายุสิบเจ็ดพวกเราสามคนทำอะไรกันบ้างวะ?”
ถ้าบยอนแบคฮยอนอายุสิบเจ็ดนั่นก็หมายความว่าปาร์คชานยอลก็ต้องอายุสิบขวบ แน่นอนว่าตอนอายุสิบเจ็ดเทอมสองคงไม่มีอะไรอัปปรีย์ไปกว่ากีฬาสีง่าว ๆ ที่ทางโรงเรียนสร้างขึ้นเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนซึ่งดูแล้วไม่เห็นจะได้ห่าอะไรเลยมากไปกว่าการเห็นพวกรุ่นพี่บ้าเหรียญรางวัลกับพวกที่ชอบตะโกนว๊ากน้องบนสแตนด์ประหนึ่งซ้อมไว้เตรียมเข้ามหาลัย ไหนครับมิตร กูเห็นแต่ศัตรู
ตอนม.ต้นปีสามเผลอเหยียบพู่อีอ้วนขาโหดข้าง ๆ ว่าโดนเขม่นหน้าละ ดีแค่ไหนแล้วที่มันเมตตากรุณาไม่เฮดบัดใส่ แต่บยอนแบคฮยอนได้ผ่านพ้นวิกฤติช่วงนั้นมาได้แล้ว ณ จุดนี้คือขั้นสูงสุดของการเป็นรุ่นพี่ในฤดูกาลกีฬาสี (ใช้คำซะหรู) เพราะพวกม.ปลายปีสามไม่ต้องทำห่าอะไรนอกจากจมปุกอยู่กับหนังสือเพื่อเตรียมเข้ามหาลัย แต่อย่างเขานี่สิ...ต้องมาคุมน้อง ๆ โบกพู่ปรบมือเป็นสเต็ปวิกตอรี่วีวิวร็อคยู ซึ่งเขาก็เคยบ่นเมื่อตอนม.ต้นว่าพวกรุ่นพี่แม่งใจบาปบังคับให้น้องมาทำเรื่องก๊อง ๆ แบบนี้ทำไม พวกมึงเป็นพวกโซตัสเหรอ...พอได้ขึ้นมาอยู่จุดเดียวกับรุ่นพี่ในตอนนี้ ถึงได้รู้ว่าเวรกรรมมันมีจริง
เมื่อไหร่ที่มีกีฬาสี เมื่อนั้นหน้าตาของบยอนแบคฮยอนจะโคฟเวอร์เป็นซอมบี้ทันทีโดยที่ไม่ต้องพึ่งเมคอัพ แต่ที่ทำให้รู้สึกเหนื่อยคูณสองคืออะไรรู้ไหมครับ...คืออีเด็กอ้วนปาร์คชานยอลที่นั่งสลอนอยู่บนเตียงเขานี่ไง!!!
“แบคฮยอนหวัดดี”
ดีที่หน้ามึง ดูสภาพกูมั่งว่าตอนนี้อยากจะเซย์เฮลโหลกับใครไหม
“ขึ้นไปบนเตียงคนอื่นนี่ล้างเท้ายัง” แบคฮยอนถามเสียงเอื่อยก่อนจะโยนกระเป๋าเป้ไปบนโต๊ะแล้วทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ สายตามองไปยังหลานรักที่ช่วงนี้มาหาบ่อยขึ้นนับตั้งแต่เดือนที่แล้วนี่ก็ครั้งที่ห้า (ถ้านับรวมกับตอนมันเจ็ดขวบก็ครั้งที่หก)
“ทำไมต้องล้างล่ะ” เอ้าไอ้นี่ มึงคิดว่าตีนอยู่ปลายยอดผมเหรอถึงจะได้โดนน้ำวันเว้นวันน่ะ
“ไปล้าง อย่าสกปรก” ทำมือปัด ๆ ไล่มันไปล้างตีนและไม่ลืมที่จะชี้พิกัดอย่างชัดเจนให้ถึงแม้ว่ามันจะรู้อยู่แก่ใจก็ตามว่าห้องน้ำอยู่ทางไหน ไอ้เด็กอ้วนย่นจมูกแล้วเดินไปล้างเท้าโดยที่ไม่ปริปากเถียงอะไรอีกซึ่งก็ขอบคุณมาก เพราะตอนนี้แบคฮยอนไม่มีเรี่ยวแรงจะทำอะไรแล้วนอกจากนั่งหายใจ
ไม่นานนักหลานสุดที่รักก็เดินออกมาแต่ก็ต้องหยุดยืนกับที่เมื่อเห็นน้าชายตัวผอมยกมือห้ามก่อนจะค่อย ๆ ลดมือลงชี้มาที่เท้าเปียกน้ำของเขาแล้วเลื่อนนิ้วไปที่พรมเช็ดเท้าข้างหลัง
