คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #54 : [OS] Prince 4 Dead ฟิคสั้นตอนเดียวจบค่ะ
Prince 4 Dead
ฟิคเรื่องนี้เป็นฟิคสั้นที่มลินค่ะเขียนให้ตัวเองในวันเกิดนะคะ <3
ถ้าไม่เคยอ่าน #โคเรียนพาย อาจจะไม่เข้าใจฟิคเรื่องนี้ค่ะ
คุณเคยได้ยินเรื่องแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นบนโลกใบนี้ไหม
อย่างเช่นแวมไพร์ หมาป่า ยมทูตไปจนถึงซอมบี้อะไรเทือก ๆ นั้นน่ะ แต่มีผู้ชายคนหนึ่งที่ไม่เคยเชื่อเรื่องพรรค์นี้นอกเสียจากว่าจะได้เจอกับตัวจริง ๆ และดูเหมือนว่าเขาจะสมหวังแล้วล่ะ
พรึ่บ...
แสงไฟอ่อน ๆ จากไฟแช็คถูกจุดขึ้นภายในห้องมืดก่อนจะเผยใบหน้าหล่อได้รูปของชายหนุ่มรูปงาม กลิ่นเหม็นอับภายในตัวห้องสี่เหลี่ยมแคบ ๆ เพิ่มความกดดันเป็นอย่างมากแต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังอยู่ในระดับควบคุมสติได้
“หวะเด”
พูดพร้อมกับเอื้อมมือมาขยับกล้องวิดีโอที่วางอยู่ตรงระดับใบหน้า เชิดปลายคางปรับองศาแล้วลูบจอนผมอยู่สองสามครั้งแล้วกระแอมไอ “ยีดีต้อร้ะข้าสู่รากา ‘ปริ๊งคริกดิแอ๊ะเวงเจอร์’ ทุโคโคปะหล่าจาเท่ได้เหเพ่ในเท้ะนี้ และหลาโคอ่าจาขะหมวกคี้โสสาว่าเพ่พูกอารา แต่เพ่ขอบ่อว้าก่อเลอนะคับว่ามีแต่โคโง่ท่าน้าเท่ฟาเพ่พูกม่ารู้เรื่อ” พูดจบก็มีใครอีกคนเสนอหน้าโผล่เข้ามาในเฟรมและไม่ลืมที่จะจัดเผ้าผมขณะมองกล้อง
“ลูกพี่กูบอกว่า ยินดีต้อนรับเข้าสู่รายการปริ๊นซ์คริสดิแอดเวนเจอร์ พวกมึงคงประหลาดใจสินะที่เห็นชายหนุ่มรูปงามมาจุติในการบรรทึกเทปโลกที่แสนจะอัปปรีย์ทั้งที่ลูกพี่กูควรนอนโก่งดากอยู่ที่บ้าน และถ้าตอนนี้พวกมึงกำลังขมวดคิ้วสงสัยอยู่ว่าลูกพี่กูกำลังพูดอะไรแสดงว่าพวกมึงมันโง่! ดักดาน! กระจอก! อ่อน! ลิ้นหมา! มีแต่คนโง่เท่านั้นแหละที่ฟังปริ๊นซ์พูดไม่รู้เรื่อง!” พูดจบก็หันไปนวดไหล่ให้คนข้าง ๆ คนถูกประจบกระตุกยิ้มมุมปากพอใจแล้วมองกล้องอีกครั้ง
ปึง ๆ ๆ ๆ ๆๆ
“กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!!!”
“ไอ้สัดจุดไฟหาพ่อง! พวกมันแห่กันมาทั้งโคตรแล้ว!” เสียงตะโกนดังมาจากข้างหลังซึ่งนั่นก็ไม่ใช่ใครที่ไหนนอกจากผู้ร่วมชะตากรรมเดียวกับเขา ใบหน้าหล่อได้รูปยอมลดตัวหันกลับไปมองพวกสถุนนั่นด้วยหางตาเมื่อถูกขัดจังหวะ
“กูขอเวลาอี่ส๋านาเทด้าหม้าย” ชูสามนิ้วขึ้นมาพร้อมกับพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนที่สุดเท่าที่เคยพูดอ้อนวอนใครสักคนในชีวิต
“จงอินครับ...คุณปริ๊นซ์เขาบอกว่าขอเวลาอีกสามนาทีได้ไหม...ให้ตายเถอะทำไมผมฟังเขาพูดรู้เรื่อง” เซฮุนลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมกับทึ้งหัวอย่างบ้าคลั่ง ไม่ใช่แค่เขาที่สับสนในตัวเอง ตอนนี้ ‘คิมจงอินและลู่หาน’ ก็งงเป็นไก่ตาแตกไม่แพ้กันเมื่อจู่ ๆ ไอ้เด็กหน้าตายโอเซฮุนที่เขาเคยรู้จักเสือกกลายเป็นคนสองบุคลิก...
