คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : Y o u r M i n i s t r a n t - CHAPTER 8 -
แล้วคุณล่ะ ?
เชื่อในพรมลิขิตมั้ย ?
ครับ
ผมเชื่อ
ตอนผมยังเป็นเด็ก ..
ผมเคยให้สัญญากับคนๆนึง
ว่าถ้าผมโตขึ้น .. ผมจะขอเขาแต่งงาน
เชื่อมั้ยว่าความจริงในปัจจุบันมันยิ่งว่าคำว่าบังเอิญซะอีก ..
ในเมื่อคนที่อยู่ตรงหน้าผมตอนนี้
เป็นคนๆเดียวกันในวันนั้น
คนที่ผมจะขอแต่งงาน
แน่นอนว่าเขา ..
"พี่จินยอง"
โชคชะตาและพรมลิขิต
มักจะเล่นตลกกับเราเสมอ
ไม่สนว่าเราจะยินดี
หรือไม่ยินดีก็ตาม ...
"พี่จินยองครับ" คนตัวสูงเอื้อมมือไปเขย่าแขนบางๆสองสามทีเพื่อปลุกให้ตื่น หลังจากที่เขาผล็อยหลับไปหลายชั่วโมงแล้วเหมือนกันตั้งแต่ตอนบ่ายๆจนถึงตอนนี้ที่ท้องฟ้าเริ่มที่จะมืดสนิทแล้ว แต่ตรงขอบฟ้ายังมีแสงสีส้มเข้มของพระอาทิตย์ที่ใกล้จะลับขอบฟ้าปรากฏให้เห็น
"พี่จินยองครับ" กงชานพูดเสียงดังขึ้นกว่าเดิมเพื่อให้คนตัวเล็กรู้สึกตัวตื่นบ้าง แต่ก็มีแค่เพียงเสียงครางอืออืมอย่างงัวเงียจากคนตัวเล็กเท่านั้น แถมยังขยับผ้าห่มที่กงชานนำมาห่มให้หลังจากที่เข้ามาเห็นคนสวยหลับคาโซฟาในท่านั่งกอดหมอนอิงหัวพงกหงึกหงึกไปมา เจ้าตัวเลยเอาหมอนอิงออกแล้ววางไว้บนโซฟาแล้วจับจินยองนอนลงก่อนจะเอาผ้ามาห่มให้ เลยหลับสนิทมาถึงตอนนี้
ตาคมเหลือบมองนาฬิกาบนฝาผนังเหนือทีวี เข็มสั้นใกล้ที่จะถึงเลขเจ็ดบ่งบอกว่าเป็นเวลาหกโมงกว่าๆใกล้จะหนึ่งทุ่มแล้ว และเขาก็หิวด้วยเช่นกัน นี่ถ้าไม่ติดว่าพรุ่งนี้ต้องไปทำงานเขาก็คงปล่อยจองจินยองนอนอยู่ที่นี่ไปแล้ว
กงชานจึงตัดสินใจเลิกผ้าห่มออกก่อนจะค่อยๆก้มตัวลงจับแขนเล็กขึ้นมาแล้วใช้แขนอีกข้างนึงช้อนเอวบางขึ้นมาแล้วจับเอาลำตัวพาดลงบนบ่ากว้าง
ไม่ยอมตื่นเอง
ช่วยไม่ได้แฮะ
กงชานกระชับคนตัวเล็กบนบ่าก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าตังค์กับโทรศัพท์ของจินยองที่วางอยู่บนหัวเตียงก่อนจะเอาใส่กระเป๋ากางเกงอีกข้างของตัวเอง และก็ไม่ลืมที่จะหยิบกระเช้าผลไม้มาด้วย ขายาวๆเดินไปทั่วๆห้องเพื่อดูให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรจำเป็นที่ต้องเอาไปแล้วจึงวางกระเช้าไว้ตรงประตูและปิดไฟให้เรียบร้อยทั้งทีวีไฟพัดลม ก่อนจะหยิบกระเช้าแล้วเดินออกมา
"จะกลับแล้วหรอครับ เอ๊ะ ? บนบ่าคุณนั่น??" กงชานเดินลงมาถึงบันไดขึ้นสุดท้ายก่อนจะเจอพ่อบ้านฮวางที่เดินเข้ามาในบ้านพอดี คนมีอายุถามอย่างสงสัยก่อนจะชี้ไปที่บ่าของกงชาน
"ผมปลุกเท่าไหร่พี่เขาก็ไม่ยอมตื่นน่ะครับ แล้วเขาจะกลับคอนโดฯด้วย ผมเลยต้องอุ้มออกมา .."
