ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    มังกรตามรัก (Bl, Yaoi, วายจีน)

    ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 ว่าด้วยมังกรทอง

    • อัปเดตล่าสุด 28 ธ.ค. 61





     

    ตอนที่ 1 ว่าด้วยมังกรทอง

     




                ตำหนักเลี่ยงหวง  พระราชวังหลวงแห่งภพมังกร

                ร่างสูงสง่าของบุรุษในชุดคลุมสีเงินปักดิ้นทองลายมังกรประณีตหรูหรา นั่งเอนหลังอยู่บนตั่งทอง  ชันเข่าข้างหนึ่งขึ้นในอิริยาบถสบาย ทว่ากลิ่นไอของความสูงศักดิ์ และบรรยากาศกดดันอันไร้สภาพที่แผ่จากร่างสูงโปร่งนั้น สยบผู้อื่นจนมิกล้าเงยหน้าสบตาเขาโดยตรง

                ใบหน้าของเขากล่าวได้ว่างดงามชวนตะลึงตะลานก็คงไม่ผิดนัก เครื่องหน้าปานรูปสลัก จมูกโด่งเป็นสันรับกับคิ้วสีทองหนาพาดเฉียง ดวงตาสีทองทอประกายบ่งบอกสติปัญญาเฉียบแหลม เส้นผมสีเดียวกันเป็นเส้นเล็กละเอียดถูกมัดรวบไว้ด้วยผ้าแพรสีขาวเนื้อดี ริมฝีปากสีแดงสดตัดกับผิวขาวสว่างประหนึ่งหยกเจียระไนของเขาเปล่งเสียงทุ้มชวนฟัง แฝงความเกียจคร้านอยู่ในที “ยี่เหลียน”

                “เจ้าค่ะ” เด็กสาวในชุดนางกำนัล รินสุราใส่ถ้วย ก่อนจะยกขึ้นเหนือศีรษะ

                บุรุษสูงศักดิ์ผู้นั้นยื่นมือมารับถ้วยสุราก่อนจะลิ้มรสมันช้าๆ ด้วยท่าทางสง่างาม

     

                “ไม่เลว”

                ทันทีที่ได้ยินคำว่า ไม่เลวจากคนที่นั่งอยู่บนตั่งทอง ชายหนุ่มอีกคนซึ่งนั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นก็ผ่อนลมหายใจ ร่างกายที่เครียดขึงพลันคลายลง เหมือนได้รับการอภัยโทษ

                หากถามว่าเขากระทำผิดเรื่องใด เหตุใดมังกรหนุ่มอนาคตไกลเช่นเขาจึงได้นั่งคุกเข่ารอรับโทษโดยมิกล้าอุทธรณ์ใดๆ อยู่เช่นนี้ ก็คงต้องตอบตามตรงว่าความผิดของเขาเล็กน้อยนัก เพียงแค่กล่าววาจาล่วงเกินนางกำนัลน้อยคนหนึ่ง ด้วยฐานะของนางแล้ว การถูกขุนพลมังกรอย่างเขาเกี้ยวพาราสีนับเป็นวาสนา

    หากแต่ว่าการกระทำของเขากลับถูกเจ้านายของนางพบเห็น และเพราะเจ้านายของนางนั้นเป็นถึงรัชทายาทมังกร การกระทำเล็กน้อยของเขาจึงกลายเป็นการหยามเกียรติไป หากทราบแต่แรกว่านางเป็นคนของตำหนักเลี่ยงหวง ต่อให้เขาขวัญกล้าเพียงใดก็ไม่โง่หาเรื่องใส่ตัวเช่นนี้

     


                “ขุนพลฮุย” รัชทายาทมังกรเรียกชื่อชายหนุ่มที่นั่งคุกเข่าอยู่บนพื้นด้วยน้ำเสียงแฝงความเกียจคร้านเช่นเดิม นิ้วเรียวยาวแกว่งถ้วยสุราในมือไปมาราวกับกำลังตัดสินใจ

                “ขอรับ”

                “ไปได้”

                “ขอบพระทัย องค์รัชทายาท” ฮุยซุยอันค้อมกายลง ศีรษะจรดพื้น แขนทั้งสองแนบไปกับพื้นขนาบศีรษะ อันเป็นการแสดงความเคารพต่อราชวงศ์ของเผ่ามังกร ก่อนจะค่อยๆ ล่าถอยไปด้านหลัง กริยาทั้งระมัดระวัง ทั้งแสดงความเคารพน้อมนอบไม่แพ้ยามที่แสดงต่อหน้าราชามังกรแม้แต่น้อย

               


