คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Y o u r M i n i s t r a n t - CHAPTER 13 -
"พี่จินยองครับ ผมจะนับหนึ่งถึงสามนะถ้าพี่ไม่ออกมาผมจะ .."
"เสร็จแล้วๆๆ"
เสียงร่างบางตะโกนออกมาจากห้องนอนก่อนจะตามด้วยประตูห้องที่ถูกกระชากออกตามแรงของคนตัวเล็กที่ดูรีบร้อนเพราะโดดกงชานเร่งมาซักพักแล้ว
"นี่ชุดอะไรของพี่เนี่ย"
"ทำไม น่าเกลียดหรือไง -__-"
"เปล่าๆๆ ผมจะบอกว่ามัน.." กงชานหยุดพูดไปก่อนจะยิ้มบางๆออกมา "มันน่ารักดี"
กงชานยืนมองร่างบางที่อยู่ในชุดฮู้ดยาวสีแดงเข้มที่ยาวลงมาถึงเหนือหัวเข่า ขาเล็กถูกสวมด้วยกางเกงเดฟสีขาวรับเข้าพอดีกับขาเรียวเล็ก ส่วนบริเวณใบหน้าถูกปิดด้วยผ้าปิดปากสีดำเผื่ออำพรางใบหน้าจากพวกปาปารัซซี่ที่วนเวียนอยู่แถวๆนี้ จึงจำเป็นต้องแต่งตัวมิดชิดซักหน่อย
"ไม่ต้องหยอดเลย"
"ผมเปล่าหยอดนะครับ" ว่าแล้วก็เข้าไปกอดเข้าที่เอวบางของคนตัวเล็กกว่าทันที "พี่เหมาะกับสีแดงนะ"
จริงๆก็เคยมีคนชมเขามาบ้างเหมือนกันว่าเขาเป็นคนที่เหมาะกับสีแดงมากๆ แต่ใครชมมันก็ไม่เขินเท่าร่างสูงตรงหน้านี้เลยแหะ -////-
"จะไปกันได้ยัง"
จินยองพูดเสียงอู้อี้เพราะใส่ผ้าปิดปากอยู่ กงชานเลยยอมคลายกอดออกแล้วพาจินยองออกไปทันที เมื่อเดินออกมาถึงหน้าคอนโดแล้ว มือบางเลยยกขึ้นดึงฮู้ดลงมาปิดเกือบครึ่งหน้า ก่อนที่มืออีกข้างจะโดนอีกฝ่ายคว้าไปจับหน้าตาเฉย
"เออเกือบลืม"
"ครับ?"
"เราไม่ได้นั่งรถไปหรือไง" คนน่ารักเงยหน้าถามคนตัวสูงที่ได้ยินคำถามแล้วยิ้มกว้างเป็นคำตอบให้แทน
"ผมอยากเดินจับมือพี่" ว่าแล้วก็จับมือจินยองให้แน่นขึ้นกว่าเดิม ก่อนจะชูขึ้นมาให้อีกฝ่ายเห็นว่าตัวเขาอยากจับมือจริงๆนะ
คนตัวเล็กไม่ตอบอะไรเอาแต่ก้มหน้างุดด้วยความเขิน ปกติเขาไม่ชอบเดินเท้าไปเที่ยวที่ไหนหรอก เพราะมันเสียเวลา สู้นั่งรถสบายๆแอร์เย็นๆดีกว่าเป็นไหนๆ แต่ถ้าเดินไปแล้วจับมือคนที่เรารักไปแบบนี้ เสียเวลาขนาดไหนก็ยอมแหละนะ ~
ไม่มีอะไรสุขใจไปกว่าการที่ได้เดินกุมมือกับคนที่เรารักอีกแล้ว ถึงอากาศตอนกลางคืนจะเย็นลงไปบ้าง แต่การที่ได้กุมมือกันไปแบบนี้กลับไม่รู้สึกเย็นเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกอบอุ่นในหัวใจอย่างแปลกประหลาด แทบไม่อยากจะปล่อยมือกันไปไหนเลยแม้แต่นาทีเดียว นิ้วมือทั้งห้าของทั้งสองสอดประสานกันไว้แน่นเปรียบเสมือนหัวใจของทั้งสองที่ผูกกันไว้ ขาทั้งสองคู่ก้าวเดินไปตามทางที่เงียบสงัดของยามค่ำคืน เพราะเป็นเขตของที่อยู่อาศัย จะมีก็เพียงแต่เสียงพูดคุยของทั้งสองที่เดินจับมือคุยกันไปเรื่อยเปื่อยตามทางเท่านั้น และ เสียงหัวใจของทั้งสองที่ต่างก็รับรู้ถึงกันและกัน
เมื่อเดินลัดเลาะตามทางมาซักพักก็สังเกตุได้ถึงแสงไฟหลากสีสันที่ส่องสว่างมาจากสถานที่แห่งหนึ่งที่พึ่งเปิดตัวเมื่อไม่นานมานี้ ถนนคนเดินที่มีทั้งร้านค้าเป็นล็อคๆเรียงรายอยู่สองข้างทาง บ้างก็เป็นแค่ร้านเล็กๆที่เอามาตั้งและเก็บได้ บ้างก็เป็นร้านใหญ่ๆที่เป็นร้านตั้งถาวร ซึ่งจะแบ่งเป็นโซนๆไป มีทั้งโซนร้านอาหาร ขนมของหวาน คาเฟ่ และร้านกิ๊ฟช็อปต่างๆมากมายรวมอยู่ในที่แห่งนี้ ส่วนเวลาก็จะเปิดตั้งแต่เวลาห้าโมงเย็นไปจนถึงช่วงตีสอง เป็นสถานที่เที่ยวกลางคืนที่เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัย เหมาะที่จะมากับครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือคนรัก ที่จะพามาเดทเหมือนคู่ของเขาเป็นต้น
"ในโซลมีที่แบบนี้ด้วยหรอ" จินยองถามเสียงตื่นเต้นราวกับเด็กน้อยที่ได้ของเล่นชิ้นใหม่ กงชานไม่ได้ตอบในทันทีแต่เดินจูงมือเล็กเดินเข้าไปในส่วนของโซนร้านอาหาร
"มันพึ่งมาเปิดครับ ผมก็พึ่งเห็นเหมือนกัน เลยพาพี่มา"
"ฉัน...ชอบมันนะ(.////.)"ร่างบางตอบแล้วก้มหน้ามองพื้น อดไม่ได้ที่กงชานจะเชยคางมนขึ้นมาให้สบตากับเขา
"มองหน้าผมมั่งสิครับ~" กงชานพูดเสียงอ่อยเพราะเห็นว่าคนสวยนี่เอาแต่ก้มหน้าทุกทีที่จินยองเขิน ก็เขาอยากเห็นหน้าหวานๆนี่เวลาเขินนี่นา
“พี่หิวอะไรหรือเปล่า” กงชานถามเสียงทุ้ม คนตัวเล็กเงยหน้าขึ้นมาแล้วมองไปรอบๆที่มีแต่ร้านอาหารและร้านขนมหวานอยู่รอบๆตัว ที่แตกต่างชนิดกันไป ก่อนที่สายตาจะไปหยุดอยู่ที่ร้านคาเฟ่เค้กร้านนึง
“เค้ก”
“หืม ?”