"ไม่โดนต่อยหรอครับ = [ ] ="
"ไม่หรอกครับลุง ฮ่าๆ จริงๆเขาก็น่ารักดีนะครับ ลุงอย่าไปกลัวเขาเลย"
"ผมก็พยายามไม่กลัวอยู่ อืม ... ไม่อยู่ทานข้าวกันก่อนล่ะ?"
"อ่าไม่เป็นไรครับ ไหนๆผมก็อุ้มเขาลงมาแล้ว"
"เอางั้นหรอ ฮ่าๆ โอเคๆ ขับรถดีๆนะครับ"
"ครับผม" กงชานโค้งลาพ่อบ้านก่อนจะเดินออกจากตัวบ้านมา ส่วนรองเท้านี่คงไม่ต้องเอาไป ที่คอนโดฯก็มีตั้งหลายคู่จนจะเปิดร้านขายรองเท้าได้อยู่แล้ว
กงชานเดินมาหยุดที่รถตัวเองก่อนจะวางกระเช้าผลไม้ไว้ตรงกระโปรงรถ แล้วใช้มือข้างนั้นหยิบกุญแจออกมาปลดล็อครถ กงชานเปิดประตูเบาะหลังแล้วยัดคนตัวเล็กที่หลับสนิทเข้าไปแล้วปิดประตู ก่อนจะหยิบกระเช้าผลไม้แล้วเดินไปประจำที่นั่งคนขับและวางกระเช้าผลไม้ไว้ที่เบาะข้างๆแล้วสตาร์ทรถขับออกไป
'จริงๆเขาก็น่ารักดีนะครับ'
จินยองไม่ได้หลับจริงๆซักหน่อย :)
อีกด้านนึงในเวลาเดียวกัน
คนน่ารักเก็บข้าวของลงกระเป๋าของตัวเองแล้วจับมันขึ้นสะพายเหมือนทุกๆครั้งก่อนจะผลักประตูห้องทำงานออกไปด้านนอก อีซานดึลที่พึ่งเลิกงานเดินมาเรื่อยๆจนถึงหน้าสตู แต่ยังไม่ทันจะผลักประตูออกไป ประตูอีกบานก็ถูกผลักเข้ามาโดยใครอีกคน
คนที่ไม่อยากเจอหน้ามากที่สุด
"มาทำไมอีก"
"มาหาน้องซานดึล<3"
"-___-" ซานดึลส่ายหัวน้อยๆแล้วไม่สนใจที่อีกฝ่ายพูดและผลักประตูอีกบานออกไป บาโรจึงรีบเดินตามเหมือนอย่างเคย
"อะไรเนี่ย ไม่มีงานมีการทำหรือไงมาเดินตามอยู่ได้" เดินออกมาได้แค่ไม่กี่ก้าวก็ต้องชะงักฝีเท้าเมื่อคนๆนั้นยังจะเดินตามมาอีก
"เลิกงานแล้ว"
"เลิกงานก็กลับบ้านไปสิครับ"
"น้องซานดึลจะไปไหน"
"ไม่ยุ่งซักเรื่องคงไม่ตายมั้งครับ"
"-0-;;;;"
เงิบ ...
"น่าเบื่อจริงๆ"
(.___.)
"นายกลับบ้านไปเหอะ"
(.___.)
"ยังไม่ไปอีก"
"เดี๋ยวไปส่ง ..."
"เห็นผมเป็นเด็กห้าขวบหรือยังไง"
"ก็ไม่ได้เห็นว่าเป็นเด็ก"
....
"เห็นว่าเป็นคนที่แอบชอบต่างหาก (./////.)"
