คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตำแซ่บครกที่ 01 :: ผัดไทยเดลิเวอรี่โทรหาพี่สิจ๊ะ
t
h
e
m
y
b
u
t
t
e
r
ตำแซ่บครกที่ 01
ผัดไทยเดลิเวอรี่โทรหาพี่สิจ๊ะ
“แต่เช้าอีกแล้วนะลุง ระวังตับแข็งตาย”
“ตายเพราะเหล้าก็ยังดีกว่าตายเพราะอีแก่ด่าล่ะวะ จัดมาให้ลุงเป๊กนึง”
ชายวัยห้าสิบกว่า ๆ กับสารร่างพัง ๆ ล้วงเหรียญห้าออกมาจากกางเกงขาสั้นกรัง ๆ ยื่นให้กับลูกสาวร้านขายของชำคนสวยที่หนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ในหมู่บ้านต่างชื่นชอบหลงใหล ด้วยผิวขาวเนียนและใบหน้าลูกครึ่งจีนนิด ๆ แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครเอาชนะใจเด็กสาวอย่าง ‘น้องหมวยหมิน’ ได้เลย
“แปรงฟันด้วยนะลุง”
“มีแต่คนปากเหม็นเท่านั้นแหละที่จะแปรง”
“นั่นแหละลุง แปรงซะ”
“เครคร๊”
เด็กสาวยิ้มขำพลางส่ายหน้าหน่าย ๆ กับท่าทางเหมือนตุ๊ดที่ลุงขี้เมาแกล้งทำ เธอคว่ำแก้วเหล้าขาวที่เพิ่งขายให้ลูกค้า VIP ขาประจำที่แวะเวียนมาอุดหนุนเกือบทุกวัน ยกเว้นวันที่เมียไม่ให้เงินใช้
“วันนี้ใส่เสื้อสีชมพู เข้ากับหน้าหวาน ๆ ของน้องหมวยหมินเลยนะครับ”
เสียงกะล่อนแบบนี้ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าใคร เด็กสาวชำเลืองมองหน้าม่อ ๆ ของผู้มาใหม่ที่ส่งยิ้มพิมพ์ใจมาราวกับว่าเธอจะตกหลุมง่าย ๆ
“เอาเหมือนเดิมใช่ไหมวันนี้”
“ไม่เหมือน” ชายหนุ่มจิ๊ปากพร้อมกระดิกนิ้วชี้ไปมา “วันเวลาเดินไปข้างหน้า และความสัมพันธ์ทางความรู้สึกก็เช่นกัน”
“แล้วผู้ใหญ่จะเอาอะไร”
“เรียกพี่จุ๋มสิ คำนั้นมันห่างเหินเกินไปสำหรับสถานะของเราสองคน”
“งั้นพี่จุ๋มจะกินอะไรดีคะวันนี้” เด็กสาวเท้าคางยิ้ม กระพริบตาปริบ ๆ เล่นเอาคนเป็นผู้ใหญ่บ้านนิ่วหน้ามือทาบอกหลังจากโดนแอทแทคเข้าอย่างจัง
“วันนี้ไม่เอาเนส พี่จุ๋มอยากจะลองเบอร์ดี้สักครั้งน่ะจ้ะ”
“อ้อ ได้”
รู้ว่าพูดมากไปก็เท่านั้น เพราะแม่ของเธอชื่นชอบผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบันจนแทบจะประเคนลูกสาวให้อยู่แล้ว ทั้งหล่อ ทั้งรวย ทั้งยังหนุ่ม แต่ทุกอย่างที่กล่าวมาก็ใช่ว่าจะเอาชนะใจหมวยหมินได้ง่าย ๆ หมวยหมินเลือก หมวยหมินสวย หมวยหมินจะไปประกวดเดอะเฟสไทยแลนด์
