คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : รับน้อง
วิชาคณิตที่แสนน่าเบื่อ กุลจิราหยิบสมุดในลิ้นชักขึ้นมาเปิดหน้ากลาง ก่อนขีดเขียนคำว่า ชอบ และรักเต็มหน้ากระดาษ จวบจนกระทั่งหมดคาบ ความรู้ไม่มี แต่ความสุขเต็มใจ
กรภัทร์วิ่งเข้าห้องน้ำสองสามรอบ เพราะท้องเสีย รู้สึกเพลียๆ อยากจะงีบหลับสักหน่อย แต่มองนาฬิกาเห็นว่าถึงเวลาต้องไปรับน้องสาวตัวแสบแล้ว ก็หยิบยาดมขึ้นมาดม พยายามจะยันตัวลุกขึ้น
“จะเข้าอีกแล้วเหรอ” เห็นเพื่อนเพิ่งจะกลับมาจากห้องน้ำไม่ถึงห้าวินาที ก็ทำท่ายันตัวลุกขึ้นอีก ธามจึงเกิดคำถามขึ้น …และดูท่าว่าอาจต้องพาไปโรงพยาบาลแล้ว
“เปล่า ต้องไปรับไอจิ๋วอ่ะดิ อีกเดี๋ยวโรงเรียนก็เลิกแล้ว ยัยนันก็มีนัดไปกินข้าวเย็นกับเพื่อน พ่อแม่ก็กลับดึก วันนี้นอกจากกูก็ไม่มีใครว่างไปรับแล้ว” พูดพลางหยิบยาดมขึ้นมาสูดดมปื๊ดใหญ่
เห็นสภาพเพื่อนก็นึกสงสาร
“งั้นเดี๋ยวกูไปรับน้องเอง”
“เออดีเลย กูก็ลืมไปเลยว่ามีมึงอยู่ เป็นประโยชน์สักทีนะมึง”
ธามได้แต่อมยิ้มกับคำพูดแกล้งเล่นของเพื่อน ท้องเสียเพลียไม่ไหว แต่ปากก็ยังดีอยู่
ดวงตาของกุลจิราเบิกโพลงขึ้นด้วยความตกใจ ระคนดีใจ เมื่อเห็นธามเดินหน้าหล่อเข้ามาหา นี่ยังไม่ได้นอนเลยนะ ฝันแล้วเหรอ ลองหยิกแก้มตัวเองหนึ่งที
“อูย… เจ็บ ไม่นี่นา ไม่ได้หลับอยู่”
สิ้นเสียงรอยยิ้มของผู้ชายตรงหน้าก็ผุดขึ้น
“เป็นอะไร หยิกแก้มตัวเองทำไม” เอ่ยถามพร้อมกับวางมือบนศีรษะเบาๆ ความสูงร้อยสี่สิบต้นๆ ของเธอทำให้ต้องแหงนมองหน้าผู้ชายที่สูงราวร้อยแปดสิบเจ็ด ก่อนที่หน้าจะแดงระเรื่อขึ้นมา เมื่อเห็นลักยิ้มมุมปากของเขาใกล้ๆ ทำไมผู้ชายคนนี้ถึงได้หล่อหลอมใจให้ละลายได้ขนาดนี้นะ
ธามลดมือจากศีรษะมาหยิบกระเป๋าเป้ที่มือของกุลจิราไปถือพาดบ่าไว้ ก่อนจะขยับตัวมายืนข้างๆ มืออีกข้างก็พาดบนไหล่โอบต้นขอของเด็กหญิงวัยสิบเอ็ดปีรั้งให้เดินไปด้วยกัน
กุลจิรารู้สึกเกร็งไปทั้งตัวจากการกระทำของเขา หัวใจเต้นดังตึกตักอย่างกับจะทะลักออกมาเสียให้ได้ พลังความหล่อ และความอบอุ่นของเขาทำงานสูงมาก เหมือนไฟที่หลอมละลายโลหะหนักอย่างเธอให้เดินตามไปโดยไม่มีคำถามว่าจะพาไปไหน เพียงแค่เขาทำแบบนี้
