ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    TEACH ME TO #ฟิคของทีมคุก SEASON 2 : PAINKILLER | CHANBAEK

    ลำดับตอนที่ #23 : Story Before Season 2 :: Little Chan-ee

    • อัปเดตล่าสุด 5 มี.ค. 60



    cactus

     


     

    *** ปล.ต้องขอโทษด้วยที่ก่อนหน้านี้ทำให้ตกใจ (ที่อยู่ๆฟิคเด้ง 3 ตอน) เรื่องของเรื่องคือใช้ Writer 3 ไม่เป็น คิดว่าบางทีอาจได้อัพ before ss2 ไปพร้อม ๆ กับ ss2 เลย แต่กลัวตอนมันปนกัน ก็เลยเข้าไปจองตอนไว้ก่อน แต่ด้วยความอะนาล่อกไง เด๋อแรง กดพับบิ้กเช้ยยยย ขอโทดเด้อ /กราบอ่อน



    Little Chan-ee

     

     

     

    ไม่งอแงนะชานอี เค้าอยู่ตรงนี้แล้ว

    ไม่!”

    พี่ชายวัยห้าขวบพยายามปลอบน้องชายวัยสามขวบที่ทิ้งตัวลงไปนั่งกับพื้นห้างสรรพสินค้า เบะปากร้องไห้สะอึกสะอื้น งอแงไม่ยอมเข้าใจเหตุผลใด ๆ ทั้งสิ้น สิ่งเดียวที่ปาร์คชานอีรู้ในตอนนี้ก็คือพ่อกับแม่ควรอยู่ที่นี่ ไม่ใช่แบคฮยอนหรือใครก็ไม่รู้เดินยั้วเยี้ยอยู่แถวนี้เต็มไปหมด!

    อย่าดื้อฉิ เค้าเป็นพี่นะ ชานอีต้องเชื่อฟังเค้า

    ไม่! ไม่เอาแบคฮยอน!”

     

    อ๊า! เจ็บ! เจ็บ! เจ็บ!” เด็กน้อยวัยห้าขวบหลับตาปี๋ อ้าปากร้องโอดครวญจนคนในห้างหันมามองเป็นตาเดียวกัน เมื่อเด็กชายชานอีเอาฟันน้ำนมซี่เล็ก ๆ สร้างความเจ็บปวดให้นิ้วมือพี่ชาย  “ฮึก...

    ถึงจะพยายามอดทนเพราะปะป๊าบอกว่าเป็นพี่ต้องเข้มแข็ง ต้องดูแลน้อง แบคฮยอนจะได้เป็นคนเก่ง แต่ฟันของชานอีก็คมมากจนเจ็บไปถึงหัวใจ ปากเล็กเม้มแน่น ดวงตากลมโตสั่นไหว แบคฮยอนไม่ได้อยากร้องไห้แต่น้ำตามันดื้อไหลออกมาเอง

    เจ้าดื้อย่นจมูกใส่และงอแงหาปะป๊าต่อ ชานอีไม่ยอมเชื่อฟังกันบ้างเลย ทั้งที่เขาเป็นพี่แท้ ๆ ถ้าโตขึ้นมาต้องดื้อจนโดนหม่าม๊าตีแน่ ชานอีนิสัยไม่ดี แบคฮยอนอยากให้น้องโดนตีจัง แต่อีกใจก็กลัวน้องเจ็บ

    เอ้า ๆ เป็นอะไรกันหื้มชายหนุ่มกลับมาหาเด็ก ๆ หลังจากแยกไปคุยโทรศัพท์มาห้านาที

    ลุงจงแดฮะ... คนเป็นพี่เสียงสั่นเครืออ้าแขนออกสวมกอดอุ่น ๆ ของเพื่อนสนิทแม่ที่อยู่ดูแลแบคฮยอนกับน้องในวันนี้ จงแดลูบหัวหลานชายคนโตพร้อมขมวดคิ้วมองเจ้าตัวดื้อวัยสามขวบในชุดกางเกงยีนส์แจ็คเก็ตสีดำแฟชั่นสำหรับเด็กที่แบคฮีเป็นคนตัดให้

