คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Chapter #4
"พี่คะ"
เสียงแหลมเล็กของเด็กสาวเอ่ยขึ้นเรียกรุ่นพี่ตัวผอมที่กำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะม้าหินที่ประจำในทุกๆเช้า มือเรียวปิดหนังสือเล่มหนาลงดังปึก!จนรุ่นน้องแอบสะดุ้งก่อนจะมองรุ่นพี่อย่างหวั่นๆ ใบหน้าสวยเกินผู้ชายหันมามองตามเสียงเรียกที่อยู่ข้างหลัง ตาตี่ๆมองรุ่นน้องผู้หญิงม.ปลายปี1ตั้งแต่หัวจรดเท้า ก็เกิดความสงสัยว่าเด็กพวกนี้ก่อนมาโรงเรียนมันตกถังแป้งมาหรือเปล่าหน้าถึงได้ขาววอกแบบนี้ ถึงเขาจะเป็นผู้ชายก็จริงแต่ถ้าเจอแบบนี้เขาก็กลัวเหมือนกันนะ -__- หันไปนี่หัวใจแทบหยุดเต้นนึกว่าผีหลอกตอนเช้าแสกๆ
"มีอะไร"
"หนูสงสัยค่ะ" หนึ่งในแก๊งพาวเวอร์พัฟต์เกิร์ลพูดขึ้นอย่างฉะฉานะลางยืดอกขึ้นอย่างรวบรวมความกล้า เอ่อ ถามหน่อยเถอะ เขาน่ากลัวขนาดที่ว่าเด็กๆพวกนี้ต้องรวมพลังเลยหรือยังไง
"พี่เป็นอะไรกับกงชานชิคคะ"
ห่า
ถามกูแบบนี้อีกละ
จองจินยองที่ได้ยินคำถามปุ๊บก็ถอนหายใจออกมาเฮือกใหญ่ เล่นเอาอยากถอดปอดกับจมูกมาหายใจข้างนอกมากกก ตาเรียวกลอกไปมาร้อยแปดสิบตลบ อยากจะเอาหัวตัวเองทุ่มลงกับโต๊ะม้าหินนี่สักสามร้อยทีให้ตายตาโต๊ะแม่ง ให้กูเขียนป้ายแขวนคอเลยมั้ยว่ากูไม่ใช่แฟนมัน !!!!
"อะไรที่ทำเธอคิดแบบนั้น"
"ก็เห็นพี่ไปกลับกับกงชานตลอดเลยนี่คะ"
"โถ่ น้องครับ ไม่รู้จักหรอ Save the earth น่ะ ลดโลกร้อนอะรู้จักมั้ย ทางเดียวกันกลับด้วยกันมันพิสดารเหนือธรรมชาติตรงไหนครับ"
พูดก็พูดเถอะปากจะฉีดถึงใบหูบนอยู่แล้ว นี่เขามาเรียนนะเฟ้ยไม่ได้มานั่งตอบคำถามบ้าบอไร้สาระแบบนี้ ถามกันทุกวัน โคตรเหง้าเป็นใบสอบถามหรือยังไงวะ
"งั้นพี่ก็ไม่ได้เป็นแฟนกันใช่มั้ยคะ" ยัยหน้าขาวที่ดูเหมือนจะเป็นหัวหน้าแก๊งนี้พูดขึ้นอย่างมีความหวัง แถมมีประกายวิ้งๆอยู่ในตาเล่นเอาเขาขนลุกซูซ่าปาทังก้าปาทังกี้เลยทีเดียว
"เออครับ"
"เห็นมั้ยแก ฉันบอกแล้วว่าชานนี่อะโสด >< "
"เหอะ ถึงโสดเขาก็ไม่เอาพวกเธอหรอก"
=[]= !!!
