ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หย่ามารัก (ทะเลแห่งหัวใจ)

    ลำดับตอนที่ #8 : ตอนที่ 6

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.45K
      58
      29 ม.ค. 63



         ผู้หญิงที่นั่งตรงข้ามกับอัศวินในห้องตรวจของเขาคุ้นหน้าของฟิลิปดายิ่งนัก ถึงว่า เขาขอกำลังเสริม
         วีราวรรณ อดีตคู่หมั้นของอัศวินนี่เอง หน้าตาของเจ้าตัวเปลี่ยนไปมาก ดูสวยโฉบเฉี่ยวรับกันไปทุกส่วน เดาว่าคงเป็นฝีมือการสรรค์สร้างปั้นแต่งโดยอัศวิน 
         อรอรบอกคร่าวๆ ว่าคนไข้ของเขารายนี้ พยายามจะใช้เวลาอยู่กับหมอนานเพื่อหวังผลบางอย่างซึ่งฟิลิปดาแปลได้สั้นๆ ว่า เจ้าตัวพยายามหว่านสเน่ห์กับหมอหนุ่ม และเรียกร้องความสนใจจนเขาอึดอัด 
         ฟิลิปดาไม่ได้หึงเขา กับผู้หญิงคนอื่นเธอไม่รู้ แต่กับวีราวรรณเธอรู้ดีว่าเขาไม่ได้รักผู้หญิงคนนั้นแน่ เวลาเห็นหน้าวีราวรรณและรู้ว่าเจ้าตัวพยายามที่จะเข้าหานายแพทย์หนุ่มเธอก็ยังไม่โกรธเพราะสำนึกในบุญคุณของอีกฝ่ายเสมอว่าถ้าไม่มีวีราวรรณอัศวินคงไม่แต่งงานกับเธอเป็นแน่
         ตอนที่ฟิลิปดากับอรอรเดินเข้าไปนั้นอัศวินนั่งอยู่และมีพยาบาลอยู่ด้วยหนึ่งคน
         "ต้องขออภัยด้วยนะคะ พอดีอรรับทราบว่าคนไข้ปรึกษาหมอเรียบร้อยแล้ว ภรรยาคุณหมอมีธุระด่วนต้องรีบแจ้ง พอดีเห็นว่าเป็นคนกันเอง อรเลยพาคุณฟินเข้ามาเลย คุณแหวนอย่าถือสาอรเลยนะคะ"
         แม้จะหน้าตึง แต่วีราวรรณไม่ได้ว่าอะไร เธอจะไม่เหวี่ยงเลขาของอัศวินไม่ว่าด้วยเหตุผลใด เพราะเจ้าตัวอาจจะไม่จัดคิวให้เธอ หญิงสาวผู้สวมบทคนไข้ ทั้งเข้าหาทั้งปรึกษาทั้งศัลยกรรมไปหลายส่วนแล้ว แต่อัศวินก็ยังไม่ตกอยู่ในกำมือเธอสักที เธอลงทุนและพยายามมาตลอดนับตั้งแต่วันที่เขาหลุดลอยไปแต่ก็ไม่เคยได้เขามา แต่กระนั้นเธอก็ไม่ท้อ ไฮโซสาวเงยหน้ามองฟิลิปดาผู้หญิงที่ทำให้อัศวินยอมขัดใจครอบครัวทิ้งคู่หมั้นที่ครอบครัวหาให้ไปแต่งงานด้วย... 
         "สวัสดีค่ะคุณแหวน" ฟิลิปดาทักทายอย่างสนิทสนม 
         นอกจากกำแพงความเย็นชาของสามี การที่ครอบครัวเขาไม่ชอบเธอและชอบวีราวรรณทำให้ฟิลิปดารู้สึกเสียใจอยู่ลึกๆ เพราะกิจกรรมบางอย่างของครอบครัวเขามักจะมีวีราวรรณร่วมด้วยเสมอ เธอไม่ได้คิดว่าอัศวินจะรักอีกฝ่ายก็จริง แต่การที่ครอบครัวเขาเอ็นดูวีราวรรณมากกว่าก็ทำให้เธอเจ็บปวดได้เหมือนกัน
         "คุณฟินมาพอดี แหวนเพิ่งคุยกับนัทเสร็จ"
