คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : CHAPTER 02 :: TEAM
CHAPTER 02
TEAM
“While I breathe, I hope.”
“พวกเราชาวเกาหลีใต้ต่างต้องทำใจยอมรับกับความสูญเสียที่เกิดขึ้น ทีมมิเนอร์วาทูคือทหารฝีมือดี ที่สร้างผลงานยอดเยี่ยมไว้นานับไม่ถ้วน พวกเขาได้ทำภารกิจเพื่อประเทศชาติจนวินาทีสุดท้ายของชีวิต เราจะจดจำพวกเขาไว้ในใจตลอดไป”
เสียงจากลำโพงใหญ่กึกก้องไปทั่วอาณาบริเวณ ลานกว้างซึ่งมีวงเวียนน้ำพุอยู่ตรงกลางเต็มไปด้วยผู้คนมากมายที่สวมชุดดำเพื่อมาร่วมไว้อาลัยให้กับการสูญเสีย และฟังคำบอกกล่าวจากที่ปรึกษาส่วนตัวของอดีตประธานาธิบดีอย่าง ชาซึงวอน ผู้บังคับบัญชาการทหารสูงสุด ภาพใบหน้านายทหารที่สละชีพเพื่อชาติถูกฉายขึ้นบนจอใหญ่ทุกทิศทางเพื่อให้ประชนชนได้จดจำวีรบุรุษเหล่านี้เอาไว้
ประชาชนกำลังเสียขวัญและต้องการที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ และเขาจำเป็นต้องดำเนินหน้าที่นี้แทนหลังจากสูญเสียผู้นำประเทศไป โดยมีลูกชายเพียงคนเดียวของประธานาธิบดียืนขนาบข้าง คิมจุนมยอน
เด็กหนุ่มอายุสิบแปดธรรมดาคนหนึ่งจำเป็นต้องรับภาระใหญ่หลวงนี้ไว้อย่างปฏิเสธไม่ได้ ใบหน้าขาวสะอาดไร้ซึ่งร่องรอยราวกับภาพวาดกำลังทอดสายตาไปยังประชาชนนับหมื่นด้านล่างที่เขาต้องปกครองในวันข้างหน้า เมื่อถึงช่วงอายุยี่สิบปีบริบูรณ์
จุนมยอนกุมมือหญิงวัยสี่สิบต้น ๆ ซึ่งอยู่ในชุดดำเช่นเดียวกับเขาเอาไว้ หมวกสีดำของเธอมีผ้าผืนบางปกปิดดวงตา มันสามารถบดบังความเศร้าไม่ให้ประชาชนเห็นได้ แต่ไม่ใช่กับลูกชายอย่างเขาคนนี้
ซึงวอนผายมือให้อีกคนเดินไปยังด้านหน้า จุนมยอนหายใจเข้าลึก ๆ เมื่อถึงช่วงเวลาที่ต้องกล่าวปราศรัยกับประชาชน มันไม่ใช่สิ่งที่เด็กอย่างเขาอยากแบกรับมันเอาไว้ในขณะที่อายุเพียงแค่นี้ แต่ถ้าเขาไม่ทำ ความพยายามที่พ่อสร้างมาทุกอย่างก็จะพังหมดจนต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่ เด็กหนุ่มไม่อยากให้ใครว่าร้ายพ่อของเขาในทางไม่ดี ว่ามีลูกชายทั้งทีแต่ไม่เอาไหน
“สวัสดีประชาชนที่รักทุกท่าน ผมคิมจุนมยอน ลูกชายเพียงคนเดียวของประธานาธิบดีคิมจุนอา”
ขอบคุณพระเจ้าที่ไม่มีเสียงโห่ร้องหลังจากเขาพูดจบประโยคแรก เด็กหนุ่มพยายามตั้งสติเพื่อไม่ให้ประชาชนรับรู้ได้ถึงความประหม่าของของเขา