“งานโศกต้องมา” ลู่หานส่ายหน้าระอาขณะมองไปยังไอ้กระเหรี่ยงขี้เก๊กที่กำลังคุยกับกล้องวิดีโออยู่ส่วนเซฮุนก็เอาแต่เดินวนไปวนมาอยู่อย่างนั้น เสียงทุบประตูยังคงกดดันอย่างต่อเนื่อง สองเพื่อนซี้มองหน้ากันแล้วจงอินก็ดันเหล็กตรงช่องเล็ก ๆ ขึ้นเพื่อส่องดูบรรยากาศภายนอกแล้วก็ต้องผงะถอยหลังเมื่อตัวกินคนโผล่เข้ามา
“ไอ้สัด ไปเมื่อไหร่ดีครับ?” หันไปเรียกคนที่สถาปนาตัวเองให้เป็นเจ้าชาย ร่างสูงหันกลับมามองด้วยแววตาเรียบเฉยก่อนจะหันกลับเข้าหากล้องอีกครั้ง
“เซฮุง เมิงมานี่เด๊ะ” กระดิกนิ้วเรียกลิ่วล้อที่กำลังเดินวนไปวนมา เพียงแค่ได้สบตากันคนที่กำลังสบสนในตัวเองก็เปลี่ยนเป็นคนละคนก่อนจะถลาเข้าไปหาลูกพี่ด้วยความเร็วแสง
“ว่าไงพี่”
“จักกาง” พูดจบก็ชี้ไปที่กล้อง เซฮุนพยักหน้าแล้วยืดหลังตรงก่อนที่ปริ๊นซ์คริสจะลุกขึ้นเต็มความสูงเพื่อไปเลือกอาวุธที่วางอยู่บนโต๊ะ
“อย่างที่บอกไปก่อนหน้านี้ว่านี่มันคือรายการปริ๊นซ์คริสดิแอดเวนเจอร์ ซึ่งภารกิจคือกูกับลูกพี่แล้วก็ไอ้กระจอกสองตัวนั้นจะต้องหนีออกจากเมืองนรกนี่ไปขึ้นฮอลิคอร์ปเตอร์ให้ได้ มึงเคยเล่น Left 4 Dead ป่ะวะ เออนั่นแหละแค่นี้นะ เลิกกัน” พูดจบก็ปิดกล้องวิดีโอแล้วลุกขึ้นไปเลือกปืนพร้อมกระเป๋าพยาบาล
ทั้งสี่คนมีอาวุธครบมือ ลู่หานเลือกที่จะถือดาบคาตาน่ามากกว่าที่จะใช้ปืนเหมือนคนอื่น ๆ ร่างโปร่งมองหน้าแต่ละคนแล้วก็ถอนหายใจเบา ๆ กับภารกิจจำเป็นที่ต้องมาวิ่งหนีซอมบี้กับคนแปลกหน้าที่รู้จักกันดี จงอินพยักหน้าแบบขอไปทีเป็นเชิงบอกเขาว่า ‘เล่น ๆ ไปเหอะเดี๋ยวก็จบละ’ ลู่หานก็เลยดึงประตูเข้าหาตัวเพื่อให้คนอื่น ๆ ออกไปบู๊แหลก
ปัง ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ปืนกลมือเงียบยิงกราดใส่ตัวกินคนที่กำลังแห่มาทางนี้ด้วยความเร็วสูงก่อนที่ลู่หานจะวิ่งเข้าไปบวกในระยะใกล้แต่ก็ต้องหลังแอ่นเมื่อเข้าไปอยู่ในวิถีกระสุนของปริ๊นซ์คริสโดยไม่รู้ตัว
“ไอ้สัด อย่ายิงเพื่อนดิวะ!” จงอินหันไปตะโกนด่าไอ้หอกหักที่ยืนกัดริมฝีปากล่างพร้อมกับรัวปืนอย่างเมามันส์ พอได้ยินเสียงก่นด่าจากพระเอกฟิคอีกเรื่องปริ๊นซ์หน้าหล่อถึงกับเลือดขึ้นหน้า
เมิงเปคายถือกล้าด่ากูแบ่เน้ไอ้แม่เย้ก!!!
