คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #19 : Y o u r M i n i s t r a n t - CHAPTER 18-
ไหล่กว้างของร่างสูงขยับขึ้นลงตามจังหวะฝีเท้าที่กึ่งวิ่งกึ่งเดินมาที่ลานจอดรถหลังจากทำธุระเรื่องเรียนเสร็จเรียบร้อยแล้ว กงชานเปิดประตูรถของตัวเองแล้วรีบเอี้ยวตัวเข้าไปนั่งก่อนจะเอาเอกสารทั้งหมดวางไว้ที่เบาะข้างๆ ขยับมือปลดกระดุมคอและเนคไทค์ให้คลายออกเพื่อไม่ให้อึดอัดพลางประคองพวงมาลัยไปด้วยขณะที่กำลังขับรถออกไปจากสถานที่แห่งนี้เพื่อมุ่งหน้าไปยังกองถ่าย MV ที่คนรักล่วงหน้าไปก่อนหน้านี้แล้ว
ขับไปตามทางซักระยะหนึ่งเสียงของโทรศัพทที่ร้องเตือนอยู่ในกระเป๋ากางเกงดังขึ้น กงชานหยิบมันขึ้นมาและกดรับโดยที่ไม่ได้ดูชื่อที่ปรากฏบนหน้าจอเพราะตาก็ยังมองตรงไปตามถนนข้างหน้า
"ครับ กงชานพูดครับ"
"กงชาน ทำไมจินยองยังไม่ถึงกองถ่ายอีกล่ะ ทางกองพึ่งโทร.มาถามเมื่อกี้ มันน่าจะถึงได้แล้วนะ"
เสียงของปลายสายที่พูดขึ้นเป็นเสียงของท่านประธานที่โทร.มาหาเขา คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อย
พลางถามกลับไปยังปลายสาย
"เกิดอะไรขึ้นหรอครับ" บอกเลยว่าตอนนี้เขาก็เริ่มที่จะใจไม่ค่อยดีแล้ว เกิดอะไรกับจินยองหรือเปล่าก็ไม่รู้
"ก็ฉันโทร.หาไอ้ซึงวอนมัน มันก็ปิดเครื่อง โทร.หาจินยอง ก็ปิดเครื่อง เลยมาถามนายเผื่อว่าจะรู้"
จบประโยคก็แทบจะบังคับพวงมาลัยไม่อยู่ นี่มันเรื่องอะไรอีก ทำไมมีแต่ปัญหามีแต่ความวุ่นวาย จากเส้นทางที่จะไปกองถ่ายร่างสูงเลยเปลี่ยนใจหักพวงมาลัยขับกลับไปยังทางเดิมและไปที่บริษัทแทน
"ผม .. ไม่รู้"
"ยังไงก็กลับมาที่นี่ก่อนแล้วกัน"
"ครับผมกำลังไป"
มือหนากดตัดสายแล้วกำมือถือแน่นอย่างกังวลใจ ไม่เป็นไร คนที่เขารักต้องไม่เป็นไร ยังไงจินยองก็ต้องปลอดภัย มันไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรอก...
ขายาวๆของร่างสูงก้าวฉับๆอย่างรวดเร็วขึ้นมาบนชั้นบนสุดของตัวตึกหลังจากมาถึงบริษัทเมื่อครู่นี้ แน่นอนว่าคนในบริษัทยังไม่มีใครรู้ มีแต่คนที่เกี่ยวข้องกับงานครั้งนี้เท่านั้น เพราะต้องคอยประสานกันหลายฝ่าย
ร่างสูงเคาะประตูกระจกห้องทำงานของผู้อำนวยการต้นสังกัดก่อนจะผลักประตูเข้าไป บรรยากาศในห้องมันอืมครึมจนเขาเริ่มจะใจไม่ดี ทั้งประธานและบาโร กับทีมงานอีกสองสามคนก็อยู่ในห้องนี้กันหมด
"พี่จินยอง ... โทร.กลับมาหรือเปล่าครับ"
กงชานถามเงียบๆเพื่อทำลายบรรยากาศอันมาคุในห้อง จริงๆหลังวางสายจากท่านประธาน กงชานก็รีบกดเบอร์โทรหาคนรักทันที ผลที่ได้คือไม่มีการตอบรับจากปลายสาย แค่เสียงระหว่างรอสายใดๆก็แทบไม่มี
สิ่งที่เป็นคำตอบจากคำถามที่กงชานถามไปมีเพียงแค่ส่ายหน้าเบาๆเท่านั้น มือหนาเริ่มจะยืนไม่อยู่แล้วเลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดหาจินยองอีกครั้งเผื่อติดต่อได้ แต่กลับมีสายเข้ามาซะก่อน ชื่อที่ปรากฏทำให้เขาดีใจจนแทบจะทำอะไรไม่ถูก คนในห้องสังเกตเห็นท่าทางดีใจของกงชานจึงเงยหน้ามองมาทางเขาเป็นตาเดียว กงชานไม่รอช้ากดรับและจะกรอกเสียงลงไป แต่กลับมีเสียงหนึ่งพูดขึ้นซะก่อน
[กงชาน กงชาน !!! ช่วยฉันด้วย โอ๊ย ]
!!!!!!!
