ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ZOMBIES HARD CREEPER | KAIHUN CHANBAEK FT.EXO

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 1 :: Groom And Bride

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 29.64K
      361
      29 ต.ค. 56

     

     

     

     

    Chapter 1

    Groom And Bride

     

     

     

     

    เปลือกตาบางค่อย ๆ ลืมขึ้นตามเวลาปกติเหมือนกับทุกวัน แสงสว่างลอดเข้ามาจากผ้าม่านเพียงเล็กน้อยแต่ก็พอทำรู้ว่าพวกเขาทั้งสามคนข้ามคืนวันที่โหดร้ายมาได้จนถึงรุ่งเช้า

    เมื่อคืนพวกเขาเลือกที่จะนอนรวมกันในโซฟาห้องนั่งเล่นดีกว่าจะแยกย้ายกันไปนอนในห้องของตัวเอง แผนการพังฐานเตียงมาเป็นที่กั้นประตูหน้าต่างถือเป็นอันล้มเหลว เพราะถ้าใช้เลื่อย มันคงส่งเสียงดังล่อพวกนั้นจนเกินไป

    ถึงลู่หานจะไม่น่าไว้ใจ แต่อยู่รวมกันเป็นกลุ่มไว้คงน่าอุ่นใจกว่าการนอนหลับไม่รู้เรื่องในห้องตามลำพัง แบคฮยอนขยี้ตาพลางหันไปมองรอบข้างแล้วก็พบลู่หานนอนคอพับอยู่บนโซฟาเดี่ยวด้วยท่าทางประหลาด ๆ เขาเชื่อแล้วล่ะว่าต่อให้เจอเรื่องแย่ ๆ มาแค่ไหนผู้ชายคนนี้ก็หลับได้ไม่ยาก

    ว่าแต่พี่ชายของเขาหายไปไหนนะ?

    หยัดตัวลุกขึ้นแล้วย่องออกไปข้างนอก สิ่งที่พบเจอก็มีเพียงแค่ความเงียบที่โรยตัวอยู่โดยรอบ ตอนนี้ไม่มีเสียงหวีดร้องขอความช่วยเหลือจากใครทั้งนั้น คาดว่าคนที่อยู่ข้างนอกคงจะโดนกัดตายไปหมดแล้ว

    ผมนึกว่าพี่หายไปไหน

    คนที่กำลังง่วนอยู่กับการทำมื้อเช้าหันมายิ้มให้กับน้องชายที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าครัว คนตัวเล็กเดินมานั่งฟุบหน้ากับโต๊ะอาหารพร้อมกับถอนหายใจอย่างโล่งอก

    พี่เห็นนายหลับอยู่ เลยไม่อยากปลุกน่ะร่างสูงวางจานขนมปังลงบนโต๊ะพร้อมกับนมสดในแก้ว แบคฮยอนดื่มรวดเดียวจนหมดแล้วเลียปากเหมือนกับเด็กจนพี่ชายต้องดึงทิชชู่มาเช็ดให้

    ถามจริงเถอะ ว่านายเป็นพี่ชายหรือเป็นพ่อเขากันแน่ เป็นอีกครั้งที่แบคฮยอนถูกกัดจากใครอีกคน แม้ว่าร่างของเขาจะไม่หลุดออกเป็นชิ้น ๆ เหมือนคนอื่น แต่คำพูดของหมอนี่มันช่างน่ารำคาญเสียจริง แบคฮยอนผินหน้าหันกลับไปมองข้างหลังแล้วก็เห็นลู่หานอ้าปากหาวหวอด ๆ เดินเข้ามาแย่งขนมปังที่อยู่ในจานของเขากินหน้าตาเฉยแล้วก็หงุดหงิด

    ถ้าไม่มีแบคโฮ นายจะเอายังไงกับชีวิต ห๊ะ บยอนแบคฮยอน ถามพร้อมกับขึ้นไปเหยียบบนเก้าอี้แล้วนั่งลงยอง ๆ แบคโฮไม่ได้ตอบอะไรไป เพราะใจหนึ่งเขาก็อยากให้แบคฮยอนได้คิดถึงข้อนี้เหมือนกัน ว่าถ้าเกิดวันหนึ่งเขากลายเป็นเหมือนพวกนั้น แบคฮยอนก็ต้องดูแลตัวเองให้ได้

    ไม่มีคำว่าถ้า เพราะฉันกับพี่แบคโฮจะอยู่ด้วยกันตลอดไป เราทั้งสองคนจะไม่มีทางเป็นเหมือนพวกข้างนอกนั่น เดี๋ยวอีกไม่นานพ่อก็จะติดต่อมาแล้ว พอถึงตอนนั้นฉันกับพี่แบคโฮก็ต้องไปตามทางของเรา ส่วนนายก็ต้องแยกไปทางอื่น

    แน่นอนอยู่แล้ว ฉันไม่คิดจะติดสอยห้อยตามนายสองคนไปหรอกน่า

    ก็ดี

    ลู่หานพูดถูกนะแบคฮยอน

    พี่แบคโฮ? ร่างเล็กขมวดคิ้วไม่พอใจ ทำไมจู่ ๆ พี่ชายของเขาถึงได้เห็นดีเห็นงามกับไอ้สิบแปดมงกุฎคนนี้ด้วย?