“ฉันอยากกินเค้ก -0-“
“พี่จะไม่กินข้าว ?” กงชานถามทวนร่างบางตรงหน้า ซึ่งคำตอบที่ได้กลับมาคือการส่ายหัวเบาๆไปมาเป็นเชิงตอบ
“อยากกินเค้ก” จินยองตอบด้วยน้ำเสียงกึ่งเอาแต่ใจเล็กๆ มือหนาเอื้อมมือขึ้นมาจับหัวเล็กเบาๆแล้วจับโยกไปมา
“ย่าห์ ! ฉันอายุมากกว่านายนะ”
“ก็เพราะไม่กินข้าวไงถึงตัวเล็กแบบนี้”
“เป็นพ่อฉันหรือไง - ^ -“ จินยองตอบพลางยู่ปากเล็กๆใส่คนตรงหน้า ก่อนจะเดินนำหน้าไปยังคาเฟ่เค้กร้านนั้น ถึงจะห้ามยังไงก็คงไม่ทันแล้วสินะ -__-
กงชานเดินตามจินยองมาถึงร้านคาเฟ่เค้กที่ตกแต่งเหมือนร้านทั่วๆไป ที่มีทั้งที่นั่งแบบเอ้าท์ดอร์และที่นั่งข้างในร้าน ภายในตกแต่งเป็นแนววินเทจน่ารักๆตามสไตล์ร้านของหวาน ตู้กระจกขนาดใหญ่ตั้งอยู่ตรงเค้าท์เตอร์สีหวานของร้าน ภายในมีเค้กชนิดต่างๆอยู่มากมายหลากหลายชนิด ซึ่งใครเห็นก็อดไม่ได้ที่จะลิ้มลองความหวานอร่อยของมัน จองจินยองเดินไปหยุดที่หน้าตู้เค้กทันทีที่ผลักประตูเข้ามา จนกงชานหลุดหัวเราะให้กับนิสัยที่แอบติดเด็กๆของเขา ร่างสูงสาวเท้าเดินตามมาก่อนที่จะหยุดอยู่ข้างหลังจินยองที่ยืนเลือกเค้กอยู่
“สนใจชิ้นไหนบอกได้เลยนะคะ^^” พนักงานหน้าตาน่ารักเอ่ยขึ้นหลังจากเห็นจองจินยองยืนเลือกอยู่นาน เหมือนจะคิดไม่ตกว่าจะเอาชิ้นไหนดี เพราะดูแล้วมันก็น่ากินไปหมดเลยนี่นา T _ T
“เลือกไม่ถูกหรอครับ” กงชานโน้มหน้าเข้าไปถามจินยองที่ยืนเลือกเค้กอยู่ แต่เหมือนก็ยังคิดไม่ตกอยู่ดีว่าจะเลือกชิ้นไหนดี เลยหันมาถามคนตัวสูงที่ยืนอยู่ข้างๆ
“น่ากินไปหมดเลย..”
“ขอโทษนะคะ คือทางเรามีโปรโมชั่น Sweet Lover สำหรับคนที่มากันเป็นคู่ค่ะ ถ้ามากันสองคน สามารถเลือกเซตนี้ได้นะคะ โดยในเซตจะมีเค้กอยู่สี่ชิ้น และเครื่องดื่มให้ค่ะ โดยทั้งเค้กและเครื่องดื่มสามารถเปลี่ยนได้นะคะว่าอยากได้แบบไหน ซึ่งถ้าซื้อเซตนี้จะราคาถูกกว่าซื้อแยกนะคะ^^” พนักงานสาวน้อยน่ารักกล่าวสารยายอย่างยืดยาว จินยองที่ยืนฟังอยู่พยักหน้าหงึกหงักตามและดูเหมือนจะสนใจข้อเสนอของพนักงานด้วยเลยหันไปถามความคิดเห็นของกงชานอีกครั้ง
“นายว่าไง”
“เขาพูดเหมือนเห็นเราเป็นคู่รักเลย”
“แล้วมันไม่ใช่หรือยังไงล่ะ!” จินยองหันไปเหวใสหนึ่งทีก่อนจะหันมาสั่งเค้กที่เลือกไว้ในหัวอยู่นานสองนาน
“ขอ Strawberry fresh cream cake กับ VERY VERY Chocolate cake แล้วกัน เครื่องดื่มขอเป็น Iced Vanilla Matcha Green Tea Latte ” จินยองสั่งชื่อเมนูที่ยืดยาวเป็นหางว่าวแล้วหันมาหากงชานที่ยืนมองนกมองไม้อยู่ภายในร้าน ไม่ได้สนใจเขาเลย – w –
“นี่ ถ้ามาแล้วไม่สนใจก็กลับบ้านไป” จินยองพูดจิกกัดจนกงชานหันมายิ้มแห้งๆใส่ ก่อนจะบีบไหล่เล็กเบาๆเป็นเชิงง้อ
“จะสั่งอะไรก็สั่งสิไอ้ลูกหมานี่”
“อืมมมม” กงชานก้มหน้าลงเลือกเค้กในตู้ ซักพักก็เงยหน้าขึ้นมาสั่งออร์เดอร์กับพนักงานสาวคนเดิม “ขอOreo blueberry cheese cake ครับ แล้วก็ .... Cashew nut brownie เครื่องดื่มขอเป็นน้ำแตงโมปั่นแล้วกันฮะ” ร่างสูงสั่งออร์เดอร์ที่อยากกินแก่พนักงานสาวแล้วเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มหล่อๆให้ทีนึงจนเธอแทบจะม้วนลงไปใต้เค้าท์เตอร์ จนจินยองที่ยืนมองอยู่เงียบๆต้องหันหน้าหนีไปอีกทาง
“ขอทวนออร์เดอร์นะคะ -///////////- รับเป็นเซต Sweet Lover นะคะ มี Strawberry fresh cream cake , VERY VERY Chocolate cake, Oreo blueberry cheese cake แล้วก็ Cashew nut brownie นะคะ ส่วนเครื่องดื่มรับเป็น Vanilla Matcha Green Tea Latte กับน้ำแตงโมปั่นนะคะ” พนักงานสาวพูดทวนด้วยเสียงเจื้อยแจ้วตามออร์เดอร์ที่ปรากฏขึ้นอยู่บนจอแคชเชียร์ของทางร้านแล้วเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มบางๆให้ร่างสูงหนึ่งที ส่วนจินยอง ..
= ____ =
“ทั้งหมดหนึ่งหมื่นวอนค่ะ^^”เธอกล่าวอย่างยิ้มแย้มอีกครั้ง กงชานจึงล้วงหยิบกระเป๋าสตางค์ขึ้นมาแล้วหยิบแบงค์หมื่นวอนส่งให้พนักงาน
“นั่งรอที่โต๊ะได้เลยค่ะ เดี๋ยวทางเราจะเอาไปเสิร์ฟให้” สิ้นเสียงของพนักงาน คนตัวเล็กจึงรีบปลิกตัวไปจากตรงนี้แล้วเดินหาโต๊ะนั่ง กงชานมองตามร่างบางที่เดินไปนั่งตรงโต๊ะมุมอับของร้านที่ไม่ค่อยมีคนพลุพล่าน ก่อนจะหันมารับใบเสร็จจากพนักงาน
“เอ่อ .... ดูท่าว่าแฟนคุณจะงอนนะคะ”
“ครับ ? คุณดูออกได้ยังไง”
“ก็ผู้หญิงด้วยกัน ทำไมจะดูไม่ออกล่ะคะ”
ถ้าไม่ติดว่าเกรงใจสถานที่นี่เขาคงขำลั่นร้านไปแล้ว ให้ตายเถอะ ขนาดพนักงานยังเข้าใจผิดคิดว่าจินยองเป็นผู้หญิงเลย ถึงว่าทำไมเสนอเซต Sweet Lover อะไรนั่นให้ เพราะคงเห็นว่าเป็นคู่รักชายหญิงทั่วๆไปนั่นแหละ โอยเขาอยากจะขำจริงๆ แต่ก็นะ ปิดหน้าจนเหลือแค่ตาตี่ๆเรียวๆโผล่ออกมาแบบนั้น แถมยังตัวเล็กๆบางๆอีก ใครๆก็นึกว่าเป็นผู้หญิงกันทั้งนั้นแหละ จะว่าไปเดินเข้าร้านมาก็ไม่เห็นมีใครจำจินยองได้เลยแฮะ ...ก็ดีเหมือนกันจะได้ไม่วุ่นวาย
กงชานส่งยิ้มแห้งๆให้พนักงานทั้งๆที่กลั้นขำแทบตายก่อนจะปลีกตัวออกมา ร่างสูงสาวเท้าเดินมาถึงโต๊ะที่จินยองนั่งอยู่ก่อนหน้านี้ก่อนจะนั่งลงฝั่งตรงข้าม ถึงจะเป็นมุมอับแต่ก็ติดกับกระจกใสของร้าน ทำให้เห็นบรรยากาศและแสงสีด้านนอกได้เป็นอย่างดี ตาเรียวของจินยองเหม่อมองออกไปด้านนอกของร้าน ไม่ยอมหันมามองเขาเลย คงจะจริงอย่างที่เธอว่าสินะ
‘เอ่อ .... ดูท่าว่าแฟนคุณจะงอนนะคะ’
แล้วถ้าจินยองงอนเขาจริงๆ .... จะงอนเรื่องอะไรล่ะ ? ตัวเขาเองก็ยังไม่ได้ทำอะไรเสียๆหายๆเลยนี่หว่า จะงอนเรื่องอะไรกัน ... หรือเขาทำแต่ไม่รู้ตัววะ - - กงชานที่เงอะๆงะๆทำอะไรไม่ถูกว่าจะพูดอะไรยังไงออกไปดีเลยได้แต่นั่งเงียบๆ จนพนักงานสาวอีกคนเอาเค้กมาเสิร์ฟให้ก่อนจะเดินจากไป จินยองหันหน้ากลับมาที่เดิม เขาสบตากับกงชานแว๊บนึงก่อนจะก้มลงตักเค้กเข้าปากในส่วนของตัวเอง กงชานก็เช่นกัน ....
