คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : INTRO
’ cactus
INTRO
มีคนบอกว่าผมเป็นคนเข้าใจยาก...
อืม...มันก็นานมาแล้วล่ะ และคน ๆ นั้นก็คงไม่คิดที่จะพยายามเข้าใจผมอีกแล้ว
ซึ่งมันไม่ใช่เรื่องน่าสลดนัก อ่า...ผมหมายถึงในตอนนี้น่ะ
เพราะถ้าเป็นวินาทีแรก หรือในชั่วโมงนั้น...แน่นอนว่าผมรู้สึกชาไปทั้งตัวตอนที่รู้ว่าคนพวกนั้น ‘ไม่อยากเป็นเพื่อนกับผมอีกแล้ว’
เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้าเสมอเวลา ‘โอเซฮุน’ ใช้ชีวิตอยู่ในรั้วโรงเรียน เด็กหนุ่มโยกหัวเบา ๆ ไปตามจังหวะเพลง มันก็นานมาแล้วอีกนั่นแหละที่มีคนเคยบอกว่าเขาเป็นพวกโรคจิตที่ชอบนั่งเขย่าขา ซึ่งโอเซฮุนไม่คิดอย่างนั้นเลยสักนิดเดียว พวกที่เอาแต่พูดจะไปรู้อะไรถ้าพวกนั้นไม่ได้เสียบหูฟังไว้เหมือนกับเขา
เซฮุนชอบฟังเพลง เพราะเพลงเข้าใจความรู้สึกของเขาได้ดีกว่ามนุษย์บนโลกใบนี้ บางครั้งมันก็เป็นเหมือนเพื่อน บางครั้งก็เป็นเหมือนผู้ใหญ่ที่คอยสอนให้เข้าใจชีวิตผ่านทางเนื้อเพลง ก็อย่างที่บอกไปตามข้างต้นว่ามันนานมาแล้วกับการที่เด็กหนุ่มเคยมีเพื่อน
แต่ทุกคนก็เปลี่ยนไปตอนเซฮุนเริ่มเป็นที่รู้จักหลังจากจบงานโรงเรียนเมื่อสองปีที่แล้วเพราะเต้นคัฟเวอร์แด๊นซ์ เด็กหนุ่มไม่ได้อยากดัง เขาก็แค่ชอบเต้นและคิดว่ามันเป็นความสามารถอย่างหนึ่งที่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้
ครั้งหนึ่งโอเซฮุนเคยคิดว่ามีแต่พวกเด็กผู้หญิงเท่านั้นแหละที่จะจับกลุ่มนินทาเพื่อน แต่แล้วเขาก็ได้รู้ว่าเด็กผู้ชายก็ไม่ได้ต่างกันนัก เพราะเมื่อไหร่ที่มีใครเด่นกว่า ดังกว่า หรือมองแค่วูบเดียวแล้วน่าหมั่นไส้ คน ๆ นั้นก็จะกลายเป็นประเด็นและถูกบอยคอตในที่สุด
พอเพื่อนตีตัวออกห่างเขาเป็นกังวลแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เพราะถามไปเพื่อนก็ตอบกลับมาแค่สั้น ๆ ว่า ‘ไม่มีอะไร’ จนวันนึงมีผู้หญิงที่อยู่อีกห้องมาคุยด้วย เธอเข้าใจเขา อีกทั้งยังปลอบด้วยคำพูดที่ทำให้รู้สึกดี แต่สุดท้ายผู้หญิงคนนั้นก็เอาความไม่สบายใจทั้งหมดที่เซฮุนเล่าให้ฟังไปบอกเพื่อนเขา
