คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Y o u r M i n i s t r a n t - CHAPTER 4 -
คุณเคยมีความรู้สึกแบบนี้มั้ย ?
ความรู้สึกที่อยากจะ “ครอบครอง” เป็นเจ้าของกับของที่ไม่ใช่ของของเราตั้งแต่แรก ...
แต่ก็หาเหตุผลไม่ได้ซักทีว่าทำไมถึงรู้สึกแบบนั้น ....
. . . ยิ่งมีเจ้าของ .. ยิ่งต้องการ . . .
ถึงแม้มันจะผิดไปบ้าง .... แต่ก็จะทำ .... เพื่อให้ได้มา
ย้อนไปเมื่อ 10.05 P.M ของเวลาเดียวกัน
เจ้าของหน้าสวยเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่พึ่งอาบน้ำเสร็จ แขนเรียวเอื้อมมือไปหยิบผ้าขนหนูสีขาวสะอาดตาขึ้นมาเช็ดปลายผมแดงที่เปียกชุ่มไปด้วยน้ำ แล้วซับตามตัวที่มีหยดน้ำเกาะ ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้ามาใส่ เมื่อแต่งตัวแล้วจินยองจึงเดินไปปิดไฟห้องก่อนจะทิ้งตัวลงบนที่นอนนุ่มแล้วเอื้อมมือไปเปิดไฟหัวเตียงแล้วหยิบมือถือ
นิ้วเรียวสไลด์หน้าจอเพื่อปลดล็อคก่อนจะเข้าไปที่รายชื่อ จินยองเลื่อนหารายชื่อที่เขาต้องการที่จะโทร.หา แต่เมื่อเจอรายชื่อที่ว่านั่นแล้ว นิ้วของเขาไม่ได้กดโทรออก แต่กลับค้างไว้บนหน้าจออยู่อย่างนั้น เหมือนกำลังช่างใจว่าจะโทร ... หรือ ... ไม่โทร
ก็ในเมื่อคนที่เขาจะโทรหา ... เป็นคนที่เขาพึ่งให้เบอร์ไปเมื่อกลางวันนี้ไงล่ะ
จินยองเม้มริมฝีปากเรียวเข้าหากันเหมือนกำลังคิดว่าถ้าโทรไปมันจะแปลกๆมั้ย ...
ละ .... แล้วจะแปลกได้ยังไงละ
ก็แค่อยากโทร.ไปเอง ....
ในฐานะเจ้านาย ....
จินยองคิดชั่งใจอยู่นานแต่สุดท้ายก็ตัดสินใจกดโทรออกไป มือบางค่อยๆยกโทรศัพท์ขึ้นมาแนบหูก่อนจะค่อยๆเอนตัวลงบนหมอนอิงที่หัวเตียง เสียงรอสายที่เป็นจังหวะทำให้จินยองตื่นเต้นแบบแปลกๆ ... แต่ ... เขาจะตื่นเต้นทำไมเนี่ย ....
แล้วถ้าเขารับละ ?
จะพูดว่ายังไงดี
กินข้าวยัง ? อาบน้ำยัง ? ทำอะไรอยู่ ? งี้หรอ?
แล้วมันใช่เรื่องของเราหรือไงเล่าจองจินยองเอ๊ยยยยยยยยยย
ตู๊ดด....
ตู๊ดด....
‘ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกค่ะ’
ทันทีที่ได้ยินเสียงตอบกลับมาก็เหมือนกับมีอะไรมาฉุดความรู้สึกตื่นเต้นของจองจินยองออกไป แต่กลับกลายเป็นว่ามีความรู้สึกหงุดหงิดและกระวนกระวายปนสงสัยขึ้นมาแทน คิ้วสวยขมวดเข้าหากันบางๆด้วยความงุนงงทันที่ว่าทำไมไม่กล้ารับสายเขา นิ้วเรียวจึงตัดสินใจกดโทรออกอีกครั้งก่อนจะเอาโทรศัพท์แนบหูตามเดิม
‘ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกค่ะ’
แต่เสียงที่ตอบกลับมาก็เป็นเสียงเดิมเช่นกัน
ปากสวยๆของจินยองผ่อนลมออกมาเบาๆก่อนจะมองไปที่หน้าจอที่ขึ้นเลขเบอร์โทรศัพท์ของผู้จัดการตัวดีที่ไม่ยอมรับสายเขา ‘ทำอะไรอยู่กันนะ ?’ จินยองได้แต่คิด บางทีอาจจะอาบน้ำอยู่ก็ได้มั้ง ..... เขาคิดในแง่ดีก่อนจะระบายยิ้มออกมาบางๆ ใช่ คงอาบน้ำอยู่แหละ เดี๋ยวรอสักพักค่อยโทร.ไปแล้วกัน
แต่เดี๋ยว ....
