ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ลาฟลอร่า อัญมณีสีคราม

    ลำดับตอนที่ #3 : ในวันต่อมา

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 247
      23
      13 ม.ค. 65

    วันต่อมา

     

    "อาทิวา"

     

    เสียงที่แสนคุ้นหูดังขึ้นพร้อม ๆ กับเด็กสาวผมสีน้ำเงินที่วิ่งมากับสัมภาระมากมาย เด็กสาวโผเข้ากอดเพื่อนของเธอ

     

    "อึก เหมยฮัว..."

    "อาทิวา มีอะไรน่อ"

    "ห..หะ...หายใจไม่ออก" ทิวาตอบเหมยฮัวที่เพิ่มแรงกอดจนเธอรู้สึกอึดอัด ได้ยินดังนั้น เหมยัวก็รีบคลายกอดออกจากเพื่อนคนสนิท

    "อั้วขอโทษน่อ"

    "อ้าา โล่งอกไปที่"

    "ลื้อเป็นอะไรหรือเปล่าน่อ"

     

    "ทำไมทักแต่ทิวาล่ะยะ"

    "โอ้ ไงนาซิสซ่าสบายดีไหมน่อ"

    "ไม่ทันแล้วย่ะ"

    "ฮ่าๆๆๆๆ อั้วมีเรื่องจะเล่าให้พวกลื้อฟังเยอะแยะเลย"

    "ค่อยเล่าระหว่างกลับห้องก็ได้นะ" โรซารี่และยูริที่ตามมาทีหลังเดินเข้ามาทักทาย พร้อมช่วยยกสัมพาระของเพื่อนผมซาลาเปา ระหว่างทางที่กลับหอพักพวกเขาก็คุยกันเรื่องกิจกรรมที่เหมยฮัวไปทำ ตามด้วยเรื่องสัพเพเหระตามประสาเพื่อนที่ไม่ได้เจอกันนาน และเรื่องของไพลิน

     

    "อั้วเห็นด้วยกับอาทิวาและอายูรินา เพราะว่าถ้าอั้วยังไม่รู้จักอาไพลินดีก็คงจะตัดสินอะไรไม่ได้น่อ" เหมยฮัวพูด

    "ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ลองคุยกับไพลินตามที่ทิวาบอกก็ได้ ...แต่ถ้าไพลินเป็นอย่างข่าวลือจริง ๆ เราก็ต้องออกห่างจากเธอทันทีเพื่อความปลอดภัยของพวกเราเอง โอเคนะ"

    โรซารี่เสนอความคิดและข้อต่อรอง เพราะยังมีความเคลือบแคลงใจเกี่ยวกับที่มาที่ไปของไพลิน และทุกคนก็ตกปากรับคำ

    "แล้วอาไพลินนี่คนไหนน่อ?"

     

    ห้องประชุม

    "สวัสดีค่ะเลดี้ทุกคน โรงเรียนของเราจะมีการแข่งขันการแสดงร่วมกับโรงเรียนโนอา จะเข้าร่วมก็ได้ไม่เข้าร่วมก็ได้ แต่ถ้าหากเข้าร่วมก็จะมีคะแนนพิเศษให้นะคะเลดี้"

    ครูมารีคุณครูวิชาคหกรรมผู้มักจะต้องคอยรับหน้าที่เป็นผู้ประกาศกิจกรรมครั้งใหม่ของโรงเรียนลาฟลอร่าอยู่เสมอกล่าว หลังเธอพูดจบนักเรียนภายในห้องประชุมก็เริ่มคุยกันถึงเรื่องการแข่งขัน เสียงของเด็ก ๆ เริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ จนทั่วทั้งห้องประชุม

    "ช่วยเงียบก่อนค่ะเลดี้ ครูจะบอกกติกาคร่าว ๆ ในการแข่งขันให้นะคะ นักเรียนต้องจับกลุ่มให้ได้นักเรียนหญิงหกคนและนักเรียนจากโรงเรียนโนอาอีกเจ็ดคน เรื่องที่ใช้แสดงจะเป็นเรื่องอะไรก็ได้ค่ะ แต่ต้องเกี่ยวกับอัญมณีค่ะ ส่วนรายละเอียดย่อยจะติดประกาศไว้ที่หน้าห้องประชุมนะคะเลดี้"