                ความเคารพยำเกรงนี้มิได้เกิดขึ้นเพียงเพราะว่าฮุยซุยอันกระทำความผิด หากแต่ชาวภพมังกรที่มีสายเลือดมังกรทุกตนล้วนถูกสัญชาตญาณที่แฝงอยู่ในสายเลือดสั่งให้เคารพ ให้จำนน เนื่องเพราะรัชทายาทมังกรผู้นี้มิใช่มังกรธรรมดาทั่วไป หากแต่เป็นมังกรทองซึ่งพันปีจะถือกำเนิดขึ้นสักครั้ง นับตั้งแต่เทพมังกรจินหลง ก็ไม่มีมังกรทองถือกำเนิดขึ้นอีก กระทั่งบุตรชายคนที่สี่ของราชามังกรหยวนหลง

                ยามที่องค์ชายสี่กำเนิดนั้น เกิดปรากฎการณ์เมฆสีทองก่อตัวเป็นเจดีย์ 9 ชั้น ขยายตัวไปไกลหลายร้อยลี้ ก่อนจะค่อยๆ เปลี่ยนรูปร่างเป็นมังกรทองขนาดใหญ่ ราวกับกำลังประกาศต่อทั่วหล้าถึงการถือกำเนิดของสิ่งวิเศษแห่งภพมังกร เมื่อองค์ชายน้อยเปลี่ยนร่างเป็นทารกครั้งแรก ก็ปรากฏด่านสวรรค์ 9 ชั้นฟ้า ทำให้ทั้งราชามังกรและสี่เทพมังกรต้องระดมสรรพกำลังช่วยเหลือให้องค์ชายผ่านด่านสำคัญมาได้ ครั้นผ่านด่านสวรรค์ 9 ชั้นฟ้าสำเร็จ อนาคตของเขาก็นับว่ากว้างไกลไร้สิ้นสุด

                มังกรทองนั้นเกิดมาเพื่อเป็นราชา เพราะนอกจากจะมีพลังแข็งกล้าและพรสวรรค์ติดตัวเหนือกว่ามังกรทั่วไปแล้ว ยังมีสายเลือดแห่งเทพมังกรชั้นสูงและบริสุทธิ์ซึ่งมีอิทธิพลต่อสายเลือดมังกรทุกตน ด้วยความบริสุทธิ์แห่งสายเลือดนี้ เผ่ามังกรแต่โบราณจึงถือว่ามังกรทองเป็นของขวัญที่บรรพบุรุษมอบให้ เป็นผู้สืบทอดเจตนารมณ์ที่จะทำให้เผ่ามังกรเจริญรุ่งเรืองสืบไป ดังนั้นเมื่อองค์ชายสี่อายุได้เพียง 5 ขวบ ก็ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรัชทายาทแห่งภพมังกร โดยไม่มีเสียงคัดค้าน

                ราชวงศ์มังกรทุกตนล้วนมีคำว่า หลง ในชื่อ รัชทายาทมังกรองค์นี้นามว่า เอี่ยนหลงปีนี้อายุย่าง 17 ปี กล่าวว่าเป็นสมบัติล้ำค่าของภพมังกรก็ไม่ผิดนัก ตั้งแต่เกิดองค์ชายน้อยก็ได้รับความรักความเอาใส่ใจ และการอบรมเลี้ยงดู ฝึกฝนวิถีราชาอย่างเต็มที่ หากมีสิ่งใดที่เขาปรารถนา ล้วนมีผู้คนสรรหามาให้ ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเป็นไปตามที่เขาปรารถนา ทว่ามีสิ่งหนึ่งที่คนในวังมังกรทราบ แต่มิกล้าเอ่ยถึง นั่นคือความปรารถนาที่ไม่อาจเป็นจริงขององค์รัชทายาทที่มีต่อพระชายาของเจ้าปีศาจผู้นั้น

               

     

                เอี่ยนหลง โบกมือให้สาวใช้ทั้งหมดออกไป มือเรียวรินสุราให้ตนเองอีกถ้วยหนึ่ง ทว่าแทนที่จะดื่มน้ำสีใสนั้น เขากลับเอาแต่จ้องมองถ้วยสุราในมือของตนอยู่อย่างนั้น

                สุราดี เป็นของฝากได้ไม่เลว

                เพียงนึกถึงสหายร่ำสุราผู้นั้น ใบหน้างดงามก็พลันขรึมลง ริมฝีปากสีแดงสดเม้มเป็นเส้นตรง ส่งเสียงเหอะในลำคออย่างขัดใจ

     

                เพล้ง!!