ผู้ใหญ่บ้านแวะเวียนมาอุดหนุนกาแฟซองบ้านหมวยหมินทุกวัน อีกทั้งยังเป็นลูกค้า VIP ที่มีสิทธิ์ได้น้ำร้อนชงกาแฟฟรีจากบาริสต้าจำเป็นอย่างน้องหมวยหมิน และได้นั่งโต๊ะม้าหินอ่อนหน้าบ้าน กวาดสายตามองรถกระป้อและสามล้อขับผ่านในซอยอย่างอารมณ์ดี หลังจากไปวิ่งออกกำลังกายในสนามฟุตบอล ‘โรงเรียนร่มเย็นเป็นสุขสนุกจังเลย’ มา
“น้องหมวยหมินไม่ถามหน่อยเหรอคะ ว่าทำไมวันนี้พี่จุ๋มถึงกินเบอร์ดี้แทนเนส”
“อ๋อ ทำไมเหรอคะพี่จุ๋ม” น้ำเสียงกระแตแด๊ะแด๋ส่งไปยังผู้ใหญ่บ้านหน้าหล่อแต่เตี้ยม่อต้อ ชายหนุ่มยกยิ้มพอใจ ก่อนจะมองบั้นท้ายกลม ๆ ของเด็กสาวที่เข้ารูปกับกางเกงยีนส์ขาสั้น
“เพราะเบอร์ดี้คือหนึ่งในใจคุณไง...”
“โอ้ย เขินเวอร์” พูดจบก็แลบลิ้นทำท่าจะอ้วก แต่อีกฝ่ายไม่เห็นเพราะเธอก้มหน้ากดน้ำร้อนใส่แก้วกาแฟให้อยู่
“วันหยุดอย่างนี้ อยู่บ้านขายของอย่างเดียวไม่เบื่อเหรอจ๊ะ ไปเที่ยวในเมืองกับพี่ไหม เดี๋ยวพี่พาเดินเซนทรัล กินชาบูชิ เอ็มเค”
เด็กสาวไม่ได้ขานตอบ เธอเอากาแฟร้อนสำเร็จรูปในแก้วใบใสวางไว้บนตู้กระจก ก่อนจะเห็นว่ามีใครคนหนึ่งเดินมายืนขนาบข้างผู้ใหญ่บ้าน พร้อมใช้สองมือเสยผมที่ลงเจลมาอย่างดิบดีขึ้น
“ลูกกตัญญูก็ต้องอยู่ช่วยแม่ขายของอยู่บ้าน น้องหมวยหมินไม่ใช่คนที่จะออกไปแรดข้างนอกกับผู้ชายที่เอาแต่อวดรวยหรอกนะผู้ใหญ่”
บิ๊กจุ๋มถอนหายใจกับเสียงที่เขาคุ้นหู ซึ่งนั่นคงเป็นใครไปไม่ได้นอกจากตัวปัญหาประจำหมู่บ้านที่อ้าปากว่าตอนนี้กลับใจเป็นคนดีแล้ว ซึ่งนั่นก็คือ ‘หาญ’ ไอ้หนุ่มเสื้อตัดอ้อย ทำงานเป็นคนขับรถกระป้อ ที่มาพร้อมกลิ่นน้ำหอมซีซีละสองบาท
“แล้วลื้อไม่มีคิวออกรถเหรอวะหาญ”
“เงินอะ หาเมื่อไหร่ก็ได้ แต่หัวใจอะ ต้องรีบหาให้เจอ” พูดจบก็มองหน้าสวย ๆ ของแม่ค้าวัยมอปลาย วันนี้แต่งตัวน่ารักน่าพาไปนั่งกระป้อชมวิวมาก ๆ
“เอาอะไร”
“M150 ไม่มีลิมิต คิดถึงหมวยหมินเกินร้อย”