แล้วทำไมเขาต้องยิ้มและดีใจขนาดนั้น ?
อยากจะบอกว่าตัวเขาเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม ...
ผ่านไปครู่นึง จินยองจึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรศัพท์อีกครั้ง แต่เสียงที่ได้กลับมาก็เป็นเช่นเดิม ... จนตอนนี้เขาเริ่มโมโหนิดๆแล้วนะว่าทำไมไม่รับสายเขา ..... แต่ใช่ว่าจินยองจะละความพยายาม จะโทร.จนกว่าจะรับนั่นแหละ กล้าไม่รับสายจองจินยองคนนี้หรอ ให้มันรู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร !
‘ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกค่ะ’
ตู๊ดด...
ตู๊ด ...
ตู๊ดด ...
ตู๊ด....
‘ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกค่ะ’
จากร่างบางที่ก่อนหน้านี้นอนพิงกับหมอนอิง ในตอนนี้เจ้าตัวเปลี่ยนท่าลงมานอนในท่าปกติ แล้วเอาผ้าคลุมตัว ในมือยังคงถือโทรศัพท์และคอยกดโทรออกอยู่ตลอด จากที่เขาโมโหตอนแรกๆ ตอนนี้กลับเป็นอาการกระวนกระวายใจแทนทั้งๆที่เขาก็ไม่รู้สาเหตุเหมือนกันว่าทำไม
ทำไม ... เขาไม่รับสายเรา ….
จินยองถอนหายใจรอบที่ล้านก่อนจะเอาโทรศัพท์วางไว้ๆข้างๆตัวในระดับหน้าพอดี เจ้าตัวนอนตะแคงหันไปทางฝั่งเดียวโทรศัพท์ ก่อนจะใช้นิ้วกดโทร.ออกอีกครั้ง ตาของจินยองจ้องไปที่โทรศัพท์ที่ตอนนี้ขึ้นเป็นสัญลักษณ์กำลังโทรออกอย่างเหม่อลอย แต่เสียงที่ได้ยินกลับมาก็เป็นเสียงเดิม
มันเงียบ ..
จนได้ยินเสียงจากโทรศัพท์ ... แม้ไม่ได้เปิดลำโพง
จองจินยองพยายามคิดในแง่ดีว่าเขาอาจจะหลับไปแล้วก็ได้ แต่อีกแง่ก็คิดว่าทำไมถึงหลับเร็วขนาดนั้น ไม่น่าจะเป็นไปได้หรอก แต่คิดแล้วก็อดน้อยใจไม่ได้ บางทีเขาอาจจะไม่ชอบเราจนไม่อยากรับสาย ... เรา...มันแย่ขนาดนั้นเลยหรอ
ไม่เอาน่าจินยอง ...
อย่าคิดมากได้มั้ย ...
ถ้าเขารำคาญเรา ... ไม่ชอบเรา
เขาคงบอกเราเอง ...
คนตัวเล็กนอนหลับตาลง พยายามจะไม่คิดอะไรฟุ้งซ่านแต่มันก็อดไม่ได้จริงๆ ก็ทำกับเขาถึงขนาดนั้นบางทีเขาอาจจะไม่ชอบเราจริงๆก็ได้ แต่ให้ทำยังไง .... ที่เอาแต่ใจบ่อยๆก็อยากให้คนแคร์เขาบ้างไงล่ะ L
เขาละอยากถามให้มันกระจ่างซะตอนนี้
แต่ก็ไม่รับสายซักที ...
จินยองหันไปแตะไอคอนโทรออกบนหน้าจออีกครั้ง ถึงแม้จะได้ยินเสียงเดิม เขาก็ยังเลือกที่จะกดไอคอนโทร.ออกอีกครั้ง
อีกครั้ง ...
