ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หย่ามารัก (ทะเลแห่งหัวใจ)

    ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่หนึ่ง

    • อัปเดตล่าสุด 3 ธ.ค. 62








    โรงแรมมโนรา เกาะสมุย

              บรรยากาศริมทะเลยามค่ำคืน การได้อยู่ท่ามกลางเสียงพูดคุย เสียงช้อนกระทบจาน เสียงกดชัตเตอร์ และแสงแฟลชที่สว่างวาบเป็นระยะๆ เป็นบรรยากาศงานแต่งงานริมทะเลที่ไม่คุ้นชินสำหรับฟิลิปดา เพราะสำหรับหน้าที่เป็นผู้บริหารโรงแรมมโนราสาขากรงเทพฯ ทำให้เธอเคยชินกับบรรยากาศงานแต่งงานในร่มมากกว่า 
         แต่เพราะว่าพี่ชายทั้งสองคนและลุกพี่ลูกน้องของเธอที่สามัคคีกันแต่งงานทั้งสามคู่ในวันเดียวกันและพร้อมใจจะจัดกันที่โรงแรมสาขาเกาะสมุย ที่มีหน้าหาดขนาดใหญ่ ทรายสีขาวละเอียด เธอเลยต้องละเว้นงานบริหารโรงแรมมโนรากรุงเทพมาช่วยดูแลเรื่องงานแต่ง... 
         แม้ว่าพี่ๆ ทั้งหลายจะอยากจัดงานแต่งเล็กๆ ริมหาดและฉลองกันในหมู่เพื่อนเพียงอย่างเดียวแต่ด้วยฐานะและหน้าตาทางสังคมก็ไม่ได้ทำให้มันเป็นแบบนั้นได้ง่ายๆ แม้ว่าวันแรกนั้นงานแต่งงานจะถูกจัดเรียบง่ายอย่างที่เจ้าบ่าวเจ้าสาวสามคู่ต้องการ แต่อีกวันถัดมาก็ต้องมีการเลี้ยงแขกและญาติๆ รวมทั้งลูกค้าที่ร่วมธุรกิจกันอีกหลายคนจนเป็นงานช้าง

    ยัยฟิน เราแต่งงานออกเรือนไปก่อนแล้ว มีประสบการณ์แล้วก็มาเป็นแม่งานให้งานพวกพี่ๆ หน่อยเถอะ... พวกแม่ๆ ป้าๆ แก่กันแล้ววิ่งวุ่นทั่วงานคงไม่ไหว เดี๋ยวจะลมจับเอา คุณอัสมาผู้เป็นมารดาบอกก่อนจะมอบหมายงานให้หล่อนช่วยดูแลแขกและญาติผู้ใหญ่หลายคน

    แล้วนี่สามีแกจะลางานไปช่วยงานแต่งด้วยได้ไหม” ฟิลิปดาจำคำถามที่มารดาถามถึงได้แล้วก็ถอนหายใจ

    พี่นัทบอกว่าอาจจะไม่ว่างค่ะ

    ไม่ว่าจะมีงานอะไรสำคัญๆ แฟนลูกนี่ก็ไม่ว่างตลอดนะ ขนาดวันงานที่แต่งกับลูก ก็รอเจ้าบ่าวจนนึกว่าจะแต่งตัวเก้อ...” แม้จะได้ลูกสะใภ้ถูกใจพร้อมๆ กันสองคนแต่มารดาก็ยังไม่หายห่วงเรื่องของฟิลิปดา และไม่อาจยอมรับ นายแพทย์อัศวิน เรืองพานิชย์สามีของหล่อนได้ อาจจะเป็นเพราะผู้เป็นแม่ยังเห็นว่าหล่อนไม่ได้ดูมีความสุขกับการแต่งงานนักจึงยังไม่ค่อยวางใจ... ไม่เหมือนกับคู่ของพี่ชายที่ท่านไม่ได้หาให้แต่ท่านก็วางใจเพราะว่าชีวิตรักของพี่ๆ มีความสุข

