หย่ามารัก (ทะเลแห่งหัวใจ)

ลำดับตอนที่ #7 : ตอนที่ 5

    หลังจากงานแต่งงานของพี่ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้วฟิลิปดาอยู่กับครอบครัวที่สมุยอีกสองวันหญิงสาวก็กลับมาที่กรุงเทพฯ 

     เธอมาถึงตอนสายๆ เลยรู้จากแม่บ้านว่าเมื่อเช้าเขารีบไปทำงานไม่ได้แตะต้องอาหารที่แม่บ้านเตรียมไว้ให้เลย ช่วงนี้เขาคงงานหนักมาก เพราะชื่อเสียงของเขาโด่งดังในแวดวงคนบันเทิงที่มักมาศัลยกรรมเสริมความงามกับเขา คิวผ่าตัดของสามีเธอค่อนข้างแน่น แม้กระทั่งเพื่อนที่เธอสนิทด้วยเธอเองยังขอคิวให้ไม่ได้ เพราะลูกค้าฝั่งเขาก็ค่อนข้างวีไอพีมากเช่นกัน

     เพราะวันนี้ยังไม่ได้ทำงานและค่อนข้างว่างหญิงสาวเลยไปซื้อวัตถุดิบทำอาหารญี่ปุ่นกลับบ้านมาทำข้าวกล่องเบนโตะให้เขา

     ซูชิเนื้อวากิว ซูชิตับห่าน โรลแซลมอนอโวคาโด สลัดผักและซุปมิโซะรสชาติจืด เมนูโปรดของเขาถูกจัดวางในกล่องนอกจากใส่ความตั้งใจแล้ว เธอยังใส่ความรักอย่างเต็มเปี่ยม 

     ในเวลาต่อมาไม่นานนัก หญิงสาวตัวเล็กหน้าตาสวยหวาน ที่รู้จักกันดีในนามภรรยานายเเพทย์อัศวินก็เดินหิ้วกล่องข้าวเบนโตะสองกล่องและกล่องขนมโมจิชาเขียวไส้ถั่วแดงแจกพนักงานในแผนกเสริมความงามเพราะไม่ได้เอาขนมมาฝากที่นี่พักใหญ่แล้วเลยแจกเสียถ้วนทั่ว ก่อนจะตรงไปที่ห้องทำงานของสามีและพบกับอรอรเลขาหน้าห้องของนายแพทย์หนุ่ม

     "น้องฟิน เอาเสบียงมาส่งหมอนัทหรือคะ" อรอรทักทายอย่างเป็นกันเอง 

     "ใช่ค่ะพี่อี๊ด ฟินเอาโมจิชาเขียวถั่วแดงมาฝากค่ะ" กล่องขนมสีหวานที่นอกจากอร่อยด้านในแล้วยังใส่ใจแม้กระทั่งบรรจุภัณฑ์ที่ดูสวยงามไม่แพ้ขนม

     "กรี๊ด... ขอบคุณมากค่ะน้องฟิน ลาภปากพี่อีกแล้ว" เลขาสาวมองกล่องขนมตาเป็นประกาย ฝีมือการทำขนมและการทำอาหารของฟิลิปดาดีถึงขั้นที่ว่าหากไม่ใช่ผู้บริหารโรงแรมมโนราแล้ว คงได้เป็นเชฟอาหารญี่ปุ่นมือหนึ่งที่ไร้ซึ่งเทียมทานแน่นอน การได้ลิ้มรสฝีมือทำอาหารของฟิลิปดานั้นเหมือนได้โบนัสเพราะนานๆ ครั้งอรอรจะเห็นฟิลิปดามาหาอัศวินที่นี่ ครั้งล่าสุดก็เป็นปีแล้ว

     "พี่นัทมีคนไข้หรือเปล่าคะ"

     "ไม่มีค่ะ น้องฟินไปรอที่ห้องรับรองนะคะ เดี๋ยวพี่ไปตามหมอนัทให้ คิวมีอีกทีบ่ายสองค่ะ หมอนัทว่างพอดี จะได้กินข้าวอร่อยๆ เติมพลัง ช่วงบ่ายจนเย็นมีผ่าจมูกสามเคสติดกันเลยค่ะ"

