ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ครั้งที่2 รักแรกพบของใครบางคน
ครั้งที่2
รักแรกพบของใครบางคน
เช้าวันรุ่งขึ้นวงจรชีวิตเริ่มต้นอีกครั้ง แต่เธอไม่อาจล่วงรู้เลยว่าวันนี้ ชีวิตของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล หญิงสาวเดินออกมาทานอาหารกลางวันกับเพื่อนร่วมงาน ขณะที่กำลังทานอาหารอยู่นั้น สุรางคณา เพื่อนสาวของเธอก็สะกิดให้เธอดูผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่ที่โต๊ะฝั่งตรงข้าม
“ป๋อม ดูผู้ชายคนนั้นสิ หน้าค้ม คม คิ้วก็ด้ก ดก หล่อจังเลยเนาะ”
ปาริชาตเงยหน้าขึ้นมามองตามที่สุรางคณา จริงแฮะ ผู้ชายคนนี้หน้าตาหล่อ หน้าคม คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ผิวขาว ปากแดงเชียว แถมแต่งตัวดีซะด้วยสิ เสื้อเชิ้ตสีฟ้านั้นดูเข้ากันเหลือเกินกับเน็กไทสีน้ำเงินเข้ม โดยรวมแล้ว เขาดูเหมือนชายหนุ่มในฝันของสาวๆ หล่อเนี๊ยบทุกกระเบียดนิ้ว
“เธอรู้หรือเปล่า เขาคนนี้นี่นะ คือคุณธิเบต ธนกุล สุดยอดหนุ่มโสดในฝันของสาวๆปีล่าสุดเลยนะ”
พัชราเอ่ยถึงชายหนุ่มโต๊ะตรงกันข้ามด้วยนัยย์ตาเพ้อฝัน นามสกุลธนกุลนี่เอง ที่ทำให้ปาริชาตรู้สึกสะดุด
“แล้ว...เนปาล ธนกุลเป็นอะไรกับเขา”
หญิงสาวถามเพื่อนเสียงเบา หัวใจเต้นแรง
“อ๋อ เป็นน้องชายคุณธิเบตน่ะสิ นั่นก็หล่อไม่แพ้พี่ชายเลยนะ หน้าหวาน ตาก็หวาน แต่ไม่ไหว เจ้าชู้จังน่ะ ควงผู้หญิงไม่ซ้ำคนเลย ไม่เหมือนพี่ชาย”
พัชรายังคงเพ้อฝันถึงเจ้าของนามธิเบตต่อ เลยไม่สังเกตถึงแววตาที่ไหววูบเมื่อได้รับคำตอบนั้น พี่ชาย พี่ชายเหรอ นี่ปลายมีพี่ชายด้วยเหรอเนี่ย ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยล่ะ หลังจากนั้น ปาริชาตไม่ได้เป็นอันทำงาน เหม่อลอยครุ่นคิดถึงเจ้าของใบหน้าคมเข้มนั้นอยู่ตลอด เขาเป็นพี่ชายของปลาย ปลายคนที่ใจร้าย ทำร้ายจิตใจหล่อน ป่านนี้ ปลายก็คงยังไม่รู้สึกอะไรเลยสินะกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำกับหล่อน
เขายังคงใช้ชีวิตได้เป็นปกติ ยังมีผู้หญิงอื่นได้อีก ในขณะที่หล่อน แม้จะบอกกับตัวเองว่า ลืมเขาได้ แต่ไม่เคยมีใครเข้ามาแทนที่เขาเลยซักคนเดียว ด้วยหวาดระแวงกับความรักเกินกว่าจะจะคบใครใหม่ หล่อนอยากให้เขารู้สึก อยากให้เขารู้สึก เจ็บปวดอย่างที่เธอรู้สึกบ้าง แต่จะทำอย่างไรล่ะ จะทำอย่างไร ที่จะทำให้เขาเป็นแบบนั้น
สุดท้าย เมื่อสมาธิในการทำงานไม่มี ปาริชาตจึงออกมาก่อนที่งานจะเลิก เดินเหม่อลอยจนมองไม่เห็นรถที่เลี้ยวออกมาจากซอยข้างหน้า จึงโดนเฉี่ยวล้มลงไปกลิ้งกับพื้น
“โอ๊ย!!”
