ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (FIC B1A4) :: Y o u r M i n i s t r a n t :: [GONGYOUNG]

    ลำดับตอนที่ #16 : Y o u r M i n i s t r a n t - CHAPTER 15 -

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 57












    ปังๆ!!
     

     


    "กงชาน"

     

     

     

     

    ปังๆๆ

     


    "ออกมาคุยกับฉันหน่อยได้มั้ย"

     

     

     

     

                ผมยืนเคาะประตูห้องของกงชานมาร่วมเกือบครึ่งชั่วโมงได้แล้ว นี่มันจะทุ่มนึงแล้วกงชานยังไม่ออกมาจากห้องเลย พอออกจากบริษัทได้ก็เงียบไม่พูดไม่จา ถามอะไรก็แค่ อือ ครับ อืม ใครมันจะไปอยากจะเสวนาต่อกัน จนปัจจุบันนี้ผมก็ยังไม่รู้เลยว่ามันเป็นอะไรของมันกันแน่ เพราะตั้งแต่ถึงคอนโดมาก็เอาแต่หมกตัวในห้อง จนผมละความพยายามที่จะถามแล้วมาทำเพลงส่วนที่เหลือให้เสร็จ รู้สึกตัวอีกทีท้องฟ้าด้านนอกก็มืดสนิท พอออกมาจากห้องก็ยังไม่เห็นกงชาน ยังอยู่ในห้องเหมือนเดิม

     

     
     

    "ย่าห์! ถ้านายไม่ออกมาฉันจะโกรธแล้วนะ" ให้ตายสิ ทำตัวอย่างกะเด็กมีปัญหาไปได้ หมกตัวอยู่ในห้องให้มันได้อะไรขึ้นมาวะ

     

     

     

    "กง..!!"

     

     

                ยังไม่ทันที่จะพูดชื่อจบ ประตูที่ผมกำลังจะยกมือขึ้นเคาะเป็นรอบที่ร้อยก็เปิดออกช้าๆ ตามด้วยร่างของกงชานที่ยืนก้มหน้าก้มตาอยู่หลังประตู ไม่นานก็ค่อยๆเงยหน้าขึ้นมา ดวงตาบวมแดงช้ำที่ดูก็รู้ว่าร้องไห้มา แถมบริเวณรอบดวงตาและข้างแก้มยังมีคราบน้ำตาอีก

     

     

    ไอ้หล่อของผมหายไปไหน !!!

     

     

     

    "นาย..โอเคมั้ย" ผมถามเขาคำตอบที่ได้กลับมาเป็นอ้อมกอดของกงชานแทน คนตัวสูงตรงหน้าไม่ตอบผม แต่กลับคว้าตัวผมเข้าไปกอด ท่อนแขนแกร่งกระชับกอดแน่น ใบหน้าของเขาวางอยู่บนศีรษะของผม ทำให้รู้สึกได้ว่าเขากำลัง ... อ่อนแอ

     

     

    ใช่มั้ย ?

     

               

     

                ผมยืนให้กงชานกอดอยู่หลายนาที ตัวผมก็กอดเขากลับไปเช่นกัน มือบางลูบแผ่นหลังกว้างเป็นเชิงปลอบ พร่ำบอกเขาว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ถึงแม้ว่าผมจะไม่รู้ว่าเขาเจอปัญหาหรือเจอเรื่องราวอะไรมาก็ตาม แต่นี่เป็นสิ่งที่ผมพอจะทำให้คนที่ผมรักได้ ณ เวลานี้

     

     

     

    "เป็นอะไร บอกฉันได้มั้ย" 

     

     


    "ผม ... เลิกกับซานดึลแล้ว"

     

     

     

    !!!!

               

     

                คำตอบของกงชานทำให้ผมชะงักมือที่กำลังลูบปลอบเขาทันที ถามว่าผมตกใจมั้ย ก็ต้องตอบว่ามากอยู่ ผมไม่คิดว่าจะเลิกกันเร็วขนาดนี้ แต่ถ้าเป็นใครๆเห็นข่าวแบบนี้ก็ต้องเลิกกันทั้งนั้น .....