     

    ไหนเล่าให้ลุงฟังซิ ชานอีทำอะไรพี่อีกแล้ว

    เอา – ปะป๊า – มา!!!!!!!” คนถูกถามไม่แม้แต่จะสำนึกผิด จงแดยิ้มอย่างอ่อนใจก่อนจะดึงแก้มเดอะฮัลค์ตัวน้อยที่ยังเกรี้ยวกราดไม่หยุด เขารู้ว่าชานอีติดพี่ชานยอลมาก... แต่วันนี้เป็นวันสำคัญที่เขาอยากให้แบคฮีมีความสุขจึงช่วยรับเลี้ยงหลานครึ่งวันเพื่อให้สามีภรรยาได้ใช้เวลาส่วนตัวด้วยกันบ้าง

    ชานอีกัดมือฮะ... เจ็บมากเลย

    ไหน ขอลุงดูหน่อย จงแดเช็ดน้ำตาให้หลานด้วยนิ้วหัวแม่มือ แบคฮยอนเบะปากสะอื้น แบมือเล็กที่ไม่เหลือรอยความเจ็บจากชานอีให้คุณลุงปลอบใจ และการที่ลุงจงแดเป่าเพี้ยงให้แบคฮยอนก็หายเจ็บทันทีเลย

    แบคฮยอนขี้แย

    ไม่ใช่อย่างนั้นนะ! น้ำตามันไหลออกมาเอง!”

    ขี้มูกโป่ง คึคึ

    ฮึก...

     

    นี่ชานอี ถ้าเราตีพี่อีกลุงจะไม่ซื้อของเล่นให้แล้วนะ ตัดขาดกันไปเลย จงแดชี้หน้าหลานชายคนรอง ชานอีทำหน้าลิงใส่แล้วหัวเราะเอิ้กอ้ากราวกับว่าคำขู่เมื่อครู่เป็นเรื่องที่ต่อรองกันได้ง่าย ๆ เพียงแค่ชานอีหายดื้อ

    จงแดมองก้อนตัวน้อยอย่างอ่อนใจ บนโลกใบนี้จะมีใครซนได้ครึ่งเจ้าลิงตัวนี้อีก ซนอย่างไร้ที่สิ้นสุดไม่เหมือนแบคฮยอนที่ว่านอนสอนง่ายกว่าสิบเท่า คนไม่เคยมีลูกอย่างคิมจงแดถึงได้กุมขมับเพราะไม่รู้จะรับมือกับเด็กอย่างไร

    จะตีน้องเหรอฮะ?

    อืม... แบคฮยอนอยากให้ลุงตีชานอีไหม? เขามองดวงตากลมที่ยังคลอไปด้วยน้ำตา พี่ชายที่พยายามเข้มแข็งจึงหันไปทางน้องชาย พอเห็นถูกแลบลิ้นปลิ้นตาใส่หัวใจดวงน้อยก็วูบไหว ชานอีเป็นเด็กนิสัยไม่ดีอย่างไรในวินาทีนี้ก็ยังเหมือนเดิม ย่าห์ แลบลิ้นใส่พี่แบคฮยอนเหรอ เดี๋ยวเรียกน้าคยองซูมาดึงลิ้นซะเลย

    ยักษ์ตะยองซู!!!” เจ้าเด็กบ้าพลังหัวเราะเอิ้กอ้ากอย่างนึกสนุก ไม่กลัวแม้แต่ยักษ์หน้าโหดที่แบคฮยอนไม่กล้าเข้าใกล้