อีกครั้ง ...
และอีกครั้ง …
‘ไม่มีการตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียกค่ะ’
.
.
.
และได้ยินเสียงแบบเดิมๆตอบกลับมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า
จินยองไม่ได้สนใจเวลาในตอนนี้เลยว่ามันกี่โมงกี่ยามกันแล้วถึงแม้โทรศัพท์จะอยู่ตรงหน้าแต่เขาก็ไม่ได้ใส่ใจ และเขาก็ไม่รู้ว่าเขากดวางและกดโทรออกอยู่อย่างนี้นานเท่าไหร่
เขาไม่ได้นับ ...
หรือมันมากซะจนเขานับไม่ได้ก็ไม่รู้
แล้วเขาก็ยังไม่รู้อีกว่า .... ทำไม .... ต้องแคร์ขนาดนี้
คนตัวเล็กเค่นเสียงหัวเราะออกมา ฮะฮะ เขาคงบ้าไปแล้วแน่ๆ บ้าไปแล้วจริงๆ ที่จู่ๆมากดโทรศัพท์หาคนที่ไม่ได้เป็นอะไรกัน เพื่อนก็ไม่ใช่ แฟนก็ยิ่งไม่ใช่ใหญ่ เป็นแค่เจ้านาย กับ ผู้จัดการของเขาเท่านั้น .....
แต่ทำไมถึงมีอิทธิพลต่อตัวเขาขนาดนี้ ?
แต่คิดแล้วก็ปวดหัว จินยองจึงหันไปล็อคหน้าจอโทรศัพท์ก่อนจะหันตะแคงเปลี่ยนข้างแล้วดึงผ้าห่มลดลงมาให้คลุมอยู่แค่ในระดับริมฝีปาก ก่อนจะค่อยๆหลับตาลงและสงบสติอารมณ์ไม่ให้คิดฟุ้งซ่านใดๆทั้งนั้น
เขาไม่รับก็คือไม่รับ
ไม่เห็นต้องคิดมากเลย ....
กลับมาที่ปัจจุบัน
ทันทีที่กงชานเห็นจำนวนมิสคอลที่ปรากฏตรงหน้าจอทำให้เขาถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก 67 สาย ?!!!!! พี่เขามีปัญหาอะไรกับผมหรือเปล่าเนี่ย หรือจะธุระด่วน ? คงไม่น่าใช่หรอกดึกซะขนาดนั้น .... ร่างสูงกดเข้าเมนูโทรเข้า-โทรออกแล้วดูเวลาที่คนต้นสายโทร.มาหา แล้วมันก็ยิ่งทำให้เขาตกใจมากขึ้นไปอีก .. เกือบๆ 2 ชม.ได้ที่เขาโทร.มา โทร.เวลาไหนไม่โทร.มาโทร.ตอนที่เขากำลัง ...... แล้วเขาจะไปรับได้ยังไง ...
กงชานชั่งใจอยู่นานก่อนจะกดโทรกลับไปหาต้นสายที่โทร.จิกเขาเมื่อคืน แต่เจ้าตัวไม่รับ นั่นก็ยิ่งทำให้กงชานเริ่มหัวเสียหน่อยๆแล้ว แต่ก็ไม่ได้โทรกลับไปใหม่ กงชานจึงได้แต่ถอนหายใจเบาๆแล้วหยิบผ้าขนหนูเดินเข้าห้องน้ำไปก่อนซานดึลที่กำลังหลับอยู่บนเตียงนอน
