ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียบำเรอ

    ลำดับตอนที่ #3 : เมียบำเรอตอนที่3 ร้าย [รีไรต์แล้ว]

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.28K
      41
      11 พ.ย. 60




     คนใจร้าย

     



    เช้าวันแรกของการอาศัยอยูในกรุงเทพฯ ของกานดาก็เหมือนทุกวันที่อยู่แม่ฮ่องสอน คือตื่นแต่เช้าลงมาทำอาหารถึงแม้ว่าแม่ครัวและคนรับใช้ในบ้านจะยืนกรานไม่ให้ทำ กานดาก็ยังรั้นที่จะทำอยู่ดี แต่อยู่ที่แม่ฮ่องสอนกานดามักจะได้ตักบาตพระตอนเช้าด้วย แต่เสียดายมาอยู่ที่นี่ไม่ได้ทำ

    "คุณดาคะ ให้ป้าทำเองดีกว่านะคะ”
    ป้านกพูดกับกานดาที่กำลังหยิบมันฝรั่งขึ้นมาปอกเปือก  หลังจากเมื่อวานได้ทำความรู้จักป้านกและทุกคนแล้วดูเหมือนกานดาจะเป็นที่รักของคนในบ้านในเวลาเพียงไม่นาน

    "ให้ดาทำเถอะครับป้านก ให้ดาอยู่เฉยๆ มีหวังเป็นง่อยแน่”

    กานดาหันไปพูดยิ้มหวานให้เป็นอันป้านกต้องยอมปล่อยให้ทำ เธอชื่นชมและทึ่งในฝีมือการทำอาหารของกายดาที่สามารถทำได้เร็วและยังรสชาติดีเพียง ไม่นานก็เสร็จไปหลายอย่างเลยทีเดียวโดยที่เธอแค่ช่วยหยิบจับเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

    "คุณดาเก่งนะคะเนี่ยแค่ชั่วโมงเดียวทำเสร็จไปหลายอย่างเชียว"
    ป้านกเอ่ยชม กานดายิ้มน้อยๆ ไม่ตอบอะไร กานดาชอบทำอาหาร เขาชอบที่ได้เห็นคนชิมอาหารที่เขาทำแล้วถูกใจและอร่อยไปกับมัน อีกใจหนึ่งกานดาก็อยากเรียนทำอาหาร แต่ก็ชอบช่วยเหลือคนมากกว่าจึงเลือกเรียนหมอ แต่มีอีกความสามารถหนึ่งที่กานดาก็ทำได้ดีเช่นกันคือการออกแบบ ตอนอยู่แม่ฮ่องสอนเวลามีงานแต่งของครูที่โรงเรียนก็มักจะมาจ้างให้กานดาออกแบบและตัดเย็บให้เสมอพอทำออกมาเสร็จก็เป็นอันถูกใจทุกรายแถมยังได้ค่าจ้างอีก แต่กานดามักจะไม่เอาเงินแต่ก็จะถูกบังคับให้รับเงินตลอด และมีอยู่ครั้งหนึ่งที่โรงเรียนมีการจัดการประกวดออกแบบในหัวข้อ อัญมณี กานดาก็ลงประกวดกับเขาด้วยแน่นนอนกานดาคว้ารางวัลที่หนึ่งมาไว้ในมือได้ทั้งโล่รางวัลและทุนการศึกษาอีกจำนวนไม่น้อย แต่กานดาก็ยังอยากจะเรียนแพทย์อยู่ดีทั้งๆ ที่ถนัดด้านนี้ที่สุด

    "เดี๋ยวป้าไปปลุกคุณปัฐก่อนนะคะ"

    "ครับ"

