ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    (FIC B1A4) :: Y o u r M i n i s t r a n t :: [GONGYOUNG]

    ลำดับตอนที่ #10 : Y o u r M i n i s t r a n t - CHAPTER 9 -

    • อัปเดตล่าสุด 26 เม.ย. 57













    เออ

    ผมเป็นห่วง

     

     

     

     

     

     

    ผมเป็นห่วงพี่..........พี่จินยอง

     

     

     

     

    ประโยคที่ร่างสูงพูดเมื่อครู่ยังลอยเคว้งอยู่ในหัวของจองจินยอง ตาตี่เรียวหลุบลงมองพื้น ไม่ยอมเงยขึ้นมามองหน้าคู่สนทนา ความรู้สึกความคิดต่างๆนาๆพากันประเดประดังเข้ามาจนไม่รู้จะคิดอะไรก่อนหลัง

     

    เขาไม่รู้ว่าควรรู้สึกกับคนคนนี้ยังไง

     

    เขาไม่รู้ว่าควรวางตัวแบบไหน

     

    เขาไม่รู้ ........

     

     

    พี่จินยอง

    ฉันรู้สึกยังไงกับนายกันแน่วะ .. คนหน้าหวานบ่นพึมพำขึ้นมาเบาๆ และดูเหมือนจะลืมไปเลยว่าคนที่เขาบ่นถึงยังยืนอยู่ตรงหน้าเขาไม่ได้ไปไหน

     

    ครับ ?กงชานพูดเหมือนให้จินยองพูดทวนประโยคเมื่อกี้อีกรอบ แต่อีกฝ่ายจะรู้สึกตัวบ้างแล้วเลยตอบปัดๆไป

     

    ไม่มีอะไรหรอก

     

    ก็ดีแล้วครับ ไปเปลี่ยนชุดแล้วก็นอนซะ ผมจะไปนอนมั่งแล้ว

     

    ก็ได้ L

     

    จินยองตอบรับอย่างไม่ค่อยเต็มใจเท่าไหร่ แต่พอคิดไปคิดมา แต่งตัวแบบนี้นอนก็ดูจะไม่เข้าท่า เดี๋ยวไข้ขึ้นมาอีกรอบแล้วจะยุ่ง ร่างบางหันหลังกำลังจะเดินไปที่ตู้เสื้อผ้า แต่เสียงของกงชานก็ขัดขึ้นก่อนทำให้จินยองต้องชะงักเท้าหยุดแต่ก็ไม่ได้หันหลังไป

     

    พี่จินยอง

     

    อะไร

     

    รอผมหน่อยนะ

     

    หมายถึงอะไร

     

    ผมว่าพี่ก็รู้ ว่าที่ผมพูดหมายถึงอะไร

     

     

     

    ผมไปอาบน้ำนอนนะ ฝันดีครับ

     

     

    กงชานพูดทิ้งประโยคบ้าบอนั่นไว้ ก่อนจะปิดประตูห้องให้แล้วเดินเข้ามายังห้องของตัวเองที่อยู่ถัดมา ตอนแรกมันเป็นแค่ห้องว่างๆที่เล็กกว่าห้องนอนของจองจินยองเล็กน้อย แต่ไม่ได้มีห้องน้ำในตัวเหมือนห้องนอนของคนตัวเล็กข้างๆ เตียงสีขาวขนาดนอนแค่คนเดียวตั้งอยู่กลางห้อง จริงๆเตียงนี้เป็นเตียงเก่าของเจ้าของห้อง แต่เมื่อปีก่อนซื้อเตียงมาใหม่ เตียงเล็กๆนี่เลยกระเด็นมาอยู่ห้องนี้และตกเป็นเตียงของกงชานโดยปริยาย ดูเผินๆจะเรียกว่าเก่าก็คงไม่เก่าซะทีเดียว ยังดูใหม่เอี่ยมอ่องกว่าเตียงของเขาที่บ้านซะอีก ฟอนิเจอร์ต่างๆทั้งตู้เอย โต๊ะเอย โคมไฟเอย ก็ต่างเป็นของจินยองที่เขาไม่ใช่แล้วโยนมาห้องนี้ทั้งนั้น และก็ยังดูใหม่ทั้งนั้นอีกด้วย - -;

               

                กงชานจัดการถอดเสื้อผ้าของตัวเองออกแล้วเอาใส่ตระกร้า ก่อนจะหยิบผ้าขนหนูผืนประจำของเขาที่ขนมาจากบ้านขึ้นมาพันรอบเอว และหยิบผืนเล็กๆไว้สำหรับเช็ดผมพาดไว้บนบ่า ก่อนจะหยิบแปรงสีฟันและเครื่องอุปโภคต่างๆที่ต้องเอาไว้ในห้องน้ำออกมาให้หมดหอบไว้ทั้งโฟมล้างหน้าแปรงสีฟันครีมอาบน้ำยาสระผมแปรงโกนหนวดบลาๆๆ

               

                ร่างสูงหอบของพวกนี้ออกมาจากห้องนอน แล้วรีบเดินไปยังห้องน้ำด้านนอกห้องนอน ที่อยู่ถัดไปจากห้องครัว เขาวางของเหล่านี้ไว้ตามชั้นต่างๆที่โล่งไม่มีอะไรวางไว้อยู่เลย เพราะส่วนของจินยองก็คงอยู่ในห้องน้ำภายในห้องนอนเขานั่นแหละ เมื่อวางของตามชั้นเสร็จแล้วเขาจึงเริ่มล้างหน้าแปรงฝัน และอาบน้ำตามลำดับ

               

                กงชานชิคพาร่างตัวเองที่อาบน้ำเสร็จแล้วเดินอาดๆออกมาจากห้องน้ำ มือหนายกผ้าขนหนูผืนเล็กขึ้นมาเช็ดผมลวกๆระหว่างที่เดินผ่านห้องครัวเขาสังเกตุเห็นแสงไฟสีส้มสว่างจากตู้เย็นสาดออกมา และข้างๆกันนั้นก็เป็นร่างของจองจินยองที่กำลังยืนดื่มน้ำอยู่ คนตัวเล็กเก็บน้ำขวดเข้าตู้เย็นและเอาแก้ววางไว้ที่เดิม

     

     

    พี่ยังไม่นอนหรอเสียงกงชานทักขึ้นซึ่งทำให้จินยองที่ไม่ได้สังเกตตกใจเล็กน้อย ไม่ใช่แค่เพราะเสียงแต่เป็นสภาพของกงชานตอนนี้ต่างหาก

     