ร่างสูงเดินตัวเปียกออกมาพร้อมกับผ้าขนหนูที่พันเอวไว้อยู่ มือหนาเอาผ้าขนหนูยกขึ้นเช็ดผมที่เปียกมาจากการสระผมของตัวเอง ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าที่อยู่ข้างหน้า อย่าแปลกใจว่าทำไมเขาถึงมีเสื้อผ้าของเขาอยู่ติดตู้ของซานดึล คบกันมาตั้งนาน มานอนด้วยกันออกบ่อยจะมีเสื้อผ้าติดอยู่ก็ไม่แปลก
ก่อนหน้านี้เขาแค่นอนเฉยๆนะ .... จริงๆ
ยังไม่ทันที่จะหยิบกางเกงออกมาจากตู้เสื้อผ้า ก็รู้สึกได้ถึงแรงนุ่มๆที่กอดจากทางด้านหลัง ซานดึลที่สวมชุดคลุมอาบน้ำเดินเข้ามาสวมกอดกงชานก่อนจะเอาหัวกลมๆซบลงกับแผ่นหลังที่ยังชุ่มไปด้วยน้ำ ร่างสูงระบายยิ้มเบาๆก่อนจะหันไปกอดคนรักที่ยืนยิ้มแป้น
“ตื่นเร็วจังเลย”
“พี่นั่นแหละครับตื่นสาย”
“ไม่สายซักหน่อย :P”
“มันจะสายแน่นอนครับถ้าพี่ยังไม่ไปอาบน้ำเนี่ย” ว่าแล้วก็ขยี้ผมนุ่มๆของซานดึลเบาๆ แล้วไล่ไปอาบน้ำ คนน่ารักยู่ปากเล็กน้อยก่อนจะหันมาแลบลิ้นใส่แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป กงชานส่ายหน้าน้อยๆให้กับความไร้เดียงสาและติดเด็กของแฟนตน
มือหนาของกงชานหยิบไม้แขวนเสื้อที่มีเชิ้ตขาวแขวนอยู่หลังจากที่ใส่กางเกงเสร็จ ก่อนจะปลดไม้แขวนแล้วเอาแขนทั้งสองข้างสอดเข้าไปในเสื้อแล้วติดกระดุมขึ้นมาจนถึงเม็ดเกือบบนสุด กงชานหยิบผ้าขนหนูผืนเดิมมาเช็ดหัวแล้วหย่อนตัวนั่งลงตรงปลายเตียง ก่อนจะเปิดพัดลมเป่าผมของตัวเองให้แห้ง
หน้าเรียวหันหน้าไปทางประตูห้องน้ำเล็กน้อยทันที่ที่ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับคนรักที่เดินออกมา กงชานยิ้มบางๆก่อนจะหันมาเช็ดผมต่อ และเหมือนจะฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้เลยหยิบโทรศัพท์ที่หัวเตียงมากดโทร.หาลูกพี่ลูกน้องของพี่ชายเจ้าปัญหาอีกครั้ง แต่ก็ไม่รับเหมือนเดิม .... โอยนี่มันจะ 9 โมงแล้วนะแล้วนัดเขา 9 โมงครึ่งนี่จะเลทอีกมั้ย .... กงชานทำท่าฟึดฟัดก่อนจะวางโทรศัพท์ไว้ข้างตัวก่อนจะเช็ดผมเหมือนเดิม
ซานดึลที่แต่งตัวเสร็จแล้วเหลือบเห็นคนรักที่ท่าทางจะอารมณ์ไม่ดีเลยทิ้งตัวลงข้างๆก่อนจะหยิกแก้มอีกคนเบาๆ จนกงชานต้องเผลอหลุดยิ้มออกมา
“หัวเสียอะไรมา”
“ก็นิดหน่อย พี่จินยองเขาไม่รับสายผมอะ”
แค่ไม่รับสายเอง ..