    แล้วป้านกก็เดินออกไป ได้ยินชื่อนี้แล้วกานดาก็อดนึกถึงเรื่องเมื่อคืนไม่ได้ จนเผลอเอามือแตะปากตัวเอง เถื่อนชะมัดผู้ชายอะไรไม่มีความอ่อนโยนเลยสักนิด นึกแล้วก็โมโหที่ตัวเองทำอะไรไม่ได้
    กานดาสะบัดหัวไปมาก่อนจะเรียกนิดและมดแม่บ้านสาวอีกสองคนมาช่วยยกอาหารขึ้นโต๊ะ  ไม่นานแก้วก็เดินลงมานั่งที่โต๊ะแล้วอมยิ้มทันทีที่เห็นหน้าตาน่ากินถูกจัดวางไว้บนโต๊ะ

    "หนูดาทำใช่ไหมนก"

    "ค่ะคุณผู้หญิง เก่งเชี่ยวค่ะอร่อยด้วยนกลองชิมแล้ว"

    "นี่แหละลูกสะใภ้ฉัน"

    "คุณผู้หญิงตาถึงนะคะ คุณดานี่แหละเหมาะที่สุด"

    นกและแก้วกระซิบกระซาบกันไปมา อยู่สองคนอย่างอารมณ์ดีส่วนกานดาก็เดินยกหม้อข้าวเข้ามาวางไว้บนโต๊ะเสร็จก็เดินไปหาแก้วที่นั่งยิ้มให้

    "อรุณสวัสดิ์ครับแม่แก้ว"

    "จ้ะ ฟอด~"

    เป็นประจำทุกวันที่กานดาจะกล่าวอรุณสวัสดิ์แล้วแก้วก็จะหอมแก้มกานดาตอบ

    "ประจบสอพลออะไรกันแต่เช้าล่ะ"

    เสียงทุ้งที่ฟังดูเหยียดๆ เอ่ยขึ้นขณะเดินตรงมายังโต๊ะอาหาร

    "พูดจาให้มันดีๆ หน่อยตาปัฐ ตื่นก็สายทำให้คนอื่นเค้ารอทานข้าวแล้วยังจะมาปากดีอีก"

    แก้วพูดดุปัฐวีที่เลื่อนเก้าอี้นั่งเซ็งๆ ก่อนจะมองอาหารบนโต๊ะ เขาแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นเมนูนี้ขึ้นโต๊ะ ตั้งแต่คุณปราณพ่อของเขาเสียก็ไม่มีใครทำเมนูนี้ขึ้นโต๊ะเลยสักครั้ง เพราะไม่มีใครทำถูกใจเขานอกจากคุณพ่อ คุณปรานเป็นคนทำอาหารอร่อยและมักจะชวนปัฐทำด้วยเสมอแต่สุดท้ายเขาก็ทำหน้าที่แค่รอกินอย่างเดียว

    "มัสมั่นไก่..."

    ปัฐเอ่ยขึ้นมาเบาๆ จ้องไปที่ถ้วยกระเบื้องตรงหน้า กลิ่นแบบนี้ เหมือนกลิ่นที่คุณพ่อทำไม่มีผิด นานแค่ไหนที่ไม่ได้กิน เขารู้สึกคิดถึง....

    "ป้านกทำหรอครับ..."

    ปัฐเงยหน้าขึ้นถามนกที่กำลังตักข้าวให้ตน

    "เปล่าค่ะ คุณดาเป็นคนทำเธอเก่งนะคะ แป็ปเดียวเท่านั้นทำอาหารได้ทั้งโต๊ะเลย"

    นกยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเดินออกไป ปัฐหันไปมองกานดาที่เอาแต่นั่งนิ่ง เด็กนั่นน่ะหรอทำอาหารทั้งหมดนี่เก่งเกินไปล่ะมั้ง

    "แน่ใจนะว่ากินได้?"