    เมื่อพูดจบครูมารีก็เดินออกไป เด็ก ๆ ทุกคนต่างตื่นเต้นกับเรื่องการแข่งขันนี้มาก เพราะหากชนะการแข่งขันแล้วจะมีโอกาศได้เป็นนักแสดงของบริษัทยักษ์ใหญ่อีกด้วย เรื่องการแข่งขันนี้ได้กลายเป็นประเด็นที่ทุกคนใช้พูดถึงบ่อยมากที่สุดในลาฟลอร่าภายในเวลาสั้น ๆ แต่ในหมูเด็กเหล่านั้นก็มีเด็กสาวคนหนึ่งที่กำลังยุ่งอยู่กับเรื่องอื่นจนลืมที่จะสนใจเรื่องการแสดงที่เป็นประเด็นของทุกคน

     

    ห้องสมุด

    "ยังมีหนังสือหรือข่าวเกี่ยวกับอัญมณีอีกไหมค่ะ" เด็กสาวที่ไม่ได้สนเรื่องการแสดงแต่ต้องการหนังสืออัญมณีกำลังยืนพูดกับบรรณาธิการด้วยใบหน้าเรียบ ๆ

    "ไม่มีแล้วจ๊ะ เพราะหนังสืออัญมณีที่หนูยืมไปคือทั้งหมดของเราแล้วล่ะ" บรรณาธิการตอบเธอในขณะที่หยิบหนังสืออัญมณีจำนวนมากเก็บเข้าที่

    “หนูไพลินไม่สนใจจะเข้าร่วมการแสดงพิเศษของโรงเรียนจริง ๆ เหรอจ๊ะ”

    “ไม่ค่ะ” เด็กสอบตอบปฏิเสธทันที

    “แหม น่าเสียดายจังเลยนะ กะว่าจะจองตัวไว้ก่อนแท้ ๆ ในโรงเรียนคงไม่มีใครรู้เรื่องนี้ละเอียดเท่าหนูแล้วล่ะ” บรรณาธิการสาวพูดกับไพลินพร้อมเอามือข้าที่ว่างอยู่มาปะแก้ม

    "ไม่หรอกค่ะ อีกอย่างการแสดงน่ะไม่จำเป็นต้องอิงเรื่องจริงทั้งหมดก็ได้ไม่ใช่เหรอคะ ถ้าอยากจะชนะการแข่งขัน ก็ต้องใส่ใจที่เนื้อเรื่องที่จะใช้แสดงมากกว่า รายละเอียดข้อมูลของอัญมณีไม่ใช่เหรอคะ" เด็กสาวตอบพลางยิ้มบางๆ

    "นั่นสินะ ลืมเรื่องนี้ไปเลย ขอบใจนะที่ช่วยเตือน"

     

    ขณะเดียวกันผู้คนจำนวนมากที่เข้ามาในห้องสมุด แล้วจำได้ว่าเคยเห็นไพลินอ่านหนังสือเกี่ยวกับอัญมณีมานานก็เริ่มซุบซิบต่าง ๆ นานา จนบรรณาธิการเองก็รู้สึกถึงความอึดอัดที่ไพลินได้รับ แต่ไพลินที่เห็นดังนั้นก็ไม่ได้แสดงอาการอะไรออกมาเธอทำเพียงแค่บอกลาบรรณาธิการแล้วเดินฝ่าผู้คนมากมายไป ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    "ไพลิน มาอยู่กลุ่มเดียวกับฉันไหม ไม่ต้องเกรงใจก็ได้นะ ฉันยินดีต้อนรับเสมอ" เด็กสาวผมชมพูอ่อนที่ยืนอยู่หน้าประตูพูดขึ้นเมื่อไพลินเดินไปจะถึงเธอ และเมื่อไพลินกำลังจะเดินผ่านเธอเธอก็กระซิบเบา ๆ ข้างหูของไพลิน