                ถ้วยสุราเนื้อดีแตกละเอียดกระจายอยู่เต็มพื้น กลิ่นปุบผาของสุราฟุ้งไปทั่วบริเวณ บ่งชัดถึงความหงุดหงิดไม่สบอารมณ์ของรัชทายาทมังกรได้เป็นอย่างดี ใบหน้าเฉยชาไม่ยินดียินร้ายของคนผู้นั้นปรากฏในห้วงความคิดของเอี่ยนหลง ใบหน้าของคนที่เขาคิดว่าเป็นสหาย

                เทียนเล่ย เจ้ากล้าไปโดยไม่บอกลาข้า!

     

               

                แม่ทัพสวรรค์เทียนเล่ย

                เขาพบฝ่ายนั้นครั้งแรกในงานแต่งงานของกุ้ยอิงกับเซี่ยหย่งเซิงที่ภพปีศาจ นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาเข้าใจว่าต่อให้เขาเป็นมังกรทอง เป็นรัชทายาทแห่งภพมังกร ก็มีบางอย่างที่ไม่สามารถได้มา กระทั่งคิดแย่งชิงยังทำไม่ได้ เขาในตอนนั้นยังเป็นเด็กน้อยอายุแปดขวบที่ไม่เคยถูกขัดใจ แต่ก็ทราบว่าการแย่งชิงกับราชาปีศาจผู้นั้นเป็นเรื่องยากเย็นและร้ายแรงเพียงใด ไม่ใช่แค่กับตัวเอง แต่รวมถึงภพมังกรทั้งหมด สุดท้ายจึงได้แค่ตัดใจยอมแพ้ หนีออกจากงานเลี้ยงฉลองเพื่อหาสถานที่ปลอดคน ที่ที่เขาจะไม่ต้องวาดมาดรัชทายาท

                ใต้ต้นไม้ใหญ่ในส่วนลึกของอุทยาน เขานั่งพิงลำต้นแข็งแรงของมัน จำได้ว่าวันนั้นเขาปล่อยให้ตัวเองร้องไห้เสียงดังด้วยไม่คิดว่าจะมีใครอยู่ในบริเวณนั้น กระทั่งสงบลง ความเครียด ความอัดอั้นทั้งหลายได้ถูกระบายออกไป ค่อยรู้สึกตัวว่ามีคนอีกผู้หนึ่งนั่งอยู่บนต้นไม้ กลืนไปกับความมืด คนผู้นั้นซ่อนตัวได้อย่างมิดชิด กระทั่งลมหายใจยังถูกลบเลือนไปสิ้น เขาจึงไม่ทราบถึงตัวตนของอีกฝ่ายจนกระทั่งฝ่ายนั้นกระโดดลงจากต้นไม้ เพื่อพูดกับเขาประโยคเดียวว่า งานเลี้ยงเลิกแล้ว จากนั้นก็หันหลังเดินกลับเข้างานไป โดยไม่เอ่ยถึงสภาพอันไม่น่าดูของเขา ภายหลังจึงสืบทราบว่าคนผู้นั้นมีนามว่าเทียนเล่ย มีตำแหน่งเป็นรองแม่ทัพสวรรค์ บิดาของเขาคือเทพแห่งทะเลตะวันออก สหายสนิทของจอมเทพองค์ก่อน

                           

                ครั้งที่สอง คือตอนที่ฝ่ายนั้นได้รับการแต่งตั้งเป็นแม่ทัพสวรรค์ จอมเทพอ้าวเหยียนหลงจัดงานเลี้ยงฉลองรับตำแหน่งให้ เทียนเล่ยประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย กลายเป็นคนหนุ่มอนาคตไกล กระทั่งจอมเทพยังรักเขาเหมือนน้องชาย ไม่ทราบมีคนเท่าไร่ริษยาเขา ทว่าเมื่อได้เห็นฝ่ายนั้นอยู่ในชุดแม่ทัพสวรรค์สีดำสลับทอง ประดับมงกุฎทองตามฐานะแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าฝ่ายนั้นสง่างามไม่เลว เสียก็แต่ว่าสายตาและสีหน้าเย็นชา วางเฉยไม่สนใจผู้ใด ประหนึ่งว่าฟ้าถล่มดินทลายก็ไม่ไยดี


                ครั้งที่สาม คือเมื่อเสด็จพ่อพาเขาไปงานเลี้ยงวันเกิดของเทพเทียนอวิ๋น เทพผู้ปกครองทะเลตะวันออก พันธมิตรสำคัญของภพมังกร เทียนอวิ๋นผู้เป็นบิดาของเทียนเล่ยประสงค์สละตำแหน่งผู้ปกครองทะเลตะวันออกให้บุตรชาย ทว่าเทียนเล่ยซึ่งเป็นแม่ทัพสวรรค์ในขณะนั้นกลับยกตำแหน่งให้อวิ๋นหนานผู้เป็นน้องชาย สายตายามที่เทียนเล่ยมองอวิ๋นหนานนั้นไม่อาจเรียกว่าอ่อนโยนได้เต็มปาก ทว่าสำหรับคนที่ทำสีหน้าเฉยชาตลอดเวลา สายตาเช่นนั้นถือว่าพิเศษกว่าคนทั่วไปอยู่มาก ไม่ทราบเพราะอะไร เขาจึงได้รู้สึกว่าอยากให้สายตาคู่นั้นมองตนเองเช่นนั้นบ้าง