“แล้งา! กูยีโดแล้มาตาหม้าย ห๊า มาตายยา!!”
“ลูกพี่กูถามว่าแล้วไงวะ ต่อให้ลูกพี่กูยิงโดนมันก็จริงแต่แม่งตายห่ายัง อย่างมากก็แค่ HP ลด มึงจะบ่นไปให้แล็กตาซอยห้าบาทลดราคาเหรอ” พอได้ยินคำด่าที่หลุดออกมาจากปากเด็กสองบุคลิกแล้วคิมจงอินถึงกับเครียด จะด่ามันก็ยังไงอยู่แม่งเสือกหน้าเหมือนนายเอกฟิคกูอีก “จงอินครับ ระวังข้างหลัง!” ร่างบางหันไปยิงตัวกินคนที่พุ่งมาจากซอกตึกเพื่อช่วยอีกคนเอาไว้
นี่แหละครับที่กูด่ามันไม่ลง
“จะไปได้ยังวะ!!!” เสียงลู่หานเรียกสติสามหนุ่มให้กลับมา ทุกคนวิ่งไปข้างหน้าด้วยกันอย่างไม่เต็มใจนัก เห็นไอ้ห่าปริ๊นซ์ยิงมั่วซั่วแล้วก็เห็นอนาคตอยู่รำไรไม่วายกระสุนได้หมดก่อนถึงที่หมายแน่ บทสวดใด ๆ ในโลกก็คงไม่สามารถทำให้เขาสงบได้แล้ว ณ จุดนี้
“เดี๋ยก่อ...เดี๋ย ๆ ๆ ” ทั้งสามคนหันไปหาร่างสูงที่หยุดวิ่งขึ้นมากลางคัน จงอินเอาลิ้นดันกระพุ้งแก้มขณะมองปริ๊นซ์คริสยืนหอบแดกหลังจากวิ่งออกมาได้ไม่นาน “กูเหนื่อแล้”
“เหนื่อยเหี้ยไร นี่เพิ่งออกมาจากซอยเมื่อกี้เอง เฮ้ย!!!” ลู่หานเบิกตาโพลงก่อนจะเดินถอยหลังไปเรื่อย ๆ เมื่อถูกจ๊อกกี้ขึ้นขี่คอเป็นผีชัตเตอร์ พอเห็นอย่างนั้นจงอินกับเซฮุนก็ตั้งปืนยิงไปยังเป้าหมายเพื่อช่วยเพื่อน
ด้วยความที่ได้เล่นเป็นพระเอกทั้งที...
เพราะฉะนั้นปริ๊นซ์คริสจะยืนดูเฉย ๆ ไม่ได้
มึงรอก่อนนะตัวประกอบฟิคซอมบี้ที่แย่งซีนพระเอก กูจะไปช่วยมึงเดี๋ยวนี้!!