“อย่าโสโครก” เป็นอีกครั้งที่ชานยอลไม่เข้าใจน้าตัวเอง หลายทีแล้วที่เด็กสิบขวบอย่างเขาได้แต่คิดว่าทำไมแบคฮยอนถึงแปลกประหลาดไปกว่าคนอื่น ยิ่งถ้าเอาไปเปรียบเทียบกับแม่เขานะยิ่งแล้วใหญ่ ใช่แล้วล่ะ...แม่ของชานยอลไม่เรื่องมากแบบนี้หรอก
“พรุ่งนี้น้ามีซ้อมนะ อยู่บ้านเฉย ๆ ทำความดีบ้าง ช่วยยายทำความสะอาดบ้าน ถูบ้านเวลามาคราวหน้าเขาจะได้เอ็นดูแก เข้าใจเปล่า” แบคฮยอนสั่งสอนหลานรักที่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาแล้วพยักหน้ารัว ๆ “แล้วนี่ล้างจานเป็นยัง”
“เป็นแล้ว เคยล้างตั้งครั้งนึง”
“อ้าว ทำไมแค่ครั้งเดียวล่ะ” แบคฮยอนขมวดคิ้วมองเด็กอ้วนตรงหน้า
“ล้างวันแรกจานแตกเป็นสิบใบ โดนแม่ด่าเละเลย”
“โอเค งั้นอย่าสะดีดสะดิ้งไปล้างจานช่วยยายนะโอเคไหม?” ถ้าทำจานคุณนายแม่แตกเมื่อไหร่มึงเตรียมขนออกจากบ้านทรายทองทันที ชี้นิ้วไปตรงปลายจมูกอีกคนพร้อมกับจ้องด้วยแววตาจริงจัง ชานยอลลดระดับสายตาลงก่อนจะมองหน้าน้าชาย
“โอเค จะเชื่อแบคฮยอน”
“เมื่อไหร่จะเรียกว่าน้าสักที เป็นเด็กเป็นเล็กอย่าปีนเกลียวดิ” เพ่งมองหน้าหลานที่กำลังยู่หน้า
“ก็มันติดแล้วนี่นา แบคฮยอนอย่าคิดมาก” อ้าวไอ้เด็กเวร ลองให้กรูไปเรียกชื่อพ่อมึงห้วน ๆ บ้างไหมล่ะหื้ม
แต่จะพูดไปก็ไลฟ์บอย เอาจริง ๆ บยอนแบคฮยอนไม่ควรยกเหตุผลทั้งโลกมาตั้งไว้ตรงหน้าเด็กอย่างปาร์คชานยอล ตั้งแต่มันอายุเจ็ดขวบละไอ้เด็กนี่มันอยู่เหนือธรรมชาติเสมอ อยู่เหนือทุกอย่างบนโลกใบนี้แม้กระทั่งเขาเอง
ชานยอลเริ่มใช้เวลาในวันหยุดสุดสัปดาห์อยู่ที่นี่ซึ่งไม่ปรึกษาความพร้อมอย่างน้าชายอย่างกูเลยสักคำ เด็กน้อยที่หน้าตาไม่ต่างไปจากเดิมแต่ตัวโตขึ้นมาหน่อยนึงกำลังค้นกระเป๋าแล้วเอาหนังสือการ์ตูนมาอ่าน เออดี...พอเปลี่ยนเจเนเรชั่นแล้วไอ้เด็กนี่ก็อัพเกรดตัวเองมาอ่านการ์ตูนแทนที่จะไปนั่งหัวเราะงั่ก ๆ อยู่หน้าทีวี
“อ่านเรื่องอะไรอ่ะ”
“โคนัน”
“อ๋อ ไอ้เด็กเตี้ยที่ไปไหนชาวบ้านก็ตายเรียบน่ะนะ”
“ไม่ใช่สักหน่อย บางคนก็ตายก่อนโคนันไปถึงอีก” ชานยอลเถียง อยากให้พวกคุณเห็นหน้ามันในตอนนี้มากครับ เถียงเหมือนเป็นญาติฝ่ายไหนกับคนเขียนโคนัน ปกป้องกันเหลือเกินกูเป็นน้ามึงนะ
“งั้นอ่านไป” แบคฮยอนยักไหล่แล้วเดินไปคว้าผ้าขนหนูเข้าไปในห้องน้ำ เอาเถอะครับงวดนี้คงไม่ต่างจากงวดที่แล้วสักเท่าไหร่พอมันโตขึ้นก็เลี้ยงดูง่ายขึ้นเยอะ แต่ตีนยังไม่ทันก้าวเข้าห้องน้ำก็ต้องหยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงหลานรัก
“อ้อ ลืมบอกไปว่าพรุ่งนี้ผมไปด้วยนะ”
“ไปไหน?”
