คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : อาหารเช้าครบรส
.
บนทางเดินโค้งรูปจันทร์เสี้ยวข้ามธารน้ำ ได้ปรากฏหญิงสาว 3 คนที่กำลังเดินทางมุ่งหน้าไปสู้เก๋งจีนแบบโบราณที่ตั้งอยู่กลางสระน้ำ สาวรูปร่างเล็ก 1 คนเดินนำ สาว 2 คน ที่มีรูปร่างเพรียวบางและอีกหนึ่งนางมีรูปร่างอวบอ้วน ตลอดเส้นทางสองฝากฝั่งดอกบัวหลากสีแข่งกันเบ่งบาน มวลผีเสื้อบินว่อน สร้างความชื่นบานให้แก่คนที่พบเห็น ทำให้สองสาวที่เดินตามหลังส่งเสียงพูดคุยถึงทัศนียภาพอันงดงามนี้ตลอดเส้นทาง จนลืมจุดประสงค์ที่เดินทางมา
“คุณหนูถึงแล้วค่ะ เชิญด้านในเลยค่ะ” หญิงสาวรูปร่างเล็กผู้เดินนำกล่าวขึ้น พร้อมโค้งหลังให้เล็กน้อย แสดงท่าทางเชื่อเชิญทั้งสองสาวเข้าสู่ข้างใน และใช้หนึ่งมือยกผ้าม่านขึ้นอย่างอ่อนชด
สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาของทั้งสามสาวคือบุรุษหนุ่มหล่อเหลาคมเข้มผิวสีขาวเนื้อละเอียด ริมฝีปากประดับรอยยิ้มที่เหมือนทอแสงแข่งกับพระอาทิตย์ยามเช้า เล่นทำเอาสาวสองคนอยากยกมือขึ้นมาปิดตาบังแสงสว่างนี้เหลือเกิน ส่วนอีกหนึ่งสาวรูปร่างอวบอ้วนสายตาเธอตอนนี้กำลังจดจ่ออยู่ที่อาหารตรงหน้า จนไม่ได้สนใจแสงเรืองรองที่แพร่มาจากชายหนุ่มตรงหน้าเลยสักนิด เล่นเอาชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่าตนนั้นพ่ายแพ้ให้แก่อาหารซะแล้ว
หญิงสาวที่ไม่รู้ความในใจชายหนุ่มก็ดึงมือเพื่อนใหม่เข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว “กินข้าวกันเลยไมค่ะ”แก้วพดขึ้นด้วยเสียงร่าเริงพร้อมรอยยิ้ม
“เชิญ” ชายหนุ่มกล่าวขึ้นอย่างอารมณ์ดี แต่แววตากลับมีความลึกลับเกินคาดเดาเกิดขึ้น
แก้วผู้ไม่ได้สนจะมองหน้าตาใครสักเท่าไร เพราะตอนนี้ในสายตาเธอมีแต่อาหารและอาหารเลยทำให้ไม่ทันได้มองเห็นสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น เมื่อได้รับคำตอบให้กินเธอก็ลงมือกิน มือขวาถือตะเกียบคีบนั้นคีบนี้กิน มือซ้ายถือช้อนซดน้ำแกงโดยไม่ได้มองรอบข้างเลยซักนิด
หญิงสาวสองคนที่มองเห็นสายตาลึกลับเกินคาดเดาของชายหนุ่ม ล้วนไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย ทั้งสองคนกลัวว่าถ้าทำอะไรลงไปอาจจะทำให้ท่านประธานหยางเจ้านายคนเดียวของพวกเธอเกิดความไม่พอใจขึ้นแน่
“หยกทำไมไม่กินอ่ะ” แก้วเงยหน้าขึ้นมองหยกและถามขึ้นด้วยเสียงมึนงง ที่หลังจากเธอลงมือกินไปได้สักพักแล้วไม่เห็นคนอื่นลงมือกินเลย แล้วสายตาเธอก็มองไปที่ท่านประธานและกลับมาที่หยก
“เอ่อ...หรือว่าประเพณีของจีนต้องมีการสวดอะไรซักอย่างก่อนกินรึป่าวค่ะ”
ทั้งสามคนมองหน้าเธอด้วยความข้องใจ เธอเลยกล่าวเสริม