    ปัฐถามพลางเอาซ่อมไปเขี่ยๆ ไก่ทอดน้ำปลาตรงหน้า

    "ผมก็ทำเท่าที่ผมทำได้ไม่รู้ว่าจะถูกปากคุณหรือเปล่า"
    ดาตอบเสียงเรียบๆ ก่อนจะตักผัดผักให้แก้ว ปัฐเลิกสนใจคนทั้งสองแล้วหันมาสนใจมัสมั่นไก่ตรงหน้าแทน ปัฐยึกยักไม่กล้าตักมัน เพราะเขากลัวที่จะผิดหวังว่ารสชาติออกมาจะไม่ถูกใจเหมือนที่พ่อทำ

    'มัสมั่นไก่ใครทำก็ทำได้แต่จะให้อร่อยต้องใส่ใจทุกรายระเอียดของมัน เครื่องแกงต้องเข้มข้นใช้หัวกระทิเท่านั่น'

    ปัฐวีนึกถึงตอนที่ปราณเคยสอนเขา

    "ผมไม่รู้ว่าจะถูกใจคุณไหมแม่แก้วบอกว่าคุณชอบ..."

    กานดาพูดขึ้นมาเหมือนลอยๆ ไม่ได้หันหน้าไปมองปัฐด้วยซ้ำ เขาไม่ได้จะเอาใจปัฐวีเขาแค่....อยากสงบศึกด้วยการไม่ทำตัวขัดกับปัฐวีก็แค่นั้น
    ปัฐวีตักมัสมั่นไก่เข้าปากแบบไม่ได้คิดอะไรมาก แต่ก็ต้องชะงัก รสชาติแบบนี้ มันไม่ต่างจากรสชาติที่ปราณทำเลนสักนิด มันเหมือนกันมากจนคิดว่าคนทำเป็นคนเดียวกัน

    "นายเอาสูตรนี้มาจากไหน"

    ปัฐวีหันควับไปถาม กานดาหยุดกินข้าวแล้วหันหน้ามาตอบ ทุกคนในห้องอาหารเงียบกริบมีเพียงแก้วเท่านั้นที่ยิ้มมุมปากคนเดียว

    "ลองหัดทำมั่วๆ แล้วแม่แก้วก็มาสอนทำด้วย ทำไมครับไม่อร่อยหรอ?”
    กานดาสีหน้าแย่ลง เขาตั้งใจทำแล้วนะ

    "...."

    ปัฐไม่ตอบเพียงแค่กินข้าวต่อไม่สนใจการดาที่นั่งมองอยู่เลย วันนี้ทุกคนดูแปลกใจมาก ปัฐวีทานข้าวเช้าหมดชนิดที่เรียกว่าสะอาดแบบไม่ต้องล้าง ตั้งแต่ปราณเสียไปใครทำอะไรให้ทานก็มักจะไม่ถูกปากบางวันก็ไม่ทานอะไรเลย ปัฐวีทานเสร็จก็ลุกไปจากโต๊ะอาหารทันที กานดามองตามแผ่นหลังกว้างที่เดินออกไปบอกไม่ถูกว่ารู้สึกยังไงอีกใจนึงก็แอบดีใจที่ปัฐวีชอบแต่อีกใจนึงก็รู้สึกโหวงๆ ที่ปัฐวีไม่พูดอะไร

     
    วันนี้ทั้งวันของกานดาหมดไปกับการจัดของในห้อง แก้วเดินมาบอกว่าเย็นนี้ต้องไปลองชุดแต่งงาน ถึงจะดูขัดใจนิดๆ ก็เถอะแต่รับปากแม่แก้วไว้แล้ว 
    ตกเย็นกานดาและแก้วนั่งรอปัฐวีที่ร้านตัดชุดแต่งงาน นัดไว้ตั้งแต่บ่ายแต่ร่างสูงสมบูรณ์แบบของปัฐวีกลับปรากฎตัวในช่วงเย็น

    "มาช้า"
    แก้วพูดใส่ปัฐวีทันทีที่เห็นร่างสูงเดินเข้ามาในร้าน

    "ก็ดีกว่าไม่มาไม่ใช่หรอครับ"