    หัวใจเจ๊จะวายยยยยยยยยยยยยยยยยย

     

     “กะ..ก็กำลังจะไปนอนแล้ว ขะ .. ขอตัวนะ

     

    ตัวอุ่นขึ้นหรือเปล่ากงชานชิคพยายามจะสาวเท้าเข้าไปใกล้ แต่ถูกห้ามเสียก่อน

     

    อะ ... อย่าเข้ามานะ ก็ดีขึ้นมากแล้ว ไปนอนนะ บายจินยองรีบห้ามและตอบอย่างรวดเร็วก่อนจะวิ่งเข้าห้องไป

     

    บางทีผมก็สงสัยว่าพี่จินยองเขาเป็นโรคพูดติดอ่างหรือเปล่า =____=

     

     

     

    กงชานเห็นสมุดแต่งเพลงพี่มั้ยร่างบางเปิดประตูห้องนอนแง้มออกมาเล็กน้อย ก่อนจะโผล่หัวยุ่งๆที่น้ำตาลไหม้ที่ไม่ได้เซตออกมาถามคนอายุน้อยกว่าที่นั่งกินอาหารเช้าอยู่ที่โต๊ะ เขาต้องตื่นก่อนจินยองหนึ่งชั่วโมงเพื่อที่จะเตรียมอาหารเช้าก่อนที่จะออกไปทำงานด้วย

     

    ไม่เห็นครับเขาตอบก่อนจะกัดแซนวิชแฮมไข่ดาวที่แหกขี้ตาตื่นมาทำให้

     

    เอ เอาไว้ไหนวะมือเล็กๆยกขึ้นขยี้หัวลวกๆแล้วเดินออกมาจากห้องนอนและนั่งลงตรงฝั่งตรงข้ามของกงชาน

     

    พี่ไม่ได้เอากลับมาไม่ใช่หรอ ?

     

    เออว่ะ เหมือนจินยองจะนึกขึ้นได้ว่าเขาไม่ได้เอาสมุดเพลงเอามาแต่งที่ห้อง เขาแค่นหัวเราะในลำคอให้ความขี้ลืมของตัวเอง แล้วหยิบแซนวิชในส่วนของตัวเองขึ้นกัดเบาๆ

     

    ใช้ได้นี่หว่า ทำอาหารอร่อยขนาดนี้ทำไมไม่ไปเปิดร้านอาหารล่ะ

     

    ที่บ้านผมก็เปิดร้านอาหารอยู่เขาตอบก่อนจะยกถ้วยกาแฟบนโต๊ะขึ้นดื่ม  หลังจากที่กินในส่วนของแซนวิชหมดแล้ว

     

    อ้าวแล้วหางานเพิ่มทำไม

     

    ไม่รู้ดิ ผมอยากลองหลายๆอย่าง เปลี่ยนไปเรื่อยๆมัน ไม่โอเคก็เปลี่ยน

     

    แล้วจะหางานอื่นเพิ่มอีกป่ะ

     

    ถ้าถามถึงตอนนี้ คงไม่แล้วล่ะครับ เพราะงานนี้ผมว่ามัน โอเค เลย

     

    หมายถึงคน หรือ งาน

     

    ที่มันโอเคน่ะ

     

    (.////////////.)

     

     

     

    เอ่อ ... กงชานๆ เฮ้ กงชาน

     

    เสียงของหนุ่มบาโรดังขึ้นตามหลังกงชานในขณะที่เดินตามมาส่งจองจินยองที่ห้องทำงาน ทั้งกงชานและจินยองจึงหันหน้ากลับมาหลังจากที่ได้ยินเสียงเรียก

     

    เสียงเด็กนี้ทำไมน่ะ

     

    ท่านประธานเรียกพบกงชานอ่ะพี่

     

    คุณน้าเรียกกงชานไปทำไม มีเรื่องอะไรหรือเปล่า

     

    ก็เกี่ยวกับหน้าที่ของกงชานนี่แหละ เขาจะบอกอะไรเพิ่มก็ไม่รู้บาโรพูดแล้วเอียงหัวแบบไม่แน่ใจ กงชานพยักหน้าก่อนจะให้บาโรพาให้ไปพบท่านประธาน

     

    อรุณสวัสดิ์ครับท่านประธานทันทีที่กงชานก้าวเข้าไปในห้องทำงานของคุณน้าของจองจินยองหรือผู้ดำรงตำแหน่งประธานบริษัท เขาจึงกล่าวทักทายและโค้งตัวอย่างสุภาพอ่อนน้อม

     

    ฮ่าๆๆ สวัสดีเด็กน้อย นั่งก่อนสิ เสียงทักทายอันอบอุ่นและเป็นกันเองของอีกฝ่ายของอีกฝ่ายทำให้กงชานพอลดความเกร็งลงไปบ้าง เขาโค้งเล็กน้อยก่อนจะนั่งลงบนโซฟาตัวเดิมที่เขาเคยมาครั้งแรก ท่านประธานนั่งลงตรงฝั่งตรงข้ามและยื่นหนังสือเล่มเล็กๆบางๆสีดำให้

     

    อะไรหรอครับ

     

    มันคือ ... ยังไงดีล่ะ งานของนายมั้ง ฉันสรุปเกี่ยวกับหน้าที่ของนายลงในเล่มนั้นน่ะ นายยังเด็ก นายจะได้รู้ว่าการมายืนอยู่ตรงจุดนี้ มันต้องทำอะไรยังไงบ้าง ท่านประธานอธิบาย

     

    อ๋อ ขอบคุณมากๆเลยครับกงชานพูดพลางฉีกยิ้มบางๆ จริงๆผมก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าผมมีอะไรต้องทำ ต้องรู้อีกมั้ย ยังไงผมจะพยายามให้ดีที่สุดครับ

     

    จริงๆหน้าที่ของนายเป็นหน้าที่ที่ยากนะ ฮ่าๆ ไม่มีใครทนมันได้ถึงหนึ่งปีเลย บ้างก็โดนเจ้าจินยองมันไล่ บ้างก็ขอลาออกเอง

     

    ขนาดนั้นเลยหรอครับ = [ ] =”

     

    แต่มันคงไม่ใช่ปัญหาสำหรับนายหรอก อายุไล่เลี่ยกันคงจะเข้ากันได้ดีอยู่ ว่าแต่นายกับจินยอง เข้ากันได้ดีใช่มั้ย ?