เด็กสาวหรี่ตามองบักเสี่ยวที่ยิ้มพอใจหลังจากยิงมุกควายมาอย่างหน้าด้าน ๆ ต่อหน้าต่อตาผู้ใหญ่บ้านที่ยืนจิบกาแฟอยู่ตรงนั้นโดยไม่ย้ายตัวไปนั่งบนม้าหินอ่อน ราวกับว่ากำลังยืนกันท่าเธอออกจากภัยธรรมชาติที่มาพร้อมกลิ่นเหม็นฉุนจากน้ำหอม
หมวยหมินวางขวดเอ็มร้อยแล้วรับเงินจากอีกคนมา แต่ก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อหนุ่มรถกระป้อแอบลูบมือเธออย่างเสน่หา แถมยังกัดริมฝีปากล่าง ส่งสายตามาจนชวนขนลุก
“มือนุ่มจัง”
“ตีนหนูนุ่มกว่านี้อีกนะ พี่หาญอยากลองเอาหน้ามาทาบดูไหม” เด็กสาวยิ้มตาใส แม้จะรู้ว่าถูกหลอกด่ากราย ๆ แต่หาญก็ฟินจนลืมไปเลยว่าเคยขับกระป้อ
“ฉันเป็นผู้ใหญ่บ้าน จะทำอะไรก็เกรงใจกันหน่อย” บิ๊กจุ๋มขมวดคิ้ว กดเสียงเข้มจริงจังขู่คนที่เคยมีคดีฟาดหัวคู่อริหัวแตกจนถูกส่งเข้าสถานพินิจตั้งแต่สมัยยังเรียนช่างกล
“อะไรวะบิ๊กจุ๋ม ไปนั่งกินตรงนั้นดิ ไป คนเขาจะจีบกัน” หาญมองค้อนผู้ใหญ่บ้านที่กล้าดีขัดจังหวะเขากับน้องหมวยหมิน
“ฉันคงปล่อยให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้หรอกนะหาญ น้องหมวยหมินเป็นคนในหมู่บ้านที่ฉันต้องดูแล ถ้าเกิดเหตุร้ายขึ้นกับเธอ ฉันจะได้มีหลักฐานรวบตัวนายได้” จุ๋มยิ้มอย่างผู้ชนะ แค่พูดเรื่องกฎหมายนิดหน่อยคนโง่อย่างมันก็งงเต๊กแล้ว น่าสงสารเหลือเกิน
“อั่นอีหล่า เอายาเส้นให้อ้ายห่อนึง กับจ้วดนำเด้อ”
เสียงปริศนาทำเอาทั้งสามคนหันไปทางเดียวกัน บิ๊กจุ๋มขมวดคิ้วชำเลืองมองชายฉกรรจ์ในชุดเสื้อยืดกระทิงแดงเก่า ๆ พร้อมผิวสีกร้านแดดซึ่งกำลังควักเหรียญบาทออกมายืนนับอย่างตั้งใจแล้ววางลงบนตู้กระจก
“สูบแต่เช้าเลยนะพี่อินทร์”
“อ้ายซื้อไว้สูบยามมื้อแลง เบิ่งทรงสิได้เฮดงานเบิ่ดมื้อ เหมื่อยคัก”
“อย่าสูบจัดมากนะ หนูเป็นห่วง”
“จ้า”
สองหนุ่มยืนใบ้แดกขณะมองชายฉกรรจ์ที่กำลังเดินไปจากตรงนี้หลังจากได้ของที่ต้องการ... หรือที่ใคร ๆ ก็รู้ว่ามันคือบุหรี่แฮนเมดที่ต้องใช้กระดาษสีขาวพันรอบยาเส้น ม้วนจนเป็นทรงแล้วจุดสูบ
“นั่นใครอะน้องหมวยหมิน คุยอะไรกัน” หาญเลิกคิ้วมองอย่างไม่สบอารมณ์
“พี่อินทร์เป็นกรรมกรก่อสร้างหอพักท้ายซอยอะ เขามาอยู่นี่ได้เกือบอาทิตย์แล้ว พี่จุ๋มก็รู้ใช่ไหมคะ?”