    ตอนนี้โลกเปลี่ยนไปแล้ว เราไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอะไรขึ้น พี่ไม่รู้ว่าจะปกป้องนายได้ไปถึงเมื่อไหร่

    ...

    พี่ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราจะอยู่ไปถึงวันพรุ่งนี้ไหม?

    พ่อกับแม่จะติดต่อกลับมา แล้วเราจะหนีไปที่อื่นด้วยกัน แบคฮยอนไม่ยอมรับความจริงอะไรทั้งนั้น ถึงทุกอย่างมันจะชัดเจนอยู่แล้วว่าคงเป็นไปได้ยากที่จะหนีไปจากที่นี่

    เมื่อคืนพวกเขาได้ยินแต่เสียงกรีดร้องของความเจ็บปวด...เสียงอุบัติเหตุเกิดขึ้นทั้งคืน ถึงจะไม่เคยใช้อาวุธมาก่อน แต่บยอนแบคฮยอนก็นอนกอดไม้เบสบอลของแบคโฮเอาไว้ทั้งคืน ที่หลับได้ไม่ใช่เพราะเสียงเงียบไป แต่หลับเพราะความเหนื่อยล้าที่สั่งสมมาทั้งวัน แต่ก็ต้องขอบคุณพระเจ้า...ที่มอบรุ่งเช้าวันใหม่ให้กับพวกเขา

    แบคฮยอน...

    ...

    โทรศัพท์บ้านถูกตัดตั้งแต่เมื่อคืน

    ...

    พี่คิดว่า... ร่างสูงเงียบไปครู่หนึ่ง เขาหลุบสายตาลงพลางถอนหายใจ เมื่อคืนขณะที่แบคฮยอนกับลู่หานหลับไปแล้ว เขาลุกขึ้นมาลองใช้โทรศัพท์มือถือหวังว่าจะติดต่อพ่อแต่ก็ใช้ไม่ได้ สุดท้ายเลยต้องหันไปพึ่งโทรศัพท์บ้านที่พ่อเพิ่งติดต่อมาเมื่อตอนหัวค่ำ...

     

     

    แล้วก็พบว่ามันถูกตัดไปแล้ว...

     

     

    พี่ว่าเราคงต้องหาทางไปสถานกักกันนั่นเอง

    พี่จะบ้าเหรอ? พี่ก็เห็นว่าข้างนอกเต็มไปด้วยคนพวกนั้น แค่เปิดประตูออกไปพวกเราก็ถูกกัดตายแล้ว แบคฮยอนแสดงสีหน้าไม่พอใจ ลู่หานลอบยิ้มแล้วลุกขึ้นไปหยิบแกนลอนนมในตู้เย็นอย่างถือวิสาสะ

    อาหารเราเหลือไม่มาก อย่างเก่งก็คงอยู่ได้แค่สามวัน พอถึงตอนนั้นจะทำยังไงแบคฮยอน? นอนรอความตายอยู่ที่นี่เหรอ?

    ถ้าไม่มีลู่หาน เราก็จะอยู่กันต่อได้อีกเป็นอาทิตย์ ผมจะกินวันละมื้อก็ได้ คนถูกพาดพิงหยุดชะงักหน้าซิงค์ล้างมือเมื่อได้ยินคนตัวเล็กแสดงความเห็นแก่ตัวออกมาได้หน้าตาเฉย

    แต่มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์...คนอย่างเขาน่ะเจอแต่คนเห็นแก่ตัวแบบนี้มาทั้งชีวิตแล้ว และมันคงไม่แปลกอะไรที่หมอนั่นคิดจะผลักไล่ไสส่งเขาออกไปข้างนอกเพื่อความอยู่รอดของตัวเองและพี่ชายสุดที่รัก

    แบคฮยอน พ่อกับแม่ไม่เคยสอนให้เราเป็นคนเห็นแก่ตัว

    แต่เราจะอดตาย ถ้าให้เขาอยู่ต่อไป

    ถึงต่อให้ไม่มีเขาเราก็ต้องไปจากที่นี่อยู่ดีนะแบคฮยอน

    เลิกทะเลาะกันสักทีน่า ฉันไปก็ได้ โอเค๊? ลู่หานดึงคอเสื้อขึ้นมาเช็ดคราบนมอย่างลวก ๆ ก่อนจะบิดขี้เกียจอยู่ในที เขาก็รำคาญเสียงจ้อแจ้ของบยอนแบคฮยอนอยู่เหมือนกันนั่นแหละ ใจคอคิดจะไล่กันท่าเดียวเลย

    ดี งั้นก็ไปตั้งแต่ตอนนี้เลยสิ แบคฮยอนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย ลู่หานยักไหล่แล้วทำท่าจะเดินออกไป

    ลู่หาน ร่างโปร่งหยุดชะงักก่อนจะเบนหน้าหันไปมองแบคโฮที่มองเขาอยู่

    ผมขอโทษแทนแบคฮยอนด้วย

    พี่จะไปขอโทษเขาทำไม?