    ว่าไง เราอยากให้ลุงตีชานอีไหม?พอเห็นน้องไม่สำนึกผิดแบคฮยอนจึงคิดว่าชานอีควรจะโดนทำโทษเสียบ้างแล้ว เหมือนที่หม่ามี๊เคยตีเพราะดื้อและไม่น่ารักกับผู้ใหญ่ ชานอีต้องเจ็บบ้างจะได้เป็นเด็กน่ารักของทุกคน

     

    เบา ๆ ทีนึงได้ไหมฮะ... ก้อนตัวน้อยวัยห้าขวบเอามือป้องปากกระซิบข้างหูคุณลุงเพื่อให้ได้ยินกันสองคน ถึงจะโกรธอยู่แต่การพูดให้ได้ยินตรง ๆ ชานอีคงใจสลายแน่ถ้ารู้ว่าแบคฮยอนเป็นคนบอกให้ลุงตี

    จงแดอดยิ้มไม่ได้กับแววตาใส ๆ ที่มาพร้อมนิ้วชี้ซึ่งชูขึ้นเป็นท่าประกอบ เขาหันไปหรี่ตามองเจ้าตัวดื้อที่ลืมไปแล้วว่าก่อนหน้านี้เคยงอแงหาพ่อลั่นห้าง ตอนนี้เหลือเพียงเจ้าก้อนน่ารักน่าชังที่เอาชนะคุณลุงด้วยรอยยิ้ม

    ชานอีแบมือออกมา

    ไยฮับ

    ลุงจะตีมือเรา โทษฐานทำพี่แบคฮยอนเจ็บ

    แบคฮยอนขี้แยเอง เค้าไม่ผิด ชานอีทำหน้าลิงพลางเหล่มองพี่ชายที่อยู่ในอ้อมกอดคุณลุง

    แบมือออกมาเลย

    ตีแล้วซื้อของเล่นให้เค้าด้วยนะเจ้าตัวดื้อยอมแบมือออกมาง่าย ๆ ราวกับว่าการโดนตีเป็นเรื่องปกติ

    อ๊า จริง ๆ เลยเด็กคนนี้ จงแดส่ายหน้าหน่าย ๆ สุดท้ายเขาก็ไม่ได้ตีหลานเพราะต้านทานความน่ารักของเจ้าเด็กบ้าพลังไม่ไหว

     

     

    *

     

     

    จะไปแล้วเหรอฮะ?

    “ช่าย วันนี้หมดเวลาสนุกของลุงแล้ว จงแดยิ้มตาหยี ลูบหัวหลานชายคนโตอย่างเอ็นดู ขณะที่ชานอีนอนหลับคอพับอยู่ตรงเบาะหลัง

    ลุงจงแดบอกว่าพรุ่งนี้เป็นวันเกิดปะป๊า เพราะฉะนั้นแบคฮยอนกับน้องต้องเป็นเด็กดี ว่านอนสอนง่าย ไม่งอแง ไม่เอาแต่ใจให้ปะป๊ากับหม่ามี๊ปวดหัว แบคฮยอนจะได้ไม่ถามว่าทำไมคืนนี้ถึงต้องนอนบ้านลุงอี้ฝาน เพราะอย่างไรเสียพรุ่งนี้แบคฮยอนกับชานอีก็จะได้ไปเป่าเค้กกับปะป๊าแล้ว

     

    ลุงอี้ฝานเป็นคนดี รู้ใช่ไหมว่าเวลาอยู่กับลุงต้องทำยังไง?

    รู้ฮะ ลุงอี้ฝานให้ของเล่นแบคฮยอนทุกปีเลย แบคฮยอนจะเป็นเด็กดี

    คราวนี้เราจะได้เจอเพื่อนใหม่ด้วยนะ รับรองไม่เหงาแน่ จงแดลูบศีรษะก้อนตัวน้อยที่มองตาแป๋วอย่างตื่นตาตื่นใจ

    ใครเหรอฮะ?

