ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ZOMBIES HARD CREEPER | KAIHUN CHANBAEK FT.EXO

    ลำดับตอนที่ #48 : Chapter 45 :: Flashback

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 13.26K
      117
      5 มี.ค. 57

    ? Tenpoints!

     

     

     

     

    Chapter 45

    Flashback

     

     

     

     


     

    CUT (งงไปหมด)

     

     

     

     

     



     

    กึ่ก!

    อะไร ร่างสูงก้มลงมองผ้าห่มสีเข้มที่มาพร้อมกับกลิ่นเหม็นอับที่อีกคนโยนลงบนพื้นก่อนจะเงยหน้าขึ้น ยุนฮามองคนสองคนสลับไปมาแล้วก็ยัดนกย่างที่อี้ฟานแอบเอามาให้เข้าปากเป็นคำสุดท้ายแล้วเช็ดมือลงกับเสื้อ

    ถ้าไม่อยากหนาวตายก็ทนกลิ่นหน่อยแล้วกัน โดคยองซูว่าพลางมองไปยังจำเลยที่กำลังยกน้ำเปล่าขึ้นดื่มกลัวผีเปล่าล่ะ?

    ผมเหรอ? ยุนฮาชี้หน้าตัวเอง คยองซูแค่นยิ้มแล้วโยนเสื้อแขนยาวให้และเด็กหนุ่มก็รับไว้ได้พอดี

    ถ้าไม่กลัวผีกลับมาทวงของก็ดีไป เพราะเจ้าของมันเพิ่งโดนพวกผีเดินได้กินไปเมื่อเช้านี้

    ...

    ขอบคุณครับ ยุนฮาโค้งหัวให้คนตัวเล็กที่อุตส่าห์มีน้ำใจหาผ้าห่มมาให้ ทุกคืนที่ผ่านมาเขาต้องนอนขดตัวทนหนาวบนพื้นเย็นและมีเพียงแค่เสื้อกันหนาวตัวเดียวของอี้ฟานเท่านั้นที่ช่วยบรรเทาความหนาวเหน็บ คยองซูไม่ได้ตอบรับคำขอบคุณนั้นด้วยท่าทางหรือคำพูด ร่างเล็กเปิดประตูห้องออกไปแล้วก็หยุดชะงักเมื่อได้ยินเสียงเรียกรั้งท้าย

    เดี๋ยว

    ...? เอี้ยวหน้าหันกลับไปมองอีกฝ่ายด้วยแววตาเรียบเฉย ผู้ชายคนนี้ที่เอาแต่จับตามองตลอดราวกับมีคำถามอยู่ในใจแต่ก็ไม่กล้าพูดออกมา

    ขอบใจ

    เรื่องผ้าห่มน่ะนะ?

    ใช่

    แสนดีไม่มีใครเทียบ คยองซูหัวเราะอีกคนที่อุตส่าห์ถ่อหน้าออกมาเพื่อขอบคุณเขาแทนคนอื่นมันก็แค่ของคนที่ตายแล้ว ผมไม่ได้มีน้ำใจอย่างที่คุณคิดหรอก

    แต่นายเลือกที่จะไม่สนใจก็ได้ไม่ใช่เหรอ?

    ที่ผมเป็นอยู่มันไม่ได้เรียกว่าสนใจนี่? คนตัวเล็กกระตุกยิ้มผมก็แค่ขี้เกียจลากศพออกไปทิ้งถ้าเกิดว่าเด็กนั่นหนาวตายก็เท่านั้น

    ...

    ผมไม่ชอบแตะตัวคนตาย นั่นแหละคือเหตุผล

    ร่างสูงมองใบหน้าเรียบเฉยของอีกฝ่ายแล้วพยายามอ่านความคิดของเด็กคนนี้ที่ดูเหมือนว่าจะอายุน้อยที่สุดในกลุ่มโจร จากที่ได้ฟังผ่าน ๆ หูก็พอจะจับใจความได้ว่าหมอนี่เป็นเด็กที่ติดสอยห้อยตามมาตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ในฐานะลูกหมาตัวหนึ่งที่ต้องคอยทำตามคำสั่งเจ้านาย

    ในวงเหล้าที่มีเรื่องของโดคยองซูเป็นประเด็นขึ้นมาถึงจะแค่ไม่กี่นาทีก็ถูกกลบทับด้วยเรื่องเซ็กส์ก็เถอะ แต่มันก็พอทำให้เขาได้ข้อมูลของเด็กคนนี้มากขึ้นพอสมควร จากพฤติกรรมที่เขาสังเกตมันทำให้คิดไปได้สองแง่ว่าโดคยองซูเป็นเด็กที่สามารถทำได้ทุกอย่างถ้ามันทำให้เขามีชีวิตรอดต่อไปโดยที่ไม่ถูกรังแก ส่วนแง่ที่สอง...เด็กคนนี้อาจจะเป็นโรคจิตที่สนุกกับการเห็นเรื่องคอขาดบาดตายของคนอื่นเป็นเรื่องตลก

     

     
     

    แต่ตอนนี้เขาชักจะไม่แน่ใจแล้วสิ...ว่าเด็กคนนี้เป็นคนยังไงกันแน่?

     
     

     

    แต่ทั้งคู่หันไปมองประตูบานใหญ่ที่เปิดออกพร้อมกับร่างผู้หญิงสองคนที่ถูกผลักเข้ามาทางด้านในจนล้มลงไปกับพื้น ทั้งสองคืบคลานเข้าไปกอดกันเอาไว้แล้วกวาดสายตาที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวไปรอบ ๆ ตัว

    อย่าทำอะไรเราสองคนเลยขอร้องล่ะ!”

    ฮือ...

    เอาอีแก่นี่ออกไปห่าง ๆ น้องคนสวยทีซิ

    อย่าทำแม่ฉันนะ ปล่อย!”

    ...

    เอาเว้ย! มีผู้หญิงมาด้วย! ฮ่า ๆ ๆ เสียงหัวเราะประสานดังก้องไปทั่วผับมืดที่ได้แสงสว่างจากเทียนไขเล่มใหญ่ที่อยู่ตามจุดเท่านั้น อี้ฟานยืนนิ่งขมวดคิ้วเข้าหากันโดยไม่รู้ตัวขณะพวกสารเลวที่กำลังลากแม่ลูกออกจากกันโดยที่ทำอะไรไม่ได้เลย

    อา...เหยื่อรายใหม่สินะ ร่างสูงหันไปมองเด็กคนข้าง ๆ ที่มองไปยังหญิงสาวอย่างเหม่อลอย

    หมายความว่ายังไงที่บอกว่า เหยื่อรายใหม่?’ ” คยองซูหันมามองอีกฝ่ายก่อนจะหันกลับไปมองที่เดิม

    นี่มันไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกมันลากผู้หญิงมา คนตัวเล็กก้มลงนับนิ้วตัวเองแล้วก็เงยหน้าขึ้นนี่ก็รายที่สิบห้าแล้วตั้งแต่เริ่มตั้งค่าย

    ...