     

     

    "เขาบอกเลิกผม"

     

     

                ผมยังยืนนิ่งเงียบให้กงชานได้ระบายมันออกมา น้ำเสียงเริ่มสั่นเครือหน่อยๆเหมือนจะร้องไห้ออกมาอีกรอบ เสียงสูดหายใจเฮือกใหญ่ของกงชานทำให้รู้สึกได้ว่าเขากำลังกลั้นมันไว้อยู่

     

     

    "ผมมันเลวใช่มั้ย"

     

     

    "ทำไมถามแบบนั้น"

     

     

    "ผมทำไม่ดีต่อเขา ผมปล่อยให้เขาเดินจากไปแบบไม่มีฉุดรั้ง สมองของผมมันสั่งให้ผมกลับไปทำสิ่งที่ถูก แต่ในใจผมมันตรงกันข้าม"

     

    "ผมคิดถูกแล้วใช่มั้ยที่ปล่อยเขาให้ไปเจอสิ่งที่ดีๆ"

     

     

     

    "ซานดึลบอกเลิกนายเองไม่ใช่หรอ"

     

     

    "ถึงมันจะเจ็บทั้งคู่ แต่นั่นฉันก็คิดว่าเขาทำถูกแล้ว ปล่อยให้มันเจ็บไปครั้งเดียวจบดีกว่าให้มันยืดเยื้อ ครึ่งๆกลางๆอยู่แบบนี้"

     

    "ฉันก็มีส่วนสำหรับเรื่องนี้เหมือนกัน ฉันเองก็ผิด แต่จะทำยังไงเมื่อฉันรักนายและนายก็รักฉัน.."

     

     

    "เป็นไปไม่ได้หรอกกงชาน ที่เราจะรักใครสองคนได้พร้อมๆกัน ยังไงมันก็ต้องมีหนึ่งคนที่รักมากที่สุดอยู่ดี"

     

     

    "ฉันก็เผื่อใจมาตลอด ว่าซักวันหนึ่งนายก็ต้องเลือก ว่าฉัน หรือ ซานดึล.."

     

     

     

                ผมพูดยืดยาวระบายความคิดให้กงชานที่ยืนฟังอยู่เงียบๆ ผมรู้ว่ามันต้องมีวันใดวันนึงที่เขาต้องตัดสินใจว่าเขาจะเลือกใคร แต่ในเมื่ออีกคนนึงชิงบอกเลิกก่อน นั่นก็หมายความว่าเขาเลือกผม ? ใช่หรือเปล่า เพราะถ้าเขาเลือกซานดึลจริงๆ ก็คงกลับไปขอคืนดีแล้ว แต่นี่เขาไม่ยื้อไว้เลย .. จะด่าว่าผมเลวก็ได้นะโอเคผมยอมรับ แต่เรื่องความรักมันไม่เข้าใครออกใครหรอก ใครๆก็เห็นแก่ตัวเรื่องนี้กันทั้งนั้น จริงมั้ย ..

     

     

     

    "อยากกลับไปหาเขามั้ย ..."

     

    "ถามใจตัวเอง ว่าอยากกลับไปหรือเปล่า"

     

     

     

     

                ผมพูดเสียงเรียบให้กงชานมันคิดทบทวน ผมก็หวั่นๆอยู่ในใจว่าเขาจะกลับไปมั้ย แต่ถึงคำตอบจะออกมายังไง ผมก็คงต้องยอมรับในการตัดสินใจของเขา ไม่มีทางที่จะคบใครสองคนพร้อมๆกันได้หรอก ...

     

     

     

    "ผม ..."

     

    "คิดให้ดีว่าสิ่งที่มีให้กับเขามันคือความรัก หรือ ความผูกพันที่มีให้กันตลอดระยะเวลาที่พวกนายคบกัน หรือแค่ความเคยชินกับการมีซานดึลอยู่เคียงข้าง พอเขาหายไปนายก็แค่เสียใจ.. "

     

    นายรักใครกันแน่ กงชาน"

     

     

     

     

     