“เรื่องราวที่เกิดขึ้นภายในสามวันนี้ต่างสั่นขวัญเราชาวเกาหลีใต้จนทำให้การข่มตานอนหลับในแต่ละคืนเป็นเรื่องยาก แต่ผมอยากให้ประชาชนที่รักทุกคนตั้งสติเอาไว้ อย่าแตกตื่น” เด็กหนุ่มเว้นจังหวะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะก้มลงมองโพยที่เขียนไว้ในมือ “เราต้องสามัคคีกันเอาไว้ อย่าเล่นไปตามเกมของพวกเดนตายที่จ้องจะปั่นหัวเรา มนุษย์ที่มีความคิด สติปัญญา และลมหายใจซึ่งพวกมันไม่มี”
ชาซึงวอนยืนมือไขว้หลัง มองเด็กหนุ่มที่เขาจะต้องดูแลและให้คำสั่งสอนในการทำหน้าที่ผู้นำประเทศ มันคือความจำเป็นเมื่อคิมจุนมยอนยังไม่มีวุฒิภาวะมากพอที่จะเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีในตอนนี้
“ผมขอเวลาอีกแค่สองปี ผมสัญญาว่าจะเข้ารับตำแหน่งนี้และปกครองเกาหลีใต้ให้อยู่รอดปลอดภัย”
ไม่มีเสียงตอบกลับมาจากผู้คนที่อยู่ด้านล่าง จุนมยอนรู้สึกว่าความมั่นใจที่มีอยู่น้อยนิดได้ปลิวหายไปตามเสียงของเขา เด็กหนุ่มโค้งหัวทำความเคารพประชาชน ก่อนจะถอยออกมาเพื่อให้ชาซึงวอนได้รับช่วงต่อ
“เละ”
“ว่าไปนั่น ฉันว่าเขาค่อนข้างทำได้ดี สำหรับเด็กอายุสิบแปดที่เอาแต่เรียนหนังสือกับทำการวิจัยในห้องแลป”
“นายคิดว่าประชาชนจะฟังเด็กอายุสิบแปดที่ไม่มีความมั่นใจแล้วเอาแต่ก้มหน้าก้มตาอ่านโพยเหรอวะ”
สองหนุ่มมองภาพถ่ายทอดสดบนทีวีหน้าเคาน์เตอร์บาร์ ความน่าสนใจจากการแถลงของคิมจุนจูเนียร์ลดลงเป็นเท่าตัวเมื่อเห็นใบหน้าดุดันซึ่งเต็มไปด้วยหนวดเคราของผู้บัญชาการทหารสูงสุดอย่างชาซึงวอน คนที่ลู่หานโคตรเบื่อขี้หน้าเมื่อตอนถูกเรียกขึ้นศาลทหาร
เสียงรองเท้าบูทหนังบดบนพื้นไม้เนื้อแข็งคลอไปกับเสียงเพลง ผู้คนจำนวนหนึ่งเข้ามาใช้เวลาพักผ่อนหย่อนใจในพื้นที่สงบมากกว่าเข้าร่วมฟังการปราศรัยของลูกชายเพียงคนเดียวของอดีตประธานาธิบดี บาร์ไม้สักมีแก้วเบียร์สูงพร้อมหูจับอยู่ตรงหน้า ชายหนุ่มมัดผมจุกเป็นลูกแอปเปิ้ลใส่เสื้อยืดสีดำรอยปักรูปคฑาคะดูเซียสซึ่งเป็นสัญลักษณ์ประจำทีมเมอร์คิวรี่ เขายกแก้วขึ้นดื่มอีกครั้งพร้อมกวาดเอาฟองเข้าปากด้วยลิ้น
“อีกสองปีจะไหวเร้อ นับถอยหลังการมีชีวิตมากกว่ามั้ง” ลู่หานส่ายหน้าหน่าย ๆ ยิ่งขึ้นตำแหน่งเร็วเท่าไหร่ก็หมายความว่ามีสิทธิ์ตายเร็วมากเท่านั้น
“ฉันว่าชาซึงวอนคงไม่สอนแค่เรื่องทำหน้าที่ประธานาธิบดีหรอก งานนี้คิมจุนมยอนคงต้องรับบทหนัก” โดคยองซู หนึ่งในนักบินยอดเยี่ยมจากทีมเฮลิออสกล่าวพร้อมคาบมวนบุหรี่ไว้ในปาก เขาหลุบสายตาลงพลางจุดไฟแช็กจนควันสีหม่นลอยออกมา
“นี่เราอยู่ในยุคที่ต้องมีผู้นำอายุน้อยกว่าแล้วจริง ๆ เหรอวะ ให้ตายสิพับผ่า”