    วันที่กลุ่มคุณโดนจับ เด็กผู้หญิงที่ถูกลากมาด้วยก็ตายเพราะถูกกัดตอนเหตุการณ์ชุลมุน คยองซูจ้องมองอีกฝ่ายราวกับจะโทษว่ามันคือความผิดของเขาเพราะเธอถูกขังไว้ในห้อง

    ...

    พวกที่ถูกยิงกลายเป็นผีเดินได้ มันพังประตูเข้าไปเพราะได้ยินเสียงกรีดร้องขอความช่วยเหลือของเธอ

    ...

    พนันได้เลยว่าอีกไม่ถึงห้านาทีผู้หญิงที่อายุมากกว่าจะถูกลากไปฆ่าทิ้ง

    ...

    จับเวลาสิ...แบบที่คุณชอบทำไง ไม่เคยเห็นเด็กที่มีแววตาน่ากลัวขนาดนี้มาก่อนเพียงแค่ได้สบตากัน ร่างสูงนิ่งไปครู่เดียว...ไม่ถึงสิบวินาทีเท่านั้นเขาก็ทำตามคำพูดของอีกคน

    นิ้วเรียวยาวกดปุ่มข้างนาฬิกาข้อมือเพื่อจับเวลา...คยองซูหันกลับไปที่เดิมแล้วมองพวกนักโทษสารเลวหื่นกามทั้งหลายที่กำลังให้ความสนใจกับผู้หญิงคนนั้น เธอไม่ได้มีความสวยโดดเด่นอะไร กลับกันแล้วหุ่นก็แอบมีเนื้อมีหนังจนเรียกได้ว่าอวบแต่วินาทีนี้จะมีอะไรดีไปกว่าการมีเซ็กส์กับผู้หญิงสักคนเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศแทนที่จะใช้อุ้งมือสำเร็จความใคร่กันล่ะ?

    แม่งเอ๊ย อีเวรนี่กัดแขนกู!”


    ผลั่วะ!

     

     
     

    อ๊ะ!” ใบหน้าเรียวสวยถูกตบอย่างแรงจนล้มลงไปกับพื้นอีกครั้ง

    ฉันก็ให้ของไปหมดแล้ว...ได้โปรดปล่อยพวกเราไปเถอะ

    มึงตลกเปล่าอีแก่ กูลงทุนเปลืองกระสุนเจาะกะโหลกกลุ่มของมึงไปตั้งกี่นัดแล้วลากมึงสองแม่ลูกมาถึงนี่เพื่อที่จะปล่อยไปง่าย ๆ น่ะเหรอ?

    จะปล่อยก็ได้...แต่ต้องเป็นหลังจากที่พวกกูวนรอบลูกสาวมึงครบแล้วน่ะนะ ฮ่า ๆ ๆ

    อย่านะ! อย่าเข้ามา!”

    คยองซูคว้าแขนแกร่งเอาไว้เมื่ออีกคนก้าวขาไปข้างหน้าเพราะทนดูต่อไปไม่ไหว เด็กหนุ่มส่ายหน้าเป็นเชิงห้ามเพราะเขารู้ดีว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าร่างสูงออกตัวเป็นฮีโร่ในสถานการณ์แบบนี้

    คนล่าสุดที่ทำตัวเป็นพระเอก เขาถูกจับมัดแล้วเอาไปโยนทิ้งกลางเมืองที่มีแต่พวกผีเดินได้ ร่างของเขาถูกกินไม่เหลือซากภายในเวลาไม่ถึงสามนาทีแถมผู้หญิงคนนั้นก็ถูกลงแขกข้ามวันข้ามคืน เธอทนอยู่ต่อไปไม่ไหวเลยฆ่าตัวตาย...นี่คือจุดจบของการเป็นฮีโร่และนางเอกในชีวิตจริง

    ...

    ถ้าไม่อยากเดือดร้อนก็ทำเป็นมองไม่เห็นจะดีกว่า

    นั่นคือสิ่งที่นายทำมาตลอดสินะ

    ใครจะไปทำเท่ได้อย่างคุณกันล่ะ? ช่วยให้คนอื่นหนีไปแล้วตัวเองจะเป็นจะตายยังไงก็ได้ ตลกเป็นบ้า อี้ฟานหันไปมองคนข้าง ๆ พร้อมกับเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ คยองซูยิ้มอย่างมีความหมายเมื่อนึกถึงเรื่องราวในวันนั้นตอนที่เขาแอบหลบอยู่ในความมืดแล้วเห็นร่างสูงนอนราบอยู่กับพื้นหลังจากถูกยิงก่อนที่จะมีผู้ชายอีกสองคนตามไปช่วย ผมเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างในวันนั้น...

    ...

     

     

     

     

    อู๋อี้ฟาน

     

     

     
     

     

     

     

    เวลาผ่านไปแล้วสามวันกับการที่สองสามีภรรยาได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตของปาร์คชานยอลโดยไม่ตั้งใจ ในทีแรกก็คิดจะช่วยหารถให้สักคนแล้วต่างคนต่างแยกกันไปคนละทางอย่างที่ควรจะเป็นเพราะใจเขาก็ไม่ได้มีความคิดที่จะปักหลักอยู่กับคนกลุ่มใหม่แต่อย่างใด แต่เหมือนว่าพระเจ้าจะไม่เป็นใจสักเท่าไหร่ พอขับเข้าไปในเมืองถ้าไม่เจอพวกฝูงตัวกินคนก็เจอแต่รถที่ไม่มีกุญแจและนั่นมันก็เกินความสามารถของเขาที่จะต่อสายตรง

     

     
     

    วูบหนึ่งมันทำให้เขานึกถึงคู่หูเพื่อนซี้ที่มีความสามารถทางด้านนี้...