    ลูกลุงอี้ฝานครับ เป็นพี่เราปีนึง

    ถึงจะไม่ค่อยเข้าใจอะไรนัก แต่เด็กดีก็พยักหน้าอย่างว่าง่าย จงแดยิ้มบาง ๆ พลางโน้มไปจุ๊บเหม่งหลานชาย กลิ่นหอมอ่อน ๆ จากแป้งทำให้ชายหนุ่มคิดบางทีมันอาจถึงเวลาคิดถึงเรื่องแต่งงานมีลูกได้แล้ว

     

    จงแดพยักหน้าเป็นเชิงบอกให้หลานชายลงจากรถก่อนจะตรงไปเปิดประตูหลังเพื่ออุ้มชานอีออกมาแล้วคว้ากระเป๋าเสื้อผ้าสำหรับหลานทั้งสองคน แบคฮยอนสะพายกระเป๋าใบเล็กพลางเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้า หิมะตกแล้ว... แบคฮยอนชอบหิมะที่สุดเลย แต่หม่าม๊าบอกว่ายืนมองข้างนอกนาน ๆ ไม่ได้เดี๋ยวจะเป็นหวัด ถ้าใส่เสื้อกันหนาวอุ่น ๆ แล้วมองผ่านกระจกในบ้านถึงจะดี

    มานี่ลูก

    ฮะ ก้อนตัวน้อยจับนิ้วก้อยคุณลุงแล้วเดินไปหยุดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง จงแดกดกริ่งแล้วยืนรอ ระหว่างนั้นก็ก้มลงมองความน่ารักของโลกใบนี้ที่แบคฮีเป็นคนสร้างขึ้น

    แบคฮยอนนา... ถึงชานอีจะดื้อไปบ้าง แต่อย่าโกรธน้องเลยนะ

    ไม่โกรธฮะ หม่าม๊าบอกว่าน้องยังเด็ก เดี๋ยวพออายุเท่าแบคฮยอนแล้วน้องก็จะเป็นเด็กดี

    เก่งมาก เดี๋ยวเสาร์หน้าลุงมาหาอีกแล้วเราไปกินขนมอร่อย ๆ กันนะ

    ฮะ เสียงเล็ก ๆ ของแบคฮยอนเป็นพลังงานชั้นดีสำหรับชายหนุ่มวัยกำลังจะสามสิบ

     

    ว่าไงคนเก่ง กินอะไรมาหรือยังหืม อี้ฝานพยักหน้าทักทายจงแดตามมารยาทก่อนจะอุ้มแบคฮยอนขึ้นมาหอมฟอดใหญ่ ชายหนุ่มทั้งสองไม่ถึงกับสนิทกันแต่ก็ไม่ได้ห่างเหินจนต้องเกร็งเวลาเจอหน้า

    ทั้งคู่อุ้มหลานเข้าไปในบ้านที่มีต้นคริสต์มาสประดับอยู่ตรงหัวมุมห้อง บรรยากาศอบอุ่นโดยรอบถูกจัดเตรียมไว้สำหรับเทศกาลสิ้นปีที่ใกล้จะมาถึง กลิ่นดอกกุ้ยหลินไม่ได้ฉุนจนต้องยกมือปิดจมูก มันเบาบางและให้ความรู้สึกผ่อนคลาย

     

    บ้านหลังนี้ถูกตกแต่งสไตล์จีนโมเดิร์น เนื่องจากพ่อของอี้ฝานเป็นคนจีนแต่แม่เป็นคนเกาหลี ทั้งคู่พบรักกันเมื่อสี่สิบกว่าปีก่อนตอนพ่อตัดสินใจมาทำงานที่นี่ ลำบากอยู่เกือบสิบปีก็เริ่มได้ดิบได้ดีจนมีฐานะ แม้จะคิดถึงบ้านเกิดแต่สำหรับคนจีนที่ไม่หลงเหลืออะไรอยู่ที่จีนแล้ว คนเป็นพ่อจึงเลือกปักหลักใช้ชีวิตอยู่เกาหลีอย่างถาวร