เซฮุนไม่เคยคิดว่าจะต้องมาทะเลาะกับเพื่อนเพราะเรื่องไร้สาระแบบนี้ เขาพยายามอธิบายว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด เด็กหนุ่มก็แค่ระบายความอึดอัดให้ผู้หญิงคนนั้นฟัง และมันก็มีบางส่วนที่เธอแต่งเติมใส่สีตีไข่เข้าไปเอง ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจว่าจะทำแบบนั้นเพื่ออะไร แต่เพื่อนในกลุ่มก็ไม่ฟัง คนพวกนั้นบอกว่า ‘ถ้าอึดอัดมากมึงก็อยู่คนเดียวไปแล้วกัน’ นั่นคือประโยคสุดท้ายที่ตัดความสัมพันธ์ของพวกเรา
ได้ฟังข่าวลือมาบ้างว่าเพื่อนในกลุ่มพยายามดีดเขาออกมาเพราะหมั่นไส้ เพียงแค่สาว ๆ หลงใหลในสิ่งที่เด็กหนุ่มเป็นเพราะการเต้นและคลิปวิดีโอเกมในยูทูป เซฮุนไม่โกรธถ้าคนอื่นจะเข้าใจว่าเขาอยากเด่นอยากดัง เพราะในที่สุดแล้วไม่ว่าใครก็ห้ามความคิดคนอื่นไม่ได้
เซฮุนก็แค่ชอบเต้น ชอบเล่นเกม เมื่อก่อนเขาเคยคิดว่าถ้าคนพวกนั้นขอให้เลิกเต้น เลิกอัดคลิปเกมลงยูทูปจะยอมทำตามไหม แน่นอนว่าถ้าเป็นเมื่อก่อนเซฮุนคงจะยอมทำทุกอย่าง ขอแค่ไม่ต้องอยู่ตัวคนเดียว
แต่ก็เท่านั้นแหละ บทสุดท้ายของเรื่องนั้นไม่ว่าจะยังไง คนอย่างเขาก็ถูกหมั่นไส้อยู่ดี
“เซฮุน ไปกินข้าวด้วยกันไหม?”
“อ๋า เธอจะชวนเขาทำไมอีกเนี่ย ถูกปฏิเสธร้อยครั้งแล้วยังไม่ชินอีกหรือไง?”
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นก่อนจะดึงหูฟังออก เห็นว่าฮันซอนฮวากำลังมองคาดโทษจอนฮโยซองที่เข้ามาชวนเขาไปกินข้าวด้วยกันเหมือนกับทุกวัน แม้ว่าเซฮุนจะปฏิเสธเหมือนกับทุกครั้งแต่ผู้หญิงยิ้มสวยคนนั้นก็ยังไม่ล้มเลิกความตั้งใจ
“ทำไมเล่า ก็เผื่อเซฮุนเปลี่ยนใจเราจะได้มีเจ้าชายนั่งร่วมโต๊ะด้วยไง คนหน้าตาดีนั่งโต๊ะเดียวกัน ใคร ๆ ก็อยากมองทั้งนั้น”
“เจ้าชายมีแค่แบคฮยอนคนเดียวก็พอแล้ว จริงไหมเซฮุน?” ซอนฮวายิ้มแล้วตบบ่าเขาปุ ๆ
พูดถึงบยอนแบคฮยอนแล้วก็พอได้ยินชื่อผ่านหูอยู่บ้าง เห็นว่าเป็นนักเรียนใหม่เพิ่งย้ายมาจากมกโพ เคยเดินผ่านกันอยู่ครั้งสองครั้ง หน้าตาดูไม่มีพิษมีภัยแต่ถ้าถึงขั้นเอาชนะใจฮันซอนฮวาได้ก็คงไม่ธรรมดาแน่ ๆ
ยัยนั่นถึงกับยอมถอนตัวจากชมรมคัฟเวอร์แด๊นซ์เพื่อไปอยู่ชมรมห้องสมุดที่ใคร ๆ ต่างก็รู้ว่ามีสมาชิกทั้งหมดแค่สี่คน จะถูกยุบอยู่รอมร่อแต่ที่อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ก็เพราะว่าแก๊งเด็กเรียนเหล่านั้นช่วยบรรณารักษ์จัดการหนังสือให้เป็นหมวดหมู่ได้ ซึ่งมันดีกว่าชมรมเป่ายิ้งฉุบหรือชมรมสนทนาพาเพลินเป็นไหน ๆ