     
     

     

    แน่นอนว่าชีวิตคนเราไม่ได้อยู่ด้วยการสังเคราะห์แสงเหมือนต้นไม้ ไม่ต้องถึงมือพวกตัวกินคนเขาก็ตายได้ถ้าไม่มีอาหารตกถึงท้องนานเกินกระเพาะจะทนไหว โซจีซบมองชายหนุ่มร่างสูงที่นั่งอยู่กับขอบหน้าต่างพร้อมกับยกขาขึ้นข้างหนึ่งพลางทอดสายตาออกไปข้างนอกอย่างไร้จุดหมาย ควันบุหรี่ถูกอัดเข้าปอดครั้งแล้วครั้งเล่า ปาร์คชานยอลรู้ดีว่าตอนนี้เขาสูบบุหรี่จัดมากกว่าตอนที่ภรรยาของเขาเคยร้องขอให้เลิกเสียอีก

     แต่จะให้ทำยังไงได้? ในเมื่อทุกที่ ๆ เขาไปสิ่งที่หลงเหลืออยู่มันไม่ใช่อาหารกระป๋องหรือข้าวสาร บุหรี่เป็นสิ่งที่ใครหลายคนมองข้ามที่จะเก็บเพราะเป้าหมายคือของจำเป็นที่ต้องใช้ในชีวิตประจำวัน แต่ใครจะรู้...ว่ามันสามารถช่วยประทังชีวิตผู้ชายอย่างเขาไปได้ตั้งช่วงเวลาหนึ่ง

    ชานยอล

    ... ร่างสูงหลุดจากความคิดก่อนจะหันไปมองชายหนุ่มที่หยุดยืนอยู่ไม่ห่างจากตรงนี้ คิ้วหนาเลิกขึ้นสูงก่อนจะกะเทาะขี้บุหรี่ออกเบา ๆ ครับ?

    ผมรู้ว่าเราควรประหยัดแต่คุณน่าจะทานอะไรบ้าง ชายหนุ่มฝืนยิ้มออกมาเพื่อให้บรรยากาศผ่อนคลาย ตั้งแต่ได้ชานยอลมาเป็นเพื่อนร่วมทางบทสนทนาที่เกิดขึ้นก็แทบจะนับประโยคได้ใช่ว่าผมอยากก้าวก่ายชีวิตของคุณนะครับแต่ว่าบุหรี่น่ะ...

    กลิ่นมันลอยไปทางภรรยาคุณเหรอ? ชานยอลมองทะลุไปข้างหลังชายหนุ่มแล้วก็เห็นผ้าม่านสีดำที่ปิดคลุมช่องว่างแทนประตูในตึกร้างที่ยังก่อสร้างไม่เสร็จ

     

     
     

    มันคือตึกร้างที่ปลอดภัยที่สุดในละแวกนี้สำหรับพวกเขาทั้ง...สี่คนแล้ว

     
     

     

    เปล่าครับ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอก จีซบเดินเข้ามาอีกเพียงแค่สามก้าวแล้วเงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มที่อายุน้อยกว่าเขาผมเลิกสูบบุหรี่ตั้งแต่รู้ว่าฮโยจินท้อง ผมไม่อยากให้ลูกรับสิ่งไม่ดีเข้าไปน่ะ

    เหรอครับ ร่างสูงตอบเสียงเรียบแล้วสูบบุหรี่อีกครั้ง

    ผมเป็นห่วงสุขภาพของคุณด้วย อย่างที่เราคุยกันไว้ว่าถ้าหาเสบียงรอบนี้ได้แล้วคุณจะแยกตัวออกไป

    ครับ

    อยู่ตัวคนเดียวคุณต้องดูแลสุขภาพให้ดีนะถ้าล้มป่วยขึ้นมาแล้วจะลำบาก ถึงจะเพิ่งเจอกันได้แค่ไม่กี่วันแต่ถ้าเอาความดีกับความเย็นชาของปาร์คชานยอลมาหักลบกันแล้วยังไงซะโซจีซบกับภรรยาก็เป็นหนี้บุญคุณผู้ชายคนนี้อยู่ดี มันเลยอดไม่ได้ที่เขาจะเป็นห่วงเป็นใยคนที่ช่วยชีวิตเขากับลูกเมียให้พ้นจากความตาย

    ผมคงไม่ตายเพราะมะเร็งหรอก คุณสบายใจได้

    ...

    แต่ก็ขอบคุณที่เป็นห่วงผมนะครับ ร่างสูงยิ้มบาง ๆ พร้อมกับทิ้งก้นบุหรี่ลงพื้นแล้วใช้รองเท้าขยี้มันให้ดับก่อนจะปล่อยควันที่อัดเข้าปอดระลอกสุดท้ายออกมา

    จีซบคะ

    ทั้งสองคนหันกลับไปที่ผ้าม่านสีดำแล้วก็เป็นคุณสามีที่รีบวิ่งเข้าไปทันทีที่ได้ยินเสียงภรรยา ชานยอลถุยน้ำลายขมลงพื้นแล้วล้วงกระเป๋ากางเกง ขายาวตรงเข้าไปหยุดอยู่หน้าประตูห้องที่ไม่มีแม้แต่ประตูหรือหน้าต่าง มีเพียงแค่ผ้าม่านที่ใช้ปิดบังเท่านั้น

    ผมเข้าไปได้หรือเปล่า?

    เชิญค่ะชานยอล

    มือแกร่งแหวกผ้าม่านสีดำออกแล้วก็เห็นว่าที่คนเป็นพ่อกำลังเอาหูแนบกับท้องภรรยาของเขา คงไม่ต้องบรรยายถึงสีหน้าแห่งความสุขล้น ริมฝีปากโซจีซบยิ้มกว้างจนแทบฉีกถึงใบหูถ้าปาร์คชานยอลไม่จินตนาการด้วยความอิจฉาจนเกินไป มือแกร่งที่กำลังลูบผ่านท้องนูนป่องอย่างทะนุถนอมจนทำให้เขาอดถามคำถามนี้ออกไปไม่ได้

    พวกคุณจะเอายังไงกันต่อไป?

    อ่า...

    ผมไม่ได้หมายถึงเส้นทางที่คุณจะไป แต่ผมหมายถึงเด็กในท้อง ชานยอลลากเก้าอี้เก่าไปที่มุมห้องแล้วนั่งลง รอยยิ้มบนใบหน้าของสามีภรรยาเลือนหายไปเมื่อต้องกลับมานึกถึงเรื่องราวที่ทำให้เครียดมาตลอดหลายเดือน

    คุณท้องกี่เดือนแล้วฮโยจิน

    แปดเดือนค่ะ

    วางแผนไว้ว่ายังไงครับ? ในทีแรกก็ถามด้วยความอยากรู้แต่ตอนนี้ปาร์คชานยอลก็อดที่จะให้คำแนะนำไม่ได้ นี่อาจจะเป็นความเคยชินของเขาอย่างหนึ่งที่แก้ไม่ได้สักทีรู้ใช่ไหมว่าตอนนี้ที่โรงพยาบาลคงไม่มีหมอรอทำคลอดให้คุณ ทั้งคู่พยักหน้าช้า ๆ ชายหนุ่มโอบไหล่ภรรยาให้เอนตัวมาซบแผงอกเขาพร้อมกับลูบหัวเบา ๆ

    คุณสองคนควรหากลุ่มใหม่อยู่ เพราะมันคงไม่ดีแน่ถ้าคุณต้องทำคลอดด้วยวิธีตามธรรมชาติให้ฮโยจินตามลำพัง

    แต่กลุ่มที่ว่ามันก็ใช่จะหากันง่าย ๆ นะครับ

    ผมเข้าใจ แต่การทำคลอดแบบธรรมชาติมันเสี่ยงเกินไป คุณอาจจะต้องเสียทั้งภรรยาและลูก...คุณเข้าใจที่ผมพูดหรือเปล่าจีซบ?