    แบคฮยอนนา

    สวัสดีฮะ ทันทีที่ถูกวางลงพื้น เด็กหัวไวมารยาทดีจึงโค้งศีรษะทำความเคารพเจ้าของบ้านวัยหกสิบห้า คุณปู่ใจดีหัวเราะตาหยี ชอบใจที่บ้านหลังนี้มีเด็กเยอะ ๆ

     

    รบกวนด้วยนะครับ เดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าแบคฮีจะมารับ จงแดวางชานอีลงบนโซฟาอย่างเบามือ เจ้าเด็กบ้าพลังที่แผลงฤทธิ์มาตลอดทั้งวันยังคงหลับไม่รู้เรื่องและคาดว่ากว่าจะตื่นก็คงอีกเป็นชั่วโมง

    พี่คุยเรื่องนี้กับแบคฮีแล้วล่ะ ขอบใจมาก อี้ฝานตบบ่าอีกคนเบา ๆ จงแดจึงย่อตัวลงสบตากับหลานคนโต

    ถ้าแบคฮยอนร้องไห้ รู้ใช่ไหมว่าจะทำให้คุณปู่กับคุณลุงไม่สบายใจ

    รู้ฮะ แบคฮยอนจะไม่ร้องเด็ดขาด

     

    แล้วถ้าชานอีร้องล่ะ คุณลุงยิ้มขณะรอหลานให้คำตอบ ก้อนตัวน้อยจึงขมวดคิ้วเล็ก ๆ ทำปากจู๋ คิดหาทางแก้ไขหากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน ถ้าเกิดชานอีสติแตกขึ้นมาบ้านหลังนี้ต้องพังแน่ ๆ

    แบคฮยอนจะให้น้องหยิกแขนฮะ

    ไม่ใช่แบบนั้นสิ จงแดหัวเราะแค่บอกน้องว่าถ้าดื้อปะป๊าจะไม่พาไปสวนสนุกอีก รับรองหยุดแน่

    ปะป๊าจะไม่พาไปเหรอฮะ“!” เด็กน้อยทำตาโต มันเป็นข่าวร้ายที่สุดของวันนี้เลย!

    ถ้าเรากับน้องดื้อน่ะนะ

    ไม่ ๆ แบคฮยอนจะไม่ดื้อ ชานอีก็ด้วยฮะ!” อี้ฝานกับพ่ออดที่จะหัวเราะไม่ได้กับความใสซื่อของเด็ก จงแดฟัดหอมแก้มนิ่มฟอดใหญ่เป็นครั้งสุดท้าย ถ้าหากไม่ติดธุระก็คงอยู่ดูแลหลานได้จนถึงเช้าไปแล้ว ลุงจงแดอย่าลืมหม่ำ ๆ นะฮะ

    ลุงจะหม่ำเยอะ ๆ เลย คุณลุงใจดีทำมือตักข้าวเข้าปากเป็นท่าประกอบ ก่อนจะหลับตาเอียงหน้าให้หลานจุ๊บแก้ม

     
     

     

    *

     

     
     

     

    หลังจากคุณลุงกลับไปแล้วแบคฮยอนก็ถูกเรียกไปนั่งกับคุณปู่ คุยกันอยู่สักพักดวงตากลมโตก็หันไปเห็นใครคนหนึ่งที่เดินออกมาจากห้องนอน คน ๆ นั้นมีผมและดวงตาสีน้ำตาลอ่อน เด็กน้อยทั้งสองคนสบตากันด้วยความสงสัยกระทั่งคนเป็นปู่กวักมือเรียก เด็กผู้ชายคนนั้นจึงตรงมาทางนี้

     

    นี่แบคฮยอน สวัสดีเพื่อนใหม่สิชาร์ล

    ...

