ตอนที่ 10 : My Bodyguard :: Episode 09
9
หึง!
“อย่ามาฉวยโอกาสกับฉันนะยะ” เมื่อสบโอกาสฉันก็ถีบที่จุดอ่อนไหวของเขา ก่อนจะกระเด้งตัวขึ้นจากเตียงนอนหลบหนีสิงโตที่น่ากลัวอย่างเขา
แต่ฉันก็ชักจะไม่มั่นใจแล้วล่ะว่าฉันจะปลอดภัยหรือเปล่า...
“ฉันไม่เสียรู้ให้นายฟรีๆ หรอกย่ะ แล้วเตียงนั้นน่ะฉันจะนอนคนเดียว นาย
มานอนที่โซฟาแทนฉันเลยนะ” ฉันออกคำสั่งอย่างเป็นทางการ ทว่า...คนถือตัวก็ย่อมถือตัวอยู่วันยังค่ำ อย่างหมอนี่ยังไงล่ะ คนกวนประสาท!
แต่เขาก็ไม่สนใจหรอก...จะให้ฉันทำยังไงได้ล่ะ ไม่เคยนอนร่วมห้องกับผู้ชายแปลกหน้ามาก่อนหนิ ถึงจะเป็นคู่หมั้นกันก็ตาม แต่ใช่ว่าฉันต้องเกรงใจหรือเกรงกลัวนะ นี่พ่อกับแม่กำลังเล่นอะไรกับฉันอยู่เนี่ย!
ขลุกตัวอยู่แต่ในห้องทั้งวันยิ่งหน้าเบื่อเข้าไปมากๆ ฉันเลยคิดจะออกไปกินลมชมวิวข้างนอกโรงแรมหน่อย มาถึงต่างจังหวัดทั้งที แถมสถานที่สวยงามขนาดนี้ ถ้าไม่ได้ท่องเที่ยวก็แย่เลยน่ะสิ ดังนั้นฉันจึงเปลี่ยนเสื้อเป็นเดรสลายดอกไม้สีหวานให้เข้ากับบรรยากาศ แล้วหยิบกระเป๋าสตางค์เดินออกไปจากห้องพัก แล้วกดลิฟท์ลงมาชั้นล่างสุดของโรงแรม
ดอกไม้หลากหลายสีถูกปลูกเรียงรายกันอย่างสวยงาม ภูเขาที่เรียงสลับซ้อนทับกันเป็นลูกๆ ป่าไม้และต้นไม้ร่มรื่นเขียวขจี เหมือนบรรยากาศสวยหรูท่ามกลางป่า เหมาะแก่การขี่จักรยานชมวิวมากๆ
อ้อ! ลืมบอกไป ถ้าทุกคนสงสัยว่าชานยอลหายไปไหน? ทำไมไม่ลงมากับฉัน? ก็เพราะว่านายนั่นกำลังนอนหลับด้วยความเหนื่อยน่ะสิ ฉันเลยพอมีเวลาปลีกตัวมาเที่ยวคนเดียวยังไงเล่า โฮะๆ ฉันเดินชมไปเรื่อยเปื่อย ก่อนจะเดินชนเข้ากับผู้ชายคนหนึ่งแบบไม่ตั้งใจเข้าไป เขาคนนั้นยื่นมือมาช่วยพยุงฉันขึ้นไปอย่างมีมารยาท
“คริส...นายมาที่นี่ด้วยหรอ” ยูริทักทายชายหนุ่มตรงหน้าอย่างคุ้นเคย
“นั่นเธอเหรอน่ะยูริ” คริสเองก็มีอาการไม่ต่างจากยูริหนักหรอก อะไรจะบังเอิญขนาดนั้นกันเนี่ย ที่จู่ๆ เพื่อนสนิทสมัยมัธยมปลายจะมาเจอกันโดยบังเอิญขนาดนี้
ยูริยังคงเหมือนเดิมจริงๆ นั่นล่ะ ลุคห้าวๆ แต่ยังคงความสวยเซ็กซี่เอาไว้ในตัวอย่างไรล่ะ
“ก็ใช่น่ะสิ แล้วนายมาเที่ยวที่นี่หรอ” ยูริถามเพื่อนเก่า
“อืม...พอดีอยู่บ้านเบื่อๆ เลยมาเที่ยวที่นี่ แต่นึกไม่ถึงว่าจะได้เจอเธอ แล้วเธอมาคนเดียวหรอ”
“พอดีมากับว่าที่คู่หมั้นน่ะ ฉันลงมาเดินเล่นคนเดียว”