....
"นะ .. น้องซานดึล"
....
"อย่าเดินหนีพี่สิครับT_____T"
....
"อะไร มองทำไม"
T ^ T
"รอไม่ไหวก็กลับบ้านไป"
T [ ] T
ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกสินะ
สุดท้ายลูกเป็ดตัวกลมก็ต้องยอมเจ้ากระรอกชาซอนอูอยู่ดี ทางเดียวที่จะเลิกให้เซ้าซี้ก็คือยอมสินะ -___-;;
จริงๆแล้วซานดึลไม่ได้กลับบ้านแต่มาเดินที่ห้างแห่งหนึ่งใจกลางเมืองเพื่อมาซื้อเลนส์กล้องตัวใหม่ เพราะตัวเก่าก็ใช้มาตั้งแต่ฝึกงานตอนอยู่มหาวิทยาลัยแล้ว และยิ่งตอนนี้ซานดึลได้เลื่อนขั้นเป็นช่างภาพมืออาชีพแล้วเพราะบก.ถูกใจงานที่ซานดึลถ่ายไปเมื่อวันก่อนมาก จึงได้รับการเลื่อนตำแหน่ง เขาจึงถือโอกาสมาซื้อเลนส์กล้องตัวใหม่ซะเลย
"น้องซานดึลเลือกมาชั่วโมงนึงแล้วนะครับ .."
บาโรบ่นงืมงัมอยู่ตรงโซฟาที่กลางร้าน ซานดึลที่กำลังต่อเลนส์เข้ากลับตัวกล้องอยู่เงยหน้าขึ้นมาก่อนจะทำตาขวางใส่
"ถ้าบ่นอีกครั้งหัวนายแตกแน่..."
TxxxxxxT
"พี่จินยองอยากกินอะไรมั้ยครับ" ร่างสูงถามขณะที่ขับเคลื่อนรถมาจอดอยู่ในบริเวณส่วนลานจอดของซุปเปอร์มาเก็ตใกล้ๆคอนโดฯ จองจินยองที่ตื่นได้ซักพักนั่งคิดเมนูในหัวสมองอย่างเคร่งเครียดจนกงชานที่หันมาจะเอาคำตอบอดขำไม่ได้
"ผมถามว่าจะกินอะไรทำไมเครียดขนาดนั้นล่ะครับ"
"ก็ฉันไม่รู้ว่าจะกินอะไรนี่หว่า"
"แล้วพี่อยากกินอะไรล่ะ"
"อืม......... กิมจิชิเก ... ยำสาหร่าย .. มันดู "
“ยำสาหร่ายกับมันดูผมซื้อสำเร็จไปเลยแล้วกัน เดี๋ยวกิมจิชิเกผมทำเอง”
“นายทำเป็นด้วยหรอ”
“อย่าดูถูกผมน่า” กงชานว่าก่อนจะปลดเข็มขัดนิรภัยแล้วเปิดประตูรถออกไป แต่เหมือนจะลืมอะไรบางอย่างเลยเอี้ยวตัวกลับเข้ามาในรถ
“พี่จินยอง ...”
“ หืม”
“ที่ตู้เย็นพี่ยังมีพวกเต้าหู้กับกิมจิอะไรพวกนี้อยู่ใช่มั้ย ผมจะได้ไม่ต้องซื้อมา”
“อือ ก็ยังพอมีอยู่”
“พี่จินยอง”
“อะไรอีกล่ะ”
“อยู่บนรถอย่าออกไปไหนนะครับ ถ้าหนาวก็ปรับแอร์ มีอะไรโทร.หาผมนะ”
“//////////////”
“เข้าใจหรือเปล่าครับ” กงชานถามร่างบางซ้ำแต่จินยองไม่ได้ตอบ ได้แต่พยักหน้าเบาๆเป็นเชิงตอบว่าเข้าใจไปให้ กงชานยิ้มบางๆก่อนจะเดินหายเข้าไปในซุปเปอร์มาเก็ต
นายทำแบบนี้อีกแล้วนะ .....
