ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ตอนที่ 3
บรรยากาศรื่นเริงและฟ้าฝนเป็นใจ รวมทั้งการจิบไวน์ทำให้อารมณ์ที่ไม่ค่อยคงที่ของเขาดีขึ้นอย่างประหลาด อัศวินกวาดตามองงานรอยยิ้มของทุกคนในงาน เหมือนกับงานแต่งงานของเขากับฟิลิปดาเมื่อหนึ่งปีก่อนไม่มีผิด เพียงแต่ความรักของงานแต่งงานครั้งนี้เป็นของจริง
ต่างจากงานแต่งงานของเขาที่เขากับฟิลิปดาต่างแต่งเพราะไม่อยากแต่งงานกับคนที่พ่อแม่หาให้
ดังนั้นไม่แปลกนักที่ผู้ใหญ่ทางฝั่งเธอที่มักเป็นผู้บริหารโรงแรมไม่ปลื้มเขา และผู้ใหญ่ฝั่งเขาที่เป็นผู้บริหารโรงพยาบาลไม่ได้ปลื้มเธอ
ดวงตาเรียวรีตวัดไปมองร่างบอบบางของภรรยาที่นั่งอยู่ข้างมารดา เธอสวมชุดราตรีสีพีชกับรองเท้าสานสีน้ำตาลเข้มตัดกับผิวขาวอมชมพู ผมที่มัดเรียบๆ ทัดดอกไม้ช่อเล็กกับดวงหน้าที่แต่งอ่อนๆ สะดุดตาใครหลายคนในงานแน่นอน แต่เธอไม่มีโอกาสได้ถูกใครจีบหรือทาบทามเพราะว่ามีเขาค้ำคออยู่
ความงามราวกับไข่มุกสีหวานล้ำค่าที่เปล่งประกายท่ามกลางผู้คนน้ันเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาตัดสินใจคืนอิสระให้เธอ เธอควรอยู่กับคนที่รักเธอและคู่ควรกับเธอ
เหมือนหญิงสาวจะรู้ว่าถูกมอง เธอหันมาทางเขาน้อยๆ ก่อนยิ้มให้ รอยยิ้มหวาน ดูสนิทใจ ทำให้เขาเว้นระยะห่างไว้คงที่เสมอแม้นอนร่วมห้อง เขาพยักหน้าให้เธอก่อนจะมองเลยไปยังคุณอัสมาผู้เป็นแม่ยาย
สายตาขุ่นๆ ที่ดูจะไม่เคยพอใจตวัดมามอง ก่อนจะเบนไปทางอื่น เขาไม่ได้สนใจ และหันมาหากลุ่มเพื่อนและเริ่มเปิดวงสนทนาต่อเกี่ยวกับเรื่องเกี่ยวกับวงการโฆษณาที่อาทิตยะกำลังเล่าเกี่ยวกับบริษัทสกายที่เขาก่อตั้งให้เพื่อนๆ ฟัง
"กลุ่มเพื่อนของตาองศาดูดีกันทุกคนเลยนะ" โยโกะ ผู้มีศักดิ์เป็นป้าและเป็นญาติทางฝ่ายบิดาเอ่ยกับฟิลิปดาเพราะท่านรู้ดีว่าเป็นหนึ่งในภรรยาของคนในกลุ่มนั้น
"ใช่ค่ะ ตอนเรียน หน้าตาดี เรียนเก่งกันทั้งกลุ่ม พวกเขาดังมาก" เธอบอกยิ้มๆ หนึ่งในเเฟนคลับกลุ่มนี้ก็เธอนี่แหละ
"เป็นเพื่อนที่เรียนหมอที่เดียวกันทั้งหมดเลยนี่ใช่ไหมป้าเคยได้ยิน ป่านนี้เป็นหมอเฉพาะทางด้านไหนกันแล้ว ป้ารู้แค่ว่าสามีหนูเป็นหมอศัลยกรรมเสริมความงาม"
"ตอนแรกเหมือนจะเรียนหมอทั้งกลุ่มแต่พี่องศาลาออกมาเรียนวาดรูป กับคนที่สวมเสื้อสีครีมชื่ออาทิตยะ ไม่เรียนหมออีกแต่เลือกเรียนทางด้านโฆษณา คนเสื้อขาวหมอกอล์ฟ เป็นสูตินรีเเพทย์ค่ะ" แม้จะอธิบายถึงคนอื่น แต่สายตาและรอยยิ้มของเธอกลับมองผู้เป็นสามีที่โดดเด่นที่สุดในสายตาของเธอ