ร่างสูงกัดฟันแน่นแล้วหยัดตัวลุกขึ้นยืนก่อนจะรัวกระสุนปืนกลไปยังไอ้ผีขี่คอจนหมดแม็กและแน่นอนว่าไอ้ผีตัวนั้นไม่รอด...ปริ๊นซ์คริสส่ายหน้ายิ้ม ๆ พลางเปลี่ยนแม็กกาซีนอันใหม่เข้าไป ในใจก็นึกชมความสามารถตัวเองที่เกิดมามีพรสวรรค์เกินใครในโลก นอกจากจะหล่อแล้วยังยิงปืนแม่นอีกด้วย...คนอะไรช่างเลิศเลอเพอร์เฟ็คเอ็กซ์ระเบิดเชิดสิงโตได้ขนาดนี้
“ลู่หาน!” จงอินรีบเข้าไปหิ้วปีกเพื่อนให้ลุกขึ้นยืนก่อนจะช่วยปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้ รอยยิ้มบนใบหน้าร่างสูงหุบลงทันทีที่เห็นว่าอีกฝ่ายนอนหอบแดกอยู่ตรงนั้นเพราะถูกลูกหลงกระสุนเขา
“ระวังหน่อยสิครับคุณปริ๊นซ์คริส กระเป๋าพยาบาลเรามีคนละใบถ้าเกิดคุณยิงโดนเพื่อนบ่อยแบบนี้เราไปไม่ถึงจุดหมายแน่” เซฮุนร่างซอมบี้ฮาร์ดคีปเปอร์มองคาดโทษคนตัวสูง ปริ๊นซ์คริสยักไหล่อย่างไม่ยี่หระแล้วเดินนำไปข้างหน้าก่อนจะเดินถอยหลังเมื่อพวกผีดิบแห่กันมาทั้งหมู่บ้านโคโนฮะอีกแล้ว
“พั่วเมิงรี่ม่าหม้ายยยยยยยย” สบถอย่างเหลืออด นี่พวกมึงจะไม่ให้โอกาสปริ๊นซ์คริสผู้นี้ได้เดินเฉิดฉายเลยหรือไง จะรีบเข้ามาแดกอะไรขนาดนั้นกลัวกระสุนกูไม่หมดเหรอสัด ทั้งสี่คนกราดยิงใส่เป้าหมายพร้อมกับเดินถอยหลังไปเรื่อย ๆ จงอินเห็นท่าไม่ดีเลยมองหาทางหนีทีไล่จนกระทั่งเจอตรอกแคบทางด้านซ้าย
“ไปทางนั้น!!” ร่างหนาดันเซฮุนให้หนีไปก่อนแล้วตามด้วยลู่หานและแน่นอนว่างานนี้ปริ๊นซ์คริสจะไม่ยอมเสียสละวิ่งรั้งท้ายแน่ ๆ เพราะฉะนั้นคนที่สามที่วิ่งออกตัวคือเขา!!
“อั่ก!!”
แทบอยากทึ้งหัวตัวเองเมื่อเขาอุตส่าห์ยิงล่อพวกกินคนไว้ให้ไอ้ห่าปริ๊นซ์หนีไปก่อนแต่แม่งเสือกสะดุดขาตัวเองล้มอีก ขายาวอย่างเดียวไม่ได้นะแบบนี้ต้องโง่ด้วยถึงจะเต็มสูตร เซฮุนในร่างลิ่วล้อรีบวิ่งเข้ามาประคองลูกพี่ให้ลุกขึ้นยืนแล้วแบกอีกคนขึ้นขี่หลังแล้ววิ่ง
“ถ้ามีเมียแบบนี้กูคงผูกคอตายวันละหลายหน” สบถกับตัวเองเบา ๆ แล้วปาระเบิดท่อไปในฝูงตัวกินคนแล้วพวกมันก็แห่ไปรุมตามเสียงระเบิดเวลาก่อนจะ...บู๊ม...กลายเป็นโกโก้ครั้น
“กูเหนื่อแล้ พะก่อด้าหม้าย” น้ำเสียงหอบแดกอย่างคนหมดเรี่ยวแรงบอกไปยังเพื่อนร่วมทางอีกสามคน และสองเพื่อนซี้ก็ไม่ได้ใจร้ายใจดำจนเกินไปเพราะพวกเขาก็เหนื่อยกับการวิ่งมาเป็นเวลานานเหมือนกัน
จงอินนั่งลงบนโขดหินก่อนจะคว้ากระบอกน้ำดื่มจากที่คาดเอวแล้วกระดกดับกระหาย ส่วนลู่หานนั่งทำแผลที่เกิดขึ้นจากการโดนพวกกินคนกระทืบ ซึ่งคนที่เคยเล่นเกม Left 4 Dead จะเข้าใจดีว่าซอมบี้ในเกมนี้มันไม่กินคน มันกระทืบครัช
