ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เมียบำเรอ

    ลำดับตอนที่ #2 : เมียบำเรอตอนที่ 2 การพบเจอ [รีไรต์แล้ว]

    • อัปเดตล่าสุด 11 พ.ย. 60






    การพบเจอ




     
    เช้าวันนี้แม่แก้วพากานดาขับรถจากแม่ฮ่องสอนตั้งแต่ตีสี่เพื่อมากรุงเทพฯ นี่เป็นครั้งแรกที่กานดาได้มากรุงเทพ เป็นครั้งแรกที่กานดาจะได้เห็นบ้านของแม่แก้วที่กรุงเทพ และเป็นครั้งแรกที่กานดาจะได้เจอกับ ปัฐวี เขาแอบตื่นเต้นเล็กๆ เพราะหนทางข้างหน้าเป็นสิ่งที่เขาล้วนไม่เคยพบเห็น ว่ากันว่ากรุงเทพเป็นเมืองใหญ่เป็นเมืองที่ผู้คนต่างหลับไหลในตอนเช้าแต่กลับตื่นในตอนกลางคืน ตั้งแต่ขับรถเข้าเขตกรุงเทพฯ กานดาก็เอาแต่มองตึงสูงหลายตึงที่ตั้งตระหง่าเรียงรายเต็มไปหมด จราจรที่แสนจะติดขัดในบางพื้นที่ ผู้คนที่เดินสวนไปมาอย่างเร่งรีบ มองโดยภาพรวมแล้วเขาชอบแม่ฮ่องสอนมากกว่าแม้จะเป็นเมืองบ้านนอกแต่ก็ไม่วุ่นวายเหมือนเมืองหลวง

    "ไม่ชอบกรุงเทพฯ หรอหนูดา"

    แม่แก้วที่ขับรถอยู่หันมาถามกานดาที่นั่งเพียงนิ่งๆหันหน้าไปทางกระจกรถเหม่อๆ

    "เปล่าครับดาแค่รู้สึกว่ามันดูวุ่นวาย"

    ดาตอบอย่างที่ตัวเองคิด ใช่มันดูวุ่นวายมากจนน่าปวดหัว

    "ทำตัวให้ชินไว้เถอะนะยังไงก็ต้องได้มาอยู่กรุงเทพฯ ตั้งหกปีกว่าจะจบหมอแต่ถ้าเจ้าปัฐมันหันมารักหนูดาหนูดาก็อาจจะได้อยู่นานเลยล่ะ"

    แม่แก้วพูดทีเล่นทีจริงให้ดารู้สึกผ่อนคลายลง กานดาแค่เพียงยิ้มให้น้อยๆ ก่อนจะหันไปมองสิ่งรอบข้างดังเดิม




    "คุณปัฐคะคุณผู้หญิงกลับมาแล้วค่ะ!!"

    แม่บ้านวัยอย่างห้าสิบรีบวิ่งตารีตาเหลือกมาบอกคุณชายของบ้านที่ตอนนี้กำลังง่วนอยู่กับร่างบางของหญิงสาวบนเตียงนอนกว้าง

    ก๊อกๆๆๆ!!


    "คุณปัฐคะคุณแก้วกับมาแล้วนะคะ ถ้าคุณปัฐไม่รีบออกมาจะหาว่าป้าไม่เตือนนะคะ!!"
    ป้านกเคาะประตูรัวๆแล้วพูดเสียงดังขึ้นอีกหวังจะให้คนข้างในได้ยิน

    "ปัฐคะแม่คุณกลับมาแล้วนะคะ อื้อ~"
    หญิงสาวพูดเสียงแหบพร่าใต้ร่างสมส่วนของปัฐวี

    "จะกลับมาอะไรตอนนี้วะ!"