โอ้ย
อึดอัดโว้ยยยยยยย
“พี่จินยอง” กงชานวางช้อนส้อมลงแล้วจ้องมองร่างเล็กตรงหน้าที่ก้มหน้ากินเค้กแบบเนือยๆเหมือนคนไร้อารมณ์
“อะไร” คนตัวเล็กตอบเสียงเรียบแต่ก็ไม่ยอมเงยหน้าขึ้นมาคุยกับเขาอยู่ดี
“โกรธอะไรผมหรือเปล่า”
“เปล่า”
เขาโครตไม่ชอบเลยไอ้คำว่าเปล่าเนี่ย
ตัวดีเลยล่ะ L
“งอนผมหรอ” กงชานโพล่งถามออกไปจนจินยองที่กำลังจะใช้ส้อมตัดเค้กต้องชะงักมือ ก่อนจะตัดเค้กแล้วจิ้มมันเอาเข้าปากต่อ ทำเหมือนคนตรงหน้าเป็นลมเป็นอากาศ
“ผมไม่รู้นะว่าผมทำอะไรผิดหรือเปล่า แต่ ...”
“ผมขอโทษ” คำขอโทษที่ออกมาจากปากของกงชานทำให้คนหน้าสวยยอมเงยหน้าขึ้นมามองเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย มือบางวางช้อนส้อมลงแล้วพูดกับคนตรงหน้า
“ใช่ ฉันโกรธนาย”
“ถ้านายไม่อยากมากินเค้กกับฉัน นายก็บอกดิ ทำเหมือนไม่เต็มใจมาอย่างงั้นแหละ” จินยองพูดเสียงแผ่วก่อนจะยู่ปาก ก้มหน้าลงมองพื้น (อีกแล้ว) ที่แท้ก็งอนเขาเรื่องนี้เองหรอกหรอ
“แค่เนี้ยะ ?”
“เออ L” จินยองทำหน้าบึ้งใส่
“ประจำเดือนพี่มาไม่ปกติอีกแล้ว” กงชานพูดติดตลกก่อนจะเอื้อมมือขึ้นไปบีบแก้มตอบๆของคนตัวเล็ก มือบางพยามจะปัดออกแต่กงชานก็ละมือจากแก้มใสนั่นออกมาก่อน
“หายงอนนะครับ นะ”
“ไม่ได้งอน=__=”
“นะครับนะนะนะนะนะ”
“นายคุยอะไรกับพนักงานคนนั้นบ้าง ?” จินยองเปลี่ยนเรื่องพูดแล้วมองหน้ากงชานนิ่ง คนตัวสูงที่กำลังทำท่าน่ารักๆอ้อนใส่ถึงกับงงเป็นไก่ตาแตก
“ชอบล่ะสิน่ารักๆสวยๆแบบนั้นน่ะ L”
อะ....อะไรวะเนี่ย = =;
นี่เขากำลังคุยภาษาเดียวกับจินยองอยู่หรือเปล่า ...
“พี่หมายถึงอะไรเนี่ย”
“ช่างเถอะ เด็กอย่างนายไม่เข้าใจหรอก”
"หึงผมหรอ"
"......."
"อ่า พี่หึงผมจริงๆด้วย" ร่างสูงพูดพึมพัมก่อนจะเอื้อมไปกุมมือคนตัวเล็ก ตาเรียวมองกงชานอย่างเรียบเฉยเหมือนเดิม
"เออ หึง อย่าไปยิ้มแบบนั้นให้ใครอีกนะ ..."
"ครับๆเข้าใจแล้วครับคุณ ฮ่าๆ "กงชานพูดเสียงล้อเลียนก่อนจะหลุดขำออกมาเบาๆ มือหนาปล่อยมือของอีกฝ่ายให้เป็นอิสระ แล้วหยิบแก้วน้ำแตงโมขึ้นดื่มแก้กระหาย จินยองถลึงตาตี่ๆใส่ให้คนตรงหน้า ก่อนจะหยิบส้อมแล้วตักเค้กที่เหลือกินตามเดิม
"อ่ะ" เค้กโอรีโอ้บลูเบอร์รี่ชิ้นขนาดพอดีคำทุกยื่นมาตรงหน้าโดยกงชานชิคที่รอป้อนเค้กเขาอยู่ จินยองที่ไม่ได้ทันตั้งตัวทำหน้ามึนๆส่งไปเป็นคำตอบทำนองว่าอะไรหรอ -0-
"กินสิครับ ผมอุตส่าห์ป้อนนะ"
"อะ..อือ"
ปากเรียวบางเผยอขึ้นเล็กน้อยให้พอดีกับชิ้นเค้ก ริมฝีปากงับลงที่ปลายส้อมที่มีเค้กโอรีโอบลูเบอร์รี่ชิ้นขนาดพอดีคำวางอยู่ก่อนจะกวาดมันเข้าไปในปาก ดวงตาเรียวเล็กหลับพริ้มเพื่อดื่มด่ำกับความอร่อยของมัน ความเปรี้ยวของผลไม้ตระกูลเบอร์รี่บวกกับความหวานนุ่มละมุนของเนื้อเค้กแถมกลิ่นหอมๆของโอรีโอ้แผ่ซานไปทั่วปากหวานๆของคนตัวเล็ก จนต้องลืมตาขึ้นมาแล้วขอคนตรงหน้าอีกครั้งหนึ่ง
"อีกคำสิ"
"ครับ ?"
"อร่อย ขอกินอีกคำ" จินยองว่าพลางอ้าปากรอให้ร่างสูงป้อนเค้กชิ้นนั้นให้เขา ถึงจองจินยองจะโตกว่าเขาถึงสองปี แต่นิสัยยังเหมือนเด็กน้อยเอาแต่ใจคนนึงที่โดนขัดใจนิดหน่อยก็ไม่พอใจร้องไห้งอแง ที่เห็นที่ไรมันก็หงุดหงิด แต่ยกเว้นจินยองไว้คนนึงแล้วกันนะ ..
Gongchan part
ผมเดินจูงมือเล็กๆออกมาจากร้านคาเฟ่เค้กร้านนั้นหลังจากที่เรานั่งคุยนั่งกินอยู่ประมาณร่วมๆชั่วโมง ผมจึงตัดสินใจชวนคนตัวเล็กๆข้างๆผมนี่ออกมาเดินเล่นต่อข้างนอกซึ่งตอนนี้ผู้คนเริ่มคึกคักมากกว่าตอนที่พวกเรามาถึงตอนแรกๆอยู่พอสมควร นักท่องราตรีบางคนต่างพากันลองเปลี่ยนบรรยากาศ บ้างก็เปลี่ยนจากดื่มเหล้าดื่มเบียร์ตามผับตามบาร์ มานั่งกินนมแทน เพลงจังหวะสนุกๆที่เปิดตามร้านต่างๆรวมถึงแสงสีสันยามค่ำคืนสร้างความสนุกให้กับผู้คนที่มาในที่แห่งนี้ไม่น้อย
ผมสอดประสานจับมือของพี่จินยองแน่นเพราะกลัวจะหลงกัน แต่มันคงจะแน่นไปจนคนตัวเล็กนี่บอกว่าเจ็บจนกระดูกจะแตกอยู่แล้ว -___- ผมเลยเปลี่ยนมาจับมือแบบธรรมดาแทน ผมทั้งสองคนเดินดูนั่นดูนี่ตามทางเดินที่มีแต่ร้านกิ๊ฟช็อปหลากหลายชนิดมากมายที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อเพ้นท์ กางเกงสวยๆ แล้วก็พวกเอสเซสเซอร์รี่ต่างๆที่จะเป็นงานแฮนด์เมดเกือบทั้งหมด
มือบางของพี่จินยองดึงฮู้ดลงให้ปิดหน้าสวยๆนั่นมากกว่าเดิม เพราะผู้คนเริ่มเยอะ เลยกลัวว่าจะมีใครจำได้ว่าคนที่เดินอยู่นี่เป็นนักร้องดังที่ใครๆก็รู้จัก บางทีผมว่าเขาก็คงอยากเป็นคนธรรมดาเดินดินทั่วไปที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในชีวิตบ้างนั่นแหละ
พี่จินยองออกแรงดึงผมไปอีกทาง ผมเดินตามแรงของอีกฝ่ายมาจนมาหยุดอยู่หน้าร้านไอศครีมขนาดเล็กที่ตั้งอยู่ในส่วนของโซนกิ๊ฟช็อป จริงๆผมก็เดินผ่านเห็นหลายร้านนะ แต่ทำไมไม่เห็นคนตัวเล็กนี่ลากไปกินเลย
"อยากกินหรอครับ" ผมโน้มหน้าไปถามคนตัวเล็ก ที่ยืนมองป้ายเมนูด้วยสายตาวิ้งวับเหมือนตอนเลือกเค้กไม่มีผิด พี่จินยองไม่ตอบผมแต่พยักหน้ามาให้เป็นคำตอบแทน ก่อนจะสั่งกับพนักงานโดยที่ปากของเขาก็ยังใส่ผ้าปิดปากอยู่ตั้งแต่ออกมาจากร้านเค้กนั่นแหละ
"นายไม่กิน ?" พี่จินยองหันมาถามผมหลังจากที่รับโคนไอศครีมสีหวานมา ผมส่ายหน้าเป็นคำตอบก่อนจะยิ้มให้ มือเล็กดึงผ้าปิดปากลงมาเพื่อที่จะได้ลิ้มลองความหวานอร่อยของไอศรีมเย็นๆโคนนี้ แต่ผมก็จับข้อมือข้างนั้นไว้ได้ทัน
"อะไร?" พี่จินยองถามผมอย่างสงสัย
"พี่จะเดินเปิดหน้าไปกินไอติมไปแบบนี้หรอครับ มีหวังโดนรุมพอดี" ผมโน้มหน้าไปกระซิบข้างหูพี่จินยอง และดูเหมือนเขาจะนึกได้เลยเงยหน้าขึ้นมามองผมพลางส่งสายตาปริบๆมาให้ อ่า น่ารัก -////-
"ทำไงดี ไม่ได้เอาแว่นมา"
อ้อใช่
แว่น !