“แน่นอนอยู่แล้ว พี่เป็นถึงผู้ใหญ่บ้าน มีอะไรบ้างที่บิ๊กจุ๋มเข้าไม่ถึง” ชายหนุ่มแค่นยิ้มอย่างผู้หยั่งรู้
“แล้วมันพูดอะไร อีหล่า ๆ กับจ้วด ๆ งงมาก” หาญโมโห ฟังภาษาใต้ว่างงแล้ว เจออีสานเข้าไปกูนี่ถึงกับร้องหาล่าม
“อีหล่าก็น้องสาวไง ส่วนกับจ้วดก็ไม้ขีดไฟ” เด็กสาวชี้กล่องไม้ขีดไฟในตู้ให้ดู “เขาบอกว่าวันนี้คงงานยุ่งทั้งวัน เลยมาซื้อยาเส้นไปตุนไว้สูบตอนเย็นอะ ‘เบิ่งทรงแปลว่าดูท่า’ ส่วน ‘มื้อแลงคือตอนเย็น’ เข้าใจยัง”
“โห เข้าใจยากสุด ๆ ดูบ้านน๊อกบ้านนอกอะ ไหนจะแต่งตัวมอซออีก ไม่มีสไตล์เลย เห่ยแรง น้องหมวยหมินว่าไหม” หาญเบ้หน้ากับรสนิยมการแต่งตัวของหนุ่มก่อสร้าง แต่บอกเลยว่าเมื่อกี้ถึงกับมือสั่นอยากโบ้หน้าคนตอนเห็นหมวยหมินถูกเต๊าะต่อหน้าต่อตา อีกทั้งน้องยังยิ้มให้มันอีก ควันออกหูแล้วเนี่ยเห็นบ้างไหม แค่ไอ้บิ๊กจุ๋มคนเดียวกูก็ลำบากแล้ว นี่ยังต้องต่อกรกับบักเสี่ยวนั่นอีกเหรอ
“ตอนใส่เสื้อผ้าอาจจะมอซอ แต่ถ้าถอดออกก็ไม่รู้เหมือนกันนะพี่...” เด็กสาวกดเสียงลงต่ำ หลุบสายตาลงมองเป้ากางเกงของผู้ใหญ่บ้านและหนุ่มขับกระป้อด้วยสายตาเย้ายวน
บิ๊กจุ๋มสำลักออกมาอย่างห้ามไม่อยู่ รีบเอามือตะปบปากตัวเองจนน้ำกาแฟซองทะลักออกจากทางซอกนิ้ว หาญยิ้มกริ่ม พูดงี้แสดงว่าหมวยหมินอยากลองเห็นพญางูสิงห์ในกางเกงของพี่ดูสักครั้งสินะคร๊
.
.
“เอามาให้ตามสัญญา”
บู้เม้มปาก ช้อนตามองกล้ามเป็นมัด ๆ ของพ่อค้าส้มตำสุดหล่อที่เพิ่งได้พักหลังจากผ่านวิกฤติชีวิตช่วงบ่ายไป ชายหนุ่มอมยิ้ม รับผัดไทยมาและใช้จังหวะนั้นจับมือคนให้สักที บู้หลบสายตาอย่างขวยเขิน เห็นอย่างนั้นชาญก็อยากลองหยิกแก้มขาว ๆ ดูสักครั้ง คาดว่ามันคงนุ่มมือไม่ต่างจากคอหมู่ย่างที่เขาและพี่ชายช่วยกันหมักทุกคืน
“น่าอร่อยจังเลย” พูดทั้งที่ยังไม่ละสายตาออกห่าง บู้ยืนบิดนิด ๆ พอเป็นพิธี จะยืนนิ่งเป็นเทพีเสรีภาพก็กลัวจะถูกมองว่ากร้านโลก แต่บิดเยอะเกินไปก็กลัวถูกมองว่าเป็นชายน้อยจากบ้านทรายทอง
“ผัดไทยช้ะ”
