คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #6 : Chapter #5.2 [END]
ผมค่อยๆผละออกจากจินฮวานเบาๆแล้วรีบพุ่งตัววิ่งลงไปในสนาม ก่อนนะสังเกตได้ว่ามีหน่วยพยาบาลถือเปลลงไปแล้ว เมื่อตั้งสติได้จึงพาร่างตัวเองวิ่งต่อไปอีก จนเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
ผู้คนในชุดสีขาวคาดว่าเป็นหน่วยพยาบาลพากันยกร่างที่ผมคุ้นหน้าคุ้นตาดีขึ้นมาบนเปลก่อนจะยกเขาออกไป ขาผมไร้เรี่ยวแรงที่จะเดินและทรุดลงไปตรงนั้น
"พี่จินยอง ! " เสียงที่ผมแทบจะไม่คุ้นหูดังขึ้นข้างๆหลังจากที่ผมทรุดตัวลงนั่งกับพื้นไม่นาน
ฮันบินวิ่งมาหาผมก่อนจะจับไหล่บางๆของผมไว้ ส่วนข้างๆนั้นก็เป็นจินฮวานที่ยังร้องไห้อยู่
"ไอ้กงชานมันไม่เป็นไรหรอกพี่"
"นายแน่ใจได้ยังไง.."
"มันแค่เสียหลักล้มลงไปเฉยๆ อย่างมากก็แค่ถลอก ไม่ต้องห่วง"
"นายจะไม่ให้ฉันห่วงได้ยังไงเล่า" ผมพูดอย่างหัวเสียแล้วเด้งตัวลุกขึ้นมา เล่นเอาตกใจกันเป็นแทบ ผมบอกขอบคุณฮันบินที่เดินมาบอกผม ก่อนจะเดินไปที่หน่วยพยาบาล แต่ก็มีมือนึงจับผมไว้ก่อน
"กงชานมันคงสลบอยู่"
"นี่หรอแค่บ้านนาย สลบนี่ไม่แค่แล้ว"
"พี่ใจเย็นๆก่อนสิครับ มันไม่เป็นไรจริงๆ"
"โดนหามขนาดนั้น นายมาลองดูบ้างมั้ย"
ให้ตายเถอะ ! ทำไมพวกเพื่อนเขาถึงมั่นใจอะไรขนาดนั้นวะว่าไม่เป็นไร ก็ผมเห็นกับตา !! คนนะเว้ยไม่ใช่สไปเดอร์แมน ที่จะไม่เป็นอะไรอ่ะ !!
"ดูพี่จะห่วงมันจัง"
"ก็ห่วงอ่ะสิ"
"ชอบมันหรอครับ "
...
"เออ!! ปล่อยได้ยัง"
เหลือทนแล้วกับความสับสนแบบนี้ ผมเลยฟันธงแม่งไปเลยว่าชอบมัน ปล่อยให้มันค้างคาก็ยิ่งรำคาญ แม่งเอ้ย
ผมตอบคำถามสุดท้ายของฮันบินก่อนจะสะบัดข้อมือตัวเองให้หลุดแล้วรีบวิ่งมาที่หน่วยพยาบาล ภาวนาอย่าให้มันเป็นอะไรเลย
ผมพาตัวเองมาอยู่ที่หน้าหน่วยพยาบาลที่อยู่ริมสุดของสนาม แต่ก็ไม่ไกลจากที่เมื่อกี้มากนัก ผู้คนเริ่มทยอยออกไปจากบริเวณนี้บ้างแล้ว เหลือเพียงไม่กี่คนที่ยังยืนรอดูอาการ ไม่นานก็มีชายชุดขาวคนนึงที่สวมชุดแตกต่างจากคนอื่นๆซึ่งมองก็รู้แล้วว่าเป็นหมอของที่นี่ ทันทีที่เห็นสมองจึงสั่งการให้ผมเข้าไปถามอาการด้วยความเป็นห่วง
"หมอครับ เขาไม่เป็นไรใช่มั้ยครับหมอ หมอต้องช่วยเขานะครับ !"
"คือชานชิคเนี่ยได้รับผลกระทบที่หลัง ตอนนี้เราติดต่อรถพยาบาลจากรพ.ที่ใกล้ที่สุดแล้ว"
!