    เขาสบถออกมาแรงๆ ก่อนจะถอนกายจากหญิงสาวแล้วเดินเข้าห้องน้ำทำธุระก่อนจะออกมาจากห้องน้ำก็ไม่พบกับหญิงสาวแล้วมีเพียงโพสต์อิทที่แปะไว้บนหัวเตียง เขาเดินมาหยิบไปอ่าน
    'ปัฐคะ เจนไม่อยากมีปัญหากับแม่คุณเจนกลับก่อนนะคะว่างๆ ค่อยเจอกันใหม่'
    เขาขยำกระดาษทิ้งก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อมาใส่แบบลวกๆ เขาไม่ค่อยเข้าใจนักหรอกว่าทำไมแม่ของเขาถึงได้รังเกียจเจนนักหนา ร่างสูงสมส่วนเดินก้าวเท้าลงตามขั้นบันไดยาวจนถึงปลายบันไดที่ห้องโถงรับแขกก็เห็นหญิงวัยกลางคนที่เขาไม่ได้เจอนานจนคิดว่าไม่มีแม่กับเขาไปแล้ว ห้าปีที่เธอเอาแต่ออกค่ายรักษาคนจนที่เขตชายแดนจังหวัดแม่ฮ่องสอนจนไม่มีเวลากลับมาหาลูกชายคนเดียวอย่างเขา แล้ววันนี้นึกยังไงถึงกลับมาหรือว่าเห็นข่าวที่เขาประกาศคบหากับเจน

    "ตาปัฐทำไมถึงพาแม่นั่นมาที่บ้าน!"
    ยังไม่ทันที่เขาจะได้กล่าวทักทายผู้เป็นแม่ด้วยซ้ำเขาก็โดนถามสวนกลับมาแล้ว

    "คุณแม่มาเหนื่อยๆ นั่งก่อนเถอะครับ"
    เขาจงใจเปลี่ยนเรื่องแต่แก้วก็ไม่ถือสาอะไรยังอีกไม่นานแม่นั่นก็หมดสิทธิ์ที่จะมาเดินเข้าออกบ้านนี้แล้ว เพราะตัวจริงมาแล้ว

    "แม่ไม่อยู่ห้าปีเป็นไงบ้าง"

    เธอก็เปลี่ยนเรื่องเช่นกันไม่อยากทำลายบรรยากาศให้เสียเพราะวันนี้กานดามาด้วยถ้ามาเห็นฉากแม่ลูกทะเลาะกันคงไม่แฮปปี้แน่

    "ก็เรื่อยๆ ครับ"

    "แล้วที่บริษัทพ่อแกล่ะไปถึงไหนแล้ว"

    "ปลายปีนี้เตรียมเปิดตัวชุดเครื่องเพชรครับมีแบบไว้แล้ว"

    ปัฐวีพูดถึงชุดเครื่องเพชรที่เขาร่วมคิดออกแบบกับพ่อก่อนที่ท่านจะเสียไปเพราะโรคหัวใจเมื่อห้าปีก่อนเลยทำให้แก้วไม่อยู่ติดบ้านและลงเอยด้วยการไปทำค่ายอาสาที่แม่ฮ่องสอนเพราะไม่อยากทุกข์ใจเรื่องสามี และมันส่งผลให้ปัฐต้อง คิดแบบงานเพียงคนเดียวและกว่าจะได้ชุดเครื่องเพชรนี้มาก็ใช้เวลานาน

    "วันนี้ที่แม่กลับมาแม่มีคนอยากให้แกรู้จัก"

    แก้วพูดเสียงเรียบๆ ก่อนจะยิ้มมุมปาก

    "ใครครับ?"

    "แม่แก้วครับดาหาไม่..."

    ปัฐวีหันไปมองตามต้นเสียงหวานใสที่เข้ามาขัดการสนทนา ก็พบกับเด็กหนุ่มร่างบางผิวขาวจัดแต่ไม่น่าเกลียด ใบหน้าหวาน ดวงตากลมโตนัยต์ตาสีน้ำตาลอ่อนขับกับสีผมอ่อนของเขา จมูกโด่งเชิงรั้นเรียวปากบางอิ่มน้ำสีชมพูหวาน พวงแก้มที่มีสีแดงระเรื่อทำให้น่าเอ็นดู

    "อ้าวมาพอดีหนูดามานี่เร็วมานั่งข้างๆ แม่"

    แก้วกวักมือเรียกกานดาที่ยื่นนิ่งค้าง ก่อนจะเดินมานั่งข้างเธอเงียบๆ
    ปัฐวีมองตามปฏิกิริยาของร่างบางที่ดูจะเขินๆ อยู่น้อยๆ ยิ่งมองเหมือนยิ่งเพลินตาจนหยุดมองไม่ได้

    "ตาปัฐนี่หนูดาเป็นลูกบุญธรรมของแม่ตอนแม่อยู่แม่ฮ่องสอน ส่วนที่ตาปัฐลูกชายแม่เองหนูดา"