ทำไมนายต้องแคร์ขนาดนั้นด้วย
“ขะ...เขาอาจจะไม่ว่างก็ได้มั้ง” ซานดึลส่งยิ้มให้บางๆ กงชานที่ทำหน้าเหมือนจะสบายใจขึ้นแล้วเลยจรดจมูกลงมาหอมแก้มพองๆของซานดึลเบาๆก่อนจะลุกขึ้นเดินไปหยิบกระเป๋ากับกุญแจรถ
“ไปกันเถอะครับ เดี๋ยวมันจะสายเอา” กงชานหันไปบอกซานดึลที่กำลังหยิบของแล้วตรวจดูความเรียบร้อยของห้องว่าปิดไฟปิดน้ำเรียบร้อยดีหรือยัง ก่อนจะเดินตามกงชานออกมา
รถคันเดิมขับเคลื่อนออกมาจากลานจอดรถของคอนโดซานดึลมุ่งหน้าตรงไปยังคอนโดของจินยองที่อยู่ห่างออกไปพอสมควร ก่อนที่จะตรงไปที่สตูดิโอ ระหว่างทางก่อนที่จะถึงคอนโดของนักร้องดัง กงชานจึงตัดสินใจโทร.หาจินยองอีกรอบนึงเพื่อบอกว่าใกล้ถึงแล้วให้เตรียมตัว แต่ปัญหาติดอยู่ที่ว่าเขาขับรถอยู่ เขาจึงกดโทร.ออกแล้วยื่นโทรศัพท์ให้ซานดึล อีกฝ่ายรับโทรศัพท์มาก่อนจะมองหน้าคนรักอย่างงงๆ
“ผมกดโทร.หาพี่จินยองอ่ะ แต่ผมขับรถอยู่ ถ้าเขารับแล้วช่วยบอกทีว่าผมใกล้ถึงแล้ว” กงชานพูดกับซานดึลแต่ตาก็ยังมองตรงไปข้างหน้า ซานดึลเอาโทรศัพท์แนบหูอย่างๆงงๆ แต่โทร.อยู่นานเจ้าตัวก็ไม่รับซักที จนเป็นเสียงของระบบอัตโนมัติแทน
“เขาไม่รับสายอะกงชาน”
“ฮะ ? อะไรนะ ?! นี่ผมโทร.หาเขาหลายรอบแล้วนะ” กงชานว่าอย่างหัวเสีย ก่อนจะขับรถออกเส้นนอกเลียบไปตามเพราะใกล้ถึงแล้ว กงชานค่อยๆชะลอรถอยู่ตรงด้านหน้าคอนโดที่เดิมก่อนที่จะหยิบโทรศัพท์จากมือซานดึลมากดโทร.หาอีกรอบ
[ฮัลโหล]
“พี่พกโทรศัพท์หรือพี่พกสากกะเบือกันแน่เนี่ย ผมโทรไปหาตั้งหลายสายก็ไม่รับ”
หึ ....
ทีนายละ ..
ยังไม่รับสายฉันเลย ....
แต่ต่างกันตรงที่ .. จินยองตั้งใจไม่รับส่ายเขาต่างหาก
[ลืมเปิดเสียงน่ะ ขอโทษที แล้วมาถึงแล้วหรือไงถึงโทรมา]
จริงๆแล้วจินยองก็แกล้งถามไปงั้นแหละ หารู้ไม่ว่าร่างบางที่กำลังคุยโทรศัพท์กับเขาตอนนี้กำลังยืนมองลงไปข้างล่างๆที่ที่มีรถที่ดูแล้วคุ้นตาจอดอยู่ ....
พูดง่ายๆ
เขายืนมองกงชานจากตรงนี้..
“ ครับ ผมถึงแล้ว”
[นาย ... เอารถมาจอดข้างใน]
“อ้าวแล้วทำไมผมต้อง...”
[เดี๋ยวนี้ ...]
“แต่...”
[นี่คือคำสั่ง]
กงชานไม่ได้ตอบไปแต่ถอนหายใจแรงๆเป็นคำตอบแทน แต่เขาก็ยังไม่ได้วางสายที่คุยกับจินยองอยู่... นี่เขาหลวมตัวมาทำงานบ้าๆนี่เพื่ออะไรเนี่ย …
ร่างสูงหักพวงมาลัยเลี้ยวเข้าไปที่ลานจอดรถของคอนโด ตอนแรกยามก็ถามว่ามาหาใคร แต่พอบอกว่าเป็นผู้จัดการของจองจินยองนี่รีบให้ผ่านทันที อะไรจะมีอิทธิพลขนาดนั้นแค่ผู้ชายตัวบางๆคนเดียว
“นายเลี้ยวเข้ามาทำไม …” ซานดึลที่นั่งเงียบอยู่นานถามขึ้นอย่างสงสัย กงชานไม่ได้ตอบอะไรได้แต่มองหน้าคนรักแล้วส่ายหน้า เพราะเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าให้มาจอดในนี้ทำไม
และน้ำเสียงของซานดึลที่นั่งขึ้นท่ามกลางความเงียบนั้น
เรียกความสนใจจากจินยองที่ถือสายรอได้เป็นอย่างดี ..
[นาย....อยู่กับซานดึล ?]
