คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Chapter #5.1
"กงชาน มึงจะลงมั้ย เขาเรียกแล้ว"
เสียงของฮันบินพูดขึ้นพร้อมกับวิ่งมาหากงชาน จากเต้นท์ๆหนึ่งที่ตั้งอยู่ตรงริมขอบสนาม
ดูเหมือนว่าที่นี่ยิ่งดึกคนก็จะยิ่งเยอะ แต่ก็น่าแปลก ไม่ยักกะมีตำรวจซักหน่วยเข้ามาตรวจเลย
หรือว่าเป็นผู้มีอิทธิพล ? สงสัยว่าจะใช่แฮะ ..
"ลง" กงชานตอบสั้นๆแล้วหันมามองหน้าผมนิ่งๆเหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น ก่อนจะถือวิสาสะเอามือผมไปจับหน้าตาเฉย
"ปล่อย" ผมพูดพร้อมสะบัดข้อมือให้หลุด แต่ไม่เป็นผล แถมยังโดนเจ้าเด็กนี่ลากให้เดินไปอีกด้วย
"คือฉันเดินเองได้"
"ผมแค่อยากได้กำลังใจ" กงชานพูดก่อนที่เขาจะหยุดเดินแล้วหันหน้ามาหาผมพร้อมกับมือหนาที่จับมือผมแน่นขึ้นกว่าเดิม เขาคงอยากให้ผมสัมผัสได้ว่าเขาอยากได้กำลังใจจากผมจริงๆ
"งั้น .. ก็ได้"
เพียงแค่คำพูดสั้นๆที่ออกจากปากผมเรียกรอยยิ้มของกงชานได้มากขนาดนี้เลยหรอ
"แล้วรถนาย ?"
"เขาเอาไปเช็คแล้วครับ"
บทสนทนาของเราจบลงแค่นั้นเมื่อมาถึงเต้นท์ที่ว่า มือของเขาปล่อยผมให้เป็นอิสระก่อนที่เขาจะเดินหายไปอีกทางหนึ่ง แต่ไม่นานกงชานก็หันหลังกลับเดินมาหาผม
"ไปรอผมข้างหน้านะ" เจ้าเด็กนี่ว่าก่อนจะชี้ไปอีกทางหนึ่ง ผมพยักหน้ารับก่อนที่เขาจะเดินกลับไปทางเดิม
ผมเดินเตาะแตะๆไม่นานนักก็มาถึงขอบสนามที่กงชานบอกมา เสียงเครื่องยนต์ยังดังขึ้นเป็นระยะๆให้ได้ยินอยู่ตลอดเวลา ผมยืนมองรถสองคันที่แข่งกันอยู่ในรอบนี้อย่างค่อนข้างตื่นตาตื่นใจเล็กน้อย ก็ผมไม่เคยมาดูเลยนี่หว่า ปกติก็ไปเรียน กลับบ้าน ทำการบ้าน นอน เที่ยวห้าง ชีวิตผมก็มีอยู่แค่นี้แหละ
"มาครั้งแรกใช่มั้ย" เสียงหวานหูเรียกให้ผมหลุดจากความคิด จินฮวานเอ่ยทักผมแล้วมายืนอยู่ข้างๆ
รอยยิ้มที่อ่อนโยนนั่นเป็นใครๆก็หลง หน้าเขาดูบอบบางกว่าผมอีกนะนั่น
"ขอยืนด้วยคนได้เปล่า"
"อ๋อ ได้สิครับ"
"ที่นี่น่ะ เป็นสนามแข่งของพี่ซึงฮยอน เขาเป็นผู้มีอำนาจแถวๆนี้ ตำรวจเลยทำอะไรไม่ได้"
"อ๋อครับ"