    ผมกังวลเรื่องนี้มาตลอด...กลัวมากจริง ๆ ร่างสูงกระชับกอดคนรักไว้แล้วจูบลงบนเรือนผมเบา ๆ เขาต้องเป็นบ้าตายแน่ ๆ ถ้าเกิดว่าวันหนึ่งจะต้องเสียภรรยาและลูกไป

    คนสมัยก่อนก็ทำคลอดด้วยวิธีนี้นี่คะ...

    แล้วกี่คนที่รอด หญิงสาวพูดไม่ออกได้แต่มองหน้าชายหนุ่มร่างสูงที่มองเธอด้วยแววตาเรียบเฉยคนสมัยก่อนคลอดลูกด้วยวิธีธรรมชาติก็จริง แต่คนที่ทำคลอดก็ต้องมีความรู้เรื่องนี้อยู่พอสมควร ไม่ใช่สามีคุณ

    ชานยอลครับผมว่า...

    คำพูดของผมมันอาจจะฟังดูแย่ แต่ถ้าคุณสองคนไม่เริ่มวางแผนกันตั้งแต่ตอนนี้แล้วจะไปวางแผนเมื่อไหร่ครับ ตอนฮโยจินคลอดเหรอ

    แทนที่จะให้เราไปหากลุ่มใหม่...ทำไมคุณไม่อยู่ด้วยกันกับพวกเราล่ะคะชานยอล?

    ...

    ถ้าสิ่งที่คุณพูดคือความหวังดี...ฉันก็อยากจะขอร้องคุณ

    ที่รัก...

    เราไม่มีทางเลือกแล้วจีซบ เราคุยเรื่องนี้กันมากี่ครั้งต่อกี่ครั้งแล้ว...มันจริงอย่างที่ชานยอลพูดทุกอย่าง ฉันไม่อยากเสี่ยง ถ้ามีเขาอยู่ตรงนี้อย่างน้อยลูกก็มีโอกาสรอด ฮโยจินพูดเคล้าน้ำตาราวกับยอมรับชะตากรรมว่าเธออาจจะไม่รอดหากเวลานั้นมาถึง

    ไม่...คุณกับลูกต้องรอดสิ จีซบลูบหัวภรรยาเบา ๆ ก่อนจะโน้มหน้าเข้าไปจูบหน้าผากมนเพื่อปลอบใจ

    นะคะชานยอล... น้ำเสียงอ้อนวอนมาพร้อมกับแววตาคู่นั้น ร่างสูงไม่ได้ตอบตกลงในทันที จีซบเบิกตาโพลงก่อนจะประคองภรรยาของเขาเอาไว้เมื่อเธอพยายามจะลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง

    ... ชานยอลดูตระหนกเล็กน้อยเมื่อผู้หญิงท้องแก่เดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขาโดยได้รับการช่วยเหลือจากคนเป็นสามี

    จับดูสิคะ ฮโยจินคว้ามือแกร่งขึ้นมาทาบลงกับท้องของเธอพร้อมกับยิ้มบาง ๆ ผิดกับอีกฝ่ายที่ดูตกใจจนแทบจะชักมือออกเดี๋ยวนั้น

    ... นัยน์ตายังคงเบิกโพลงเมื่อรู้สึกได้ถึงบางอย่างที่เต้นตุบ ๆ อยู่ในท้อง สามีภรรยาหันไปยิ้มให้กันแล้วหันกลับมามองชานยอลอีกครั้ง

    เขายินดีที่ได้พบคุณค่ะ

    ... ประโยคนี้ทำให้เขาตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย ร่างสูงเลียริมฝีปากที่แห้งผากกับสิ่งแปลกใหม่ที่เขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน ชานยอลชักมือกลับแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ใบหน้าคมเบือนหลบไปอีกทางพร้อมกับป้องปากเพื่อใช้ความคิด

    การอยู่ตัวคนเดียวมันอาจเป็นสิ่งที่คุณต้องการ แต่ในเมื่อคุณช่วยชีวิตเขาแล้วครั้งหนึ่ง...คุณจะช่วยให้เขาเกิดมาลืมตาดูโลกอีกสักครั้งจะได้ไหมคะ?

    ได้โปรด โซจีซบเอ่ยปากร้องขอ ความหนักใจเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณจนแทบอยากจะออกไปสูบบุหรี่ข้างนอกเสียเดี๋ยวนี้

    ผมทำได้แค่แนะนำ เพราะผมก็ไม่มีความรู้เรื่องการทำคลอดเหมือนกัน

    แต่อย่างน้อยเราก็ช่วยกันได้นี่ครับ

    ...

    คุณคือความหวังเดียวของเด็กคนนี้...ขอร้องล่ะชานยอล

     

     

     

     

     

     

     

    อ่า...หนาวชะมัดยาด จีซบถูมือลงกับแขนตัวเองพลางเดินห่อไหล่ไปข้างหน้าหลังจากที่เขาทั้งคู่ขับรถมาถึงที่หมาย การออกมาหาเสบียงคือสิ่งที่พวกเขาต้องทำเมื่ออาหารที่เคยมีมันหมดไป จีซบก่อกองไฟเล็ก ๆ ไว้ข้างที่นอนผืนเก่าเพื่อให้ความอบอุ่นกับภรรยาของเขาท่ามกลางความหนาวเหน็บในตึกร้าง

    ข้างหน้าคือซุปเปอร์มาเก็ตที่มีพวกผีดิบอยู่รอบข้างราว ๆ สี่ห้าตัว ถ้าระวังหน่อยก็คงเข้าไปในนั้นได้ง่าย ๆ โดยไม่ต้องต่อสู้กับพวกมัน อีกครั้งที่เขาควักสนับมือขึ้นมาสวมใส่ ชานยอลตรงดิ่งเข้าไปหาเป้าหมายก่อนจะซัดหมัดจนหมุดแหลมฝังลงไปบนใบหน้าเหวอะของตัวกินคนที่ยืนขวางประตูทางเข้า จีซบตามมาสมทบโดยการฟาดท่อนเหล็กอย่างแรงจนร่างของมันล้มลงไปบนพื้น

    คุณต้องจัดการมันที่หัว

    ที่หัว?

    ใช่

    หมายความว่ามันสามารถตายได้เหรอครับ?