     หญิงสาวพยักหน้ารับ พร้อมรอยยิ้มที่คลี่บานออกมาบนดวงหน้าหญิงสาว เธอเดินไปห้องรับรองและเตรียมกล่องอาหารไว้ให้เขาได้กิน เธอใส่ใจแม้ประทั่งชงชาเขียวใส่ข้าวคั่วร้อนๆ ใส่กระติกเก็บอุณหภูมิมาให้เขาเรียบร้อย

     เสียงประตูเปิดออก เธอนึกว่าเป็นอัศวิน แต่เป็นอรอรที่หน้าตาตื่นเข้ามาหาเธอ

     "คุณฟิน รอหมอนัทสักครู่นะคะ ตอนนี้มีเรื่องนิดหน่อย เดี๋ยวมาค่ะ"

     "เกิดอะไรคะ"

     "มีคนไข้ที่ค่อนข้างติดหมอนัท มาปรึกษาแก้จมูกค่ะ หมอนัทไม่ทำให้เพราะว่าเพิ่งแก้และไม่มีปัญหาอะไร เจ้าตัวเหมือนอยากหาเรื่องมาเจอหมอมากกว่า นี่พยายามจะทำหน้าอกทำอะไรเพิ่มไม่ยอมกลับ หมอนัทกำลังกล่อมอยู่ค่ะ"

     "หืม มีคนไข้พยายามจะเรียกร้องความสนใจจากพี่นัทหรือคะ"

     "ใช่ค่ะ มีค่อนข้างเยอะ เมื่อก่อนเคสหมอนัทปรึกษาฟรีนะคะ ตอนนี้เก็บค่าปรึกษาแล้วค่ะ เพราะว่ามีคนอยากมาคุยด้วยเฉยๆ แต่กระนั้นคิวก็ยังเต็ม"

     "เสน่ห์แรงไม่เบานะเนี่ย" ฟิลิปดายิ้ม นึกไปถึงอัศวินเขาคงอึดอัดน่าดูเวลาคนไข้แสดงออกว่าสนใจเขา เธอมัวแต่ระแวงเรื่องรัศมีดาราที่เป็นข่าวกับเขาแต่เอาจริงๆ คนไข้ที่แผนกของเขาก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน

     เสียงเรียกเข้าที่โต๊ะทำงานทำให้อรอรรีบถลาไปรับก่อน เจ้าตัวรับสายอัศวินแล้ว กรอกเสียงเข้าไป

     "หมอนัทคะ คุณฟินมาพอดีค่ะ พี่อรพาไปด้วยนะคะ"

อรอรวางสายไป ส่วนฟิลิปดายื่นงงนิดหน่อยว่าอรอรคุยอะไรกับเขา พออรอรวางสายก็เงยหน้ามามองเธอ

"คุณฟินคะ ไปค่ะ ไปห้องตรอวจของคุณหมอ พอดี แกต้องการกำลังเสริมค่ะ"

"กำลังเสริม" เธอพึมพำงงๆ แต่ยังไม่ได้ทันได้ถามอะไร อรอรก็จูงเเขนเธอเดินเข้าไปห้องตรวจที่มีแผ่นอะครีลิกเขียนชื่อของเขาเด่นหราที่หน้าห้อง

     พออรอรจูงมือฟิลิปดาเข้าไป พนักงานต้อนรับของแผนกศัลกรรที่นั่งทำงานกันอยู่มองซ้ายมองขวาแล้วก็ต่างขยับเก้าอี้เข้าหากันแล้วมุงกันเพื่อเพิ่มอรรถรสในการสนทนา

     "คนนี้ใช่ไหม คุณฟิน เมียหมอนัท ฉันเพิ่งมาทำงาน ไม่เคยเจอ เคยแต่ได้ยินชื่อ"

     "อืม ใช่คนนี้แหละ เมียแต่ง"

     "แกไม่ค่อยมาหาหมอนัทเลยนะ"

     "ได้ยินพี่อี๊ดบอกว่า เคยทำอาหารมาให้กันอยู่ตอนแต่งงานใหม่ๆ เมื่อปีที่แล้วอ่ะ แล้วหมอนัทบอกว่าอย่าลำบากทำมาเลย ไม่อยากรบกวน เห็นคุณฟินหายไปเป็นปีเพิ่งมาวันนี้แหละ" พนักงานคนที่ทำงานนานกว่าและทันเหตุการณ์ทุกอย่าง แม้แต่ตอนที่ไปงานแต่งงานของนายแพทย์หนุ่มที่ไปกันยกแผนกเธอเองก็ยังจำได้ว่างานแต่งงานสวยหรูที่จัดขึ้นที่โรงแรมมโนรา สาขาปทุมวันนั้นยิ่งใหญ่และตราตรึงแค่ไหน