    พูดจบกานดาก็ยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม

    "สวัสดีครับคุณปัฐ"

    ปัฐไม่ตอบแค่เพียงรับไหว้เท่านั้น

    "หึ ไม่กลับบ้านมาห้าปีเพราะมัวแต่ไปหาน้องชายมาให้ผมหรือไงครับคุณแม่"

    ปัฐแค่นเสียงพูดเขาดูไม่พอใจนิดๆ ที่แม่เขาหายไปห้าปีแล้วก็กลับมาบ้านพร้อมกับลูกชายคนใหม่

    "เปล่าฉันไม่ได้ไปหาน้องให้แกฉันไปหาเมียให้แก่ต่างหา"

    "หะ!!!"

    ปัฐวีเสียงดังขึ้นจนการดาแอบสะดุ้งตาม

    "ใครกันครับคุณแม่!!"

    "ก็นี่ไงหนูดา"

    ปัฐวีมองค้อนไปทางกานดาที่นั่งตัวรีบไปแล้วไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้ามาสบตากับร่างสูง นี่มันอะไรกัน!! 

    "คุณแม่ต้องการอะไรจากผมครับคุณแม่ก็รู้ว่าผมมีเจนอยู่แล้ว!!"

    ปัฐวีพยายามคุมอารมณ์แต่ก็มีหลุดเสียงดังตอนท้ายประโยค ใช่เขามีเจนอยู่แล้วทั้งคนทำไมต้องยัดเยียดคนอื่นให้เขาด้วย

    "แล้วแม่เจนอะไรนั่นมันมีดีอะไรหะ! ตาปัฐ แกถึงคิดจะเอาแม่นั่นมาเป็นสะใภ้ฉัน"

    แก้วตอกกลับลูกชายคืนก่อนจะกรีดนิ้วปัดปอยผมหน้าม้าเธอ

    "ก็อย่างน้อยเจนเค้าก็เป็นผู้หญิง!"

    "เหอะ! เถียงข้างๆ คูๆ ฉันว่าแกหาข้อดีๆของแม่นั่นมาตอบฉันไม่ได้มากกว่า"

    ปัฐวีจ้องแม่ของตนเองก่อนจะหันไปสบตากับกานดาที่แอบมองเขาแล้วก็ต้องหลบไป 

    "แล้วไอ้เด็กนี่ล่ะครับมันมีอะไรดีคุณแม่ถึงคิดจะเอามันมาเป็นสะใภ้!"

    ปัฐวีถามแก้วกลับแต่คำพูดจะออกไปทางค่อนเเคะการดาเสียมากกว่า

    "ก็ดีกว่าแม่นั่นหลายอย่างไม่สิ ดีกว่าทุกอย่างเลยต่างหาก"

    "แล้วอะไรล่ะครับที่คุณแม่คิดว่ามันดีกว่าเจน"

    ปัฐวียังไม่เลิกค่อนแคะกานดาและเอาแต่นั่งจ้องหน้ากานดานิ่ง กานดาก็ทำได้แค่นั่งฟังการปะทะคารมของสองคนแม่ลูกนิ่ง

    "หึ อย่างน้อยหนูดาเค้าก็ไม่ได้หน้าเงินแล้วกัน"

    "มันจะมากไปแล้วนะครับคุณแม่ เจนเค้าไม่ใช่คนอย่างนั้น!!"

    ปัฐวีถึงกับเลือดขึ้นหน้าตะคอกใส่แก้วเสียงดัง แต่แก้วกลับนิ่งแล้วแสยะยิ้มออกมา

    "แกอย่าคิดนะว่าฉันไม่รู้ว่าแกเอาเงินไปให้แม่ผลาญเล่นไปกี่แสนแล้ว ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนเที่ยวผลาญเงินผู้ชายที่ไม่ใช่สามีแบบนี้”

    "คุณแม่!!!"

    การประทะคารมของสองแม่ลูกดูเหมือนแก้วจะเป็นฝ่ายเหนือกว่า ปัฐวีไม่แม้แต่จะมีคำเถียงทำได้แต่เก็บอาการเดือดดาน ไว้ภายในก่อนที่เขาจะพูดจาเล่นงานคนโปรดของแม่แทน

    "หึ แล้วไอ้เด็กนี่ล่ะครับเด็กกำพร้าไม่ใช่หรอ นายน่ะทำยังไงหะ!! คุณแม่ฉันถึงได้หลงขนาดนี้เป็นแค่เด็กไม่มีหัวนอนปลายเท้าแท้ๆ หรือใช้ไอ้หน้าตาซื่อๆใสๆ นี่มาเกาะแม่ฉันกินหะ!!"