    มานี่ ชานยอลแบมือออกเพื่อขอท่อนเหล็กจากมืออีกคน มือแกร่งกระชับท่อเหล็กสนิมเอาไว้แน่นแล้วแทงเข้ากลางหูตัวกินคนจนทะลุลงพื้น เลือดสีเข้มค่อย ๆ ไหลออกจนกลายเป็นวงใหญ่นั่นสร้างความประหลาดใจให้กับโซจีซบเป็นอย่างมาก

    ไม่ยักรู้มาก่อนว่ามีวิธีจัดการกับมันด้วย

    คุณรอดมาได้จนถึงตอนนี้ได้ยังไง? เห็นแบบนี้แล้วก็อดถามไม่ได้ว่าสามีที่พ่วงภรรยาท้องแก่ไปไหนมาไหนด้วยรอดมาได้ยังไง

    ก่อนหน้านี้เรามีกลุ่มใหญ่อาศัยอยู่ในป่าลึกที่พวกมันเข้ามาไม่ถึง เรามีกันราว ๆ ยี่สิบกว่าคน กางเต็นท์นอนติดกัน ผู้หญิงกับเด็กทำหน้าที่ซักผ้าทำอาหาร ส่วนผู้ชายออกไปหาเสบียง ส่วนเมียผมได้รับสิทธิ์พิเศษเพราะเธอท้อง

    เธอท้องก่อนที่จะเกิดเรื่องใช่ไหม? ร่างสูงถามพร้อมกับดันประตูมินิมาร์ทเข้าไปช้า ๆ

    ใช่

    ทุกครั้งที่ออกไปหาเสบียงพวกเราทำได้แค่ทำให้มันล้มเพราะคิดว่าพวกกินเนื้อคนมันไม่มีวันตาย

    ...

    จนกระทั่งวันหนึ่งกลุ่มของเราถูกบุกรุกจากตัวกินเนื้อที่ไม่รู้ว่ามาจากไหน ตั้งแต่ลูกเด็กเล็กแดงไปจนถึงคนแก่ ถูกกัดกินและแพร่เชื้ออย่างรวดเร็ว ต่างคนต่างหนีกันไปคนละทาง ผมกับฮโยจินเกือบไม่รอดออกมา ทั้งคู่คุยกันขณะที่เดินสำรวจร้านทางด้านใน ร่างสูงกระชับผ้าพันคอพร้อมกับกวาดสายตามองเข้าไปในมินิมาร์ทกว้างสามบล็อก

    แล้วคุณล่ะชานยอล

    ...

    ก่อนหน้านี้คุณอยู่กับใคร

     

     

    ไหวก็ต้องพัก ฉันไม่ชอบอยู่เฉย ๆ แล้วให้คนอื่นมาขับรถให้นั่งไม่ชินว่ะ เกะกะลูกตา

    ฉันกับเซฮุนอายุสิบแปด อี้ชิงยี่สิบเจ็ด ชานยอลยี่สิบเก้า ส่วนจงอินยี่สิบหก

    คำถามแรกคือ ผมจะอยู่ต่อไปทำไม? ไม่มีอะไรหลงเหลือให้ผมอีกแล้วนี่? ผมหยิบปืนขึ้นมาจ่อที่ขมับ หลับตาลง รวบรวมความกล้าทั้งที่มือยังสั่นอยู่จนกระทั่งรู้สึกได้ว่ามีแขกไม่ได้รับเชิญเข้ามาในบ้าน...ซึ่งนั่นก็คือพวกคุณ

    เหตุผลอะไรที่ทำให้คุณอยากมีชีวิตอยู่เหรอครับ?’

    นายเห็นเขาถูกยิงจริง ๆ หรือเปล่าชานยอล

    ผมขอโทษแทนลู่หานด้วยนะ

    ชานยอลครับ...

    ผม...อยากให้คุณอยู่ด้วย...

     

     


     

    แบคฮยอน...

     

     


     

    ชานยอล?

    ผมไม่อยากพูดถึงมันน่ะ ร่างสูงก้มหน้าลงก่อนจะเอื้อมไปหยิบอาหารกระป๋องใส่กระเป๋าเป้ จีซบมองอีกคนที่กำลังดูอึดอัดกับคำถามของเขาแล้วก็ค่อย ๆ ก้าวไปข้างในพลางใช้ความคิด

    ขอโทษนะ ผมแค่คิดว่าเราอาจจะสนิทกันมากขึ้น

    ได้ด้วยวิธีอื่นที่ไม่ใช่การพูดถึงเรื่องราวในอดีตครับ จีซบนิ่งไป ไม่ว่าจะด้วยเรื่องไหนก็ดูยากไปซะหมดเพราะกำแพงสูงที่ปาร์คชานยอลสร้างเอาไว้

    โอเค ผมจะไม่พูดถึงเรื่องนั้นอีก

    ขอบคุณครับ ชานยอลตอบแบบขอไปทีก่อนที่ชายหนุ่มจะหายเข้าไปข้างใน แต่เพียงแค่ครู่เดียวก็ได้ยินเสียงข้าวของล้มระเนระนาด

     

     

     

    โครม!!

     

     

     

    จีซบ? ชานยอลรีบวิ่งเข้าไปดูทางด้านในแล้วก็เห็นชายหนุ่มกำลังต่อสู้กับตัวกินคนที่กำลังขึ้นคร่อมทับร่างเอาไว้ แขนแกร่งกระชากคอเสื้อขึ้นก่อนจะเหวี่ยงมันออกไปแล้วก้มลงคว้าท่อนเหล็กที่โซจีซบทำตกเอาไว้แทงเข้ากลางเบ้าตาจนทะลุลงไปถึงพื้นกระเบื้องด้านล่าง

    ใบหน้าคมหันกลับไปมองเพื่อนร่วมทางที่อยู่ในสภาพตื่นตระหนกอย่างเห็นได้ชัด เขายื่นมือลงไปเพื่อให้อีกฝ่ายดึงตัวเองให้ลุกขึ้นมา จีซบหอบหายใจหนัก เขายังคงตกใจกับการถูกโจมตีเมื่อครู่

    คราวหลังระวังตัวให้มากกว่านี้

    ครับ...