นิ้วเรียวกดสไลด์มือถือไปเรื่อยๆเพื่อหาอะไรทำฆ่าเวลาระหว่างรอกงชานชิคอยู่ในรถ นิ้วโป้งเลื่อนไปกดที่ไอคอนรูปนกสีฟ้าแล้วเข้าไปดูในการแจ้งเตือน รอยยิ้มน้อยๆถูกระบายขึ้นบนหน้าทันทีที่เห็นเมนชั่นจากแฟนคลับที่คอยให้กำลังใจและสนับสนุนเขาเสมอมา สิ่งที่เขาทำอยู่ทุกๆวันนี้ก็เพื่อแฟนๆของเขาที่คอยอยู่เคียงข้างไม่ห่าง
ก๊อก ก๊อก
เสียงนิ้วเคาะกระจกทำให้จินยองต้องละใบหน้าจากจอมือถือมาแล้วหันมาตามเสียง ก็พบว่าเป็นกงชานที่ยืนยิ้มโชว์เขี้ยวเล็กๆสองข้างอยู่ก่อนที่เจ้าตัวจะเลื่อนมาเปิดประตูคนขับและเข้ามานั่ง เสียงหอบแฮ่กๆที่ดังขึ้นเป็นระยะๆขณะที่กงชานหายใจทำให้จินยองอดที่จะถามไม่ได้
“วิ่งมาหรือไงเนี่ย”
“ครับ” เขาตอบเสียงแผ่วแล้วขับรถออกไป
“วิ่งทำไม บ้ารึเปล่าเนี่ย”
“ผมไม่อยากทิ้งพี่ไว้คนเดียวอ่ะ”
เอาอีกแล้วนะกงชาน //////////
“ฮะ ..อ่อ อ๋อ งั้นหรอ”
กงชาน ...
นายรู้สึกเหมือนที่ฉันรู้สึกหรือเปล่า
………
“พี่ไปนั่งรอเถอะครับ”
“ก็อยากช่วยนี่หว่า”
กงชานออกปากไล่ร่างเล็กๆเบาๆหลังจากที่จองจินยองยืนอยู่หน้าเตาข้างๆเขามาสักพักนึงแล้ว จริงๆยืนอยู่ตรงนี้ก็ไม่เห็นจะช่วยอะไรเอาแต่มองร่างสูงหั่นนู่นต้มนี่อยู่นั่น ส่วนเจ้าตัวก็ได้แต่เท้าแขนผอมๆอยู่ตรงเค้าท์เตอร์ครัว
“แล้วพี่ช่วยอะไรหรือเปล่า”กงชานว่าก่อนจะนำต้นหอมและเต้าหู้ที่หั่นเตรียมไว้แล้วนำมาใส่ในหม้อเป็นขั้นตอนสุดท้าย
“ก็ .. เปล่า (.__.)”
“งั้นก็ไปนั่งที่โต๊ะสิครับ”
“ไล่หรอ”
“เออ ไล่”
“กงชานชิค!!!”
“ J “ กงชานหันมายิ้มอย่างกวนตีนแล้วใช้ช้อนคนซุปในหม้อต่อไป จินยองเหนื่อยที่จะต่อร้อต่อเถียงด้วยเลยเดินมานั่งที่โต๊ะตามคำสั่ง ใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้องกันแน่วะเนี่ย
อ่า
เหมือนจะคิดอะไรสนุกๆได้นะ ...