     

    ก็สนิทกันในระดับนึงแล้วล่ะครับ ^^;”

     

    ดีๆ ดีแล้วฉันจะได้ไม่ต้องห่วงมันมาก แต่นิสัยมันค่อนข้างจะแปรปรวนซักหน่อย บ้างก็อ่อนไหวไม่มีใครเข้าถึง บ้างก็ดีจนขนลุก

     

    อันนี้ผมเห็นด้วยนะครับ ฮ่าๆ รวมๆแล้วเขาก็น่ารักดี

     

    เจ้านั่นน่ะมันน่ารัก ดูแลมันให้ดีๆแล้วกันล่ะ สำหรับมันใครดีมาก็ดีตอบหมดแหละ

     

    ครับผม

     

    อ้อใช่สิ มีอีกเรื่องนึงที่ฉันยังไม่ได้บอก สำคัญมากเลยนะ

     

    ครับ ?

     

    อย่าให้จินยองมันมีความรัก ....เด็ดขาด

     

     

     

     

    "ท่านประธานว่าไงบ้าง" จินยองเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่กงชานกลับเข้ามายังที่ห้องทำงานของเขา แต่สายตาก็ยังจับจ้องไปที่หน้าจอคอมที่ปรากฏเป็นเส้นอะไรซักอย่างที่กงชานไม่เข้าใจ มือขวาของร่างบางจับเมาส์ลากไปมาส่วนมือซ้ายก็วางลงบนคีย์บอร์ด ทำนองเพลงเพราะๆฟังสบายๆดังขึ้นอยู่ภายในห้องสี่เหลี่ยมนี้เป็นระยะๆ

     


    "ก็ไม่ว่าไงครับ พี่ไม่ต้องรู้ก็ได้"

     


    "ย่าห์ นี่นายกำลังกวนตีนฉันนะ" 


    "อ้อ เขาย้ำผมมาเรื่องนึง เกี่ยวกับพี่อะ" 


    "พี่รู้ใช่มั้ยว่าพี่  .. เอ่อ .. ห้ามมีความรัก ห้ามมีแฟนนั่นแหละ" 


    "อือ .. รู้ "


    ....


    "แล้วฉันก็ลืมมันไปแล้วด้วย" จินยองกดสต็อปหยุดทำนองเพลงก่อนจะหันหน้ามามองอีกฝ่ายที่ยืนกอดอกพิงประตูห้องอยู่

     


    "ของแบบนี้เราห้ามกันได้ด้วยหรอ" 


    "แต่ถ้าพี่มีความรักหรือมีแฟน พี่อาจจะเสียแฟนคลับไปเป็นพันๆคนเลยนะครับ"


    "ก็พวกนั้นมันไม่ได้รักจริงไง คนที่รักและสนับสนุนฉันจริงๆเขาจะทิ้งไปได้ยังไง"


    "แต่พี่ ..."


    "ถ้าฉันให้นายเลิกรักซานดึล นายทำได้หรือเปล่าล่ะ" ถึงจินยองจะถามแบบยกตัวอย่างเขาก็เถอะ แต่ร่างสูงก็รู้ดีว่าลึกๆแล้วเขาพยายามจะสื่ออะไร 


    "ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ" กงชานเลี่ยงที่จะตอบเลยเดินผลักประตูออกไปจากห้องแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ 
    ร่างสูงเท้าแขนลงบนเคาท์เตอร์อ่างล่างหน้าก่อนจะเปิดก๊อกน้ำ มือหนารองน้ำใสสะอาดที่ออกมาจากก๊อกแล้วยกขึ้นล้างหน้าตัวเองเบาๆ ความเย็นจากน้ำจึงทำให้เขาตื่นตัวมากขึ้นเพื่อที่จะสามารถคิดไตร่ตรองอะไรหลายๆอย่างได้ 


    ใช่เขาเคยบอกจินยองว่าให้รอ แต่ตัวเขาเองก็ยังงงๆว่าทำไมถึงพูดแบบนั้นออกไป พอเห็นร่างบางอยู่ตรงหน้าทีไรความทรงจำในวันเด็กก็ย้อนกลับมาเหมือนการฉายภาพซ้ำๆ
    เหมือนเป็นการย้ำว่าจองจินยอง


    เป็นรักครั้งแรก ..

     

    การเจอแบบนี้จะเรียกว่าถูกที่ผิดเวลาก็ไม่แปลก เพราะถ้าเราเจอกันเร็วกว่านี้ อะไรๆมันก็คงง่ายขึ้น .. ใช่มั้ย 


    แต่ตอนนี้เขามีซานดึลอยู่เต็มหัวใจ ยังไงคนที่เขารักมากที่สุดก็คือซานดึล


    ใช่ ถึงเขาจะรู้สึกดีกับรักแรก แต่มันก็ไม่ใช่ความรักถูกมั้ย 


    เขาไม่สามารถคิดภาพวันที่เขาไม่มีซานดึลได้เลย


    ความน่ารักของซานดึล


    แก้มนิ่มๆของซานดึล


    เสียงหัวเราะอันสดใสของซานดึล


    และอีกหลายๆอย่างที่กงชานชอบในตัวคนรัก เขาไม่สามารถขาดมันไปได้

     

    ไม่สำคัญว่ามันจะเป็นรักครั้งแรก หรือรักแท้
    สำคัญที่ว่า เขารักใครมากกว่ากัน..

     

     

     

    "พี่ซานดึล" กงชานกรอกเสียงลงในโทรศัพท์หลังจากที่ต่อสายหาคนรัก

     
    [ครับมีอะไรเด็กน้อย]


    "ตอนเที่ยงไปกินข้าวกันมั้ย"


    [ตอนเที่ยงหรอ .. อืมม ขอเปลี่ยนเป็นช่วงบ่ายๆได้มั้ยอ่า พี่มีงานT_T] 


    "งั้นก็ได้ครับ เดี๋ยวผมเข้าไปหานะ"


    [อื้อ^^]


    "พี่ซานดึล"


    [ฮะ ว่าไง] 


    "ผมรักพี่นะ"


    [ฮะ เอ่ออ พูดอะไรของแกเนี่ย -///-]


    "เอ้า บอกรักแฟนตัวเองผิดหรอครับ"


    [โอ้ย วางสายไปเลยไอ้บ้า -///-]

     


    "ครับๆวางแล้วครับ แค่นี้นะ ตั้งใจทำงานล่ะ"


    กงชานยิ้มบางๆก่อนจะกดวางสาย วอลเปเปอร์ในโทรศัพท์ของเขาตั้งเป็นรูปคู่ที่เขาถ่ายกับซานดึล ทำให้เจ้าของโทรศัพท์ยิ้มกว้างไม่น้อย ร่างสูงหันหลังกลับจะเดินออกจากห้องน้ำ