“ไหวเปล่าพี่” เซฮุนวางมือลงบนลาดไหล่คนตัวสูงด้วยความเป็นห่วง ในหัวคิดว่าจะต้องหนีออกไปจากที่นี่ด้วยกันให้ได้แม้ให้ไอ้หอกสองตัวนั้นจะตายห่าก็ตาม
“ไม่หวาแล้ พากูกะบ้าเท” สีหน้าปริ๊นซ์คริสในตอนนี้ไม่ต่างอะไรจากพวกตัวกินคนเลย มันช่างอิดโรยแมนอะไรเช่นนี้คิมจงอินรู้สึกอย่างนั้น
“ได้! เดี๋ยวผมจะพาพี่กลับบ้านเอง!” เซฮุนกำหมัดแน่นแล้วลุกขึ้นยืนด้วยสีหน้ามุ่งมั่น จงอินกับลู่หานมองหน้ากันเนือย ๆ ก่อนจะลุกขึ้นยืนบ้าง
“นานไปละสัด ลุก”
“เมิงม่าต้อมาส่ากูไอ้พั่วกะจ่อ!” ปริ๊นซ์คริสมองสองเพื่อนซี้ด้วยแววตาเกรี้ยวกราด สองหนุ่มพยักหน้าแบบขอไปทีเป็นเชิงบอกว่า ‘งั้นช่างหัวมึงเถอะงั้น’ ก่อนจะเดินนำหน้าไป เซฮุนชักกระตุกอยู่ในที วูบหนึ่งเขารู้สึกเหมือนโลกหมุนแล้วค่อย ๆ หันมามองคนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ในตอนนี้
“...”
“ไปเด่ะ ยือรอแม่เมิงมาตะริ๊บี้หรา!”
“ครับ...” ร่างบางพยักหน้าแล้วรีบวิ่งตามหลังจงอินไปติด ๆ พร้อมกับช่วยพับแขนเสื้อที่หลุดลงมาให้
ปริ๊นซ์คริสรู้สึกหงุดหงิดใจอยู่ไม่น้อยกับบุคลิกของไอ้ลิ่วล้อตัวดีที่เดี๋ยวเปลี่ยนกลับไปกลับมาอยู่นั่น ร่างสูงจิ๊ปากอย่างหัวเสียแล้วเดินตามหลังไปแต่สองขาก็หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง...
“ฮือออออ....ฮือออ...”
“คายร้อห้าวะสะ” พึมพำกับตัวเองแล้วสาดไฟฉายไปยังเป้าหมายแล้วก็พบผู้หญิงตัวเทา ๆ ผมขาว ๆ นั่งปิดหน้าร้องไห้อยู่ ด้วยความที่ปริ๊นซ์คริสแห่งโคเรียนพายเป็นสุภาพบุรุษ สุดเกินห้ามใจถึงแม้ว่าจะเยือกเย็นบ้างเป็นบางครั้งแต่ถ้ามีกรณีผู้หญิงมาร้องไห้ต่อหน้าต่อตาแบบนี้ ปริ๊นซ์มองข้ามไปบ่ดั้ย
“น้อส๋าร้อห้าทามา...” น้ำเสียงอ่อนโยนถูกส่งไปยังอีกคนที่ยังคงปิดหน้าร้องไห้อยู่อย่างนั้น เกือบสิบวินาทีที่เขาได้แต่นั่งใบ้แดกแต่ผู้หญิงคนนี้ก็ยังคงร่ำไห้เหมือนญาติฝ่ายไหนถึงแก่กรรม ร่างสูงหายใจฮึดฮัด นี่มันจะมากเกินไปไหมกล้าดียังไงถึงได้ให้ปริ๊นซ์คริสผู้เลอโฉมมานั่งง่าวแดกแบบนี้!
พรึ่บ!!
ไฟฉายส่องหน้าแม่ง!!!
ไวเท่าความคิด ทันทีที่ไฟฉายส่องเข้าเบ้าหน้าหญิงสาวก็หันมาสนใจเขาจนได้ ใบหน้าซีดเผือดเหมือนกับว่าร่างนี้ไม่มีเลือดคอยหล่อเลี้ยง ริมฝีปากฉีกกว้างราวกับเคืองโกรธที่ถูกรบกวนเวลาร้องไห้ ปริ๊นซ์คริสสตั้นไปห้าวิก่อนที่ฝ่ามือเล็กตะปบหน้าเขาอย่างแรงจนเทกระจาดล้มลงไปกับพื้นในเวลาถัดมา
“อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก!!!”