“ขอบใจนะ แต่ฉันมีนมกับขนมปังแล้ว” ชูห่อขนมปังในกระเป๋าให้ดูก่อนจะเดินออกไปจากห้อง
คงมีแค่ผู้หญิงกลุ่มนี้ที่เห็นใจอยากจะเป็นเพื่อนกับเขา แต่พูดก็พูดเถอะ การใช้ชีวิตอยู่ร่วมกับผู้หญิงมันไม่ใช่สิ่งที่เซฮุนจะทนฝืนได้จริง ๆ สมองของเด็กหนุ่มเหมือนจะแฮงค์หลังจากปล่อยให้บทสนทนาของเด็กผู้หญิงฝังเข้ามาในหัวเรื่อย ๆ และมันคือเหตุผลที่ทำให้เซฮุนอยู่ตัวคนเดียวจนถึงทุกวันนี้
วันนี้น่าเบื่อกว่าทุกวันก็ตรงที่ห้องซ้อมเต้นถูกปิดทำความสะอาด กว่าจะเปิดให้ใช้งานก็ตอนหลังเลิกเรียนเลย และนั่นหมายความว่าเขาจะต้องหาที่สิงสถิตจนกว่าจะถึงตอนเข้าเรียนคาบบ่าย
ม้านั่งเก่า ๆ ใต้ต้นไม้คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับคนไม่มีเพื่อนอย่างเขา พูดก็พูดเถอะ การใช้ชีวิตอยู่ตามลำพังในโรงเรียนที่มีคนเป็นร้อยเป็นพันมันอึดอัดน่าดู เซฮุนวางขนมปังกับนมกล่องไว้ข้างตัวแล้วสไลด์หาเพลงโปรดที่เขาชอบฟังเวลากินมื้อเที่ยงก่อนจะเอนหลังพิงกับพนัก
การอ่านคอมเมนท์ในยูทูปเป็นกิจวัตรประจำวันที่ทำให้โอเซฮุนมีความสุข ถึงแม้เขาจะไม่รู้ว่าเจ้าของประโยคที่ทำให้รู้สึกดีเหล่านั้นหน้าตาเป็นยังไง แต่เด็กหนุ่มก็รู้สึกขอบคุณที่พวกเธอให้ความสนใจและชื่นชมผลงานไร้สาระของเขา
‘พี่เซฮุนเล่นเกมเก่งจัง ไม่โดนตีสักครั้งเลยอ่ะ’
‘น่ากลัวมาก แต่ที่น่ากลัวกว่าคือพี่เซฮุนเล่นนิ่ง ๆ นี่แหละ 5555’
‘รักพี่เซฮุนนะคะ ขอบคุณที่ทำให้หนูยิ้มได้’
เด็กหนุ่มยิ้มแล้วใช้มือข้างที่ว่างอยู่เจาะกล่องนม ในหัวของเขาจินตนาการหน้าตาแฟนคลับออกมาเป็นเด็กผู้หญิงผมยาว และทั้งใบหน้าของเธอมีเพียงแค่ปากที่กำลังยิ้มอยู่ เซฮุนวางสมาร์ทโฟนลงบนตักแล้วแกะซองขนมปัง งับมันไว้ในปากแล้วคว้ากล่องนมขึ้นมา แต่ก็ต้องหยุดชะงักทันทีที่หันไปเห็นใครคนหนึ่งที่นั่งอยู่ริมหน้าต่างในโรงอาหารอีกทั้งยังมองมาทางนี้โดยที่ไม่ละสายตาไปไหน
ผู้ชายคนนั้นที่เขารู้จักเพียงแค่ชื่อกับประวัตินิด ๆ หน่อย ๆ
‘คิมจงอิน’
TBC
#นอนอ่อย
ความคิดเห็น