ปาริชาตร้องด้วยความเจ็บปวดเพราะแขนขวาครูดกับพื้นถนนจนถลอกปอกเปิก เจ้าของรถเบนซ์สีขาวจอดรถลงมาดูอาการทันทีอย่างตกใจไม่คิดว่าเขาจะขับรถไม่ดูตามาตาเรือ ผู้หญิงทั้งคนทำไมมองไม่เห็นวะ ธิเบตด่าตัวเองอย่างหัวเสีย
“คุณครับ เป็นยังไงบ้าง”
ปาริชาตเงยหน้ามองผู้ที่ขับรถเฉี่ยวหล่อนเต็มตา
“ฉัน...ไม่เป็นไร”
เมื่อเห็นว่าใครเป็นผู้เฉี่ยวหล่อนจนลงไปกอง แถมข้อศอกก็ถลอกปอกเปิก แสบจนน้ำตาไหลอาการเจ็บก็หายไปชั่วขณะ
“ไม่เป็นอะไรได้ยังไงครับ ดูซิเลือดคุณออกนี่”
ธิเบตเผลอดุหล่อนอย่างไม่ชอบใจที่ทำปากแข็งบอกไม่เป็นอะไร ทั้งที่เลือดไหลย้อยเต็มศอก ชาหนุ่มพยุงเธอลุกขึ้นพลางดึงไปที่รถแต่ปาริชาตไม่ยอมไปตามแรงรั้งทำเอาธิเบตเริ่มหัวเสีย
“คุณครับ กรุณาอย่าขัดขืนได้ไหมครับ ผมเป็นคนทำให้คุณเจ็บ ก็ต้องรับผิดชอบครับ”
“ฉันไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากคุณค่ะ กรุณาปล่อยได้แล้ว”
ปาริชาตบอกเขาเสียงเย็น แววตาที่มองเขาเหมือนจะโกรธขึ้นมาแว่บนึง แล้วก็ปรับเป็นปกติ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใดที่ทำให้เขาเกิดอาการอยากจะเอาชนะผู้หญิงคนนี้ซะจนคิดทำอะไรที่เขาคาดคิดว่าจะทำได้ นั่นคือตัดสินใจอุ้มเธอขึ้นรีบเดินไปใส่รถทันทีไม่สนใจอาการดิ้นรนร้องโวยวายของเธอเลยแม้แต่นิด กลับจุ๊ปากเป็นเชิงห้ามเธอให้เงียบซะอีก
“ชู่ อย่าร้องเสียงดังสิคุณ ไม่อายชาวบ้านเขาหรือไง คุณนี่”
และนั่น ทำให้ปาริชาตเงียบเสียงลงได้ แต่ก็กระซิบบอกเขาอย่างไม่ยอมแพ้
“ฉันไม่อาย”
“แหม นี่ขนาดว่าไม่อายยังพูดซะเบา”
ธิเบตแหย่ผู้หญิงในอ้อมกอดยิ้มๆก่อนจะเปิดประตูรถยัดเธอเข้าไปไว้จนได้โดยที่ปาริชาตนั้นก็เจ็บเกินกว่าที่จะขัดขืนเขาอีก ชายหนุ่มจึงพาเธอมาโรงพยาบาลพื่อดูอาการ ซึ่งเธอก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนักนอกจากแผลถลอกที่ข้อศอกกับเคล็ดขัดยอกนิดหน่อย และเมื่อออกจากโรงพยายบาล ธิเบตก็อาสาที่จะไปส่ง
“บ้านคุณอยู่ตรงไหน ผมไปส่ง”
“ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้”
ปาริชาตหันควับมาตอบเขาเสียงขุ่นทันทีโดยที่ไม่ต้องคิดมาก เขาคือพี่ชายของผู้ชายใจร้ายคนนั้น หล่อนยังโกรธเขาอยู่ และพาลไม่ชอบหน้าพี่ชายเขาด้วย ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากพบเจอ ไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากเขาอีก แต่ธิเบตนั้น ไม่ทราบเรื่องราวอะไรเลย จึงแปลกใจยิ่งนักกับท่าทีของเธอ