    'อ่านหนังสืออัญมณีเยอะขนาดนั้นคิดว่าจะมีคนอยากได้ตัวให้เข้าร่วมการแสดงด้วยรึไง'

    ไพลินไม่ตอบเด็กสาวและไม่แม้แต่จะเหลือบมองอีกทั้งยังเดินผ่านเธอไปอย่างไม่มีเยื่อใย ทิ้งให้เด็กสาวผมชมพูอ่อนยืนอึ้งกับคำตอบที่ได้รับ

    "ไม่อยากอยู่กับฉันเหรอ ถ้าไม่อยากอยู่ด้วยก็ไม่เห็นต้องเมินกันเลยนี่นา ฮือ" เด็กสาวคนดังกล่าวพูดกับไพลินก่อนที่ไพลินจะลับไปจากสายตาเธอ ผู้คนเห็นเธอร้องไห้ก็รีบเข้าไปปลอบใจ คนอื่นๆ ที่เห็นเหตุการณ์ต่างบอกเล่าเหตุการณ์ไปต่าง ๆ นานา

    .

    .

    .

    ห้องพักไพลิน

    "ไพลิน" เสียงเพื่อนคนสนิทของเธอเรียก

    "กียุล นายมาได้ยังไง ออกจาการทดสอบแล้วหรือไง ทำไมไม่ตั้งใจอย่างนี้" เธอหันไปบ่นเจ้าของเสียงที่กำลังนั่งอยู่ที่ขอบหน้าต่าง

    "เอาน่า ฉันแอบโดดมาน่ะ ฝากเอาขนมถุงนี้ให้ทิวาหน่อยได้ไหม" เด็กหนุ่มยิ้มบาง ๆ พร้อมยื่นถุงขนมให้กับไพลิน

    "ส่วนนี่ของเธอ เดี๋ยวพรุ่งนี้พวกฉันก็จะกลับแล้วล่ะ" เขายื่นขนมอีกถุงให้เธอ ทันใดเด็กหนุ่มก็กระโดดลงจากหน้าต่างห้องไพลินแล้วไปโดนเข้าต้นแคคตัสที่อยู่ที่หน้าต่าง ทำให้เกือบตก ไพลินรีบเข้าไปรับต้นแคคตัสทันที

    "กียุลถ้าจะลงก็ลงให้ดี ๆ หน่อยสิ ต้นแคคตัสเกือบตกลงไปด้วยเลยนะ!" เด็กสาวยื่นหน้าออกไปตะโกนใส่เพื่อนของเธอที่กำลังจะออกวิ่ง

    "แหม่ก็นึกว่าเป็นห่วงกัน ที่แท้ก็ห่วงต้นแคคตัส ฮ่า ๆ ๆ ....อย่าลืมที่ฉันบอกล่ะว่าให้เอาไปให้พวกทิวา" เด็กหนุ่มย้ำอีกครั้งกับเพื่อนสาวก่อนที่จะวิ่งจากไป

     

    เย็นวันต่อมา

    "พวกเราลองไปชวนคุณไพลินมาร่วมการแสดงด้วยกันไหมเจ้าคะ เพราะยังไงพวกเราก็ยังขาดคนอีกคนนะเจ้าคะ"

    ยูริเสนอความคิดให้เพื่อนในกลุ่มทิวาและเหมยฮัวเห็นด้วยกับความคิดยูริ สามเสียงย่อมมากกว่าสองเสียงทำให้คนที่เหลือต้องทำตามอย่างไม่ค่อยเต็มใจ

    "คุณไพลินเจ้าคะ" เด็กสาวชาวญี่ปุ่นที่หันไปเห็นไพลินพอดีจึงรีบเรียกเธอเข้ามา เมื่อไพลินเห็นยูรีเรียกก็รีบเดินเข้าไปหา

    “มีอะไรเหรอ” ไพลินถามทุกคนด้วยความสงสัย ไม่ทันที่ทุกคนจะอ้าปากพูดไพลินก็รีบตัดบททันที "อ้อ กียุลฝากให้ฉันเอาขนมมาให้เธอน่ะทิวา"