“งั้นฉันเดินเที่ยวเป็นเพื่อนเธอแล้วกัน พอดีอยากมีเพื่อนคุยด้วยน่ะ เราไปหาอะไรกินแล้วคุยกันดีกว่าเนาะ”
“ไปสิ”
ฉันกับคริสเดินเข้ามาในร้านขายไอศกรีมร้านหนึ่งซึ่งอยู่ติดกับทะเล เวลานี้ไม่ค่อยมีคนพลุกพล่านมากเท่าไหร่ เราสองคนเลยถามไถ่สารทุกข์สุขดิบกันตามประสาเพื่อนเก่า แต่คริสนี่ก็เปลี่ยนไปเยอะเหมือนกันนะ ดูดีขึ้นกว่าแต่ก่อนซะอีก จนฉันอดคิดไม่ได้ว่าทำไมเขาต้องมาทำงานพวกบริหารโรงแรมต่อจากพ่อของเขาด้วย ทั้งที่เขาสามารถเป็นนายแบบได้เลยนะเนี่ย
“แล้วนี่นายครองตัวเป็นโสดมาตั้งนาน ไม่สนใจสาวๆ คนไหนเลยหรือไง”
ยูริแกล้งถามคริส ทั้งที่รู้คำตอบว่าคริสน่ะไม่คิดที่จะมีความรักหรอก เพราะความรักจะกลายเป็นอุปสรรคในการทำงานของเขายังไงล่ะ
“ไม่อ่ะ...ความรักมันคืออุปสรรคสำหรับฉัน” คริสตอบอย่างสบายใจ
“หรอ...กินกันต่อเถอะ”
ผมตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงียสุดๆ พบว่ายัยตัวแสบที่บังอาจหนีผมไปอย่างควอน ยูริก็ไม่อยู่บนห้องเช่นเดียวกัน ผมเดินหาเธอไปทั่วห้องก็ไม่เจอ เลยตัดสินใจลงไปที่ล็อบบี้ชั้นล่างสุดของโรงแรมเพื่อถามว่าเธอหายไปไหน พนักงานก็บอกว่าเธอออกไปเดินเล่นข้างนอกตั้งนานแล้ว
ผมเดินออกมาจนถึงริมชายทะเลแห่งหนึ่ง ข้างๆ มีร้านไอศกรีมเล็กๆ อยู่ ผมเห็นเธอนั่งอยู่กับผู้ชายท่าทางเป็นลูกครึ่งฝรั่ง ตัวสูงพอๆ กับผม กำลังนั่งคุยและกินไอติมอยู่กับยูริในร้านแห่งนั้น
ผมทำทีเดินเข้าไปในร้านแล้วนั่งโต๊ะฝั่งตรงข้ามกับเธอ สังเกตเห็นสองคนนั้นกำลังคุยกันอยู่อย่างสนุกสนาน ผมจึงเอะใจได้ว่าผู้ชานคนนั้นคือคริส ลูกชายเจ้าของโรงแรมประมูลเพชรร้อยล้านที่ยูริไปเป็นหนึ่งในนางแบบด้วย อารมณ์ของผมเกือบจะขาดผึงอยู่แล้วเชียว ถ้าผมสะกดกลั้นไม่เป็นล่ะก็...ผมคงจัดการไอ้บ้านั่นสักหมัดแน่ๆ...!
ยูริเองก็หันมาทางซ้ายแล้วเจอผมที่กำลังมองเธอด้วยความโกรธอยู่พอดี
เธอถึงกับเกือบจะสำลักน้ำอยู่แล้วเชียว
“ที่รัก...หายไปไหนมาตั้งนาน ผมตามหาแทบแย่” ชานยอลเดินมุ่งตรงมาทางยูริ พยายามปรับสีหน้าเก็บอารมณ์โกรธไว้ให้ได้มากที่สุด ก่อนจะโอบไหล่เธออย่างแสดงความเป็นเจ้าของ
“ยูริ นี่ว่าที่คู่หมั้นเธอหรอ”
“ครับ แล้วผมก็ไม่ค่อยชอบให้ใครมายุ่งกับแฟนผมด้วย ผมขอพาแฟนผมกลับก่อนนะครับ”
ผมลากยูริออกมาจากร้านนั้นด้วยอารมณ์ หึง หวงและโกรธมากที่สุดที่เห็นเธออยู่กับผู้ชายคนอื่นที่ไม่ใช่ผม!