[ไอ้นี่ ใครสั่งให้มึงพูด] เสียงคมเข้มของชายปริศนาดังออกมาจากโทรศัพท์จนทั้งห้องได้ยินเสียงนั้นชัดเจน และทุกคนก็อยู่ในอาการตกใจไม่แพ้กัน แต่ยิ่งกว่านั้นคือคนที่กำลังคุยกับปลายสายก็คือเขา กงชาน
[ฉันก็ไม่รู้อ่ะนะว่าทำไมไอ้หน้าสวยนี่ถึงให้ฉันต่อสายหาแกแทนที่จะโทรเข้าบริษัท]
"แกต้องการอะไร!!" เสียงของกงชานแสดงความโกรธกร้าวออกมาอย่างเห็นได้ชัดเจน
[ใจเย็นๆสิวะไอ้หนุ่ม]
"อย่าลีลาดีกว่าครับ มีอะไรก็พูดมา"
[แกอย่าคิดว่าฉันเป็นโจรกระจอกที่จู่ๆก็ลักพาตัวไอ้นี่มาแล้วเรียกค่าไถ่อะไรทำนองนั้นหรอกนะ]
[จริงๆก็ไม่อยากจะจับมันมาหรอก แต่ฉันมีเหตุผลพอที่ทำ และจำเป็นต้องทำเพราะมันเป็นธุรกิจ]
[พ่อมัน ไม่สิ พ่อเลี้ยงมันติดหนี้พนันบอลพวกฉันประมาณ 30 ล้านวอน แล้วมันก็เบี้ยวจ่ายมาหลายนัดแล้วด้วย]
[ล่าสุดที่ไปหามัน มันบอกว่าไงรู้มั้ย ? มันบอกให้เอาลูกชายมันมาจ่ายแทนเงินที่มันติดพวกฉันไว้ ตอนแรกก็จะไม่เอาหรอก เพราะฉันต้องการเงินก้อน]
[แต่พอรู้ว่ามันเป็นจองจินยอง ฉันก็รีบให้คนของฉัน ไปเอาตัวมันมา ยิ่งดังก็ยิ่งได้เงินดี]
[แต่พอดีว่าฉันมีสองทางให้เลือก]
[หนึ่ง พวกแกต้องเอาเงินมาให้ฉัน 30 ล้านวอนเพื่อเป็นค่าประกันตัวไอ้นี่ ฉันได้เงิน พวกแกได้จินยองคืนไป เรื่องก็จบ]
[หรือสอง ...]
[อยู่เฉยๆไม่ต้องทำอะไร เพราะฉันจะส่งมันไปประมูล พูดง่ายๆก็ขายมันให้กับพวกมาเฟียแถบๆญี่ปุ่นนั่นแหละ]
!!!!!!
[อีกห้านาทีฉันจะโทร.มาเอาคำตอบ]
ติ๊ด!
สิ้นเสียงจากปลายสายห้องทั้งห้องก็ตกอยู่ในความเงียบ .... ยังอึ้งกับสิ่งที่ได้ยินและสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ ทุกคนแทบจะทำอะไรไม่ถูก. จะมีก็แต่เสียงสบถเบาๆของกงชานที่กำโทรศัพท์ในมือแน่น โกรธตัวเองที่ไม่สามารถปกป้องคนที่เขารักไม่ได้ เขาโกรธ โกรธมากๆ
ท่าทางและอาการที่กงชานแสดงนั่นทำให้ประธานเกิดความรู้สึกบางอย่างที่ว่า บางที .. กงชานและจินยอง ... อาจจะไม่ใช่แค่คนร่วมงานกันธรรมดาๆ มันมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งมากกว่านั้นผูกทั้งสองเข้าไว้ด้วยกัน หรือคนทั่วๆไปก็เรียกมันว่าความรัก
"เรา .. จะเอายังไงกันครับ" เสียงของทีมงานคนนึงเอ่ยขึ้นมาถามท่านประธานที่ทำหน้าเคร่งเครียดและกังวลไม่ต่างจากคนอื่นๆที่อยู่ตรงนี้
"ฉันจะเซ็นเช็คให้มัน 30 ล้านวอน งานนี้เสียเท่าไหร่ฉันก็ยอม เพราะฉันไม่ยอมให้หลานไปอยู่ในกำมือสกปรกของพวกคนเลวนั่น"
"แล้ว ... ใครจะไปหาพวกมัน"
"ผมครับ ! ผมจะไปเอง" เสียงกงชานพูดกล่าวอย่างหนักแน่น ไม่ว่าจะยังไง เขาก็ต้องไปหาจินยอง ต้องไปหาคนที่เขารัก
"แต่มันเสี่ยงเกินไปนะ สำหรับเด็กอย่างนาย"
"ผมไม่เด็กแล้วนะครับท่านประธาน ให้ผมเอาเงินไปให้พวกเขาเถอะ นะครับ ผมขอร้อง..."