เขาไม่ได้เข้าข้างตัวเองหรอกนะ ว่าตัวเขาเองนั้น หน้าตาดีมากเพียงใด และไม่เคยมีผู้หญิงที่ไหนแสดงอาการรังเกียจเขาจนออกนอกหน้าเพียงนี้ มีแต่จะส่งสายตาให้หรือไม่ก็แอบมองด้วยความชื่นชม ธิเบตกอดออกมองหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ยอมทำตามความต้องการของหล่อน
“ผมไม่รู้นะว่าคุณไม่ชอบหน้าผมเรื่องอะไร แต่วันนี้ คุณช่วยกรุณารับความช่วยเหลือจากผมด้วยเถอะ ผมเป็นคนทำให้คุณเจ็บตัวแบบนี้ ผมต้องรับผิดชอบ หลังจากนั้น คุณจะเอายังไงก็เรื่องของคุณแล้ว ผมจะไม่เซ้าซี๊คุณอีก”
แหม คุณธรรมสูงส่งจริงๆเลยนะ พ่อคุณ ปาริชาตแอบค่อนแคะเขาในใจ ก่อนจะพยักหน้าส่งๆพลางบอกทิศทางกลับบ้านกับเขา จะได้จบๆซักที ไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีก เมื่อรถจอดสนิท ปาริชาตก็รีบเดินลงจากรถทันทีอย่างไม่ต้องการเสียเวลาโดยที่ปาริฉัตรเดินออกมารับเพราะได้ยินเสียงรถ ธิเบตที่เดินตามลงมาถึงกับตะลึงมองปาริฉัตรตาค้าง นี่ นี่เธอมีฝาแฝดด้วยหรือนี่ เป็นฝาแฝดที่คล้ายกันมาก ทั้งรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ ปาริฉัตรมองพี่สาวอย่างตกใจเมื่อเห็นสภาพของเธอ
“ป๋อม ตัวไปทำอะไรมา”
“ผมขับรถไม่ดีจนเฉี่ยวคุณผู้หญิงครับ”
ธิเบตเป็นผู้ชิงตอบแทนปาริชาต ผู้เป็นน้องหันควับมามองชายหนุ่มแว่บนึงอย่างโกรธเกรี้ยว แต่เมื่อเห็นว่าพี่สาวไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วเขาก็รับผิดชอบอย่างดี ก็อ่อนลง
“ยังไงก็ขอบคุณคุณมากนะคะ ที่ไม่ขับรถหนีไป ยังไงก็เชิญเข้ามาดื่มน้ำก่อนแล้วกัน”
ปาริฉัตรขอบคุณพลางเชิญเขาเข้าบ้านตามมารยาทเจ้าของบ้านที่ดีแต่พี่สาวกลับขึงตาใส่ก่อนจะจิกเนื้อที่แขนหล่อนอีกทีจนเผลอร้องออกมา
“โอ้ย ป๋อม”
“เป็นอะไรครับ”
ชายหนุ่มเดินไปเลื่อนรถไม่ทันเห็นการประทุษร้ายน้องสาวของปาริชาต จึงถามอย่างสงสัยพลางมองหน้าที่เหยเกของแฝดน้อง
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“เอ่อ เปล่าค่ะ เชิญสิคะ”
ปาริฉัตรไม่ฟังเสียงพี่สาว เชิญเข้ามาในบ้านพร้อมกับเดินไปในครัวรินน้ำใส่แก้ว ทิ้งให้แขกนั่งหันรีหันขวางอยู่ที่โซฟา ปาริชาตเล่นงานน้องสาวทันทีเมื่อได้อยู่กันตามลำพัง
“ตัวไปเชิญเขาเข้าบ้านมาทำไม”