     "นี่เธอฟังมาผิดแล้วเรื่องมันล้ำลึกกว่านั้นย่ะ วันนั้นฉันก็อยู่ คุณฟินทำอาหารมาให้ตอนที่เพิ่งแต่งงานใหม่ๆ หมอนัททำงานต่อเลยไม่ได้ไปฮันนีมูน แต่เมียแกคงหยุดงานเลยทำอาหารมาให้กิน พี่อรบอกว่าเค้าเป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นเลยทำอาหารญี่ปุ่นอร่อย ขนมโมจิที่เอามาฝากเรานี่อร่อยจนอยากให้ทำขายเลยล่ะ" พนักงานอีกคนทำท่าเม้าปากยื่นปากยาว เกริ่นเล่ายาวมาก่อน และวกเข้าเรื่องในที่สุด "แต่ว่าประเด็นไม่ได้อยู่ตรงนั้นจ้ะ วันนั้นที่คุณฟินมา พี่อรบอกว่าคุณรัศมีดาราก็มาหาหมอนัทพอดี คุณฟินเลยกลับไปก่อน ตอนนั้นหน้าจ๋อยน่าสงสารมาก"

     "ว้าย ตายจริง ฉันก็นึกว่า ที่หมอนัทสนิทกับคุณรัศมีดารา เมียเค้าไม่รู้"

     "ไม่รู้อะไรล่ะแก คุณรัศมีดาราเป็นดารานะยะ ถึงหมอนัทจะบอกว่าเป็นเพื่อนก็เถอะ แต่ว่ามีคนเห็นว่าไปเจอกันที่ญี่ปุ่น เมื่อไม่นานมานี้เองคนเป็นเมียคงมีระเเวงบ้างเเหละ"

     "โฮ๊ย สงสารคุณฟินจัง แต่ว่าคุณรัศมีดาราก็แต่งงานแล้วนะ กับไฮโซน้ำเงินที่หล่อๆ ไง"

     "ก็นั่นล่ะ นี่ก็สงสารคุณฟิน วันนั้นจำได้นะว่าคุณฟินหน้าหงอยกลับไปเลย"

     "จริงเหรอแก แล้วตกลงคุณฟินกับหมอนัทจะยังไงเนี่ย จะว่าไปหมอนัทก็ไม่ได้ดูเจ้าชู้นะ แผนกเรามีผู้หญิงกี่คน หมอสาวๆ สวยๆ ก็หลายคนแกไม่เคยก้อร้อก้อติก หรือว่าเค้าจะเป็นเพื่อนกับคุณรัศมีดาราจริงๆ" พนักงานใหม่ผู้เริ่มเปิดประเด็นสนทนาเรื่องภรรยาคนสวยของนายแพทย์หนุ่มขวัญใจแผนกเสริมความงามทำสีหน้าเครียดเเทน

     "เพื่อนกันอะไรล่ะ" 

     "แกไปรู้อะไรมา ไหนเล่าซิ"

     "อันนี้ท็อปซีเคร็ทนะแก..." คนพูดทำท่าป้องปากกระซิบ "ฉันไปหยิบของในห้องรับรองแขก ได้ยินพี่อี๊ดติดต่อทนายมาทำเอกสารเรื่องหย่าให้หมอนัท สดๆ ร้อนๆ อาทิตย์ที่แล้วนี่เอง"

     "คุณพระ" ทุกคนทำสีหน้าตื่นตะลึงและเจ็บปวด ยิ่งเห็นว่าฟิลิปดาน่ารักเพียงใดก็ยิ่งสงสาร  เมื่อเปิดวงสนทนาเรื่องผัวๆ เมียๆ ขึ้นมาเมื่อไหร่ เป็นที่แน่นอนแล้วว่าคนที่อยู่ในตำแหน่งเมียหลวงจะได้รับความเห็นอกเห็นใจมากที่สุด และเรื่องที่รับรู้มาก็ทำให้ทุกคนที่ได้คุยกันในวงสนทนาเกลียดมือที่สามอย่างรัศมีดารา โกรธอัศวินที่จะทิ้งภรรยา และสงสารฟิลิปดาที่กำลังจะกลายเป็นอดีตภรรยาของนายแพทย์หนุ่มไปเสียแล้ว