“แบบประเทศไทยก็จะมีใครเด็กในโรงเรียนพูดว่า ข้าวทุกจานอาหารทุกอย่างอย่ากินทิ้งขว้างแบบนี้นะค่ะ”เธอกล่าวไปพร้อมกับยกมือขึ้นประกอบท่าทาง สิ่งที่แก้วทำ ทำให้เรียกเสียงหัวเราะจากทั้งสองคนรอบข้าง
555 --> เสียงท่านประธานหยางที่หัวเราะอย่างจริงใจไม่ปิดบัง
อิอิ --> เสียงหัวเราะของหยกที่ร่าเริงสดใส
อุอุ --> เสียงหัวเราะของเด็กรับใช้ ที่พยายามกลั้นเสียงหัวเราะ
“ที่ประเทศจีนก็มีคำพูดก่อนกินนะ แต่ไม่ได้ยาวแบบที่ประเทศไทย” หยางเทียงหลงพูดยิ้ม “อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้คนมากพิธีรีตองขนาดนั้น ถ้าจะกินก็กินเลยไม่จำเป็นต้องพูดอะไรนะ”
“แล้วทำไมทุกคนถึงยังไม่ลงมือกินอีกค่ะ” แก้วถามขึ้นด้วยความมึนงง
อีกสองสาวเงียบไม่มีใครตอบคำถามไม่ใช่เพราะไม่รู้จะตอบอะไร แต่ด้วยเพราะความตกใจ ที่เมื่อกี้นายท่านของพวกเธอแทนตัวเองว่า พี่
“ที่ประเทศจีนปกติคนที่เข้ามาอยู่บ้านใหม่และได้รวมทานอาหารกับเจ้าของบ้านจะไม่ลงมือกินก่อนนะ และต้องกินไปพร้อมกับคีบอาหารให้เจ้าของบ้าน” ท่านประธานเว้นวรรคไปแปปหนึ่งเหมือนคิดอะไรออกและต่อด้วยประโยค “แถมบ้างบ้านมีกฎเคร่งครัดจะไม่กินอาหาร ที่ไม่ใช่ของที่เจ้าของบ้านคีบไปด้วยนะ”
คำพูดประโยคเดียวกันนี้ทำให้หญิงสาวทั้งสามคนที่อยู่รวมเหตุการณ์ต่างมีความคิดแยกแตกออกไปคนละแบบ แต่ก็มีความคิดหนึ่งที่ตรงกับสิ่งที่หยางเทียนหลงคิด
‘เอ๋ มีประเพณีแปลกๆแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร ปกติมีแต่ภรรยาคีบหรือตักอาหารให้สามีนี้น่า’ ความคิดของสาวใช้ร่างเล็กที่เดินนำทางมา
‘อิอิ นายท่านพึ่งจะเจอหน้ากันก็คิดจะใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากันแล้วหรอค่ะ’ ความคิดของหยก
‘ตายละเรา...ทำอะไรเปิ่นๆไปอีกหละ ต้องรีบหาทางแก้ตัวก่อน’ ความคิดของแก้ว
“ขอโทษด้วยนะค่ะ แก้วไม่รู้ประเพณีจีน เลยทำอะไรแปลกๆไป เดียวแก้วคีบอาหารให้นะค่ะ” แก้วพูดขึ้นพร้อมกับคีบอาหารให้หยางเทียงหลง และนั่งดูหยางเทียนว่าจะกินไม
หยางเทียนหลงยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ดูน่าหลงใหล มือจับตะเกียบขึ้นคีบอาหารที่แก้วคีบให้ด้วยทวงท่าสง่างามพร้อมกับใช้สายตาหวานส่งไปให้แก้วด้วยขณะกิน
แก้วที่ได้รับสายตาหวานก็รีบก้มหน้า ได้แต่คิดอัดอัดในใจ ‘ท่านประธานจะกินก็กินเลยค่ะ ไม่ต้องส่งสายตาแปลกๆมาให้แก้วก็ได้นะค่ะ เห็นแล้วมันรู้สึกแปลกๆ มันร้อนๆรุมๆ ใจเต้นแรงเหมือนมีใครมีตีกลองอยู่ในใจเลยนะ’
“อร่อยมาก” ท่านประธานหยางพูดขึ้นโดยที่สายตาหวานจดจ่ออยู่ที่แก้ว และยกมือขึ้นคีบเนื้อหมูทอดอบน้ำผึ้งให้แก้ว “ลองกินเนื้อหมูนี้ดู...รสหวาน้องแก้วน่าจะชอบ”
“ขอบคุณค่ะ ท่านประธาน” แก้วพูดขึ้นและรีบคีบอาหารใส่ปากด้วยความรวดเร็ว เมื่อกลืนเนื้อหมูลงท้องเสร็จเธอก็เงยหน้าขึ้นมาบอก “อร่อยมากค่ะ ท่านประธาน”
“.....”