“ไปบริหารเองเลยไหม บ่นฉิบหาย” คยองซูมองเพื่อนที่จะเรียกว่าสนิทก็ไม่เชิง จากเวรกรรมและหน้าที่ที่ส่งให้ทั้งคู่ได้ทำงานร่วมกันอยู่เสมอ จึงทำให้พวกเขามีวันนี้
“ชวนคุยแค่นี้บ่นเหรอ บอกเลยนะว่าถ้าฉันไม่แฮคดาวเทียม แกก็ไม่มีทางรู้ถิ่นฐานของพวกมันหรอกว่ะ” ลู่หานแค่นหัวเราะ
“อยู่บนนั้นเห็นหน้าแม่แกด้วยนะ”
“กวนตีนละ” หนุ่มมีเชื้อสายจีนทำท่าถลกแขนเสื้อ คยองซูเพียงแค่ยิ้มขำกับโทสะของอีกคนซึ่งจุดขึ้นได้อย่างง่ายดาย นี่เป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ไอ้เวรนี่ถูกเรียกขึ้นศาลทหารอยู่บ่อย ๆ กับความอารมณ์แปรปรวน บ้าดีเดือด ชอบทำนอกเหนือภารกิจ แม้ว่ามันจะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี แต่ทางทหารชั้นสูงก็ไม่เห็นด้วยกับวิธีของไอ้หมอนี่นัก
ลู่หานเป็นมือแฮคเกอร์จากทีมเมอร์คิวรี่ ผู้ซึ่งมีความโดดเด่นเรื่องไอทีและใช้สมอง อย่างที่รู้ ๆ กันว่าทีมหลักจะอยู่ในศูนย์บัญชาการอย่างคิมจงแด และจางอี้ชิง แต่ไอ้หมอนี่เป็นหนึ่งในคนบ้าที่เป็นตัวตั้งตัวตีแยกออกมาลงภาคสนามแม้ว่าฝีมือการรบจะง่อยรับประทาน
แต่พอครั้งแรกประสบความสำเร็จ ทางผู้บังคับบัญชาการทหารสูงสุดจึงจัดตำแหน่งแฮคเกอร์ภาคสนามขึ้นมาอย่างเป็นทางการ โดยขึ้นอยู่กับว่าภารกิจนั้น ๆ จำเป็นต้องพึ่งหน่วยเมอร์คิวรี่มากแค่ไหน เนื่องจากว่าบางพื้นที่ทางศูนย์บัญชาการไม่สามารถเข้าถึงได้ โดยเฉพาะการปลดล็อกประตูขั้นแน่นหนาในถิ่นศัตรู
“แกคิดไงกับเรื่องทีมมิเนอร์วาทู?” คำถามของแอปเปิ้ลบอยเจ้าปัญหาน่ารำคาญพอ ๆ กับมือของมันที่แบออกมาขอบุหรี่ คยองซูถอนหายใจแล้ววางซองบุหรี่ลงไปและหันไปจับจ้องอยู่กับจอทีวีอีกครั้ง
“จะต้องคิดอะไรอีก”
“ไม่อยากเชื่อเลยว่าพวกเขาจะตายจริง นั่นมือดีจากพระนครเลยนะเว้ย”
“แกทำงานด้านไอทีก็น่าจะรู้ว่าถ้าสัญญาณชีพจรขึ้นเป็นสีแดงคือตายห่าไปแล้ว” ลู่หานมองอีกคนที่ยังคงแสดงออกถึงความนิ่งเฉย จริงอยู่ที่เขาเห็นกับตาในห้องศูนย์บัญชาการ ว่าบนหน้าจอรูปทหารแต่ละนายเปลี่ยนเป็นสีแดงทีละคนหลังจากถูกกัดจนเสียชีวิต จนกระทั่งหมวดจงอินผู้ซึ่งเป็นความหวังสุดท้าย
“ฉันได้ยินมาว่าปาร์คสามวิไม่อนุมัติให้คนเข้าไปช่วย หมวดจงอินถึงจนมุม”
“ผู้ชายคนนั้นมีเหตุผลเสมอ แกก็รู้”
“เออ กูรู้ทุกอย่างเลยเนี่ย แต่ไม่เข้าใจ โอเคไหม?” ลู่หานถลึงตามองอีกคนที่ไม่เคยคล้อยตามเลยสักครั้ง นี่เดือดแล้วนะเว้ย!