"ส่วนอื่นมีแผลถลอกบ้างนิดหน่อย โดยรวมแล้วไม่น่าเป็นห่วงมาก อย่ากังวลเลยครับ"
"ครับ ..."
"แต่ที่เราเป็นห่วงอยู่คือกลัวว่าจะมีเลือดคั่ง ทางโรงพยาบาลจะตรวจอีกที"
"แต่เขาจะปลอดภัย .. ใช่มั้ยครับ"
"แน่นอนครับ"
"ผม...ขอไปหาเขาได้มั้ย"
ผมเดินเข้ามาในหน่วยพยาบาลหลังจากทีได้รับอนุญาต ไม่รู้เลยว่าการไร้เรี่ยวแรงเดินแบบนี้มันรู้สึกตั้งแต่เมื่อไหร่ ไม่รู้ว่าไอ้ที่มันโหวงๆในท้องนี่มันคืออะไร ทำไมผมต้องรู้สึกแบบนี้ ..
หรือว่าผมกลัวที่จะเสียเขาไป
ร่างสูงของกงชานนอนแน่นิ่งอยู่บนเตียงสีขาวสะอาด ลมหายใจแผ่วๆของเขาช่วยทำให้ผมใจชื้นได้บ้างแต่ก็ไม่มากเท่าไหร่นัก ใบหน้ามีรอยฟกช้ำและถลอกอยู่เล็กน้อย ชุดแข่งรถตัวหนาถูกถอดออกไปเหลือเพียงแค่เสื้อกล้ามสีขาวที่แอบมีรอยคราบเลือดอยู่ ยิ่งเห็นมันก็ยิ่งกลัว ..
"กงชานชิค" ผมเรียกชื่อพร้อมกับจับมือของเขาขึ้นมากุมไว้ อย่างน้อยตัวของเขาก็ยังอุ่นอยู่
แหงสิ !!
ยังไม่ตายโว้ย
"ถ้านายไม่ตื่นมาฉันจะเกลียดนายไปตลอดชีวิตเลย"
"ตื่นมาดิวะ"
ผมไม่ชอบเลยที่จะต้องเห็นมันนอนนิ่งๆแบบนี้ ให้มันตื่นมาจับมือผม เล่นกับผม กวนตีนผมยังดีเสียกว่า ตอนแรกๆผมก็ยอมรับนะว่าผมรำคาญเขา ที่มาคอยวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ..
แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่
ผมชอบที่มีกงชานอยู่ข้างๆ ไม่รู้ว่ามากขนาดไหน แต่ถ้าขาดมันไปชีวิตผมคงน่าเบื่อ อยากจะเห็นมันยิ้ม มันหัวเราะอยู่ข้างๆผมมากกว่า
หรือตลอดเวลาที่ผ่านมาผมปฏิเสธใจตัวเองมาตลอด ..
มันอาจจะเร็วไปที่ผมจะรู้สึกดีกับเขา แต่ถ้าใครเจอแบบนี้ก็ต้องใจอ่อนกันทั้งนั้น เขาแสดงให้ผมรู้ให้ผมเห็นตลอดเวลาว่าเขารู้สึกยังไงกับผม จนกำแพงที่ผมสร้างไว้มันค่อยๆทลายลงโดยฝีมือของเขาเอง
แหมะ ..
หยาดน้ำใสๆไหลออกมาจากดวงตาของผมตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้ นี่ผมร้องไห้ให้ไอ้หมานี่หรอ เชื่อเลยจริงๆ
"กล้าดียังไงมาทำฉันร้องไห้"
ผมเอื้อมมืออีกข้างไปเช็ดน้ำตาตัวเองที่หยดแหมะลงบนแก้มของกงชาน แต่ยิ่งเช็ดออกมันก็ยิ่งไหลออกมาจากดวงตาของผม ตลกดีเหมือนกันนะ
"ฉันคงเป็นบ้าไปแล้ว"
"ที่จู่ๆก็เผลอใจให้ลูกหมาอย่างนาย"
...
"เป็นเรื่องที่พลาดที่สุดเลยแม่ง"
นี่ขนาดตอนมันสลบผมยังไม่กล้ามองหน้ามันเลย
ผมเกลียด
มันหล่อเกินไป !!