“แหม ป๋อม มารยาทน่ะ มารยาท รู้จักไหม เขามาส่งตัวถึงบ้าน ไม่เชิญเขาเข้าบ้านได้ไง”
“เขาจะบอกให้นะ นั่นคือพี่ชายของปลาย”
ปาริฉัตรหน้าตื่นทันทีเมื่อได้ทราบอย่างนั้น แต่แล้ว เธอกลับบอกพี่สาวว่า
“เขาแยกแยะ พี่ก็พี่ น้องก็น้อง คนละคนกัน แต่เอ๊ะ ไม่เคยรู้เลยนะว่าไอ้ปลายมันมีพี่ชายด้วย”
“เขาก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมจู่ๆ ปลายถึงมีพี่ชายขึ้นมาได้ แต่เขาจะไม่ยุ่งกับตานี่อีกเด็ดขาด”
“ก็แล้วแต่ตัวนะ เขาไม่ยุ่ง ถ้าอย่างนั้นก็ไปนอนพักเถอะ เขารับหน้าเอง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ปาริชาตก็เดินเข้าห้องส่วนตัวไปทันทีอย่างไม่ต้องคิดมาก ธิเบตรับน้ำมาดื่มจนเกือบหมดแก้วอย่างกระหายพลางมองปาริฉัตรอย่างสนใจ เออแฮะ เคยเห็นแฝดมาก็มาก ไม่เคยเห็นคู่ไหนจะคล้ายกันได้มากขนาดนี้ จะมีเพียงการพูดจาเท่านั้น ที่ทำให้รู้ว่า ใครเป็นใคร
“ผมต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ สำหรับอุบัติเหตุครั้งนี้ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
“อ้อ ค่ะ ขอบคุณมาก ไม่เป็นไร”
ธิเบตควักนามบัตรออกมาส่งให้หญิงสาวก่อนจะบอกว่า
“ถ้าคุณ...เอ่อ คุณป๋อมเธอเป็นอะไรมากก็ติดต่อผมได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ”
หลังจากนั้นธิเบตขอตัวกลับ เขามาถึงบ้านสายกว่าปกติ แถมที่เสื้อยังมีรอยเลือด คุณภารตผู้เป็นบิดาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ไปทำอะไรมาลูก ต้น ถึงได้เปื้อนเลือดแบบนั้น”
“อ๋อ ผมขับรถไม่ดี เฉี่ยวคนน่ะครับคุณป๋า”
“แล้วเขาเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“ไม่เป็นอะไรแล้วครับ ผมพาไปหาหมอแล้วก็ไปส่งที่บ้านแล้ว”
“อืม ดีแล้ว คราวหลังก็ระวังหน่อยล่ะ เกิดเขาเป็นอะไรมากไปล่ะแย่เลย เออ ต้น เราเห็นหน้าเจ้าปลายมันบ้างไหม สองสามวันมานี่ ป๋าไม่เห็นเลย อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ กลับแทบไม่ได้เจอหน้า”
คุณภารตถามหาบุตรชายคนเล็กอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก เขาเป็นห่วงจริงๆ เนปาลนั้น เหมือนมีอะไรอยู่ในใจอยู่ตลอดเวลา หรือจะยังไม่สนิทใจในความเป็นพ่อลูกก็ไม่อาจทราบได้ แต่เมื่อพูดถึงเจ้าตัวก็เกินเข้ามาราวกับจะรู้
รักแรกพบของใครบางคน