“ไปทำคัตเอาท์ไง”
“รู้ได้ไง” คือจำได้ว่ายังไม่ได้บอกสักคำว่าพรุ่งนี้จะไปทำคัตเอาท์สแตนด์เชียร์ เอ๊ะหรือบอกไปแล้ววะ...เฮ้ยนี่เพิ่งอายุสิบเจ็ดป่ะทำไมกูลืมง่ายแบบนี้ โนววววววววว
“อ่าน Cyworld พี่เซฮุนมา”
นั่นไง
“แล้ว”
“จะไปด้วย พี่เซฮุนอัพว่าพรุ่งนี้จะไปโรงเรียน”
“เพื่อ?” พูดแล้วหมั่นหน้าไอ้เซฮุนครับ มันเป็นโรคเนตไอดอลเข้าเส้นเลือดขั้นรุนแรง หลังจากกระแสการเล่นอินเตอร์เนตกำลังบูมมากในหมู่วัยรุ่นตอนนี้ ใช่ว่าคนอย่างบยอนแบคฮยอนจะเล่นไม่เป็นหรอกนะครับ ก็มีเหมือนกันไอ้ที่เรียกว่า Cyworld น่ะแต่ติดแค่ว่าตกแต่งไม่เป็นเท่านั้นแหละ
คือทำไมเหรอครับ? มันใช่เรื่องจำเป็นไหมที่ต้องให้ชาวบ้านชาวช่องมารับรู้ว่าวันนี้ทำอะไรบ้าง แดกข้าวกับอะไร ตัดผมทรงไหน รู้สึกยังไงอยู่ ไอ้เพื่อนหน้าหล่อก็บ้ายอจั๊ง พอมีคนชมบ่อย ๆ มันก็เปิดกล้องแล้วแคปรูปอัพลง Cyworld รัว ๆ ให้คนแห่เข้าไปทิ้งข้อความกันไว้ไม่หวาดไม่ไหว
ไหนจะสิ่งที่เรียกว่ามือถือซึ่งปัจจุบันสามารถถ่ายรูปได้แล้ว มันกลายเป็นอวัยวะที่สามสิบสามของโอเซฮุนไปโดยปริยาย ส่วนไอ้จงอินก็เล่น Cyworld เหมือนกันและแน่นอนว่ามันเป็นคนริเริ่มก่อนแต่คนที่ใช้บ่อยกว่ากลับเป็นเซฮุน แต่มันชอบอัพแต่รูปแปลก ๆ ให้ชาวบ้านเค้าด่าเล่นว่ามึงอัพส้งทิงอะไร (ส่วนมากที่ไปด่าคือเพื่อนกันทั้งนั้นครับ) ไม่ว่าจะเป็นรูปมดตอมอาหารที่มันกินยังไม่หมดล่าสุดนี่เลยรูปลูกบาสตกลงไปในโคลนตม มึงจะถ่ายทำรากมะม่วงอะไรกูไม่เข้าใจ ท้อแท้ในชีวิตมากเหรอ เก็บไปล้างสิฟายอยากจะเมนท์ด่าแต่ติดที่ว่าเล่นไม่เป็นนั่นแหละ (บอกไปอีกรอบ) แถมยังบรรยายความดราม่าเข้าไปอีกนะว่า ‘ความเศร้าในฤดูฝน’ แหม่...สุดจะติสม์
“จะไปหาพี่เซฮุนกับพี่จงอิน ผมเพิ่งซื้อแผ่นเกมมา” พูดพร้อมกับล้วงกระเป๋าเป้เอาแผ่นเกมมาโชว์ จ้า... Warcraft 3 Special Map ‘DotA’ เกมนี้เลยที่ไอ้สองดูโอ้มันคุยกันไม่หยุดทั้งคาบเคมี
“เรื่องเรียนตั้งใจขนาดนี้บ้างไหม”
“เรียนก็ส่วนเรียนซี่ พี่เซฮุนบอกว่าเรียนเป็นเรียน เล่นเป็นเล่น ต้องทำทุกอย่างให้เต็มที่ชีวิตถึงจะคุ้ม” สราดดดดดดดดดด กูรู้แล้วว่าหลานกูชั่วได้ใคร!!
“...”
“มันสนุกมากเลยนะแบคฮยอน” น้าชายยกมือห้าม มึงเงียบไปเลยดีกว่าครับมิสเตอร์ชาร์ลก่อนที่กูจะกริ้ว อาทิตย์ที่แล้วไม่น่าพามันไปนอนบ้านไอ้จงอินด้วยกันเลย แม่งเง้ยพากันเล่นเกมจนตะวันแยงตูด ถ้าวันนั้นไอ้เซฮุนอยู่ด้วยนะเที่ยงก็คงไม่ได้นอนอ่ะ
“พรุ่งนี้น้าทำคัตเอ้าท์ทั้งวัน แล้วจะไม่มีการพักเบรกพาแวะร้านเกมที่ไหนทั้งสิ้น” ยื่นคำขาดไปแล้วคุณหลานที่เคารพก็พยักหน้ารับอย่างเร็วผิดแปลกไปจากทุกครั้ง ปกติมันต้องหน้างอ...แต่นี่อะไร
“ขอแค่ได้เจอพี่เซฮุนผมก็โอเคละ” หรา โอเคจริงหรา
“เออ ขอให้โอเคจริงเหอะ ถ้าจะไปด้วยกันก็อย่าสร้างปัญหา เคป่ะ?” ชูนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาแล้วชานยอลก็เอานิ้วก้อยมาเกี่ยวกันเพื่อทำสัญญาระหว่างน้าหลาน
ผิดคาด...