"ผมเสียเขาไปไม่ได้อีกแล้ว .. " ประโยคที่กงชานพูดกับตัวเองเบาจนมีเพียงแค่ท่านประธานและบาโรเท่านั้นที่ได้ยิน เป็นสิ่งที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด...
"ผมจะไม่ยอมให้พวกมันทำเรื่องชั่วๆกับเขาเป็นอันขาด ให้ผมไปเถอะนะครับ" ความแน่วแน่และมุ่งมั่นที่ต้องการจะช่วยคนรักของเขาทำให้ผู้เป็นน้าลำบากใจอยู่ไม่น้อย ถึงกงชานจะอายุยี่สิบต้นๆแล้วก็จริงแต่ให้มาทำงานที่เสี่ยงแบบนี้เขาก็ไม่อยากจะให้ไป สู้ให้คนที่โตกว่าสุขุมกว่าเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่านี้ไปไม่ดีกว่างั้นหรือ
"ไม่ว่าจะยังไง ผมก็จะไป"
แม้ในใจของเขาจะคิดปฏิเสธยังไง แต่ข้างในลึกๆมันกลับมีความรู้สึกบางอย่างว่าให้เขาไปดีที่สุด เพราะเขาจะเป็นคนที่สามารถปกป้องหลานชายคนนี้และเอาตัวเขากลับมาได้อย่างปลอดภัย
ยังไงก็คงต้องให้เขาไป...
"ตกลง"
"ฉันให้นายไป"
เมื่อท่านประธานพูดจบเสียงจากโทรศัพท์ของกงชานก็ดังขึ้นมาอีกครั้งอย่างรู้งาน เบอร์ที่ปรากฏก็เป็นรายชื่อของจินยองเช่นเดิม ร่างสูงไม่รอช้ารีบกดรับสายทันที
"ตกลง"
"เราจะให้เงินแก 30 ล้านวอน"
"พวกแกอยู่ที่ไหน"
[เดี๋ยวฉันจะส่งแผนที่ GPS ไปให้แกหลังจากวางสาย มาเจอกันที่นี่ตอน 20.00 ถ้าแกมาไม่ทัน ฉันจะส่งไอ้นี่ไปประมูลทันที]
!!
[อีกอย่าง ฉันขอเงินสด ไม่ใช่เศษกระดาษแผ่นเล็กๆแค่แผ่นเดียว]
[อ้อ เกือบลืม ถ้าพวกแกพาตำรวจมา หัวนายโดนเป่ากระจุยแน่]
เมื่อสิ้นเสียงคำขาดอีกฝ่ายก็รีบกดตัดสายไปทันที มีเพียงเสียงสายว่างที่ดังแว่วออกมาจากโทรศัพท์อยู่ในมือของร่างสูง กงชานค่อยๆลดระดับมือลงแต่ก็ยังถือมันไว้อย่างนั้น ไม่นานแผนที่ก็ถูกส่งเข้ามา เขารีบยกมันขึ้นมารีบเปิดดู มันไม่ใกล้ไม่ไกลจากกองถ่าย MV ซักเท่าไหร่เพียงแต่มันแยกมาอีกทางนึง จากแววตาที่เคยสดใสของเขาคนนี้กลับหม่นลงอย่างเห็นได้ชัด เขาแทบไม่อยากจะคิดเลยว่ามันจะทำอะไรกับจินยองบ้างหรือเปล่า แค่คิดมันก็กลัวไปหมด ... จองจินยองเป็นผู้ชายที่ภายนอกอาจจะดูเย็นชาก็จริง แต่ภายในใจเขาเป็นคนที่อ่อนไหว ร้องไห้ง่าย เพียงแต่เพราะภาพลักษณ์ในการเป็นนักร้องเขาถูกวางมาแบบนั้น เลยดูเหมือนเป็นคนที่เข้มแข็งมากคนนึงไปโดยปริยาย ทั้งๆที่ภายใน มันไม่ใช่เลย
"เดี๋ยวฉันจะไปเอาเงินมา รออยู่ที่นี่ก่อนนะกงชาน" ท่านประธานพูดพลางตบบ่าร่างสูงเป็นเชิงปลอบใจ ว่าจินยองต้องไม่เป็นไร ต้องปลอดภัย ก่อนที่เขาจะสาวเท้าออกไปจากห้องทำงานแห่งนี้พร้อมเลขาอีกสองคน หนึ่งในนั้นก็คือชาซอนอู ตามด้วยทีมงานคนอื่นๆที่แยกย้ายกันไปทำธุระของตัวเอง ทิ้งเหลือไว้เพียงกงชานที่นั่งอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยมแห่งนี้ ...