                 ผมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับเขา แววตาวูบไหวสั่นระริกของกงชานสบตากับผมเช่นกัน สองมืออุ่นๆของกงชานประคองเข้าที่ใบหน้าของผม นิ้วมือเกลี่ยสองข้างแก้มอย่างอ่อนโยน ใบหน้าหล่อๆโน้มเข้ามาก่อนที่จะประทับริมฝีปากลงบนกลีบปากของผมอย่างแผ่วเบา ผมหลับตาพริ้มดื่มด่ำกับรสจูบที่กงชานมอบให้ แขนสองข้างของผมยกขึ้นคล้องคอกงชานเพื่อหาที่ยืดเกาะ เราต่างผลัดกันจูบผลัดกันส่งต่อความหวานให้กันและกัน กลีบปากของผมถูกดูดดุนจนบวมช้ำแต่ผมก็ไม่ได้สนใจอะไร ปล่อยให้ความรู้สึกของเราทั้งสองเป็นตัวควบคุมจูบครั้งนี้ต่อไปเรื่อยๆ

     

     

    จะผิดมั้ย

     

    ถ้าเสียงหัวใจของผมมันบอกว่า ..

     

     

    เขารักผม

     

     

     

    "ผมรักพี่" เจ้าหมาน้อยกระซิบบอกรักผมด้วยน้ำเสียงแหบพร่าหลังจากถอนริมฝีปากออก

     

     

    "อาจจะจริงที่พี่ว่า ผมอาจจะแค่ผูกพัน แค่เคยชิน กับการที่มีเขาอยู่ มันยากกับการที่จะตัดใครซักคนออกไปจากชีวิต ทั้งๆที่เคยเป็นส่วนหนึ่งของกันและกัน วันนี้ เวลานี้ เราขาดสิ่งนั้นไป มันก็ยากที่จะทำใจ แม้ว่าเราจะเลิกกันแล้วก็ตาม"

     

     

     

    มันอาจจะยากซักหน่อยกับการที่จะทำใจ

     

    แต่เวลา ... มันจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเองผมพูดแล้วมองหน้ากงชานที่ทำหน้าเหมือนหมาหงอย มือบางของผมยกขึ้นขยี้หัวฟูๆนั่นโดยอัตโนมัติจนรอยยิ้มบางๆผุดขึ้นบนไปหน้า แต่เพียงแค่เสี้ยววินาทีเท่านั้น เจ้านั่นก็กลับมาทำหน้าหงอยเหมือนเดิม

     

     

    เดี๋ยวบาโรมันก็ดูแลซานดึลเองแหละน่า ไม่เป็นไรหรอกทั้งผมและกงชานก็รู้นะว่าบาโรมันคิดยังไงกับซานดึล หลงซะขนาดนั้นคงคอยตามประคบประหงมดูแลอย่างดีเลยล่ะมั้งนั่น อ้าว งี้บาโรมันก็รู้สิว่าผมคบกับกงชาน ?

     

     

    เวรล่ะหฟส่ากหวกางงหกฟ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน T _ T โอยขอให้เรื่องนี้รู้กันแค่ห้าคนเถอะ แค่นี้ผมก็เลวจะแย่แล้วครับ -____-

     

     

    หิวมั้ยผมถามกงชานพลางลูบผมหน้าม้าที่ลงมาปรกหน้าของกงชาน มันจะยาวมาถึงจมูกแล้วเนี่ย

     

     

    ก็นิดหน่อยครับ ในตู้เย็นมีอะไรบ้างผมจะไปทำกงชานพูดแล้วจะเดินไปตรงครัว แต่ผมกลับดึงตัวเขาไว้ก่อน

     

     

    ไปตัดผมมั้ย ผมยาวแล้วนะ

     

    ไว้ก่อนก็ได้ มันยังไม่ยาวเท่าไหร่

     

    ไม่ยาวบ้าอะไรล่ะ จะแยงรูจมูกนายอยู่แล้วเนี่ยผมว่าแล้วดึงปลายผมหน้าม้าลงมาแกล้งแยงเข้าไปในรูจมูกกงชาน จนคนตัวสูงนี่ทำท่าฟึดฟัดๆเหมือนที่หมาชอบทำ

     

     

    ดูสิ ใครทำลูกหมาพี่ร้องไห้เนี่ย

     

    อย่าหยิกแก้มผมสิครับ

     

    ไม่หยิกก็ได้ ไปเลยไปทำกับข้าวเลย หิวแล้ว ผมดันหลังให้คนตัวสูงเดินเข้าไปในครัว กงชานเปิดก๊อกน้ำที่อ่างล้างจานแล้ว .. ล้างหน้า .. ล้างหน้าที่อ่างล่างจานเนี่ยนะ ?

