ตอนที่ 6 : My Bodyguard :: Episode 05
EPISODE 5
การที่คุณพ่อคุณแม่บังคับฉันให้มาเที่ยวกับว่าที่คู่หมั้นแบบสองต่อสองก็นับว่าแย่แล้ว แต่นี่...คุณแม่ดันโทรไปยกเลิกงานเดินแบบประมูลเพชรร้อยล้านของฉันอีก ระหว่างทางเราสองคนไม่ได้ทักอะไรกันเลย จะมีบ้างที่แวะกินข้าวตามร้านอาหาร เพราะโซลกับอินชอนคงเหมือนกันอยู่คนละทวีปน่ะ
“เฮ้อ..” ฉันพ่นลมหายใจออกมาเบาๆ ก่อนจะเอนหลังพิงเบาะที่นั่งข้างคนขับแล้วมองวิวรอบนอก
“อึดอัดหรือไง” เขาเป็นฝ่ายเปิดการสนทนาขึ้นก่อน
“ก็นิดหน่อย แค่รู้สึกหายใจไม่สะดวก” ยุนอาตอบทั้งๆ ที่ไม่ได้มองหน้าเขาเลยสักนิด มาร์คจึงค่อยๆ ลดกระจกลง เผยให้เห็นทุ่งหญ้า ท้องนาไกลสุดลูกหูลูกตา กลิ่นอายของบรรยากาศรอบๆ ทำให้ยุนอารู้สึกสดชื่นมากขึ้น
“คงเคยนั่งรถมาต่างจังหวัดครั้งแรกน่ะสิ ถึงได้รู้สึกสดชื่นมากมายขนาดนี้”
“เปล่าย่ะ ตอนเด็กๆ ฉันก็มากับพ่อแม่หลายครั้ง” เขารู้ ว่าหล่อนกำลังโกหกเขาอยู่ ชีวิตของสาวสวยที่มีชีวิตอย่างสุขสบายในบ้านหลังใหญ่โต มีคนรับใช้คอยปรนนิบัติรับใช้อยู่เป็นประจำ จะสะกดคำว่า ‘วิถีชีวิตแบบบ้านๆ’ ได้ยังไงล่ะ
ตลอดระยะเวลาสองเดือนที่อยู่ที่นี่ด้วยกัน คงมีเวลามากพอที่เขาและเธอจะได้เรียนรู้ซึ่งกันและกันด้วย เพราะจุดประสงค์ของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายคือให้หนุ่มสาวทั้งสองได้ทำความรู้จักกันมากขึ้น
“นี่...ตรงนั้นเป็นไร่องุ่นหรอ” ยุนอาชี้ไปทางไร่ที่เต็มไปด้วยผลไม้หลากหลายสี แต่เป็นชื่อเดียวกัน
“อืม...ไร่องุ่นพวกนั้นน่ะส่วนมากจะเก็บผลผลิตที่ได้มาบ่มไวน์ยังไงล่ะ” มาร์คอธิบายเสียยืดยาว จนยุนอาเริ่มเข้าใจทุกอย่าง และเข้าใจชะตากรรมตัวเองแล้วล่ะ ว่าถ้าไปอยู่กับเขาถึงสองเดือนจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง
แล้ววันงานประมูลเพชรมูลค่าร้อยล้านที่จัดขึ้นในโรงแรมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นโรงแรมของเพื่อนสนิทของคุณพ่อทิฟฟานี่ เนื่องจากว่าแม่ของยุนอาได้แคนเซิลงานไปแล้ว ทำให้ทางฝ่ายผู้จัดการต้องรีบหานางแบบคนใหม่มาแทน