คนรักของเขา จะปลอดภัยใช่มั้ย ?
Jinyoung Part
"ไอ้พวกชั่ว!!"
เพียะ !!!
"ปากดีนักนะมึง"
"เอาเลย ตบให้ตายเลยสิวะ!! "
"ไอ้นี่ .. !!"
"ไอ้ซีวาน !! หยุด !!"
น้ำเสียงอันน่าเกรงขามของผู้มีอิทธิพลที่สุดในที่แห่งนี้ดังขึ้นบริเวณอีกฝั่งทางประตูของห้องสี่เหลี่ยมแคบๆ ที่จินยองถูกจับมาขังไว้ในที่แห่งนี้ กลิ่นอับๆของห้องที่ถูกปิดมานานบวกกับฝุ่นที่เกาะอยู่ตามทุกซอกทุกมุมทำให้เขาอึดอัดไม่น้อย ข้อมือและข้อเท้าของจินยองถูกพันธนาการจากเชือกเส้นหนาที่พวกมันจับเขามัดเอาไว้ กับหัวเตียงที่เป็นเหล็กดัดม้วนขดไปมา กลิ่นเลือดคาวๆที่ไหลซึมออกมาที่มุมปากเล่นเอาเจ็บอยู่ไม่น้อย
ทำไมเขาต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้ด้วยนะ ...
"ใครสั่งให้มึงตบหน้ามัน" ลี ซอนโฮ ชายผู้ทรงอำนาจหรือพูดง่ายๆว่าเป็นหัวหน้าของที่แห่งนี้ หันไปด่าลูกน้องของตัวเองอย่างหัวเสีย พลางตวัดสายตามายังจินยอง ที่นั่งมองเหตุการณ์ตรงหน้าอยู่บนเตียงเงียบๆ
"ก็มันด่าพวกเรานี่ครับหัวหน้า"
"แล้วมึงไปทำร้ายมันทำไม !! เสียของหมด" ว่าแล้วมันก็สาวท้าวเดินมาหาร่างบางพลางใช้มือสากๆของมันลูบลงบนแก้มใส ใบหน้าเล็กๆเบือนหน้าหนีด้วยท่าทีขยะแขยง ส่งผลให้มือหนานั้นบีบลงบนแก้มนั่นอย่างแรงทันที
"รังเกียจฉันหรือไง" ดวงตาคมที่แฝงความร้ายกาจจับจ้องไปที่ดวงตาคู่เล็กที่สั่นระริกของอีกฝ่าย ซ้ำยังบีบแก้มนิ่มในมือจนเริ่มแดงช้ำ แต่ถึงกระนั้นจินยองก็ยังแสดงท่าทีก้าวร้าวใส่เพื่อเป็นกำแพงปกปิดความรู้สึกหวาดกลัวในใจที่เขามี
"ไม่ต้องกลัวขนาดนั้นหรอกน่า ฉันไม่ฆ่านายหรอก"
....
"เดี๋ยวอัศวินขี่ม้าขาวก็มาช่วยนายแล้ว หึ"
อาจจะฟังเหมือนเป็นคำปลอบโยนแต่มันดูเป็นคำขู่เสียมากกว่า ในใจตอนนี้คนที่เขาพอจะคิดถึงได้ก็มีแต่กงชานเท่านั้น ยังไงเขาก็ต้องมาช่วยสิ ...
"นายกับผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกันงั้นหรอ"
ชายหนุ่มหน้าเข้มเอ่ยถามจินยองเสียงเรียบๆ ก่อนจะจ้องมองเข้าไปในดวงตาของฝ่ายที่ถูกถาม ปากบางๆเม้มเข้าหากันอย่างชั่งใจว่าจะตอบดีหรือไม่ เพราะถ้าตอบตามความจริงไปว่าเขากับเด็กบ้านั่นไม่ใช่แค่เพื่อนพี่น้องร่วมงานธรรมดา แต่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งมากกว่านั้นมันก็กระไรอยู่
"ฉันจะเป็นอะไรกับเขาแล้วแกเกี่ยวอะไรด้วยล่ะ" แต่ถึงกระนั้นจินยองก็พยายามตอบแบบบ่ายเบี่ยง ใบหน้าเรียบนิ่งดูหยิ่งยโสเชิดขึ้นมองหน้าอีกฝ่ายอย่างเย็นชา ในเวลาแบบนี้เขาจะทำตัวอ่อนแอได้อย่างไรกัน
"หึ ตอบได้ดีนี่"
"แต่อย่าคิดว่าฉันโง่จนดูไม่ออกนะ นายกับหมอนั่นน่ะ ... "
"เป็นคนรักกัน..ใช่มั้ย?"