"แต่มันก็คงพลาดน้อยกว่าถ้าฉันไม่ได้ชอบนาย"
"จริงหรอ"
"เออ"
"แต่ผมรักพี่นะ"
"ฉันก็ระ.."
เดี๋ยวนะ
เมื่อกี้ผมคุยกับใคร ?
ขวับ!
ผมหันหน้ามาหาคนป่วยแต่ก็ต้องถึงกับงง มันก็นอนอยู่นี่หว่าแล้วเมื่อกี้ผมคุยกับใครวะ ไม่เอาน่า นายยังไม่ตายนี่กงชานชิค
"ฮะ"
หือ
"ฮ่าๆๆๆๆ กร้ากกกก"
กร้ากพ่อมึงสิ
ผมปล่อยมือจากกงชานแล้วนอนมองมันที่หัวเราะแบบสุดชีวิตอยู่อย่างเคืองๆ และมีท่าทีว่าจะไม่หยุดง่ายๆด้วย ตอนอยู่นิ่งๆก็หล่อดีอยู่หรอก ไหงตอนหัวเราะน่าเกลียดซะงั้น
"หยุดแล้วค่อยคุยกัน" ผมพูดเสียงเรียบก่อนจะสาวเท้าเดินออกมา แต่ยังไม่ทันเดินไปถึงไหน ร่างคนป่วย ไม่สิ คนแกล้งป่วยก็ลุกขึ้นมากอดผมจากด้านหลังทันที
"ผมขอโทษ โกรธมากเลยหรอ" เสียงนุ่มทุ้มกระซิบเข้าที่ข้างหูของผมพลางเอ่ยขอโทษ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่แต่ก็ไม่ได้ตอบเด็กมันไป พร้อมกับแกะมือตุ๊กแกของคนด้านหลังออกด้วย ผมอยากทำให้เขารู้ว่าผมโกรธจริง ไม่ได้ล้อเล่น
"พี่จินยอง"
"อย่าเงียบสิครับ"
"แล้วจะให้พูดว่าอะไร"
"อะไรก็ได่แต่อย่าเงียบแบบนี้"
"ฉันคิดว่านายน่าจะมีอะไรพูดมากกว่าฉันนะ" ผมหันหลังกลับไปเผชิญหน้ากับกงชาน ทั้งๆที่มือมันก็ยังกอดเอวผมอยู่นั่นแหละ แต่ก็ช่างแม่ง ผมไม่สนใจอะไรแล้วนอกจากความจริงจากปากของมันเอง
"พี่จะต่อยจะตีจะกระทืบยังไงก็ได้ แต่อย่าเกลียดผม"
กงชานพูดเสียงอ่อยต่อหน้าผม พร้อมกับดวงตาแบบนั้นมัน ..มันทำให้ผมใจอ่อน
"ผมจัดฉากทุกอย่างเอง ตั้งแต่เอาพี่ไปเป็นเดิมพัน ผมเตี๊ยมกับคู่แข่งไว้ ว่าให้ผมชนะ พี่จะได้เป็นแฟนผม"
"แล้วเรื่องรถคว่ำ ... "
"ผมขับคว่ำจริงๆ"
"ผมอยากรู้ความรู้สึกของพี่ เลยให้หมอพูดแบบนั้น ผมอยากรู้ว่าพี่จะกลัวเสียผมไปบ้างมั้ย ถ้าผมเป็นแบบนั้นจริงๆพี่จะรู้สึกยังไง"
อย่าหาว่าผมตาฝาดกับหูฝาดเลย ผมว่าเสียงเขามันสั่นกว่าปกติเหมือนกำลังฝืนกลืนอะไรอยู่ และเหมือนดวงตาของเขามันมีน้ำใสๆเคลือบอยู่ด้วย
เขาร้องไห้หรอ ?