         "ดีเลยค่ะ ฟินขอตัวพี่นัทเลยได้ไหมคะ พอดีมีธุระด่วนต้องจัดการด้วยกันน่ะค่ะ" ฟิลิปดาเดินไปอยู่ข้างเก้าอี้ทำงานของสามีโอบแขนพาดไหล่เขาประกาศตัวเป็นเจ้าของ แน่นอนว่าสถานการณ์เช่นนี้เขาย่อมไม่ดุเธอ มืออุ่นของเขายกมาจับมือเธอข้างที่พาดไหล่เขาไว้ ซ้ำยังเงยหน้ามามองเธอพร้อมกับยิ้มน้อยๆ อีกต่างหาก ซึ่งในเวลาปรกติเธอไม่ได้จะมีโอกาสใกล้ชิดได้ขนาดนี้หรอก ถึงแม้จะนอนห้องเดียวกัน
         แล้วอย่างนี้จะให้เกลียดวีราวรรณลงได้ยังไงเล่า
         "อ๋อ ได้ค่ะ" วีราวรรณจำใจเอ่ยมองภาพสองผัวเมียด้วยสายตาริษยาเล็กน้อย แต่ข่าวเรื่องหย่าที่ทนายของครอบครัวอัศวินกำลังดำเนินการอยู่ทำให้เธอไม่หวั่นกับภาพที่เห็นตรงหน้าสักเท่าใดนัก "ถ้าอย่างนั้นแหวนคงต้องไปแล้ว อ้อ นัทอย่าลืมนะคะ ที่เรานัดกันไว้" 
         หญิงสาวบอกแล้วเดินออกไป ฟิลิปดาดึงมือออกจากไหล่ของเขาอย่างเสียดายเพราะกลัวเขาดุ เขากำลังลูบมือเธอคงกะจะโชว์ความรักหวานๆ ให้วีราวรรณได้เห็นก็พลอยชะงักเพราะเธอดึงมืออกมา
         การแสดงละครที่เธออยากให้เป็นเรื่องจริงทุกเวลานาทีได้จบลง
         "นัดอะไรกันไว้หรือคะ"
         "นัดดูอาการบวมของจมูกครั้งหน้าครับ" เขาทำสีหน้าอึดอัดเล็กน้อยยามนึกถึงการที่ต้องตรวจและพูดคุยกับคนไข้รายนี้วีราวรรณไม่ใช่แค่เสพติดศัลกรรม แต่เสพติดหมอศัลยกรรมไปด้วยมันเลยเป็นงานยากพอประมาณ
         "ฟินก็คิดอยู่แล้ว ไม่น่าจะนัดเรื่องอื่น" อัศวินทำหน้าเหมือนจะล้อเธอน้อยๆ ท่าทางฉุนๆ และเสียงถามว่านัดอะไรขึ้นจมูกขนาดนั้น ไม่ได้ดูสบายใจอย่างที่เจ้าตัวแสดงออกสักนิด เขาพอจะเข้าใจว่าเรื่องวีราวรรณทำให้เจ้าตัวหวั่นไหวเป็นพิเศษ เพราะครอบครัวของเขาทำให้ฟิลิปดาคิดว่าเป็นวีราวรรณคือคู่แข่งเสมอ ซึ่งคนที่ไม่ยอมแพ้ใครอย่างฟิลิปดาเลยไม่เคยจะยอมวีราวรรณได้เลย
         "แล้วว่าแต่ธุระสำคัญของฟิน มีอะไรเหรอ"
         "มาปรึกษาศัลกรรมเสริมความงามค่ะ"
         "จะทำส่วนไหน" เขารู้ว่าเธอพูดเล่น เลยเออออตาม
         "ก็นี่ล่ะค่ะ เลยมาปรึกษาก่อนว่าต้องทำตรงไหน"
         "ครับ"​ คนเป็นหมอเสริมความงามพิศเพ่งที่ดวงหน้าสวยหวาน ปลายจมูกรั้นเชิดตามนิสัยเอาแต่ใจตามประสาน้องรักที่มีพี่ชายสปอล์ยสุดๆ กวาดมองอยู่สองสามรอบก็ส่ายหัว
         "ทั้งหน้าไม่มีที่ให้ทำเลยครับ ดีอยู่แล้ว"
         "ขี้เกียจทำให้มากกว่ารึเปล่า กลัวไม่ได้ค่าดีเอฟ ( DF ค่าบริการทางการเเพทย์ )เหรอคะ"
         "ไม่ได้ขี้เกียจ และก็ไม่ได้กลัวไม่ได้เงินด้วยเพราะเรียกเท่าไหร่ฟินก็คงมีจ่ายแน่ แต่หน้าฟินมันพอดีแล้ว ไม่มีที่ให้ทำจริงๆ" เขายังยืนยัน "เราไม่ได้ตั้งใจมาป่วนพี่เรื่องนี้หรอกใช่ไหม ธุระจริงๆ คืออะไรบอกมาดีๆ"