เช้าวันรุ่งขึ้นวงจรชีวิตเริ่มต้นอีกครั้ง แต่เธอไม่อาจล่วงรู้เลยว่าวันนี้ ชีวิตของเธอจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล หญิงสาวเดินออกมาทานอาหารกลางวันกับเพื่อนร่วมงาน ขณะที่กำลังทานอาหารอยู่นั้น สุรางคณา เพื่อนสาวของเธอก็สะกิดให้เธอดูผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังนั่งทานอาหารอยู่ที่โต๊ะฝั่งตรงข้าม
“ป๋อม ดูผู้ชายคนนั้นสิ หน้าค้ม คม คิ้วก็ด้ก ดก หล่อจังเลยเนาะ”
ปาริชาตเงยหน้าขึ้นมามองตามที่สุรางคณา จริงแฮะ ผู้ชายคนนี้หน้าตาหล่อ หน้าคม คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ผิวขาว ปากแดงเชียว แถมแต่งตัวดีซะด้วยสิ เสื้อเชิ้ตสีฟ้านั้นดูเข้ากันเหลือเกินกับเน็กไทสีน้ำเงินเข้ม โดยรวมแล้ว เขาดูเหมือนชายหนุ่มในฝันของสาวๆ หล่อเนี๊ยบทุกกระเบียดนิ้ว
“เธอรู้หรือเปล่า เขาคนนี้นี่นะ คือคุณธิเบต ธนกุล สุดยอดหนุ่มโสดในฝันของสาวๆปีล่าสุดเลยนะ”
พัชราเอ่ยถึงชายหนุ่มโต๊ะตรงกันข้ามด้วยนัยย์ตาเพ้อฝัน นามสกุลธนกุลนี่เอง ที่ทำให้ปาริชาตรู้สึกสะดุด
“แล้ว...เนปาล ธนกุลเป็นอะไรกับเขา”
หญิงสาวถามเพื่อนเสียงเบา หัวใจเต้นแรง
“อ๋อ เป็นน้องชายคุณธิเบตน่ะสิ นั่นก็หล่อไม่แพ้พี่ชายเลยนะ หน้าหวาน ตาก็หวาน แต่ไม่ไหว เจ้าชู้จังน่ะ ควงผู้หญิงไม่ซ้ำคนเลย ไม่เหมือนพี่ชาย”
พัชรายังคงเพ้อฝันถึงเจ้าของนามธิเบตต่อ เลยไม่สังเกตถึงแววตาที่ไหววูบเมื่อได้รับคำตอบนั้น พี่ชาย พี่ชายเหรอ นี่ปลายมีพี่ชายด้วยเหรอเนี่ย ทำไมเธอไม่เคยรู้มาก่อนเลยล่ะ หลังจากนั้น ปาริชาตไม่ได้เป็นอันทำงาน เหม่อลอยครุ่นคิดถึงเจ้าของใบหน้าคมเข้มนั้นอยู่ตลอด เขาเป็นพี่ชายของปลาย ปลายคนที่ใจร้าย ทำร้ายจิตใจหล่อน ป่านนี้ ปลายก็คงยังไม่รู้สึกอะไรเลยสินะกับทุกสิ่งทุกอย่างที่ทำกับหล่อน
เขายังคงใช้ชีวิตได้เป็นปกติ ยังมีผู้หญิงอื่นได้อีก ในขณะที่หล่อน แม้จะบอกกับตัวเองว่า ลืมเขาได้ แต่ไม่เคยมีใครเข้ามาแทนที่เขาเลยซักคนเดียว ด้วยหวาดระแวงกับความรักเกินกว่าจะจะคบใครใหม่ หล่อนอยากให้เขารู้สึก อยากให้เขารู้สึก เจ็บปวดอย่างที่เธอรู้สึกบ้าง แต่จะทำอย่างไรล่ะ จะทำอย่างไร ที่จะทำให้เขาเป็นแบบนั้น
สุดท้าย เมื่อสมาธิในการทำงานไม่มี ปาริชาตจึงออกมาก่อนที่งานจะเลิก เดินเหม่อลอยจนมองไม่เห็นรถที่เลี้ยวออกมาจากซอยข้างหน้า จึงโดนเฉี่ยวล้มลงไปกลิ้งกับพื้น
“โอ๊ย!!”