    "คุณปัฐ!"

    กานดาหันไปสบตากับปัฐวีจ้องตาเขม็ง เขาพูดเรื่องอะไรทำไมต้องกล่าวหากันด้วยกานดาไม่ได้มีเจตนาแบบที่คนๆ นี้กล่าวหา

    "ทำไม!! ฉันพูดถูกใช่มั้ยล่ะ!"

    "พอกันทีตาปัฐเลิกกล่าวหาน้องสักทีหนูดาไม่ได้ทำอะไรฉันทั้งนั้น เอาเป็นว่าฉันจะพูดครั้งสุดท้ายเพราะฉันรำคาญเต็มทีที่จะทะเลาะกับแก หนูดาเป็นคนที่ฉันเลือกเป็นคนที่คู่ควรกับไอ้หมาบ้าอย่างแกถ้าไม่ใช่หนูดาใครหน้าไหนฉันก็ไม่เอาทั้งนั้น ตอนนี้แกอาจจะไม่ยอมรับในตัวหนูดาแต่ถ้าแกได้รู้จัก ลองเปิดใจให้ดูน้องบ้าง แล้วแกจะรู้ว่าหนูดาคือสิ่งที่คู่ควรกับแก"
    แก้วพูดอย่างคนใจเย็นพลอยทำให้ทุกคนใจเย็นลงไปด้วยแต่ในใจปัฐวีก็ยังไม่ชอบใจอยู่ดี

    "ผมขอถามเป็นคำถามสุดท้าย ทำไมต้องเป็นมัน!"

    "เพราะหนูดาพิเศษกว่าคนอื่นๆ ถ้าแกอยู่กับหนูดาไปเรื่อยๆ แกก็จะรู้เองว่าหนูดาพิเศษยังไง"
    พูดแค่นั้นแก้วก็ลูบเรือนผมสีอ่อนของกานดาเบาๆ คล้ายปลอบให้หายตกใจ

    "นี่ผมต้องแต่งงานกับมัน.."

    "กานดา..."

    แก้วปรามคำพูดของปัฐวีที่ใช้เรียกกานดาเธอไม่ชอบใจจริงๆ

    "เออ ดาผมต้องแต่งานกับ...ดาจริงๆใช่ไหมครับ"

    ปัฐวีถามอย่างเอือมๆ ถึงเขาจะไม่ได้ต่อต้านผู้ชายด้วยกันแต่เขาไม่ชอบใจที่จู่ๆ จะมาคุมถุงชนกันแบบนี้

    "อีกสามอาทิตย์ฉันจัดเตรียมงานไว้แล้ว การ์ดก็พิมพ์เสร็จแล้วแกมีหน้าที่เป็นเจ้าบ่าวก็พอ"

    ปัฐวีนั่งนิ่งไม่ตอบ ตอนนี้เขากำลังใช้ความคิด หึ ไหนๆ ก็จะมาเป็นเมียเขาแล้วก็ช่วยทนๆ มือ หน่อยแล้วกันเขามันพวกใช้ของรุนแรง และถ้าทนเขาได้ก็ทนไปยังไงก็แค่แต่งไม่ได้แปลว่าเขาจะคบกับเจนต่อไปไม่ได้ อยากจะรู้เหมือนกันว่าจะทนได้สักกี่น้ำ

    "ฉันรู้นะว่าแกคิดอะไรอยู่ หนูดากำลังจะมาเป็นภรรยาของแกควรให้เกียรติหนูดาด้วย..."

    "หึหึ ได้สิครับผมจะให้เกียรติเมีย....แน่นอน"

    อย่างนายมันก็ได้แค่เมียบำเรอเท่านั้นแหละตราบใดที่ฉันยังมีเจนอยู่ นายมันก็ได้แค่นั้น....!
    คำพูดที่ดูเข้าใจอะไรง่ายๆ ของปัฐวีทำให้แก้วไม่ไว้ใจตัดบทสนทนาพากานดาขึ้นไปดูห้องนอนของตัวเองแทนระหว่างทางปัฐวีก็ถือกระเป๋าเสื้อผ้าใบใหญ่ของกานดาเดินตามหลังร่างเล็กไปพร้อมกับพิจารณารูปร่างของกานดาไปด้วย รูปร่างก็งั้นๆ ติดจะตัวเล็กเสียด้วยซ้ำดูผอมบางเหมือนคนขี้โรค

    "ถึงห้องแล้ว!!"