“ตรงนั้นคือแลปผลิตแอนตี้ไวรัส แกน่าจะรู้ว่าระบบป้องกันของพวกเดนตายแน่นหนาแค่ไหน ที่พวกเขารอดออกมาข้างนอกได้ก็ถือว่าปาฏิหาริย์แล้ว”
“...”
“หน้าที่ของทีมมิเนอร์วาทั้งสองทีมหนักไม่แพ้กัน ทางกัปตันปาร์คเองก็ย่ำแย่ ฉันเห็นว่ามีคนในทีมขาขาด แต่กัปตันก็พาเขากลับมาตายที่นี่”
“...”
“ส่งฉันไปก็โดนสอยร่วง บอกเลยว่าชีวิตของทีมเฮลิออสทุกคนยังค่าตัวไม่แพงเท่าเครื่องบินที่พวกเราขับ” คยองซูยกเบียร์ขึ้นดื่มแล้ววางลงที่เดิม “ลำนึงใช้เวลาสร้างตั้งกี่ปี ราคาก็ไม่ใช่น้อย ๆ”
“...”
“ทหารตายยังฝึกใหม่ได้ มันคือวัฏจักร”
หลังจากเกิดความเสียหายใหญ่หลวงในครั้งนั้น ทางหน่วยทหารก็เริ่มจัดแบ่งทีมกันยกใหญ่โดยเฉพาะทีมมิเนอร์วาที่สูญเสียแขนขวาไปทั้งทีม กัปตันปาร์คและลูกทีมที่เหลือได้รับหมายจากศาลทหารให้เข้าพบจิตแพทย์ทุก ๆ วันเสาร์เพื่อบำบัดสุขภาพจิตให้คงอยู่ในความปกติ
เป็นธรรมเนียมเหมือนทุกครั้งที่นายทหารจะได้รับรางวัลเป็นเงินก้อนหนึ่งหลังกลับจากสนามรบเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ ซึ่งครั้งนี้ปาร์คชานยอลก็ทำเหมือนอย่างเคย เขาเอาเงินทั้งหมดบริจาคให้กับโรงฝึก เพื่อสมทบทุนเรื่องอุปกรณ์ที่เด็กฝึกจำเป็นต้องใช้ และแน่นอนว่าเรื่องนี้ไม่มีใครรู้นอกจากซงมินโฮ หัวหน้าทีมวัลแคน ที่จัดการเรื่องอาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหมดในคลัง
ทีมมิเนอร์วาหลุดฟอร์มเพราะทหารที่เพิ่งเข้าทีมต่างทำงานร่วมกับคนอื่นได้ไม่ดีเท่าที่ควรนัก บ้างก็เสียชีวิตทั้งที่เพิ่งออกจากโรงฝึก บ้างก็พิการ จนเป็นเรื่องที่ชาวทหารในกรมพูดถึงมาตลอดสามปี
บางคนบอกว่ากัปตันปาร์คอาจจะเป็นบ้าในเร็ว ๆ นี้หากว่าเขายังไม่กลับเข้าบำบัดจิตใจหลังจากหยุดไปตั้งแต่เดือนแรก หลายคนคิดว่าเป็นเพราะกัปตันสูญเสียลูกทีมไปชุดใหญ่จึงทำให้เสียหลัก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่มีใครอ่านความคิดของผู้ชายคนนั้นผ่านทางใบหน้าเรียบเฉยได้ ทุกสิ่งที่กล่าวถึงล้วนแต่เป็นเรื่องคาดเดา
“อรุณสวัสดิ์ครับกัปตัน!” คนถูกทักทายตะเบ๊ะตอบทหารรุ่นน้องที่คอยช่วยเหลือทีมเขาในสนามรบอยู่เสมอ ก่อนที่ทั้งคู่จะเดินไปด้วยกันบนลานกว้างซึ่งมีเพียงแค่รถจี๊บขับผ่าน กับโดรนสังเกตการณ์บนอากาศ
“วันนี้คุณมีเข้าเวรเหรอ?”