                ความคิดไร้สาระปราศจากที่มาที่ไป แต่ในเมื่อเป็นสิ่งที่ตัวเองต้องการ ก็ไม่จำเป็นต้องหาเหตุผล ดังนั้น เขาจึงไปเป็น แขก ของเรือนรับรองแม่ทัพแทบทุกเดือน นำอาหารรสเลิศ ไม่ก็สุราชั้นดีติดมือไปให้บ้าง กระทั่งนำของวิเศษหรือตำรายุทธ์โบราณก็เคยนำไป ฝ่ายนั้นแม้ไม่สนใจ แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธ ทุกครั้งจะยอมเล่นหมากรุกเป็นเพื่อนเขาสักกระดาน หรือนั่งฟังเขาบ่นเรื่องต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

                กระทั่งกลายเป็นความเคยชิน กลายเป็นความสบายใจอย่างหาได้ยากของเขา มิคาด อยู่มาวันหนึ่งเขาก็ได้รับข่าวว่าเทียนเล่ยจะไปบำเพ็ญเพียรที่ภพมนุษย์ ตัดสินใจไปโดยไม่คิดจะบอกกล่าวเขาสักคำ ทั้งยังเป็นเขาได้ข่าวจากคนอื่น หรือมีแต่เขาเท่านั้นที่เห็นว่าอีกฝ่ายเป็นสหาย ในสายตาของเจ้านั่น รัชทายาทมังกรเช่นเขาก็ไม่มีความสำคัญต่างจากผู้อื่นเลยเช่นนั้นหรือ เขาโมโหมาก รุดไปภพสวรรค์โดยไม่รั้งรอ ตั้งใจว่าจะอาละวาดให้เต็มที่ ทำให้ฝ่ายนั้นทราบว่าการที่เขา มังกรทองเอี่ยนหลงผู้นี้ ให้ความสนิทสนม คบหาเป็นสหาย ถือเป็นวาสนาเพียงใด แต่สิ่งที่เขาได้พบเมื่อไปถึงมีเพียงตำหนักว่างเปล่า ตัวคนไม่อยู่แล้ว

                เทียนเล่ย...ไปยังโลกมนุษย์เสียแล้ว

     


                เอี่ยนหลงมองเศษถ้วยสุราที่แตะกระจายอยู่บนพื้น เพิกเฉยต่อรสชาติขมฝาดอันไม่คุ้นเคยที่เกิดขึ้นในใจ ร่างสูงสง่าลุกจากตั่งทอง ทว่าเดินไปได้เพียงสองก้าว อกก็พลันปวดร้อนขึ้นมา ความเจ็บปวดนั้นรุนแรงขึ้นอย่างรวดเร็วจนร่างกายสั่นสะท้าน มือเท้าเย็นเยียบแทบขยับไม่ได้ สายตาก็ดูเหมือนจะมืดลงกะทันหัน

                ถูกพิษ!

                พิษร้ายแรงถึงขนาดที่ร่างมังกรทองอย่างเขามิอาจต้านทานได้ เอี่ยนหลงบังคับดึงสติที่เหลืออยู่น้อยนิดของตนเองกลับมา มือสั่นเทาคล้ำหาจี้หยกที่แขวนไว้เสมอ แล้วบีบมันจนหักเป็นสองท่อน พริบตานั้นร่างของเขาก็เลือนหายไป

     

     




    #มังกรตามรัก


    ..................................

     

    สวัสดีค่ะทุกคน

    พบกันอีกแล้วกับนิยายจีนแนวเทพเซียน จบจากน้องเต่าก็ถึงคราวน้องงูกันบ้าง อืม...โอเค! มังกรค่ะมังกร แม้จะตัวเล็กๆ ไร้พิษสงยังไงก็เป็นถึงมังกรทองนี่เนาะ

    ถ้าใครได้อ่านตอนพิเศษในหนังสือ #เจ้าสาวปีศาจ แล้ว คงจำเด็กน้อยเอี่ยนหลง หนึ่งในต้นเหตุความหึงหวงของเซี่ยหย่งเซิงได้นะคะ ใครยังไม่ได้อ่านก็ไม่เป็นไร อ่านเรื่องนี้เลยก็ได้เหมือนกันค่ะ


     




    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×