    "ขอบคุณนะ" ทิวาตอบ เด็กสาวรีบยื่นให้ทิวาแล้วเตรียมเดินออกไป แต่โรซารี่รั้งเธอเอาไว้

     

    "เธอมีกลุ่มการแสดงแล้วหรือยัง" โรซารี่ถามด้วยด้วยท่าทางไม่ต้อนรับแขกเท่าไหร่ ‘โรซารี่น่ากลัวจังแฮะ’ ไพลินคิด เพราะสัมผัสได้ถึงรั่งสีอำมหิตจากโรซารี่

    "ถ้ายังไม่มีก็มาอยู่กลุ่มเดียวกับพวกเราก็ได้นะเจ้าคะ" ยูริเอ่ยชวน โรซารี่พูดเพื่อนคนอื่น ๆ ก็พยักหน้าชักชวนเธอ

     

    “งั้นลงชื่อเลยนะ” ไม่ทันที่ไพลินจะได้เอ่ยอะไร ทิวาเด็กสาวจอมแก่นก็ลงชื่อของเธอไปในกระดาษแล้ว 

    “เอ๊ะ!” ไพลินอุทานออกมา 

    “อะไรกันฉันยังไมทันตอบตกลงเลยนะ”ด้วยความเศร้าพร้อมหยิบใบรายชื่อแล้วหันมาทางทิวา

    ‘ไพลินทำหน้าน่ากลัวจัง ท่าทางจะโกรธมากแน่ๆ เลย’ ทิวาและคนอื่นๆ ในกลุ่มมองไพลินอย่างระแวดระวัง

    “ข..ขอโทษนะ รีบไปหน่อยอะ” ทิวาพูดแก้เขินที่ตัวเองเร่งรีบตัดสินใจแทนคนอื่นเกินไป

     

    ‘หืมทำไมทำหน้าอย่างั้นกัน ฉันเผลอทำหน้าไม่ต้อนรับแขกอีกแล้วเหรอ '-'’ 

    “ไม่เป็นไร ฉันอยู่ด้วยก็ได้ ยังไงฉันก็ไม่มีกลุ่มอยู่แล้วน่ะนะ” ไพลินพูดไปยิ้มไปให้ทิวาสะบายใจแม้ในใจจะอยากปฏิเสธมากแค่ไหนก็ตาม ส่วนโรซารี่ เหมยฮัว และนาซิสซ่าที่เห็นเหตุการณ์ต่างก็ต้องพากันกุมขมับกับเพื่อนตัวเอง

    "ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็ได้สมาชิกผู้หญิงครบแล้วน่อ ที่เหลือก็รอพวกห้าราชามาร่วมกลุ่มด้วยก็ไปลงทะเบียนได้เลยน่อ" เหมยฮัวพูดอย่างกระตือรือร้น 

    "ว่าแต่อาไพลิน พวกเราเราเคยเจอกันมาก่อนรึเปล่า ทำไมอั้วรู้สึกคุ้น ๆ จังน่อ" 

    "ใช่ พวกเราเจอกันเมื่ออาทิตย์ก่อนที่ฉันไปหากียุลน่ะ" 

    "นั้นลื้อเองหรอกเหรอน่อ" เหมยฮัวชวนไพลินคุยไปเรื่อยเปื่อย ในขณะนั้นทุกคนก็กำลังกินขนมที่กียุลฝากเอามาให้อย่างเอร็ดอร่อย ไม่นานเด็กหนุ่มจำนวนเจ็ดคนก็เดินเข้ามามาหาพวกเธอ

     

    "ไฮ ไอกำลังคิดว่าพวกยูจะไปอยู่ไหนที่แท้ก็มาอยู่ตรงนี้นี่เอง" หนุ่มน้อยช่างฝันชาวอเมริกันโบกมือพร้อมกล่าวทักทายเพื่อน ๆ ด้วยรอยยิ้ม ข้าง ๆ เขามีเพื่อนอีกหกคนยืนอยู่ด้วย และหนึ่งในนั้นคือ