    “Come here.” อี้ฝานกระดิกนิ้วเรียก ลูกชายเพียงคนเดียวจึงเดินไปนั่งข้าง ๆ พ่อโดยที่ยังไม่ทิ้งความสนใจจากเด็กอีกคน “Are you alright sharing your bed with Baekhyun tonight? (คืนนี้ให้แบคฮยอนนอนด้วยได้ไหม“)

    ชาร์ลไม่ได้ตอบคำถามในทันที เด็กน้อยวัยไม่ประสีประสายังคงจ้องหน้ากันและกันเพื่อดูว่าอีกฝ่ายเป็นมิตรหรือไม่ เด็กน้อยวัยหกขวบครึ่งกำลังชั่งใจว่าควรตอบอย่างไร เขาเป็นคนหวงพื้นที่ส่วนตัว แต่ถ้าตอบตกลงก็จะเป็นการเอาใจพ่อ จะเล่นด้วยสนุกไหม จะงอแงเอาแต่ใจหรือเปล่า“

      

    แต่สุดท้ายชาร์ลก็พยักหน้าตกลง

    “Hi” เด็กลูกครึ่งกล่าวทักทาย แต่แบคฮยอนกลับเลิ่กลั่กไม่กล้าตอบเป็นภาษาอังกฤษแม้ว่าหม่าม๊าจะเคยสอนให้แล้ว แบคฮยอนรู้นะว่าคำนั้นแปลว่าอะไร! แต่ก้อนตัวน้อยกลับยิ้มแหยพร้อมโบกมือตอบ

    หวัดดี

    หวัดดี เด็กห้าขวบทำตาโต แบคฮยอนไม่ได้เข้าใจผิดไปแน่ ๆ ว่าชาร์ลตั้งใจเลียนแบบอะ หวัดดีคือ Hello”

    ไว้ผลัดกันสอนสิ ชาร์ลสอนภาษาอังกฤษให้น้อง ส่วนน้องก็สอนเกาหลีให้พี่ You teach him. He teaches you. Teaching each other. Sounds interesting huh?อี้ฝานเลิกคิ้วถามความเห็น คนเป็นลูกชายจึงเงยหน้าขึ้นสบตากับพ่อก่อนจะหันไปทางเพื่อนใหม่

    เพราะชาร์ลอยู่อเมริกาตั้งแต่เกิดจึงเป็นเรื่องยากที่อี้ฝานจะสอนให้ลูกชายพูดปร๋อได้ทั้งสองภาษาตั้งแต่อายุหกขวบ อีกทั้งสิ่งแวดล้อมรอบข้างก็ใช้แต่ภาษาอังกฤษในทุก ๆ วัน แต่พอมีเวลาอู๋อี้ฝานก็สอนให้ลูกพูดเกาหลี จำศัพท์ง่าย ๆ เพื่อให้พูดคุยกับคุณปู่ผ่านทางสไกป์ได้ ถึงจะยากหน่อยแต่อี้ฝานคิดว่ามันจำเป็นต้องใช้ไม่วันนี้ก็วันหน้า และชาร์ลก็เป็นเด็กดีที่แสดงให้เขาเห็นว่ามีความใฝ่รู้ ขยันศึกษาภาษาเกาหลีทั้งที่จะเอาเวลาไปเล่นเกมที่เขาซื้อให้ก็ได้ และแรงผลักดันหลัก ๆ ก็ล้วนมาจากคุณปู่ที่หลานชายรักนักรักหนา

    แบคฮยอนยังไม่โตจะสอนชาร์ลได้เหรอฮะ?