     


    "อ้าวพี่จินยอง" แต่ก็ต้องหยุดเมื่อเจอร่างบางเดินสวนเข้ามา ร่างบางไม่ตอบอะไรเดินชนไหล่กงชานเแล้วเลยไปเข้าห้องน้ำ กงชานหันมองอีกฝ่ายอย่างงงๆแล้วเดินออกมา

     

     

    Jinyoung part
    ผมอยากจะตบปากตัวเองจริงๆ ทำไมชอบพูดไม่คิดแบบนี้ก็ไม่รู้ รักกันปานจะกลืนกินไปถามเขาว่าให้เลิกรักได้มั้ย ใครไม่โกรธก็บ้าแล้ว ผมนั่งคิดทบทวนอยู่นานว่าจะพาตัวเองไปขอโทษเขาดีมั้ย นี่ก็หายไปนานแล้วด้วย
    แล้วนี่กูจะห่วงมันทำไมวะเนี่ย

     


    ยิ่งคิดยิ่งสับสน กงชานกำลังทำผมเสียความเป็นตัวของตัวเองอย่างมากเลยนะ เหมือนที่อยู่ตรงนี้มันไม่ใช่จองจินยอง ผมไม่เคยแคร์ความรู้สึกใคร แต่ทำไม ...

     


    ผมถึงแคร์เขา


    โอยคิดไปคิดมาก็ปวดหัว เดินไปตามมันที่ห้องน้ำเลยดีกว่า ป่านนี้คงเสียใจเอาหัวมุดท่อตายห่าไปแล้วมั้ง
    ผมตัดสินใจผลักประตูออกมาแล้วเดินไปทางห้องน้ำ แต่เห็นกงชานกำลังหยิบโทรศัพท์ขึ้นต่อสายหาใครบางคนผมเลยไม่ได้เข้าไป แต่ยืนอยู่ข้างหน้าห้องน้ำแทน

     


    "พี่ซานดึล" 
    จะเป็นใครซะอีกล่ะ แฟนของเขา ... ผมยืนนิ่งฟังบทสนทนาที่เขาคุยกันจนจบ จะเดินหนีออกมาตอนนี้ก็คงไม่ทันเพราะกงชานกำลังจะออกมา ผมเลยแกล้งเดินเนียนๆทำทีจะไปเข้าห้องน้ำ


    "อ้าวพี่จินยอง" ดูจากน้ำเสียงเขาคงไม่ได้โกรธผมหรอก แต่ผมก็ทำหยิ่งไม่ตอบ เดินชนไหล่เขาแล้วเดินไปทางห้องน้ำอีกฝั่ง 


    ผมเดาไม่ถูกเลยว่าเขาคิดอะไรอยู่


    เขาบอกให้ผมรอ ผมว่าเราเข้าใจตรงกันนะ ...


    แต่ทั้งๆที่เขาก็ยังรักกันดี 


    ถ้าผมรอมันจะมีประโยชน์อะไรล่ะ


    สู้ไปหาคนอื่นไม่ดีกว่าหรอ 


    แต่คนอื่นที่ว่านั่นผมจะไปหาใครล่ะ


    ผมก็มีมันแค่คนเดียว ..

     

     

    จินยองผลักประตูห้องทำงานเข้ามาในห้องก็พบว่าร่างนั่งอ่านนิตยสารอย่างสบายใจเชิบ เขาเงยหน้าจากนิยสารในมือขึ้นมามองแว๊บนึงแล้วก็หันกลับไปอ่านตามเดิน
    ไอ้เด็กนี่มัน .....

     


    จินยองไม่อยากจะใส่ใจอะไรมากนัก จึงเดินผ่านเขามายังหน้าจอคอมเครื่องหรูที่เปิดไฟล์เพลงค้างไว้ มือบางหยิบเฮดโฟนขึ้นมาใส่แทนที่จะเปิดกับลำโพง มันคงทำให้เขามีสมาธิขึ้นมาบ้าง


    เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงจนล่วงเลยมาถึงช่วงเที่ยงของวัน จองจินยองเซฟไฟล์เพลงทั้งหมดไว้ในเครื่องก่อนจะถอดเฮดโฟนออก เหลืออีก 3-4 แทร๊กเท่านั้นที่เขายังไม่ได้เริ่มทำ แต่คงจะทำมันในเร็วๆนี้ 

     


    "เสร็จแล้วหรอครับ" 
    และแน่นอนว่ากงชานก็นั่งๆนอนๆเล่นๆอยู่ในห้องนี้มาตลอด เขาเงยหน้าขึ้นมาจากโทรศัพท์หลังจากที่กดปิดแอพเกมส์ไปแล้ว 


    "ก็เสร็จไปหน่อยนึงแล้ว" 


    "เอ่อพี่......."


    "หืม"


    "ไปกินข้าวเลยนะ ผม...คงไม่ได้ไปกินด้วย"


    "จะไปไหนก็ไปเถอะ พี่ไปกินกะไอ้บาโรมันก็ได้"


    "พี่ไม่โกรธผมนะ" กงชานว่าก่อนจะยกมือขึ้นแตะไหล่บางเบาๆ ตาเรียวเล็กจ้องหน้ากงชานนิ่งๆแล้วเหยียดยิ้มขึ้นมาและปัดมือนั่นออก

     


    ทำไมต้องทำแบบนี้ ...


    "ฉันจะโกรธเรื่องอะไร" 


    ยิ่งกงชานเห็นท่าทีของคนตัวเล็กตรงหน้านี้ก็ยิ่งรู้สึกแย่ไปด้วย เขาไม่ได้ตั้งใจจะทำให้จินยองเป็นแบบนั้น แต่จะให้ทำไงในเมื่อเขามีแฟนอยู่แล้วทั้งคน ใช่ว่าจะไม่แคร์ความรู้สึกของคนๆนี้ แต่คนรักของเขาต้องมาก่อน


    "ฉันจะไปหาบาโร นายจะไปไหนก็ไปเถอะ" จินยองฝืนยิ้มให้แล้วเฉียดไหล่ร่างสูงออกมา 

     


    "ผมขอโทษ ...." กงชานเขาได้แต่พูดกับตัวเองแบบนั้นแล้วตัดสินใจเดินออกมาบ้าง สลัดเอาเรื่องพวกนี้ออกไปซะ คงไม่ดีแน่ถ้าไปหาคนรักแบบคนอมทุกข์แบบนี้ 

    หมับ!