"พี่จะด่าผมว่าเป็นไอ้ขี้โกหกหลอกลวงก็ได้นะ ถ้ามันทำให้พี่สบายใจ"
"แต่มีเรื่องเดียวที่ผมไม่สามารถโกหกมันได้"
"คือผมรักจองจินยอง"
สิ้นสุดคำพูดริมฝีปากเรียวเล็กของร่างบางก็ถูกประกบด้วยปากอวบอิ่มอีกคู่ มือหนายกมือขึ้นกุมประคองใบหน้าของจินยองไว้อย่างแผ่วเบา พลางใช้นิ้วโป้งเกลี่ยไล้แก้มใส พร้อมกับกดจูบลงไปให้แนบชิดยิ่งกว่า ปลายจมูกซุกอยู่ตรงข้างแก้มเลยอดไม่ได้ที่จะสูดดมความหอมหวานที่เขาเคยไขว่คว้ามานาน ขณะเดียวกันคนตัวเล็กก็ยังมีท่าที่ขัดขืน พยายามจะผลักดันตัวเขาออกอยู่ตลอดเวลา
ผมจะทำให้พี่รู้ว่าผมรักพี่ !
ถึงกระนั้นกงชานก็ไม่สนใจ กลีบปากสีระเรื่อขบเม้มไปตามปากเรียวเล็กที่ยังคงปิดสนิท ไม่ยอมโอนอ่อนให้ง่ายๆ กงชานชิคจูบซับกลีบปากบางก่อนจะค่อยๆใช้ลิ้นอุ่นเข้ามาช่วย ไล้ไปตามแนวริมฝีปากพลางจูบลงไปอีกครั้ง และอีกครั้ง
แต่แล้วความพยายามของเขาก็เป็นผลสำเร็จ จากมือบางทีเคยทุบตีอยู่บนหน้าอกกลับขยุ้มเสื้อกล้ามสีดำของกงชานแน่น พลางเบียดร่างบอบบางของตัวเองเข้าหา ใบหน้าหวานเชิดขึ้นรับสัมผัสของอีกฝ่ายที่ส่งมาให้อย่างไม่มีปิดบังความรู้สึกใดๆ พร้อมกับปากบางที่เผยอเชื้อเชิญให้ลิ้นหนาเข้าไปหยอกล้อกับด้านใน กงชานชิคไล่ต้อนเนื้อบางอยู่ซักพักก่อนจะจับมันดูดดึงอย่างแผ่วเบา พร้อมขบเม้มริมฝีปากเล็กๆที่ขึ้นสีแดงสด ร่างสูงกดจูบแนบแน่นครั้งสุดท้ายก่อนจะค่อยๆถอดริมฝีปากออกมา เปลือกตาบางที่หลับพริ้มจึงลืมตาขึ้นมาช้าๆมองเด็กหนุ่มตรงหน้าที่เอาหน้าผากกับปลายจมูกมาชนกับตัวเอง
"ไอ้...."
ก่นด่าไอ้เด็กตัวแสบที่เคยเกลียดนักเกลียดหน้าอย่างเขินอาย จังหวะเดียวกับมือหนาที่เปลี่ยนมากุมมือของเขาไว้พลางสอดประสานอย่างแนบแน่น
"พี่ใจเต้นแรงเป็นบ้าเลย" เสียงนุ่มติดทุ้มกระซิบเบาๆก่อนริมมีปากคู่นั้นจะจูบลงบนแก้มใสและวางทาบไว้อย่างนั้น คนตัวสูงสูดเข้าเต็มปอดดังฟอดแล้วค่อยๆละออกมา
"เพราะใครล่ะวะ" ดู๊สิดูทำถึงขนาดนี้แล้วอย่างตีหน้าโง่ทำเป็นไม่รู้สาเหตุอีก มันน่าจับตีหัวซะให้เข็ดเลยไอ้เด็กนี่ !