แหมะ
"ขนมปังแซนวิชไส้กรอกกับนมช็อกโกแลตได้แล้วครับ"
ถุงพลาสติกสีใสที่ด้านในบรรจุด้วยห่อขนมปังและนมอีกหนึ่งกล่องวางลงบนโต๊ะโดยร่างสูงที่เป็นคนอาสาไปซื้อขนมให้กินในเกือบทุกๆเช้า กงชานหย่อนตัวนั่งลงที่เก้าอี้มาหินตัวถัดไปจากจินยองก่อนนั่งเท้าคางมองพี่ชายตัวเล็กที่กำลังอ่านหนังสือต่ออยู่เงียบๆ จนคนตัวเล็กรู้สึกอึดอัดเลยปิดหนังสือลงและหันไปพูดกับอีกฝ่ายที่นั่งมองหน้าเขาไม่เลิก
"หน้าฉันหมือนจิ้งจกที่บ้านนายหรอครับจ้องอยู่ได้"
"ทำไมต้องจิ้งจก " กงชานถามกลับพลางส่งสีหน้าแบบไม่เข้าใจมาให้ประมาณว่ามันเกี่ยวอะไรกับจิ้งจกวะ
"อย่ากวน"
"เอ๊า"
ตอบทิ้งายไว้แค่นั้นก่อนจะเปิดหนังสือเล่มหนาเท่าบ้านแล้วอ่านต่อ ส่วนกงชานก็ไม่กล้านั่งจ้องแบบเมื้อกี้แล้วล่ะ จากจิ้งจกคงจะเปลี่ยนเป็นตุ๊กแกแทน -__-
นี่ก็เป็นเวลาเกือบๆ 2 อาทิตย์แล้วที่ทั้งจินยองและกงชานได้เจอกัน เอ่อ ประมาณว่าได้รู้จักสนิทชิดเชื้อกว่าปกติทั่วๆไปน่ะนะ แต่ก็แค่นั้น ไม่ได้มีสัมพันธ์พิศวาสอะไรกันเกินไปกว่านี้ สำหรับจินยองน่ะ แต่กงชานดูเหมือนจะไม่ -__- พอมาคิดๆดูแล้วมันก็ไม่ได้เสียหายอะไรกับการที่มีเด็กเลวๆอย่างกงชานมารับมาส่งทุกวัน ทำนู่นนี่นั่นให้ ยอมทำทุกอย่างไม่ว่าจะให้ทำอะไร ไม่ว่าจะเป็นซื้อข้าว ถือของ กวาดพื้น เช็ดโต๊ะ ปีนต้นไม้ ขุดดิน สร้างบ้าน กงชานก็ทำให้หมด แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกอะไรกับเด็กคนนี้
'ถ้านายอยากจะตามฉันจริงๆ ฉันมีกฏอยู่ 2 ข้อ ถ้านายโอเค ฉันก็โอเค แต่ถ้านายไม่ ก็เลิกยุ่งกันครับ'
'ข้อหนึ่ง ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็แล้วแต่ ถ้าได้ก็คือได้'
'แต่ถ้าไม่ .. ก็คือไม่..'
'สอง ถ้าไปมีเรื่อง ก็ไม่ต้องมาเสนอหน้าให้เห็นอีก'
ไม่น่าเชื่อว่านับตั้งแต่วันนั้นมากงชานก็ไม่เคยได้ไปเหยียบห้องปกครองอีกเลย ถึงมันจะเป็นเรื่องยากสำหรับเขาก็จริง แต่ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาไม่เคยได้ลงไม้ลงมือกับใครเลยจากที่ต่อยกันทุกวัน แต่มันก็มีบ้างแหละนะที่กระทบกระทั้นกัน แต่ไม่ได้ตัดสินด้วยกำลังอย่างที่เขาเคยทำเวลามีเรื่อง ซึ่งนั่นก็ทำให้จินยองพอใจในระดับหนึ่ง อย่างน้อยเขาก็อยากจะดัดสันดานเด็กมันบ้าง
"กงชาน"
"ครับ?"