     

     

     

    มีอะไรในตู้เย็นบ้างเนี่ย

     

                กงชานบ่นงึมงัมแล้วเปิดตู้เย็นที่อยู่ข้างๆดูว่ามีวัตถุดิบอะไรที่สามารถทำกินเป็นมื้อเย็นได้บ้าง ผมยืนกอดอกเอาตัวพิงเคาท์เตอร์มองกงชานที่ก้มๆเงยๆอยู่หน้าตู้เย็นหลายนาที ไม่นานกงชานก็หยิบกิมจิออกมา เนื้อหมูสไลด์ ต้นหอม ผักกาดขาว แครอท แตงกวา สาลี่แห้ง ...

     

     

    นี่จะทำเลี้ยงคนทั้งคอนโดเลยหรือไง

     

     

    ก็ผมหิวนี่  อ่า พี่ไปหุงข้าวให้หน่อยสิครับ

     
     

                กงชานว่าแล้วหอบของทุกอย่างมาวางไว้บนเข้าเตอร์อีกฝั่ง หยิบเขียงมีดถ้วยชามอย่างชำนาญ ผมพยักหน้ารับเบาๆแล้วเดินเข้าไปหยิบหม้อหุงข้าวที่คว่ำๆอยู่ด้านในก่อนจะนำข้าวใส่ลงในหม้อ เปิดน้ำซาวข้าวรอบสองรอบแล้วใส่น้ำก่อนที่จะนำไปหุง เสร็จแล้วผมจึงเดินมายืนข้างๆกงชานที่หั่นผักอย่างขะมักเขม้น

     

     

    อยากลองทำมั้ยครับกงชานเงยหน้าขึ้นมาถามผม

     

    ไม่ล่ะ ขอยืนอยู่เฉยๆดีกว่า

     

    ได้ไง พี่ก็ต้องทำกับข้าวกินเองมั่งสิครับ มาผมสอนกงชานไม่รอให้ผมพูดจบกลับกระชากข้อมือผมลากไปจนมาอยู่ตรงตำแหน่งเดียวที่กงชานยืนอยู่ ร่างสูงให้ผมยืนข้างหน้าติดกับเคาท์เตอร์ส่วนเขาก็ไปยืนอยู่ข้างหลัง ซ้อนหลังผม -/////////-

     

     

    ผมจะสอนพี่หั่นผัก

     

     

                กงชานว่าพลางกระซิบข้างหูของผม โอยสยิวเป็นบ้า เอามีดมาแทงผมเยอะถ้าจะแนบชิดขนาดนี้ T _ T หลังของผมติดแนบกับลำตัวของกงชาน แขนแกร่งสองข้างโอบมาด้านหน้า ก่อนที่มือสองข้างนั้นจะจับเข้าที่มือของผมเป็นเชิงสอน คนอายุน้อยกว่าจับมือด้านซ้ายให้จับแครอทไว้ไม่ให้มันเคลื่อนไปไหน ส่วนอีกมือก็จับประคองมือของผมให้จับด้ามมีดขึ้นมา ใบหน้าของกงชานอยู่ใกล้กับข้างแก้มของผม มันใกล้กันจนแก้มของเราแนบติดกัน มันเหมือนกอดแล้วเอาคางเกยไหล่อยู่กลายๆเลยแฮะ  (.///////.)

     

     

    หั่นแครอทมันมีหลายแบบ แบบแว่น แบบหั่นแท่ง แบบเป็นรูปหัวใจ ดอกไม้ ลูกเต๋า

     

                เสียงของกงชานพูดอธิบายอยู่ข้างๆหู มันนุ่มทุ้มมากจนผมอดไม่ได้ที่จะใจสั่น ส่วนมือสองข้างก็ยังประคองให้หั่นแครอทต่อไป กงชานจับมือผมบังคับให้หั่นแครอทออกเป็นสองซีก แล้วหั่นครึ่งอีกครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะเริ่มหั่นเป็นแบบแท่ง

     

     

    แต่วันนี้ผมจะทำสลัดผักรวมกับหมูผัดกิมจิ เลยต้องหั่นเป็นแบบแท่ง


    อื้อ

     

     

    เสร็จแล้วครับแครอทสีส้มสดใสถูกหั่นเป็นแท่งเล็กๆจนหมดหัว เราสองคนกินแค่หัวเดียวก็คงพอ กงชานหยิบแครอททั้งหมดใส่ถ้วยที่เตรียมไว้แล้วหยิบแตงกวามาวางไว้บนเขียงต่อ

     

     

    ต่อไป หั่นแตงกวากงชานเข้ามาประคองมือผมอีกรอบ แล้วสอนผมหั่นแตงกวา ทุกชิ้นที่กงชานหั่นมันดูเพอร์เฟ็กต์ไปซะหมดเลย โอยโคตรพ่อบ้านอ่ะ ผมจะตายล่ะทำไมมีเสน่ห์ขนาดนี้นะ ..