"อย่าทำหน้ามุ่ยสิครับ เดี๋ยวหน้าเหี่ยว" พูดหยอกล้อคนตัวเล็กพลางใช้นิ้วชี้กับนิ้วโป้งหยิกลงบนแก้มใสเบาๆ แต่ก็ไม่ได้ทำให้หน้าหวานๆนั่นหงายหงิกงอได้เลย
"หรือว่า .. ต้องให้จูบอีกรอบ" กงชานพูดน้ำเสียงทะเล้นพลางเลื่อนใบหน้าหล่อๆเข้าไปใกล้หมายจะจูบจริงๆแต่ดันมีมือของร่างเล็กเข้ามาแทรกกลางไว้ก่อนเป็นเชิงห้าม ปากอวบอิ่มจึงจูบเข้าที่หน้ามือของจินยองเต็มๆ
อีกรอบงั้นหรอ
แค่นี้ลุงก็หัวใจจะวายแล้วโว้ย
"ทะลึ่งจริงๆ"
"มากกว่าที่พี่คิดแน่นอน" ว่าพลางกระตุกยิ้มที่มุมปาก ดูจะภูมิใจมากเสียเหลือเกินกับเรื่องแบบนั้น
"พี่จินยอง" จู่ๆเสียงทะเล้นนั่นก็เปลี่ยนโทนมาเป็นเสียงนุ่มนวลที่ฟังดูแล้วมันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ผิดกับเขาที่มีเสียงอยู่แค่โทนเดียว
"อะไร -///-"
ไอ้เด็กนี่ก็จ้องจัง เขินฉิบหาย
"คบกับผมนะ"
เอาไงดี เกิดมาพึ่งเคยโดนขอเป็นแฟนครั้งแรก เขิลอ้า *บิด*
"ก็คบอยู่ไง"
"ไม่ใช่แบบพี่น้องดิ"
"แล้วแบบไหนล่ะ"
นางเอกฟิคเราแรดได้โล่จริงๆครับ
"แบบที่มาเป็นเมียผมอ่ะ" พูดก็พูดเถอะถึงรูปประโยคจะฟังดูดิบเถื่อนผิดความคิดของเด็กที่อายุต่ำกว่าตัวเองตั้งสองปีไปหน่อย แต่ตรงๆห่ามๆนี่มันก็ทำให้เขินได้เหมือนกัน
"พี่เป็นผู้ชาย จะเป็นเมียได้ไง"
"เดี๋ยวพี่ก็รู้" ว่าด้วยน้ำเสียงเจ้าเล่ห์ไว้แค่นั้นก่อนจะเข้ามากระซิบข้างหูของคนตัวเล็ก "จะเอาให้ครางทั้งคืนเลย"
คิดว่าจองจินยองคนนี้จะเขินตัวบิดจนเอาหัวมุดนมเด็กกงชานชิคใช่มั้ย
ผิด !!!!
ผัวะๆๆๆๆๆๆ!!!!!
"ไอ้เด็กเวร" มือบางรัวตีทั้งหน้าทั้งแขนทั้งไหล่เด็กหื่นตรงหน้าไม่ยั้ง พร้อมกับที่แขนหนาจะยกมือเป็นเกราะป้องกันตัวเอง เห็นบางๆงี้มือหนักชะมัดเลย
"ตีผมทำไมเนี่ย"
"ดื่มวีต้าแล้วไปตายไป เพ้อเจ้อ"
"เอ้า ก็พี่เป็นเมียผม"
"ตอน ไหน ไม่ ทราบ วะ "
"โห่ เดี๋ยวก็เสกเด็กเข้าท้องซะเลย"
"กูเป็นผู้ชายครับ แมนๆ"
"ถ้าแมนจริงก็อย่าครางให้ผมได้ยินแล้วกัน"
ในหัวมีแต่เรื่องนี้หรือไงนะ -___-
"สรุปพี่จะให้คำตอบผมได้ยัง"
เหนื่อยที่จะสู้รบตบมือกับใบหน้าหวานๆที่ร้ายและเล่นตัวยิ่งกว่าอะไร จูบก็แล้วอะไรก็แล้วแต่จะขอเป็นเมียทีนี่มันยากชะมัด ขาก็เริ่มปวดเลยลากสังขารมานั่งลงที่เตียงคนไข้เหมือนเดิม นั่งมองคนตัวเล็กที่มีท่าทีนิ่งๆไม่เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นซะงั้น มันน่า ... จริงๆเล้ย
"คำตอบไร" ตอบแบบขอไปที แบบว่ากูไม่รู้จริงๆมึงเคยถามอะไรกูด้วยเรอะมาให้ตงให้ตอบ
คนตัวเล็กทำหน้ามึนๆก่อนจะสาวเท้าเดินมาหาคนตัวสูงที่นั่งหน้าซึมอยู่บนเตียงประหนึ่งว่างวดนี้กูโดนหวยแดกแน่ๆ แต่ต้องตกใจครั้งใหญ่เมื่อร่างเบาหวิวทิ้งตัวลงมาที่หน้าตักของเขาในท่าคร่อมพร้อมกับใช้แขนเล็กโอบคอเขาไว้ข้างหนึ่งก่อนจะใช้มือข้างนั้นสอดเข้าไปที่ใต้กลุ่มผมสีเข้มพลางลูบเบาๆ ตาเรียวเล็กจ้องมองกงชานชิคอย่างสื่อความหมายที่อีกฝ่ายก็คงรู้เหมือนกันว่าคืออะไร มือบางอีกข้างยกขึ้นไล้กรอบหน้าหล่อ พลางโน้มหน้าเข้าไปก่อนจะจรดริมฝีปากลงบนกลีบปากอิ่ม จินยองหลับตาพริ้มพร้อมขบเม้มริมฝีปากหนา พลางดูดซับปากอิ่มที่ยังคงปิดสนิท โดยที่จินยองไม่รู้เลยว่ากงชานน่ะจ้องเขาอยู่ ..