    "เฮ้ยอะไรวะ อ้าว กงชานหรอกหรอ" ซานดึลสบถออกมาหลังจากที่โดนคนรักสวมกอดจากได้หลัง จู่ๆก็โผล่มาแบบนี้ตกใจหมด เขายิ่งมีปฏิกริยารุนแรงอยู่ด้วย -__-


    "ตกใจอะไรเนี่ยพี่" กงชานพูดติดหัวเราะก่อนจะคลายกอดออกมาแล้วเดินมาตรงหน้าคนรัก


    "จู่ๆก็โผล่มาคิดว่าตกใจมั้ยเล่า" ซานดึลโวยวายเล็กๆก่อนจะหันไปเก็บงานที่กองๆอยู่บนโต๊ะ


    "ก็ผมอยากเซอร์ไพร์สพี่อะ"


    "เมื่อวานก็ทีนึงแล้วนะ(.////.)" มือหนาผลักเข้าที่หัวคนรัก ก่อนจะลากแขนให้เดินออกมาจากห้องทำงาน


    "หิวแล้ว ไปหาไรกินกันเถอะㅠㅠ"

     

     

     

     

     

     

    xx/xx/xxxx
    Jinyoung's Fanmeeting in Busan 


                เวลาผ่านล่วงเลยจนมาถึงวันเสาร์ ที่ในตารางงานระบุไว้ว่าวันนี้จินยองมีงานมีตติ้งที่ปูซาน จองจินยองตื่นมาแต่เช้าเพื่อเดินทางไปที่บริษัทเผื่อทวนลำดับและฝึกซ้อมการแสดงก่อนอีกหนึ่งรอบแล้วค่อยเดินทางไปยังงานแฟนมีตติ้ง


    "อ่ะพี่" ร่างสูงยื่นขวดน้ำวิตามินสีแดงส่งให้จองจินยองที่พึ่งซ้อมในส่วนของการแสดงเสร็จ กงชานที่วันนี้สวมชุดสูทดูเป็นทางการทำให้เด็กหนุ่มธรรมดาดูหล่อและโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นทันตา


    "ขอบใจ" จินยองพูดขอบคุณก่อนจะรีบเอาน้ำวิตามินขึ้นดื่ม


    "พี่ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเถอะครับ เดี๋ยวบ่ายโมงเราต้องไปแล้วนะ" กงชานชิคดูนาฬิกาบนฝาผนังห้องซ้อมก่อนจะไล่คนตัวเล็กไปจัดการตัวเองให้เรียบร้อย จินยองพยักหน้าอย่างเหนื่อยๆก่อนจะเดินหายไปอีกทาง

     

    "นายขับไปถูกหรือเปล่าเนี่ย" จินยองขึ้นรถมาแล้วตามด้วยกงชานที่นั่งประจำตำแหน่งคนขับรถด้านหน้า สต๊าฟคนอื่นๆไปสแตนบายที่งานเรียบร้อยตั้งแต่เช้าแล้ว ส่วนจินยองจะตามไปทีหลัง 


    "พี่ถามผมเป็นรอบที่ร้อยตั้งแต่ในห้องซ้อมแล้วนะครับ" กงชานตอบเสียงเนือยๆก่อนจะหยิบบัตรสต๊าฟที่พึ่งได้จากบาโรเมื่อเช้านี้ใส่ให้เรียบร้อย แล้วสตาร์ทรถขับออกไป

     

     

    เวลาผ่านไปหลายชั่วโมงจนมาถึงช่วงเย็นๆของวัน รถของจินยองได้เข้าเขตจังหวัดปูซานมาได้ซักพักนึงแล้ว อีกประมาณ 10 นาทีได้ก็ถึงสถานที่จัดงานแฟนมีตติ้ง ร่างสูงกระจกรถผ่านไปยังด้านหลังก็เห็นจองจินยองที่นอนหลับสนิทมาประมาณ1ชั่วโมงที่แล้ว


    "พี่จินยองตื่นได้แล้ว" 


    เงียบ ....


    "เราถึงปูซานแล้วนะครับ"


    เงียบ ....

     

    พี่จินยองครับไฟไหมมมมมมมมมมมมมมมมมมม้!!!!!!!!!!!!!!” กงชานตะโกนจนลั่นรถในขณะที่อยู่ในจังหวะไฟแดงพอดี จนคนตัวเล็กที่กำลังนอนพริ้มอยู่สะดุ้งตื่นขึ้นมา

     

    อะไรไฟไหม้ที่ไหน O _ O” จองจินยองทำตาโตก่อนที่จะหันซ้ายหันขวาอย่างลุกลี้ลุกลน ชะเง้อข้างหน้าข้างหลัง จนกงชานต้องระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

     

    ย่าห์ นี่นายแกล้งฉันหรอ!!!!!” ว่าแล้วก็หยิบหมอนอิงสีเขียวอ่อนใบเล็กๆบริเวณหลังรถขึ้นมาฟาดลงบนหัวของคนด้านหน้า

     

    ก็พี่ไม่ยอมตื่นอ่ะ ผมเลยต้องใช้วิธีนี้ไงเขาว่าก่อนจะเหยียบคันเร่งหลังจากที่ไฟเปลี่ยนเป็นไฟเขียวแล้ว

     

    ไอ้บ้าเอ๊ย ตกใจหมด ขับรถไปเลยไปจินยองหัวเสียใส่ ก่อนจะสั่งให้คนตรงหน้าขับรถต่อไปตามทาง ไม่นานก็ถึงสถานที่จัดแฟนมีตติ้ง กงชานจึงนำรถเข้าไปจอดด้านใน

     

     ขาผอมก้าวลงมาจากรถทันทีที่รถจอดสนิท ก่อนจะเดินเข้าไปยังห้องพักศิลปินที่เตรียมไว้ด้านในตามด้วยกงชานที่เดินตามเข้าไป 


    "คุณจินยองคะ มาแต่งหน้าทางนี้หน่อยค่ะ" ช่างแต่งหน้าเรียกตัวไปทันทีที่เขามาถึง จินยองจึงบอกให้นั่งรออยู่ตรงนี้ก่อน หิวอะไรก็หยิบกินอยู่เตรียมอยู่ในห้องนี้กินได้เลยนะ


    "อีก 20 นาทีนะครับ" สต๊าฟคนนึงตะโกนขึ้นมาเพื่อบอกให้สต๊าฟทุกๆคนที่มีหน้าที่เตรียมตัวให้พร้อมหลังจากที่จินยองแต่งหน้าเสร็จแล้ว


    "พี่จินยอง" 


    "หืม"


    "สู้ๆนะครับ" 


    "หึ" จินยองแสยะยิ้มบางๆให้คนที่นั่งอยู่โซฟาฝั่งตรงข้าม แปลกใจอยู่เหมือนกันที่จู่ๆก็มีคนมาบอกอะไรทำนองนี้ เขาเลยไม่ค่อยชิน .. ปกติที่เขาเคยได้ยินก็จะเป็นทางการมากกว่านี้อ่ะนะ .. 