    "อ๊ะ!!"

    ปัฐวีกระชากแขนกานดาแรงๆ เพราะเห็นว่ากานดากำลังจะเดินเลยห้องของปัฐวี

    "อะไรตาปัฐนั่นห้องนอนแก ของหนูดาฉันจะให้ไปนอนห้องนู้น"

    แก้วจับแขนกานดาอีกข้างแล้วดึงกลับมาปัฐวียอมปล่อยโดยง่าย

    "ไหนคุณแม่บอกว่าดาจะมาเป็นเมียผมไง เมียก็ต้องนอนกับผัวสิ"

    ปัฐวีพูดเสียงนิ่งๆ มองหน้ากานดาที่เสไปทางอื่นแต่แก้มเนียนๆ กลับกลับแดงเป็นริ้วๆ

    "หึ ห้องที่มีแต่กลิ่นกามของแกกับแม่นั่นน่ะหรอฉันไม่ปล่อยให้หนูดาต้องทนนอนทับสิ่งโสโครกแบบนั้นหรอกจนกว่าจะถึงวันแต่งงาน อย่าหวังเลยว่าแกจะได้ทำอะไรอย่างที่คิด"
    แก้วพูดดักทางปัฐวีเพราะรู้ทันความคิดของลูกชาย

    "เอากระเป๋ามาฉันถือเอง"

    แก้วกระชากกระเป๋าจากมือปัฐวีแล้วเดินจูงมือกานดาหายเข้าไปอีกห้องถัดจากห้องเขาห้องหนึง ทิ้งให้เขากำมือแน่นคุมอารมณ์อยู่คนเดียว

    "โธ่!! เว้ย!!"

    ปัง!!

    ปัฐวีสบถออกมาแรงๆ ก่อนจะเตะประตูเสียงดัง อย่างหงุดหงิด เขาเข้าใจว่าแก้วไม่ชอบเจนแต่ทำไมถึงต้องบังคับให้แต่งงานกับไอ้เด็กนั่นด้วยถึงแม้ว่าตอนแรกเหมือนจะชอบใจเด็กคนนั้นแต่ตอนนี้ไม่ล่ะ! มันมีแต่ความชังล้วนๆ เขาไม่พร้อมจะแต่งงานการที่มีใครสักคนเขามาในชีวิต เขาคิดว่ามันเป็นเรื่องยุ่งยากที่ต้องมาคอยดูแลใครทั้งวัน กับเจน เจนก็เป็นแค่คู่นอนที่ตอนนี้ พัฒนาขึ้นมาเป็นคู่ควงและคนที่เขากำลังคบหาด้วย เจนไม่เคยพูดกับเขาในทำนองว่าต้องการแต่งงานด้วยมันทำให้เขาถูกใจมากเข้าไปอีกทุกวันนี้เขาใช้เงินซื้อความสุขให้กับตัวเอง มันผิดด้วยหรอ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าจะหลงไอ้เด็กนั่นอะไรนักหนาดูก็รู้แล้วว่าหวังจะมาเกาะครอบครัวเขากินโดยการใช้ไอ้หน้าตาซื่อๆ นั่น
    ก็ไม่ต่างอะไรกับแมงดาโสโครกหรอก!! 

     "หึ คอยดูเถอะจะได้รู้ว่าการเป็นได้แค่เมียบำเรอมันเป็นยังไง!!"





    ภายในห้องนอนสีครีมกว้างขวางกานดากำลังนั่งหยิบเสื้อผ้าในกระเป๋าออกมาแขวนโดนมีแก้วเป็นคนคอยแนะให้ว่าอะไรอยู่ตรงไหน

    "หนูดาอย่าคิดมากเลยนะตาปัฐก็เป็นแบบนี้แหละใจแคบ"

    "..."