“ครับ”กงชานหันไปหาคนรักแล้วยิ้มให้บางๆ
บางทีความต้องการ
ก็มาพร้อมอะไรที่มันผิด …
[ออกมาข้างนอกรถได้มั้ย]
“หือ? ทำไม” กงชานกรอกเสียงถามลงไปอย่างงงๆก่อนจะเปิดประตูรถแล้วก้าวขาลงมา
เอาไงดีล่ะจองจินยอง ....
[เอ่อ.....ฉันหาหูฟังไม่เจอ ขึ้นมาช่วยหาให้หน่อยสิ มันต้องใช้อ่ะมันจะเป็นมากเลย]
จองจินยองสาบาน...
ว่าเขาไม่เคยขอร้องให้ใครมาหาอะไรขนาดนี้มาก่อน...
แต่ก็นั่นแหละ ...
มันก็แค่เรื่องโกหกที่เขาสร้างขึ้นมา ...
“แล้วทำไมพี่ไม่หาเองล่ะครับ - - ”
[ปกติฉันเป็นคนหาของไม่เจอเว้ย ช่วยหาหน่อย]
“ให้ซานดึลขึ้นไปชะ..”
[ไม่ต้อง!!! เอ่อ...ไม่ต้องไปรบกวนซานดึลหรอก ] จินยองที่เผลอแผดเสียงติดหงุดหงิดออกมาทันที่ที่เจ้าตัวเอ่ยชื่อซานดึล ก่อนจะกลบเกลื่อนแสร้งเป็นว่าไม่ต้องไปรบกวนเขาหรอก
“เฮ้อ โอเคครับๆ คราวหลังพี่ก็แขวนคอไว้ตลอดเวลาเลยสิครับจะได้ไม่หาย” กงชานพูดจิกกัดก่อนจะหันไปดับเครื่องยนต์เพื่อประหยัดน้ำมัน ก่อนจะบอกคนรักที่กำลังนั่ง งง ว่าให้รออยู่ข้างล่างนี่ก่อน
“พี่จินยองเขาเรียกผมไปหาของน่ะครับ เดี๋ยวผมมานะ พี่ลงจากรถมานั่งรอตรงม้านั่งแถวๆนี้ก็ได้” เมื่อร่างสูงพูดจบซานดึลก็พยักหน้าเออออย่างมึนๆแล้วลงจากรถมา กงชานเลยล็อครถแล้วส่งกุญแจให้ซานดึล ก่อนจะเดินหายไปในส่วนของบริเวณด้านหน้าของภายในตัวคอนโด
ยังไม่ทันที่กงชานจะไปถึงหน้าประตู ก็ปรากฏร่างบางอันแสนคุ้นตาที่เอาคีย์การ์ดมาเปิดให้เขาสามารถเข้าไปได้ กงชานเดินตามแผ่นหลังบางมาเรื่อยๆจนถึงห้องของเจ้าตัว กงชานยืนชั่งใจหน้าห้องอยู่นานว่าจะเข้าไปดีมั้ย ... มันรู้สึกแปลกๆ
“ฉันว่าจะไปทำงานสายก็เพราะนายนี่แหละ เข้ามาสิ”
เขาคงจะคิดมากไปเองล่ะมั้ง .... กงชานคิดในใจก่อนจะเดินตามจินยองเขามาในห้อง และไม่ลืมที่จะถอดรองเท้าของตนเองไว้ตรงหน้าประตูด้านใน ...
กลิ่นหอมแบบเฟรชๆในห้องของจินยองทำเอากงชานต้องขมวดคิ้วเข้าหากันบางๆ ห้องนอนผู้ชายมันหอมขนาดนี้เลยหรอเนี่ย ? ห้องของซานดึลยังไม่หอมเท่าห้องของเขาเลยนะ ...
หอมเพราะน้ำหอม
หรือจากร่างบางเจ้าของห้องกันแน่นะ ...