    คุณโอเคนะ? จีซบพยักหน้าพลางกลืนน้ำลายลงคอ ขายาวเดินกลับไปที่โซนอาหารเสริม นมผงกระป๋องสำหรับคนท้องคือสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขานึกถึงภรรยาของโซจีซบ คว้ามันขึ้นมาอ่านสรรพคุณแล้วก็พยักหน้ากับตัวเองเบา ๆ ชงให้ภรรยาคุณดื่มวันละแก้วน่าจะดี

    ครับ...ดี

    รีบเก็บของแล้วรีบกลับกันเถอะ

     

     

     
     

     

     
     

     

    รถเทียบจอดลงหน้าตึกร้างแล้วทั้งคู่ก็เดินขึ้นบันไดไปบนตึกชั้นสาม ความหนาวเย็นของอากาศทำให้ร่างกายต้องการความอบอุ่นจากกองไฟ ร่างสูงคลายสายสะพายเป้ลงพลางมองไปยังชายหนุ่มที่กำลังแหวกผ้าม่านออกเพื่อเข้าไปหาภรรยา

    ฮโยจินผมกลับมาแล้ว...ฮโยจิน?!” ร่างสูงเบิกตาโพลงแล้วรีบเข้าไปดูในห้องแล้วก็พบว่าใครอีกคนกำลังนอนจิกเล็บอยู่บนเตียงพร้อมกับกัดผ้าขนหนูเอาไว้ ที่นอนเก่าเต็มไปด้วยคราบน้ำเป็นวงใหญ่ นัยน์ตาคู่สวยรื้นไปด้วยน้ำตา คนเป็นสามีรีบเข้าดูอาการภรรยาก่อนจะหันมาขอความช่วยเหลือจากเขา

    เธอกำลังจะคลอดแล้ว!”

    ฉ...ฉันเจ็บ...จีซบ...ช่วยด้วย...

    ... ร่างสูงทำตัวไม่ถูก เขามองหญิงท้องสลับกับชายหนุ่มไปมาแล้วปล่อยให้สมองประมวลผลอยู่ครู่หนึ่ง การทำคลอด...การทำคลอดต้องใช้อะไร?

    ต้องใช้อะไร...น้ำร้อนเหรอ... ร่างสูงพูดกับตัวเองก่อนจะวิ่งออกไปข้างนอกเพื่อเทน้ำใส่หม้อก่อนจะกลับมาในห้องแล้วใส่ฟืนเข้าไปในกองไฟที่ริบหรี่ลงไปจนเกือบดับ เสียงกรีดร้องของความเจ็บปวดหลุดออกมาจากมือที่ปิดปากเอาไว้ น้ำตาของเธอไหลออกมาไม่ได้ขาดจนคนเป็นสามีร้องไห้ตามเพราะสงสาร

    แข็งใจไว้นะฮโยจิน...

    ฮึก...ฮือ...

    ไม่ได้แล้ว คุณต้องทำคลอดให้เธอเดี๋ยวนี้!” ชานยอลตะโกนบอกคนเป็นสามีที่ทำได้แค่กอดภรรยาเอาไว้จับเธอนอนลงกับที่นอนแล้วออกไปเอาผ้าสะอาดมา จีซบ! ได้ยินที่ผมพูดหรือเปล่า?!”

    ... คนเป็นสามีลนลานทำตัวไม่ถูก ชายหนุ่มประคองร่างคนรักลงนอนก่อนจะรีบวิ่งไปหาของตามที่ชานยอลสั่ง

    ร่างสูงเข้าไปดูอาการหญิงสาวทันทีที่จัดการตั้งหม้อน้ำร้อนไว้กับเตาไฟเรียบร้อยแล้วจับเขาเรียวทั้งสองข้างขึ้นตั้งชัน นาทีนี้เขาคงต้องเสียมารยาทกับคนตรงหน้าอย่างปฏิเสธไม่ได้

    ฮโยจิน คุณฟังผมนะ

    ...!!!” ใบหน้าสวยฉ่ำไปด้วยเหงื่อกาฬ ความเจ็บปวดแล่นปราดไปทั่วอณูร่างกายจนแทบจะแตกเป็นเสี่ยง ๆ ปาร์คชานยอลไม่เคยทำคลอดให้ใครมาก่อน นี่เป็นครั้งที่สองที่เขาต้องช่วยชีวิตคนสองคนพร้อม ๆ กัน

    หายใจเข้าลึก ๆ พอนับถึงสามคุณออกแรงเบ่งตามที่ผมบอกนะโอเคไหม?

    อึ่ก...!!!”

    หายใจเข้าลึก ๆ อย่างนั้น...หนึ่ง...สอง...สาม!!”

    อื้อ!!!!”

    คุณทำดีแล้วฮโยจิน ทำแบบเมื่อกี้อีกครั้งนะ...หนึ่ง...สอง...สาม!!!”

    “!!!!” หญิงสาวนิ่วหน้าเจ็บขณะออกแรงเบ่ง ริมฝีปากล่างถูกฟันขาวขบจนเลือดห้อ ชานยอลหันกลับไปมองที่ผ้าม่านสีดำแล้วก็ได้แต่ลุ้นว่าเมื่อไหร่โซจีซบจะกลับมา ใบหน้าคมก้มลงมองช่องคลอดที่เริ่มเปิดออกตามแรงเบ่ง ริมฝีปากหยักยิ้มกว้างเมื่อตอนนี้เขามองเห็นหัวเด็กที่กำลังโผล่พ้นออกมา

    อีกนิดเดียวฮโยจิน!”

    ฉันไม่ไหวแล้ว...โอ๊ย...

    หายใจเข้าลึก ๆ ...จีซบ!!!!” ร่างสูงตะโกนเรียกคนที่อยู่ทางด้านนอกก่อนจะจับเรียวขาเอาไว้แล้วเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าฮโยจิน

    อึ่ก...!!!”

    อีกครั้งนะ ผมเห็นลูกคุณแล้ว พอได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกมีกำลังใจขึ้นมาบ้าง หญิงสาวจิกเล็บลงบนที่นอนแล้วออกแรงแบ่งอีกครั้ง ชานยอลก้มลงมองเด็กที่กำลังออกมาทีละนิดพร้อมกับเลือดสีสดที่ไหลออกมาไม่ขาดช่วง

     

     
     

    กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซซซ!!!”

     

     
     

    ในขณะที่กำลังลุ้นอยู่กับสมาชิกใหม่ในครอบครัวโซ...ชานยอลก็เซล้มลงไปทางด้านข้างเมื่อถูกโจมตีอย่างคาดไม่ถึง แขนแกร่งดันช่วงอกของใครอีกคนเอาไว้เพื่อกันไม่ให้ปากที่อ้ากว้างกัดเขาได้ ร่างสูงออกแรงยื้อดึงอยู่อย่างนั้นแล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อพบว่าคนที่กำลังจะกัดเขานั่นไม่ใช่ใครนอกจากโซจีซบผู้เป็นสามีของหญิงสาวที่เขากำลังทำคลอดให้

    โอ๊ย!!!!!!!!!!!” ฮโยจินมองทั้งสองคนที่กำลังยื้อดึงกันอยู่อย่างนั้นด้วยความตกใจเมื่อพบว่าสามีของเธอเปลี่ยนไปเป็นใครอีกคนที่เธอไม่รู้จัก ชานยอลหันไปมองหญิงสาวเพียงแค่เสี้ยววินาที เด็กในท้องกำลังคลอดออกมาอย่างช้า ๆ ในขณะที่คนเป็นแม่แทบจะขาดใจตาย

    จีซบ!!!” ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายไม่มีสติสัมปชัญญะอีกแล้วก็ตาม ใบหน้าคมเอี้ยวหลบน้ำลายเหนียวที่ไหลลงโดนเสื้อเขาก่อนจะรวบรวมแรงฮึดสุดท้ายเหวี่ยงชายหนุ่มออกไปทางด้านข้าง

    กรรรรรรรรรรรรรรรรซ์

     

     

     
     

    ผลั่ก!!!