คนตัวเล็กยังคงดำเนินเกมต่อไปอย่างไม่ค่อยช่ำชองนักแต่ท่าทางแบบนี้แหละที่ทำให้กงชานเริ่มคุมสติไม่อยู่ แบบที่ว่าเงอะๆงะๆแบบนี้นี่แหละที่ทำให้เขาพ่ายแพ้จองจินยองอย่างสิ้นเชิง
ลิ้นเรียวเล็กค่อยๆไล้ไปตามแนวริมฝีปากที่ปิดสนิทหวังให้มันเปิดออก ยิ่งเห็นว่ามันปิดแน่นมากเท่าไหร่คนตัวเล็กที่ยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้นจนร่างสูงเริ่มทนไม่ไหวอีกต่อไป เผยอปากรับลิ้นบางที่พยายามจะเข้ามาพร้อมกับตอบสนองกลับไปอย่างรุนแรง
พลัดกันจูบพลัดกันแลกความหวานอยู่ซักพักจนเริ่มจะขาดอากาศหายใจ ใบหน้าหวานจึงถอนจูบออกมาพลางสูดอากาศเข้าปอด ยิ่งเขาเห็นริมฝีปากสีแดงสดที่เชิดขึ้นบวกกับนัยต์ตาเรียวที่คลอไปด้วยม่านน้ำก็ยิ่งทำให้เขาเสียสติ เหมือนเป็นยาบางอย่างที่เขาคงจะขาดมันไม่ได้
"ทำขนาดนี้ รู้คำตอบหรือยัง"
"ถ้าอีกรอบผมรู้แน่ๆ"
"เจ้าเล่ห์นักนะ" ว่าพลางต่อยกำปั้นเล็กๆลงบนหน้าหล่อหนึ่งทีก่อนที่มือนั้นจะถูกจับและถูกริมฝีปากร้อนๆจูบลงบนหลังมือ
"พี่รักผมใช่มั้ย"
"ที่ฉันลงทุนทำแบบนี้แปลว่าไม่รู้สึกอะไรเลยงั้นดิ"
"ตอบผมมาตรงๆได้มั้ยครับ" เสียงเว้าวอนของกงชานพูดขึ้นพลางจ้องลึกเข้าไปในดวงตาอีกคู่ บอกว่าเขาอยากได้ยินคำว่ารักจากจินยองจริงๆ
"ฉันไม่รู้ว่ารักนายมากน้อยแค่ไหน แต่ความรู้สึกที่มันปรากฏชัดเจนในใจคือรัก"
"ฉันรู้สึกกับนายมากขนาดนี้ คงจะเป็นคำอื่นไม่ได้ใช่มั้ยกงชานชิค"
"อดีตเคยรู้สึกยังไงก็แค่อดีต และก็ลืมมันไปแทบหมดแล้วด้วย"
"แต่ปัจจุบันคือ .."
"ฉันรักนาย"
จบเเล้วเรื่องนี้ *จุดพลุ* รู้สึกว่าเเต่งยาวนานมากกกกกกกจริงๆ
เรื่องเก่าก็ดองข้ามปีเพราะคิดไม่ออก /ร้องไห้
ยังไงก็คอมเม้นท์กันด้วยนะ ขอบคุณค่ะ T^T เราอยากรู้ว่ารีดรู้สึกยังไงบ้าง เเฮ่
ขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านน้าา เจอกันเรื่่องต่อไป #มีหรอ อิอิ
บ๊ายบายค่า
ความคิดเห็น