ผมหันซ้ายหันขวามองหาร้านแว่นแถวๆนี้ มันไม่น่าจะหายากซักเท่าไหร่นะเพราะผมเดินๆมาก็เห็นร้านแว่นอยู่หลายร้านอยู่ ผมใช้สายตาอันเฉียบคมของผมมองหาร้านแว่นใกล้ๆแถวๆนี้ ก่อนที่สายตาจะไปหยุดอยู่ที่ร้านขายแว่นแฟนซีร้านหนึ่งที่อยู่ถัดไปจากตรงนี้ประมาณสองสามร้าน
"พี่รออยู่ตรงนี้ก่อนนะครับ อย่าเอาผ้าปิดปากลงนะ" ผมรีบบอกพี่จินยองก่อนจะรีบปลีกตัวออกมายังร้านแว่นที่ว่านั่นทันที
สองเท้าของผมมาหยุดอยู่ที่หน้าร้านที่มีแว่นกันแดดลายแฟนซีหลากหลายแบบวางอยู่เป็นซะส่วนใหญ่ ผมไล่สายตาเลือกลายแว่นที่ดูน่าจะเหมาะกับพี่จินยองก่อนที่จะหยิบแว่นกัดแดดกรอบเป็นรูปคิตตี้แมวผีสีชมพูดขึ้นมา
"เอ่อ ขอโทษนะครับ มีแบบนี้แต่เป็นสีแดงมั้ย" ผมชูแว่นถามพนักงานขาย
"อืมม น่าจะหมดแล้วนะคะ เหลือแต่สีที่วางอยู่น่ะค่ะ^^;" เธอตอบก่อนจะยิ้มแห้งๆให้ ใจจริงผมอยากได้สีแดงแฮะ แต่ไม่เป็นไร สีชมพูนี่ก็ได้ ผมจะโดนตบกลับมามั้ยเนี่ย สีมันตุ๊ดมากเลยอ่ะ ถถถถถ
ผมจ่ายเงินให้เธอคนนั้นก่อนจะรีบสาวเท้าเดินมาหาพี่จินยองที่ยังยืนรอผมอยู่ตรงที่เดิม แว่นกรอบคิตตี้สีชมพูแปร๋นถูกยืนไปตรงหน้าคนตัวเล็ก พี่เขาทำหน้าเหวอๆทันทีที่เห็นมันแล้วเงยหน้าขึ้นมามองผม
"นี่นายชอบรสนิยมเห่ยๆแบบนี้หรือไง -__-"
"ทำไมอะ ผมว่าคิตตี้แมวผีนี่มันก็เหมาะกับพี่ดีนะ"
"นี่หลอกด่ากันเรอะ-__-!!!"
"ใส่ๆไปเถอะครับ"
ผมไม่พูดเปล่าพลางกางขาแว่นออกก่อนจะหันมันเข้าหน้าเล็กๆของพี่จินยอง ขาแว่นทั้งสองข้างค่อยๆวางลงบนใบหูของร่างบางก่อนที่ผมจะขยับแว่นนั้นให้เข้าที่เข้าทาง ผมใส่แว่นให้พี่จินยองเสร็จแล้วจึงค่อยๆเอื้อมมือเข้าไปในส่วนของฮู้ดที่คลุมหัวพี่เขาอยู่ ก่อนที่จะค่อยๆดึงสายของผ้าปิดปากสีขาวที่เกี่ยวอยู่บริเวณหลังหูของพี่จินยองออกทั้งสองข้าง คนตัวเล็กกว่าเงยหน้าขึ้นมามองผมก่อนที่รอยยิ้มบางๆนั่นจะปรากฏขึ้นบนใบหน้า เล่นเอาผมใจสั่นอย่างรุนแรงเลยแหละ (.///.)
"ที่นี้ก็กินได้แล้ว" ผมบอกร่างบางที่ไม่มีผ้าปิดปากอยู่บนใบหน้าแล้วเพราะมันอยู่ในมือผม มีแต่แว่นกันแดดลายคิตตี้สีชมพูแทน ดูสิครับ เหมือนลูกแมวเลย -///////-
"ค่อยๆกินสิฮะ ผมไม่แย่งหรอกน่า" ผมมองคนตัวเล็กที่กินไอศครีมอย่างรีบร้อนราวกับว่าจะมีเด็กที่ไหนวิ่งมาแย่งอย่างนั้นแหละ นั่น เลอะปากหมดแล้ว
"พี่ครับ-___-"
"อะไอ"
"เลอะ ...." ผมไม่ได้บอกว่าเลอะตรงไหน แต่ชี้ไปที่กลีบปากด้านบนของตัวเองแทน มือบางยกขึ้นจะเช็ดคราบไอศครีมออก แต่ผมจับข้อมือนั่นไว้ได้ก่อน
"อ๊ะ .."