     

     

    จ้องผมอีกแล้วนะเหมือนคนตัวสูงจะสังเกตเห็นว่าผมเผลอจ้องเขามากไปจึงรีบหันหน้ากลับมาที่เดิม

     

     

    พี่ลองหั่นเองสิครับกงชานเอามือที่ประคองออกจากมือของผมแล้วออกมายืนข้างๆ ทิ้งให้ผมจับมีดอยู่หน้าเคาท์เตอร์อย่างงงๆ กงชานหั่นไปได้ครึ่งลูกแล้ว ที่เหลือก็เอาไว้ให้ผมหั่น ผมจรดปลายมีดลงบนเนื้อน้องแตงกวาสีเขียวอย่างเงอะๆงะๆแล้วหั่นลงไป

     

     

     

     

    ฉับ !!

     

    =_______=

     

     

    หนาเป็นเมตรขนาดนี้พี่จะเอาไปให้หมากินหรอครับ....

     

    เอ๊ะไอ้เด็กนี่ เดี๋ยวก็ฟันด้วยมีด

     

    ถ้าเป็นพี่ฟันผมก็ยอมกงชานพูดด้วยเสียงทะเล้นก่อนจะเอี้ยวตัวหลบทันในขณะที่ผมกำลังจะยกมีดขู่

     

    ไม่เอาไม่หั่นแล้ว มาหั่นเองเลย L!!! ”

     

     

     

     

     

     

     

                ผ่านไปเกือบสองชั่วโมงสำหรับอาหารมื้อเย็นนี้ จริงๆถ้าให้กงชานทำคนเดียวแค่ชั่วโมงหรือครึ่งชั่วโมงก็เสร็จ แต่ติดอยู่ที่ว่ามันให้ผมทำนี่แหละ ทำถูกบ้างผิดบ้าง มันก็เลยนานอย่างงี้ สุดท้ายผมก็ต้องยอมหั่นผักหั่นนู่นนี่ต่อตามที่กงชานสั่ง นี่ใครเป็นเจ้านายใครเป็นลูกน้องกันแน่วะ = =

     

     

                กงชานยกถ้วยยกชามทั้งหมดมาวางที่โต๊ะกินข้าวภายในห้องของผม ก่อนจะนั่งลงที่ฝั่งตรงข้าม แล้วหยิบช้อนกับตะเกียบส่งมาให้ผม

     

    พรุ่งนี้ไปตัดผมนะ

     

    อ้าวพรุ่งนี้พี่ไม่ต้องเข้าห้องอัดหรอกหรอครับ

     

    วันมะรืนก็ได้ ผมนายยาว กงชานเงยหน้าขึ้นมามองผม แววตาหม่นๆนั่นทำให้ผมรู้ดีว่าเขาอาจจะนึกถึงใครคนนั้น ผมดูออกนะ ...

     

     

     

     

     

     

     

     

    กงชานนนนนนน ตัดผมได้แล้วน้าาา

                น้ำเสียงอันสดใสดังขึ้นพร้อมกับร่างนุ่มๆที่สัมผัสเข้าที่แผ่นหลังของกงชาน ซานดึลเข้ามากอดทางด้านหลังของเขา ก่อนจะใช้ท่อนแขนโอบรอบคอของอีกฝ่ายไว้หนึ่งข้าง ส่วนอีกข้างหนึ่งก็ยกขึ้นลูบกลุ่มผมนุ่มของคนรักไปมา

     

     

    ทำไมครับ ผมยาวไม่หล่องั้นหรอกงชานพูดยิ้มๆแล้วละมือจากการบ้านของมัธยมปลายปีสุดท้าย ก่อนจะหันไปหาซานดึล จรดปลายจมูกลงบนแก้มใสเบาๆ เล่นเอาคนที่กอดอยู่ด้านหลังเขินม้วนจนอดไม่ได้ที่จะตีไหล่กว้างแก้เขินไปหนึ่งที