    ใช่ นายจะขอโทษฉันแทนเด็กนั่นทำไม?ลู่หานแค่นหัวเราะ

    ไม่เห็นเหรอว่าเขาตัวคนเดียว ลองคิดดูสิ ว่าถ้านายไม่มีพี่ แล้วถูกคนอื่นไล่ให้ไปเผชิญโลกภายนอกตามลำพังแบบนั้นจะเป็นยังไง?

    ... แบคฮยอนงอหน้าตาแดงเหมือนคนจะร้องไห้ เขาจะร้องไม่ได้เด็ดขาด แค่นี้ผู้ชายที่ชื่อลู่หานก็สบประมาทเขามามากพอแล้ว เขาเข้าใจเหตุผลของแบคโฮ แต่มนุษย์ทุกคนก็ย่อมมีความเห็นแก่ตัวเพื่อการอยู่รอดทั้งนั้นไม่ใช่เหรอ? อีกทั้งผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีท่าทีน่าเห็นใจอะไรเลยสักนิด ก็ดูจะเอาตัวรอดเก่งกว่าเขาเสียด้วยซ้ำ

    พี่รู้ว่ามันเสี่ยง แต่ถ้าเรารีบไปถึงสถานกักกันให้เร็วเท่าไหร่ โอกาสรอดไปจากฝันร้ายนี่ก็มีมากขึ้นเท่านั้น

    ...

    ที่นั่นต้องมีทหาร ตำรวจ หน่วยแพทย์ที่เชี่ยวชาญด้านนี้ เราต้องไปให้ถึงที่นั่นก่อนที่คนทั้งเมืองจะกลายเป็นพวกมันกันหมดนะแบคฮยอน

    แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าสถานกักกันอยู่ที่ไหน?

     

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

     

    อากาศดีชะมัด...

    เงียบเถอะน่า แบคโฮหันไปค้อนใส่คนที่กำลังย่องตามหลังเขามาอย่างช้า ๆ บนถนนที่เงียบสงบในเวลาสองทุ่มเศษ ๆ พวกเขาตัดสินใจออกมาในเวลานี้เพราะคิดว่ามันน่าจะปลอดภัยกว่าตอนกลางวันเป็นไหน ๆ  

    ตอนนี้ไม่มีคนบ้าที่เที่ยววิ่งไล่กัดคนอื่น มีเพียงแค่ซากศพที่นอนจมกองเลือดเท่านั้น กลิ่นเหม็นคละคลุ้งไปทั่วจนต้องปิดจมูกเอาไว้ แบคฮยอนรู้สึกอยากอาเจียน เขาไม่เคยเห็นคนนอนตายเกลื่อนบนถนนแบบนี้มาก่อน

    หมอบลงอีกนิด ข้างหน้ามีพวกมันลู่หานพูดเบา ๆ พร้อมกับกดหัวแบคฮยอนลง คนตัวเล็กรีบปัดมือเรียวออกอย่างรำคาญแต่ก็ถูกปรามด้วยเสียงของพี่ชายที่อยู่ข้างหน้า

    ชู่ว์....

    จะทำยังไงดี ตรงนั้นมีพวกมันอยู่ตั้งห้าตัว แบคโฮครุ่นคิด เพราะข้างหน้าคือทางเดียวที่จะออกไปจากหมู่บ้านนี้ได้

    ถ้าคิดจะหนี เท้าเปล่าคงไม่เวิร์คแน่ลู่หานชะเง้อหน้ามองสังเกตการณ์ ได้ยินเสียงรถยนต์ที่กำลังวิ่งอยู่บนถนนและนั่นทำให้เขาขมวดคิ้วเมื่อเห็นผีดิบพวกนั้นแห่กันตามเสียงไป

    แต่ถ้าใช้รถก็คงจะไม่เวิร์คเหมือนกัน แบคโฮพูด ทั้งสามคนทิ้งตัวนั่งลงกับพื้น ตรงนี้เป็นมุมอับที่ไม่มีใครมองเห็นได้ และต่อให้มีไอ้พวกนั้นโผล่ออกมา ลู่หานก็พร้อมที่จะเอามีดที่เอามาจากในครัวจ้วงท้องมันให้ไส้แตก

    ทำไมใช้รถไม่ได้ล่ะ? แบคฮยอนถาม

    ดูเหมือนว่าพวกมันตามเสียงที่ได้ยินนะ...ถ้าเกิดเราส่งเสียงดังพวกมันก็คงแห่กันมาทางนี้เหมือนกัน ร่างสูงตอบก่อนจะชะเง้อหน้าออกไปสังเกตการณ์อีกครั้ง

    งั้นเราก็ค่อย ๆ เดินไปสิ

    พูดง่ายจังนะ พวกมันตามเสียงก็จริงแต่ตาไม่ได้บอด นิ้วชี้กับนิ้วกลางชี้ตรงระหว่างสายตาของเขา แบคฮยอนรู้สึกขัดใจที่พูดอะไรไปก็ฉายความโง่ให้ลู่หานได้จับผิดตลอด นี่เขาคงโง่จริง ๆ นั่นแหละ

    แล้วเราจะเอายังไงกันดีล่ะ ลู่หาน นายว่าไง?