“เปล่าครับ ผมเพิ่งกลับจากโบสถ์เลยแวะมาเอาของที่ลืมไว้น่ะ” จ่าจงแดพยายามก้าวขาให้ทันคนตัวสูง มันเป็นการเดินปกติของกัปตันปาร์ค แต่มันค่อนข้างเร็วมากสำหรับเขา
“ผมนึกว่าคุณจะไปฟังพวกโปรโตคอลล้างสมองเสียอีก”
“ความเชื่อของแต่ละคนไม่เหมือนกันนี่ครับกัปตัน” จงแดหัวเราะพลางหลุบสายตาลงมองเสื้อทหารตัวนอกที่อีกฝ่ายถอดออกแล้วพาดมันไว้กับท่อนแขน ตอนนี้เหลือเพียงแค่เสื้อยืดสีดำเข้ารูปจนเห็นมัดกล้าม ปักลายหอกไขว้ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของทีมมิเนอร์วาอยู่ตรงอกด้านซ้าย
“แล้วคุณเชื่อในอะไร พระเจ้าเหรอ”
“ครับ แล้วกัปตันล่ะ?”
“ผมเชื่อตัวเอง”
จ่าจงแดอ้าปากค้างพลางกลอกตาเล็กน้อย ปล่อยให้ความเงียบช่วยคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะออกมาเบา ๆ เพื่อทำลายบรรยากาศธรรมดาที่ดันตึงเครียดขึ้นมาเพียงเพราะน้ำเสียงทุ้มต่ำและใบหน้าเรียบเฉยของอีกฝ่าย
“ผมก็เชื่อในตัวกัปตันนะครับ”
คนถูกให้ความเชื่อใจหันไปมองรอยยิ้มของหัวหน้าทีมเมอร์คิวรี่สองศูนย์ ชานยอลยิ้มบาง ๆ ก่อนจะวางมือลงบนบ่าอีกคนแล้วตบลงไปเบา ๆ
“ขอบคุณ คำพูดของคุณทำให้เช้าวันนี้สดใสขึ้นมาถึงสิบเปอร์เซ็นต์เลยจงแด”
“ผมดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในสิบเปอร์เซ็นต์นั้นครับ!” ชายหนุ่มตะเบ๊ะ เรียกรอยยิ้มจากคนยศสูงกว่าได้เป็นอย่างดี “ว่าแต่กัปตันจะไปไหนเหรอครับ?”
“ไปดูเด็กใหม่น่ะ เห็นว่าจะเข้ามาวันนี้”
จงแดพยักหน้าช้า ๆ ตั้งแต่เมื่อไหร่ที่เขาคิดว่าการรับ ‘เด็กใหม่’ เป็นความเลวร้ายอย่างหนึ่งสำหรับทุก ๆ ฝ่าย ตั้งแต่หัวหน้าทีมอย่างกัปตันปาร์คชานยอลที่ต้องเป็นคนแบกรับเรื่องเหล่านี้เอาไว้ รวมไปถึงตัวเด็กใหม่ที่ต้องพัฒนาฝีมือเพื่อปรับตัวเข้ากับคนอื่น ๆ ในทีมให้ได้
“เซฮุนไม่มาด้วยเหรอครับ?”