“โอเคไหมเนี่ย” เขาหันมาถามเมื่อเห็นว่าเด็กหญิงดูนิ่งผิดปกติ อีกทั้งเมื่อก้มมามองก็เห็นใบหน้าของเธอขึ้นสีแดง “ไม่สบาย เป็นไข้หรือเปล่า” ไม่ถามเปล่า ยังหยุดเดิน หมุนตัวเปลี่ยนมือจากโอบคอมาเป็นอิงหน้าผาก “แต่ตัวก็ไม่ร้อน หรือจะเป็นลม” ถามด้วยความเป็นห่วง และด้วยความที่กำลังเรียนหมอ สมองก็พลันคิดถึงโรงอะไรบ้างที่ทำให้เกิดอาการเช่นนี้
“ไม่ได้เป็นอะไรค่ะ แค่ร้อน ระ… เรากลับบ้านกันดีกว่านะคะ”
“หือ?” ทำไมเธอดูตกใจ และมีอาการลนลานแปลกๆ เขาทำอะไรผิดไปเหรอ? “ไปกินไอศกรีมกันก่อนกลับไหม เด็กผู้หญิงน่าจะชอบ จะได้หายร้อนไง”
ได้ยินว่าถูกชวนไปกินไอศกรีมรอยยิ้มกว้างก็ปรากฏ รีบพยักหน้ายกใหญ่
เห็นเด็กหญิงดีใจ คนที่คิดว่าตัวเองเป็นพี่ชายอีกคนของเธอก็คลี่ยิ้ม เธอเป็นเด็กน่ารัก น่าเอ็นดูมากๆ อาจจะเพราะตอนนี้เขากลายเป็นลูกคนเดียวของครอบครัว พอเห็นเพื่อนมีพี่น้อง ก็นึกอยากมีด้วย จึงเอ็นดูเด็กคนนี้ได้ง่ายๆ
ธามปั่นจักรยาน โดยมีกุลจิราซ้อนท้ายตรงไปยังเส้นทางร้านไอศกรีมขึ้นชื่อที่ตั้งอยู่หน้าปากซอยเข้าบ้าน
“ปกติเฮียภัทรเอารถมอเตอร์ไซต์มารับ ทำไมพี่ธามขับรถจักรยานล่ะคะ” เธอเอ่ยถาม ลอบยิ้ม ก่อนจะค่อยๆ กระชับกอดเอวเขาแน่นขึ้น
“พี่ขับรถมอเตอร์ไซค์ไม่เป็นน่ะ”
เพราะซ้อนท้ายอยู่ข้างหลัง กุลจิราจึงไม่เห็นว่าคนพูดมีสีหน้าเปลี่ยนไปแค่ไหน จากยิ้มแย้ม กลายเป็นเศร้าหมองเพราะความรู้สึกเจ็บลึกที่เข้ามาสะกิดแผลใจ…
“ปั่นจักรยานมาดีนะคะ ได้ออกกำลังกายด้วย กุลชอบซ้อนจักรยานมากกว่า แล้วคันนี้นี่จักรยานพี่เหรอคะ” เมื่อเช้าเธอก็เหมือนจะเห็นมันจอดอยู่หน้าบ้าน ตอนแรกก็แปลกใจอยู่ว่ามันเป็นของใคร
คนถูกถามพยักหน้า
“ใช่ครับ”
“ไปไหนมาไหนพี่ก็ปั่นจักรยานตลอดเลยเหรอคะ”
“ส่วนมากใช้บริการรถสาธารณะ แต่ละแวกใกล้ๆ พี่ก็ปั่นจักรยาน อย่างเช่น บ้านน้องกุล กับโรงเรียน ซึ่งไม่ได้ไกลกันมาก”
“พี่ธามปั่นจักรยานมาหาเฮียภัทรด้วย งั้นก็แสดงว่า บ้านพี่ธามก็ใกล้กับบ้านของพวกเราน่ะสิคะ”
“พี่อยู่หอพักใกล้ๆ มหาวิทยาลัย”
“บังเอิญบ้านของพวกเราก็ใกล้มหาลัย ก็เลยอยู่ละแวกเดียวกัน” กุลจิราพูดสรุป พลันยิ้มกว้างขึ้นอย่างอารมณ์ดี …แบบนี้ก็ต้องได้เจอกันบ่อยๆ แน่
ความคิดเห็น