ร่างบางตรงหน้าผมดูตกใจเล็กน้อยที่ผมจับข้อมือเล็กเข้าไว้โดยที่ไม่ทันตั้งตัวเลยตกใจเบาๆ ผมดึงข้อมือเขาให้ตัวเล็กขยับมาใกล้ๆ ก่อนจะประทับริมฝีปากของผมลงไปบนกลีบปากสีหวานที่เลอะไอศรีมรสวนิลาที่พี่เขาสั่งมาอย่างช้าๆ ลิ้นร้อนๆของผมไล่ไปตามริมฝีปากบนของพี่จินยองเพื่อเช็ดเอาไอศครีมที่เลอะอยู่บนปากของพี่เขาออก รสหวานหอมของวนิลาแทรกผ่านริมฝีปากของผมจนเผลอกดจูบหนักๆลงไปครั้งหนึ่ง ก่อนที่จะค่อยๆละออกมาอย่างอ้อยอิง
"ไม่เลอะแล้วครับ" ผมยิ้มให้พี่จินยองที่ยังยืนทำหน้าอึนอยู่ภายใต้แว่นลายคิตตี้อยู่นานสองนาน ก่อนที่จะก้มหน้าลงกินไอศครีมตามปกติ
"ไอ้เด็กเจ้าเล่ห์" เสียงของพี่จินยองบ่นพึมพัมขึ้นมาเบาๆในขณะที่ผมกับพี่จินยองเดินจับมือกันมาตามทางเรื่อยๆ เสียงเพลงจากตามร้านต่างๆมันดังจนผมไม่รู้ส่าพี่เขาพูดว่าอะไร
"ครับ ? อะไรนะ ? "
"เจ้าเล่ห์ นายมันเจ้าเล่ห์ กงชานชิค!" พี่จินยองกระแทกเสียงใส่ผม ถึงจะพูดอย่างนั้นก็เถอะ แต่พี่เขาไม่รู้ตัวหรอกมั้งครับว่าเขากำลังกลั้นยิ้มอยู่ขนาดไหน
"เอ่อขอโทษนะครับ" ผมกับพี่จินยองเดินมาเรื่อยๆจู่ๆก็มีผู้ชายร่างสูงโปร่งคนนึงเดินมาหยุดตรงหน้าพวกเราสองคน ในมือถือกล้องถ่ายรูปที่ช่างภาพชอบใช้ไว้หนึ่งตัว
"ผมเป็นช่างกล้องของที่นี่ครับ พอดีที่นี่พึ่งเปิดตัวได้ไม่นาน เลยอยากได้ภาพผู้คนที่มาเที่ยวที่นี่ไปลงที่หน้าเว็บน่ะครับ^^" เขาพูดบรรยายยืดยาว ก่อนจะยกบัตรเจ้าหน้าที่ของที่แห่งนี้ขึ้นมาชูให้เราสองคนดูเพื่อเป็นหลักฐานว่าเขาเป็นช่างกล้องของที่นี่จริงๆ
"ตอนนี้ผมกำลังหาคู่รักมาถ่ายรูปอยู่ ไม่ทราบว่า.. คุณสองคนพอจะสะดวกมั้ยครับ?"เขาพูดถามผมกับพี่จินยองด้วยสีหน้ายิ้มแย้มดูเป็นมิตร ซึ่งมันคงจะดูไม่ดีถ้าปฏิเสธ แค่ถ่ายไปคงไม่มีอะไรหรอกมั้ง
"ถ้าไม่สะดวกไม่เป็นไรนะครับ ผมเห็นว่าพวกคุณน่ารักและเหมาะสมกันดี ผู้ชายก็หล่อ ผู้หญิงก็ตัวเล็กน่ารัก" ประโยคสุดท้ายของช่างกล้องอัธยาศัยดีคนนี้ทำเอาพี่จินยองที่ยืนอยู่ข้างๆผมเหวอไปเลย ....
ผู้หญิงก็ตัวเล็กน่ารัก
5555555555555555555555555555555555555555555555
"อ้อไม่ครับๆ ถ่ายเลยๆ"
"นะ...นี่!" เสียงพี่เขาหวีดดังขึ้นทันทีที่ผมตอบตกลง ถึงเขาจะไม่อยากถ่าย แต่ผมอยากถ่ายนี่นา ผมไม่ได้สนใจคำคัดค้านของพี่จินยอง เลยยกแขนตัวเองขึ้นโอบไหล่ของอีกฝ่าย ก่อนจะดันตัวเล็กๆนี่ให้เข้ามาใกล้ๆ ดูหน้ามุ่ยๆนั่นสิครับ
"ดูเหมือนแฟนคุณจะไม่อยากถ่ายนะครับ-0-"
"อ้อไม่หรอกครับ แฟนผมเป็นพวกซึนเดเระน่ะ ปากไม่ตรงกับใจ จริงมั้ยครับที่รัก J " ผมพูดกับช่างกล้องคนนั้นก่อนจะหันมาพูดกับพี่จินยองที่ทำหน้าหงุดหงิดอยู่ ปากบางๆแยกเขี้ยวใส่อย่างที่ชอบทำใส่ผม แต่ก็ยอมถ่ายด้วยแต่โดยดี
"พร้อมแล้วครับ" ผมพูดเป็นสัญญาณบอกกับตากล้อง ก่อนที่จะเปลี่ยนจากโอบไหล่เล็กๆเลื่อนลงมาเป็นโอบเอวของพี่จินยองแทน
"ผมจะถ่ายแล้วนะครับ 1..2...3.."
แชะ!
ฟอดดด !
-0- < ช่างกล้อง
= [ ] = !!!! < จินยอง
^___^ < กงชาน
ทันที่ที่ตากล้องนับถึงสาม ปลายจมูกของผมก็หันไปกดงบนแก้มใสอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะละออกมาหันไปยิ้มให้ช่างกล้องที่ทำหน้าเหวอๆไม่ต่างกับคนตัวเล็กข้างๆผมที่ดูจะสติหลุดไปแล้ว
และแน่นอนว่าภาพที่ได้ออกมาเป็นภาพที่ผมกำลังหอมแก้มเขาล่ะ J
"ตากล้องนั่นตาบอดหรือไงนะ -__- !! ฉันออกจะหล่อมาบอกฉันเป็นผู้หญิง โว๊ะ"
พี่จินยองบ่นกระปอดกระแปดมาตลอดทางโดยเฉพาะเรื่องที่โดนมองว่าเป็นสตรีเพศซักพักนึงแล้ว นี่พี่เขาไม่เคยส่องกระจกเลยหรือไงนะว่าตัวเองหน้าหวานและเหมือนผู้หญิงขนาดไหน ผู้ชายอะไร หน้าก็เรียวตาก็คมปากอมชมพูใส่จิวตุ้งติ้งแถมยังตัวบางอีกต่างหาก เด็กสาวมัธยมบางคนยังสู้ไม่ได้เลยบวมเป็นโอ่งของดีราชบุรี หน้าก็บานเป็นกระด้งจนจะเอาไปตากปลาแห้งได้อยู่แล้ว -___-
"ฉันเหมือนผู้หญิงตรงไหนวะกงชาน"
ไม่น่าถาม -___-
"ไม่"
"ไม่เหมือนผู้หญิง ?"
"ไม่เหมือนผู้ชาย -__-"
"อ้าวพูดแบบนี้ก็สวยสิ"
"พี่อะหรอครับ J "
ฉ่า
T/////////T
"ไม่คุยกับแกล่ะ" พี่จินยองทำหน้ามึนใส่ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องแล้วสาวเท้าเดินไปข้างหน้าโดยไม่รอผม ผมจึงรีบเร้งฝีเท้าเดินไปให้ทันคนตัวเล็ก เมื่อถึงตัวเลยยกแขนขึ้นโอบไหล่แล้วเดินไปด้วยกัน
"เฮ้ยหยุดๆ" พี่จินยองพูดเสียงดังก่อนจะชะงักฝีเท้าอยู่ที่หน้าร้านกิ๊ฟช็อปร้านนึง ร้านต่างหูและจิวเวอร์รี่ขนาดกลางตั้งอยู่ตรงข้างทางพอดี พี่จินยอลากผมไปหยุดอยู่ที่หน้าร้าน
"ฉันอยากได้จิวซักสองสามคู่ รอแป๊บนะ" พี่จินยองบอกให้ผมรออยู่ตรงนี้ก่อนที่เจ้าตัวจะจรลีหายเข้าไปในตัวร้าน ผมยืนมองคนตัวเล็กที่ยืนเลือกต่างหูอยู่สนอกสนใจอยู่ด้านในจนผมอดยิ้มไม่ได้
"อ๊ายย แกเห็นพี่ผู้ชายคนนั้นมั้ย"
"ไหนๆๆ"
"คนที่ยืนอยู่หน้าร้านจิวฯไงแก หล่อมากกอะ T v T"
"ไหนๆ กรี๊ดหล่อมากอะแกก โอ้ยมดลูกสั่นน อยากท้องง"
"แกนี่ !!! ดูพูดเข้า ว่าแต่พี่เขามีแฟนยังนะ"
"อยากรู้ก็เข้าไปถามสิ"
"เอ่อ...พี่คะ (.___.)" เสียงใสๆเสียงหนึ่งดังขึ้นอยู่ข้างๆผม เมื่อหันมาก็เจอกับเด็กวัยมัธยมสองสามคนยืนอยู่ข้างๆ ผมมองพวกเธออย่างงงๆก่อนที่จะเอ่ยถาม แต่เสียงของพวกเธอก็ขัดขึ้นเสียก่อน
"พ...พี่ชื่ออะไรหรอคะ (' ' )"