    มันไม่ได้ต่างจากที่มารดาเธอว่าไว้หรอก... ว่าหล่อนต้องทนทุกข์กับการแต่งงานที่เธอเลือกเอง... นึกถึงคำพูดของมารดาที่พูดก่อนวันจัดงานแล้วก็ถอนหายใจแผ่วเบา ความเหนื่อยทั้งร่างกายและจิตใจตีตื้นขึ้นมาพร้อมกัน เพราะวันนี้ถึงวันงานที่เธอต้องเป็นคนประสานงาน เรื่องส่วนตัวที่ว่าเหนื่อยบวกกับเรื่องงานเข้าไปทำเอาเธอเหงื่อตกได้เหมือนกัน

         ฟิลิปดาปาดเหงื่อที่ไหลซึมตามขมับพร้อมกับผินมองไปทางสามีที่นั่งนิ่งขรึมอยู่ในกลุ่มเพื่อนนักเรียนแพทย์รุ่นเดียวกัน อย่างหมอดนัยภัทร และองศาพี่ชายของหล่อน... 

    การแต่งงานของหล่อนมันเริ่มมาจากหล่อนไม่อยากแต่งงานกับคนที่มารดาเลือกให้เพราะเห็นธาตุแท้ของเขาว่าไม่ใช่คนดีอย่างที่มารดาคิด... หล่อนไม่นึกถึงใครเลยที่จะช่วยหล่อนนอกจากพี่อัศวิน เพื่อนสมัยเรียนที่เคยเรียนแพทย์รุ่นเดียวกับองศาพี่ชายของเธอ 

    แม้องศาจะลาออกตอนเรียนปีสี่เพราะฝืนทนเรียนในสิ่งที่ไม่ชอบไม่ไหว แต่กลุ่มเพื่อนที่สนิทที่สุดขององศาก็ยังคงเพื่อนที่เป็นหมอสองคนนี้... ฟิลิปดาหลงรักเพื่อนพี่ชายมานานปีและมองเขาเพียงคนเดียวจึงขอให้อัศวินช่วยแต่งงานกับหล่อน และหวังว่าจะเกิดปาฏิหาริย์ความรักระหว่างเขากับหล่อนขึ้นมา แต่ทุกอย่างก็คือความเพ้อฝัน อัศวินไม่เคยใส่ใจและเฉยชากับหล่อนไม่ต่างจากเป็นคนรู้จักกัน แม้จะแต่งงานกันเป็นปี เขาไม่เคยมีหล่อนในหัวใจสักวัน...

    อัศวินคงรู้ตัวว่าถูกมอง เขาหันหน้ามายังหล่อนแล้วก็จ้องตอบฟิลิปดาครู่หนึ่งก่อนจะหันไป.... เพียงแค่นั้นเท่านั้นในใจของฟิลิปดาก็มีทั้งสุขทั้งทุกข์เคล้าปะปน...

    สุขที่บางครั้งเขาก็ยังมีหล่อนในสายตา ทุกข์ทุกครั้งที่คิดว่าเขาไม่เคยมีหล่อนในหัวใจ...

    หัวใจของน้องสุดท้องแห่งบ้านรัตภาคโสภณหนาววูบขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูกเมื่อนึกถึงเอกสารที่อัศวินวางไว้ให้ที่หัวเตียงของหล่อนเมื่อเช้า เอกสารที่มีลายเซ็นของเขาและรอลายเซ็นของหล่อนประทับลงไป...

    เอกสารหย่าที่กำลังจะพรากเขากับหล่อนให้ไกลห่างกันไปอีก ทั้งที่หล่อนก้าวเข้าไปหาเขาได้ใกล้กว่าทุกคน แต่เขากลับใช้กำแพงแห่งความเฉยชากั้นไว้ และผลักหล่อนให้หนีออกมาด้วยทะเบียนหย่าอันนั้น...