    "คุณจินยองครับ สแตนบายหลังเวทีได้เลย" สต๊าฟคนนึงเดินเข้ามาบอก ตัวเล็กพยักหน้าก่อนที่จะเดินตามไป เกือบลืมไปว่ากงชานก็อยู่ตรงนี้ด้วย


    "จะตามมาด้วยก็ได้" กงชานยิ้มกว้าง นึกว่าจะนั่งแก่วอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมสีขาวนี้คนเดียวซะแล้ว
    จองจินยองพาตัวเองเดินมาถึงหลังเวทีเรียบร้อยแล้ว เขารับEar Monitor มาแล้วใส่เข้ากับหูให้เรียบร้อยและรับไมค์มาจากสต๊าฟ 


    "ด้านนอกแฟนคลับเยอะมากเลยล่ะค่ะ" สต๊าฟคนที่ยื่นไมค์ให้แก่เขาพูดขึ้น 


    "จริงหรอครับ O_O" ถึงบางทีเขาจะดูร้ายๆนิ่งๆ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับแฟนคลับของเขา ก็จะกลายเป็นคนอ่อนโยน นุ่มนวลไปทันที


    "ค่ะ ^^ ตั้งใจแสดงนะคะคุณจองจินยอง" 


    กรี๊ดด ~!


    ไฟด้านนอกค่อยๆดับลง ก่อนจะตามมาด้วยเสียงกรี๊ดเชียร์ของแฟนคลับที่กำลังเฝ้ารอเขาอยู่ด้านนอก 


    "คุณจินยองสแตนบายหลังม่านเลยครับ" สต๊าฟอีกคนบอก คนหน้าสวยพยักหน้าตอบแล้วค่อยๆเดินขึ้นเวทีไปยืนอยู่หลังม่านสีทึบที่จะเลื่อนขึ้นตอนเปิดตัว

     


    กรี๊ดดด 
    เสียงกรี๊ดของแฟนคลับดังขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ทำนองเพลงไม่ช้าไม่เร็วดังขึ้น ซึ่งเพลงนี้เป็นเพลงแรกที่เขาใช้เปิดตัวและโปรโมทในวันเดบิวต์

     


    "Are you ready ?" น้ำเสียงอันเซ็กซี่และมีสเน่ห์ของจินยองดังขั้นพร้อมกับม่านผืนหน้าที่ค่อยๆเลื่อนขึ้นไปด้านบน และตามด้วยเสียงกรี๊ดของแฟนคลับที่ดังกระหึ่มไปทั่วบริเวณ 

     


    งานแฟนมีตติ้งครั้งนี้ได้ดำเนินมาจนถึงช่วงสุดท้ายของงานที่จะให้แฟนคลับผู้โชคดีจำนวน 100 คนได้ขึ้นมา Hi - touch กับศิลปิน และ 100 คนนั้นสามารถให้ของขวัญเล็กๆน้อยๆกับจินยองได้อีกด้วย 


    "อ่าโอป้าา (.////.)" แฟนคลับคนแรกเดินมาอยู่ตรงหน้าจองจินยองอย่างเขินอาย ทำให้จินยองต้องฉีกยิ้มกว้าง จริงๆเขาก็ยิ้มทั้งงานแหละนะ


    "โอป้า ฉันให้(.///.)" หลังจากแปะมือกับแฟนคลับมาเรื่อยๆก็มาถึงแฟนคลับคนนี้ที่ยื่นที่คาดผมรูปโบว์สีน้ำเงินลายจุดสีขาวมาให้ ซึ่งจองจินยองก็รับมาใส่อย่างไม่ลังเล


    "มันน่ารักมากๆเลยอะ ขอบคุณนะครับ^^" 


    จินยองแปะมือ พูดคุยและรับของขวัญจากแฟนคลับมาเรื่อยๆจนมาถึงคนสุดท้าย ที่ดูเหมือนสีหน้าไม่ค่อยสู้ดีจนเขาอดห่วงไม่ได้


    "ไม่สบายหรือเปล่าเนี่ยเรา หืม?" จินยองพยายามจะเอื้อมมือไปแตะหน้าผากแฟนคลับสาวคนนี้ แต่เธอก็หลบมือของจินยองที่พยายามจะแตะหน้าผากเธอ จนจินยองต้องชะงักมือ


    "กลับไปกินข้าวกินยาด้วยนะ^^" ไม่รู้ว่าเธอไม่สบายจริงมั้ย แต่ด้วยความที่จินยองเป็นห่วงในตัวแฟนคลับเลยบอกไปก่อนดีกว่า


    "ค่ะ ... อะ..โอป้า รับนี่ไว้นะคะ เปิดอ่านที่บ้านล่ะ" เธอคนนั้นยืนซองจดหมายสีแดงให้เหมือนกับคนอื่นๆที่มีของขวัญแล้วก็มีซองจนหมายติดมือมาด้วย


    "ขอบคุณนะครับ" จินยองกล่าวขอบคุณก่อนที่เธอคนนั้นจะเดินลงเวทีไป


    ทำไมเธอคนนี้ไม่เขินเหมือนคนอื่นๆ เพราะส่วนใหญ่ที่ขึ้นมาบางคนก็มือสั่น หน้าแดง เขินจนทำไรไม่ถูก บางคนกลั้นความดีใจไว้ไม่อยู่ถึงกับกรี๊ดออกมาเลยทีเดียว แต่เขาก็ยังมองว่ามันดูน่ารักอยู่ดี


    "สำหรับงานแฟนมีตติ้งของผมครั้งนี้ ผม ... ไม่รู้สิผมตื่นเต้นนะ ฮ่าๆ ไม่คิดว่าจะมีแฟนคลับที่นี่เยอะขนาดนี้ .. ทุกคนน่ารักมากๆเลยละครับ ผมชอบนะ ^^"

     


    กรี๊ดด~

     