“ไม่รู้” ประโยคนี้ขึ้นเสียงสูง เล่นเอาคนเป็นพี่ชายกระแอมไออย่างหมั่นไส้ กับการเห็นน้องชายและเพื่อนบ้านจีบกันอย่างซึ่ง ๆ หน้า หลังจากผ่านการแลกเฟสบุ๊กและไลน์ แม่งเล่นโพสต์จีบกันไปมาเป็นอาทิตย์ละ “หายงอนยัง”
“อะไร ไม่ได้งอน” บู้แกล้งมองไปทางอื่น พ่อค้าคั่วลาบเห็นอย่างนั้นก็รู้สึกเหมือนเป็นตัวอะไรสักอย่าง จึงพยักหน้าส่งบอกให้น้องชายออกไปนั่งจีบกันใต้ต้นมะขามฝั่งตรงข้ามซะให้รู้แล้วรู้รอด
ทั้งคู่นั่งลงบนโต๊ะม้าหินอ่อนเก่า ๆ ที่คนแก่มักจะมานั่งเล่นหมากฮอสกันช่วงเช้าตรู่ ตอนนี้บู้ให้ป๊าช่วยดูร้านแทนก่อน อ้างว่าจะไปส่งผัดไทยให้ลูกค้า ตอนแรกป๊าก็ด่าเพราะไม่เชื่อ แกบอกว่า
‘หนังหน้าอย่างลื้อน่ะเหรอจะไปส่งของให้คนอื่นถึงมือ ทอแหลชัก ๆ’
ซึ่งมันก็จริง แต่พออ้างว่าจะเอาไปให้เพื่อนบ้านใหม่ ป๊าก็นิ่งไปแป๊บนึง แล้วอยู่ ๆ แกก็ยิ้มออกมา พร้อมแถมหัวปลีกับถั่วงอกให้
“อย่าคิดมากเลย น้องโบว์แค่ชอบกินส้มตำ”
“บู้ก็ชอบ” ทั้งคู่สบตากัน ชาญอมยิ้มน้อย ๆ ก่อนจะรวบรวมความกล้าหยิกแก้มขาว ๆ ของคนตัวเล็กที่กำลังงอหน้าเมื่อเขาพูดถึงเด็กสาวคนนั้น หลังจากเกิดเหตุพายุเข้าผ่านทางเฟสบุ๊ก
“หวงอะ ชาญอย่าให้เฟสบุ๊กคนอื่นอีกได้ไหม” คำขอร้องของอีกฝ่ายมีผลต่อจิตใจชาญถึงเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ไหนจะมาพร้อมตาแป๋ว ๆ คู่นั้นอีก น่ารักไม่ไหวแล้ว
“ไม่ได้ให้เลยนะ เขาเสิร์ชหาเจอเอง ด้วยเกียรติลูกเสือบ้านโคกอีโด่ยเลย” คนตัวสูงชูสามนิ้วขึ้นมา “ในเฟสมีเพื่อนเป็นพัน แต่ในฝันชาญมีแต่บู้คนเดียวนะ”
คนตัวเล็กหัวเราะพอใจ รวบสามนิ้วอีกคนเอาไว้พร้อมเอาไหล่ชนไหล่อย่างขวยเขิน “ไอ้บ้า พูดอะไร เขินนะเว้ย”
“ก็พูดให้เขินไง” ชาญก้มหน้ามองคนตัวเล็กที่หน้าขึ้นสีระเรื่อ ประกอบด้วยเสียงขากเสลดของพี่ชายแท้ ๆ ที่ยืนย่างเนื้ออยู่ฝั่งตรงข้ามเป็นแบ็คกราวนด์ ช่างโรแมนติกจริง ๆ
“ฟังดูเห็นแก่ตัว แต่บู้ไม่อยากให้ชาญตำส้มตำให้ผู้หญิงคนไหนแล้ว”