ทั้งสามคนหันกลับไปมองข้างหลังแล้วก็ต้องเบิกตาโพลงเมื่อเห็นปริ๊นซ์คริสผู้เย่อหยิ่งถูกผีดิบสาวข่วนหน้ารัว ๆ จนต้องคลานหนีอย่างทุรนทุราย
“เหี้ยแล้ว แม่งโดน Witch ตบ” ลู่หานบอกแล้วก็ต้องหันหลังกลับไปยิงตัวกินคนที่แห่กันมาอีกระลอก
“เอาไงดีครับ!!” เซฮุนถามความเห็นขณะยิงช่วยลู่หาน ฝูงผีดิบที่แห่เข้ามาอย่างไม่มีที่สิ้นสุดทำให้พวกเขาต้องตัดสินใจ พอหันกลับไปข้างหลังก็เห็นปริ๊นซ์คริสที่กำลังโอดร้องโหยหวนขอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนา
“ชั่วกูดั้วววววววววววววววววววววว!!!!”
“จงอิน!! กระสุนกูจะหมดแล้ว!!” พอได้ยินเสียงเพื่อนบอกขาทั้งสองข้างที่กำลังจะย้อนกลับไปช่วยไอ้หอกปริ๊นซ์เลยหยุดชะงักแล้วหันกลับไปช่วยลู่หานกับเซฮุน
“เรายืนอยู่ตรงนี้ไม่ได้แน่ เราต้องหากระสุนเพิ่มนะครับ!!” ร่างบางบอกแล้วสองเพื่อนซี้ก็เห็นด้วย
“อย่าที้กูว้าโคเดียยยยยยยยยยยยยยยย โนวววววววววววววววววว”
ปริ๊นซ์คริสกล่าวทั้งน้ำตา ไอ้พวกเวรตะไลนี่นอกจากจะหน้าตาไม่ดีแล้วยังจิตใจหยาบช้าด้วย พวกมันยังมีความเป็นคนอยู่ไหมถึงได้กล้าทิ้งมรดกโลกอย่างเขาไว้ตรงนี้ แต่ก็แค่วูบเดียวเท่านั้นแหละที่ปริ๊นซ์คริสต้องจมอยู่กับความผิดหวัง ริมฝีปากของเขาก็ฉีกยิ้มกว้างเมื่อเห็นลิ่วล้อผู้ซื่อสัตย์วิ่งแหวกฝูงตัวกินคนมาเพื่อช่วยยิงอีดอกนี่แล้วช่วยประคองเขาให้ลุกขึ้นยืน
“ไหวไหมพี่!” เซฮุนถามด้วยความเป็นห่วงพร้อมเอากระเป๋าปฐมพยาบาลออกมาช่วยลูกพี่ที่เลือดลดฮวบไปเยอะ ปริ๊นซ์คริสยืนผงาดให้อีกคนปฐมพยาบาลให้แล้วปรายตามอง
“โสแล้ที่กูโย่ะตาแหน่ตีงขวาให้เมิง”
“...” เซฮุนถึงกับปากสั่นเมื่อได้รับคำเยินยอจากลูกพี่ “แน่นอนพี่...ตำแหน่งตีนขวาไม่มีใครเหมาะไปกว่าผมอีกแล้ว!”
“พวกมึงจะยืนพลอดรักกันอีกนานไหมสัด!” จงอินตะโกนมาจากบนชั้นสองของบ้านร้าง ทั้งคู่เงยหน้าขึ้นมองเพื่อนร่วมทางที่น่าจะเรียกว่าศัตรูร่วมทางมากกว่าก่อนจะเบะปาก
“เสื่อ!!”
“ลูกพี่กูบอกว่าเสือกนะเสือก!!”
“กูก็ไม่อยากเสือกหรอกถ้าไม่ติดว่าภารกิจนี้ต้องมีพวกมึงด้วยน่ะ”
“คุณหึงผมเหรอครับจงอิน...” จากใบหน้าเย่อหยิ่งเปลี่ยนเป็นเรียบเฉยแต่ดูน่ารักเหมือนกับทุกทีที่ได้มอง เป็นอีกครั้งที่คิมจงอินอยากเอาหัวโขกผนังเมื่อเห็นอีกคนสลับร่างไปมา
“แล้วแต่จะคิดเหอะ ไปยัง!”