    "ผมขอขอบคุณทุกคนมากๆที่มาในวันนี้ และผมหวังว่าทุกคนจะสนุกกับการแสดงของผมถ้าไม่ชอบอะไรผมก็ขอโทษด้วยนะครับ ผมจะพยายามทำให้ดีขึ้นในทุกๆด้านทั้งการแสดง การร้อง การเต้น และอะไรอีกหลายๆอย่าง เป็นกำลังใจให้ผมด้วยนะครับ" 

     


    กรี๊ดด


    "อัลบั้มต่อไปของผมจะออกประมาณปลายปี ยังไงก็ช่วยรอกันหน่อยนะครับบ ^^~ ผมรักทุกคนเลย ซารางเฮ" ว่าแล้วจองจินยองก็ยกแขนขึ้นทำเป็นรูปหัวใจ เรียกเสียงกรี๊ดจากแฟนคลับทั้งฮอล์ ก่อนจะตามด้วยเพลงสุดท้ายของวันนี้

     


    "เพลงสุดท้ายแล้วนะครับ ~ หลังจบงานก็ให้ทุกคนกลับบ้านอย่างปลอดภัยนะครับ ~"

     

     

    "ทำดีมากจินยอง" หลังจากที่การแสดงจบลง จินยองก็เดินลงจากเวที และสต๊าฟที่อยู่บริเวณนั้นก็เอ่ยชมจินยองอย่างไม่ขาดปาก


    "ทุกคนก็สุดยอดเหมือนกันพี่" จินยองก็ชมกลับไปเช่นกัน ถ้าขาดตำแหน่งใดไปงานคงไม่ออกมาสำเร็จแบบนี้ 


    คนตัวเล็กเดินโค้งและกล่าวขอบคุณสตาฟมาตลอดทางจนถึงห้องแต่งตัว เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็เห็นร่างอันแสนคุ้นตาเอาเสื้อคลุมสูทสีดำด้านนอกขึ้นมาคลุมตัวแล้วนอนหลับสนิท เดินมานอนที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
    คงจะขับรถเหนื่อยสินะ ..


    ให้เขานอนต่อไปอีกหน่อยแล้วกัน 

     


    "คุณจินยองครับ กล่องของขวัญนี่ ..." สตาฟชายคนหนึ่งเดินถือกล่องพลาสติกที่ชมพูสดใสที่ด้านในมีของขวัญจากแฟนคลับยกเข้ามา จริงๆเขาอยากได้สีฟ้าแต่สตาฟบอกมันไม่มี -__-


    "เอาไว้ตรงนั้นก็ได้ครับ" จินยองบอกก่อนที่เขาจะวางกล่องของขวัญอยู่ตรงมุมข้างประตู จะยกมาวางตรงโซฟาเดี๋ยวก็ต้องยกกลับไปที่รถอีก 


    "จินยองคะ มาล้างเมคอัพค่ะ" ช่างแต่งหน้าคนเดิมเรียกจินยองไป เขาจึงเอากระเป๋าเสื้อผ้าไปเปลี่ยนด้วย เพราะระหว่างงานมีการเปลี่ยนประมาณ 1-2 ชุด

     


    เวลาผ่านล่วงเลยมาเป็นเวลาสามทุ่มกว่าๆ สตาฟคนอื่นเริ่มทยอยขนของกันออกไปแล้ว เหลือแต่จินยองที่พึ่งล้างหน้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จ คนตัวเล็กเดินออกมาก็ยังเห็นกงชานชิคนอนอยู่ นี่ถ้าเสื้อคลุมยังปิดหน้าเขาเหมือนตอนแรกนี่อาจจะคิดว่าเขาตายไปแล้วก็ได้ 


    "นี่กงชาน" จินยองพูดขณะที่เอาตีนสะกิดขาอีกคนไปด้วย -__-;


    "นี่ไอ้ลูกหมา"


    ถีบๆๆๆขา


    "เฮ้ยตื่นสิโว้ย" 

     


    "อืมมม =____= .... อ้าวพี่จินยอง งานจบแล้วหรอครับ" กงชานชิคพูดด้วยน้ำเสียงงัวเงียก่อนจะยันตัวขึ้นนั่ง ใบหน้าหล่อๆที่ตอนนี้ดูจะไม่ค่อยหล่อเท่าไหร่มองคนหน้าสวยอย่างตาปรือๆ

     

    "เออ จะกลับกันแล้วเนี่ย"


    "กี่โมงแล้วครับ ..."


    "จะสี่ทุ่มแล้ว"

     

    @____@ <<<< เมาขี้ตา

     

    "ไปๆไปล้างหน้าให้มันสดชื่นไป เอากาแฟซักกระป๋องมั้ยเผื่อง่วง" 


    "เอามาสิบกระป๋องเลยพี่ ขับรถกลับโซลกระป๋องเดียวเอาไม่อยู่หรอก"


    "เออๆเดี๋ยวไปแวะซื้อข้างหน้าก็ได้ มีมินิมาร์ทอยู่ โน่นอ่างล่างหน้าอยู่ข้างหลังโน่น" จินยองพูดแล้วชะโงกหน้าไปด้านหลัง กงชานชิกพยักหน้ารับก่อนจะเดินหายเข้าไปด้านหลัง

     

     

     

    "ทั้งหมด x,xxx วอนค่ะ" เสียงพนักงานทวนราคาของทั้งหมดที่กงชานแวะซื้อหลังจากขับรถออกมา มีทั้งกาแฟ ขนม ขนมปัง ซาลาเปา บลาๆ เอาไว้กินแก้หิวระหว่างทาง เขาหยิบเงินและส่งให้พนักงานสาว แต่เธอกลับจับมือเขาไว้


    "นาย .. ชื่ออะไรอ่ะ (.////.)"