ทิฟฟานี่อยู่ในชุดเดินแบบที่จะเรียกว่าเซ็กซี่สุดๆ เป็นชุดสำหรับเดินแบบฟินาเร่ ด้วยชุดเกาะอกสีดำ แพรวพราวด้วยเกล็ดระยิบระยับรอบๆ ตัว ชุดที่ยาวอยู่เหนือเข่า มีสร้อยเพชรที่เจ้าของงานใช้ประมูลสวมอยู่ที่คอของเธอ มันส่องแสงระยิบระยับ เรียกรัศมีความโดดเด่นได้เป็นอย่างดี สมกับที่เป็นเพชรเก่าแก่มูลค่าร้อยล้าน
“เพชรชุดนี้เข้ากับคุณทิฟฟานี่มากๆ เลยค่ะ” ช่างแต่งหน้าสาวประเภทสอง เอ่ยชมทิฟฟานี่อย่างไม่ขาดปาก
“ไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ ใครใส่ก็ดูดีหมด”
ทางบริเวณด้านนอกของงาน กลุ่มชายชุดดำประมาณสิบคนยืนกันอยู่ที่ประตูทางเข้าของงานเหมือนกับกำลังรอใครบางคน หรือคิดแบบในละครที่เคยดูก็คือเหมือนว่ากำลัง ‘มีแผนร้าย’ พวกมันแต่ละคนติดวิทยุสื่อสารขนาดเล็กจิ๋วไว้ที่ใบหู ก่อนจะแฝงตัวเข้าไปเป็นการ์ดในงาน
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีนะ” เสียงเข้มๆ เอ่ยถามทันทีที่ลงมาจากรถที่มีคนขับรถขับมาให้ ร่างสูงในชุดสูทสีดำสนิท ผูกเนกไทสีแดงยาวลงมาถึงหน้าท้อง ใบหน้าหล่อเหลาราวกับลูกครึ่งฝรั่ง เขาขยับเสื้อสูทของเขาให้เข้าที่ก่อนจะเดินนำการ์ดรักษาความปลอดภัยประจำตัวเข้าไปในงาน
‘เควิน วู’ ใบหน้าหล่อเหลาเคลือบไปด้วยรอยยิ้มที่เหมือนยาพิษหลอมละลายหัวใจของสาวๆ เหล่าบรรดานักข่าวแต่ละสำนักต่างก็กรูกันเข้ามาหวังที่จะสัมภาษณ์เขา แต่การ์ดรักษาความปลอดภัยสามารถกันนักข่าวออกไปได้จนหมด
ก็เขาเป็นคนดังแห่งวงการมือและยังเป็นลูกชายของเจ้าของงานประมูลเพชรครั้งนี้น่ะสิ!
“ทุกอย่างพร้อมหรือยัง” คริสหันไปถามลูกน้องของเขา
“เรียบร้อยครับคุณคริส ทุกอย่างเป็นไปตามแผน” การ์ดคนหนึ่งตอบ รอยยิ้มสะใจนิดๆ ระบายบนใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตร
“ดีมาก ฉันขอย้ำนะ อย่าให้คนที่ไม่เกี่ยวข้องโดนลูกหลงล่ะ” คริสกำชับลูกน้อง
“แหม น้องสาวพี่นี่ฮอตจริงๆ นะ มีนักข่าวสนใจตั้งมากมาย แถมยังได้สวมเพชรราคาร้อยกว่าล้าน” มินอากล่าว เมื่อเดินเข้ามาในห้องแต่งตัวที่ตอนนี้มีแค่เธอกับทิฟฟานี่เท่านั้น
“อิจฉาฉันงั้นหรอ” ทิฟฟานี่ยิ้มร้ายกาจถามตามแบบที่เธอถนัด
“ใครจะอิจฉาเธอกันล่ะ ฉันก็แค่มาดูว่าเธอยังอยู่ดีหรือเปล่า”
“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันยังมีแรงสู้กับเธอไปอีกนาน...มินอา” ทิฟฟานี่กล่าว