"นายสูบบุหรี่หรอ"
จินยองหันไปมองหน้าน้องด้วยสีหน้าเคร่งเครียดหลังจากที่นั่งจมกลิ่นบุหรี่อ่อนๆในขณะที่อ่านหนังสือมาซักพักหนึ่ง ตอนแรกก็คิดว่าคงเป็นเด็กเปรตแถวๆนี้ที่เดินผ่านไปมาเพราะที่ตรงนี้มันค่อนข้างลับสายตาอาจารย์อยู่พอสมควร แต่เดินผ่านไปผ่านมาเยอะแล้วกลิ่นมันก็ยังติดจมูก เลยเกิดความสงสัยว่าบางทีอาจจะมาจากคนข้างๆเขาก็เป็นได้ ..
"เอ่อ .."
"ตอบมา"
"ก็ .. นิดนึง" กงชานตอบเสียงอ่อยๆก่อนจะยิ้มแหยๆให้จินยองที่ยิ้มไม่ออกเลยซักนิดพลางปั้นหน้าโหดชนิดที่ว่าสามารถระเบิดโรงเรียนให้สลายเป็นผุยผงได้ ก็จริงอยู่ที่จินยองไม่ได้ห้ามเรื่องบุหรี่สิ่งเสพติดอะไรพวกนี้ แต่เขาไม่รู้ว่าไอ้เด็กนี่มันสูบ!! ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้เลย
"เอามา"
"?"
"เอาบุหรี่มา" มือเรียวแบไปตรงหน้าร่างสูงพลางคะยั้นคะยอขอสิ่งเสพนั้นจากรุ่นน้อง
"ผมพึ่งซื้อมาเองนะ"
"ไอ้เวร อยากตายไวหรือไง"
"นิดเดียวเองนะครับ"
"งั้นก็ไม่ต้องมายุ่งกัน โอเค๊?"
"อ่ะๆๆ"
กงชานล้วงหยิบบุหรี่จำนวนหนึ่งและไฟแช็กที่อยู่ในกระเป๋ากางเกงส่งให้จินยองด้วยความจำใจ ถึงแม้จะเสพมันแต่ถ้าแลกกับการที่เขาไม่ได้อยู่กับจินยองนี่มันไม่คุ้มกันเลยซักนิด คนตัวเล็กเมื่อได้บุหรี่มาก็เดินเอามันไปทิ้งที่ถังขยะแถวๆนั้นแล้วเดินกลับมายังโต๊ะพลางส่งสายตาแบบตำหนิไปให้กงชาน
"ห้ามอีกอย่างก็ทำอีกอย่าง คิดว่ามันดีมากหรือไง สูบไอ้พวกนั้นน่ะ"
"ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"......"
"กงชานชิค !"
"ก็..สักพักนึง"
ผัวะ!!!
ฝ่ามือบางๆตบตีเข้าที่หัวของคนอายุน้อยกว่าที่นั่งเจี๋ยมเจี้ยมอยู่ที่เดิม กงชานร้องโอดครวญพลางยกมือขึ้นพยายามจะแกะมือของจินยองที่ทั้งตบทั้งตีทั้งรุมทึ้งหัวเขาอยู่ สภาพผมยับยู่ยี่ไม่ต่างอะไรกับฟัดกะหมา
"ทีงี้น่ะร้อง ทีต่อยกับชาวบ้านทำเก่ง กากว่ะ"
TT
"โตจนจะมีเมียอยู่แล้วยังไม่รู้อีกว่ามันไม่ดี"
"เมียผมคือพี่ใช่มั้ยล่ะครับ:)"
"ฝันอยู่หรือไง"
"ตอนนี้อะฝัน แต่อนาคตอ่ะ ไม่แน่"
ไอ้ ....
"อย่าสูบอีกนะ ฉันไม่ชอบ"
"อือ ผมขอโทษ"
เหอะ ทีงี้ละเสียงอ่อย ไอ้ลูกหมาเอ๊ยย
"คืนนี้พี่ว่างไหม"
"ทำไม"
"มีที่ๆหนึ่งที่ผมอยากพาพี่ไป"
"ที่ ?"