    กานดาแค่เพียงนั่งฟังเงียบๆ มือก็จัดการเสื้อผ้าในกระเป๋า

    "แต่แม่เชื่อนะว่าหนูดาต้องทำให้ตาปัฐยอมรับและรักหนูได้อย่างที่แม่รักแน่นอน"

    แก้วจับมือบางขึ้นมาลูบเบาๆ ก่อนจะส่งยิ้มอบอุ่นให้กานดา กานดาโผลเข้ากอดแก้วไว้แน่น ความอบอุ่นแบบนี้เขาไม่เคยได้รับจากใครถึงแม้ว่าการใช้ชีวิตร่วมกับปัฐวีจะดูยากไปหน่อยสำหรับกานดา แต่เขาก็จะทำให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อตอบแทนพระคุณแม่แก้วผู้ให้ชีวิตใหม่กับเขา....

    "ดาจะอดทนครับ ไม่ว่าต้องเจออะไรดาจะผ่านมันไปให้ได้ดาจะเป็นภรรยาที่ดีให้กับคุณปัฐอย่างที่แม่แก้วต้องการ"

    "ขอบใจมากนะหนูดาที่เห็นใจแม่ ตาปัฐอาจจะดื้อไปหน่อยนะเพราะตั้งแต่พ่อเขาเสียตาปัฐก็เปลี่ยนไปเป็นคนล่ะคน..."

    น้ำเสียงของแก้วฟังดูเศร้าหมองอย่างเห็นได้ชัดทำให้กานดาผละตัวออกก่อนจะเอียงคอถาม

    "เกิดอะไรขึ้นหรอครับแม่แก้ว"

    "ตาปัฐเค้าติดพ่อมากน่ะเค้าจะสนิทกับพ่อเค้ามากกว่าแม่เพราะแม่ไม่ค่อยมีเวลาให้เค้า แต่เมื่อห้าปีก่อนพ่อเค้าก็เสียด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเพราะโหมทำงานหนัก ตาปัฐเค้าโทษว่าแม่ทำให้พ่อเค้าตาย"
    แววตาของแก้วเริ่มมีน้ำใสๆ ในดวงตา 

    "ทำไมล่ะครับ"

    "ก็เพราะว่าแม่เป็มหมอไง เค้าพูดว่าเป็นหมอแต่ไม่มีเวลามาดูแลพ่อของเค้าเอาแต่ไปดูแลคนอื่น ตั้งแต่นั้นมาตาปัฐก็เปลี่ยนไป ก้าวร้าวมากขึ้น แม่ก็เลยหตัดสินใจทำค่ายหมออาสาที่แม่ฮ่องสอน ไปพักใจเผื่ออะไรๆ มันจะดีขึ้น แต่เปล่าเลยทุกอย่างกลับแย่ลง ในตอนนั้นแม่ควรอยู่กับตาปัฐไม่ใช่ออกห่างตาปัฐไปแบบนั้น”
    ตอนนี้กานดานึกสงสารปัฐวี ที่แท้ก็มีปมนี่เองถึงเป็นคนแบบนี้ แต่ก็สงสารแม่แก้วมากกว่าที่ต้องทนอยู่กับความผิดที่ปัฐวีกล่าวหา 

    "แม่แก้วครับดาสัญญาไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ดาจะพยายามเอาคุณปัฐคนเดิมกลับมาให้แม่แก้วให้ได้ "
    กานดายิ้มให้อย่างปลอบใจหญิงตรงหน้าก่อนจะกอดกันอีกครั้ง สิ่งไหนที่ตอบแทนแม่แก้วได้ดาจะทำ....






    "ทำไมกรุงเทพไม่มีดาวเลยนะ"

    ร่างบางบ่นกับตัวเองเบาๆ เมื่อมองไปบนท้องฟ้ายามค่ำคืนแล้วปราศจากแสงระยิบระยับบนฟากฟ้า ไม่เหมือนกับแม่ฮ่องสอนเลยสักนิด พูดแล้วก็คิดถึง.... เท้าเล็กเดินเหยียบย่ำไปบนพื้นหญ้าด้วยเท้าเปล่าที่สวนหลังบ้าน แม้แต่หญ้าที่นี่ก็ยังไม่เหมือนที่แม่ฮ่องสอน มันดูแข็งกระด้างไร้ความเป็นธรรมชาติ ก่อนจะเดินกลับมาสวมรองเท้าแล้วเดินเล่นรอบๆ สวน เมื่อตอนเย็นปัฐวีไม่อยู่ทำให้ห้องอาหารดูไม่อึดอัด ตอบตามตรงกานดายังไม่พร้อมที่จะเผชิญหน้ากับปัฐวี ผู้ชายคนนี้ยังร้อนเกินไปถ้ากานดาเป็นน้ำป่านนี้ก็คงจะระเหยเป็นไอหมดแล้ว

    หมับ!!