“งั้นก็สู้กับฉันให้ตลอดไปนะ คอยดูก็แล้วกันว่าระหว่างเธอกับฉันคุณพ่อจะเข้าข้างใคร” มินอาตบท้ายด้วยประโยคนั้นแล้วเดินจากไป ทิ้งให้ทิฟฟานี่ยืนกำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจ
‘ระหว่างเธอกับฉัน คุณพ่อจะเข้าข้างใคร’ คำพูดนั้นของมินอาย้ำอยู่ในหัวของฉันนานหลายวินาที หึ! ยังไงซะคุณพ่อก็ต้องมีความยุติธรรมบ้างล่ะ ฉันก็ลูกท่านเหมือนกันนะ ถ้าหากฉันทำอะไรผิดแบบที่ยัยมินอาใส่ร้าย คุณพ่อไม่มีทางฆ่าฉันทิ้งหรอก
“สวัสดีค่ะแขกท่านผู้มีเกียรติทุกท่าน ดิฉัน...คิม ฮโยยอน...รับหน้าที่เป็นพิธีกรในงานเดินแบบประมูลเพชรมูลค่าร้อยล้าน ณ โรงแรมแห่งนี้ค่ะ...” พิธีกรสาวสวยกล่าวเปิดงานอย่างเป็นทางการ
“สำหรับโชว์แรกในคืนนี้นะคะ ทางเราก็ขอเปิดงานด้วยวีทีอาร์ที่จัดทำขึ้นถึงความเป็นมาของเครื่องเพชรที่ทุกท่านกำลังจะได้ชมในไม่ช้านี้ค่ะ” ภาพจากวีทีอาร์ค่อยๆ ปรากฏสู่สายตาแขกในงานทุกท่าน ก่อนที่เหล่านางแบบจะมาแสตนด์บายที่หลังเวที
“ทุกอย่างรอดำเนินการอย่างเดียวครับคุณคริส” เสียงจากวิทยุสื่อสารของคริสที่แนบไว้ที่ใบหูดังขึ้น เป็นสัญญาณว่าในอีกไม่กี่นาทีแผนการของเขากำลังจะเริ่มขึ้น
วีทีอาร์ฉายจบลงแล้ว เปิดตัวด้วยเสียงเพลงสุดมันส์ที่เปิดโชว์ในแคตวอล์คเท่านั้น ได้ดังขึ้นเหล่านางแบบใส่เครื่องเพชรหลากสีต่างก็เดินอวดโฉมความงามของเครื่องเพชร ก่อนจะปิดลงด้วยการแสดงเดินแบบชุดฟินาเร่ของยูริกับทิฟฟานี่ แต่การแสดงก็ต้องหยุดชะงักลงเพราะว่า...
“ระวัง...!” เสียงของเซฮุน ปลุกให้ทิฟฟานี่หันมาสนใจน้ำเสียงของเขาและแขกในงานที่ดูเหมือนจะตกใจ ก่อนที่เขาจะกระโดดขึ้นมาบนเวทีคว้าทิฟฟานี่ให้ลงจากเวทีอย่างรวดเร็ว เหตุการณ์นี้สร้างความสะเทือนใจให้ทุกคนไม่น้อย เพราะว่าแชนเดอเลียที่แขวนไว้อย่างสง่างามร่วงลงมาจนเกือบจะทับร่างของทิฟฟานี่อยู่แล้ว ถ้าหากไม่มีคนมาช่วยเธอเอาไว้ทัน
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมแชนเดอเลียถึงร่วงลงมาได้” เสียงของคุณพ่อที่กุลีกุจอเดินมาดูทิฟฟานี่ด้วยความเป็นห่วง ตัวเธอเองไม่บาดเจ็บหรอกแต่คนที่มาช่วยเธอกลับได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย เพราะถูกเศษแก้วจากแชนเดอเลียบาดเข้าที่แขน