“ครับ” หันไปมองคนตัวสูงเป็นเชิงบอกให้ไปพร้อมกันแล้วปริ๊นซ์คริสผู้เข้าใจอะไรง่ายก็ไม่ได้ยืนบื้อนานไปกว่านี้ พวกเขาวิ่งตามสองเพื่อนซี้ไปเรื่อย ๆ จนทะลุไปหลังหมู่บ้านแล้วก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อเห็นฮอลิคอร์ปเตอร์กำลังตรงมาทางนี้ แต่ที่ทำให้คิ้วทั้งสองข้างต้องขมวดเข้าหากันก็คือ...บันไดยาวที่ห้อยลงมานั้นมีคนโหนอยู่
“สวัสดีทุกคน พระเอกมาแล้ว”
“...เชี่ยไรวะนั่น” ลู่หานสบถครั้งที่ร้อยนับจากเริ่มภารกิจ พวกเขามองไปยังผู้มาใหม่ที่กำลังโปรยจูบให้กับทุกคนแล้วก็ได้คำตอบ
“นั่นมันไอ้เชี่ยไวท์ปริ๊นซ์นี่พี่!” เซฮุนหันไปบอกลูกพี่ที่ยืนแสยะยิ้มอยู่ข้าง ๆ
“ป้ะชังยอง...เมิงกล้าเดยางาถือด้าเสร่อข้ามาในฟิ๊เรื่อเน้”
“มันพูดว่าไรวะ” จงอินสะกิดแขนแล้วเซฮุนก็สะบัดออกอย่างรังเกียจ
“ลูกพี่กูบอกว่าไอ้เชี่ยปาร์คชานยอลมันกล้าดียังไงถึงเสร่อเข้ามาในฟิคเรื่องนี้ ไอ้สัด! ตัวละครใน Left 4 Dead Co-op กันได้แค่สี่คน ใครเชิญมึงมา!!” เซฮุนตะโกนขึ้นฟ้าก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อชายหนุ่มที่โหนบันไดตกลงไปในน้ำเพราะถูกก้อนหินปริศนาเขวี้ยงใส่
“หล่อร่วงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงงง”
“โอยกูเครียด รีบพากูไปจากที่นี่ที” นวดขมับยิ๊ก ๆ ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฮอลิคอปเตอร์ที่กำลังเทียบจอดลงพื้น
“เห้ย พ่อมึงมาโน่นแล้ว!” จงอินหันไปตามเสียงของเพื่อนซี้แล้วก็ต้องอ้าปากค้างเมื่อเห็นตัวประหลาดที่ยืนอยู่บนหลังคาบ้านซึ่งมีแขนใหญ่ข้างเดียวและที่สำคัญมันกำลังจะเขวี้ยงก้อนหินยักษ์มาทางนี้
“วิ่งไปขึ้นฮอล์!!!”
ฟิ้วววว....ตุ๊บ!!
สองเพื่อนซี้กระโดดหลบไปคนละทางเมื่อก้อนหินลอยมาทางนี้ จงอินรีบเข้าไปคว้าข้อมือเซฮุนให้วิ่งไปขึ้นฮอล์ด้วยกันและตามด้วยลู่หาน ร่างหนาหอบหายใจหนักพอได้สติก็เงยหน้าขึ้นมองคนขับที่ยังไม่เอาฮอล์ขึ้นสักที
“ไปสิ รออะไรอยู่?!”
“ภารกิจจะผ่านได้ก็ต่อเมื่อเพื่อนร่วมทีมขึ้นมาครบแล้ว” พูดจบทั้งสามก็หันควับไปทางด้านข้างแล้วก็เห็นปริ๊นซ์คริสกำลังปีนขึ้นไปบนเสาไฟฟ้าอย่างทุรนทุราย
“ไอ้เชี่ย! มึงจะปีนขึ้นไปทำรากมะม่วงอะไรฮอล์อยู่ทางนี้!” ลู่หานตะโกนด่าอย่างเหลืออด
“กูไปม่าด้า!!”