     

     

     
     

    จีซบ!!!!” เป็นเสียงของความเจ็บปวดของภรรยาที่เกิดขึ้นทั้งร่างกายและจิตใจ น้ำตาใสไหลอาบแก้มขณะมองปาร์คชานยอลที่กำลังจัดการกับสามีของเธอด้วยเก้าอี้ไม้จนหักกระเด็นไปทางด้านข้าง

     

     
     

     

    ปั่ก ปั่ก ปั่ก!!!

     
     

     

     

    ออกแรงทุบลงที่กลางหัวครั้งแล้วครั้งเล่าสลับกับใช้เท้ากระทืบไม่นานนักโซจีซบก็นอนแน่นิ่งไปพร้อมกับใบหน้าที่อาบเลือดก่อนที่เก้าอี้ไม้ถูกโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี ชานยอลกำลังช็อกในสิ่งที่ทำลงไปจนต้องคอยปลอบตัวเองว่าเขาไม่ได้ฆ่าคนตาย...แต่ที่ทำแบบนี้ก็เพราะว่าโซจีซบกลายเป็นพวกกินคนไปแล้ว

     

     

     
     

    มันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

     

     

     
     

    แล้วคำตอบก็มาพร้อมกับรอยแผลที่อยู่ตรงข้อมือของคนที่นอนจมกองเลือดอยู่บนพื้น ร่างสูงเสยผมอย่างหัวเสียก่อนจะค่อย ๆ หันไปทางด้านข้างแล้วก็พบว่ากงฮโยจินนอนแน่นิ่งไปแล้ว...

    เธอมองมาที่เขาด้วยแววตาที่ยากจะคาดเดา...เปลือกตาที่อ้าค้างไม่กระพริบพร้อมกับน้ำตาหยดสุดท้ายที่ไหลออกมาจากหางตา ไม่มีเสียงกรีดร้อง ไม่มีการขยับตัวใด ๆ ทั้งสิ้น ร่างสูงเซถอยหลังไปชิดกับผนังเย็นยะเยือกพร้อมกับความรู้สึกผิดที่ถาโถมเข้ามาราวกับพายุหนาว

    ...

    ไม่กล้าแม้แต่จะเรียกชื่อ ถึงจะเห็นคนตายมานับไม่ถ้วนแต่ภาพสามีภรรยาที่นอนตายอยู่ไม่ห่างกันทำให้เขาก้าวขาไม่ออก ยังไม่ทันจมอยู่กับความเศร้าได้นานร่างของหญิงสาวก็ลุกขึ้นนั่ง ริมฝีปากซีดเผือดค่อย ๆ อ้ากว้างทีละนิดขณะจ้องมองมาที่เขา

    ฮือ...

    ...

    วันนี้ปาร์คชานยอลรู้แล้วว่าความตายมันไม่ใช่ความเจ็บปวดครั้งสุดท้าย ริมฝีปากหยักสั่นเล็กน้อยขณะมองไปยังหญิงสาวที่กำลังพยายามลุกขึ้นยืน มือแกร่งล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง สนับมือคือสิ่งเดียวที่เขามีติดตัวอยู่ในตอนนี้ สองขายาวก้าวไปข้างหน้าแทนที่จะให้เธอเป็นฝ่ายเข้าหาเขาแทน

    อึ่ก!!!” สนับมือซัดเข้าที่ใบหน้าสวยอย่างแรงจนเสียหลักล้มลงไปนอนที่เดิม เขาก้มลงมองร่างนั้นที่กำลังพยายามจะลุกขึ้นมาอีกครั้งก่อนจะง้างมือขึ้น

     

     
     

     

    ขอโทษนะ...ฮโยจิน

     

     

     
     


     

     

     

     

    ผ้าม่านสีดำปลิวไหวไปตามกระแสลมหนาว ชานยอลนั่งชันเข่าพิงกับผนังเหม่อมองไปอย่างไร้จุดหมายทั้งที่มีแต่กำแพงซีเมนต์เท่านั้นที่อยู่เบื้องหน้า ร่างของสามีภรรยานอนแน่นิ่งด้วยฝีมือของเขา ความหวังคืออะไร? มันไม่มีมาตั้งแต่แรกแล้วเขาก็รู้ แต่การที่จะยอมรับและทำใจอยู่กับความสิ้นหวังให้ได้นี่สิที่มันยากเหลือเกิน

     

     
     

     

    แง้!!”

     
     

     

     

    ...

    นัยน์ตาเบิกโพลงเมื่อจู่ ๆ ก็ได้ยินเสียงเด็กร้องดังมาจากศพหญิงสาวที่นอนนิ่งอยู่บนที่นอนเก่า ชานยอลค่อย ๆ หยัดตัวลุกขึ้นยืนขณะมองไปยังกระโปรงยาวที่มีบางอย่างดิ้นอยู่ข้างในนั้น

    แง้!!”

    ...

    ชานยอลรีบเข้าไปแหวกเรียวขาออกแล้วก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อพบว่าเด็กที่คาอยู่ตรงช่องคลอดกำลังดิ้นทุรนทุราย ริมฝีปากหยักยิ้มออกมาด้วยความดีใจ มือแกร่งประคองร่างเด็กเอาไว้แล้วค่อย ๆ ดึงออกมาได้ในที่สุด

    สายสะดือยาวที่เชื่อมต่อระหว่างแม่กับลูก ร่างสูงมองเด็กในมือที่เต็มไปด้วยคราบเลือดแล้วก็ทำตัวไม่ถูก เขาต้องตัดสายสะดือแล้วหาผ้ามาพันรอบตัวเด็กเอาไว้ก่อน...ใช่...นั่นคือสิ่งที่เขาควรทำตอนนี้และหลังจากนั้นจะเอายังไงกับชีวิตก็ค่อยว่ากันอีกที

    แต่ยังไม่ทันได้เริ่มตัดสายสะดือรอยยิ้มบนใบหน้าก็เลือนหายไปเมื่อเด็กหยุดดิ้น...สายตาจับจ้องอยู่กับทารกแรกเกิดที่ทำให้เขามีความหวังขึ้นมาหลังจากที่มันจางหายไปหมดแล้ว

     

     

     
     

    แง้!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”

     

     
     

     

    ตุ่บ!!!