ว่าแล้วมือสากๆของอีกฝ่ายก็ค่อยๆทาบลงบนที่หน้าขาของคนตัวเล็กผ่านเนื้อผ้าเดฟสีดำ จินยองพยายามจะถดขาหนีฝ่ามือสกปรกนั่นแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะมืออีกข้างของเขาจับข้อเท้าไว้แน่นจนไม่สามารถจะดึงขาตัวเองกลับมาได้
"ปล่อย.."
"ปล่อยให้โง่น่ะสิ" ชายหนุ่มเค้นเสียงต่ำในลำคอ แววตาหื่นกระหายถูกส่งมาให้คนตัวเล็กจนเขาเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยเข้าให้แล้ว ...
"ระหว่างที่รอแฟนนายมาช่วย เรามาหาอะไรสนุกๆทำกันก่อนดีมั้ย"
ว่าแล้วก็หันไปสั่งลูกน้องที่อยู่ในนี้ให้ออกไป ทิ้งไว้ให้เหลือแค่สองคนภายในห้องนี้ มือหนาค่อยๆลูบไล้ขาเนียนที่อยู่ภายใต้เนื้อผ้านั่นอย่างแผ่วเบา น้ำเสียงเล็กๆจิ๊จ๊ะในลำคออย่างขัดใจที่ไม่สามารถพาตัวเองให้หลุดพ้นจากการเกาะกุมนี้ได้ เพราะมันไม่มีแรงที่จะต่อต้านอะไรใดๆทั้งสิ้น มิหนำซ้ำแรงของอีกฝ่ายก็มีมากหลายเท่า
"เอามือสกปรกๆของแกออกไปจากตัวฉัน..."
คนตัวเล็กสั่งเสียงแข็งแต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะไม่ได้สนใจคำสั่งนั่นเลย กลับยังใช้ฝ่ามือสากๆลูบจากต้นขาขึ้นมาจนถึงหน้าท้องแบนราบ ก่อนจะค่อยๆสอดเข้ามาใต้สาปเสื้อจนจินยองต้องเขม่วหน้าท้องตัวเองหนีอย่างรังเกียจ ขอบตาเรียวเล็กเริ่มร้อนผ่าวก่อนที่น้ำใสๆจะไหลรินลงมาอย่างช้าๆ ...
กงชาน ....
นายอยู่ที่ไหนกัน....
ก๊อกๆ
"บอสครับ"
"ชิท!"
ชายร่างใหญ่ส่งเสียงสถบอย่างหัวเสียก่อนจะลงจะเตียงแล้วเดินไปทางประตูที่ลูกน้องของเขายืนเรียกตัวเองอยู่ด้านนอก จินยองถอนหายใจเฮือกใหญ่พลางปาดน้ำตาที่รื้นขึ้นมาออกไปอย่างลวดๆ และคิดขอบคุณคนที่มาเรียกไอ้หมีนี่ให้เลิกยุ่งกับร่างกายของเขาได้ซักที โชคดีที่มันยังแค่ลูบๆถูๆ ถ้ามากกว่านั้นเขาต้องตายแน่ๆ แค่นี้ก็ขยะแขยงจะตายอยู่แล้ว
เสียงที่สนทนากันอยู่ด้านนอกดังพอที่จะจับใจความได้ประมาณว่ามีคนติดต่อมาคุยเรื่องส่งยาอะไรซักอย่าง พร้อมด้วยเสียงปิดประตูและเสียงล็อคกลอนย่างแน่นหนาจากด้านนอกทำให้เขามั่นใจขึ้นมาหน่อยว่าไอ้หมีนั่นคงไม่กลับมาอีก
"แกมาทำไมวะซานดึล"
อะไรนะ ...
"เอ้า มาหาพี่ชายตัวเองไม่ได้หรอ"
!!!!!!!
สาบานว่าเขาไม่ได้ประสาทหลอนหรือหูฝาดหูแว่วอะไรทั้งนั้น ที่จู่ๆก็ได้ยินชื่อและเสียงของซานดึลอยู่ด้านนอกของห้อง จินยองเด้งตัวขึ้นมานั่งและพยายามจับใจความให้ได้ว่าคุยอะไรกัน คิดไปต่างๆนาๆว่าซานดึลอาจจะมีส่วนร่วมในการลักพาตัวเขามาแบบนี้
ไอ้นั่นกับซานดึล ...
เป็นพี่น้องกันงั้นหรอ?