     

     

    ถ้าเป็นนายทรงไหนก็หล่อทั้นนั้นแหละ (.////////.)คนน่ารักก้มหน้างุดซบลงบนลาดไหล่

     

     

    พี่ซานดึล

     

     

    หืม

     

     

    อย่าทำตัวน่ารักมากได้มั้ยครับกงชานหยุดพูดไปซักพักนึงแล้วหันไปมองหน้าคนรักที่กำลังมองเขาตาแป๋ว เหมือนลูกเป็ดตัวน้อย

     

     

     

    แค่นี้ผมก็หลงจะแย่แล้ว

     

     

     

     

    กงชาน....

     

    นายร้องไห้ทำไม

     

     

     

     

                ผมวางช้อนกับตะเกียบลงทันทีที่เห็นคนตรงหน้าที่จู่ๆก็ร้องไห้ออกมา น้ำตาที่ไหลรินช้าๆออกจากดวงตาคมของเขาทำให้ผมอดไม่ได้ที่จะถามด้วยความเป็นห่วง ถึงกงชานจะนั่งก้มหน้าอยู่แต่ผมก็เห็นได้ว่าเขากำลังร้องไห้ แผ่นหลังอันสั่นเทาทำให้ผมต้องลุกจากเก้าอี้แล้วเดินไปทางฝั่งกงชาน สองแขนของผมคว้าตัวของเขาเข้ามากอดแล้วลูบกลุ่มผมนั่นเบาๆ เพื่อปลอบ

               

     

                แต่ยิ่งปลอบเขาเท่าไหร่เขาก็ยิ่งร้องไห้หนักมากขึ้นเท่านั้น กงชานยกแขนขึ้นกอดเอวของผมแน่น ใบหน้าหล่อๆวางแนบอยู่บนบริเวณหน้าท้องของผมแล้วร้องไห้ออกมาอีกครั้ง ส่งผลให้น้ำตาผมไหลโดยไม่รู้ตัว ผมไม่อยากให้เขาเห็นว่าผมก็เสียใจไม่ต่างกันจึงเงยหน้าขึ้นเพื่อกลั้นมันไว้ไม่ให้ไหลออกมา ผมก็อ่อนแอไม่ต่างจากเขา ...

     

     

    ผมลืมเขาไม่ได้

     

     

                ความพยายามที่จะกลั้นน้ำตาของผมพังทลายลงทันทีหลังจากที่เขาเอ่ยประโยคนั้นออกมา น้ำตาเอ่อล้นออกมาจากดวงตาของผมช้าๆ ผมแทนเขาไม่ได้งั้นหรอ ...

     

     

    ผมรักพี่นะพี่จินยอง....แต่ผมยังลืมเขาไม่ได้

     

     

     

    ยิ่งนายลืม นายก็ยิ่งกลับจำมันมากขึ้น

     
     

    พี่ร้องไห้หรอกงชานเงยหน้าขึ้นมาถามผมทั้งน้ำตา ยากที่จะปฏิเสธว่าผมไม่ได้ร้องไห้ เพราะทั้งน้ำตาทั้งเสียงสะอื้นที่ผมไม่สามารถกลั้นมันเอาไว้ได้ มันยากจริงๆ ..

     

     

    ช่างมันเถอะ ฉันเห็นนายร้องก็เลยร้องตามผมตอบปัดๆ

     

     

    ผมขอโทษ

     

     

     

     

     

     

    เป็นฉันไม่ได้หรอ...

     

     

    ฮึก ฉันแทนที่เขาไม่ได้งั้นหรอกงชาน ...

     

     

     

    ให้ที่ตรงนั้น เป็นฉันแทนได้มั้ย

     

     

     

                ผมพูดก่อนที่จะค่อยๆย่อตัวลงจนใบหน้าอยู่ระดับเดียวกับคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ สองมือเปลี่ยนมาเป็นประคองใบหน้าหล่อๆนั่นอย่างแผ่วเบา นิ้วของผมเกลี่ยหยาดน้ำตาที่ไหล่จากดวงตาของเขาออกไป แต่ยิ่งปาดมันออกไปเท่าไหร่กงชานก็ยิ่งร้องไห้ น้ำตายังไหลรินออกมาเรื่อยๆ ไม่ต่างกันกับผมที่กำลังร้องไห้เช่นกัน

     

     

    ไม่ว่าจะเป็นผม กงชาน หรือซานดึล ..... เราต่างก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน

     

     

     

    ฉันไม่ได้จะให้นายลืม

     

     

    แต่ช่วยเอาฉันไปแทนที่เขาได้มั้ย ให้คนที่นายคิดถึง เป็นแค่ฉันคนเดียว

     

     

    แค่ฉัน...