    ได้สิ ใช่ไหมลูก อี้ฝานลูบศีรษะลูกชายที่รีบพยักหน้าเป็นคำตอบโดยที่ไม่ค่อยเข้าใจว่าหมายถึงอะไร

    ชาร์ลจะต้องมีเวทย์มนต์แน่ ๆ เลย เพราะแบคฮยอนไม่เข้าใจว่าทำไมถึงรู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูกตอนเห็นอีกฝ่ายยิ้ม มันเป็นสัญญาณดีว่าเราจะเล่นด้วยกันได้อย่างสนุกสนานใช่หรือเปล่านะ แบคฮยอนตื่นเต้นไปหมดแล้ว

     

     

    *

     

     

     

    ชาร์ลระบายสีกับเค้าไหม

    รา – บาย – สี

    ใช่! ระบายสี แบคฮยอนหยิบสีไม้ออกมาจากกล่องแล้วทำท่าละเลงลงบนสมุดภาพเพื่ออธิบายให้อีกคนเข้าใจ ชาร์ลขมวดคิ้วก่อนจะอ้าปาก เขาพยักหน้าเร็ว ๆ ด้วยความสนใจเมื่อรู้แล้วว่าแบคฮยอนกำลังสื่ออะไร

    ทั้งสองคนนอนราบลงบนพื้นคนละฝั่ง หยิบสีไม้ที่ชอบออกมาระบายตัวการ์ตูนน่ารักให้มีสีสัน แบคฮยอนระบายหน้าขวา ชาร์ลระบายหน้าซ้าย ละเลงสีแรกเสร็จก็ตามด้วยสีที่สอง พอลุกขึ้นเลือกสีเหม่งของเด็กน้อยจึงชนกันอย่างไม่ตั้งใจ

     

    แบคฮยอนจับเหม่งตัวเองพลางทำตาปริบ ๆ มันเจ็บเหมือนกันนะแต่จะร้องไห้ไม่ได้หรอก เพราะตอนนี้ชาร์ลก็นั่งจับเหม่งตัวเองเหมือนกัน คงเจ็บมากแน่เลย แบคฮยอนต้องขอโทษก่อนที่ชาร์ลจะร้องไห้

    ชาร์ล เค้าขอโทษนะ เค้าไม่ได้ตั้งใจ

    ขอ – โทษ

      

    ไม่ใช่นะ เค้าต้องขอโทษคนเดียว ชาร์ลไม่ผิด พูดขอโทษไม่ได้นะ

    เจ็บ – ไหม เด็กตัวโตกว่ายังคงจับเหม่งตัวเอง แต่มืออีกข้างชี้นิ้วไปยังหน้าผากของเพื่อนใหม่ด้วยความเป็นห่วง

    เป่าให้น้องสิชาร์ล – แบบนี้ คุณปู่ที่นั่งมองอยู่บนโซฟานุ่มสำหรับผู้สูงอายุพูดพร้อมเป่าลมหายใจเบา ๆ เป็นท่าประกอบเพื่อให้หลานเรียนรู้ภาษาเกาหลีไปด้วย

    เด็กที่เชื่อฟังคุณปู่จึงขยับเข้าไปใกล้ ๆ แล้วจับแก้มยุ้ยของน้องน้อยเอาไว้ มองดวงตากลมที่ฉายแววสงสัยก่อนจะเป่าลมหายใจเบา ๆ จนผมหน้าม้าแบคฮยอนปลิว เด็กวัยหกขวบผละออกมาดูผลงานตัวเอง น้องยังทำตาแป๋วอยู่เลยไม่รู้ว่าหายเจ็บหรือยัง

       

    ยังเจ็บอยู่ไหมแบคฮยอน? คุณปู่ยิ้ม สายตาของเขาที่มองเด็กทั้งสองยังคงเต็มไปด้วยความเอ็นดู ความสุขของคนแก่จะมีอะไรดีไปกว่าการเห็นความไร้เดียงสาของลูกหลาน และค่อย ๆ เติบโตไปตามวัย

    “แบคฮยอนไม่เจ็บแล้วฮะคุณปู่

    จริงเหรอ? ประโยคนี้ชาร์ลออกเสียงแปลก ๆ แต่แบคฮยอนฟังออก!