เฮ้ย .. คิดบ้าไรเนี่ย
“จะช่วยฉันหามั้ยเนี่ยหูฟังอะ ยืนหาสวรรค์วิมานอะไรเดี๋ยวก็ไปสายหรอก”เสียงดุๆของจินยองขัดขึ้น ทำให้ความคิดบ้าๆนั่นดับลงเหมือนมีใครมาปิดสวิสต์ .... หอมขนาดไหนแต่ในเมื่อปากยังร้ายอย่างนี้มันก็ไม่ไหวนะ
“พี่ทำหายไว้แถวไหนละครับ”
จริงๆเขาไม่ได้ทำหายหรอก
เขาแกล้งเอาไปซ่อนมากกว่า
“ก็ไม่รู้ดิ ล่าสุดก็เห็นอยู่แถวๆเตียง” กงชานพยักหน้าเบาๆก่อนจะเดินไปที่เตียงสีขาวสะอาดตา ก่อนจะก้มลงหาตามหมอน ตามผ้าห่ม แต่นั่นก็ยิ่งทำให้สติของกงชานกระเจิง เมื่อกลิ่นหอมๆที่ว่านี่ถ้าเขาได้กลิ่นตอนแรกที่เขาได้กลิ่นมาลอยขึ้นมาแตะจมูก
สงสัยจะไม่ใช้น้ำหอมแล้วละมั้ง ... หอมติดเตียงซะขนาดนี้ J
กงชานสะบัดหัวไล่ความคิดแปลกๆนั่นออกไปก่อนจะก้มลงหาใต้เตียง เมื่อกวาดสายตามองหาดีๆก็พบหูฟังสีดำที่คงเป็นสิ่งนี้ที่เขาหาอยู่ กงชานเอื้อมมือไปหยิบก่อนจะลุกขึ้นเดินมายื่นมันให้กับจินยองที่ตอนนี้ ‘แสร้ง’ ทำเป็นหาอยู่ตรงตู้เสื้อผ้า …
ใครว่ามารยาเป็นสิ่งที่ผู้หญิงมีแค่เพศเดียวกันล่ะ ... J
“เฮ้ยนายหาเจอได้ไงเนี่ยยยยยย” จินยองแกล้งทำเป็นตกใจทันทีที่อีกฝ่ายยื่นหูฟังให้กับเขา จินยองรับมันมาก่อนจะแกล้งทำเป็น ‘กระโดดกอด’ เขาด้วยความดีใจ กงชานที่ถูกจากการถูกกอดโดยไม่ตั้งตัวนี่ทำให้เขาตกใจเล็กน้อยถึงปานกลาง ไม่ใช่ว่าเขาไม่เคยโดนผู้ชายกอดนะ ... เพื่อนสนิทที่เดินกอดคอกันไปไหนมาไหนก็ออกบ่อย
แต่แตกต่างกันตรงที่
มันไม่หอมขนาดนี้ ...
“หมดธุระแล้วก็ลงไปข้างล่างกันเถอะครับ” กงชานพยายามตัดบทเพื่อที่จะหนีกลิ่นหอมที่ไม่น่าไว้วางใจนี่ แต่ยังไม่ทันที่จะหันหลังกลับไปทางหน้าประตู เสียงของจินยองก็ขัดขึ้นก่อน
“เดี๋ยว ..”
“ครับ ?”
“ทำไมเมื่อคืนไม่รับสายฉัน ?! ”จินยองรวบรวมความกล้าอยู่พอสมควรก่อนที่จะถามออกไป ไหนๆก็อยู่ด้วยกันแล้วก็ถามกันซึ่งๆหน้าเลยแล้วกัน กงชานที่ได้ยินคำถามก็ถึงบางอ้อขึ้นมาทันที เกือบลืมไปเลยว่าเขาก็กำลังจะถามเหมือนกันว่าโทร.มาทำไม ในขณะที่กงชานกำลังจะตอบคำถามคนตรงหน้า สายตาของจินยองก็เหลือบไปเห็น ‘รอยแดง’ เหมือนเป็นรอยฟันของใครซักคนอยู่บนต้นคอบริเวณด้านในเสื้อของกงชาน ถึงมันจะอยู่ลึกไม่เป็นที่สังเกตเห็นแค่ไหน แต่ถ้ายืนต่อหน้าขนาดนี้มันก็สามารถเห็นได้ล่ะนะ ...