"กูยุ่งอยู่"
"ทำเรื่องชั่วๆอีกแล้วสิ แล้วนี่จับตัวใครมาอีก" ซานดึลบ่นพี่ชายตัวเองอย่างหน่ายๆ แต่ประโยคสุดท้ายนั่นยิ่งทำให้เขางงมากขึ้นไปอีก ซานดึลไม่รู้หรอกเหรอว่าพี่ชายตัวเองจับเขามา ?
"คนที่มึงรู้จักดี"
"นี่อย่าบอกนะว่าเป็นจินยอง ?"
"เออ"
"เฮ้ยไหนพี่บอกว่าจะไม่..."
"ไม่ต้องยุ่งน่า มึงกลับไปได้แล้วไป"
"ก็ไม่ได้จะยุ่งอยู่แล้ว แต่ว่า.."
"หุบปากแล้วกลับไปซะ"
น้ำเสียงอันไร้เยื่อใยเอ่ยไล่น้องชายแท้ๆอย่างไม่ใยดี ซึ่งซานดึลเองก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรเพราะเข้าใจว่าพี่ชายตัวเองไม่อยากให้ตัวเขาต้องมาแปดเปื้อน แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งก่อนเพราะคนที่เขาจับมาเป็นจองจินยอง .. ถึงเขาจะไม่ชอบขี้หน้าแต่ก็ไม่อยากให้พี่ชายทำแบบนี้กับไอ้หน้าสวยนั่นซักหน่อย ถึงจะเกลียดมากก็เถอะ แต่จินยองไม่รู้เรื่อง!! คิดแล้วก็โกรธตัวเองที่ตอนนั้นเผลอหลุดปากเรื่องพ่อแม่ของจินยองไป ไม่น่าเลยจริงๆ เพราะอารมณ์โกรธแท้ๆ ...
สรุปว่าเรื่องนี้ .. ซานดึลรู้ทุกอย่าง
"ไหนพี่บอกจะไม่จับตัวมันแล้วไง?!"
"หึ ... ไม่มีสัจจะในหมู่โจร"
จะเกลียดพี่ชายตัวเองก็คราวนี้ แม่งเอ๊ย
"มึงกลับไปเถอะ ถึงอยู่ก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก .."
ให้มันได้งี้สิ .. ซานดึลคิดในใจแต่ก็ไม่ได้เถียงต่อ เพราะรู้ว่าพูดไปก็คงไม่มีประโยชน์ ในใจก็หวังเพียงแค่ว่าพี่ชายเขาคงไม่ทำร้ายจินยองหรอก
ขอโทษนะ .. จินยอง
ที่ช่วยอะไรไม่ได้เลย...
Jinyoung part
ให้ตายเถอะผมจะบ้า !! นี่มันอะไรกัน ? สรุปว่าซานดึลรู้หมดทุกอย่างเพราะนั่นคือพี่ชายตัวเอง ? ทำไมผมซวยแบบนี้วะ เจอสามพี่น้องนรกนี่ครบทุกแบบทุกเวอร์ชั่นเลยแม่ง แล้วยิ่งตัวพี่นี่ยิ่งเลวสุด เลวมาก....ถามว่าโกรธซานดึลมั้ย ? บอกเลยว่าโกรธมาก เหมือนถูกหลอกและหักหลังพร้อมๆกัน
แต่ทว่า
ประโยคที่ซานดึลพูดกับพี่ชายมันทำให้ทัศนคติผมเปลี่ยนไปเล็กน้อย....มันทำให้ผมรู้สึกว่ามันกำลังจะช่วยผมอยู่ แต่ก็ไม่เป็นผล ดูจากท่าทางของมันแล้วคงไม่ยอมปล่อยผมไปง่ายๆแน่ ผมก็เลยได้แต่นอนติดแหง็กอยู่บนเตียงเก่าๆเน่าๆแบบนี้
เฮ้อ กงชานชิค
นายปั่นจักรยานมาหรือไง
“ซีวาน”
“ครับบอส”
“เข้าไปให้ยามัน”
“แต่ว่า.... มันยังไม่ถึงเวลานี่ครับ”
“ยาตัวใหม่ใช้เวลา 15 นาทีกว่าจะออกฤทธิ์ เข้าใจหรือยัง”
----------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“บอสครับบอส!!!!!!”