    ก่อนอื่น เราต้องมีรถ

    แล้วเราจะไปหารถมาจากไหน? แบคฮยอนถาม

    ในเมื่อบ้านนายไม่มีรถจอดทิ้งไว้ให้ เห็นทีคงต้องใช้แผนบีลู่หานยิ้มพร้อมกับยักคิ้วให้สองพี่น้อง

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    ช่วยเร็วกว่านี้ได้ไหม...

    เออ รู้แล้ว อย่าเร่งได้ไหมล่ะ...”

    แบคฮยอน อย่าออกไปไกลนัก อยู่ใกล้ ๆ พี่เอาไว้...”

     

    ทั้งสามสนทนากันด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาราวกับกลัวใครได้ยินเข้า แน่นอน...เขาเลือกที่จะได้ยินกันสามคนดีกว่าให้แขกไม่ได้รับเชิญโผล่ออกมา นี่ก็เกือบสิบห้านาทีแล้วที่สองพี่น้องบยอนต้องนั่งยอง ๆ กับพื้นข้างรถที่จอดอยู่ริมฟุตปาธอย่างหวาดระแวง ส่วนลู่หานกำลังนอนราบกับเบาะรถเพื่อต่อสายตรง เพราะเจ้าตัวออกปากมาเองว่าเคยทำแบบนี้มาแล้ว

    ถึงเรื่องที่ได้ฟังจะทำให้มองลู่หานในแง่ลบ แต่ในสถานการณ์แบบนี้บยอนแบคโฮขอนับว่ามันเป็นข้อดีแล้วกัน มือแกร่งกำขวานในมือไว้แน่น สายตาก็มองไปรอบ ๆ ข้างจนกระทั่งสะดุดตากับใครคนหนึ่งที่เดินโซซัดโซเซมาทางนี้

    แบคโฮรีบตะปบปากแบคฮยอนเอาไว้ในทันทีเมื่อคนตัวเล็กหันไปเห็น ถ้าเกิดส่งเสียงดังตอนนี้มันคงพุ่งมาที่เขาสองคนแน่ และมันคงทำลายสมาธิลู่หานที่อยู่ในรถอีกด้วย

    ชู่ว์...มันยังไม่เห็นเรา

    ...ผมกลัว

    ไม่ต้องกลัวนะ พี่อยู่ตรงนี้ ร่างสูงลูบหัวปลอบใจคนเป็นน้อง ส่วนมืออีกข้างก็กำขวานไว้แน่น แบคฮยอนน้ำตาไหลออกมาเมื่อเห็นสภาพของผีดิบตนนั้นในระยะใกล้

    ลู่หาน ใกล้เสร็จหรือยัง?

    อีกนิด เสียงลอดออกมาจากปากที่คาบไฟฉายหลอดเล็กเอาไว้เพื่อส่องขณะต่อสายตรง หยาดเหงื่อซึมตรงข้ามขมับ นี่เป็นการขโมยรถที่น่าตื่นเต้นที่สุดในโลกตั้งแต่เคยทำมา

     

     

    ครืนนน...

     

     

    “YOLO~” ลู่หานยิ้มกว้างก่อนจะพลิกตัวขึ้นนั่ง ผีดิบที่ได้ยินเสียงรถสตาร์ทติดก็หันหาเป้าหมายในทันที สองพี่น้องเบิกตากว้างก่อนที่คนเป็นพี่จะรีบเปิดประตูเบาะหลังแล้วดันแบคฮยอนให้เข้าไปก่อน

    แย่แล้วสิ...

    กร๊าซซซซซซซซ ศพเดินได้สภาพหน้าเหวอะ เนื้อหลุดจากแขนเป็นริ้ว ๆ กำลังพุ่งมาที่ร่างสูง แบคโฮมือสั่นและลนลาน พอเอาเข้าจริง ๆ แล้วเขาก็กลัวที่จะต้องปะทะกับพวกประหลาดซึ่ง ๆ หน้า

    พี่แบคโฮ เข้ามาสิ!”