ปาริชาตร้องด้วยความเจ็บปวดเพราะแขนขวาครูดกับพื้นถนนจนถลอกปอกเปิก เจ้าของรถเบนซ์สีขาวจอดรถลงมาดูอาการทันทีอย่างตกใจไม่คิดว่าเขาจะขับรถไม่ดูตามาตาเรือ ผู้หญิงทั้งคนทำไมมองไม่เห็นวะ ธิเบตด่าตัวเองอย่างหัวเสีย
“คุณครับ เป็นยังไงบ้าง”
ปาริชาตเงยหน้ามองผู้ที่ขับรถเฉี่ยวหล่อนเต็มตา
“ฉัน...ไม่เป็นไร”
เมื่อเห็นว่าใครเป็นผู้เฉี่ยวหล่อนจนลงไปกอง แถมข้อศอกก็ถลอกปอกเปิก แสบจนน้ำตาไหลอาการเจ็บก็หายไปชั่วขณะ
“ไม่เป็นอะไรได้ยังไงครับ ดูซิเลือดคุณออกนี่”
ธิเบตเผลอดุหล่อนอย่างไม่ชอบใจที่ทำปากแข็งบอกไม่เป็นอะไร ทั้งที่เลือดไหลย้อยเต็มศอก ชาหนุ่มพยุงเธอลุกขึ้นพลางดึงไปที่รถแต่ปาริชาตไม่ยอมไปตามแรงรั้งทำเอาธิเบตเริ่มหัวเสีย
“คุณครับ กรุณาอย่าขัดขืนได้ไหมครับ ผมเป็นคนทำให้คุณเจ็บ ก็ต้องรับผิดชอบครับ”
“ฉันไม่ได้ต้องการความช่วยเหลือจากคุณค่ะ กรุณาปล่อยได้แล้ว”
ปาริชาตบอกเขาเสียงเย็น แววตาที่มองเขาเหมือนจะโกรธขึ้นมาแว่บนึง แล้วก็ปรับเป็นปกติ ไม่รู้ว่าเป็นเพราะสาเหตุใดที่ทำให้เขาเกิดอาการอยากจะเอาชนะผู้หญิงคนนี้ซะจนคิดทำอะไรที่เขาคาดคิดว่าจะทำได้ นั่นคือตัดสินใจอุ้มเธอขึ้นรีบเดินไปใส่รถทันทีไม่สนใจอาการดิ้นรนร้องโวยวายของเธอเลยแม้แต่นิด กลับจุ๊ปากเป็นเชิงห้ามเธอให้เงียบซะอีก
“ชู่ อย่าร้องเสียงดังสิคุณ ไม่อายชาวบ้านเขาหรือไง คุณนี่”
และนั่น ทำให้ปาริชาตเงียบเสียงลงได้ แต่ก็กระซิบบอกเขาอย่างไม่ยอมแพ้
“ฉันไม่อาย”
“แหม นี่ขนาดว่าไม่อายยังพูดซะเบา”
ธิเบตแหย่ผู้หญิงในอ้อมกอดยิ้มๆก่อนจะเปิดประตูรถยัดเธอเข้าไปไว้จนได้โดยที่ปาริชาตนั้นก็เจ็บเกินกว่าที่จะขัดขืนเขาอีก ชายหนุ่มจึงพาเธอมาโรงพยาบาลพื่อดูอาการ ซึ่งเธอก็ไม่ได้เป็นอะไรมากนักนอกจากแผลถลอกที่ข้อศอกกับเคล็ดขัดยอกนิดหน่อย และเมื่อออกจากโรงพยายบาล ธิเบตก็อาสาที่จะไปส่ง
“บ้านคุณอยู่ตรงไหน ผมไปส่ง”
“ไม่ต้อง ฉันกลับเองได้”
ปาริชาตหันควับมาตอบเขาเสียงขุ่นทันทีโดยที่ไม่ต้องคิดมาก เขาคือพี่ชายของผู้ชายใจร้ายคนนั้น หล่อนยังโกรธเขาอยู่ และพาลไม่ชอบหน้าพี่ชายเขาด้วย ไม่อยากยุ่ง ไม่อยากพบเจอ ไม่อยากได้รับความช่วยเหลือจากเขาอีก แต่ธิเบตนั้น ไม่ทราบเรื่องราวอะไรเลย จึงแปลกใจยิ่งนักกับท่าทีของเธอ
