คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ในวันต่อมา
วันต่อมา
"อาทิวา"
เสียงที่แสนคุ้นหูดังขึ้นพร้อม ๆ กับเด็กสาวผมสีน้ำเงินที่วิ่งมากับสัมภาระมากมาย เด็กสาวโผเข้ากอดเพื่อนของเธอ
"อึก เหมยฮัว..."
"อาทิวา มีอะไรน่อ"
"ห..หะ...หายใจไม่ออก" ทิวาตอบเหมยฮัวที่เพิ่มแรงกอดจนเธอรู้สึกอึดอัด ได้ยินดังนั้น เหมยัวก็รีบคลายกอดออกจากเพื่อนคนสนิท
"อั้วขอโทษน่อ"
"อ้าา โล่งอกไปที่"
"ลื้อเป็นอะไรหรือเปล่าน่อ"
"ทำไมทักแต่ทิวาล่ะยะ"
"โอ้ ไงนาซิสซ่าสบายดีไหมน่อ"
"ไม่ทันแล้วย่ะ"
"ฮ่าๆๆๆๆ อั้วมีเรื่องจะเล่าให้พวกลื้อฟังเยอะแยะเลย"
"ค่อยเล่าระหว่างกลับห้องก็ได้นะ" โรซารี่และยูริที่ตามมาทีหลังเดินเข้ามาทักทาย พร้อมช่วยยกสัมพาระของเพื่อนผมซาลาเปา ระหว่างทางที่กลับหอพักพวกเขาก็คุยกันเรื่องกิจกรรมที่เหมยฮัวไปทำ ตามด้วยเรื่องสัพเพเหระตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน และเรื่องของไพลิน
"อั้วเห็นด้วยกับอาทิวาและอายูรินา เพราะว่าถ้าอั้วยังไม่รู้จักอาไพลินดีก็คงจะตัดสินอะไรไม่ได้น่อ" เหมยฮัวพูด
"ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ลองคุยกับไพลินตามที่ทิวาบอกก็ได้ ...แต่ถ้าไพลินเป็นอย่างข่าวลือจริง ๆ เราก็ต้องออกห่างจากเธอทันทีเพื่อความปลอดภัยของพวกเราเอง โอเคนะ"
โรซารี่เสนอความคิดและข้อต่อรอง เพราะยังมีความเคลือบแคลงใจเกี่ยวกับที่มาที่ไปของไพลิน และทุกคนก็ตกปากรับคำ
"แล้วอาไพลินนี่คนไหนน่อ?"
ห้องประชุม
"สวัสดีค่ะเลดี้ทุกคน โรงเรียนของเราจะมีการแข่งขันการแสดงร่วมกับโรงเรียนโนอา จะเข้าร่วมก็ได้ไม่เข้าร่วมก็ได้ แต่ถ้าหากเข้าร่วมก็จะมีคะแนนพิเศษให้นะคะเลดี้"
ครูมารีคุณครูวิชาคหกรรมผู้มักจะต้องคอยรับหน้าที่เป็นผู้ประกาศกิจกรรมครั้งใหม่ของโรงเรียนลาฟลอร่าอยู่เสมอกล่าว หลังเธอพูดจบนักเรียนภายในห้องประชุมก็เริ่มคุยกันถึงเรื่องการแข่งขัน เสียงของเด็ก ๆ เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ จนทั่วทั้งห้องประชุม
"ช่วยเงียบก่อนค่ะเลดี้ ครูจะบอกกติกาคร่าว ๆ ในการแข่งขันให้นะคะ นักเรียนต้องจับกลุ่มให้ได้นักเรียนหญิงหกคนและนักเรียนจากโรงเรียนโนอาอีกเจ็ดคน เรื่องที่ใช้แสดงจะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ค่ะ แต่ต้องเกี่ยวกับอัญมณีค่ะ ส่วนรายละเอียดย่อยจะติดประกาศไว้ที่หน้าห้องประชุมนะคะเลดี้"