จองจินยองคิดแล้วหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาแล้วเปิดไปยังแอพพลิเคชั่นถ่ายรูป มือบางยกกล้องขึ้นมาหันไปทางร่างสูงที่ยืนหันหลังอยู่และกำลังง่วนกับการตักแกงกิมจิใส่ลงในถ้วย เมื่อกล้องโฟกัสแล้วจึงกดถ่ายรูป หลังจากนั้นจินยองจึงเข้าไปที่แอพฯทวิตเตอร์แล้วอัพรูปที่พึ่งถ่ายเมื่อกี้ลงโซเชี่ยลเน็ตเวิร์ค พร้อมกับคำบรรยายที่ว่า
เชฟ ‘ส่วนตัว’ ของผม กำลังทำอาหารแหละ ~ㅎㅎㅎ
เมื่ออัพทวิตเรียบร้อยแล้วจึงล็อคหน้าจอและวางมือถือไว้ พอดีกับที่กงชานถือถ้วยอาหารอย่างสุดท้ายมาวางไว้บนโต๊ะทันที มือหน้าถอดผ้ากันเปื้อนสีฟ้าลายลูกหมีออกแล้วพาดมันไว้กับขอบเก้าอี้แล้วนั่งลงตรงข้ามกับอีกฝ่าย
“กินเสร็จแล้วไปกินยาด้วย”
“ยา ? ยาไหน ที่นี่ไม่มียา” จินยองที่กำลังจะตักข้าวเข้าปากชะงักมือ
“ผมซื้อมาที่ซุปเปอร์เมื่อกี้ เจลลดไข้ด้วย ผมซื้อมาเผื่อไว้”
//////////////////////////////
“ ละ ...แล้วเงินใคร ใช่เงินนายหรือเปล่า”
“เปล่าอ่ะ” กงชานว่าแล้วคีบยำสาหร่ายเข้าปาก
“อ้าวแล้วเงินใคร”
“เงินพี่ไง กระเป๋าตังค์พี่อยู่ที่ผม”
“อ่อแล้วไป ๆ”
………
……..
………
“เฮ้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย” จู่ๆจินยองก็เฮ้ยขึ้นมาจนกงชานสะดุ้งจนทำตะเกียบร่วงลงไปใต้โต๊ะ ร่างสูงจึงก้มลงไปเก็บในขณะที่จินยองก็จะก้มลงไปเก็บให้เหมือนกัน
โป๊ก !
“โอ๊ย/โอ๊ย”
จริงๆเสียงหัวโขกมันไม่ได้ดังอะไรขนาดนั้นหรอกแต่ก็ทำซาวน์ให้มันดูยิ่งใหญ่อลังการไปอย่างนั้นเอง - -; กงชานเก็บตะเกียบขึ้นมาแล้วมองหน้าสวยอย่างฉงนใจ
“พี่เฮ้ยทำไมเนี่ย”
“ก็นาย โอยเจ็บ บอกว่าใช้เงินฉันซื้อของกินพวกนี้หรอ ยาด้วยใช่หรือเปล่า”
“อือ ก็ใช่” กงชานตอบด้วยสีหน้าปกติ ไม่เห็นมันจะน่าตกใจขนาดนั้นเลย
“ทำไมไม่บอกกันก่อนเล่า T _ T”
“ลืม ทำไมแค่นี้ไม่กี่วอนงกหรอครับ”
เออนั่นดิ ...
ตกใจทำไมวะ
“เออช่างมันเถอะ” จินยองบอกปัดๆก่อนจะก้มหน้าก้มตากินข้าวและคุยกันเรื่องสัพเพเหระทั่วไประหว่างมื้ออาหาร
“นาย ... เอ่อ ... อึดอัดป่ะเวลาทำงานอยู่กับฉัน”
“ไม่นี่ครับ ก็ปกติดี แปลกดี”
“อะไรแปลก”
“พี่ไง”กงชานตอบยิ้มๆก่อนจะเก็บถ้วยชามทั้งหมดรวมๆกันแล้วลุกขึ้นเอาไปล้างที่ซิงค์
“ฉันแปลกตรงไหนวะ” ถึงแม้จินยองจะพูดกับตัวเองแต่แน่นอนว่ากงชานได้ยินเพราะทั้งห้องนี้มีพวกเขาแค่ 2 คนละก็ไม่ได้เปิดทีวีหรือมินิโฮมเธียร์เตอร์ไว้ด้วย
“ก็เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย เหมือนผู้หญิงที่หงุดหงิดเวลาประจำเดือนไม่มา” เขาพูดแล้วเปิดน้ำในซิงค์ไปด้วย
..........
“บางทีก็ดื้อ บางทีก็น่ารัก ”
อะไรน่ารักๆนะ ..