“เซฮุน นายไม่เป็นไรนะ” ทิฟฟานี่รีบรุดช่วยพยุงเซฮุนขึ้นมา เขาหันหน้ายิ้มให้แทนคำตอบ
“แค่เธอปลอดภัยก็ดีแล้ว ดูสิเนี่ย...อุตส่าห์ช่วยเอาไว้ยังไม่พาไปทำแผลอีก” เซฮุนเริ่มเข้าบทบาทเดิมของนิสัยตัวเองอีกครั้ง ก่อนที่จะมีสตาฟฟ์ประจำงานพาเขากับทิฟฟานี่ไปที่ห้องพยาบาล
“นี่เธอ เบาๆ มือหน่อยได้มั้ยเนี่ย” เซฮุนร้องออกมา เมื่อหญิงสาวเอาสำลีชุบแอลกอฮอล์แตะลงมาที่แผลสดของเขาที่ถูกเศษแก้วแชนเดอเลียบาด
“นี่ว่าฉันมือหนักใช่มั้ย” ทิฟฟานี่กำลังจะวีนใส่ แต่ก็ต้องนึกถึงว่าเขามาช่วยเธอเอาไว้
หลังจากทำแผลเสร็จหญิงสาวก็พาเขาเข้ามาภายในงานเหมือนเดิม ดูเหมือนทุกอย่างจะเริ่มเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ทางเจ้าของงานเองก็ออกมาจัดการทุกอย่างให้เรียบร้อยเหมือนเดิม เหตุการณ์ทุกอย่างจึงสงบลงอย่างรวดเร็ว
แต่ทว่า...กลิ่นของความไม่ปลอดภัยและสัญญาณของอันตรายกำลังคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ ตัวเลขสีแดงที่ถูกติดตั้งไว้ที่ใต้เวทีกำลังเริ่มนับถอยหลังภายในสามนาที ก่อนที่ไฟทุกดวงจะดับมืดสนิทลงพร้อมกันอย่างน่าสะพรึง “เซฮุน นายว่ามีอะไรเกิดขึ้น” ทิฟฟานี่เอ่ยประหวั่นพลางจับเสื้อของเขาไว้แน่น แสดงออกถึงความหวาดกลัวที่คุกคามจิตใจของเธอ ภาพเหตุการณ์วันแรกตอนที่เธอถูกล่อลวงหมายจะถูกทำร้ายวกกลับเข้ามาในความทรงจำอีกครั้ง
“มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่เนี่ย...นายปาร์ค ชานยอล” ยูริถามว่าที่คู่หมั้นพร้อมด้วยการ์ดนับสิบที่ยืนอยู่ข้างๆ เธอ ชานยอลโอบไหล่เธอไว้แน่นเพื่อให้เธอรู้สึกปลอดภัย
“ระเบิด...!” เสียงของแขกในงานคนหนึ่งเอ่ยขึ้นอย่างตกใจ ก่อนจะรีบวิ่งหนีออกไป บรรดาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย การ์ดประจำงานและเจ้าหน้าที่อีกหลายร้อยชีวิตกำลังวิ่งตรงไปยังจุดที่พบระเบิด และพบว่ามันกำลังระเบิดภายในหนึ่งนาที
“ระเบิดงั้นหรอ งานออกจะมีการรักษาความปลอดภัยที่รัดกุม ก่อนจัดงานก็ตรวจตราถี่ถ้วน หนูว่ามันแปลกๆ อยู่นะคะคุณพ่อ” มินอากระซิบถามผู้เป็นพ่อที่ยืนประหวั่นกวาดตามองหาทิฟฟานี่
“ถ้าคุณพ่อมองหายัยทิฟ ตอนนี้อยู่ในความดูแลของเซฮุนค่ะ” มินอาหันหน้าไปทางเซฮุนที่กำลังยืนคอยระวังให้กับทิฟฟานี่อยู่ คุณพ่อถอนหายใจอย่างโล่งอกที่ทิฟฟานี่ไม่ได้รับอันตรายอะไรมาก