    "มัวแต่กินเดี๋ยวลิงกังก็กลายร่างเป็นปีศาจคิงคองหรอก" เด็กหนุ่มพูดพร้อมยื่นหน้าของตัวเองเข้าใกล้ทิวา ใบหน้าขอทิวาร้อนผ่าว และแดงระเรื่อ 

     

    “…วันนี้เป็นอะไรไปน่ะ ฮ่าฮ่าฮ่า” เธอพูดกับชายหนุ่มตรงหน้า แต่ดูท่าเขาจะไม่ได้สนใจคำพูดของเธอ แถมยังยื่นมือไปหยิบขนมที่ทิวาถืออยู่มากินอีกด้วย

    “เดี๋ยว! ใครอนุญาตให้นายกินกัน นั่นชิ้นโปรดของฉันนะ”

    “มีบอกว่าเป็นชิ้นโปรดด้วย ถ้าอยากกินก็มาแย่งไปซะสิ” เด็กหนุ่มยิ้มด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์

    "ว่าไงนะตาตี่แว่นขี่เก๊ก" ทิวาลุกขึ้น และทันใดนั้นถุงขนมบนตักของเธอก็ถูกชิงไป

    “หน่อยแน่ ตาตี่แว่น” เด็กสาวนั่งลงด้วยความโกรธ

    “ถ้าอยากกินขนาดนั้นเดี๋ยวฉันจะซื้อมาให้เยอะ ๆ เลย เอามั้ย”

    “หน้า..”

    “อะไรนะไม่ได้ยิน”

    “หน้านายใกล้ไปแล้ว”

    เด็กสาวหลับตาปี๋แล้วรีบดึงถุงขนมที่กำลังจะถูกแย่งกลับมา เมื่อสองคู่กัดได้เจอกันไม่ทันที่จะได้ทักทายกันอย่างเป็นธรรมชาติ ก็เริ่มตีกันอีกแล้ว

     

    ห้านาทีต่อมา

    "เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยดีกว่า" โรซารี่พูดขึ้นเพื่อดึงความสนใจของทุกคน

    "กำหนดการในการแสดงคืออีกสองอาทิตย์ หัวข้อคือ 'อัญมณี' ก่อนอื่นเลยเราลองกำหนดหัวข้อคร่าว ๆ ในการแสดงก่อน"

    เด็กสาวพูดในขณะที่ดูกระดาษที่เธอถือไว้ กระดาษแผ่นนั้นจดรายชื่ออัญมณีที่น่าสนใจในการแสดงเอาไว้

    “ถ้าพูดถึงอัญมณี ทุกคนจะนึกถึงอะไร” โรซารี่พูด

    “ผลไม้ (ทับทิม) เส้นหมี่ (หมี่หยก)” ทิวายกมือออกความเห็น

    “ทำไมถึงมีแต่ของกินล่ะ” กียุลแซว

    “ส่วนไอคิดถึงสมบัติโจรสลัด”

    “คุณไพลินเจ้าค่ะ” ยูริยกมือขึ้นตอบอย่างไม่ลังเล

    “ห๊ะ! อะไรทำให้เธอคิดถึงฉันกันเนี่ย” 

     "ได้ยินมาว่าคุณไพลินอ่านหนังสือที่เกี่ยวกับอัญมณีทั้งหมดในห้องสมุดลาฟลอร่ามาแล้ว คุณไพลินมีความคิดอะไรจะเสนอบ้างไหมเจ้าคะ อย่างเช่นตำนานของอัญมณีที่คุณไพลินสนใจ"

    “ฉันไม่ได้อ่านเยอะขนาดนั้นหรอก ฉันเองก็อ่านแค่ไม่กี่เรื่องเองน่ะฮ่าๆ” ไพลินเงียบลงทำให้บรรยายกาศกลุ่มเริ่มดึงเคลียด

    "อืม...." เด็กสาวกำลังครุ่นคิดถึงสิ่งที่เธออ่านมา ในตอนนั้นเธอคิดอะไรไม่ออกเพราะหลาย ๆ อย่างที่กระทันหันเกินไป ทั้งการที่ถูกเชิญชวนเข้ากลุ่ม บรรยากาศที่แสนกดดัน และ...