เขาไม่ได้เข้าข้างตัวเองหรอกนะ ว่าตัวเขาเองนั้น หน้าตาดีมากเพียงใด และไม่เคยมีผู้หญิงที่ไหนแสดงอาการรังเกียจเขาจนออกนอกหน้าเพียงนี้ มีแต่จะส่งสายตาให้หรือไม่ก็แอบมองด้วยความชื่นชม ธิเบตกอดออกมองหญิงสาวอย่างไม่เข้าใจ แต่ก็ไม่ยอมทำตามความต้องการของหล่อน
“ผมไม่รู้นะว่าคุณไม่ชอบหน้าผมเรื่องอะไร แต่วันนี้ คุณช่วยกรุณารับความช่วยเหลือจากผมด้วยเถอะ ผมเป็นคนทำให้คุณเจ็บตัวแบบนี้ ผมต้องรับผิดชอบ หลังจากนั้น คุณจะเอายังไงก็เรื่องของคุณแล้ว ผมจะไม่เซ้าซี๊คุณอีก”
แหม คุณธรรมสูงส่งจริงๆเลยนะ พ่อคุณ ปาริชาตแอบค่อนแคะเขาในใจ ก่อนจะพยักหน้าส่งๆพลางบอกทิศทางกลับบ้านกับเขา จะได้จบๆซักที ไม่ต้องมาเจอหน้ากันอีก เมื่อรถจอดสนิท ปาริชาตก็รีบเดินลงจากรถทันทีอย่างไม่ต้องการเสียเวลาโดยที่ปาริฉัตรเดินออกมารับเพราะได้ยินเสียงรถ ธิเบตที่เดินตามลงมาถึงกับตะลึงมองปาริฉัตรตาค้าง นี่ นี่เธอมีฝาแฝดด้วยหรือนี่ เป็นฝาแฝดที่คล้ายกันมาก ทั้งรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ ปาริฉัตรมองพี่สาวอย่างตกใจเมื่อเห็นสภาพของเธอ
“ป๋อม ตัวไปทำอะไรมา”
“ผมขับรถไม่ดีจนเฉี่ยวคุณผู้หญิงครับ”
ธิเบตเป็นผู้ชิงตอบแทนปาริชาต ผู้เป็นน้องหันควับมามองชายหนุ่มแว่บนึงอย่างโกรธเกรี้ยว แต่เมื่อเห็นว่าพี่สาวไม่ได้เป็นอะไรมากแล้วเขาก็รับผิดชอบอย่างดี ก็อ่อนลง
“ยังไงก็ขอบคุณคุณมากนะคะ ที่ไม่ขับรถหนีไป ยังไงก็เชิญเข้ามาดื่มน้ำก่อนแล้วกัน”
ปาริฉัตรขอบคุณพลางเชิญเขาเข้าบ้านตามมารยาทเจ้าของบ้านที่ดีแต่พี่สาวกลับขึงตาใส่ก่อนจะจิกเนื้อที่แขนหล่อนอีกทีจนเผลอร้องออกมา
“โอ้ย ป๋อม”
“เป็นอะไรครับ”
ชายหนุ่มเดินไปเลื่อนรถไม่ทันเห็นการประทุษร้ายน้องสาวของปาริชาต จึงถามอย่างสงสัยพลางมองหน้าที่เหยเกของแฝดน้อง
“เป็นอะไรหรือเปล่าครับ”
“เอ่อ เปล่าค่ะ เชิญสิคะ”
ปาริฉัตรไม่ฟังเสียงพี่สาว เชิญเข้ามาในบ้านพร้อมกับเดินไปในครัวรินน้ำใส่แก้ว ทิ้งให้แขกนั่งหันรีหันขวางอยู่ที่โซฟา ปาริชาตเล่นงานน้องสาวทันทีเมื่อได้อยู่กันตามลำพัง
“ตัวไปเชิญเขาเข้าบ้านมาทำไม”