“ตอนนี้ทางเราขอให้แขกผู้มีเกียรติทุกๆ ท่าน รีบออกไปจากตึกแห่งนี้โดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัยของพวกท่านเอง ทางเรากำลังประสานงานกับทางตำรวจค่ะ”
แต่แล้วกลิ่นควันฟุ้งเหมือนกลิ่นกระเทียมก็ระเบิดควันโขมงสีขาวกลุ่มใหญ่ฟุ้งกระจายบดบังไปทั่วทั้งห้องแห่งนี้ กลุ่มควันหนามากจนไม่สามารถมองเห็นอะไรได้เลย
“แค่กๆ เซฮุน คุณพ่อคะ อยู่ที่ไหนกัน” ทิฟฟานี่สำลักควันออกมาแล้วพยายามแหวกกลุ่มควันเดินหาการ์ดของเธอและคุณพ่อที่พลัดหลงกัน
“พวกนายเป็นใคร แล้วมาจับฉันไว้ทำไม” ทิฟฟานี่ดีดดิ้นเมื่อชายฉกรรจ์จำนวนสามคนต่างเข้ามารุมจับตนอย่างแน่นหนา จนหล่อนไม่สามารถขัดขืนได้เลย หญิงสาวพยายามตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ แต่ถูกมันคนหนึ่งโปะยาสลบแล้วอุ้มเธอออกไปทันที
กลุ่มควันหนาค่อยๆ จางออกไป เซฮุนพยายามตามหาตัวทิฟฟานี่พร้อมกับคุณพ่อของเธอ แต่ทว่า...นี่เป็นการวางแผนโจรกรรมเพชร!
“พวกมันวางแผนกันมาอย่างดิบดี เพื่อลักขโมยเพชรชุดนี้” คุณพ่อของทิฟฟานี่กล่าว หลังจากที่ทุกคนหนีออกมาจากตึกได้ครบกันหมด
“แล้วน้องจะเป็นยังไงบ้างคะคุณพ่อ หนูเป็นห่วงน้องจังเลยค่ะ” มินอาตีน้ำเสียงเศร้าแสดงอาการเป็นห่วงระคนตกใจอย่างถึงขีดสุด น้ำตาไหลรื้นออกมาจากขอบตาคู่สวยทั้งสองข้างจนคุณพ่ออดที่จะปลอบไม่ได้
“เดี๋ยวผมจะออกไปตามหาทิฟฟานี่เอง คุณลุงอยู่ทางนี้กับคุณมินอาดีกว่านะครับ” หยาดน้ำตาของมินอาเหือดหายไปเกือบจะทันทีเมื่อเซฮุนบอกว่าจะไปตามหาทิฟฟานี่ด้วยตัวเอง หล่อนปาดน้ำตาออกอย่างลวกๆ ก่อนจะเปลี่ยนการสนทนาของเซฮุน
“ฉันว่าให้การ์ดคนอื่นๆ ตามหาก็ได้ นายเองก็บาดเจ็บอยู่หนิ” มินอาพยายามเบี่ยงความสนใจ เซฮุนจ้องเธอด้วยสายตาแข็งกร้าวไม่ให้พ่อของมินอารู้ แล้วตอบกลับไป “ผมอยู่ในฐานะที่ต้องดูแลทิฟฟานี่ ความปลอดภัยของเธอสำคัญต่อผมมาก”
“ตามหาทิฟฟานี่ให้เจอนะ เดี๋ยวทางนี้ลุงกับเจ้าของงานจะจัดการเอง”