รอยยิ้มและความปรารถนาดีที่เขาไม่เคยมองเห็น
"ตอนรับช่อดอกไม้แม่ละอยากให้หนูไปรอรับด้วยจริงๆ วันนี้โยนพร้อมกันทั้งสามช่อแน่ะ" อัสมาบอกลูกสาว ชวนคุยเป็นภาษาญี่ปุ่น เพราะพี่สามีและสามีจะได้ฟังออก เพราะมีสามีเป็นชาวญี่ปุ่นภาษาที่สองจึงเป็นภาษาญี่ปุ่นที่ต้องเรียนและเข้าใจทุกคน จึงมีประโยชน์ในการสลับพูดภาษาใดก็ได้ตามแต่ที่ต้องการ แต่การพูดภาษาญี่ปุ่นทำเอาเธอโดนค้อนจากทั้งพี่สาวสามีและสูกสาวคนสุดท้อง
"หนูแต่งงานแล้วนะคะแม่จะรับช่อดอกไม้อีกได้ยังไง"
"นั่นสิ กำลังจะชมสามีของหลานอยู่พอดีว่าเพอร์เฟ็กต์ ผ่านมาปีกว่าแล้วเธอยังไม่ชอบสามีของลูกสาวอยู่อีกเหรอ เขาเป็นคนไม่ดีหรือ" โยโกะถามอย่างสงสัย นางสนิทกับภรรยาของน้องชายมากพอท่ี่จะคุยกันได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว และพอรู้ว่าอัสมาไม่ปลื้มลูกเขยอย่างหนักแต่ทำอะไรไม่ได้เพราะลูกสาวรักเขา
"คนที่วันๆ อยู่แต่ห้องผ่าตัด และไม่ได้ดูเหมือนทำให้ยายฟินมีความสุข ฉันไม่ชอบหรอก ยายฟินไม่เชื่อฉันถ้าแต่งงานกับตาโปรดป่านนี้คงมีความสุขไปแล้ว ตอนนี้เขาได้เป็นประธานกรรมการบริษัทรับเหมาแล้ว คู่หมั้นเขาสบายดุจเจ้าหญิง ดูยายฟินของเราเถอะ แต่งงานกับหมอที่ไม่เคยมีเวลาให้ เฉยเมยเย็นชาก็เท่านั้น ต้องปรนนิบัติเอาใจอีก เฮ้อ"
อัสมาทำท่ากลอกตา เหมือนรอให้โยโกะถามคำถามนี้ นางจะได้บ่นลูกสาวอย่างเต็มปาก ยิ่งอ่านข่าวโปรดปรานอดีตคู่หมั้นของฟิลิปดาได้ดิบได้ดีในหน้าที่การงาน และมีคู่หมั้นคนใหม่เป็นนักแสดงสาวแถวหน้าของวงการ ดูรักกันหวานแหววนางยิ่งเสียดาย เห็นลูกสาวทำท่าอมทุกข์อยู่กับสามีก็ดูอึดอัดเกร็งๆ ต่อกันพิกล เธอเลยทำใจชอบอัศวินไม่ลง
ฟิลิปดาไม่เถียงมารดา แต่เธอส่ายหัวน้อยๆ ลอบอมยิ้มยามที่มารดาบอกว่าเสียดายโปรด ว่าที่ลูกเขยคนโปรดของท่าน เธอจะนึกถึงวันที่ผ่านมา เธอเข้ากับเขาไม่ได้ ถึงขั้นเกลียดคนน่าขยะแขยงแบบเขาด้วยซ้ำ มีวันหนึ่งเธอยอมออกไปเที่ยวกับหมอนั่นเพราะรำคาญที่โดนรบเร้าจากทุกฝ่ายไม่ไหว หมอนั่นกลับพยายามข่มขืนเธอในรถ แต่เธอหนีมาได้และร้องไห้เสียขวัญไปหาองศาพี่ชายท่ีอยู่ใกล้ที่สุดตอนนั้น เขาอยู่กับอัศวินและกำลังพูดคุยกันอยู่ในตอนที่เธอไปหา แต่เหมือนเรื่องของพวกเขาจะตกไปเมื่อเธอเล่าเรื่องที่พบเจอมาให้พี่ๆ ทั้งสองฟัง
"มันพยายามลวนลาม แต่ฟินไม่ยอม ฟินเกลียดมัน ไม่อยากแต่งงานกับมัน พี่องศา ช่วยฟินด้วย อย่าให้แม่บังคับให้ต้องแต่งงานกับมันได้ไหม ขนาดไม่ได้เป็นอะไรกันมันยังร้ายกาจได้ขนาดนี้ ฟินไม่ยอม"