“มีอะไรวะไอ้จองชิน”
“ผู้ชายที่ชื่อกงชานชิคมาแล้วครับ”
โอ๊ะโอ ... ดูเหมือนว่าจะช้าไปนิดนึงนะเนี่ย
“ให้มันเข้ามา”
เสียงประตูไม้บานใหญ่ดังขึ้นเมื่อได้รับคำสั่งให้เข้ามา ขายาวๆของกงชานชิคค่อยๆก้าวเข้ามาภายในโกดังร้างแห่งนี้พลางสอดส่องสายตาไปทั่วบริเวณเผื่อว่าจะเจอคนตัวเล็กอยู่ตรงนี้ แต่ปรากฏว่าไร้วี่แววของเงาจองจินจองเลยแม้แต่น้อย
กงชานสงบสติอารมณ์ที่เริ่มคุกกรุ่นเหมือนไฟที่กำลังติดและเริ่มที่จะลุกโชน แต่ดันมีใครบางคนเข้ามาเติมเชื้อเพลิงให้มันแรงขึ้นไปอีก เขาได้แต่ปลอบใจตัวเองว่าจินยองคงไม่เป็นอะไร อาจจะอยู่มุมไหนซักที่นึงของที่แห่งนี้ ในที่ๆปลอดภัย เขาหวังว่าจะเป็นอย่างนั้น และเขาก็มาก่อนเวลาตั้งสิบนาที พวกมันคงไม่คิดจะผิดสัญญาหรอกใช่มั้ย
“จองชิน มันเอาตำรวจมาด้วยหรือเปล่า”
“เปล่าครับบอส มันมาคนเดียว”
“จินยองอยู่ไหน” กงชานเอ่ยเสียงเรียบ ไม่อยากจะต่อความยาวสาวความยืดอะไรให้มันมากนัก แค่นี้ก็เสียเวลามามากพอแล้ว ยิ่งอย่าง เขาเป็นห่วงคนตัวเล็กจนจะบ้าตายอยู่แล้ว
“ใจร้อนจังนะ”
“ส่งตัวเขามาให้ผมด้วยเถอะครับ”
“ส่งเงินมาก่อนสิ”
“คุณนั่นแหละที่ต้องส่งตัวจินยองมาก่อน” กงชานชิคกำมือข้างซ้ายที่ไม่ได้ถือกระเป๋าเงินสดไว้แน่น กะไว้ไม่ผิดว่าไอ้พวกนี้มันต้องเล่นอะไรชั่วๆแน่ ถึงอย่างนั้นเขาก็ขออยู่อย่างเดียว อย่าให้จินยองเป็นอะไรเลย
“ฮ่าๆๆ กล้าต่อรองกับฉันหรอ ? นายคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน” ซอนโฮพูดพลางหัวเราะใส่พระเอกของงานที่ทำเป็นเท่มาช่วยนางเอก แถมยังปีกกล้าขาแข็งมาต่อรองกับผู้ทรงอิทธิพลอย่างเขา ช่างน่าสมเพชเสียจริงๆ
“คุณมันชั่ว”
แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก
เสียงขึ้นนกของปืนพกหลายกระบอกดังขึ้นพร้อมกันราวกับนัดกันมาอย่างดิบดี ปากปืนแต่ละกระบอกต่างหันมาทางกงชาน เป็นสัญญาณว่าถ้าพูดอะไรพล่อยๆใส่ซอนโฮอีกล่ะก็ ไม่ได้ตายดีแน่นอน
“คุณเลิกพูดแล้วส่งตัวเขามาเถอะครับ” กงชานพยายามพูดอย่างใจเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้
“จุนกี มึงเช็คเงินหรือยัง”
“เรียบร้อยแล้วครับ”
เมื่อได้ยินดังนั้น ซอนโฮก็ยิ้มกริ่มอย่างพอใจ ก่อนจะสาวท้าวไปใกล้ๆร่างสูง เมื่อถึงระยะที่ใกล้พอสมควรจึงยื่นมือไปข้างหน้าก่อนที่กระเป๋าเงินสีดำจะถูกส่งให้ถึงมือ ซอนโฮรับกระเป๋ามาอย่างไม่รีบร้อนนัก ก่อนจะค่อยๆเปิดกระเป๋าจนเห็นเงินหลายก้อนที่วางๆอัดกันอยู่ภายในนั้น เขาปิดกระเป๋าลงก่อนจะพูดอะไรบางอย่าง
“ข้ามฉันไปให้ได้ แล้วฉันจะให้แกเจอจินยอง”
!!!!
พลั่ก !!!!
หมัดแรกถูกส่งไปปะทะใบหน้าของซอนโฮด้วยฝีมือของกงชานทันทีที่พูดจบ มือหนายกขึ้นมาเช็ดขอบปากลวกๆเมื่อได้รสเค็มปร่าของเลือดที่ไหลซึมเข้าไป ก่อนจะเหยียดยิ้มขึ้นอย่างชอบใจ ก่อนจะหยิบกระบอกปืนพกที่เหน็บไว้ตรงกางเกงด้านหลังออกแล้วโยนลงไปที่พื้น และยกมือขึ้นทำนองว่าเรามือเปล่าเสมอกันพลางส่งสัญญาณให้ลูกน้องว่าห้ามยิงเด็ดขาดไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
“หมัดหนักเหมือนกันนี่” ซอนโฮพูดติดหัวเราะก่อนจะถอดสูทตัวนอกออก ก่อนจะสาวเท้าเข้าไปหากงชานอีกครั้งหนึ่ง จังหวะเดียวกันกับที่กงชานเดินเข้ามา เหมือนเสือสองตัวที่อยู่ถ้ำเดียวกันไม่ได้ และพร้อมที่จะกระโจนเข้าสู้กันทุกเมื่อ
พลั่ก !! พลั่กก!!