     

     

     

     

                ผมใช้สองมือกุมใบหน้าของกงชานเอาไว้ ดวงตาทั้งสองคู่สอดประสานถึงแม้ว่าจะมีม่านน้ำตาบดบังอยู่ก็ตาม ผมเลื่อนใบหน้าไปใกล้ๆกงชานแล้วประกบริมฝีปากอันสั่นเทาจูบลงไปบนริมฝีปากของอีกฝ่าย หยาดน้ำตาของผมและกงชานต่างก็แทรกซึมตามแนวริมฝีปากจนรู้สึกถึงความเค็มของน้ำตาที่อยู่ทั่วโพรงปากอุ่นถึงกระนั้นก็ไม่สามารถทำให้ผมและกงชานผละออกจากกันได้ ผมขบเม้มไปตามกลีบปากสวยของอีกฝ่าย ก่อนจะค่อยๆสอดลิ้นเข้าไปช่วงชิงความหวานจากด้านใน กงชานนั่งนิ่งๆปล่อยให้ผมเป็นคนนำ ถึงแม้เราทั้งสองจะร้องไห้อยู่ทั้งๆที่ยังจูบกันอยู่ แต่มันก็ไม่ได้รู้สึกแย่จนเกินไป กลับยิ่งทำให้เราเชื่อมั่นในกันและกันว่าแม้จะเกิดปัญหาอะไรเราก็จะไม่ปล่อยมือกันไปไหนเด็ดขาด

     

               

                เป็นเวลาเนิ่นนานที่ทั้งผมและกงชานผลัดกันจูบผลัดกันแลกเปลี่ยนความหวานและความรู้สึกกันอยู่แบบนั้น คนตัวสูงดึงแขนผมจนผมปลิวไปนั่งอยู่บนหน้าตักของเขา กลีบปากนุ่มถูกขบเม้มจนบวมช้ำ ก่อนจะถูกริมฝีปากของอีกฝ่ายดูดดุนอีกครั้ง มือบางจับท้ายทอยของกงชานพลางหาที่ยืดเกาะไม่ให้ตัวเองเคลื่อนจากหน้าตัก กลุ่มผมสีดำตรงท้ายทอยถูกขยุ้มโดยอัตโนมัติทันทีที่มือหนาของกงชานเริ่มจะอยู่ไม่สุขเริ่มป่ายแปะไปทั่วลำตัวของผม 

     

     


    "อื้อ"

     

                ผมส่งเสียงประท้วงในลำคอก่อนที่จะใช้มือทุบไหล่กว้างจนกงชานยอมถอดถอนริมฝีปากออกไป หมาน้อยใช้หน้าผากของเขามาแนบชิดกับหน้าผากของผมเหมือนที่ชอบทำ บนดวงตาคมนั้นไม่มีม่านน้ำใสหลงเหลืออยู่เลยเช่นเดียวกับผมที่มีเพียงแต่คราบน้ำตา นิ้วเรียวของกงชานเกลี่ยแก้มผมไปมา ก่อนจะประทับจูบเบาๆลงมาที่ริมฝีปากผมอีกครั้งแค่ครู่หนึ่งก็ละออก

     


    "ผมให้พี่แทนที่เขาอยู่แล้วครับ"

     

     

    "เพียงแต่ว่าเขายังไม่หายไปจากในใจของผม"

     

     
     

    "ผมขอเวลาหน่อยนะ.."

     

     

     

     

    "อื้อ" ผมตอบพลางยิ้มบางๆให้ ยังไงผมก็ต้องเข้าใจและให้เวลากับเขา แต่ถึงยังไงผมก็ไม่อยากให้กงชานต้องมาร้องไห้แบบนี้

     

     


     

     

    "ยังไง...คนที่ผมรัก ก็คือพี่นะ.. พี่จินยอง"

     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×