"ไปถึงเดี๋ยวก็รู้ ตกลงไปนะครับ"
"เออ ช่วงนี้ฉันก็เบื่อๆนะ ไปก็ไป"
"นั่นลูกจะไปไหนน่ะจินยอง"
เสียงของสาววัยกลางคนทักท้วงขึ้นเมื่อเห็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวนเดินลงบันไดมาในชุดไพรเวทสบายๆดูทะมัดทะแทง เสื้อสเวตเตอร์สีเทาตัวโปรดกับกางเกงยีนส์ที่ชอบใส่ประจำทำให้ดูหล่อเหลาขึ้นกว่าเดิม ปกติแม่จะไม่ค่อยเห็นจินยองออกไปไหนดึกๆดื่นๆ แต่นี่โตแล้วก็ปล่อยๆมันบ้างแล้วกัน
"ก็ไม่รู้เหมือนกันฮะ แต่ไปกับกงชานมัน"
"ฮั่นแน่ เดทกับลูกชายของคุณนายกงอยู่หรอ "
"เปล่าาาาาา"
"เสียงสูงเชียว ร้ายนะเรา"
"ไม่ใช่อย่างนั้นแม่ ! -0-"
"เอาเถอะๆฮ่าๆ แม่ไม่กวนล่ะ กลับดีๆนะลูก"
"ฮะ เดี๋ยวผมรีบกลับ"
ตอบรับผู้เป็นแม่อย่างว่าง่ายก่อนจะเดินมาหยิบรองเท้าคอนเวิร์สหนังสีเลือดนกที่วางอยู่บนชั้นบริเวณหน้าบ้าน ขณะที่กำลังใส่อยู่นั่นเองรถมอเตอร์ไซต์คันใหญ่สีดำที่คุ้นตาก็มาจอดพอดี คนตัวสูงเอื้อมไปหยิบหมวกกันน็อคแล้วให้พี่ชายตัวเล็กที่กำลังเดินออกจากประตูบ้านมา
"นายคงไม่พาฉันไปฆ่าใช่มั้ย" จินยองถามพลางรับหมวกกันน็อคมาจากรุ่นน้อง กงชานไม่ตอบคำถามนั้นได้แต่หัวเราะใส่ หน้าเขาเหมือนหม่ำจ๊กมกหรือไง
"น่า เดี๋ยวพี่ไปถึงก็รู้"
รถมอเตอร์ไซต์บิ๊กไบค์คันใหญ่เคลื่อนตัวเข้ามาจอดในสถานที่แห่งหนึ่งที่เป็นลานกว้างสุดลูกหูลูกตาที่ไกลจากตัวเมืองอยู่พอสมควร เสียงของเครื่องยนต์ที่น่าจะมีมากกว่าหนึ่งรวมทั้งเสียงของคนหมู่มากดังก้องไปทั่วบริเวณจนคนตัวเล็กรีบถอดหมวกออกทันทีที่รถจอดสนิท เพื่อดูว่าที่นี่มันเป็นอะไรกันแน่
"นายพาฉันมาสนามแข่งรถเนี่ยนะ" จินยองถามเมื่อลงจากรถลงมายืนบนพื้นหญ้าแห้งๆขณะเดียวกันกับที่กงชานถอดหมวกกันน็อคและลงมาจากรถเช่นเดียวกัน
"ผมพามาเปิดหูเปิดตา" กงชานพูดและเงียบไป ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้ง "มานี่สิ"
ไม่รู้ว่าโดนมนต์หรืออะไรยังไงจู่ๆขาของเขาก็ก้าวตามคนตัวสูงนี่ไปซะอย่างนั้น ทั้งๆที่ในใจก็อยากจะกลับบ้านอยู่ก็เถอะ แต่ไหนๆก็มาแล้วมันคงไม่เสียหายอะไรหรอกมั้ง คิดซะว่าเป็นประสบการณ์