“ปล่อยฉันนะ พวกแกจับฉันมาไว้ทำไม ฉันบอกให้ปล่อยไง” ทิฟฟานี่ร้องโหวเหวกโวยวายเมื่อพวกมันทั้งสามคนอุ้มเธอมาขึ้นรถสีขาวคันใหญ่ที่ดูเหมือนจะเป็นรถเมอร์เซเดสรุ่นล่าสุด ลำพังพวกมันสามคนคงไม่มีปัญญาซื้อหรอก รถคันนี้ต้องเป็นของใครสักคนหรืออาจจะมีคนว่าจ้างพวกมันมาให้กระทำการอุกอาจแบบนี้กับลูกสาวมาเฟียอย่างทิฟฟานี่ ฮวัง
“หยุดโวยวายสักที ถ้าไม่หยุดจะตบด้วยกระบอกปืน” มันคนหนึ่งขู่พลางยกปืนขึ้นขู่หญิงสาว
“ใจเย็นๆ เว่ย เดี๋ยวนายจะโกรธเอา ถึงเมื่อไรค่อยจัดการให้เต็มที่” มันคนที่นั่งข้างๆ ฉันห้ามเพื่อนมันเอาไว้ แล้วรถที่ฉันถูกลักพาตัวมาก็ต้องจอดกะทันหันเมื่อรถแลมโบกินีสีขาวมาจอดตัดขวางเอาไว้
“ใครวะ มาขัดจังหวะจริงๆ” คนที่ขับรถอยู่เดินออกไปนอกรถพร้อมกับเพื่อนมันอีกคนหนึ่ง เมื่อเจ้าของรถคันนั้นลงมาจากรถฉันก็ต้องตกใจ คนที่มาช่วยฉันคือ “เซฮุน” ฉันสบถชื่อเขาออกมาเบาๆ อย่างตื้นตันใจที่เขามาช่วยเธอเอาไว้ทันเวลาก่อนที่เธอจะถูกพวกมันทำร้าย
“เฮ้ย! ไอ้หนุ่ม ถอยรถออกไปจะดีกว่า พวกพี่รีบ” ชายฉกรรจ์คนนั้นบอกเซฮุน แต่เขาหันมาชำเลืองมาฉันในรถที่ถูกจับเป็นตัวประกันอยู่ในนั้น
“เห็นทีจะไม่ได้ว่ะ...ในเมื่อฉันมารับยัยนั่นกลับไปพร้อมกับฉัน” เซฮุนกล่าวยียวน
“ยัยนั่นเป็นของพวกกู มึงถอยออกไปไอ้หน้าอ่อน” เซฮุนทำท่าจะเดินเข้ามาหาฉัน แต่ก็ถูกมันสองคนผลักแล้วจู่โจมเข้าอย่างรวดเร็ว เขาเลี้ยวตัวหลบทันแล้วให้หมัดต่อยเข้าไปที่ท้องน้อยก่อนจะหมุนตัวใช้ศอกกระทุ้งไปที่ท้ายของมันคนที่ขับรถมาจนล้มลงไปกับพื้น ส่วนมันอีกคนก็ทำท่าจะมาจู่โจมเช่นกัน แต่เขาก้มตัวหลบแล้วถีบมันออกไปติดผนังรถที่ฉันอยู่ข้างใน แล้วชกเข้าไปหลายหมัดอยู่เหมือนกัน
เซฮุนหยิบกระบอกปืนจากบั้นท้ายขึ้นมาถือไว้กับตัวก่อนจะจ่อไปที่มันคนที่สามที่ลุกจากตัวฉันหมายจะไปจัดการเซฮุน แต่ถูกเซฮุนใช้กระบอกปืนตบท้ายทอยไปจนสลบเหมือด แล้วพาฉันหนีออกมาอย่างรวดเร็ว
“ขอบใจนายจริงๆ นะที่มาช่วยฉันไว้ทัน ถ้าไม่อย่างงั้นฉันคงโดนมันทำอะไรบ้างก็ไม่รู้” ทิฟฟานี่โผเข้ากอดทั้งน้ำตา ทั้งตื้นตันใจ ดีใจอย่างถึงที่สุด แต่ในขณะเดียวกันก็แอบเสียใจลึกๆ ที่ผู้ชายที่เธอไม่ค่อยชอบหน้ากลับมาช่วยเธอไว้แทบทุกครั้งแบบนี้
เขาแอบอึ้งไปนิดนึงแต่ก็แอบสงสารเธอไม่ได้ ถึงแม้ว่าความรู้สึกของตนเองที่เคยมีต่อหล่อนจะเป็นแบบไหน แต่เขาก็สัญญาว่าจะไม่ปล่อยให้เธอตกอยู่ในอันตรายแบบนี้อีก