“เฮ้ยผมไม่ได้บอกว่าพี่น่ารักอะไรแบบนั้นนะ เออแต่มันก็น่ารัก เอ้ยมันไม่ใช่น่ารักแบบนั้น โอยจะอธิบายยังไงดี”
-/////////////////////////-
“บางทีก็อยากจับพี่โยนลงหน้าต่าง บางทีพี่ก็เอาแต่ใจ”
“เอาเป็นว่าในตัวพี่มีหลายๆอย่างอยู่รวมๆกันอ่ะครับ มันทำให้ผมอยู่กับพี่โดย ... ไม่น่าเบื่ออย่างที่คิด”
เขาว่าการรักใครซักคนเป็นเรื่องยาก
แต่การรู้ใจตัวเองว่าเรารู้สึกยังไงกับเขา
ยากยิ่งกว่า ......
รัก ชอบ หลง หรือแค่รู้สึกดี
คุณตอบมันได้ทันทีรึเปล่าล่ะ
“พี่ไปกินยาอาบน้ำนอนเถอะครับ ไม่สิ พี่ยังอาบน้ำไม่ได้ เช็ดตัวไปก่อน” กงชานคว่ำชามใบสุดท้ายก่อนจะเอายาและน้ำเดินมาให้คนตัวเล็กที่นั่งกอดเข่าอยู่ที่โซฟา
“ดีขึ้นมั่งหรือเปล่า” เขาถามขณะที่จินยองรับน้ำและยาไปกิน
“ฉันไม่เป็นอะไรแล้วๆ”
“งั้นก็ไปเช็ดตัวแล้วก็นอนพักได้แล้ว ผมว่าจะออกไปข้างนอกหน่อย”
“ไปไหน”
“อ่า ว่าจะแวะไปหาซานดึลหน่อยน่ะครับ พี่เข้าห้องนอนได้แล้วไปเดี๋ยวผมปิดไฟให้
“อะ....อืม .. ไปเถอะ”
ความสุขของฉันคือเธอ
ความสุขของเธอคือเขา
เหมือนโลกที่เคยสดใสกลับมืดมิดลง จินยองค่อยๆพยุงร่างตัวเองลุกขึ้นแล้วเดินไปยังห้องนอนของตัวเองก่อนจะปิดประตูห้องลง กงชานยิ้มบางๆให้หลังก่อนจะปิดไฟบริเวณห้องนั่งเล่นแล้วหยิบกุญแจรถออกมาแล้วล็อคห้องไว้ให้
~ ♬
♩
“ใครครับ... อ้าว กงชาน” หน้ากลมๆโผล่พ้นประตูมาก่อนจะทำหน้ามึนใส่ ที่จู่ๆคนรักก็มากอดออดถึงหน้าห้อง กงชานยืนยิ้มอยู่หน้าประตูเอามือสองข้างไว้ข้างหลังจนคนน่ารักตรงหน้าสงสัย
“อะไรนะ”
แท่นแท้นนนนนน
ช่อดอกไม้สีขาวที่ถูกตกแต่งด้วยริบบิ้นและกระดาษสาต่างๆนาๆสีหวานถูกยื่นมาตรงหน้าซานดึลที่ยังทำหน้ากลมๆมึนๆใส่กงชานไม่หาย ก่อนจะเอื้อมมือไปรับ
“อะ..อะไรเนี่ย”
“พาผมเข้าห้องก่อนสิครับเดี๋ยวจะบอก ยุงกัดจะแย่แล้วเนี่ย”
...................
“ผมซื้อเป็นของขวัญเลื่อนขั้นไง^^”กงชานพูดยิ้มๆ
“โธ่กงชาน ไม่เห็นจะต้องทำขนาดนี้เลย -///////- ” ซานดึลพูดยิ้มๆก่อนจะก้มลงสูดดมความหอมของช่อดอกไม้ที่คนรักมอบให้ “หอมจัง”
“ดอกไม้มันกินไม่ได้นะพี่”
“=______=”
“ทำหน้าบวมเป็นคางคกใส่ผมอีกแล้วผมกลัวนะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ”
“เดี๋ยวพ่อตบให้หายดำเลยนี่!!”