“หวงเหรอ” คนตัวสูงยิ้มล้ออีกฝ่ายที่กำลังพยายามปั้นหน้านิ่ง แต่ก็เก็บอาการไม่ไหว “งี้สงสัยต้องจ้างชาญเป็นเด็กเสิร์ฟร้านผัดไทยแล้ว”
“ไม่ได้พูดเล่นนะ เดี๋ยวจ้างจริงแล้วจะหนาว” บู้เชิดหน้ามอง ก่อนจะหลุบสายตาลงเมื่ออีกฝ่ายกดนิ้วชี้ลงบนปลายจมูกของเขา
“หมูบู้ ชาญไม่รับเงินจากบู้หรอก ชาญต้องให้เงินบู้ใช้สิถึงจะถูก” โอ้ยยยยยยย นี่แหละชั่ย ชั่ยมาก ๆ เคยเห็นเพื่อนที่เป็นเกย์มันเปย์เด็กมาตลอดชีวิต แต่ตอนนี้บู้รู้สึกเหมือนงมเข็มในมหาสมุทรแล้วเจอทองคำแท่ง
“บ้า พูดอะไรอีกแล้วเนี่ย...” อีกนิดเดียวก็เป็นตุ๊ดหัวโปกแล้ว แต่จะแต๊บอาการยังไงไหว เด็กมันอ่อยแรงมาก อ่อยสุด อ่อยจนธาตุไฟพี่แตกซ่าน “วันนี้เก็บร้านค่ำปะ”
“อยากให้เก็บไวเหรอ”
“ก็เปล่า ถามดูเฉย ๆ” บู้พูดเสียงเบา ชำเลืองมองเด็กหนุ่มรุ่นน้องหุ่นดีน่าสีที่นั่งอยู่ข้าง ๆ
“นึกว่าจะชวนไปไหนซะอีก” ชาญพูดลอย ๆ
“ก็อยากไปนั่งรถเล่น” คนตัวเล็กเว้นจังหวะไปครู่หนึ่งอย่างเป็นเสต็ป ก่อนจะช้อนตามอง “กับชาญสองคน”
เอาสิ ไม่หลงหัวปักหัวปำก็ให้รู้กันไป จังหวะนี้ไม่หยอดไม่ได้แล้ว หลังจากเรียนจบมันอดอยากแค่ไหนบู้เข้าใจความรู้สึกนั้นเป็นอย่างดี ถ้าเอาแต่ขายผัดไทยเลี้ยงครอบครัวไปอย่างนี้ไอ้บู้แห้งตายแน่
“ในเมืองเหรอ ชาญไม่มีรถเก๋งนะ มีแต่กระบะกับมอไซค์ บู้คงไม่ชอบนั่งหรอก” น้ำเสียงตัดพ้อชีวิตจน ๆ ตัวเองถูกส่งไปยังลูกชายคนรองร้านผัดไทยที่มีฐานะดีกว่าบ้านของตนหลายขุม ชาญรู้สึกต่ำต้อยเหลือเกิน เขากำลังจีบคนที่สูงส่งกว่า
“พูดอะไรอย่างนั้น บู้ชอบนั่งมอไซค์นะ” กระแซะไหล่ชนกล้ามแขนอีกคนพร้อมน้ำเสียงแด๊ะแด๋ จุดนี้พี่ไม่ได้มาเพื่อเงิน แต่พี่มาเพื่อน้องโดยเฉพาะ
“จริงอะ” ชาญอมยิ้ม พอเห็นว่าคนตัวเล็กพยักหน้าเขาก็เริ่มมั่นใจในตัวเองมากขึ้น “งั้นปิดร้านแล้วจะโทรหานะ”
“โอเค บู้จะรอ” บิดกว่านี้กูก็คงเป็นโปเต้แล้ว เด็กมันหล่อ เด็กมันอ่อย เด็กมันจะพาไปซ้อนมอไซค์ชมวิว
โอ้ยเขิลลลลลลลลลลลล
TBC
ขอบคุณแฟนอาร์ตน่ารัก ๆ จากคุณ @elixiubel_
นะคะ น่ารักมากเลย ช่าบบบบบบบ เอ่าะะะ 5555555555555
ความคิดเห็น