เมื่อพูดจบครูมารีก็เดินออกไป เด็ก ๆ ทุกคนต่างตื่นเต้นกับเรื่องการแข่งขันนี้มาก เพราะหากชนะการแข่งขันแล้วจะมีโอกาศได้เป็นนักแสดงของบริษัทยักษ์ใหญ่อีกด้วย เรื่องการแข่งขันนี้ได้กลายเป็นประเด็นที่ทุกคนใช้พูดถึงบ่อยมากที่สุดในลาฟลอร่าภายในเวลาสั้น ๆ แต่ในหมูเด็กเหล่านั้นก็มีเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังยุ่งอยู่กับเรื่องอื่นจนลืมที่จะสนใจเรื่องการแสดงที่เป็นประเด็นของทุกคน
ห้องสมุด
"ยังมีหนังสือหรือข่าวเกี่ยวกับอัญมณีอีกไหมค่ะ" เด็กสาวที่ไม่ได้สนเรื่องการแสดงแต่ต้องการหนังสืออัญมณีกำลังยืนพูดกับบรรณาธิการด้วยใบหน้าเรียบ ๆ
"ไม่มีแล้วจ๊ะ เพราะหนังสืออัญมณีที่หนูยืมไปคือทั้งหมดของเราแล้วล่ะ" บรรณาธิการตอบเธอในขณะที่หยิบหนังสืออัญมณีจำนวนมากเก็บเข้าที่
“หนูไพลินไม่สนใจจะเข้าร่วมการแสดงพิเศษของโรงเรียนจริง ๆ เหรอจ๊ะ”
“ไม่ค่ะ” เด็กสอบตอบปฏิเสธทันที
“แหม น่าเสียดายจังเลยนะ กะว่าจะจองตัวไว้ก่อนแท้ ๆ ในโรงเรียนคงไม่มีใครรู้เรื่องนี้ละเอียดเท่าหนูแล้วล่ะ” บรรณาธิการสาวพูดกับไพลินพร้อมเอามือข้าที่ว่างอยู่มาปะแก้ม
"ไม่หรอกค่ะ อีกอย่างการแสดงน่ะไม่จำเป็นต้องอิงเรื่องจริงทั้งหมดก็ได้ไม่ใช่เหรอคะ ถ้าอยากจะชนะการแข่งขัน ก็ต้องใส่ใจที่เนื้อเรื่องที่จะใช้แสดงมากกว่า รายละเอียดข้อมูลของอัญมณีไม่ใช่เหรอคะ" เด็กสาวตอบพลางยิ้มบางๆ
"นั่นสินะ ลืมเรื่องนี้ไปเลย ขอบใจนะที่ช่วยเตือน"
ขณะเดียวกันผู้คนจำนวนมากที่เข้ามาในห้องสมุด แล้วจำได้ว่าเคยเห็นไพลินอ่านหนังสือเกี่ยวกับอัญมณีมานานก็เริ่มซุบซิบต่าง ๆ นานา จนบรรณาธิการเองก็รู้สึกถึงความอึดอัดที่ไพลินได้รับ แต่ไพลินที่เห็นดังนั้นก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาเธอทำเพียงแค่บอกลาบรรณาธิการแล้วเดินฝ่าผู้คนมากมายไป ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น
"ไพลิน มาอยู่กลุ่มเดียวกับฉันไหม ไม่ต้องเกรงใจก็ได้นะ ฉันยินดีต้อนรับเสมอ" เด็กสาวผมชมพูอ่อนที่ยืนอยู่หน้าประตูพูดขึ้นเมื่อไพลินเดินไปจะถึงเธอ และเมื่อไพลินกำลังจะเดินผ่านเธอเธอก็กระซิบเบา ๆ ข้างหูของไพลิน
'อ่านหนังสืออัญมณีเยอะขนาดนั้นคิดว่าจะมีคนอยากได้ตัวให้เข้าร่วมการแสดงด้วยรึไง'
ไพลินไม่ตอบเด็กสาวและไม่แม้แต่จะเหลือบมองอีกทั้งยังเดินผ่านเธอไปอย่างไม่มีเยื่อใย ทิ้งให้เด็กสาวผมชมพูอ่อนยืนอึ้งกับคำตอบที่ได้รับ
"ไม่อยากอยู่กับฉันเหรอ ถ้าไม่อยากอยู่ด้วยก็ไม่เห็นต้องเมินกันเลยนี่นา ฮือ" เด็กสาวคนดังกล่าวพูดกับไพลินก่อนที่ไพลินจะลับไปจากสายตาเธอ ผู้คนเห็นเธอร้องไห้ก็รีบเข้าไปปลอบใจ คนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ต่างบอกเล่าเหตุการณ์ไปต่าง ๆ นานา
.
.
.