เธอร้องไห้ไปบอกพี่ชายไป ไม่กลัวเสียภาพลักษณ์ใดๆ ต่ออัศวิน เพราะเสียขวัญ คนเป็นพี่เองก็ช่วยปลอบและส่งทิชชูให้เป็นระยะๆ
"เอ้อ... นี่ไอ้นัทก็กลุ้มมาปรึกษาพี่เรื่องคู่หมั้นที่มันไม่เคยแตะต้องดันดอดไปทำแท้งที่รพ. ในเครือโรงพยาบาลที่มันทำงาน นี่ก็มาบ่นว่าไม่อยากแต่งกับคนที่พ่อแม่หาให้เหมือนกัน" องศามองอัศวินและเธอสลับกัน ก่อนที่เขาจะเอ่ยต่อ "งั้นสองคนนี้ทำไมไม่แต่งงานกันเองล่ะ แต่งแบบหลอกๆ ร่วมมือกันสะบัดคู่หมั้นที่ไม่ดีออกไปจากชีวิต แล้วจากนั้นก็ค่อยแยกกัน วินวินทั้งสองฝ่าย"
คำแนะนำของพี่ชายในวันนั้นเกิดเป็นข้อตกลงและสัญญาใจก่อนแต่งงานว่าจะแต่งงานกันเพียงในนามเพื่อแก้ปัญหาเรื่องถูกบังคับแต่งงาน จุดเริ่มต้นวันนั้นทำให้ความรักเล็กๆ ที่เธอแอบซ่อนไว้ลึกสุดในหัวใจเพราะมันไม่มีทางเป็นไปได้นั้นเกิดเป็นความสมหวัง วันที่แต่งงานกับเขาได้ใช้ชีวิตร่วมกัน นอนห้องเดียวกันที่บ้านของมารดาที่กรุงเทพฯ มันทำให้เธอยิ่งกว่าคำว่าฝันเป็นจริงที่ได้ใกล้ชิดเขา ถึงแม้ทุกอย่างจะถูกจั่วหัวด้วยคำว่ามันเป็นการแสดง และเป็นการแต่งงานหลอกๆ
หากแต่เธอก็อดมีความสุขกับมันไม่ได้ ถ้าหากเขารักเธอจริงๆ เธอไม่อยากคาดคิดเลยว่าเธอจะมีความสุขขนาดไหน
เธอต้องพยายามทำให้มันเกิดขึ้นสินะ!
"ยายฟินนั่งยิ้มอะไร เด็กคนนี้ ชักเอาใหญ่ฟังแม่บ่นแล้วยิ้ม กำลังประชดแม่เหรอ" อัสมาบ่นลูกสาว
"เปล่านะคะแม่ หนูยิ้มให้แขกโต๊ะโน้นต่างหาก พี่วิมกับตาหนูมาในงานแล้ว หนูขอไปทักทายก่อนนะคะ" ฟิลิปดาบอก ดวงตาคู่สวยเป็นประกายเมื่อมองไปยังวิมาลิน คุณแม่เลี้ยงเดี่ยวเพื่อนสนิทของคิมิยะลูกพี่ลูกน้องของเธอที่เป็นหนึ่งในเจ้าบ่าววันนี้ หญิงสาวเข็นลูกชายนามว่าตาหนู เด็กลูกครึ่งอเมริกันหน้าตาน่ารัก ที่ฟิลิปดาอดใจไม่ไหวทุกครั้งที่เจอจะเข้าไปขอฟัดแก้ม และหยอกล้อกับเจ้าตัว
แม่และป้าของฟิลิปดามองตามหลานสาวไป เห็นการสวมกอดทักทายระหว่างฟิลิปดากับสาวหน้าคมโดดเด่นคนนั้นก่อนที่ฟิลิปดาจะอุ้มเด็กชายตัวอวบหน้าตาน่ารักสวมชุดสูทสีชมพูโตกว่าขนาดจริงทำให้เห็นแต่ส่วนหัวของเขาโผล่ออกมาดูน่ารักและตลกจนกลั้นยิ้มไม่ได้
"ยายฟินได้เชื้อรักเด็กมาจากเธอแน่ ถ้ายายฟินมีลูกน่ารักๆ แบบนี้ เธอคงใจอ่อนยอมรับลูกเขย เธอรักเด็กมากเหมือนกันนี่"
"ก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ไม่อยากให้สองคนนั้นอยู่ด้วยกันจนบั้นปลายชีวิตเลยโยโกะจัง ฉันเห็นว่าลึกๆ ลูกดูไม่มีความสุข เลยกลัวลูกไม่มีความสุขไปมากกว่านี้"