จินยองเดินเข้ามาหากงชานใกล้ๆก่อนจะยื่นมือเรียวไปจับคอเสื้อกงชานก่อนจะค่อยๆเปิดคอเสื้อของร่างสูงตรงหน้าให้กว้างมากกว่าเดิม รอยแดงที่ตอนแรกเขาเห็นแค่เล็กน้อย ตอนนี้มันได้ปรากฏสู่สายตาเรียวของจินยองอย่างแจ่มแจ้ง มันไม่ได้มีแค่ตรงต้นคอที่เดียวเท่านั้น มันเหมือนมีรอยเล็บฝังเป็นสีแดงจางๆอยู่บนลาดไหล่ที่ใกล้กับต้นคอ ตาเรียวเบิกขึ้นเล็กน้อยก่อนจะปรับสายตาให้เป็นปกติ ก่อนจะค่อยๆปิดคอเสื้อของกงชานลงให้อยู่ในสภาพเดิม กงชานที่ยืนนิ่งทำอะไรไม่ถูกได้แต่จัดคอเสื้อของตัวเองให้มันมิดชิดกว่าเดิมจะได้ไม่มีใครมาเห็นอีก
เมื่อวานเขาไปกับซานดึล ..
เมื่อคืนเขาไม่ได้รับสาย ....
เมื่อเช้าเขามากับซานดึล ...
จินยองยืนปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดอยู่ในหัวอยู่คนเดียวก่อนที่มันจะค่อยๆชัดเจนขึ้นมาเรื่อยๆว่าเพราะอะไร กงชานถึงไม่รับสายเขา .... เมื่อมีอะไรมาจุกอยู่ที่ลำคอแต่จินยองก็พยายามจะเก็บมันลงไปก่อนจะปรับสีหน้าให้เป็นปกติ พยายามไม่คิดอะไรทั้งนั้น
“ผมคงไม่ต้องบอกพี่แล้วใช่มั้ยว่าทำไมผมถึงรับสายพี่ไม่ได้ ..”
“อ— อืมไม่ต้องบอกหรอก รู้หมดแล้วล่ะ”
“แล้วพี่โทร.หาผมทำไมตั้งเยอะแยะขนาดนั้น”
“ฉะ— ฉันก็จะโทร.มาเตือนนายไง!! ว่าวันนี้มีงานอย่าลืมเวลานะ”
จะให้เขาบอกไปยังไงล่ะว่าที่โทร.ไปเพราะอยากโทร
แต่เหตุผลที่อยากโทรก็ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไร ...
“โหยเรื่องแค่นี้ผมไม่ลืมหรอก ผมไม่ได้ความจำเสื่อมเหมือนพี่นะ” กงชานพูดติดขำเพื่อลดบรรยากาศอัน
อึมครึมนี่ ปกติถ้าไม่รับจินยองก็จะวีนแตกไม่ใช่หรอ แต่ทำไมถึง ...
“ปากเสีย”
“พูดอย่างงี้เคยชิมหรอครับว่าเสียน่ะ”
จินยองหันหน้ามาหากงชานช้าๆทันที่ที่พูดประโยคสองแง่สองง่ามนั้นก่อนจะดันอกกงชานติดกับกำแพงห้องก่อนจะเอาแขนกั้นไว้ไม่ให้ไปไหน ร่างสูงมองคนตัวเล็กกว่าอย่างงงๆ แต่กลิ่นหอมๆเจ้าปัญหานี่ก็ลอยขึ้นมาแตะจมูกอีกครั้ง แต่แทนที่กงชานจะผลักตัวร่างเล็กตรงหน้าออก เขากลับใช้ท่อนแขนโอบเอวบางนั่นแทน ราวกับมีเวทมนต์มาสะกดจิตของเขา ...จินยองกระตุกยิ้มมุมปากก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างประคองหน้าของอีกฝ่ายลงมาใกล้ๆ ....
ใกล้จนปลายจมูกของทั้งสองแตะกันเบาๆ
ใกล้จนรับรู้ถึงลมหายใจของกันและกัน ...
ใกล้จนริมฝีปากแทบจะรวมเป็นหนึ่งกัน ...
พลั่ก!
แต่เหมือนมีใครมากระชากเขาตกลงไปในหลุมพรางทันที่ที่จินยองผลักอกของคนตรงหน้าออกจนหลังไปกระแทกกับกำแพงเบาๆ ร่างสูงร้องโอดโอยก่อนจะทอดมองมาที่ร่างเล็กที่กำลังยืนอมยิ้มอย่างผู้มีชัยชนะ
เหยื่อเริ่มติดกับเขาแล้วล่ะ J
TBC.
ความคิดเห็น