ห้องพักไพลิน
"ไพลิน" เสียงเพื่อนคนสนิทของเธอเรียก
"กียุล นายมาได้ยังไง ออกจาการทดสอบแล้วหรือไง ทำไมไม่ตั้งใจอย่างนี้" เธอหันไปบ่นเจ้าของเสียงที่กำลังนั่งอยู่ที่ขอบหน้าต่าง
"เอาน่า ฉันแอบโดดมาน่ะ ฝากเอาขนมถุงนี้ให้ทิวาหน่อยได้ไหม" เด็กหนุ่มยิ้มบาง ๆ พร้อมยื่นถุงขนมให้กับไพลิน
"ส่วนนี่ของเธอ เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกฉันก็จะกลับแล้วล่ะ" เขายื่นขนมอีกถุงให้เธอ ทันใดเด็กหนุ่มก็กระโดดลงจากหน้าต่างห้องไพลินแล้วไปโดนเข้าต้นแคคตัสที่อยู่ที่หน้าต่าง ทำให้เกือบตก ไพลินรีบเข้าไปรับต้นแคคตัสทันที
"กียุลถ้าจะลงก็ลงให้ดี ๆ หน่อยสิ ต้นแคคตัสเกือบตกลงไปด้วยเลยนะ!" เด็กสาวยื่นหน้าออกไปตะโกนใส่เพื่อนของเธอที่กำลังจะออกวิ่ง
"แหม่ก็นึกว่าเป็นห่วงกัน ที่แท้ก็ห่วงต้นแคคตัส ฮ่า ๆ ๆ ....อย่าลืมที่ฉันบอกล่ะว่าให้เอาไปให้พวกทิวา" เด็กหนุ่มย้ำอีกครั้งกับเพื่อนสาวก่อนที่จะวิ่งจากไป
เย็นวันต่อมา
"พวกเราลองไปชวนคุณไพลินมาร่วมการแสดงด้วยกันไหมเจ้าคะ เพราะยังไงพวกเราก็ยังขาดคนอีกคนนะเจ้าคะ"
ยูริเสนอความคิดให้เพื่อนในกลุ่มทิวาและเหมยฮัวเห็นด้วยกับความคิดยูริ สามเสียงย่อมมากกว่าสองเสียงทำให้คนที่เหลือต้องทำตามอย่างไม่ค่อยเต็มใจ
"คุณไพลินเจ้าคะ" เด็กสาวชาวญี่ปุ่นที่หันไปเห็นไพลินพอดีจึงรีบเรียกเธอเข้ามา เมื่อไพลินเห็นยูรีเรียกก็รีบเดินเข้าไปหา
“มีอะไรเหรอ” ไพลินถามทุกคนด้วยความสงสัย ไม่ทันที่ทุกคนจะอ้าปากพูดไพลินก็รีบตัดบททันที "อ้อ กียุลฝากให้ฉันเอาขนมมาให้เธอน่ะทิวา"
"ขอบคุณนะ" ทิวาตอบ เด็กสาวรีบยื่นให้ทิวาแล้วเตรียมเดินออกไป แต่โรซารี่รั้งเธอเอาไว้
"เธอมีกลุ่มการแสดงแล้วหรือยัง" โรซารี่ถามด้วยด้วยท่าทางไม่ต้อนรับแขกเท่าไหร่ ‘โรซารี่น่ากลัวจังแฮะ’ ไพลินคิด เพราะสัมผัสได้ถึงรั่งสีอำมหิตจากโรซารี่
"ถ้ายังไม่มีก็มาอยู่กลุ่มเดียวกับพวกเราก็ได้นะเจ้าคะ" ยูริเอ่ยชวน โรซารี่พูดเพื่อนคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าชักชวนเธอ
“งั้นลงชื่อเลยนะ” ไม่ทันที่ไพลินจะได้เอ่ยอะไร ทิวาเด็กสาวจอมแก่นก็ลงชื่อของเธอไปในกระดาษแล้ว
“เอ๊ะ!” ไพลินอุทานออกมา
“อะไรกันฉันยังไมทันตอบตกลงเลยนะ”ด้วยความเศร้าพร้อมหยิบใบรายชื่อแล้วหันมาทางทิวา