“รางวัลผมอะ” กงชานพูดก่อนจะเดินไปใกล้ๆคนรัก จนซานดึลต้องถอยกรูดไปตัดกับผนักพิงโซฟา
“อะ ...อะไร =///////=”
“ก็รางวัลไง”
“ระ...รู้แล้ว หลับตาสิ” ซานดึลผลักกงชานออกไปเบาๆ คนตัวสูงไม่ขัดขืนยอมหลับตาอย่างที่คนตรงหน้าบอก เมื่อตาคมปิดสนิท ซานดึลเลยฝังปลายจมูกลงบนแก้มคนรักเร็วๆแล้วละออกมา
“ไม่ใช่แบบนี้สิ”
“แล้วแบบไหนเล่าาาา”
“แบบนี้ไง”
นาย ....
ขโมยจูบฉันอีกแล้วนะ ....
“หลับฝันดีนะครับ”
แน่นอนว่ากงชานมาหาซานดึลและอยู่เฝ้ารอจนซานดึลหลับ ตอนนี้ก็เป็นเวลาประมาณสี่ทุ่มกว่าๆแล้ว จริงๆเขาก็เริ่มง่วงแล้วเหมือนกัน อยากจะนอนค้างที่นี่อยู่เหมือนกัน แต่ก็ต้องกลับไปดูคนป่วยว่าป่านนี้หลับไปหรือยัง กงชานออกมาจากห้องซานดึลก่อนจะเดินลงมาที่ชั้นล่าง โชคดีที่มีตู้ขายเครื่องดื่มอัตโนมัติ เขาเลยกดกาแฟมากินแก้ง่วงซักกระป๋องแล้วขับรถกลับไปยังที่คอนโดฯ
ร่างสูงหยิบคีย์การ์ดสำรองที่เอามาจากจินยองออกมาจากกระเป๋าและใช้เปิดประตูห้องเข้าไป ไฟส่วนห้องนั่งเล่นยังปิดอยู่เหมือนเดิม แต่ไฟในส่วนของห้องนอนเจ้านายของเขายังเปิดสว่างอยู่ ดึกป่านนี้ทำไมไม่หลับไม่นอนนะ
ก๊อก ก๊อก
“พี่จินยอง”
........
“พี่จินยองครับ หลับหรือยัง”
“หลับแล้ว”
โอเคหลับแล้ว ….
จะบ้าหรออออออออออออออออออออออ!!!
หลับแล้วจะตอบได้ยังไง ถถถถถถถถถถถถถถถถถ
“พี่ยังไม่หลับนี่”
“ก็ใช่น่ะสิจะถามทำไม”
เอาอีกแล้ว
งี่เง่าอีกแล้ว
“งั้นเปิดประตูให้ผมหน่อย”
“ไม่เอาไม่เปิดโว้ยจะนอน”
“ถ้าไม่เปิดผมจะพังเข้าไปนะ”
“นายไม่กล้าหรอก”
ปึง !
แม่งกล้าว่ะ ...
ปึงๆๆ !!!!
“เออเปิดแล้วๆๆ” เสียงแหลมเล็กดังออกมาจากภายในห้องตามด้วยประตูสีไม้โอ๊คที่ถูกเปิดออก ร่างของจินยองที่ยืนอยู่หน้ากงชานทำให้เขาแทบจะเป็นลม
“พี่ใส่อะไรของพี่เนี่ย!!!!!”
“บ๊อกเซอร์กับเสื้อกล้ามไง”
“พี่ไม่สบายอยู่นะครับ แล้วแอร์ก็เปิดซะเย็น อยากตายหรือไง”
“เอออยากตาย =___= ”
“พี่จินยอง!”
“ทำไม เป็นห่วงฉันหรือไง”
“ตอบมาสิ นายเป็นห่วงหรอ ?!”
“เงียบทำไมวะ”
“เออ”
“ผมเป็นห่วง”
“ผมเป็นห่วงพี่..........พี่จินยอง”
เขาคงเลวใช่มั้ย
ทั้งๆที่มีคนที่รักอยู่เต็มหัวใจ
แต่กลับรู้สึกดีกับใครอีกคน
TBC.
ความคิดเห็น