     

     

     

     

    ร่างเด็กทารกร่วงลงไปกับพื้นเพราะความตกใจเพียงแค่เห็นดวงตาทั้งสองข้างที่ไร้ตาดำ...ขายาวเดินถอยไปข้างหลังราวกับคนหมดแรงและที่ทำให้เขาแทบสติแตกก็คือเด็กทารกคนนั้นกำลังคืบคลานเข้ามาหาเขาพร้อมกับริมฝีปากที่อ้ากว้าง...

    สายสะดือยาวไม่ได้เป็นพันธนาการรั้งเด็กทารกเอาไว้ แน่นอนว่าเด็กแรกเกิดคงไม่สามารถทำอะไรแบบนี้ได้ ชานยอลยังคงช็อกกับภาพที่เห็นจนขยับตัวไปไหนไม่ได้...เสียงร้องของเด็กแรกเกิดยังคงดังเข้าหูไม่ได้ขาด ร่างสูงเดินไปหยิบผ้าขาวที่ตกอยู่บนพื้นหน้าทางเข้าประตูขึ้นมาถือเอาไว้ เด็กคนนั้นยังคงคลานมาที่เขา ชานยอลพลิกตัวเด็กที่กำลังดิ้นทุรนทุรายให้นอนหงายก่อนจะวางผ้าขาวทับลงไป...

    ไม่สามารถลงมือได้ทั้งที่ยังเห็นภาพตรงหน้า มือหนาที่กำสนับมือไว้แน่นง้างขึ้นสูงพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว เสียงหวีดร้องของเด็กที่ถูกกดให้นอนอยู่กับพื้นทำให้หัวใจของเขาเต้นแผ่วลงไปทุกที ๆ

     

     
     

     

    ชานยอลคะ...

    ครับผม

    ฉันท้อง...ได้สองเดือนแล้ว...

     

     

     
     

    แง้!!!!”

     

     
     

     

    น้ำตาไหลอาบแก้มจนยากที่จะหยุดยั้งได้เมื่อนึกถึงสีหน้าที่เต็มไปด้วยความหวาดกลัวของอีโฮจอง...มือของเธอที่จิกเข้าหากันราวกับกลัวว่าเขาจะรับไม่ได้กับสิ่งที่เธอพูด ชานยอลยิ้มกว้างพร้อมกับรั้งตัวคนรักเข้ามากอดแน่น ดวงตาคู่สวยเบิกโพลงอย่างไม่เชื่อตัวเอง

     

     
     

     

    แต่งงานกันเถอะ...ผมจะดูแลคุณกับลูกเองโฮจอง

     

     

     
     

     

    ปั่ก!!!

     

     

     
     

    ...

    ผ้าขนหนูสีขาวเต็มไปด้วยเลือดสีสดที่ซึมขึ้นมาจากร่างที่อยู่ข้างใต้ สนับมือถูกคลายลงบนพื้นก่อนที่ร่างของเขาจะทิ้งตัวลงอย่างหมดแรง ภาพโศกนาฏกรรมตรงหน้าของพ่อแม่ลูกสลับกับรอยยิ้มของอีโฮจอง...

     

     

     
     

    ภาพตอนที่เขาทั้งคู่ไปสารภาพกับพ่อแม่เรื่องเด็กในท้อง...

    ภาพตอนที่เขาพาโฮจองไปฝากท้องที่โรงพยาบาล...

    ภาพตอนที่เขาตกแต่งห้องเพื่อเจ้าตัวเล็กที่กำลังจะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวของเขาในอนาคต...

    และภาพ...ตอนที่เขาลงมือเหนี่ยวไกเข้าที่หัวของเธอในวันนั้น...

     

     

     
     

    สองขาก้าวออกมาจากตึกร้างอย่างไร้เรี่ยวแรง กระแสลมที่พัดมาพร้อมกับหิมะแรกในช่วงฤดูหนาวทำให้เขาหยุดฝีเท้าแล้วมองไปยังเบื้องหน้า ทุกอย่างกำลังขาวโพลนเพราะถูกหิมะกลบจนร่างกายหนาวเย็นจนแทบชา รอบข้างไม่มีผู้คน...มีเพียงแค่ความเงียบและความว่างเปล่าที่โรยตัวอยู่โดยรอบ หลายครั้งที่เขามักจะถามตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่...และครั้งนี้ก็เช่นกัน

     

     
     

     

    จะเอายังไงกับชีวิตที่ไร้จุดหมายดีล่ะปาร์คชานยอล?

     

     
     

     

    ร่างสูงก้มลงมองคราบเลือดที่เลอะกรังในมือ...หยดน้ำตาอุ่นที่ไหลอาบแก้มคือสิ่งเดียวที่ตอกย้ำความเจ็บปวดให้กับปาร์คชานยอล ไม่ว่าจะไปที่ไหน...จะอยู่คนเดียวหรือมีคนอยู่ข้าง ๆ ยังไงสิ่งที่หลีกเลี่ยงไปไม่ได้เลยก็คือความเจ็บปวด การมีชีวิตอยู่กับความรู้สึกแบบนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากตายทั้งเป็น บางทีถ้าตายไปมันอาจจะเป็นการจบเรื่องทุกอย่างได้อย่างสมบูรณ์แบบที่สุด

     

     

     

     

    ไม่เหลืออะไรแล้ว...ไม่เหลืออะไรเลยสักอย่างเดียว...

     

     



     

     

     

     

     

     

    TBC

     

     

     

    ฉาก CUT ให้เข้าไปดู BIO ของมลินในทวิตเตอร์นะคะ @_malinworld ค่ะ

    #คือถ้าอ่านมาถึงตอนนี้แล้วจะยังมีอารมณ์กลับไปอ่านฉาก CUT อีกหม้าย

    แกร่งไม่แกร่งเปิดฉากมาเจอ CUT อ่ะคิดดู หน้าสั่นกันกี่ริกเตอร์ หืมๆๆๆๆ 5555555555555555555555555555555555555555555555555555



    มีทั้งพรีเมียมและหน่วงลงตับกับพี่ชาร์ล ไม่รู้ว่าจะบรรยายเข้าถึงความดราม่าของพี่ชาร์ลไหม TT_TT




     

    เป็นฉากที่ตัดอารมณ์มาก หลายคนอาจจะแยกแยะอารมณ์ไม่ทัน แต่ก็ช่วยไม่ได้นะคะ  (สะบัดบ๊อบ)

    #ficzombie

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×