"เฮ้ยทุกคน กงชานมาว่ะ" หนึ่งในกลุ่มของผู้คนที่ยืนติดขอบสนามคอนกรีตดังขึ้นท่ามกลางเสียงเครื่องยนต์ที่ขับประลองกันไปมา ทุกคนหันมามองกงชานพลางร้องดีใจประหนึ่งโอป้าขอแต่งงาน ก่อนที่ชายรูปร่างหน้าตาดีคนนึงที่เป็นคนเรียกจะเดินเข้ามาหา
"ยังไม่ตายหรอวะมึง"
"ตายเชี่ยไร กูสบายดี" ดูจากลักษณะท่าทางแล้วกงชานกับกลุ่มคนเหล่านี่ก็น่าจะสนิทกันมากอยู่ น่าแปลกที่คนในโรงเรียนไม่มีใครกล้าคบกับเขาแต่นอกโรงเรียนกลับมีเยอะอย่างประหลาด ซึ่งจินยองก็ยังงงๆอยู่เหมือนกัน
"ก็นึกว่า ..." ชายคนนั้นพูดอย่างเจ้าเล่ห์พลางปรายตามาทางจินยองที่ยืนอยู่ข้างๆ "ติดเมียจนไม่มาหาพวกกูซะแล้ว"
"เมียพ่อมึงดิ นี่รุ่นพี่ที่โรงเรียนกู" ตอบซะจินยองรู้สึกขอบคุณและซาบซึ้งในน้ำใจของกงชานมากที่ปฏิเสธเพื่อนมันไปแบบนั้น
"งั้นพี่ก็คงเป็นพี่ที่พิเศษมากเลยสินะครับ เพราะไอ้ดำมันไม่เคยพาใครมาสนามเลย" จู่ๆรุ่นน้องคนนั้นก็หันมาพูดกับจินยองที่ยืนนิ่งประหนึ่งตะคริวรับประทานปาก เมื่อโดนถามแบบนั้นจะให้ตอบว่าไรดีล่ะ -__-
"จำเป็นด้วยหรอที่ต้องเป็นคนพิเศษบ้าบอไรนั่น"
"เป็นสิครับ กฏของที่นี่มีอยู่สองข้อ คือคนที่พามาต้องไม่ใช่เพื่อนพี่น้องแต่พิเศษกว่านั้น"
"กับอีกข้อนึง คือมาคนเดียว"
"ไอ้ฮันบินมึงพอได้ละ" กงชานที่ยืนนิ่งเงียบฟังฮันบินฝอยน้ำลายแตกฟองอยู่ก็รีบห้ามก่อนที่จะคุยกันนานกว่านี้ มีหวังต้องนั่งปูเสื่อแล้วจิบน้ำชาคุยกันยาว
"อะไรของมึงเนี่ยย ฮ่าๆ ว่าแต่พี่ชื่ออะไรครับ ผมชื่อคิมฮันบิน" รุ่นน้องคนนั้นแนะนำตัวก่อนจะโค้งตัวให้หนึ่งที เด็กคนนี้ตัวเล็กกว่ากงชานก็จริงแต่ความหล่อคือกินกันไม่ลง
"จองจินยอง"
"พี่น่ารักดีว่ะ มิน่าละกงชานมันถึงหลงหัวปักหัวปำ"
"เชี่ยห่าน เป็นโรคไรชอบล้อกู ไปหาพี่จินฮวานเลยไป"
ร่างสูงโบกมือเป็นเชิงไล่เพื่อน ไม่นานผู้ชายผิวขาวตัวเล็กหน้าตาจิ้มลิ้มเกินผู้ชายก็เดินเข้ามาแล้วมาหยุดยืนอยู่ข้างๆฮันบิน พลางท่อนแขนแกร่งก็โอบคอคนตัวเล็กมาใกล้ๆก่อนจะจรดปลายจมูกลงบนแก้มเนียนใส
"ย่าห์ ทำอะไรของนายน่ะฮะ ?! เอ่อ หวัดดีกงชาน^^;"
"หวัดดีครับพี่จินฮวาน"
"สบายดีมั้ย ไม่เห็นเข้ามาที่สนามเลย แล้วนี่ ... " พี่จินฮวานหยุดพูดก่อนจะชี้มาทางจินยองที่กำลังมึนงงอยู่ท่ามกลางพวกบุคคลประหลาดๆพวกนี้"ผมชื่อจองจินยองครับ เป็น.."