    จะทำไงดีละเนี่ย ไม่เคยถูกใครถามอย่างกระทันหันอย่างนี้มาก่อน แล้วก็พอคิดถึงเรื่องอัญมณีก็รู้สึกไม่ค่อยดีขึ้นมาทันทีเลย

    เพื่อน ๆ ที่อยู่รอบตัวเธอต่างเพ่งเล็งความสนใจทั้งหมดมาที่เธอเพราะคำพูดของยูริ เด็กสาวเงียบไปนานจนกียุลที่ยืนอยู่ข้างต้องสกิดเธอ

    "ไพลิน ไพลิน"เด็กหนุ่มกระซิบเบา ๆ พร้อมเอามือไปสะกิดที่ไหล่เพื่อเรียกสติเพื่อนคนสนิท เด็กสาวสะดุ้งเล็กน้อยแล้วหันไปหากียุล

    "อะ เอ่อ ฉันเคยอ่านเจอเรื่องที่บอกว่าอัญมณีไพลินเป็นอัญมณีแห่งคุณธรรม มันจะช่วยทำให้ผู้สวมใส่ตั้งมั่นอยู่ในความดี อ้อ งั้นเอาอย่างนี้ดีมั้ย" เด็กสาวหันกลับไปตอบเพื่อน ๆ

    “ให้ตัวละครเอกเป็นอัศวินที่ผดุงความยุติธรรม และช่วยเจ้าหญิงรักษาและฟื้นฟูบ้านเมืองที่กำลังจะล่มสลาย พอบ้านเมืองเริ่มสงบ เขาก็ได้รับพระราชทานเข็มกลัดไพลินจากเจ้าหญิงที่ขึ้นเป็นราชินีดีมั้ย”

     

    “…” บรรยากาศอึมครึมจัง เราพูดมากเกินไปหรือเปล่านะ “เออ-”

    "ดีมากเลยล่ะ ถือเป็นการเล่าเรื่องสื่อความหมายของอัญมณีไปในตัวด้วย เอาตามนี้กันเลยไหม" โรซารี่รู้สึกพอใจในความคิดเห็นของไพลิน

    “เอาเลย ๆ เรามาวางโครงเรื่องคร่าว ๆ กันเถอะ” และทุกคนก็ช่วยกันออกความเห็นในการเรียบเรียงเรื่องราวของอัศวินหนุ่มอย่างสนุกสนาน กลับกันไพลินกลับไม่ได้หัวเราะสนุกไปกับคนอื่นๆ และนั่งเหม่อลอยเงียบๆ

    .

    .

    .

    .

     "เพราะเธอนั้นแหละ" 

    "ทำไมเธอถึงทำแบบนี้" 

    “ถ้าเธอคือคนขโมยไปก็แค่เอามาคืนเราไม่ว่าอะไรหรอก” 

    "มีใครบางคนใส่ร้ายฉั.."

    "นี้เป็นความผิดเธอชัด ๆ อย่ามาโยนให้คนอื่นเลย" 

    ภาพอดีตของไพลินค่อย ๆ หวนกลับมา เพื่อนเก่าของเธอพากันหันหลังใส่เธอและเดินจากไปทีละคน ทีละคน ความรู้สึกโดดเดี่ยวค่อยกัดกินเธอทีละนิด แววตาของเด็กสาวค่อยๆ จางหายไปตามกาลเวลาที่หมุนเวียนเปลี่ยนผันและฤดูกาลที่เปลี่ยนไป "ไม่มี...."