         "แม่บ้านบอกว่าพี่ไม่ค่อยได้กินข้าวเช้าเลยตั้งแต่ตอนมาจากสมุย วันนี้ฟินว่างเลยทำอาหารมาให้ค่ะ" หญิงสาวบอกยิ้มๆ เธอเห็นเขานิ่วหน้าประหนึ่งยุ่งยากใจเธอก็รีบออกตัว "บอกแล้วไงคะว่าว่างไม่มีอะไรทำ ไม่ได้ลำบากอะไร เดี๋ยวฟินไปจัดโต๊ะให้พี่นัทต้องเคลียร์งานอะไรก่อนหรือเปล่าะคะ"
         "ก็นิดหน่อยครับ เดี๋ยวพี่ตามไปนะ ฟินรอที่ห้องรับรองก่อนก็ได้" เขาพยักหน้าให้กับเธอ หญิงสาวเลยเดินออกไป
         หมอหนุ่มหันไปหาอรอรกับพยาบาลที่ยืนอยู่อีกมุมหนึ่งของห้อง เพราะว่าเขายังไม่ได้บอกให้พวกเธอออกไปได้ เลยพากันรอคำสั่งของเขาอยู่
         "พี่แม้ว ให้เตรียมเซ็ทเคสผ่าจมูกคนไข้ช่วงบ่ายเร็วขึ้นกว่าเดิมสามสิบนาทีก็ได้นะครับ ผมไม่ได้ออกไปกินข้าวข้องนอกแล้ว น่าจะทำได้เร็วขึ้น"
         พยาบาลรุ่นพี่ของเขาที่เป็นพยาบาลมือดีที่ทำงานช่วยเขาได้มากในห้องผ่าตัดพยักหน้ารับ อันที่จริงเขาจะต้องใช้พยาบาลอีกคนเพื่อเข้าเคสในตอนที่ปรึกษา หรือใช้ผู้ช่วยพยาบาล แต่เพราะอำนาจพิเศษของการเป็นกรรมการบริหารโรงพยาบาลเอกชนแห่งนี้ทำให้เขาเรียกพยาบาลมาเข้าเคสช่วยตั้งแต่ขั้นตอนที่เขาให้คำปรึกษากับคนไข้เพื่อความสะดวกกว่าในหลายๆ ด้าน
         จากนั้นหมอหนุ่มก็หันไปหาอรอร
         "พี่อี๊ดครับ ขอกำลังเสริมในที่นี้ผมให้พี่แม้วโทรไปขอแบบว่าให้เดินเข้ามาแจ้งเคสอื่น หรืองานแทรก แต่ว่าพาฟินเข้ามาแทรกในตอนที่ผมคุยกับคนไข้ ไม่ได้นะครับ ถึงแม้คนไข้จะเป็นแหวนก็ตามที"
         "พี่อี๊ดขอโทษค่ะคุณหมอ พี่อิี๊ดลืมนึกไป แค่คิดว่าเป็นคุณแหวน คุณฟินน่าจะเป็นคู่ต่อสู้ที่สมน้ำสมเนื้อ เพราะบอกว่าหมอมีธุระทีไรก็ไม่ค่อยจะยอมกลับเท่าไหร่"
         "ไม่เป็นไรครับ นี่ครั้งแรก ผมแค่บอกก่อนเพียงเท่านั้น เรามีโอกาสเจอคนไข้แบบเเหวนอีก ผมอยากแก้ปัญหาโดยละม่อมมากกว่า เขามาด้วยเรื่องชู้สาวถ้าเราตอบโต้ด้วยวิธีเดียวกัน มันจะนำพาไปสู่การทะเลาะวิวาทให้ยุ่งยากกว่าเก่าน่ะสิครับ"
         "หมอนัทก็เนื้อหอมน้อยๆ ลงหน่อยสิคะ นี่ขนาดมีภรรยาแล้วนะคะ"
         อัศวินได้เพียงยิ้มบางๆ ตอบ เพราะเป็นอันรู้กันว่าเขาไม่ได้ไปหว่านเสน่ห์ดึงใครเข้าหาตัวเลยติดจะรำคาญด้วยซ้ำ แต่คนอื่นต่างหากเล่าที่เข้ามาเอง
         "ถ้าอย่างนั้นผมขอไปกินข้าวก่อนนะครับ" เขาบอกก่อนจะลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ถอดเสื้อกาวน์ผ้าฝ้ายตัวยาวไปแขวนไว้ตรงที่แขวนแล้วเดินก้าวยาวๆ ออกไป