วันนี้ปาร์คชานยอลไม่งอแงอะไรทั้งนั้นและการนั่งทำคัตเอาท์สแตนด์เชียร์ผ่านไปแต่ละนาทีอย่างราบรื่น เหตุเพราะมันมัวแต่ไปนั่งอยู่ท่ามกลางสาว ๆ โดยที่มีเซฮุนอยู่ข้าง ๆ จัดว่าเป็นเรื่องดีสำหรับวันนี้ที่บยอนแบคฮยอนได้รับจากพระเจ้า เสียงกรี๊ดกร๊าดของสาว ๆ ดังเข้าหูอย่างต่อเนื่อง บางคนขอถ่ายรูปกับเซฮุน บางคนทำขนมมาให้แล้วผู้หญิงเหล่านั้นก็ไม่ใช่เด็กที่โรงเรียนนี้ด้วยนะครับ...พวกนั้นน่ะตามมาจาก Cyworld ทั้งนั้น...
ครับ...บยอนแบคฮยอนอยู่โรงเรียนชายล้วน
“วันนี้ไปนอนบ้านกูป่ะ” จงอินถามขณะก้มหน้าก้มตาตอกตะปูเข้ากับไม้อยู่
“ขอเหตุผลที่ชวน”
“กูอยากเล่นกับหลานมึง แค่นั้นแหละ”
“โถ เห็นเด็กเอาแผ่นเกมมาล่อเป็นไม่ได้”
“วอร์คราฟสามอ่ะกูมีแล้ว กูจะเอาแผ่นไปทำอะไร ห้อยหางช้างเหรอ” เออว่ะ ลืมไปว่าอาทิตย์ที่แล้วมันเพิ่งจะโบ้ม ๆ กันจนเช้า แต่คราวนี้ชานยอลมันวางแผนจะไปบ้านเซฮุนนี่หว่า
“งั้นไปค้างบ้านไอ้เซฮุนไหมล่ะ”
“ไม่”
“อ้าว” แบคฮยอนขมวดคิ้วมองคนข้าง ๆ ที่สวนกลับมาแบบไม่ให้ได้ตั้งหลัก
“วันนี้มันมีนัดกับสาวคงกลับบ้านค่ำ มึงจะรอมันไหมล่ะ”
“นัดด๋อยไรอีกวะ ช่วงนี้มันจะป๊อปเกินไปละสัดกูอิจ” แบคฮยอนพึมพำแล้วหันกลับไปมองเพื่อนตัวขาวที่กำลังยิ้มตาหยีท่ามกลางฝูงไฮยีน่า
“เนตไอดอลก็งี้”
“อิจฉาก็บอก...” แบคฮยอนหรี่ตาพลางยิ้มล้อจงอินที่กำลังทำหน้าเนือยสุดขีด
“ทำไมกูต้องอิจฉามันด้วยวะ”
“กูจะรู้ไหมล่ะ ควายยังเกรงใจที่จะถามคำนี้อ่ะ” แบคฮยอนแตะพู่กันลงบนคัตเอ้าท์เพื่อตกแต่งตามจุดต่าง ๆ ตามที่เพื่อนเขาได้ลงสีไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
“ถ้ากูจะทำอย่างมันกูก็ทำได้ แต่มันไม่จำเป็นป่ะวะ?”
“เพื่อนพูดถูก” แบคฮยอนชี้นิ้วพลางยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะก้มลงตกแต่งคัตเอ้าท์ต่อ
“ห่า”
“เออน่าปล่อยมัน”
“กูปล่อยมาสักพักละ”
“ถ้าเพื่อนไม่เข้าใจเพื่อนแล้วจะไปเข้าใจหมาที่ไหนวะถูกป่ะ นี่กูยังสงสัยอยู่เลยว่าทุกวันนี้เป็นเพื่อนกับพวกมึงสองคนได้ยังไง ทั้งบ้าเกม คนนึงบ้าบาส อีกคนบ้าโลกอินเตอร์เนต” จะมีแต่เขาคนเดียวนี่แหละที่ชอบอ่านการ์ตูนกับอ่านหนังสือเรียน ไม่ใช่ว่าชอบนะครับแต่ถ้าไม่อ่านมันก็ไม่รู้ พอไม่รู้ก็สอบไม่ได้ พอสอบไม่ได้เกรดก็ต่ำ พอเกรดต่ำแม่ก็ด่า พอแม่ด่าชีวิตก็พินาศ พอชีวิตพินาศก็ไม่เหลืออะไรอีก เรียนจบไปไม่มีงานทำ
“เออ กูเข้าใจแล้ว” จงอินตอบตัดประเด็นเพราะไม่อยากให้เพื่อนตัวเตี้ยบ่นให้มากความ
“แน่ใจเหรอว่าเข้าใจ” แบคฮยอนกับจงอินหันกลับไปมองข้างหลังแล้วก็เห็นเพื่อนตัวบางยืนทำหน้าตึงใส่อยู่แถมมีกุมารทองยืนประกบอยู่ข้าง ๆ แหม่จับมือกันด้วย มึงไม่ถ่ายโอนไปเป็นญาติบ้านตระกูลโอเลยล่ะครัชปาร์คชานยอล
“...”