“ปล่อยเจ้าเด็กนั่นไปเถอะ หาตัวยากยิ่งกว่าอะไรดี” แค่นึกถึงหน้าหนึ่งในเด็กที่เข้าร่วมทีมมิเนอร์วาวันมาได้สองปีแล้วก็อยากส่ายศีรษะ จริงอยู่ที่โอเซฮุนเป็นเด็กมีความสามารถ แต่เด็กนั่นก็ขวางโลกจนยากที่จะอยากพูดดีด้วย
“แล้วเด็กที่มาวันนี้ชื่ออะไรครับ?”
“ผมเองก็ยังไม่รู้รายละเอียดมากนัก เห็นว่าชื่อบยอนแบคฮยอน มาจากหน่วย Agility คนนี้ Traceur ภูมิใจเสนอมาก เห็นว่าอายุน้อยที่สุดในหน่วยฝึกระดับเจ็ด ผมอยากรู้เหมือนกันว่าอะไรที่ทำให้เขาคิดว่าเด็กคนนั้นเหมาะสมกับทีมมิเนอร์วา”
*Traceur = ครูฝึกปาร์กัวร์
เนื่องจากการฝึกทหารถูกแบ่งเป็นสามประเภท ซึ่งเด็กที่เริ่มเข้าฝึกทุกคนจะต้องศึกษาทุกอย่างในขั้นเบื้องต้นเสียก่อน เพื่อทำความเข้าใจและให้ครูฝึกตัดสินว่าต้องลงหน่วยไหน อย่างเช่นคนหัวกะทิอย่างจงแด ที่ถูกส่งเข้าหน่วย Intelligence ตั้งแต่เข้าฝึกได้เพียงแค่หนึ่งเดือน เพียงเพราะท่องสูตรคูณกลับหลังและใช้รหัสมอร์สได้เร็วกว่าคนอื่น ๆ
ส่วนคนที่ถูกส่งเข้าหน่วย Strength จำเป็นต้องมีร่างกายสูงใหญ่ แข็งแรง อดทน มีกึ๋นเรื่องการรบ ซึ่งทหารส่วนใหญ่มากจะมาจากหน่วยนี้ และสุดท้ายคือหน่วย Agility ซึ่งมีความโดดเด่นเกี่ยวกับความว่องไว ไหวพริบ ฉลาด น้อยคนนักที่จะจบหลักสูตรนี้ได้ เนื่องจากการถือปืนวิ่งไล่ยิงมันไม่พอ การฝึกของหน่วยนี้ค่อนข้างยากกว่าหน่วยอื่น และโอเซฮุน ลูกทีมของเขาก็เป็นหนึ่งในผู้ประสบความสำเร็จ
แปดปีแล้วที่หน่วย Agility ปรับเปลี่ยนหลักสูตร จากเมื่อก่อนแค่ห้อยโหนตามสิ่งของได้ แต่พอทางหน่วยทหารนำ Traceur ชาวต่างชาติเข้ามาเป็นหนึ่งในครูฝึก หน่วย Agility จึงจำเป็นต้องเพิ่มการฝึก Parkour และ Freeruning ไปด้วย
ในทีแรกเขาคิดว่าปาร์กัวร์คือความไร้สาระหลังจากเห็นลูกทีมแสดงให้เห็นในวันแรกของการรับเข้าทีม แต่พอลงสนามจริงก็ต้องทึ่งกับความพิเศษอย่างน่าเหลือเชื่อ เด็กที่อยู่หน่วย Agility มีความว่องไวเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อพวกเขาใช้ทักษะปาร์กัวร์ปีนป่าย กระโดดข้ามสิ่งกีดขวางบนตึกสูงได้อย่างคล่องแคล่วจนพวกผีดิบเดนตายวิ่งตามไม่ทันนั่นน่ะ
คงต้องยอมรับแล้วว่าหน่วย Agility มักจะมีอะไรเซอร์ไพรส์อยู่เสมอ
“เขาอายุเท่าไหร่เหรอครับ?”