“แหม ป๋อม มารยาทน่ะ มารยาท รู้จักไหม เขามาส่งตัวถึงบ้าน ไม่เชิญเขาเข้าบ้านได้ไง”
“เขาจะบอกให้นะ นั่นคือพี่ชายของปลาย”
ปาริฉัตรหน้าตื่นทันทีเมื่อได้ทราบอย่างนั้น แต่แล้ว เธอกลับบอกพี่สาวว่า
“เขาแยกแยะ พี่ก็พี่ น้องก็น้อง คนละคนกัน แต่เอ๊ะ ไม่เคยรู้เลยนะว่าไอ้ปลายมันมีพี่ชายด้วย”
“เขาก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมจู่ๆ ปลายถึงมีพี่ชายขึ้นมาได้ แต่เขาจะไม่ยุ่งกับตานี่อีกเด็ดขาด”
“ก็แล้วแต่ตัวนะ เขาไม่ยุ่ง ถ้าอย่างนั้นก็ไปนอนพักเถอะ เขารับหน้าเอง”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ปาริชาตก็เดินเข้าห้องส่วนตัวไปทันทีอย่างไม่ต้องคิดมาก ธิเบตรับน้ำมาดื่มจนเกือบหมดแก้วอย่างกระหายพลางมองปาริฉัตรอย่างสนใจ เออแฮะ เคยเห็นแฝดมาก็มาก ไม่เคยเห็นคู่ไหนจะคล้ายกันได้มากขนาดนี้ จะมีเพียงการพูดจาเท่านั้น ที่ทำให้รู้ว่า ใครเป็นใคร
“ผมต้องขอโทษอีกครั้งนะครับ สำหรับอุบัติเหตุครั้งนี้ ผมไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”
“อ้อ ค่ะ ขอบคุณมาก ไม่เป็นไร”
ธิเบตควักนามบัตรออกมาส่งให้หญิงสาวก่อนจะบอกว่า
“ถ้าคุณ...เอ่อ คุณป๋อมเธอเป็นอะไรมากก็ติดต่อผมได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ”
หลังจากนั้นธิเบตขอตัวกลับ เขามาถึงบ้านสายกว่าปกติ แถมที่เสื้อยังมีรอยเลือด คุณภารตผู้เป็นบิดาเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วง
“ไปทำอะไรมาลูก ต้น ถึงได้เปื้อนเลือดแบบนั้น”
“อ๋อ ผมขับรถไม่ดี เฉี่ยวคนน่ะครับคุณป๋า”
“แล้วเขาเป็นอะไรมากหรือเปล่า”
“ไม่เป็นอะไรแล้วครับ ผมพาไปหาหมอแล้วก็ไปส่งที่บ้านแล้ว”
“อืม ดีแล้ว คราวหลังก็ระวังหน่อยล่ะ เกิดเขาเป็นอะไรมากไปล่ะแย่เลย เออ ต้น เราเห็นหน้าเจ้าปลายมันบ้างไหม สองสามวันมานี่ ป๋าไม่เห็นเลย อยู่บ้านเดียวกันแท้ๆ กลับแทบไม่ได้เจอหน้า”
คุณภารตถามหาบุตรชายคนเล็กอย่างไม่ค่อยสบายใจนัก เขาเป็นห่วงจริงๆ เนปาลนั้น เหมือนมีอะไรอยู่ในใจอยู่ตลอดเวลา หรือจะยังไม่สนิทใจในความเป็นพ่อลูกก็ไม่อาจทราบได้ แต่เมื่อพูดถึงเจ้าตัวก็เกินเข้ามาราวกับจะรู้
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น