‘ไพลินทำหน้าน่ากลัวจัง ท่าทางจะโกรธมากแน่ๆ เลย’ ทิวาและคนอื่นๆ ในกลุ่มมองไพลินอย่างระแวดระวัง
“ข..ขอโทษนะ รีบไปหน่อยอะ” ทิวาพูดแก้เขินที่ตัวเองเร่งรีบตัดสินใจแทนคนอื่นเกินไป
‘หืมทำไมทำหน้าอย่างั้นกัน ฉันเผลอทำหน้าไม่ต้อนรับแขกอีกแล้วเหรอ '-'’
“ไม่เป็นไร ฉันอยู่ด้วยก็ได้ ยังไงฉันก็ไม่มีกลุ่มอยู่แล้วน่ะนะ” ไพลินพูดไปยิ้มไปให้ทิวาสะบายใจแม้ในใจจะอยากปฏิเสธมากแค่ไหนก็ตาม ส่วนโรซารี่ เหมยฮัว และนาซิสซ่าที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็ต้องพากันกุมขมับกับเพื่อนตัวเอง
"ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ได้สมาชิกผู้หญิงครบแล้วน่อ ที่เหลือก็รอพวกห้าราชามาร่วมกลุ่มด้วยก็ไปลงทะเบียนได้เลยน่อ" เหมยฮัวพูดอย่างกระตือรือร้น
"ว่าแต่อาไพลิน พวกเราเราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า ทำไมอั้วรู้สึกคุ้น ๆ จังน่อ"
"ใช่ พวกเราเจอกันเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ฉันไปหากียุลน่ะ"
"นั้นลื้อเองหรอกเหรอน่อ" เหมยฮัวชวนไพลินคุยไปเรื่อยเปื่อย ในขณะนั้นทุกคนก็กำลังกินขนมที่กียุลฝากเอามาให้อย่างเอร็ดอร่อย ไม่นานเด็กหนุ่มจำนวนเจ็ดคนก็เดินเข้ามามาหาพวกเธอ
"ไฮ ไอกำลังคิดว่าพวกยูจะไปอยู่ไหนที่แท้ก็มาอยู่ตรงนี้นี่เอง" หนุ่มน้อยช่างฝันชาวอเมริกันโบกมือพร้อมกล่าวทักทายเพื่อน ๆ ด้วยรอยยิ้ม ข้าง ๆ เขามีเพื่อนอีกหกคนยืนอยู่ด้วย และหนึ่งในนั้นคือ
"มัวแต่กินเดี๋ยวลิงกังก็กลายร่างเป็นปีศาจคิงคองหรอก" เด็กหนุ่มพูดพร้อมยื่นหน้าของตัวเองเข้าใกล้ทิวา ใบหน้าขอทิวาร้อนผ่าว และแดงระเรื่อ
“…วันนี้เป็นอะไรไปน่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า” เธอพูดกับชายหนุ่มตรงหน้า แต่ดูท่าเขาจะไม่ได้สนใจคำพูดของเธอ แถมยังยื่นมือไปหยิบขนมที่ทิวาถืออยู่มากินอีกด้วย
“เดี๋ยว! ใครอนุญาตให้นายกินกัน นั่นชิ้นโปรดของฉันนะ”
“มีบอกว่าเป็นชิ้นโปรดด้วย ถ้าอยากกินก็มาแย่งไปซะสิ” เด็กหนุ่มยิ้มด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์
"ว่าไงนะตาตี่แว่นขี่เก๊ก" ทิวาลุกขึ้น และทันใดนั้นถุงขนมบนตักของเธอก็ถูกชิงไป
“หน่อยแน่ ตาตี่แว่น” เด็กสาวนั่งลงด้วยความโกรธ
“ถ้าอยากกินขนาดนั้นเดี๋ยวฉันจะซื้อมาให้เยอะ ๆ เลย เอามั้ย”
“หน้า..”