“นี่นาย ฉันเจ็บนะ” ยูริพยายามสลัดข้อมือออกจากการจับกุมของผม หึ! ก็แน่ล่ะสิ เธอแค่ต้องหมั้นและแต่งงานกับผมเพราะเรื่องทางครอบครัวเท่านั้นหนิ แต่ในชีวิตจริงเธอคงชอบไอ้หน้าฝรั่งนั่นมากสินะ แต่เสียใจด้วย...ผู้หญิงคนไหนที่ผมตีตราเป็นเจ้าของ ผมไม่มวีวันให้คนอื่นมาคาบไปแน่ๆ
“ทีกับไอ้หน้าฝรั่งนั่นยอมให้มันถูกเนื้อต้องตัวงั้นสิ” ผมถามแล้วเหยียดยิ้มหยันใส่หล่อน
“คริส เขาเป็นเพื่อนฉันสมัยเรียนมัธยมกัน แล้วเราก็เพิ่งเจอกันตอนนี้ เราเป็นแค่เพื่อนกันเฉยๆ ไม่ได้มีอะไรอย่างที่นายคิด” ยูริพยายามอธิบาย เพราะตอนนี้ชานยอลเหมือนกำลังโมโหมากขึ้นเรื่อยๆ จนน่ากลัวแล้ว
“...”
“และที่สำคัญ เราก็แค่ไปนั่งกินไอศกรีมและคุยถามสารทุกข์สุขดิบกันตามประสาเพื่อนเก่าเท่านั้น...นายก็ไม่ฟังอะไรเลย ลากฉันออกมาจากร้านนั้นแล้วก็ถามเหมือนกับว่าฉันเป็นผู้หญิงอย่างว่า...”
“...”
“จริงอยู่ที่ว่าฉันอาจจะไม่ชอบนายในบางเรื่อง แต่เรื่องที่เป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวฉัน ฉันไม่เคยทำให้พ่อแม่เสียใจ...แม้แต่เรื่องที่เราสองคนต้องหมั้นและแต่งงานกัน ถ้าหากแค่นี้นายยังไม่เข้าใจฉัน แล้วในอนาคตถ้าแต่งงานกันเราจะอยู่กันได้หรอ”
“...” ชานยอลเงียบไป ไม่รู้จะสรรหาคำพูดใดมาพูดต่ออีก ในเมื่อเขารู้สึกได้ว่าสิ่งที่ยูริกล่าวมาทั้งหมดล้วนมาจากใจจริง และเขาเองที่คิดพลาดไป เอาอารมณ์หึงมาอยู่เหนือเรื่องราวทั้งหมด ทำอย่างกับว่าเธอเป็นลูกไก่ในกำมือที่เขาจะทำอะไรกับเธอก็ได้ แต่คนที่ไม่เคยเข้าใจหัวใจใครอย่างเขาก็คงไม่มีวันเข้าใจใครง่ายๆ จนกระทั่งวันนี้...ที่เขาได้เข้าใจถึงหัวอกของคนอื่น
คนทุกคนมีอิสรเสรีในชีวิตของตนเอง และการที่คนเราจะอยู่ร่วมกันได้นั้นต้องอาศัยความเข้าใจซึ่งกันและกัน รวมถึงเหตุผลเท่านั้นที่จะพยุงให้ทุกคนอยู่รอด
...แต่ทำไมเขาต้องแคร์ความรู้สึกของยูริล่ะ...
...หรือว่าเขาหลงรักเธอซะแล้ว...
ใครที่กำลังรอมาร์คยุนอยู่ ตอนหน้ามาแน่นอนจ้า ถ้า
อยากรู้ว่าจะเป็นไงต่อ อย่าลืมติดตามนะ เพราะเรื่อง
ของทิฟฟานี่กับเซฮุน ยังคงเป็นปริศนาคลุมเครืออยู่ใน
ใจทุกคนว่าจะลงเอยรักกันมั้ย อันนี้ต้องดูกันต่อไปค้ะ
รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนจ้ะ เรื่องนี้ไรต์เตอร์จะอัพประมาณ 12-13 ตอน ก็ไม่อัพแล้วนะ เพราะจะทำเป็นหนังสือ
"เรื่องนี้อัพไม่จบนะคะ แต่รับรองว่าไรต์เตอร์ทำหนังสือและทุกคนติดตามในหนังสือจนจบ จะได้ข้อคิดดีๆ มากมายค่ะ
...ถ้ายังไงก็ฝากติดตามให้ถึงตอนจบในหนังสือด้วยนะ...
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

รอมาร์คยุนค่ะ
รอนะค่ะ