"เมียไอ้กงชานมัน" กลายเป็นเสียงของคิมฮันบินที่ตอบแทนซะงั้น เล่นเอากงชานอยากจะประทับฝ่าตีนขาวๆนี่ลงบนหน้าจริงๆ
"ผม..ชื่อคิมจินฮวานนะ^^"
"พี่จินอย่าไปเชื่อมัน มันกะล่อน"
"รู้แล้วน่า มันก็ปากแบบนี้แหละ ป่ะ เข้าไปข้างในกัน" เสียงเล็กๆของจินฮวานพูดพลางชักชวนให้เข้าไปที่สนาม จริงๆตรงนี้ก็ไม่ได้ไกลจากตัวสนามซักเท่าไหร่นักหรอก แต่ถ้าเข้าไปใกล้มันก็จะสนุกกว่าตรงนี้น่ะนะ
"ใครแข่งอยู่วะ"
"พี่ซึงฮยอนกับมินโฮ เออเมื่อกี้มีเด็กใหม่มาแม่งแหกโค้งรถคว่ำไม่เป็นท่า หามส่งโรงบาลแทบไม่ทัน"
"แล้วเป็นไรมากปะวะ"
"เห็นไอ้ดงมันบอกว่าหัวแตก แขนหัก เออ แล้วรอบต่อไปมึงจะลงมั้ย หรือมาดูเฉยๆ" จู่ๆฮันบินก็หันมาถามกงชานเรื่องการแข่งเล่นเอาจินยองหันหน้าขวับมองร่างสูงที่ยืนนิ่งเงียบเหมือนใช้ความคิดอยู่ซักพักหนึ่ง ถามว่าเป็นห่วงมั้ยมันก็ไม่เชิงหรอกนะ แต่ถ้าเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาจะทำไงล่ะ!!
"เออ"
"ถ้าไม่แข่งกูไม่มาหรอก"
"กงชาน..." เสียงเรียกที่แผ่วเบาเผลอหลุดออกจากปากโดยที่เขาไม่รู้ตัว แต่ถึงยังไงกงชานก็คงไม่ได้ยินเพราะจากเสียงเครื่องยนต์และเสียงของผู้คนที่โห่ร้องดีใจกับผู้ชนะของการแข่งรอบสุดท้ายในประเภทแรกเสร็จ
"เหยดดด ละของพนันมึงอะ มึงอย่าเอาขนมจากมาพนันอีกนะ กูละอายแทน"
เป็นเรื่องปกติของสนามที่ไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามถ้าจะลงแข่งต้องมีของเดิมพัน ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของ รถที่แข่ง เงิน แน่นอนว่าจำนวนต้องไม่ต่ำว่าหนึ่งล้านวอน และรวมถึงสิ่งที่ไม่สามารถประมาณค่าได้ คือ ..