    เฮ้ย! ข้างหลังนายอีกสองตัวน่ะแบคโฮ!” ลู่หานแทบจะเอาหัวโขกกับพวงมาลัยเมื่อเห็นแบคโฮคิดจะสู้กับพวกนั้นตัวคนเดียว ร่างโปร่งเม้มริมฝีปากแน่นก่อนจะหันไปมองใครอีกคนที่นั่งอยู่เบาะหลังด้วยสีหน้าตื่นกลัว

    นั่งเงียบ ๆ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น...อย่าออกมา ลู่หานพูดเสียงเรียบก่อนจะหยิบมีดแล้วเปิดประตูออกไป

    แบคโฮจามขวานเข้าซอกคอผีดิบสาววัยทำงานอย่างแรงจนคอบิ่นไปเกือบครึ่ง ร่างของเขาเซไปข้างหน้าเพราะเสียหลักจากขวานที่ปักอยู่ตรงซอกคอ ลู่หานกำมีดไว้แน่น เขาใช้จังหวะที่ผีดิบกำลังสนใจแบคโฮลอบไปข้างหลังแล้วแทงเข้าที่ท้ายทอยจนทะลุคอ

    ร่างผีดิบชายกลางคนร้องโอดครวญแค่ครู่เดียวก็ร่วงล้มลงไปกับพื้น ส่วนแบคโฮนั้นกำลังพยายามดึงขวานออกจากคอหญิงสาวแต่กลับไม่เป็นผล มันฝังลึกเกินจนเขาต้องใช้เท้าเหยียบเธอถึงได้ดึงขวานออกมาได้

    แบคโฮระวัง!”

     

     

     

    กร๊าซซซซซซซซซซซซซซซซ!!!”

     

     

     

    ร่างสูงหลับตารอความตายเมื่อหันไปเห็นผีดิบที่อยู่ใกล้เขาไม่เกินหนึ่งช่วงแขน ผ่านไปเกือบห้าวินาที เขาค่อย ๆ ลืมตาขึ้นเมื่อพบว่าตัวเองไม่ได้ถูกกัดอย่างที่ควรจะเป็น ร่างของผีดิบที่อยู่ใกล้หน้าเขาเมื่อครู่หายไปแล้ว ตอนนี้ที่อยู่ตรงหน้าเขาคือใครอีกคนที่ไม่รู้จัก พอก้มลงมองถึงได้รู้ว่าผู้ชายคนนี้เป็นคนฆ่ามันเพื่อช่วยชีวิตเขา

    ...

    คุณ...

    ไม่มีเวลาแล้ว เสียงรถของพวกนายกำลังเรียกมันมาที่นี่

    ใช่ รีบขึ้นรถเถอะ ลู่หานเห็นด้วยกับผู้ชายที่เพิ่งมาใหม่ ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้วคาดว่าหมอนั่นคงผ่านอะไรมาเยอะพอสมควร

    แบคโฮพยักหน้าก่อนจะแทรกตัวเข้าไปในรถแล้วดึงแบคฮยอนที่กำลังร้องไห้เข้ามากอดปลอบ ส่วนลู่หานก็ทำหน้าที่คนขับโดยที่มีผู้ชายอีกคนนั่งข้าง ๆ

    คุณชื่ออะไร?

    คิมจงอิน

    ผมบยอนแบคโฮ...ขอบคุณมากนะที่ช่วยผมเอาไว้ แบคโฮมองอีกฝ่ายผ่านกระจกมองหลังทั้งที่ยังปลอบน้องชายอยู่อย่างนั้น ลู่หานขยี้หัวตัวเองอย่างหัวเสีย ถ้าไม่ได้ผู้ชายคนนี้แบคโฮคงถูกกัดตายแหงแซะ ทั้งที่เขาแทงคอมันจนทะลุแล้ว แต่ไอ้ผีดิบเฮงซวยนั่นกลับไม่ยอมตาย

    ไม่เป็นไร ว่าแต่นั่นน่ะ? จงอินมองไปยังคนตัวเล็กที่กำลังพยายามหยุดน้ำตาตัวเอง

    น้องชายผมเอง บยอนแบคฮยอน

    ลู่หานร่างโปร่งตอบสั้น ๆ ขณะขับรถไปตามถนนยามค่ำคืน

    อืม...แล้วนี่คิดจะไปไหนกัน?

    ไปสถานกักกันผู้ป่วย พ่อแม่ของสองคนนี้อยู่ที่นั่นน่ะ เป็นลู่หานที่ตอบแทนทั้งคู่ พอได้ยินอย่างนั้นจงอินก็ต้องหันกลับไปมองหน้าคนที่อยู่เบาะหลังทันที

    สถานกักกันผู้ป่วยตรงทางออกเมืองน่ะเหรอ?

    ...มันมีที่เดียวหรือเปล่าครับ? แบคโฮถาม ดูเหมือนว่าคิมจงอินจะรู้อะไรมากกว่าเขา

    ถ้าเป็นที่นั่น...ทุกคนตายหมดแล้วล่ะ

    ...

    ...