"เอ่อ .. กงชานครับ กงชานชิค" ผมถามพลางยิ้มๆแห้งๆให้พวกเธอ ให้ตายเถอะ ผมกำลังโดนเด็กมัธยมจีบอยู่ใช่มั้ยเนี่ย ผมพยายามไม่สนใจพวกเธอที่ยืนกรี๊ดกร๊าดดิ้นะล่านๆเหมือนไส้เดือนโดนน้ำร้อนลวกอยู่ข้างๆผม พลางชะเง้อมองหาคนตัวเล็กที่ยังอยู่ในร้าน กำลังรอพนักงานคิดเงินอยู่หน้าเค้าเตอร์
"พี่มีแฟนหรือยังคะ >//////<"
เด็กสาวคนหนึ่งในกลุ่มนั้นสะกิดแขนผมเบาๆแล้วถามพลางก้มหน้าเขิน จะว่าไปเธอคนนี้ดูน่ารักสุดในกลุ่มแล้วล่ะนะ เพื่อนๆเลยส่งเธอมาเป็นหน่วยกล้าตายเข้ามาหาผมหวังว่าจะให้ผมสนใจละมั้ง -__-;;; ผมไม่ได้ตอบเธอแต่หันหน้าไปมองคนตัวเล็กที่เดินออกมาจากร้าน
พี่จินยองเดินมาหยุดข้างๆผมก่อนจะปรายตามองเด็กสาวมัธยมกลุ่มนี้ด้วยความฉงน และเด็กมัธยมกลุ่มนั้นก็มองพี่จินยองด้วยสายตาแบบเดียวกัน ผมขำออกมาเบาๆก่อนจะยกแขนขึ้นโอบเอวบางๆของพี่จินยองแล้วลากให้มาแนบชิดกับลำตัวของผม แล้วหันไปพูดกับพวกเธอว่า
"ขอโทษนะครับ พี่มีแฟนแล้ว แล้ววันนี้เราก็มาเดทกัน ขอตัวนะ^^" ผมพูดบอกพวกเธอด้วยใบหน้ายิ้มแย้มก่อนจะเดินลากคนตัวเล็กออกมาจากตรงนั้น กลัวว่าพวกเธอจะจับได้ก่อนว่าคนที่พวกเธอเจอเมื่อกี้เป็นศิลปินชื่อดัง เดี๋ยวจะเป็นเรื่องซะเปล่าๆ
"สเน่ห์แรงจังนะ" พี่จินยองหันมาพูดกับผมอย่างเหน็บแนม
"ก็ผมหล่อนี่ครับ J”
"เหอะ -___-"
"พี่ว่าหล่อมั้ยล่ะ" ผมว่าพลางเอาหน้ายื่นไปใกล้ๆพี่จินยองจนปลายจมูกของเราชนกันเล็กน้อย ตาเรียวมองลอดแว่นมาที่ผมอย่างหวั่นๆ ผมจ้องลึกเข้าไปในดวงตาเล็กๆคู่นั้นจนพี่จินยองต้องเป็นฝ่ายหลบสายตาไปก่อน
"ทะ..ทำอะไรวะ คนเยอะแยะ อายเขาซะมั่งเถอะ"
"อายอะไรฮะ ที่นี่มีใครรู้จักเราหรอ"
"ฉันอยากจะฆ่านายจริงๆ!!" พี่จินยองกดเสียงต่ำๆพลางมองหน้าผมอย่างหาเรื่อง
"เอาเลยครับ เอาให้ตายคาเตียงเลย J "
ผัวะ!!
ฝ่ามือเล็กๆแต่แรงไม่เล็กเหมือนมือฟาดลงบนหัวของผมแรงๆ ก่อนที่มือบางนั่นจะจิกลงบนกลุ่มผมสีดำสนิทของผมแล้วกระชากเหวี่ยงไปมาราวกับเป็นคันโยก -__-
"โอ๊ยเจ็บๆๆ" ผมปล่อยมือออกจากเอวของพี่จินยองแล้วยกมันขึ้นกุมหัว ความปวดหนึบบนหนังศีรษะจากแรงจิกของร่างบางทำผมต้องหลุดปากร้องเสียงหลงด้วยความเจ็บ
"สมน้ำหน้า !! หื่นดีนัก" พี่จินยองว่าผมแล้วค่อยๆคลายมือออก แต่ก็มิวายผลักหัวผมแรงๆอีกสองทีจนแทบหลุดออกจากคอ ผมยกมือขึ้นกุมหนังหัวบริเวณที่โดนจิกเบาๆ ก่อนจะมองหน้าคนตัวเล็กที่ยืนยิ้มร่าราวกับเป็นผู้ชนะในเกม โอยโคตรเจ็บเลยอ่ะ T _ T
"ไม่ต้องมาทำหน้าสำออยเลย" พี่จินยองต่อว่าก่อนจะใช้ท่อนแขนเล็กๆนั่นเกี่ยวเข้ากับแขนของผมแล้วกอดไว้แน่น ผมมองหน้าพี่จินยองแว๊บนึงก่อนจะหยิบเอาแขนเล็กนั่นออกไปจากแขนผม แล้วเปลี่ยนมาสอดประสานมือผมกับมือของพี่จินยองไว้แทน
"ผมชอบจับมือมากกว่า"
"ทำไม ?"
"มันอุ่น ผมชอบ... พี่ว่ามันอุ่นมั้ยล่ะครับ"
"ก็ .. อุ่นดี (.___.)"
"ไปต่อกันเถอะครับ เรายังเดินไม่ทั่วเลย"
"อื้อ"
11.15 P.M
"พี่จินยอง ไปอาบน้ำก่อนสิครับ"
"ไม่เอาโว้ย ฉันจะนอน !!!" ผมตวาดลั่นใส่หน้ากงชานชิคที่ยืนจังก้าอยู่ปลายเตียงผม ก่อนจะดึงผ้าห่มสีขาวผืนหนาขึ้นมาคลุมตัวแล้วข่มตาหลับ โอยง่วงจะตายแล้วอาบพรุ่งนี้ก็ได้น้ำอ่ะ ห้องน้ำมันไม่เดินหนีไปไหนหรอก -__-!!
พรึ่บ
"เฮ้ย"
ผมสะดุ้งเฮือกหลังจากที่ผ้าห่มสีขาวที่ผมใช้คลุมอยู่ถูกกระชากออกไปจากตัวผมอย่างรุนแรงจนมันไปกองอยู่ที่ปลายเตียง ผมยันตัวลุกขึ้นนั่งและเตรียมที่จะโวยวายใส่ลูกหมาตัวนี้ต่อ แต่ดูว่าเหมือนจะช้าเกินไป เมื่อเขากระชากผ้าห่มออกไปแล้วจึงปีนขึ้นมาบนเตียงแล้วรีบเข้าชาร์จผมทันที T _ T
"ปล่อยยยย"
"ผมจะไม่ปล่อยจนกว่าพี่จะไปอาบน้ำ" ลูกหมาตัวโตขึ้นคร่อมตัวผมก่อนจะกดข้อมือผมไว้จนติดกับหัวเตียง ถึงผมจะนั่งอยู่ก็เถอะแต่สภาพแบบนี้มันล่อแหลมเกินไป ไม่ไหวอะไม่ไหว T////T กงชานใช้ตาคมมองลึกเข้ามาในดวงตาสั่นระริกของผมอย่างเจ้าเล่ห์ ผมรู้นะว่าในหัวมันคิดอะไรอยู่ !!
"หยุดคิดเรื่องบ้าๆนั่นในหัวเดี๋ยวนี้เลยนะเว้ย"
"หือ ? คิด ? ผมคิดอะไรงั้นหรอครับ" คนตัวสูงว่าอย่างมีเลศนัยแล้วเหยียดยิ้มขึ้นมุมปาก ผมเคยบอกแล้วใช่มั้ยว่าผมเกลียดรอยยิ้มแบบนี้มันทำผมใจสั่น !!! T_T
"ไม่ต้องมาแกล้งโง่เลย!"ผมพูดพลางสะบัดข้อมือที่พูกพันธนาของคนร่างสูงตรงหน้าแต่ก็ไม่เป็นผล เพราะดูเหมือนแรงของกงชานจะมีมากกว่าแรงของผมอยู่ไม่น้อย
"พี่รู้จริงๆหรอครับว่าผมคิดอะไร"
เสียงหล่อๆที่แหบพร่กระซิบลงมาที่ข้างหู ก่อนจะพูดต่อ "งั้นพี่ก็คงรู้ใช่มั้ยฮะ ว่าถ้าพี่ไม่ไปอาบน้ำจะเกิดอะไรขึ้น" เจ้าลูกหมาตัวโตว่าก่อนจะค่อยๆไล้ปลายจมูกโด่งๆของเขาไล่ลงมาตามพวงแก้มของผมอย่างอผ่วเบา ~ ผ่านลงมาตามปลายครางและกำลังจะไปแถวๆลำคอของผม ... แรงต้านทานของผมที่ถูกกลืนไปกับการกระทำของคนตรงหน้ามันเหลือน้อยลงทุกขณะจนผมต้องเป็นฝ่ายยอมแพ้กงชานอย่างไม่เต็มใจนัก ก่อนอะไรๆมันจะเลยเถิดไปกว่านี้
"อะ .. เออๆๆ ยอมๆๆอาบก็อาบ"
ผมตอบส่งๆไปอย่างหงุดหงิดก่อนจะรีบใช้แรงที่มีอยู่ผลักไหล่กว้างออกไปห่างๆทันทีที่กงชานปล่อยข้อมือผมให้เป็นอิสระ แต่แล้วผมก็รู้สึกว่าตัวเองพลาดท่าให้เจ้าหมานี่แล้ว เพราะหลังที่ผมผลักให้ห่างออกไปไม่เท่าไหร่ แขนแกร่งของกงชานก็ตรงเข้ามาที่ลำตัวของผมก่อนจะอุ้มจนตัวผมลอยจากเตียงในท่าเจ้าหญิง = [ ] = !!!!