    "อ๊ะ!!!"

    "มาทำอะไรอยู่ตรงนี้ดึกๆคนเดียว"

    เสียงทุ้มที่มาพร้อมกับวงแขนแกร่งโอบรัดลำตัวของกานดาเอ่ยขึ้นจากข้างหลัง กานดารีบดิ้นผละตัวออกจากร่างสูงทันที

    "คุณปัฐ!!"

    กานดาเรียกชื่อคนที่แอบฉวยโอกาสกอดตัวเอง ก่อนจะรีบถอยห่างจากร่างสูง

    "ไม่ต้องทำมาเป็นรังเกียจขนาดนั้น ใช่ว่าฉันอยากจะกอดนายนักหนิ หึ!"
    ปัฐวีเอามือปัดเสื้อตัวเองไปมาอย่างกับรังเกียจที่เขากอดกานดาเมื่อสักครู่

    "แล้วมากอดทำไมล่ะ"

    กานดาถามออกไปเรียบๆ อารมณ์ขุ่นเคืองรู้สึกว่าไม่อยากเข้าใกล้ผู้ชายคนนี้

    "ก็แค่อยากรู้ว่าจะมีท่าทียังไง เป็นเด็กกำพร้ามาก่อนไม่ใช่หรือไงเค้าว่าเด็กพวกนี้ขาดความอบอุ่น บางทีอาจจะไปเอาร่างกายไปให้คนอื่นแพร่ความอบอุ่นมาก่อนก็ได้นายเป็นอย่างนั้นหรือเปล่าล่ะ"
    ปัฐวีเหยียดยิ้มออกมา กานดาเป็นคนเก็บอารมณ์เก่งเสมอ คำพูดแค่นี้ทำอะไรเขาไม่ได้หรอก

    "แล้วคุณเคยได้ยินหรือเปล่าว่าคนที่มีปมด้อยมักจะเหยีบซ้ำปมด้อยของคนอื่นเพื่อให้ตัวเองดูดี"

    กานดาว่ากลับนิ่งๆ แต่ทำเอาปัฐวีชะงักกับคำพูดนั้น

    "อย่ามาปากดีให้มาก เป็นแค่เด็กเหลือขอจำใส่กระโหลกไว้ด้วย!"

    ปัฐวีก้าวเดินไปหากานดาก่อนจะเอานิ้วจิ้มที่หน้าผากกานดาจนหันตามแรง

    "แล้วคุณล่ะคุณปัฐ คุณมีดีอะไรกว่าเด็กกำพร้าเหลือขออย่างผมหรอ เท่าที่ผมเห็นยังไม่มีเลยหนินอกจากทำตัวให้แม่แก้วหนักใจ"

    "มันจะมากไปแล้วนะ!! กล้าดียังไงมาว่าฉันนายมันก็แค่ไอ้เด็กกำพร้าที่มาเกาะแม่ฉันกินเท่านั้นแหละ!!"
    กำพร้าอีกแล้ว คำก็กำพร้า สองคำก็กำพร้า กะจะเหยียบกันให้จมดินด้วยคำๆ นี้เลยใช่ไหม

    "..."

    "เงียบทำไม ทำไมไม่เถียงล่ะหรือว่าฉันพูดถูก เป็นลูกบุญธรรมแล้วกลัวไม่ได้สมบัติหรือไงถึงต้องยกตัวมาเป็นสะใภ้ด้วยน่ะ!!"

    จะดูถูกกันมากไปแล้วนะ คนอย่างกานดาก็ใช่ว่าจะยอมใครง่ายๆ เหมือนกัน

    "คุณคิดว่าผมอยากเป็นภรรยาของคุณมากนักหรือไงที่ผมทำก็เพราะผมสงสารแม่แก้วที่มีลูกชายไม่รู้จักโตแบบคุณ!"

    "นี่นาย!!"