"แต่อย่างว่าแหละ เราก็ไม่ได้ไปทำความเดือดร้อนข้างนอกนี่ เราแข่งแค่ในสนามของเรา" ผมยืนนิ่งเงียบเป็นผู้ฟังที่ดีในบทสนทนานี้ ไหนๆผมก็มาอยู่ตรงนี้แล้วควรจะรู้ไว้บ้างไม่มากก็น้อย
"แต่เห็นว่าพี่ซึงฮยอนเขาจะขอเรื่องทำเป็นสนามแข่งรถจริงๆด้วยแหละ"
"อย่างงั้นก็ดีเลยสิครับ"
"ก็หวังว่าจะดีนะ ฮ่าๆ"
"กงชานมาที่นี่ .. บ่อยมั้ยครับ" อย่าว่าผมเสือกเลยนะ ก็ผมอยากรู้อ่ะ ยังไงผมก็ต้องถามกงชานมันอยู่ดีหลังจากนี้
"ก็สองสามครั้งต่ออาทิตย์แหละ แต่พักหลังๆนี้ไม่ค่อยมา สงสัยติดนาย"
จินฮวานว่าแบบแซวๆก่อนจะเอาไหล่มากระแซะแขนผมและยิ้มให้บางๆ เขาตัวเล็กกว่าผมมากอะ ไหล่เขาแค่ต้นแขนผมเองนะ ตัวเล็กแบบนี้ผมว่าฮันบินหวงแน่ -__- ละดูผมดิ แห้งเหี่ยวอย่างกะปลาแห้ง ตาก็ตี่ หน้าก็จืด เผลอๆยิ้มหน้าเหี่ยวอีก อยากจะเอาหน้าไถคอนกรีตตรงนี้ให้รู้แล้วรู้รอด
"กงชานน่ะ มันชอบนายมากเลยนะ"
"ครับ ?"
"มันชอบเพ้อถึงนายบ่อยๆตอนมาสนาม ว่ามันแอบชอบรุ่นพี่ที่โรงเรียนคนนึง แต่ไม่มีโอกาสได้รู้จัก"
...
"มันบอกว่าพี่คนนี้น่ารักอย่างนู้นอย่างนี้ แรกๆมันก็ตกใจนะว่าตัวเองชอบผู้ชายหรอ แต่ความรักมันไม่มีแบ่งเพศอยู่แล้วนี่"
"เอาจริงๆนะ มันชอบกวนตีนผมอ่ะ ผมเลย .. ไม่ค่อยชอบเขา แฮะๆ"
"ก็นิสัยมันแหละครับ รักมาก ก็กวนตีนมาก"
แบบนี้ก็มีด้วย-__-
"ฉันขอถามอะไรอย่างได้มั้ย ? นายรู้สึกยังไงกับเขาหรอ"
....
"เอ่อ .. ถ้านายลำบากใจก็ไม่ต้องตอบก็ได้นะ แต่เรื่องบางเรื่องเก็บเอาไว้คนเดียวก็ไม่ดี" จินฮวานว่าก่อนที่จะหันหน้ามามองตาผม เพียงแค่แวบเดียวผมก็รู้แล้วว่าเขาเป็นคนจริงใจ ผ่านสายตาของเขาที่ส่งมาให้ผม เหมือนเขารู้ได้ว่ามันมีบางอย่างอยู่ในใจ
"ผม..ก็ไม่รู้ใจตัวเองเหมือนกัน"
"ผมไม่รู้ว่ารู้สึกอะไรกับเขากันแน่"
"ผมเคยเกลียดเขามาก แต่นับวันมันค่อยๆน้อยลงจนแทบไม่เหลือ ผมไม่เข้าใจเลย"
"ผมเปิดโอกาสให้เขาเข้ามาอยู่ข้างๆผมมากเกินไป จนผมรู้สึก.."
คงเป็นเพราะผมยังไม่แน่ใจในความรู้สึกนี้มากกว่าเลยไม่กล้าที่จะพูดมันออกไป แต่ถ้าคำนั้นมันเกิดชัดเจนขึ้นมาจริงๆผมก็คงต้องตามใจความรู้สึกของตัวเอง
"ฉันว่านายรู้คำตอบอยู่แล้ว"
งั้นหรอ ..