ทั้งสองฝ่ายพลัดกันแลกหมัดอย่างไม่มีใครยอมใคร เมื่อซอนโฮเริ่มเห็นว่ากงชานเริ่มเสียจังหวะแล้วจึงเข้าไปประชิดตัว ก่อนจะต่อยลงไปที่ใบหน้าของกงชานที่เริ่มช้ำ แต่ถึงกระนั้นกงชานก็ไม่ยอมแพ้ ใช้ขาที่ยังพอมีแรงอยู่ถีบอีกฝ่ายให้ออกไป พลางรีบเดินเข้าไปกระชากคอเสื้อของซอนโฮขึ้นมาแล้วรัวหมัดต่อยเข้าที่ใบหน้าแรงๆอีกสองสามครั้ง แต่ครั้งสุดท้ายอีกฝ่ายกลับหลบได้และใช้เข่าแทงเข้าไปที่หน้าท้องของกงชานอย่างแรงจนเสียหลักล้มลงไป
“ไง ยอมแพ้แล้วหรอ” คนที่ได้เปรียบกว่าเช็ดเลือดที่มุมปากอีกครั้งก่อนจะสาวเท้าเข้าไปหากงชานที่นอนกุมท้องอยู่พลางร้องอย่างโอดโอย ขาแกร่งยกขึ้นหมายจะกระทืบซ้ำแต่ร่างสูงไหวตัวทัน รีบกลิ้งออกมาจากตรงนั้นก่อนจะใช้แรงทั้งหมดที่มีลุกขึ้นสู้ต่อก่อนจะพุ่งตัวใส่คู่ต่อสู่จนอีกฝ่ายล้มลงซะเอง
เขาจะมายอมแพ้ตอนนี้ได้ยังไง
ในเมื่อจองจินยองยังรอเขาอยู่!
“คุณมันก็แค่คนขี้ขลาด”
พลั่ก!!
“แค่นี้คุณยังไม่ซื่อสัตย์กับคำพูดตัวเองเลย หมาน่ะ ... มันยังดีกว่าคุณอีก” กงชานพูดด้วยน้ำเสียงที่แสดงให้เห็นว่าเขาโกรธมากถึงที่สุด ก่อนจะต่อยหน้าคนที่อยู่ข้างใต้อีกครั้งด้วยหัวใจที่เจ็บปวด
“เหอะ ด่าฉันน่ะ คิดว่าตัวเองดีขนาดไหนกัน”
“แต่ก็ดีกว่ามึง ..”
พลั่ก!!!!
จู่ๆไม้ท่อนหนึ่งก็ฟาดลงมาที่หลังของร่างสูงอย่างแรงจนล้มตัวลงไปด้านข้าง ก่อนจะร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดอีกครั้ง ซอนโฮหัวเราะในลำคอก่อนจะลุกขึ้นตามแรงพยุงของลูกน้องที่เข้ามาช่วยไว้ ร่างสูงมองดูภาพนั้นอย่างเจ็บใจที่พวกนี้มันเล่นอะไรชั่วๆอย่างที่เขาคิดไว้ไม่มีผิด ก่อนจะรวบรวมแรงทั้งหมดลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เพื่อคนที่เขารักเขาจะไม่ยอมเป็นคนขี้แพ้ เขายอมทำได้ทุกอย่างเพื่อให้จินยองปลอดภัย แม้จะต้องแลกด้วยชีวิตก็ตาม
“ตายยากชะมัดเลย”
“พวกแก...นี่มัน...ชั่วจริงๆ อั่กกก !!!”
ยังไม่ทันได้ลุกยืนขึ้นดีก็ต้องกลับล้มลงไปอีกครั้งเมื่อไม้ท่อนเดิมฟาดลงบนเข่าของกงชานทำให้เสียการทรงตังทรุดลงไปที่พื้น จู่ๆภาพรอยยิ้มของจินยองลอยเข้ามาในหัวซ้ำไปซ้ำมาพร้อมกับน้ำตาของเขาที่เริ่มไหลรินลงมาอาบแก้ม ผ่านแผลที่อยู่บนมุมปากทำให้เขาเจ็บปวด แต่คงไม่เจ็บใจเท่าที่เขาไม่สามารถลุกขึ้นได้อีกต่อไปอีก
พระเจ้าครับ
ผม …
จะทำยังไงดี ....
ความคิดเห็น