“อะไรนะไม่ได้ยิน”
“หน้านายใกล้ไปแล้ว”
เด็กสาวหลับตาปี๋แล้วรีบดึงถุงขนมที่กำลังจะถูกแย่งกลับมา เมื่อสองคู่กัดได้เจอกันไม่ทันที่จะได้ทักทายกันอย่างเป็นธรรมชาติ ก็เริ่มตีกันอีกแล้ว
ห้านาทีต่อมา
"เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า" โรซารี่พูดขึ้นเพื่อดึงความสนใจของทุกคน
"กำหนดการในการแสดงคืออีกสองอาทิตย์ หัวข้อคือ 'อัญมณี' ก่อนอื่นเลยเราลองกำหนดหัวข้อคร่าว ๆ ในการแสดงก่อน"
เด็กสาวพูดในขณะที่ดูกระดาษที่เธอถือไว้ กระดาษแผ่นนั้นจดรายชื่ออัญมณีที่น่าสนใจในการแสดงเอาไว้
“ถ้าพูดถึงอัญมณี ทุกคนจะนึกถึงอะไร” โรซารี่พูด
“ผลไม้ (ทับทิม) เส้นหมี่ (หมี่หยก)” ทิวายกมือออกความเห็น
“ทำไมถึงมีแต่ของกินล่ะ” กียุลแซว
“ส่วนไอคิดถึงสมบัติโจรสลัด”
“คุณไพลินเจ้าค่ะ” ยูริยกมือขึ้นตอบอย่างไม่ลังเล
“ห๊ะ! อะไรทำให้เธอคิดถึงฉันกันเนี่ย”
"ได้ยินมาว่าคุณไพลินอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับอัญมณีทั้งหมดในห้องสมุดลาฟลอร่ามาแล้ว คุณไพลินมีความคิดอะไรจะเสนอบ้างไหมเจ้าคะ อย่างเช่นตำนานของอัญมณีที่คุณไพลินสนใจ"
“ฉันไม่ได้อ่านเยอะขนาดนั้นหรอก ฉันเองก็อ่านแค่ไม่กี่เรื่องเองน่ะฮ่าๆ” ไพลินเงียบลงทำให้บรรยายกาศกลุ่มเริ่มดึงเคลียด
"อืม...." เด็กสาวกำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่เธออ่านมา ในตอนนั้นเธอคิดอะไรไม่ออกเพราะหลาย ๆ อย่างที่กระทันหันเกินไป ทั้งการที่ถูกเชิญชวนเข้ากลุ่ม บรรยากาศที่แสนกดดัน และ...
จะทำไงดีละเนี่ย ไม่เคยถูกใครถามอย่างกระทันหันอย่างนี้มาก่อน แล้วก็พอคิดถึงเรื่องอัญมณีก็รู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมาทันทีเลย
เพื่อน ๆ ที่อยู่รอบตัวเธอต่างเพ่งเล็งความสนใจทั้งหมดมาที่เธอเพราะคำพูดของยูริ เด็กสาวเงียบไปนานจนกียุลที่ยืนอยู่ข้างต้องสกิดเธอ
"ไพลิน ไพลิน"เด็กหนุ่มกระซิบเบา ๆ พร้อมเอามือไปสะกิดที่ไหล่เพื่อเรียกสติเพื่อนคนสนิท เด็กสาวสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันไปหากียุล
"อะ เอ่อ ฉันเคยอ่านเจอเรื่องที่บอกว่าอัญมณีไพลินเป็นอัญมณีแห่งคุณธรรม มันจะช่วยทำให้ผู้สวมใส่ตั้งมั่นอยู่ในความดี อ้อ งั้นเอาอย่างนี้ดีมั้ย" เด็กสาวหันกลับไปตอบเพื่อน ๆ
“ให้ตัวละครเอกเป็นอัศวินที่ผดุงความยุติธรรม และช่วยเจ้าหญิงรักษาและฟื้นฟูบ้านเมืองที่กำลังจะล่มสลาย พอบ้านเมืองเริ่มสงบ เขาก็ได้รับพระราชทานเข็มกลัดไพลินจากเจ้าหญิงที่ขึ้นเป็นราชินีดีมั้ย”
“…” บรรยากาศอึมครึมจัง เราพูดมากเกินไปหรือเปล่านะ “เออ-”
"ดีมากเลยล่ะ ถือเป็นการเล่าเรื่องสื่อความหมายของอัญมณีไปในตัวด้วย เอาตามนี้กันเลยไหม" โรซารี่รู้สึกพอใจในความคิดเห็นของไพลิน
“เอาเลย ๆ เรามาวางโครงเรื่องคร่าว ๆ กันเถอะ” และทุกคนก็ช่วยกันออกความเห็นในการเรียบเรียงเรื่องราวของอัศวินหนุ่มอย่างสนุกสนาน กลับกันไพลินกลับไม่ได้หัวเราะสนุกไปกับคนอื่นๆ และนั่งเหม่อลอยเงียบๆ
.
.
.
.
"เพราะเธอนั้นแหละ"
"ทำไมเธอถึงทำแบบนี้"
“ถ้าเธอคือคนขโมยไปก็แค่เอามาคืนเราไม่ว่าอะไรหรอก”
"มีใครบางคนใส่ร้ายฉั.."
"นี้เป็นความผิดเธอชัด ๆ อย่ามาโยนให้คนอื่นเลย"
ภาพอดีตของไพลินค่อย ๆ หวนกลับมา เพื่อนเก่าของเธอพากันหันหลังใส่เธอและเดินจากไปทีละคน ทีละคน ความรู้สึกโดดเดี่ยวค่อยกัดกินเธอทีละนิด แววตาของเด็กสาวค่อยๆ จางหายไปตามกาลเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนผันและฤดูกาลที่เปลี่ยนไป "ไม่มี...."