“ไม่ได้ห่าไร เมื่อกี้เขาก็วิ่งมาพร้อมกันหมดเหลือแต่มึงอ่ะทำธุรกิจแสนล้านอะไรอยู่”
“ก็กูวิ่ไม่ทังอ่ะ”
“ไม่ทันก็ช่างหัวมึง...เอาเครื่องขึ้นได้เลยพี่” จงอินสะกิดแขนคนขับฮอล์แต่อีกฝ่ายกลับส่ายหน้าปฏิเสธ
“จะเอาฮอล์ขึ้นได้ก็ต่อเมื่อเพื่อนร่วมทีมคนนั้นตายแล้ว”
“อ้าวนรก”
“งั้นไปทำให้แม่งตายดีไหม” ลู่หานถามอย่างเอาจริง
“ทำยังไงดีครับ เขาขึ้นไปสูงขนาดนั้นพวกกินคนคงตามขึ้นไปไม่ได้แน่” เซฮุนขมวดคิ้ว
“555555555555555555555555555555555555”
ทั้งสามคนหันไปมองตัวการที่กอดเสาไว้แน่นแล้วหัวเราะอย่างสะใจ จงอินกัดฟันกรอดแล้วก็ต้องกระโดดลงจากฮอลิคอร์ปเตอร์เมื่อชาร์จเจอร์เขวี้ยงก้อนหินมาอีกครั้ง
“โสน้าหน้าพั่วเมิงแล้ นี่คือโบ่ะโลโท่กขอโคทอราโย้ก” ปริ๊นซ์คริสหัวเราะลั่นขณะมองไปยังชายหนุ่มทั้งสามคนที่กำลังวิ่งหนีตายหัวซุกหัวซุน พวกมันบังอาจมากที่กล้าทิ้งให้เขาโดนรุมประชุมตีนโดยที่ไม่คิดเข้ามาช่วย ผลลัพธ์ของคนทรยศต้องเป็นอย่างนี้!
“ไอ้ห่าปริ๊นซ์!!!!!!”
“กูไม่ตาดั้ววววววววว 55555555555555” เสียงเยาะเย้ยกรอกเข้าหูไม่ได้ขาดจากคนที่กอดเสาไฟฟ้าแน่นเป็นหมีโคอาล่า
ลู่หานสบถด่าคำหยาบอย่างต่อเนื่องแล้ววิ่งหนีเข้าไปในบ้านเพื่อหากระสุนสำรอง ส่วนจงอินกับเซฮุนแยกกันวิ่งหนีและแน่นอนว่าตอนนี้ชาร์จเจอร์กำลังวิ่งไล่คนที่ถือไขควง...
ปริ๊นซ์คริสเสยผมขึ้นพลางหลับตาลงรับบรรยากาศเย็น ๆ บนเสาไฟฟ้าก่อนจะลืมตา เสียงปืนที่เงียบไปเรียกรอยยิ้มจากร่างสูงได้เป็นอย่างดี ขนาดสิวยังไม่กล้าขึ้นหน้ากูแล้วพวกมึงเป็นใครถึงได้ทำแบบนี้พวกกระจอก!!!
ไอ้ลิ่วล้อทรยศที่เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายมึงต้องได้รับบทเรียนอันสาสมแบบนี้แหละถูกต้องแล้ว ส่วนไอ้สองคนนั้น...ได้ข่าวว่าฟิคซอมบี้พวกมึงเก่งมากใช่ไหม ไขควงมึงน่ะล่อชาร์จเจอร์ได้หรือเปล่า...แล้วไอ้โจรกระจอกตีนผีมันจะวิ่งเก่งสักแค่ไหน...
หึหึ...
“กูบ่อแล้ช่าหม้าย...ว่าฟิ๊เรื่อเน้กูเปพระเอ่...”
“แม่เย้ก”
The END
จบเถอะ เขียนอะไรก็ไม่รู้ 55555555555555555555
ใช้เวลาเขียน 18 หน้าภายในหนึ่งชั่วโมงครึ่ง เป็น OS ที่เผางานที่สุดแบบรัวนิ้วไม่หยุด ขำไม่ขำไม่รู้นะคะ งงไปหมดละ 555555555555555555555555
สุขสันต์วันเกิดมลินค่ะปีที่ยี่สิบหก <3
อ่านจบแล้วอยากเวิ่นเชิญแท๊ก #ficzombiepie นะคะ (ficzombie ft. koreanpie) 555555555555555555
ความคิดเห็น