    ปัฐวียียวนใส่แก้ว เธอจิ๊ปากไม่พอใจก่อนจะไล่ให้ปัฐวีไปวัดตัวพร้อมกับกานดา

    "คุณกานดาช่วยยกแขนขึ้นหน่อยค่ะ"
    กานดายกแขนขึ้นอย่างว่าง่ายให้พนักงานวัดสัดส่วนของตัวเอง ปัฐวีแอบเหล่ตามองนิดๆ คนอะไรมันจะตัวบางขนาดนั้นอย่างรอบเอวที่ถูกวัด แค่ยี่สิบหก มันเล็กและบางมากถ้าเทีบกับเจนแล้วถือว่าตัวเล็กกว่ามากๆ
    การวัดตัวผ่านไปได้ด้วยดี พนักงานเดินออกไปจากห้องแล้วทิ้งไว้ให้กานดาและปัฐวีอยู่ในห้องรอเลือกแบบชุด

    "ดีใจไหมที่จะได้แต่งงานกับฉัน"

    ปัฐวีถามกานดาที่เอาแต่วาดรูปอะไรสักอย่างลงบนสมุด กานดาหยุดวาดแล้วเงยหน้าขึ้นมอง

    "ถ้าไม่ใช่แม่แก้วผมก็ไม่แต่งหรอกนะ คนอย่างคุณมันด้านชาเกินไปคุณปัฐ...."

    กานดาพูดแค่นั้นก็ก็วาดรูปต่อ ปัฐวีกำมือแน่น กานดาตอบไม่ตรงคำถามไม่เคยมีใครกล้าเมินเขามาก่อน เป็นแค่เศษดินที่ถูกจับมาวางไว้ให้สูงแค่นั้นกล้าดียังไงมาเมินใส่เขา

    "อย่าปากดีให้มาก ระวังไว้เถอะหลังจากงานแต่งนายจะลุกไม่ขึ้น!!"

    "อึก!"

    ปัฐวีลุกจากที่นั่งตรงมาหากานดาอย่างไวพร้อมกับพูดขู่แล้วบีบกรามเล็กจนเจ็บ ใบหน้าหล่อคมเข้มเลื่อนเข้ามาใกล้ๆคลอเคลียกับแก้มใสที่ตอนนี้แดงเพราะแรงบีบ

    "คุณปัฐปล่อยนะ ผมเจ็บ"

    กานดาพูดเสียงสั่นเคลือดวงตากลมโตมีน้ำใสๆ เอ่ออยู่เหมือนพร้อมที่จะล่วงหล่นออกมาทุกเมื่อ ปัฐวียิ้มมุมปากก่อนจะประกบริมฝีปากหนาหยักทาบทับลงเรียวปากบางอิ่มน้ำอย่างจาบจ้วง ดุดันและป่าเถื่อนจนกานดาตามไม่ทัน สองมือก็ทั้งตีทั้งผลักให้ร่างสูงถอยห่างแต่แรงแค่นี้จะไปสูงอะไรเขาได้ 

    "อื้มมม!!"

    เสียงประท้วงอย่างต้องการอากาศหายใจ แต่กลับไม่ได้สิ่งที่ต้องการมีแต่แรงบีบที่กรามที่บีบแรงเพิ่มขึ้นไปอีก รสจูบที่ดิบเถื่อนแบบนี้กานดารับไม่ไหวรสคาวเลือดที่ได้รับแบบเมื่อวานกลับมาอีกครั้งเพราะถูกคนตัวใหญ่ขบกัดจนเรียวปากล่างแตกยับ เจ็บ! การดาเจ็บ! น้ำใสๆไหลเอ่อล้นออกมาตรงข้างแก้มทั้งสอง ความชื้นที่ข้างแก้มทำให้ปัฐวีชะงักถอนจูบออกมามองสองข้างแก้มที่เปรอะเปี้ยนไปด้วยน้ำตาจากดวงตากลมที่สั่นระริก เขาปล่อยมือจากแก้มบาง มือหนาเลื่อนมือไปหวังจะเช็ดน้ำตาให้ แต่เจ้าของใบหน้าน่ารักกลับสะบัดมันหนี เกือบไปแล้วที่เขาจะอ่อนโยนกับเศษดินตรงหน้าที่เขาเหยียบย่ำ เกือบไปแล้วที่จะหลงกลดวงตากลมนั่น