‘ไม่มีเสียงตอบรับ และรู้สึกหน้าท่านประธานจะไม่มีรอยยิ้มชวนอึดอัดนั้นแล้ว แต่ได้เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่นิ่ง ดูกดดัน หรือเธอจะทำอะไรผิด แต่เธอก็ปฏิบัติตามประเพณีทุกอย่างแล้วนะ’ แก้วได้แต่แอบคิดในใจเมื่อเห็นบรรยากาศที่เปลี่ยนไป
สาวสองนางที่อยู่ในเก๋งจีนด้วย ถึงแม้เหมือนพวกเธอจะโดนลืม แต่พวกเธอก็สัมผัสได้ถึงบรรยายการที่ดูตรึงเครียดที่เจ้าหน้าเธอปล่อยออกมาได้
“เอ่อ...แก้วทำอะไรผิดไปอีกรึป่าวค่ะ” ในที่สุดแก้วก็ทนต่อบรรยากาศก็ถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อยๆพร้อมกับหันหน้าไปมองหยกขอความคิดเห็น
หยกทำได้แต่ส่ายหน้า เพราะเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันเมื่อกี้...บรรยากาศยังเหมือนคู่ข้าวใหม่ปลามันอยู่เลย ทำไมตอนนี้มันอึมครึมจัง
ในที่สุดแก้วก็ต้องส่งสายขอความคิดเห็นไปที่ท่านประธานหยางที่กำลังแพร่รังสีกดดัน
“เมื่อคืนพี่ว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ เรื่องการเรียกใช้คำแทนตัวพี่” หยางเทียงหลงพูดขึ้นที่ละคำเน้นๆชัดๆ พร้อมส่งรอยยิ้มเย็นออกมากดดันต่อ
“อะ...เอ่อ...คือ..ว่า” แก้วได้แต่พูดตะกุตะกะ ถึงแม้ท่านประธานหยางจะส่งรอยยิ้มเย็นที่ทำให้ใครเห็นเป็นต้องรู้สึกหนาวเย็นยะเยือก แต่กับแก้วที่เป็นคนฟังเธอกับรู้สึกร้อนรุมจนหน้าแดงด้วยความเขิน
“หือ???...” ท่านประธานหยางส่งเสียงข้องใจ
“คือว่า...”แก้วไม่รู้จะตอบอะไรพอมองไปที่หยกแล้วเธอก็คิดออก “แก้วเห็นหนกเรียกท่านประธานแก้วก็เลยคิดว่าเรียกตามจะดีกว่า” พูดจบแก้วก็หันหน้าไปมองหยกเพื่อของความช่วยเหลือ
หยกที่อยู่วงนอนอยู่ดีๆ อยู่ก็โดนลากไปลงน้ำด้วย เธอก็ได้แต่หนักใจ พูดอะไรไม่ถูก
“ต่อไปนี้ทั้งแก้วและหยกก็เรียกผมว่า...พี่เทียนหลง แบบนี้คงไม่มีปัญหาอะไรอีกใช่ไมแก้ว” หยางเทียงหลงพูดขึ้นที่ละคำเน้นๆชัดๆ พร้อมส่งรอยยิ้มเย็นออกมาพร้อมแพร่รังสีความกดดันมากขึ้นกว่าเดิม
“ค่ะ” แก้วรีบตอบรับ พร้อมพยักหน้าถี่รัว
“ค่ะ พี่เทียนหลง” เขาพูดทวนซ้ำแนะให้เธอพูดอีกครั้งด้วยดวงตาเขม่น
“ค่ะ พี่เทียนหลง” แก้วพูดทวนซ้ำด้วยดวงตาใบหน้าเขินแดง
“ ฮาฮะฮา ดีมากต่อไปก็อย่าลืมอีกนะ มาๆกินข้าวกันต่อ” หยางเทียนหลงพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี ใช้ตะเกียบในมือคีบส่งอาหารต่างๆให้แก้วพร้อมรอยยิ้ม
แก้วพอเห็นหยางเทียนหลงคีบอาหารให้ก็รีบกิน และคีบพวกอาหารจานที่อยู่ใกล้ๆตัวเองส่งให้หยางเทียงหลงกลับ
หยางเทียนหลงเห็นว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการก็กินข้าวไปยิ้มแย้มไปพร้อมกับพูดหยอกล้อแก้วเป็นพักๆ
ส่วนหยกที่อยู่รวมในเหตุการณ์ด้วยและโดยดึงเข้าไปสู้กลางดงก็ได้แต่กินอาหารกินไปช้าๆอย่างเหม่อลอย เพราะในใจไปพะวงเรื่องอื่น ‘ฮือๆ...นายท่านให้ข้าน้อยเรียกท่านแบบนั้นจะดีหรอ ข้าได้ฟังคำนี้แล้วอยากจะเป็นลม’
ความคิดเห็น