"เพียงแต่ว่านายยังไม่กล้าที่จะยอมรับมัน เพราะนายเกลียดกงชานมาก่อน"
"แต่ความรู้สึกมันก็เปลี่ยนกันได้ ถ้านายได้รู้จักและรู้ว่ามันก็ไม่ได้แย่อย่างที่คิด"
คนตัวเล็กข้างๆผมพูดแล้วยิ้มให้ผมอย่างจริงใจมันเป็นรอยยิ้มที่ทำให้ผมรู้สึกผ่อนคลายอย่างบอกไม่ถูก เหมือนผมได้ยกภูเขาออกจากอกจากการระบายให้เขาได้ฟัง แม้ว่าเขาจะไม่ได้บอกตรงๆ แต่ผมก็เข้าใจที่เขาพูดดีเลยล่ะ
"อ๊ะ กงชานมานู่นแล้ว" จินฮวานพูดด้วยเสียงตื่นเต้นเรียกให้ผมหันไปมอง กงชานที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วกำลังเดินลงไปที่สนาม มือเล็กๆฉุดกระชากให้ผมเดินตามเขาไปที่ตรงนั้น ก่อนที่ผมจะสังเกตุได้ว่ามีฮันบินกับเพื่อนอีก 2-3 คนเดินตามมาด้วย
ใบหน้าหล่อหันมามองผมแล้วยิ้มกว้างจนเห็นเขี้ยวทั้งสองข้างที่ดูยังไงมันก็เหมือนหมาซนๆตัวหนึ่ง กงชานยกมือขึ้นลูบหัวผมเบาๆสองสามทีเล่นเอาปัดมือออกไปแทบไม่ทัน ไอ้เด็กนี่ ... -__-
"มากไปล่ะๆ"
"หวงตัวจังนะ"
"หัวฉัน"
ว่าแล้วหมาน้อยก็ทำหน้าหงอ เป็นงี้ทุกทีเวลาผมดุมัน สำออยได้โล่เลยจริงๆนะ
5 min ! 5 min !
เสียงประกาศดังขึ้นเหมือนเป็นสัญญาณเรียกให้ผู้แข่งขันเข้าประจำที่ตัวรถของตัวเอง กงชานหันมามองหน้าผมและยิ้มให้เหมือนที่เขาทำบ่อยๆ
แต่รอยยิ้มเจ้าเล่ห์แบบนี้มัน ...
"พูดอะไรหน่อยสิครับ"
"สู้ๆละกัน"
"แค่เนี้ยะ ? อยากให้ผมแพ้ไง๊"
"ก็ไม่ได้คิดว่านายจะชนะนี่หว่า"
"คอยดูแล้วกันครับ"
คนตัวสูงว่าไว้แค่นั้นพร้อมกับสวมหมวกกันน็อคให้เรียบร้อยแล้วเดินไปที่รถ ผู้คนเริ่มเดินกลับไปยังขอบสนามเพื่อเตรียมพื้นที่ให้สำหรับการแข่ง จินฮวานก็ลากผมมายืนตรงที่เดิมเหมือนกัน
"สู้ๆนะมึงง!!" เสียงของฮันบินและผองเพื่อนต่างตะโกนเชียร์ร่างสูงที่อยู่บนรถเเล้ว กงชานหันมามองก่อนจะชูนิ้วกลางให้เพื่อนๆของมันหนึ่งทีแล้วเลื่อนกระจกหมวกกันน็อคลงมา
กวนตีน
1 min ! 1 min !
ไอ้เวลาบ้านี่ก็กดดันจริง...
"นี่จินฮวาน"
3
2
1
"หือ"
Ready ?
"กงชานจะชนะหรือเปล่า"
"ก็..."
GO !!
"ก็ต้องชนะอยู่แล้ว"
ปัง!!!!!!!
เมื่อได้ยินเสียงสัญญาณปล่อยตัว รถทั้งสองก็ออกตัวในทันที เสียงคันเร่งดังไปทั่วทั้งสนามเล่นทำเอาคนทั้งสนามลุ้นระทึก ผู้เข้าแข่งขันต้องแข่งไปตามทางที่ลูกศรบอก และวิ่งวนทั้งหมดสามรอบ ใครมาถึงเส้นชัยก่อนก็จะเป็นผู้ชนะ
ขอร้องล่ะ ..