"ไม่หรอก เธอคิดมาก สองคนนั้นเหมาะสมและรักกันมากจะตายไป ในเมื่อเขาเลือกกันและกันแล้วเราอย่าไปพยายามแยกเลย"
"ฉันจะพยายามทำใจนะ แต่ถ้าหมอนั่นทำให้ลูกสาวฉันเสียใจเมื่อไหร่ ฉันไม่ยอมแน่"
"ก็รอให้วันนั้นมาถึงก่อน มันอาจจะไม่มาเลยก็ได้ เอาล่ะๆ เลิกพูดเรื่องเครียด เรามาพูดเรื่องความสุขดีกว่า วันนี้วันดีของลูกชายเธอและหลานชายของเธอนะ"
พอพี่สามีบอกอย่างนั้น อัสมาเลยพยายามข่มใจลืมเรื่องขุ่นเคือง มายินดีกับลูกคนโตและคนกลางแทนเพราะเป็นเรื่องน่ายินดีกว่า มัวแต่เครียดเรื่องลูกสาวคงไม่ดี
งานเลี้ยงเลิกรา ไวน์ชิลีของโปรดของอัศวินที่เธอเอาไปเสิร์ฟเขาหมดไปขวดกว่าๆ และแน่นอนว่าคนที่นานๆ ดื่มทีอย่างเขาจะเมา เจ้าบ่าวที่ส่งแขกเรียบร้อยอย่างองศาก็มาช่วยพาเขากลับห้องพัก ถึงแม้หมอนี่จะยืนอย่างมั่นคง เดินเบี้ยวในปริมาณที่ยอมรับได้ แต่หน้ามันแดงๆ ดูเมามาก เขาต้องไปส่งมันที่ห้องเพื่อคุยกับมัน!
แต่พอวางลงที่โซฟา อัศวินก็คอพับและหลับเหมือนปิดสวิตซ์ คนที่กำลังจะกำชับไม่ให้เพื่อนทำมิดีมิร้ายน้องสาวตัวเองชะงักกึก เขาหันมามองน้องสาวที่ยืนมองอยู่เช่นกัน
"แลกห้องกับพี่ไหม ไอ้นัทเมามาก เดี๋ยวพี่ไปนอนห้องกับมันแล้วเราไปนอนกับพี่สะใภ้ไปก่อนคืนนี้"
"พี่องศา วันนี้คืนเข้าหอของพี่นะคะ"
น้องเขาทำสีหน้าต่อต้านความคิดเขา คงเพราะห่วงว่าเขากับเจ้าสาวจะต้องแยกห้องนอนหลังจากคืนแต่งงานกัน
"แล้วฟินจะนอนห้องกับมันได้ยังไง ห้องนี้ไม่ได้กว้างเหมือนห้องหอของเรากับมันที่บ้านคุณแม่นะ ไม่อึดอัดแย่เหรอ"
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ พี่นัทไว้ใจได้"
"อืม พี่รู้ แต่วันนี้มัน..." เขาหันไปมองเพื่อนที่นอนนิ่งๆ สนิทกันมานานพอรู้ว่าเวลาเมามันไม่ได้ขาดสติ แต่ก็อดห่วงน้องสาวไม่ได้ ไม่อยากให้มีอะไรเกิดขึ้นระหว่างทั้งสองคนเพราะรู้ว่าต่างฝ่ายต่างไม่ได้ผูกพันกัน สักวันหนึ่งต้องแยกกัน ฉะนั้นเขาไม่อยากให้ทั้งสองใกล้ชิดกันจนเลยเถิด แต่น้องเขากับเพื่อนเขาก็โตแล้ว ผ่านมาเป็นปียังไม่มีอะไร เขาคงคิดมากและระแวงไปเอง แม้ว่าจะค่อนข้างเชื่อในลางสังหรณ์ของตัวเองมาก แต่ว่า เขาคงไม่ได้สังหรณ์แม่นไปทุกเรื่องหรอก องศาบอกกับตัวเอง
ไม่ให้คิดมากและยอมกลับไปนอนห้องหอ
ปิดประตูห้องแล้วฟิลิปดาก็หันมามองคนที่นอนอยู่ สิ่งที่พี่ชายห่วงนั้นดูห่างไกลไม่น่าเกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เขาเคยมองเธออยู่ในสายตาเสียที่ไหน แม้จะอยู่ห้องเดียวกัน เธอก็ไม่ต่างจากเป็นอากาศหรอก
แต่เธอนี่แหละจะทำให้เขาหันมามองเธอเอง!