สถานการณ์เริ่มเข้าสู้สภาวะปกติ ยูริที่เปลี่ยนชุดเสร็จเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกมาบริเวณหน้าโรงแรมที่ตอนนี้เต็มไปด้วยเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยและตำรวจมากมายเดินเพ่นพ่านกันชุลมุนวุ่นวายไปหมด
ชานยอลได้เอารถของเขาที่มีการ์ดขับรถให้มาจอดรับเธอที่หน้าโรงแรม ทำให้วันนี้หญิงสาวต้องกลับบ้านโดยมีเขาไปส่ง ไม่งั้นเขาก็จะอ้างสารพัดเหตุผลที่ต้องไปส่งเธอที่บ้านจนได้
“ขอบคุณมากที่มาส่ง” ยูริกล่าวสั้นๆ แล้วเดินเข้าบ้านไป แต่เขาก็ลงมาคว้าแขนเธอไว้ก่อน
“นี่ไม่คิดจะมีของตอบแทนเลยหรือไง”
“ก็ขอบคุณไปแล้วไง นายต้องการอะไรอีก” ยังไม่ทันตั้งตัว ชานยอลก็รีบจู่โจมริมฝีปากของเธออีกเป็นครั้งที่สอง รสสัมผัสที่แผ่วเบาและอ่อนหวานกว่าครั้งแรกที่เธอได้สัมผัสจนเธอเริ่มเข่าอ่อนอีกครั้ง จนกระทั่งเขาถอนจูบออกอย่างแผ่วเบา
“วันไหนที่ฉันเจอเธอ หรือเราไปไหนด้วยกัน จูบนี้คือของตอบแทนนะ”
******************************************************************
กลับมาอัพแล้วนะคะ คือเรื่องนี้ไรต์อัพได้แค่สัปดาห์ละ 1 ตอนเท่านั้นน่ะ อย่าโกรธน้าาาาาาาาา #ยังดีกว่าไม่อัพอ่ะ
-ตอนนี้พระเอกของเรากำลังสับสนกับความรู้สึกในใจอยู่ (โดยเฉพาะเซฮุน เมื่อเจอทิฟสวมกอดแบบไม่ทันตั้งตัวอย่างนั้น5555) ส่วนชานยอลของเราก็แอบหื่นเน๊อะ มีการขโมยจุ๊บพี่ยูลด้วยอิอิ
ปล. ตอนนี้เตรียมหมอนหรือผ้าห่มมาจิกเลยค่ะ เพราะมาร์คยุนกำลังจะพาไปตีตั๋วเที่ยวฟินแลนด์กันนนนนนน >O< ใครอยากไปฟินต่อก็เจอกันอีกอาทิตย์หน้านะคะ เพราะสงกรานต์ไรต์เตอร์กลับ ตปท.ค่ะ
-หลายคนงงๆ ใช่มั้ย ว่าทำไมยุนอาไม่ปรากฏในตอนนี้ (ให้ไปอ่านในตอนก่อนหน้าค่ะ) แล้วก็จะบอกว่านิยายเรื่องนี้มีความยาวตอนเยอะมากกกกกกกกกกกกกกก นะคะ ไรต์เขียนจบ แต่อัพไม่จบค่ะ เอ๊ะ! ยังไงล่ะ เพราะว่าไรต์เตอร์จะทำหนังสือทำมือขายค่ะ เหมือนกับส่ง สนพ. จะมาว่าไม่ได้นะคะ เพราะไรต์แจ้งตอนนี้แล้วนะคะ ไรต์จะอัพในนี้อีกประมาณสิบถึงยี่สิบตอนนะ แล้วจะแจ้งการทำหนังสือ ใครสนใจมั่ง??? ทักมาเลยค่ะ แล้วจะเปิดให้สั่งซื้อนะคะ
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ดีนะฮุนมาช่วยฟานี่ทัน
รอนะค่ะ