     

    "ไม่มีอะไรที่อยากเพิ่มแล้วใช่ไหม" กียุลถามเพื่อน ๆ เป็นครั้งสุดท้าย ดวงตาของไพลินเบิกกว้าง เสียงเจี๊ยวจ้าวของเด็ก ๆ ในลาฟลอร่าเริ่มกลับมาดังเหมือนปกติอีกครั้ง 

    ‘เผลอนึกถึงอดีตไปซะได้’ ฉันควรเริ่มได้แล้วสินะ ก่อนที่จะไม่มีโอกาสนั้น

    "ถ้าอย่างนั้นพวกเราจบการประชุมแค่นี้เถอะ พรุ่งนี้ค่อยคุยกันต่อเจอกันที่นี่พรุ่งนี้นะ"

     

    หลังจากแยกย้ายกันไปแล้วกียุลก็เดินตามไพลินมา ข้างหน้าของทั้งคู่คือพุ่มไม้ที่ดูเป็นระเบียบ ครู่หนึ่งก็มีลมพัดผ่าน เสียงลมพัดใบไม้เสียดสีกันไปมา เด็กสาวค่อยมุดตัวออกไปข้างนอกพุ่มไม่เหล่านั้น เมื่อออกไปได้ก็กางแขนออกรับลม

    “ฉันรู้นะว่านายแอบตามมาน่ะ กี ยุล” 

    “หูตาไวดีจังนะเธอเนี่ย” เด็กหนุ่มที่แอบตามทับทิมมาตอบพร้อมปัดฝุ่นและใบไม้ออกจากตัว

    “ไม่หรอก” ไพลินตอบปฏิเสธอย่างยิ้ม ๆ “ว่าแต่ นายตามมาทำไมเหรอ”

    “ตามมา เพราะเป็นห่วงน่ะสิ แต่ไม่คิดว่าจะได้เจอที่ประหลาดแบบนี้ ไม่เคยรู้มาก่อนว่าที่ลาฟลอร่าจะมีทุ่งกว้างแบบนี้ด้วย” ทั้งคู่นั่งลงกับพื้น

    “ใช่แล้ว เพราะคนส่วนใหญ่ไม่รู้จักที่นี่ ดังนั้นฉันเลยมาอยู่ที่นี่ไงล่ะ” เด็กสาวนอนลงบนพื้นหญ้าสีเขียวชะอุ่ม “เงียบสงบดีใช่ไหมล่ะ”

    “ใช่ เหมาะสำหรับมาพักผ่อนจากเรื่องเครียดมากเลยล่ะ” กียุลตอบพร้อมหันไปมองเพื่อนสาวที่นอนหลับไปแล้ว

     

    เช้าวันต่อมา

    หลังกินข้าวเสร็จไพลินไปนั่งสูดอากาศที่ทางเดินไปทุ่งกว้างลับนั่นอีกครั้งเพื่อให้จิตใจของเธอปลอดโปร่ง เด็กสาวยกมือไปแตะใบไม้และดอกไม้ที่กำลังผลิบนต้นไม้ ในขณะที่เธอกำลังเพลิดเพลินอยู่นั้น...

    "เธอคือไพลินสินะ" เด็กสาวผมแดงตัวสูงยืนกอดอกขวางทางไพลิน ข้าง ๆ มีเด็กกลุ่มหนึ่งยืนอยู่ด้วย และหนึ่งในนั้นคือเด็กสาวผมชมพูอ่อนที่เธอเจอเมื่อคราวก่อนที่ห้องสมุด

    "ใช่ มีอะไรเหรอ" เธอตอบด้วยใบหน้าเอือมระอา ‘คนพวกนี้มาหาเรื่องฉันอีกแล้วสินะ’

    "เธอรู้ไหมวันก่อนเธอทำอะไรไว้กับวี" เด็กสาวผมแดงมองไพลินด้วยสายตาเหยียดหยาม ส่วนเด็กสาวผมชมพูอ่อนแอบอยู่ข้างหลังของสาวผมแดงเหมือนลูกแมวที่กำลังหวาดกลัว

    "ชาช่า ไม่ต้องก็ได้ฉันผิดเองแหละ" เด็กสาวผมชมพูอ่อนพูดกับเด็กสาวผมแดงผู้เป็นเพื่อนของเธอ

     

    "มีคนทะเลาะกันอีกแล้ว"

    "ไพลินอีกแล้วเหรอ"

    "มีเรื่องตลอดเลยนะ"

    "หรือจะเป็นแบบข่าวลือจริง ๆ"

     

    โปรดติดตามตอนต่อไป

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×