    กรี๊ดเขินนน 


    "เอ่อ .. กงชานครับ" 


    "หล่อจังงงง  มีแฟนยังอ่ะ > _ <" 


    ดิ้นๆๆ 


    "มีแล้วครับ-__-;;"


    "ไหนอ่ะแฟน ไม่เห็นมีเลย"


    หันซ้าย (- -   ) หันขวา (   - -)

     

     


    เอาไงดีวะกู


    ถ้าตอบว่าไม่มานี่มันต้องคิดว่ากูไม่มีแน่ๆ


    โนวกูไม่เอาชะนี

     


    "อ้อ แฟนผมมานะ"


    "ไหนละคะ -__-"


    "แฟนผม .. อยู่ในรถอ่ะครับ" กงชานว่าก่อนจะเพยิดหน้าไปยังรถของเขาที่จอดอยู่ด้านนอก 


    "ไม่เชื่อฉันไม่เชื่ออออออ T _ T"

     


    "อ้อ มีถุงยางอนามัยขายมั้ยครับ" 


    หึ

    เล่นไม้นี้แม่ง

     


    "อะไรนะคะ ... =[]=;;"


    "ถุงยางอนามัยครับ ที่ผู้ชายใช้ใส่เวลามี"เซ็กส์กับแฟนน่ะ :)"


    โฮกก

    เชื่อแล้วจ้าว่ามีแฟน T _ T


    "มะ ... มีค่ะ"พนักงานสาวบอกเลิกลั่ก ก่อนจะผายมือมาทางด้านหน้าเขาที่มีกล่องคอนด้อมวางเรียงรายอยู่เป็นแผง นี่เขาต้องเลือกใช่มั้ย -__- เกิดมาไม่เคยใช้ ถถถถ

     


    "คุณพอจะรู้มั้ยครับว่าผู้หญิงชอบแบบไหน"

     


    "ไม่รู้ค่ะ T___T" 

     


    จะร้องไห้แล้วนะยะ 

     


    "งั้นแสดงว่าคุณยังไม่เคยอ่ะสิครับ ว้าเสียดายจังไม่มีคนเอา :P"

     

    กรี๊ดดด
    หยาบคาย นี่ถ้าว่าไม่เห็นแก่สถานที่และบริษัทที่เธอทำงานอยู่นี่ปาถุงกาแฟใส่หน้าไอ้หล่อโรคจิตนี้ไปแล้ว

     

     

    "กล่องสีชมพู !!! กลิ่นสตอเบอร์รี่ แบบเรียบ T _ T" เธอจึงจำเป็นต้องตอบไป ผู้หญิงคงต้องชอบอะไรๆหอมๆสิเนอะ ... แง

     


    "อ้อ เจอแล้ว" เขาพูดก่อนจะหยิบไปวางบนเคาท์เตอร์กล่องนึง เธอเช็คบาร์โค้ดแล้วรีบบอกราคารวมทั้งหมด กงชานยื่นเงินให้ก่อนจะยืนรอรับตังค์ถอน


    "แถวนี้มีม่านรูดหรือเปล่าครับ"


    "T [ ] T !!!!" น้ำตาจะแชร์ขอไหลนะคะ....


    "แฟนผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศ:)"


    "ขับตรงไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เจอค่ะ อยู่ข้างหน้านี้เอง T _ T" เธอบอกก่อนจะยื่นเงินทอนให้


    "โอกาสหน้า .. เชิญใหม่ .. นะคะ T _ T"


    ทำงานมาหลายปี เกลียดไอ้ประโยคนี้ก็คราวนี้แหละ 


    "ครับ :)" กงชานพูดและยิ้มอย่างกวนตีนก่อนจะเดินออกมาที่รถ

     

     


    "นี่ไปบดเมล็ดกาแฟมาหรือไง นานเป็นบ้า"จินยองบ่นอุบอิบก่อนจะหยิบถุงขนมที่กงชานยื่นให้เขาหลังจากที่หยิบกาแฟออกมาหนึ่งกระป๋อง และขับรถออกมา


    "ก็พนักงานอ่ะดิ มันจะจีบผม -__-"


    "จริงอะ" จินยองระเบิดเสียงหัวเราะ "ซาลาเปาฉันอยู่ไหนเนี่ย .. เฮ้ย!!!"


    "พี่ทำผมตกใจอีกแล้วนะ" 


    "นี่มันถุงยาง......ไม่ใช่หรอ ........" จินยองพูดช้าๆก่อนจะหยิบวัตถุทรงกล่องกระดาษสีชมพูแดงๆลายสตอเบอร์รี่ขึ้นมา กงชานที่ดูเหมือนจะลืมไปว่าซื้ออะไรมาจึงตกใจเหมือนกัน

     


    ลืมสนิทเลย


    "เฮ้ยพี่นั่นมัน ...= [ ] =! !"


    "ถุงยางอนามัยกลิ่นสตอเบอร์รี่……." จินยองหยุดพูดแล้วเพ่งดูที่กล่อง "แบบเรียบซะด้วย"


    เออกูรู้แล้ว T____T


    "คือเรื่องมันเป็นงี้พี่ เธอถามผมว่าผมว่ามีแฟนยัง ผมก็ตอบว่ามีแล้ว แต่เธอบอกว่าไหนแฟนผม ผมเลยแก้ตัวไปว่าแฟนผมอยู่ในรถนู่น" 


    "นายหมายถึงฉัน ? "


    "ก็แค่ไม้กันหมา..." กงชานยักไหล่


    "L " 


    "ก็นั่นแหละ เธอก็ยังไม่เชื่อ ผมเลย .. เอ่อ ..แกล้งซื้อมันมาไง หลอกให้เธอเชื่อว่าผมมากับแฟนจริงๆ" 


    -/////////-

     


    "โอย ตกใจหมด
    "ทำไม คิดว่าผมจะเอามาใช้กับพี่หรอครับ
    J " กงชานยิ้มเจ้าเล่ห์แล้วมองคนตัวเล็กผ่านกระจกหลัง พอดีกับที่จินยองก็มองเขาเช่นกัน


    "ตลกเหอะ..." 


    "ฮ่าๆๆ พี่หน้าแดงอ่ะ" 


    "เฮ้ย อะไร เปล่าซักหน่อย"


    "หน้าแดงใหญ่แล้วว"


    "อย่ามั่วน่า"


    "อยากลองมั้ยครับ ข้างหน้ามีม่านรูดอยู่อ่ะ"


    "อะ .. อะไรนะ"


    อ้ากกก
    ไอ้สมองนี่ก็หยุดจินตนาการซักทีสิโว้ย
    T//////T

     


    "ก็ผมถามเขาด้วยว่าแถวนี้มีม่านรูดมั้ย แฟนผมอยากเปลี่ยนบรรยากาศ:P"
    ถึงจะบอกว่าแค่ไม้กันหมาก็เถอะ
    แต่ตอนที่เขาพูดก็หมายถึงจินยองไม่ใช่หรอ
    T//////T

     


    "พอเลยกงชาน พออ อ้ากก ขับรถไปเลยถ้าไม่อยากตาย" จินยองว่าพลางผลักหัวคุณผู้จัดการสองสามที 
    "ผมอยากตายนะ"


    "ฮะ ?"


    "ตายคาอกพี่อ่ะครับ"


     

     

     

    กรี๊ดดดดดดดด
    จินยองอยากจะกรี๊ดด




    TBC.

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×