“ยี่สิบเอ็ด”
“บ้าน่า... ตอนนั้นผมยังนั่งหัวฟูกับข้อสอบด่านแรกอยู่เลย!” จงแดเลิกคิ้วอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
“นั่นสิ ต้องบ้าแน่ ๆ” ชานยอลทอดสายตาไปยังเบื้องหน้าก่อนจะตะเบ๊ะตอบรับพลทหารกลุ่มหนึ่งที่หยุดทำความเคารพเขาในขณะทำการเข้าฝึกช่วงเช้า
“ถ้ามาจาก Intelligence ผมก็คงไม่แปลกใจ แต่สำหรับหน่วย Agility นี่ต้องเจ๋งแค่ไหนถึงจะบรรจุเข้าเป็นหนึ่งในทีมมิเนอร์วาได้?”
ถ้าจะบอกว่าทางทหารชั้นสูงเกิดความสงสารทีมมิเนอร์วาหลังจากเกิดความสูญเสียก็ไม่น่าจะใช่ คนเหล่านั้นไม่น่าเล่นตลกกับความรู้สึกกัปตันปาร์คที่สร้างผลงานใหญ่มานับครั้งไม่ถ้วน อีกทั้งยังมีทีมมาร์สกับทีมไดอาน่าที่เป็นกลุ่มหลักในการออกไปทำภารกิจ หลังจากที่มิเนอร์วาอยู่ในช่วงวางฟอร์มทีมอีก
“คุณรีบไปไหนหรือเปล่าล่ะจงแด?” ร่างสูงหันไปถามทหารรุ่นน้องที่ยังคงวิเคราะห์กับเรื่องที่เมื่อครู่อยู่
“ไม่ครับ วันนี้ผมว่างมากพอที่จะเป็นเพื่อนนั่งจิบกาแฟให้กัปตันได้เลยล่ะ”
สองหนุ่มหยุดยืนอยู่หน้าตึกสูงสิบชั้นซึ่งเป็นสถานที่ฝึกต่าง ๆ รวมอยู่ด้วยกัน ตั้งแต่ยิงปืน มวย สนามฝึกจำลอง ห้องกู้ระเบิด ไปจนถึงเวทีประชันฝีมือที่เหล่าทหารต่างมาดวลกันเพื่อเงินพนันเล็ก ๆ น้อย ๆ
ชานยอลมองเงาสะท้อนในกระจกใสบานใหญ่ตรงประตูทางเข้า มองเงาตนเองที่ชิ้นส่วนในร่างกายยังอยู่ครบ เขาไม่มีสิทธิ์ท้อ ไม่มีสิทธิ์เหนื่อย ไม่มีสิทธิ์เสียใจ ปาร์คชานยอลต้องเดินหน้าต่อไปเพื่อสร้างทีมมิเนอร์วาขึ้นมาใหม่และทำให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม
ซึ่งหวังว่าเด็กอายุยี่สิบเอ็ดซึ่งรออยู่ด้านในจะไม่ทำให้ผิดหวัง เขาเชื่อว่าคนที่มาจากหน่วยนั้นคงไม่ธรรมดาและคงแสบไม่น้อยไปกว่าไอ้เด็กแสบนั่นที่เข้ามาก่อน ชายหนุ่มก้าวขาไปข้างหน้าก่อนที่ประตูกระจกจะเลื่อนออกโดยอัตโนมัติ
แค่คิดว่าจะต้องเจอกับลูกทีมคนใหม่ในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ปาร์คชานยอลก็ทนตื่นเต้นกับเช้าวันอาทิตย์ไม่ไหวแล้ว
“งั้นเราจะไปดูให้เห็นกับตากัน ว่าเด็กที่มาจากหน่วย Agility คนที่สองในทีมผมจะเจ๋งมากแค่ไหน”
TBC
ง้อว ตอนหน้าจะได้เจอแบคฮยอนแล้ว
ทยอยเอาตัวละครออกมาทีละคนตามพล็อตที่วางไว้นะคะ ! >3
สำหรับคนที่สับสนว่าปาร์กัวร์คืออะไร คำตอบอยู่ในคลิปนี้นะคะ https://www.youtube.com/watch?v=LVILaXvspcU
แล้วเราจะมาอธิบายทีหลังว่าปาร์กัวร์กับฟรีรันนิ่งต่างกันยังไงค่ะ
ความคิดเห็น