"พี่นัท" หญิงสาวเรียกอีกฝ่ายเบาๆ ผ้าเช็ดตัวชุบน้ำหมาดๆ ถูกไล้ตามซอกคอของเขาเพื่อให้เขาสบาย
ถ้าเขาไม่เมาเธอคงไม่ได้มองหน้าเขาใกล้ๆ จับมือหนาของเขาไว้แล้วไล้ผ้าเช็ดตามเนื้อตัวของเขา เขามีผิวขาวจัดพอๆ กับเธอ และผิวของเขาเนียนเหมือนผู้หญิง นิ้วมือเรียวยาว ปลายเล็บตัดสั้น แค่มองมือเขาเธอก็ใจหวิว เธอแอบมองบ่อยๆ
อดอิจฉาคนไข้ของเขาไม่ได้ เธอเคยมองไม่วางตาในยามที่เขาต้องแตะมือของเขาไปบนหน้าของคนไข้เพื่อวัดมุมหรือสัมผัสเพื่อสำรวจใบหน้าของคนไข้ก่อนทำศัลยกรรม เธอเคยได้ยินจากพี่อรอรเลขาหน้าห้องของเขาว่ามีคนไข้สาวหลายรายพยายามหว่านเสน่ห์ให้เขา แต่ว่าเขาไม่เคยสนใจ ถึงอัศวินจะพูดจาดีแต่ก็ดูไว้ตัว แฝงความเย็นชาอยู่นิดๆ จนไม่เคยมีใครเข้าถึง
เธอไม่แปลกใจหรอกที่เขาจะไม่สนใจคนอื่น ขนาดเธอเป็นภรรยาเขา พยายามหว่านเสน่ห์อยู่ทุกเวลานาที เขายังไม่เคยสนใจ ยื่นใบหย่าฟาดมากลางใจเธอจนใจบางไปหมดแล้ว...
แต่ถึงกระนั้นก็เถอะเธอไม่อยากเสียเขาไปเลย ทำอย่างไงกันนะถึงจะรักษาเขาไว้ข้างกายให้นานที่สุด
"อุ้ย" หลังจากที่จับมือเเละเช็ดแขนขาวๆ ของเขาอยู่นานเพราะมัวแต่คิดเพลิน เธอกลับพบว่าเงยหน้าไปแล้วก็เจอเขาลืมตามองอยู่ แววตาเปลี่ยนไปเล็กน้อยจากแววตาเย็นชาที่เคยมองเธอ
น่าจะเพราะเขาเมา...
เธอคาดเดาในใจ
"ทำอะไรครับน้องฟิน"
........
โดนจับได้ซะแล้วววว
นางเอกของเค้าดูหื่นไปไหมคะคุณผู้ชม คุณหมอคนหล่อก็หล่อเกินห้ามใจอ่าาาาาา หมอศัลย์นิ้วสวยๆ นี่ชวนแพ้ทางมากจริงๆ ค่าคุณ เคยเจอเพื่อนคนหนึ่ง เขามือสวยมาก เลยจำมาเขียน 55
ขอบคุณทุกกำลังใจนะคะ รับรองว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่มีคนอ่าน ก็จะมีไรต์เตอร์ และมีงานมาให้อ่านเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ 55
เม็ดแตงโม
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น