    น้องน้อยรีบพยักหน้า ลุกขึ้นคุกเข่าพร้อมจับแก้มเพื่อนใหม่ที่ตัวโตกว่าเอาไว้

    เค้าเป่าเพี้ยงให้ชาร์ลบ้างนะ!” คราวนี้เป็นทีของเด็กหกขวบที่ต้องหลับตา ชาร์ลพยักหน้าแล้วเม้มปากก่อนจะปล่อยให้น้องน้อยเป่าเพี้ยง เด็กลูกครึ่งรู้สึกได้ว่าความเจ็บจี๊ด ๆ มึน ๆ เมื่อครู่มันหายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ต้องเป็นตอนที่แบคฮยอนเป่าให้แน่เลย

    หาย – แล้วพอได้ยินอย่างนั้น ความใสซื่อทั้งสองก็หลุดหัวเราะออกมาพร้อมกันอย่างไม่กักเก็บ

    งื้อ... แบคฮยอนรีบเอามือปิดปากชาร์ลเมื่ออยู่ ๆ สัตว์ประหลาดชานอีก็ส่งเสียงงึมงำเป็นสัญญาณร้ายว่าอีกไม่นานอาจจะเกิดเรื่องขึ้นแน่ถ้าน้องตื่น ชาร์ลไม่เข้าใจว่าทำไมถึงห้ามพูด ถ้าน้องอีกคนตื่นมาก็น่าจะดีไม่ใช่เหรอ จะได้มีเพื่อนเล่นด้วยกันหลาย ๆ คนไง

    ชู่ว์... หลับนะลูกนะคุณปู่ตบตูดเจ้าตัวแสบเบา ๆ ชานอีขี้เซาจึงนอนกอดตุ๊กตาต่อโดยไม่ตื่นขึ้นมาสร้างความวุ่นวายให้พี่ชาย

    โห เกือบไปแล้วแบคฮยอนถอนหายใจจนแทบหมดปอดก่อนจะหันไปทางเพื่อนใหม่ที่ขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ ถ้าชานอีตื่นชาร์ลต้องรีบไปซ่อนนะ

    ต้องรีบ – ไป – ซ่อน

    อื้อ ชานอีเป็นเด็กดื้อ ชอบหยิกคนอื่น

     

    เด็กวัยห้าขวบหันไปทางน้องชายที่ยังหลับอยู่ แบคฮยอนไม่อยากให้น้องตื่นเลย ถ้าชานอีหยิกจนชาร์ลร้องไห้เหมือนที่แบคฮยอนเป็นมันต้องแย่แน่ พอเป็นอย่างนั้นหม่าม๊าก็จะโกรธอะ แบคฮยอนไม่อยากให้หม่าม๊าอารมณ์ไม่ดี ปะป๊าบอกว่าหม่าม๊าทำงานมาเหนื่อย ๆ ถ้าแบคฮยอนกับชานอีเป็นเด็กดีหม่าม๊าก็จะหายเลย

    ชาร์ลชอบสีอะไร?

    สี

    นี่ ๆ เด็กน้อยจิ้มสีไม้ทีละแท่งให้ดู ชาร์ลจึงพยักหน้าแล้วหยิบสีเขียวอ่อนที่เขาชอบมากที่สุดขึ้นมา

    “And you?

    เค้าชอบสีฟ้า สี – ฟ้า

    สี – ฟ้า ชาร์ลออกเสียงตาม “Blue sky”

     

    ฉะกาย!” แบคฮยอนออกเสียงตามแล้วหัวเราะกับความสนุกของภาษาที่ทั้งคู่ต่างไม่แข็งแรงนัก คนเป็นปู่ที่นั่งมองอยู่ห่าง ๆ จึงอดยิ้มตามไม่ได้

     

     

     

     

    CUT

    (WELCOME TO MALINWORLD)

     

    ไม่ใช่คุกเด็ก อย่าทัมมาเปงบอกว่าช็อก

    นังทัวเด


    ขอบคุณ @pekozzang ที่ช่วยแปลไทยเปงภาษาอังกฤษให้ค้าาา

     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×