    พี่กับองศาเห็นด้วยว่า น้องฟินน่าจะไปเรียนต่อสักพักหลังหย่า พ่อแม่ของน้องฟินคงดีใจที่ได้หย่ากับพี่สักที... เราต่างคนต่างควรจะคืนอิสระให้กันได้แล้ว...”

    คำอธิบายสั้นๆ เกี่ยวกับเอกสารที่ฟิลิปดาเห็นแล้วแสนปวดใจ ก่อนที่เขากับหล่อนจะเดินทางมาสมุยเพื่องานแต่งงานของพี่ชาย...

    ฟิลิปดาเก็บเอกสารเหล่านั้นไว้ที่ลิ้นชักหัวเตียง แทบไม่อยากแตะ และไม่ต้องพูดถึงเรื่องเซ็น หล่อนไม่คิดจะเซ็นมันสักแกรกเดียวด้วยซ้ำ...

    งานแต่งพี่องศาเสร็จ ค่อยมาคุยกันเถอะค่ะ

    หล่อนใช้เรื่องที่กำลังยุ่งอยู่ตอนนี้เป็นข้ออ้าง... หล่อนไม่อยากให้ชีวิตแต่งงานของตัวเองจบลง แต่ความไม่มีหัวใจของอัศวินกำลังจะทำให้มันเกิด เห็นสายตาชาเฉยที่เคยได้รับตลอดมาแล้วฟิลิปดาก็หนาวยะเยือกในใจ...

    ถ้าไม่อยากหย่าก็คงต้องทำอะไรสักอย่าง... หญิงสาวกวาดสายตามองแก้วเหล้าแก้วแล้วแก้วเล่าที่โต๊ะเพื่อนหมอของเจ้าบ่าวพากันชนก่อนจะยกขึ้นดื่ม อัศวินเองก็ดื่มเงียบๆ ไปด้วยกัน...

    ฟิลิปดาจะรักษาชีวิตสมรสกับคนที่หล่อนรักให้ถึงที่สุด!

    คุณฟินคะ... ญาติๆ ของคุณลูกไก่มาแล้วค่ะ” เจ้าหน้าที่ที่ช่วยประสานงานในงานแต่งงานมาเรียกให้ฟิลิปดาไปต้อนรับพ่อแม่และญาติๆ ของปริมรตาคนรักขององศาที่เพิ่งออกมาจากห้องพักและเข้ามาที่บริเวณจัดงาน หล่อนจะต้องไปต้อนรับพวกท่านและนำทางไปที่โต๊ะวีไอพี... ทำให้ฟิลิปดาวางเรื่องหัวใจของตัวเองแล้วมาดูแลเรื่องของพี่ๆ ให้เป็นวันที่มีความสุขที่สุดของพี่ๆ เท่าที่จะทำได้ เพื่อให้ภาพงานแต่งงานที่งดงามตราตรึงอยู่ในหัวใจของพี่ชายเหมือนที่ภาพงานแต่งงานของหล่อนกับอัศวินที่ตราตรึงใจหล่อนมาจนถึงตอนนี้...

    บรรยากาศงานที่แสนหวานอบอวลไปด้วยความรักแสนสดชื่นของคู่รักถึงสามคู่ดำเนินไปอย่างรื่นเริง ชีวิตคู่ของพวกเขากำลังจะเริ่มต้นขึ้น... คำอวยพรจากปากของญาติผู้ใหญ่และแขกที่ร่วมงานและความรักจากหัวใจที่แท้จริงของพวกเขาจะทำให้พวกเขานำพาชีวิตรักไปสู่เส้นทางแห่งความสุข และเอาชนะอุปสรรคทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้เป็นอย่างดี... 

    ชีวิตรักของพี่ๆ กำลังจะเริ่มต้น ในขณะที่คนเป็นน้องสาวสุดท้องอย่างฟิลิปดายังไม่ได้เริ่มต้น... วันนี้เป็นนิมิตรหมายที่ดีที่หล่อนจะตามพี่ๆ ไปให้ทัน...






    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×