    ถ้าไม่เชื่อ จะไปดูกับตาเองก็ได้นะ แต่ต้องจอดให้ฉันลงก่อน จงอินพูดเสียงเรียบ เขาดูไม่ตื่นกลัวกับสถานการณ์นี้เท่าไหร่ ลู่หานคิดว่าเขาใจเย็นมากพอแล้ว แต่คนข้าง ๆ นี่จัดว่าเย็นกว่าเขาเยอะ

    คุณพูดอะไร พ่อแม่ผมยังไม่ตายนะ!” แบคฮยอนโพล่งออกมาจนพี่ชายต้องบีบมือเอาไว้เพื่อเตือนสติ

    ก็บอกแล้ว ว่าถ้าไม่เชื่อก็ให้ไปดูกับตาเอง

    คุณรู้ได้ยังไง ว่าทุกคนที่นั่นตายหมดแล้ว?

     

     

    ข่าวจากทีวีเมื่อคืนนี้ ก่อนสัญญาณจะตัดไป

     

     

    ...

    ...

    แต่...

     

     

     

    เอี๊ยดดดดดดดด...

     

     

     

    ทุกคนแทบหน้าพุ่งไปข้างหน้าเมื่อลู่หานเบรกกะทันหัน ยังไม่ทันได้ก่นด่าทั้งสี่คนก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อเห็นว่าถนนเบื้องหน้ามีรถคันหนึ่งถูกเหล่าผีดิบล้อมอยู่ พวกมันพยายามทุบกระจกรถเพื่อลากเหยื่อที่อยู่ข้างในออกมา

    ...ให้ตายเถอะ

    มีคนอยู่ในรถคันนั้น

    เราต้องช่วยเขา แบคโฮพูดขึ้นมานั่นทำให้ทั้งสามคนหันไปมองคนที่หวิดตายเมื่อครู่

    ขนาดชีวิตตัวเองยังเอาไม่รอดแล้วยังจะไปช่วยคนอื่นอีกหรือไง? คิมจงอินพูดแทงใจร่างสูงที่นั่งอยู่ข้างหลัง

    หมอนี่พูดถูก ไม่เห็นเหรอว่าตรงนั้นมีพวกมันกี่ตัว

    ใช่ เราจะช่วยทุกคนที่เราเจอไม่ได้หรอกนะพี่แบคโฮ เป็นครั้งแรกที่แบคฮยอนเห็นดีเห็นงามกับคนแปลกหน้า เพราะเขากลัวว่าถ้าเกิดไปช่วยคนที่อยู่ในรถคันนั้นแล้วจะกลายเป็นพวกเขาเองที่ต้องจบชีวิตลง

    ผมเข้าใจในสิ่งที่พวกคุณพูดนะ... แบคโฮนั่งนิ่ง เขาหยิบขวานเปื้อนเลือดขึ้นมากระชับไว้แล้วเงยหน้ามองคนทั้งคู่ที่อยู่เบาะหน้า

    แต่ถ้าผมอยู่ในรถคันนั้น ผมก็อยากรอดชีวิตออกมาเหมือนกัน แบคโฮพูดปิดท้ายก่อนจะทำท่าเปิดประตูออก

    เดี๋ยว

    ... ร่างสูงชะงัก ทุกคนหันไปมองคิมจงอินเป็นตาเดียวกัน

    ถ้านายไปคนเดียวก็ตายเปล่า เขาพูดเสียงเรียบก่อนจะหยิบปืนพก 9 มม. ขึ้นมา

     

     

     

    ถ้าจะมีคนตายก็ต้องเป็นพวกมันที่ต้องตายซ้ำอีกรอบ ไม่ใช่เรา

     

     

     

     

    .

    .

     

     

     

    ขอบคุณมากสำหรับหน้าที่นี้...ขอบคุณจริง ๆ ฮะฮะฮะ ลู่หานหัวเราะเยาะกับชีวิตเส็งเคร็งแล้วก็เหยียบคันเร่งซ้ำ ๆ โดยมีแบคฮยอนที่นั่งคาดเข็มขัดนิรภัยอยู่ข้าง ๆ

    ร่างเล็กไม่มีทางเลือก เพราะจะลงจากรถไปกับจงอินและแบคโฮตามแผนก็คงไม่ได้ นอกจากจะช่วยอะไรไม่ได้ดูเหมือนว่าจะกลายเป็นภาระเสียเปล่า ๆ พวกเขาใช้เวลาวางแผนกันอยู่ห้านาทีหรืออาจจะน้อยกว่านั้น จนกระทั่งได้ผลลัพท์ออกมาแล้วว่า จะให้ลู่หานเป็นคนขับรถล่อเหล่าผีดิบออกมาแล้วให้จงอินกับแบคโฮเข้าไปช่วยคนในรถคันนั้น

    คาดเข็มขัดดีแล้วนะน้องหนู

    เงียบสักทีเถอะน่า

    นี่แบคฮยอน

    อะไร? คนตัวเล็กเหล่มองคนข้าง ๆ ที่กำลังยิ้มทะเล้นอยู่ นี่มันใช่เวลาที่จะมาปั้นหน้าปั้นตาแบบนั้นหรือไง

     

     

    เคยดู Fast And Furious ไหม?