“ไม่ได้ยินที่ถามเหรอ” เอาละครับ อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกได้ถึงบรรยากาศมาคุ แบคฮยอนมองหน้าหลานชายอย่างงง ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองร่างบางที่กำลังมองจงอินซึ่งนั่งหันหลังให้อยู่
ก็สังเกตมาพอสมควรแล้วว่าช่วงนี้มันสองคนไม่ค่อยคุยกันเหมือนเมื่อก่อนเพราะเซฮุนมันไม่ค่อยว่าง อาทิตย์นึงคบสาวไม่ซ้ำหน้าหรือไม่ได้คบก็ไม่รู้ ควงไปดูหนังบ้าง ไปร้องเกะนู่นนี่นั่นจนปัจจุบันคู่หูหยินหยางเปลี่ยนเป็นดูโอ้หลักกิโลกับเสาดีแทคไปแล้ว (กูกับไอ้จงอินเองครับงดแซะ)
“มีอะไรก็พูดมา”
“กูโทรไปทำไมไม่รับ”
“มือถืออยู่ข้างล่าง”
“อย่ามาโกหก”
“โอเค กูโกหก” จงอินวางค้อนลงแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง แบคฮยอนกวักมือเรียกหลานให้มาทางนี้แล้วชานยอลก็เดินมานั่งตักน้าชายก่อนจะวางมือไว้บนแขนอีกคนที่สวมกอดจากข้างหลังเพราะกลัวสีหน้าไอดอลในดวงใจอย่างเซฮุนในตอนนี้
“มึงก็สนใจแต่เกม อะไรก็เกม”
“กูเนี่ยนะ?” จงอินแค่นหัวเราะแล้วชี้หน้าตัวเอง บอกเลยว่าการแทรกตัวเข้าไปอยู่ตรงกลางตอนนี้มันไม่ใช่เรื่องอย่างยิ่ง แบคฮยอนนั่งเสือกอยู่ห่าง ๆ อย่างห่วง ๆ โดยมีหลานนั่งอยู่บนตักแถมจิกเล็บลงบนแขนเขาเป็นกำลังใจให้อีก
ซั้ซ กูเจ็บ! มึงจะอินอะไรขนาดนั้น?!
“กูต่างจากเดิมตรงไหน” จงอินพูดเสียงเรียบขณะมองไปยังนัยน์ตาของเพื่อนตัวบางที่ส่วนสูงไล่เลี่ยกัน “ทุกวันนี้กูก็ยังเล่นเกมเวลาเดิม กูเป็นแบบนี้มาตั้งแต่วันแรกที่พ่อซื้อคอมพ์ให้ละ”
“...”
“บาสก็ซ้อมเวลาเดิม กลับเวลาเดิม ป้ายรถเมล์ที่เดิม”
“...”
“แต่คนที่เล่นเกมกับกูยันตีสอง คนที่รอกลับบ้านพร้อมกูทุกวันแม่งหายหัวไปไหน?”
“...”
“ใครกันแน่วะที่เปลี่ยนไป”
เยด...วันนี้เพื่อนกูดราม่าได้หล่อมาก เอาไปห้ากะโหลก...
แต่เดี๋ยวนะ...ทำไมประโยคนี้มันดูทะแม่ง ๆ วะ...
“ไอ้เหี้ยจงอิน!”