    "นี่แค่บทเรียนถ้าขืนนายยังปีกล้าขาแข็งกับฉันอีกล่ะก็ไม่โดนแค่นี้แน่!!"

    ปัง!!!

    เสียงปิดประตูทำให้กานดาสะดุ้งก่อนจะกำมือตัวเองแน่น

    "อึก..ฮึ!..ฮึก.ฮื่ออออ..ฮึก! ฮื่อ"

    สุดจะกลั้นกานดาเจ็บ เจ็บเกินไป ตอนนี้ร่างกายอ่อนแอไปหมดไม่ไหวที่จะรับอะไรอีกแล้ว.....ร่างบางทรุดลงนั่งร้องไห้กับพื้นภายในห้อง

    ร่างสูงยื่นนิ่งอยู่หน้าห้องหันหลังให้บานประตูที่เพิ่งจะเดินออกมาด้วยสายตาเรียบเฉย ไม่บ่งบอกอารมณ์ใดๆ แต่ในใจมันมีหลากหลายอารมณ์ที่รวนเรตีกันมั่วไปหมด

    "ไม่ได้ตั้งใจจะร้ายใส่...แต่นายดันเป็นคนที่แม่ฉันเลือก…”

    จริงอยู่ที่เขาไม่ชอบกานดา แต่กานดาเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างที่ทำให้ปัฐวีต้องการเขา ถามว่าไม่ชอบอยู่ไหม มันก็ยังไม่ชอบอยู่ดี ถ้าถามว่าเกลียดกานดาไหม เริ่มแรกอาจใช่ แต่ตอนนี้ไม่มีแล้ว รสจูบที่เขาได้รับจากกานดามันเหมือนมีความหวานติดอยู่ที่ปลายลิ้น ถ้าเป็นยาเสพติดก็คงเป็นยาเสพติดชนิดที่ไม่มีวันเลิกได้ แต่ถ้าถามว่าทำไมต้องร้ายใส่ ก็คงตอบไม่ได้ รู้แค่ว่าร้ายในตอนแรกก็ต้องร้ายให้ถึงที่สุด เมียบำเรอ......ก็แค่สถานะที่มอบให้ แต่อนาคตเขาไม่รู้หรอกว่าจะร้ายแบบนี้ได้อีกนานแค่ไหน ปัฐวีคนใจร้ายมันเป็นแค่เปลือกนอกที่สร้างขึ้นมาเพื่อต่อต้าน และอยากเอาชนะผู้หญิงที่เขาเรียกว่าแม่เท่านั้น…..


    ปล. วันนี้มาไวหน่อยค่ะ 55+  ตอบคำถามคนอ่านที่มาเมนต์นะคะ เรื่องนี้เคยลงแล้วใช่ไหม. ตอบ: ใช่ค่ะแต่ก็โดนลบไปเพราะอ้อนไม่ได้ใส่โค้ดกฎที่ทางเว็บให้ใส่  อ้อนเลยนำมาลงใหม่อีกครั้งนึง
    พล็อตนิยายแนวนี้มันอาจจะน่าเบื่อไปสักหน่อย แต่อ้อนก็อยากให้ทุกคนเปิดใจอ่านดู ทุกคอมเมนต์ติชมคือแนวทางที่ทำให้อ้อนพัฒนาฝีมือได้มากขึ้นนะคะ ขอบคุณมากค่า
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×