     

     

    สิ้นสุดคำถามแบคฮยอนก็ต้องเบิกตากว้างเมื่อคนขี้เล่นเบิร์นยางรถจนเกิดเสียงดังไปทั่ว แน่นอนว่ามันเรียกความสนใจจากเหล่าผีดิบที่อยู่ในระแวกนั้นได้เป็นอย่างดี คนตัวเล็กเอานิ้วอุดหูพร้อมกับหลับตาปี๋ในขณะที่ลู่หานกำลังผิวปากอย่างอารมณ์ดี

    เมื่อก่อนก็พอมีฝีมือเรื่องการแข่งรถบ้าง ถึงจะไม่เคยชนะชาวบ้านเขา แต่เรื่องขับหนีตำรวจนี่ขอให้บอก...

    จงอินกับแบคโฮที่หลบอยู่ข้างหลังตู้โทรศัพท์ชะเง้อหน้ามองออกไปข้างนอกเมื่อเห็นว่าพวกผีดิบกำลังทะยอยออกมาจากรถคันนั้นแล้วบางส่วน ร่างหนาเหน็บปืนไว้ข้างหลังแล้วดึงไขควงปากแฉกที่ใช้เป็นอาวุธตั้งแต่เมื่อวานขึ้นมาถือไว้ เขาจะใช้ปืนก็ต่อเมื่อจำเป็นเท่านั้น ทั้งคู่พยักหน้าอย่างรู้กันก่อนจะย่องไปข้างหลังแล้วแทงเข้าที่กลางหัวผีดิบอย่างแรง

    ฮืออออ...

    กร๊าซซซซซซซ

    ฟันที่หัว!” จงอินสั่งการแบคโฮที่ยืนแก้ ๆ กัง ๆ ร่างสูงพยักหน้ารับก่อนจะจามขวานลงที่กลางหัวผีดิบเด็กนักเรียนที่เพิ่งหันหน้าเข้าหาเขาแล้วดึงออก

    ปลดล็อคประตู!!” จงอินตะโกนลั่นหวังให้คนที่อยู่ในรถได้ยินก่อนจะหันหน้ากลับไปถีบกลางอกผีดิบให้เซถอยหลังออกไป แล้วหันกลับมาเปิดประตูหลังรถเมื่อได้ยินเสียงปลดล็อค

    ...

    ไม่ใช่เวลาช็อคคุณเจ้าบ่าว รีบขับออกไปเดี๋ยวนี้ก่อนที่พวกมันจะแห่กลับมาเพราะเสียงรถของคุณ จงอินเท้าแขนลงกับเบาะนั่งข้างหน้าแล้วมองเจ้าบ่าวกับเจ้าสาวที่กำลังช็อคกับเหตุการณ์เมื่อครู่

    จะให้ผมขับไปไหน...? เจ้าบ่าวถามเสียงสั่นก่อนจะผินหน้ากลับมามองผู้ช่วยชีวิต

     

     

     

    ห้างสรรพสินค้า K ที่อยู่ถัดจากตรงนี้ไปอีกสี่บล็อก

     

     

     

     

    .

    .

     

     

    ครืน...

     

    ไฟหน้ารถดับลงพร้อมกับเสียงดับเครื่องยนต์ ลู่หานกับแบคฮยอนที่ยืนรออยู่ในลานจอดรถรู้สึกโล่งอกเมื่อเห็นว่ารถคันที่เขาช่วยเมื่อครู่ขับมาถึงแล้ว จงอินกับแบคโฮเดินลงมาก่อนที่ชายหนุ่มร่างสูงในชุดทักซิโด้สีขาวจะเดินตามออกมาหากแต่เขากลับอ้อมไปยังที่นั่งข้างคนขับแล้วประคองร่างผู้หญิงในชุดเจ้าสาวเอาไว้

    โอ้ว ช่างเลือกวันแต่งงานได้เหมาะ

    ลู่หาน แบคโฮข่มเสียงต่ำพลางมองคนปากเปราะที่ยืนพิงประตูฝั่งคนขับที่เพิ่งขโมยมาได้ไม่นาน

    แต่จากสภาพแล้วบ่าวสาวคู่นี้คงจะหนีตายมาในเวลาไล่เลี่ยกับเขา เพราะดูจากชุดสีขาวสะอาดปัจจุบันเต็มไปด้วยคราบฝุ่นสกปรกที่เลอะอยู่ตามชุด

    คุณไหวไหมโฮจอง?

    ฉัน...ไหวค่ะ

    เธอถูกกัดเหรอ?