"ทำบ้าอะไรของนายเนี่ยฮ๊ะ ?!! " ผมถลึงตาใส่อย่างโกรธๆ ถึงเราจะคบกัน ไม่สิ แอบคบกันก็จริงแต่ผมก็ไม่ได้พอใจเขาไปทุกเนื่องหรอกนะ -3- ยิ่งหมาบ้าชอบทำตามอำเภอใจด้วยแล้วนี่ยิ่งแล้วใหญ่
"พาพี่ไปอาบน้ำ" คนที่อุ้มผมอยู่พูดเสียงเรียบๆก่อนจะเคลื่อนตัวลงจากเตียงลงมายืนที่พื้น
"ฉันอายุยี่สิบต้นๆแล้วนะเว้ยไม่ใช่เด็กแปดขวบถึงไปอาบน้ำเองไม่ได้ ปล่อยฉันลงเดี๋ยวนี้เลย"
"อย่างน้อยเด็กแปดขวบก็อาบน้ำก่อนนอน ไม่ได้ซกมกแบบพี่นี่ครับ" กงชานว่าพลางยักคิ้วอย่างหล่อๆให้ผมหนึ่งทีก่อนจะสาวเท้าเดินไปยังห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องนอนของผม
"นี่แกด่าฉันซกมกหรอไอ้ลูกหมา!!" ผมโวยวายใส่คนตัวสูงตรงหน้าแต่ดูเหมือนเขาจะไม่สะทกสะท้านบ้าอะไรเลย ซ้ำยังเปิดประตูแล้วพาร่างตัวเองเดินเข้ามาในห้องน้ำอีก
"จะปล่อยฉันลงได้หรือยัง -__-" ผมพูดแล้วจ้องหน้ากงชานนิ่งๆ ให้มันรู้ว่าผมเริ่มที่จะไม่พอใจมันแล้วนะ ถ้าขืนยังทำอีกผมจะโกรธเขาแล้ว กงชานมองหน้าผมแล้วค่อยๆระบายยิ้มขึ้นมาที่มุมปาก ก่อนจะปล่อยผมให้ลงมายืนที่พื้นตามปกติ
"ออกไปได้แล้วน่า"
"อยากได้คนขัดหลังเรียกผมได้นะ" คนตัวสูงพูดอย่างเจ้าเล่ห์แล้วหยิบตาใส่ผมหนึ่งที เล่นเอาผมหวั่นๆเลยแฮะ .... นี่ผมพลาดหรือเปล่าที่ไว้ใจไอ้กงชานมันเนี่ย หื่นเป็นบ้าเลย -__-!! แต่เอาเถอะ ยังไงผมก็..ชอบเขาอยู่ดี -///- แล้วนี่ผมจะมาบ่นอะไรในใจคนเดียว อาบน้ำนอนดีกว่า
เสียงออดหน้าประตูห้องของจองจินยองดังขึ้นในเวลาเช้าตรู่มาสักครู่หนึ่งแล้ว กงชานชิคที่พึ่งตื่นมาล้างหน้าแปรงฟันเสร็จเรียบร้อยจึงเดินมาบริเวณประตูห้องด้วยความฉงนว่าใครกันมากดออดตั้งแต่ไก่โห่ขนาดนี้
นิ้วเรียวกดตอบรับลงไปบนตัวจอมอนิเจอร์ที่ติดอยู่ข้างๆประตูก่อนที่จอนั้นจะปรากฏภาพของผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเขาคุ้นหน้าคุนตาเป็นอย่างดี ชายผมยาวเกือบประบ่าสีน้ำตาลเข้มยืนทำหน้านิ่งๆใส่เขาก่อนจะพูดทักทายนิดๆหน่อยๆก่อนที่กงชานจะเปิดประตูให้เขาเข้ามาด้วยท่าทางที่เรารพในฐานะของคนที่เป็นรุ่นน้อง
"ไอ้จินยองล่ะ" ชินดงอูถามหาถึงลูกพี่ลูกน้องตัวแสบทันทีที่เดินสาวเท้าเข้ามาในห้องอย่างเงียบๆไร้ซึ่งรอยยิ้มหรือความรู้สึกอะไรใดๆบนใบหน้าจนกงชานผิดสังเกตุ
มีเรื่องอะไรหรือเปล่านะ
“พี่จินยองยังไม่ตื่นเลยครับ” กงชานตอบไปอย่างสุภาพกว่าที่เคยคุยกันในครั้งก่อนหน้านี้ เพราะดูจากสถานการณ์แล้วคงไม่ใช่เวลาที่จะพูดเล่นหรือติดตลกอะไร ร่างโปร่งถอนหายใจออกมาอย่างหงุดหงิดก่อนจะสาวเท้าเดินไปยังหน้าห้องนอนของคนตัวเล็ก แล้วเคาะเรียกสองสามทีดังๆ หวังให้เจ้าของห้องตื่นมาคุยกับเขา
“โว้ยจะเคาะหาอะไรหนักหนาเนี่ย กง .... อ้าว พี่”มือบางยกขึ้นเกาหัวยุ่งๆอย่างงงๆเมื่อคนที่มาเคาะประตูไม่ใช่คนรักของตัวเองแต่กลับเป็นลูกพี่ลูกน้องที่ยืนปั้นหน้านิ่งใส่จนจินยองรู้สึกแปลกๆ
“อะ...อะไรของพี่เนี่ย แล้วมาหาทำไมแต่เช้า” ร่างบางทำหน้ามึนๆใส่ก่อนจะเดินออกมานอกห้อง ตามด้วยชินอูที่เดินตามหลังกันมาติดๆ
“เมื่อคืนแกไปไหนมา ?” ชินอูพูดด้วยเสียงเรียบนิ่งจนจินยองเริ่มรู้สึกไม่ดี มือบางค่อยๆวางแก้วน้ำที่พึ่งยกขึ้นดื่มลงบนเคาท์เตอร์ครัวก่อนจะเดินออกมาหาพี่ชายตนเองที่มีท่าทางเครียดๆอยู่บนโซฟา คนสวยหันไปมองคนรักที่ยืนนิ่งไม่พูดไม่จา ส่งสายตาถามเป็นนัยๆว่าเกิดอะไรขึ้น ซึ่งคำตอบที่ได้มาก็เป็นการส่ายหน้าไปมาเบาๆทำนองว่าเขาก็ไม่รู้เหมือนกัน
“ใช่แกหรือเปล่าที่ไปโซลสแควร์กับกงชานเมื่อคืน”
ชินอูพูดออกมาก่อนจะหันหน้าไปมองกงชานด้วยใบหน้าที่ตึงเครียดแล้วหันกลับมามองคนตัวเล็กที่ทำหน้าประหลาดใจส่งมาให้เขา ร่างโปร่งบนโซฟาถอนหายใจเฮือกใหญ่ก่อนจะหยิบไอแพดเครื่องหรูออกมา จิ้มบนหน้าจองสองสามทีแล้วยื่นมันให้จินยองดู คนตัวเล็กรับมาอย่างงงๆแล้วก้มลงดูสิ่งที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอ
หรือจะเกย์ ?!?!
นักร้องหนุ่มชื่อดังนามสกุลจองเดินควงผู้ชายหน้าหล่อใสกลางกรุงโซล !!!!!!