แบคฮยอนเรียกสติตัวเองกลับมาทันทีที่ได้ยินเสียงเซฮุนตะโกนซะลั่นสนาม แล้วก็พบว่าไอ้จงอินหายไปจากตรงนี้แล้ว พอหันหลังกลับก็เห็นแผ่นหลังของเพื่อนที่กำลังเดินหนีไปจากตรงนี้พร้อมคว้ากระเป๋าเป้เหวี่ยงไปข้างหลัง จากสภาพแล้วคงไม่ต้องกริ๊งกร๊างไปถามให้ยาก...แม่งหนีกลับบ้านแล้วแน่นอน
“มึง”
แบคฮยอนกระตุกขากางเกงคนที่ยังคงมองไปข้างหน้าแม้ว่าจงอินจะเดินลับหายไปจากตรงนี้แล้ว ปกติเขามักจะเห็นแต่สีหน้ากวนตีนกับสีหน้านอย ๆ ของมันแต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่ได้เห็นสีหน้าหล่อ ๆ กำลังเบ้ปากน้อย ๆ เหมือนจะร้องไห้แต่ก็ไม่ร้อง
ตัดภาพมาอีกทีตอนนี้แบคฮยอนกับหลานรักได้มาอยู่บ้านอันหะรูหะราของไอ้เซฮุนเรียบร้อยแล้ว แอร์เย็นฉ่ำสบาย หมอนนุ่ม กลิ่นโดยรอบทุกอย่างคือดี คนเป็นน้าชายนอนแผ่อยู่บนโซฟายาวก่อนที่คนเป็นหลานจะมานอนด้วย
“แบคฮยอนดูนี่”
“เฮ้ย อ่านด้วยเหรอ?” น้าชายถามพร้อมกับมองไปยังหน้าปกหนังสือการ์ตูนเรื่องโปรดที่อยู่ในมือหลาน
“ช่าย นี่ซื้อมาเพราะพี่เซฮุนบอกว่าแบคฮยอนชอบ” ชานยอลนอนทับแขนคนเป็นน้าซึ่งแบคฮยอนก็ขยับตัวให้หลานนอนสบาย ๆ พลางมองลายเส้นการ์ตูนที่เด็กน้อยกำลังเปิดไปทีละหน้า อยู่ดี ๆ ก็ยิ้มออกมาได้เพราะแค่คำว่า ‘ซื้อมาเพราะแบคฮยอนชอบ’ ถึงมันจะไม่มีคำว่าน้านำหน้าก็เถอะ
พอเงยหน้าขึ้นก็เห็นเพื่อนตัวขาวนั่งเหม่อลอยอยู่ประหนึ่งทำ MV จะว่าไปแล้วตั้งแต่ไอ้จงอินหนีทหารทิ้งคัตเอ้าท์ไว้ให้เขาและผองเพื่อนทำต่อนี่ไอ้เซฮุนก็กลายสภาพเป็นคนใบ้ตั้งแต่วินาทีนั้น ก็เข้าใจนะครับ...มันสองคนไม่เคยทะเลาะกันเลยตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา ก็เพิ่งเห็นมันตึง ๆ กันตอนที่ไอ้เซฮุนฮ๊อตนี่แหละ
“พี่เซฮุน”
“...”
“พี่เซฮุน”
“ชานยอล...อย่า” กระซิบหูหลานแล้วแอบบ้องหูเบา ๆ เด็กน้อยยู่ปากแล้วหันกลับมามองหน้าน้าชายก่อนจะดีดตัวลุกไปยืนอยู่ตรงหน้าไอดอลที่เคารพ
มึงโดนเหวี่ยงแน่ ลาก่อนมิสเตอร์ชาร์ลหลานรัก
“พี่เซ...”
“ไปแดกนมไป” เซฮุนปัดมือไล่อย่างรำคาญ ห่าจิกคนจะดราม่ามึงยังจะมาพี่เซฮุนอะไร จะไปไหนก็ป๊ายยยยยยยยยย
“ก็ได้” พอเป็นคำสั่งจากไอดอลชานยอลก็กลายเป็นเด็กเชื่อง ๆ คนนึงขึ้นมาเสียอย่างนั้น (ใช้คำถูกแล้วครับ) เด็กน้อยเดินกลับมาหาน้าแล้วมองมาราวกับจะขอตัวช่วย โอเค กูจะพามึงไปสู่ตู้เย็นขั้วโลกเหนือบ้านมันเดี๋ยวนี้ แบคฮยอนลุกขึ้นจูงมือหลานชายไปหยุดอยู่หน้าตู้เย็นสูง หยิบแก้วกับแกนลอนนมขึ้นมาเทใส่แล้วก็ขมวดคิ้วก่อนจะชะงักมือ
“เดี๋ยวนะ”
“...”
“ทำไมแกต้องดื่มนมทุกครั้งที่โดนไอ้เซฮุนไล่ด้วย” หันไปถามหลานที่ขึ้นไปนั่งบนเก้าอี้เรียบร้อยแล้ว
“ก็พี่เซฮุนบอกว่าถ้าอยากหล่อแบบนั้นต้องดื่มนมเยอะ ๆ ” เจริญ PORN เถอะโยม มึงก็เชื่อเขาเนอะ ถ้าไอ้เซฮุนบอกให้ไปโดดตึกตายมึงจะไปหม้ายยยย “แล้วก็เล่นบาสด้วย”
“ทำไมต้องบาส?” แบคฮยอนวางแก้วลงตรงหน้าหลานวัยสิบขวบ ชานยอลรับมากระดกอึก ๆ จนเหลือครึ่งแก้วก่อนที่คนเป็นน้าจะช่วยเช็ดคราบนมออกจากปากให้เพราะติดเป็นนิสัยไปแล้ว
“พี่เซฮุนบอกว่าผู้ชายเท่ ๆ ส่วนมากจะเล่นบาส”
แค่นั้นแหละครับ...แค่นั้นจริง ๆ บยอนแบคฮยอนถึงได้จับต้นชนปลายโยงเรื่องได้ถูก...จริงอยู่ที่บยอนแบคฮยอนยังไม่เคยมีแฟนแต่ก็ใช่ว่าจะดูไม่ออกเลย ก่อนหน้านี้ก็ชั่งใจห้าสิบห้าสิบว่าที่เพื่อนสนิททั้งสองคนทะเลาะกัน ที่ง้องแง้งกันแบบนี้น่ะ...