     

    เปล่า

     

    เป็นเจ้าบ่าวที่โพล่งตอบขึ้นมาทันที ร่างสูงขึงตาใส่แบคโฮที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ก่อนจะถอยออกมาสองก้าวเพื่อเว้นระยะห่างเอาไว้

    เธอแค่หกล้มตอนกำลังหนีน่ะ เขาแผ่วเสียงลงเมื่อรู้สึกว่าตัวเองเผลอขึ้นเสียงออกไป เจ้าบ่าวประคองเจ้าสาวให้ไปนั่งบนทางเดินเข้าห้างก่อนจะเดินกลับมาหาทุกคนที่ยืนอยู่ข้างรถ

    ขอบคุณนะครับที่ช่วยชีวิตเราเอาไว้

    ขอบคุณหมอนั่นแล้วกัน เขาเป็นคนเดียวที่คิดอยากจะไปช่วยคุณ จงอินพูดพร้อมกับผินหน้าไปทางแบคโฮที่ร่างสูงเพิ่งตะคอกใส่เมื่อครู่

    เมื่อกี้ผมเสียมารยาทไป...ต้องขอโทษด้วยนะครับ เขายืนขาชิดกันพร้อมกับโค้งหัวเต็มองศา แบคโฮโค้งกลับแล้วยิ้มบาง ๆ

    ไม่เป็นไรครับ คุณสองคนปลอดภัยก็ดีแล้ว

    ผมปาร์คชานยอล นั่นเจ้าสาวของผม...อีโฮจองครับ เขายิ้มบาง ๆ แล้วผายมือไปยังเจ้าสาวที่นั่งหน้าซีดอยู่ตรงนั้น เธอยิ้มตอบกลับมาพร้อมกับโค้งหัวให้

    ผมชื่อบยอนแบคโฮ นี่น้องชายผมบยอนแบคฮยอน ผู้ชายที่อยู่ตรงนั้นชื่อคิมจงอิน ส่วนคนนั้นชื่อลู่หานครับ

    ขอบคุณทุกคนอีกครั้งนะครับ เขายิ้มบาง ๆ แล้วโค้งหัวอย่างสุภาพอีกครั้ง ไม่รู้สิ ลู่หานกับจงอินรู้สึกไม่ชินกับความสุภาพเอาเสียเลย

    เรื่องนั้นเอาไว้ก่อนเถอะ ว่าแต่พวกเรามาที่นี่ทำไม? แบคฮยอนเปิดประเด็นขึ้นมา

    จะหนีก็ต้องมีเสบียง จงอินตอบสั้น ๆ แค่นั้นทุกคนก็ถึงบางอ้อ ร่างหนาขอยืมขวานจากแบคโฮก่อนจะเดินไปหยุดที่ประตูทางเข้าแล้วจามโซ่ที่ห้อยอยู่จนหลุดออกจากกัน

    ระวังตัวหน่อยนะ คาดว่าข้างในนี้คงมีผีดิบบ้าช๊อปปิ้งอยู่เยอะ เขาหันมาพูดทิ้งท้ายก่อนจะยื่นขวานคืนให้กับแบคโฮแล้วดึงไคขวงขึ้นมาถือเอาไว้เป็นอาวุธ

    ลุกไหวไหม? กระซิบหญิงสาวร่างบางแล้วยิ้มให้เป็นกำลังใจ เธอพยักหน้าตอบแล้วหยัดตัวขึ้นโดยได้รับการช่วยเหลือจากคนรัก

    มีอะไรให้ผมช่วยหรือเปล่า? แบคฮยอนถามด้วยความเป็นห่วง เมื่อเห็นสีหน้าของเธอดูไม่ดีเท่าที่ควร

    ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณนะ ชานยอลยิ้มแล้วประคองร่างคนรักเข้าไปในห้าง แบคฮยอนยืนมองตามคู่บ่าวสาวอยู่ครู่หนึ่ง พอจะเดินตามเข้าไปก็ต้องหยุดชะงัก

     

     

    นี่

     

     

    แบคฮยอนหันไปมองข้าง ๆ แล้วก็เห็นลู่หานยืนอยู่ สายตาของเขากำลังมองไปยังหนุ่มสาวที่กำลังเดินเข้าไปอย่างทุลักทุเล

    อะไร

    นายไม่คิดว่ามันแปลก ๆ เหรอ?

    แปลก...อะไร? แบคฮยอนขมวดคิ้วมุ่น ลู่หานลอบยิ้มออกมาก่อนจะป้องปากกระซิบคนตัวเล็ก

     

     

     

     

    ฉันว่ายัยเจ้าสาวคนสวยนั่นต้องถูกกัดมาแน่ ๆ ...

     

     

     

     

     

     

     

    TBC

     

     

    ตอนสองมาแล้ว

    ย้ำว่าเขียนเพราะสนองนิสจริง ๆ ขนาดไม่มีคนอ่านนางยังเขียนตอนต่อได้ 55555555555555555555555555 ชอบก็ติดแท๊ก #ฟิคซอมบี้ กันได้นะคะ <3

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×