" โถๆๆ โลกนี้มันกลับตาลปัตรกันใหม่หมดหรือยังไง ชายก็ไม่จริง หญิงก็ไม่แท้ อะไรมันช่างสับสนซะขนาดนี้ล่าสุดนักร้องหนุ่มหน้าสวยนามสกุลจอง เดินควงหนุ่มน้อยนอกวงการ อ่านไม่ผิดหรอกค่าคุณผู้อ่าน เดินควงผู้ชายกลางสถานที่ท่องเที่ยวใหม่อย่างโซลสแควร์ บังเอิ๊ญญญ บังเอิญเหยี่ยวข่าวของเราไปเดินเล่นที่นั่นพอดีเลยอดไม่ได้ที่จะแชะภาพออกมา แถมยังมีการกระซิบบอกเจ้มาอีกนะว่าหวานเว่อร์มากกกกกกกกกกกก หวานจนมดจะขึ้นกันเลยทีเดียว มีการป้อนเค้กกันถึงปาก เดินกระหนุงกระหนิงกันมาตลอดทางปานโลกนี้มีแค่เราสอง เด็ดกว่านั้นคือมีจูบกันด้วยค่าาาคุณผู้ชม ไม่เชื่อลองดูรูปที่ปาปารัซซี่เราแอบเก็บมาได้เลยค่ะ โฮะๆๆ งานที่ต้องรอเจ้าตัวออกมาเคลียร์เเล้วล่ะค่ะว่ามันเป็นยังไงกันเเน่น้าาา ♥ “
นิ้วเรียวสไลด์หน้าจอลงมาเรื่อยๆด้วยมืออันสั่นเทา ภาพที่ปรากฏบนหน้าจอด้านล่างคอลั่มทำให้เขาแทบจะทรุดกองลงไปกับพื้น เป็นภาพที่ชายสองคนซึ่งคนหนึ่งใส่ชุดฮู้ดสีแดงกับกางเกงสีขาว ถึงภาพจะไม่ชัดแต่นั่นก็ทำให้จินยองมั่นใจได้เลยว่าเป็นเขาจริงๆ ... ส่วนอีกคนที่ยืนอยู่ข้างๆแน่นอนว่าเป็นกงชาน ที่กำลังจ้องหน้าเขาตอนที่ออกมาจากร้านจิวเวอร์รี่ รูปแรกคนดูอ่านจะไม่รู้ว่าเป็นใครก็จริง แต่รูปที่สองมันชัดเจนมากๆเพราะมันถูกถ่ายตอนที่เขาสองคนกำลังนั่งอยู่ในร้านเค้ก เป็นช็อตที่ร่างสูงกำลังป้อนเค้กให้เขาพอดี ซึ่งตอนนั้นเขาไม่มีอะไรปิดปังใบหน้าเลย ....ส่วนรูปต่อมาก็เป็นรูปของเขาที่ถูกกงชานโอบเอวตอนเดินออกมาจากร้านจิวเวอร์รี่และรูปที่เขาและกงชานจับมือกันอย่างแนบแน่น แต่นั่นก็ไม่ใช่ประเด็นเท่ารูปรูปสุดท้าย ดูก็รู้ว่ารูปนั้นเป็นตอนที่กงชานกำลังจูบเขาหน้าร้านไอศกรีม ถึงภาพจะมัวๆและถูกถ่ายจากด้านหลังก็จริง แต่ถ้าเจอคำบรรยายแบบใส่สีตีไข่แบบนี้ใครๆก็เชื่อว่าจูบกันจริงๆ
จองจินยองถอนหายใจออกมาอย่างลำบากใจแล้วส่งยื่นไอแพดขึ้นให้พี่ชาย ชินอูรับมันมาแล้วมองหน้าจินยองกับกงชานสลับกันไปมาราวกับถามเป็นนัยๆว่าเรื่องที่ถูกเขียนอยู่ในข่าวนี้เป็นเรื่องจริงหรือเปล่า คนตัวเล็กเดินมานั่งข้างๆชินอูแล้วมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสีหน้าเป็นกังวลไม่ต่างกัน
“ฉันจะไม่ด่าแกแล้วกันจินยอง แล้วฉันก็จะไม่ว่าอะไรกงชานด้วย ฉันรู้ว่าพวกแกไม่ได้ตั้งใจให้เรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นหรอก เพราะฉะนั้น เล่ามาว่ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆหรือเปล่า ...” ชินอูพูดอย่างใจเย็นแล้วเรียกกงชานที่ยืนเงียบๆอยู่มานั่ง ก่อนจะพูดต่อ “ตอนนี้คุณพ่อยังไม่ตื่น แต่คาดว่าถ้าตื่นแล้วพวกนายสองคนต้องโดนเรียกไปที่บริษัทแน่ๆ ถ้าแกบอกความจริงทุกอย่างให้ฉันฟัง ฉันจะช่วยพูดกับพ่อให้แทน” ชินอูพูดแล้วมองหน้าคนตัวเล็ก จินยองเงยหน้าขึ้นมามองชินอูอย่างตระหนักใจว่าจะบอกความจริงทั้งหมดดีมั้ย กงชานจะเสียหายหรือเปล่า แต่ถึงกระนั้นกงชานก็พยักหน้าให้จินยองเป็นทำนองว่า บอกไปเถอะ บางปากๆพ่นลมออกมาแล้วพูดความจริงทั้งหมด
“งั้นสรุปว่าแกกับกงชาน ... คบกันสินะ ?” ชินอูพูดติดตลกราวกับว่าเรื่องนั้นเป็นนิทานหลอกเด็ก แต่พอเห็นทั้งสีหน้าและอารมณ์ของสองคนนี้แล้วคงไม่ใช่เรื่องล้อเล่นที่ว่าพวกเขา คบกันจริงๆ ...
“นานหรือยัง”
“ก็สักพักนึงแล้วครับ” เป็นฝ่ายกงชานบ้างที่พูดขึ้นมา
“ฉันจำได้ว่านายมีแฟนแล้วนี่ ? ไม่ใช่หรอ ? ชื่ออะไรนะ..ซาน .. ซาน”
“ซานดึลครับ” กงชานตอบกลับไปอย่างลำบากใจ นึกอย่างจะยกมือขึ้นมาชกหน้าตัวเองแรงๆที่ทำตัวเลวแบบนี้
“นายคบกับซานดึล แล้วก็คบกับจินยองด้วยเนี่ยนะ ? ตลกน่า นี่พวกนายเล่นอะไรกันอยู่”
“พี่อย่าไปว่ากงชานมันเลย ผมผิดเองแหละ”
“จินยองแกบ้าไปแล้วหรือไงวะ เขามีแฟนแล้ว แล้วแกก็เป็นชู้!” ชินอูพูดกับจินยองอย่างหัวเสีย อดผิดหวังในตัวน้องชายไม่ได้ที่ลดศักดิ์ศรีลงไปเป็นมือที่สามของชาวบ้าน หรือถ้าเรียกกันทั่วๆไปก็เรียกว่าชู้นั่นแหละ
“ก็ผมรักเขา!” จินยองพูดขึ้นพร้อมกับอารมณ์ที่เริ่มปะทุอยู่เต็มอก เขาไม่ใช่ชู้ !!!! เขามาก่อนด้วยซ้ำทำไมเขาต้องตกเป็นชู้ล่ะ ?
“แล้วนายล่ะกงชาน ? นายรักจินยองมันจริงหรือเปล่า” ชินอูถามรุ่นน้องด้วยแววตาผิดหวังเล็กน้อยในตัวกงชานที่ไม่คิดว่าเขาจะทำเรื่องแบบนี้ได้
“ผม...ผมรักพี่จินยองจริงๆครับ”
“เหอะ นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน ถ้าฉันไม่ติดว่าเป็นพี่พวกแกฉันด่าทั้งโคตรไปแล้ว!!”
“..................”
“เอาเป็นว่าฉันจะไม่โกรธอะไรพวกแกแล้วกัน ถึงเรื่องมันจะทำให้ฉันโมโหมากในตอนนี้ก็เถอะ ยังไงซะ นายก็กับสื่อไปแล้วกันว่ากงชานเป็นแค่ผู้จัดการ”
“ผม....จะบอกพวกเขาว่ากงชานเป็นแค่ผู้จัดการส่วนตัวของผม ... เรา...” จินยองหยุดพูดแล้วหันไปมองหน้าคนรัก “เราเป็นแค่คนร่วมงานกันเท่านั้น ในฐานะนักร้องกับผู้จัดการ”
“ก็ดี เรื่องรูปนายก็ไปตกลงกันเองแล้วกันว่าจะพูดกับพ่อฉันยังไง ส่วนนาย กงชาน ถ้านายเห็นแก่ฉัน และจินยอง คนที่นายรัก นายต้องเลือกมาคนใดคนหนึ่งว่าจะคบใครกันแน่ แค่คนเดียวเท่านั้น ที่คิดว่านายรักเขาจริงๆ”
คนเดียว ...
ที่เขารักจริงๆงั้นหรอ ....
พระเจ้า .... ช่วยบอกผมหน่อยได้มั้ย
ว่าคนที่ผมต้องการจริงๆ ..
คือใคร ...
TBC.
ความคิดเห็น