มันซัมติงกันอยู่นี่เอง...
“นึกไปถึงตอนนั้นแล้วก็เขินอ่ะ”
“มึงยังมีคำนั้นฝังอยู่ในซีรีบรัมอยู่เหรอเพื่อน” แบคฮยอนปรายตามองเซฮุนที่กำลังนอนตักจงอินอยู่แถมยังยิ้มเขินอะไรของมันก็ไม่รู้ ส่วนไอ้ดำน่ะเหรอ...ยิ้มเหมือนกันครับ
“งั้นแสดงว่าฮุนจ๋าก็แอบชอบเค้ามานานแล้วอ่ะดิ” โน้มหน้าลงไปถามแฟนตัวบางที่นอนอมยิ้มอยู่ก่อนจะจุ๊บปากเบา ๆ โอยสรรถเกรงใจกูบ้างเถิดหนา
“ในฐานะที่เป็นเพื่อนกันมานานเกินสิบปี กูอยากกราบแทบเท้าพวกมึงทั้งสองคนให้เลิกเรียกแทนตัวกันว่าเค้ากับตัวเองทีเถอะ ได้ยินแล้วเหมือนผื่นจะขึ้น” แบคฮยอนว่าพร้อมเขวี้ยงม้วนสก็อตเทปใส่แล้วจงอินก็รับได้พอดี
“แต่หลานมึงเชื่อฟังกูจริง ๆ นะ จำได้ว่าตอนมันอยู่เกรดเจ็ดนี่ติดกูแจเลยครับ” เซฮุนหันไปมองเพื่อนตัวเล็กที่หันกลับไปตั้งหน้าตั้งตาแพ็คของอีกครั้งและตอนนี้เขาทั้งสามคนยังคงอยู่ในบทสนทนาเรื่องเดิม ๆ ไม่เปลี่ยนเรื่อง
“มันก็ติดมึงตั้งแต่จำความได้แล้วนี่”
“ไม่ไง ตอนมันเพิ่งขึ้นม.ต้นนี่ติดยิ่งกว่าครับ กูจำได้ว่าวันนั้นมาเมนท์ใน Cyworld กูพร้อมทิ้งเบอร์โทรไว้แล้วบอกว่า ‘พี่เซฮุน นี่ชานยอลเองนะ โทรหาผมหน่อยมีธุระด่วนจะคุยด้วย’ ห่าเอ๊ยกูก็นึกตั้งนานว่าชานยอลไหน พออ่านชื่อยูสเซอร์เท่านั้นแหละกูขำจนลืมหายใจ” เซฮุนหัวเราะลั่น
“อย่าบอกนะว่ามันใช้...”
“มิสเตอร์ชาร์ล” พูดจบจงอินก็ระเบิดหัวเราะลั่น มันสองคนร่วมด้วยช่วยกันขำพร้อมกับเอามือข้างหนึ่งปรบมือกันและกัน แหม่...แม้กระทั่งตอนหัวเราะพวกมึงยังเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน...
“แล้วมึงโทรไหมล่ะ”
“ตอนนั้นไม่รู้อะไรดลใจให้กูกดโทรกลับไป มันรับสายเร็วมากเว้ยมึง”
“คงรอมึงอยู่แหละมั้ง” แบคฮยอนพูดเสียงเนือย ๆ
“ก็นั่นแหละ คุยไปคุยมามันก็เข้าเรื่องเลย รู้ไหมมันถามกูว่าอะไร?” เซฮุนยักคิ้วส่วนแบคฮยอนยักไหล่น้อย ๆ แล้วยันมือทั้งสองข้างไว้ก่อนจะนั่งเอนหลังผ่อนคลายหลังจากหลังขดหลังแข็งช่วยพวกเพื่อนเวรแพ็คของตั้งนาน “มันถามกูว่า ‘พี่เซฮุน จะจีบสาวต้องทำยังไงอ่ะ?’ กูนี่สตั้นเลยเว้ยมึง ไอ้เด็กเหี้ยอายุสิบสองแม่งเอาแล้ว”
“ตอนสิบสองมึงทำอะไรอยู่วะที่รัก?” คนถูกถามเงยหน้ามองคนรักแล้วทำหน้าคิด
“เริ่มทำความรู้จักกับพวกมึงไงครับ” เซฮุนตอบแล้วหันหน้ากลับเข้าหาแบคฮยอนอีกครั้ง “แล้วกูก็แนะนำไปตามประสา ก็ไม่รู้ว่ามันเอาไปทำจริงไหมแต่มันโทรหากูบ่อยมากนะ”
“ไม่เห็นมึงเล่าให้กูฟังเลย” แบคฮยอนหรี่ตามอง
“ก็กูคิดว่ามันไม่สำคัญ อีกอย่างหลานมึงก็เหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่พอโตขึ้นแล้วจะเริ่มชอบผู้หญิง ตอนสิบสองกูว่าห้าวแล้วพอสิบห้านี่เริ่มควงสาวเว้ย แต่มันก็ยังโทรหากูอยู่ดีอ่ะนั่นขนาดฮ๊อตแล้วนะ กูเคยลองกดเข้าไปส่องเฟซบุ๊คมันอยู่ สาว ๆ ไปกดไลค์ไม่หวาดไม่ไหว” ใช่ครับ สองปีที่แล้วโซเชียลเนตเวิร์คที่กำลังดังจะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจากเฟซบุ๊คและทวิตเตอร์
“แล้วไง”
“มันก็ถามกูว่า กูคบกับจงอินเหรอ”
“ห๊ะ มันถามมึงงี้เลยเหรอ?!” แบคฮยอนเบิกตาโพลง คือสองคนนี้คบกันแบบลับ ๆ มาตลอดแล้วเด็กอย่างชานยอล (ที่เขาไม่ได้เจอตั้งแต่ตอนอายุสิบขวบ) ไม่น่าจะดูออกขนาดนั้นป่ะวะ
“เออดิ กูเงิบไปแปปนึงแล้วก็ถามมันว่า ‘ทำไมถามงั้นอ่ะ?’ ”
“...”