"วันนี้กูเอาใครมาล่ะ"
"มึงอย่าบอกนะว่าจะเอาพี่จินยองเป็นของเดิมพันแข่ง ?! "
"เออ"
"เฮ้ยมึงบ้าป่ะเนี่ย"
ฮันบินเบิกตากว้างพลางผลักไหล่แกร่งของคนตัวสูงกว่าเบาๆด้วยความประหลาดใจที่จู่ๆก็เอาคนที่ตัวเองพามาเป็นของเดิมพัน ซึ่งรู้กันดีอยู่แล้วว่าถ้าแพ้ ของเดิมพันก็ต้องตกเป็นของผู้ชนะโดยไร้ข้อกังหาใดๆทั้งสิ้น ผู้ชนะจะสั่งให้ทำอะไรก็ได้ หรือจะไม่สั่งอะไรเลยก็ได้เหมือนกัน เวลาที่ของพนันจะอยู่กับผู้ชนะนั้นก็แล้วแต่จะกำหนด แน่นอนว่าไม่ค่อยกล้ามีใครเอาคนมาเสี่ยงนักเท่าไหร่หรอก
"กูไม่ได้บ้า กูพูดจริง"
"พี่เขาไม่ใช่สิ่งของนะมึง อย่าเลย"
"เออน่ากูไม่แพ้หรอก"
"กงชาน .. ฉันไม่ตลกด้วยนะเว้ย!!!" คนตัวเล็กที่ยืนเงียบอยู่นานพูดขึ้น แต่เรียกว่าตะโกนใส่หน้าเขาเลยน่าจะเหมาะกว่า กงชานไม่ตอบคนเป็นพี่แต่หันมามองหน้าด้วยแววตาเรียบเฉย
"มึงเคลียร์กับพี่เขาดีๆแล้วกัน" ฮันบินเห็นว่าท่าไม่ค่อยจะดีเลยขอเลี่ยงออกมาเพื่อให้เขาคุยตกลงกันก่อน จะได้ไม่ผิดใจกันทีหลัง เดี๋ยวจะทะเลาะกันเป็นเรื่องราวใหญ่โต
"เห็นฉันเป็นสิ่งของหรอวะที่จะทำอะไรก็ได้"
"พี่ฟังผมก่อน"
"ฟังให้มันได้อะไรขึ้นมา"
"พี่จินยอง .."
"พาฉันกลับบ้านเดี๋ยวนี้เลยนะโว้ย" คนตัวเล็กเริ่มโวยวายเสียงดัง ก็แน่ล่ะ เจอแบบนี้ใครเขาจะยอมอยู่กันล่ะ เกิดกงชานแพ้ขึ้นมาแล้วผมจะเป็นยังไง ?! มีอะไรที่ทำให้เขามั่นใจหรอว่ากงชานจะชนะน่ะ
"ผมไม่แพ้หรอก พี่เชื่อใจผมดิ"
"อะไรทำให้แน่ใจขนาดนั้น ฮะ?!"
"พี่ไง"
"นี่ไม่ตลกเลยนะกงชาน นายไม่ชนะหรอก"
"ดูถูกผมจังนะ เคยเห็นผมแข่งหรือยังเถอะ"
"มันไม่ใช่แค่เรื่องนั้น ถ้าเป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไงล่ะวะ ฉันก็ไม่ใช่หมอ" พูดพลางถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะยกแขนขึ้นมากอดอกพลางปรายตามองกงชานชิกที่ยืนยิ้มใส่เขา หน้าสิ่วหน้าขวานยังจะยิ้มอีก ประสาท
"ที่แท้ก็ห่วงผมนี่เอง อ่า ทำไมพี่น่ารักงี้นะ"
"อย่าหลงตัวเองให้มันมากเลย"
"อยากให้ผมชนะมั้ยล่ะ"
"นายไม่ชนะหรอก"
"ชนะอยู่แล้ว"
"อย่างนายเนี่ยหรอจะชนะ เหอะ ถ้าชนะฉันยอมเป็นแฟนนายเลยเอ้า เฮ้ยๆ ปล่อยยยเลยๆ"
จู่ๆท่อนแขนแกร่งก็คว้าเอาร่างบางมากอดแน่น เล่นเอาคนตัวเล็กดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมแขน พูดก็พูดเถอะอยากจะฟัดไอ้พี่หน้าสวยนี่ใจจะขาด แล้วเล่นมาท้าเขาแบบนั้นไม่ให้ชนะได้ยังไง! งานนี้ถึงไหนถึงกันเลยครับมึง !!
"ผมแพ้ไม่ได้แล้วสิเนี่ย"
"ฉันพนันเลย นายแพ้" ถ้าจินยองไม่มั่นใจว่าเขาจะแพ้ขนาดนั้นก็คงไม่ยื่นข้อเสนอแสนหอมหวานนั่นมาให้เขาหรอกน่า จริงมั้ยล่ะ
"รักษาสัญญาด้วยนะครับ:)"
"โอเค้"
"เตรียมตัวเป็นแฟนผมได้เลย ที่รัก"
"ฝันไปเหอะน่า"
ความคิดเห็น