    ปัฐวียกมือขึ้นค้างกลางอากาศเหมือนพร้อมที่จะเหวี่ยงแรงมาปะทะกับแก้มเนียนถ้าไม่มีคำพูดของกานดา

    "จะตบผมหรอ ตบสิผมยอม...."

    ไม่รู้อะไรดลใจให้กานดาพูดไปแบบนั้นแต่ตอนนี้กานดาอยากให้สถานการณ์ตรงหน้าจบลงเร็วๆ เพราะเขาเบื่อที่จะต่อปากต่อคำกับร่างสูงตรงหน้าแล้ว แต่ปัฐวีไม่คิดอย่างนั้นเขากลับคิดว่ากานดาอวดดีอยากจะรองของมากกว่า ปัฐวีลดระดับแขนลงก่อนจะกล่าวนิ่งๆ

    "หึ ปากดีอย่างนี้จะตบก็เสียมือเปล่าๆ แบบนี้มันต้องตบด้วยปาก!!"

    พรึบ!

    "คุณจะทำอะไร ..อุ๊บ!!"

    ไวเท่ากว่าความคิดปัฐวีดึงร่างเล็กเข้ามาบดจูบด้วยความป่าเถื่อน กานดาพยายามดิ้นหนีแต่มือหนากลับล็อคใบหน้าไว้ลิ้นหนาดุนดันจะเข้ามาในปากเล็กแต่กานดาเม้มปากไว้แน่นไม่ยอมให้เข้ามา ปัฐวีบีบกรามเล็กจนเจ็บไปหมดต้องยอมเผยอปากออกจนลิ้นร้อนเข้าไปได้ ลิ้นหนากวาดไล่ต้อนลิ้นเล็กจนจนมุมก่อนจะดูดกลืนลิ้นเรียวอย่างช่ำชอง จูบแรกที่แสนจะป่าเถื่อน เขาจูบหนักๆ ซ้ำไปซ้ำมาจนได้รสชาติของคาวเลือดที่คละคลุ้งไปทั่วทั้งโพล่งปาก

    "อื้มมม!!"

    เสียงปะทุที่เหมือนต้องการอากาศหายใจดังขึ้นแต่ไร้วี่แววที่คนตรงหน้าจะยอมถอนจูบออก กานดารวบรวมแรงเฮือกสุดท้าย ดิ้นแล้วผลักร่างสูงออกจากตัวจนตัวเองเซล้มไปกองกับพื้น พอเป็นอิสระร่างเล็กก็รีบโกยลมเข้าปอดเฮือกใหญ่

    "จืดชืด!!"

    ปัฐวีพูดก่อนยกมือปาดที่เรียวปากตัวเอง แล้วมองร่างบางที่กำลังยืนตั้งหลักเซๆ 

    "ไอ้คนบ้า!!"

    ด่าจบเอามือถูปากตัวเองแรงๆ แล้วเดินเลี่ยงเข้าบ้านไป ปล่อยให้ร่างสูงยืนยิ้มมุมปากอยู่ตรงนั้น

    "หวาน....."



    "หึ่ย!! ไอ้คนบ้ามันป่าเถื่อนเกินไปแล้วนะ”

     หลังจากเดินเข้าห้องมากานดาก็รีบตรงดิ่งไปที่ห้องน้ำแล้วแปรงฟันแปรงลิ้นใหม่หลายรอบก่อนจะดึงปากล่างของตัวเองดูทางกระจก ว่ามันเป็นรอยแตกเล็กๆ แต่มีเลือดซิบๆ เจ็บใจทำไมจูบแรกถึงต้องเสียให้ไอ้คนแบบนั้นด้วย! เห็นแก่ตัว ทุเรศที่สุด! แต่จะพูดไปก็เท่านั้นยังไงหลังจากแต่งงานก็อาจจะเจอมากกว่านี้ก็ได้ กานดาเดินหน้างอไปที่เตียงก่อนจะนอนบนเตียงแล้วกลิ้งบนผ้าห่มจนม้วนตัวเป็นก้อน แล้วหลับไปสงสัยการใช้ชีวิตร่วมกันกับสิ่งมีชีวิตเพศผู้ที่ชื่อ ปัฐวี คงไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับกานดาอีกต่อไปแล้ว.......

    ปล.ขอบคุณทุกคนที่ชอบผลงานนักเขียนกากๆ คนนี้นะคะ คืนนี้แถมให้อีกตอนน ฝันดีค่ะ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×