คันของกงชานขณะนี้กำลังวิ่งนำอยู่แต่ก็จะชะล่าใจไปไม่ได้เมื่อคันคู่แข่งก็เริ่มตีตื้นขึ้นมาเหมือนกัน ร่างสูงจึงบิดคันเร่งนำพาทั้งตัวเองและรถตีห่างออกจากอีกฝ่ายอย่างรวดเร็ว แต่ใช่ว่าจะรอดเมื่อทางข้างหน้าที่จะต้องขับผ่านเป็นทางโค้ง กงชานจึงต้องบังคับให้ยานพาหนะขับผ่านจุดตรงนี้ไปให้มากที่สุด
แต่ด้วยความไม่ชำนาญในการขี่ทางโค้งเขาจึงพลาดท่าให้กับคู่แข่งซึ่งผ่านทางนี้ไปอย่างง่ายดายและนำหน้าเขาไปก่อนแล้ว เขาจึงรีบบิดคันเร่งขับตามไปให้เร็วเท่าที่จะทำได้
เวลาผ่านไปจนถึงรอบสุดท้ายของการแข่ง รถทั้งสองคันยังตีคู่กันมาอย่างไม่ลดละ บิ๊กไบค์คันสีดำของกงชานขับนำมาได้สำเร็จในระยะทางที่ห่างพอสมควรแบบไม่ต้องกังวลอะไร เรียกได้ว่าให้ผมเตรียมสละโสดได้เลย
ครืน ครืน
จู่ๆโทรศัพท์ของผมก็สั่นขึ้นมาเสียดื้อๆ เล่นทำเอาผมหัวเสียอยู่เล็กน้อย จะไม่รับก็ไม่ได้ เมื่อชื่อที่ปรากฏอยู่บนโทรศัพท์เป็นชื่อของพวกเพื่อนรักผมเอง
"ฮัลโหล" ผมกดรับสายและกรอกเสียลงไปพร้อมเดินเลี่ยงออกมาจากตรงนั้นเพื่อเลี่ยงเสียงที่มันดังเกินไป
[กว่าจะรับนะไอ้เหี่ยว]
"มีไรวะบาโร"
[กูจะบอกว่ารายงานมึงอยู่ที่กู]
"แล้วเมื่อบ่ายบอกไม่อยู่ ฟาย"
[เออน่ะ ละนี่มึงอยู่ไหน เสียงรถดังไปหมด]
"กูอยู่.."
โครม !
[เสียงไรวะ]
"แค่นี้นะมึง"
ผมรีบตัดสายบาโรทิ้งแล้วรีบหันหลังกลับ ก่อนจะวิ่งไปทันทีที่เสียงโครมครามดังขึ้นมาจากในสนาม ในหัวตอนนี้มันเบลอไปหมด ไม่รู้ว่าเสียงนั่นมาจากไหนแต่รู้ว่ามันต้องเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ
ผู้คนส่วนหนึ่งพากันวิ่งลงสนามที่หยุดการแข่งกระทันหันเมื่อรถคันหนึ่งเกิดเสียหลักตอนเข้าโค้ง ทั้งรถและคนกระเด็นกันไปคนละทาง ผมรีบวิ่งมาหาจินฮวานที่ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมคนเดียว ส่วนฮันบินและคนอื่นๆลงไปในสนามแล้ว
"จะ..จินยอง" คนตัวเล็กหันมาหาผมช้าๆก่อนจะโผเข้ากอดผมอย่างรวดเร็ว บอกเลยว่าผมใจไม่ดี ไม่ดีมากๆแล้วตั้งแต่ได้ยินเสียงโครมครามบ้าบอนั่น
"กงชาน กงชานอยู่ในสนาม"
!!
"พอนายออกไปคุยโทรศัพท์ได้แป๊บเดียว รถกงชานเข้าโค้งแล้วก็คว่ำ...ไปเลย "
ไม่จริง ...
บอกผมทีว่ามันไม่จริง !!
ความคิดเห็น