“มันก็บอกว่า ‘ก็แค่อยากรู้ว่าทำไมผู้ชายหล่อ ๆ เท่ ๆ อย่างพี่เซฮุนถึงได้ชอบผู้ชายด้วยกัน’ กูเกือบจะเขินแล้วแต่ก็รู้สึกแหม่ง ๆ ว่ะก็เลยบอกไปว่า ‘พี่ไม่ได้ชอบผู้ชายทุกคนหรอกไอ้น้อง พี่ชอบจงอินคนเดียว’ วินาทีนั้นกูอยากจะแคปให้จงอินดูแต่กูกลัวมันเขินก็เลยไม่บอก”
“งั้นกูเขินได้ยัง?”
“ตามใจที่รักเลย <3” อีกครั้งที่พวกมันงุ้งงิ้งกันโดยการจุ๊บปากซ้ำ ๆ บยอนแบคฮยอนอยากจะกระโดดถีบแทรกกลางให้พวกมันแยกออกจากกันเหมือนโมเสกแยกทะเลแดงจริง ๆ เชียวให้ตายเถอะ
“หลังจากนั้นมันก็เลิกมองมึงเป็นไอดอลเลยสินะ” แบคฮยอนแค่นหัวเราะ
“ไม่ว่ะ”
“...”
“จำได้ว่าหลังวันปีใหม่มันโทรมาบอกกูว่าลองอึ้บกับผู้ชายแล้วนะ แปลก ๆ แต่ก็โอเคดี”
“ไอ้เหี้ย!!!” แบคฮยอนอ้าปากค้างกับเรื่องที่ผ่านเข้าหูเมื่อครู่นี้
“นั่นแหละ”
“...”
“ช็อกเหรอครับสหาย”
“ไม่ช็อกได้ไง สรุปหลานกูเป็นเสือไบเหรอ” แบคฮยอนกุมขมับ ตอนแรกก็กลุ้มใจกับชีวิตตัวเองแล้วว่าเกิดมาแปลกแยกจากคนอื่นเพราะเริ่มรู้ตัวว่าชอบผู้ชายตั้งแต่เข้ามหาลัย ไหนจะหลานสาวอีกคนอีก รายนั้นก็เป็นไส้เดือนเหมือนกันแต่มันเปิดเผยจนคนในเครือญาติพากันพูดถึงไม่หยุด หาว่าที่นางเป็นทอมเพราะพ่อแม่ส่งเข้าเรียนสตรีล้วน เพราะงั้นพี่ญาติเขาเลยตัดไฟแต่ต้นลมโดยการส่งไอ้ชานยอลเรียนเอกชนเพราะไม่อยากให้ลูกเป็นเพศที่สาม
และวันรวมญาติ...พวกลุงป้าน้าอาก็ถามบยอนแบคฮยอนคนนี้ว่า ‘เรียนชายล้วนน่ะ ไม่ได้เป็นเกย์หรอกใช่ไหมลูก?’
จะเหลือเหรอครับ...ดูเพื่อนสนิททั้งสองคนซะก่อน
TBC
มาแล้วค่ะสำหรับตอนที่สาม เป็นไงบ้างคะพอจะไหวไหมกับฟิคเรื่องนี้ รูปข้างบนคือวิวัฒนาการของมนุษย์ชานยอลเองค่ะ
ตอนแรกกะว่าตอนนี้คงได้เขียนช่วงอายุสิบสอง แต่ไป ๆ มา ๆ เป็นสิบขวบเพราะมลินค่ะนับอายุผิด 555555555555555555555 ตอนต่อไปกลับสู่ปัจจุบันแล้วนะคะ ฝากเรื่องนี้ด้วยนะ <3
แท็กนี้เลยค่ะ #มนุษย์ชานยอล
ความคิดเห็น