         อรอรและมาลีมองหน้ากัน ก่อนที่มาลีจะเปรยออกมา
         "ตอนหมอนัทอยู่กับคุณฟินก็น่ารักดีออก ดูสนิทกันดี ทำไมจะต้องหย่ากันด้วยนะ"
         "ก็สนิทกันมาก่อนแต่งงาน คุณฟินเป็นน้องของเพื่อนสนิทหมอนัทนี่พี่แม้ว แต่ว่าสนิทแค่ไหน ถ้ารักจาง ก็คงหย่าแหละ แต่อี๊ดคิดว่าสองคนนี้ยังดี จะหย่ากันอยู่แล้ว ก็คงเป็นเพื่อนกันต่อไปได้"
         "เขาจะหย่ากันจริงเหรอ"
         "ก็คงงั้นแหละพี่แม้ว ทนายมาตั้งสองสามรอบ อรได้ยินว่าหมอนัทต้องเคลียร์เรื่องทรัพย์สินหลังหย่าด้วย เพราะว่ามีสินสมรสอยู่หลายอย่างที่ได้มาตอนแต่งงาน อีกอย่างหมอนัทแกอาจจะเจ้าชู้เงียบก็ได้ อี๊ดเคยเสนอว่าให้เอารูปแต่งงานมาไว้ที่ห้องแกก็ไม่ยอม ไหนจะเรื่องกิ๊กดาราอะไรนั่นอีก บางทีภาพที่เราเห็นอาจจะไม่ใช่สิ่งที่อยู่ในใจของเค้าก็ได้พี่แม้ว"
         "อือ... ก็จริง" มาลีพึมพำ แม้จะไม่เห็นด้วย แต่บางครั้งก็ต้องยอมรับความจริง "สงสารคุณฟิน ไม่อยากให้หย่าเลย"
         "อี๊ดก็เหมือนกัน แต่มันเป็นความต้องการของหมอนัท เราคงต้านทานอะไรไม่ได้ แม้แต่คุณฟินที่ไม่อยากหย่า ก็คงต้องหย่า ถ้าคุณหมอต้องการ ชีวิตคู่มันเป็นเรื่องของคนสองคนนี่เนาะ"
         อรอรบอกก่อนจะส่ายหน้าเหมือนปลดปลงทางโลก เพราะเรื่องการหย่าของหมอหนุ่มกับภรรยานั้นก็ขัดใจเธอเช่นกัน
    ...............

    สปอล์ย
    "เอกสารที่พี่ให้ไว้ ฟินเซ็นหรือยังครับ"
    "..."

    เรื่องข้างล่างเป็นภาคแรกของเรื่องนี้จ้า เป็นพี่ๆ ของน้องฟิน ค่า 




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×