"ไม่มีอะไรที่อยากเพิ่มแล้วใช่ไหม" กียุลถามเพื่อน ๆ เป็นครั้งสุดท้าย ดวงตาของไพลินเบิกกว้าง เสียงเจี๊ยวจ้าวของเด็ก ๆ ในลาฟลอร่าเริ่มกลับมาดังเหมือนปกติอีกครั้ง
‘เผลอนึกถึงอดีตไปซะได้’ ฉันควรเริ่มได้แล้วสินะ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสนั้น
"ถ้าอย่างนั้นพวกเราจบการประชุมแค่นี้เถอะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันต่อเจอกันที่นี่พรุ่งนี้นะ"
หลังจากแยกย้ายกันไปแล้วกียุลก็เดินตามไพลินมา ข้างหน้าของทั้งคู่คือพุ่มไม้ที่ดูเป็นระเบียบ ครู่หนึ่งก็มีลมพัดผ่าน เสียงลมพัดใบไม้เสียดสีกันไปมา เด็กสาวค่อยมุดตัวออกไปข้างนอกพุ่มไม่เหล่านั้น เมื่อออกไปได้ก็กางแขนออกรับลม
“ฉันรู้นะว่านายแอบตามมาน่ะ กี ยุล”
“หูตาไวดีจังนะเธอเนี่ย” เด็กหนุ่มที่แอบตามทับทิมมาตอบพร้อมปัดฝุ่นและใบไม้ออกจากตัว
“ไม่หรอก” ไพลินตอบปฏิเสธอย่างยิ้ม ๆ “ว่าแต่ นายตามมาทำไมเหรอ”
“ตามมา เพราะเป็นห่วงน่ะสิ แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอที่ประหลาดแบบนี้ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่ลาฟลอร่าจะมีทุ่งกว้างแบบนี้ด้วย” ทั้งคู่นั่งลงกับพื้น
“ใช่แล้ว เพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้จักที่นี่ ดังนั้นฉันเลยมาอยู่ที่นี่ไงล่ะ” เด็กสาวนอนลงบนพื้นหญ้าสีเขียวชะอุ่ม “เงียบสงบดีใช่ไหมล่ะ”
“ใช่ เหมาะสำหรับมาพักผ่อนจากเรื่องเครียดมากเลยล่ะ” กียุลตอบพร้อมหันไปมองเพื่อนสาวที่นอนหลับไปแล้ว
เช้าวันต่อมา
หลังกินข้าวเสร็จไพลินไปนั่งสูดอากาศที่ทางเดินไปทุ่งกว้างลับนั่นอีกครั้งเพื่อให้จิตใจของเธอปลอดโปร่ง เด็กสาวยกมือไปแตะใบไม้และดอกไม้ที่กำลังผลิบนต้นไม้ ในขณะที่เธอกำลังเพลิดเพลินอยู่นั้น...
"เธอคือไพลินสินะ" เด็กสาวผมแดงตัวสูงยืนกอดอกขวางทางไพลิน ข้าง ๆ มีเด็กกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ด้วย และหนึ่งในนั้นคือเด็กสาวผมชมพูอ่อนที่เธอเจอเมื่อคราวก่อนที่ห้องสมุด
"ใช่ มีอะไรเหรอ" เธอตอบด้วยใบหน้าเอือมระอา ‘คนพวกนี้มาหาเรื่องฉันอีกแล้วสินะ’
"เธอรู้ไหมวันก่อนเธอทำอะไรไว้กับวี" เด็กสาวผมแดงมองไพลินด้วยสายตาเหยียดหยาม ส่วนเด็กสาวผมชมพูอ่อนแอบอยู่ข้างหลังของสาวผมแดงเหมือนลูกแมวที่กำลังหวาดกลัว
"ชาช่า ไม่ต้องก็ได้ฉันผิดเองแหละ" เด็กสาวผมชมพูอ่อนพูดกับเด็กสาวผมแดงผู้เป็นเพื่อนของเธอ
"มีคนทะเลาะกันอีกแล้ว"
"ไพลินอีกแล้วเหรอ"
"มีเรื่องตลอดเลยนะ"
"หรือจะเป็นแบบข่าวลือจริง ๆ"
โปรดติดตามตอนต่อไป
ความคิดเห็น