ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รอยรัก แดนมังกร

    ลำดับตอนที่ #7 : อาหารเช้าครบรส

    • อัปเดตล่าสุด 8 พ.ย. 55


    .
                 บนทางเดินโค้งรูปจันทร์เสี้ยวข้ามธารน้ำ  ได้ปรากฏหญิงสาว 3 คนที่กำลังเดินทางมุ่งหน้าไปสู้เก๋งจีนแบบโบราณที่ตั้งอยู่กลางสระน้ำ  สาวรูปร่างเล็ก 1 คนเดินนำ  สาว 2 คน  ที่มีรูปร่างเพรียวบางและอีกหนึ่งนางมีรูปร่างอวบอ้วน  ตลอดเส้นทางสองฝากฝั่งดอกบัวหลากสีแข่งกันเบ่งบาน  มวลผีเสื้อบินว่อน  สร้างความชื่นบานให้แก่คนที่พบเห็น  ทำให้สองสาวที่เดินตามหลังส่งเสียงพูดคุยถึงทัศนียภาพอันงดงามนี้ตลอดเส้นทาง  จนลืมจุดประสงค์ที่เดินทางมา

                    “คุณหนูถึงแล้วค่ะ เชิญด้านในเลยค่ะ” หญิงสาวรูปร่างเล็กผู้เดินนำกล่าวขึ้น  พร้อมโค้งหลังให้เล็กน้อย  แสดงท่าทางเชื่อเชิญทั้งสองสาวเข้าสู่ข้างใน  และใช้หนึ่งมือยกผ้าม่านขึ้นอย่างอ่อนชด 

                    สิ่งที่ปรากฏสู่สายตาของทั้งสามสาวคือบุรุษหนุ่มหล่อเหลาคมเข้มผิวสีขาวเนื้อละเอียด  ริมฝีปากประดับรอยยิ้มที่เหมือนทอแสงแข่งกับพระอาทิตย์ยามเช้า  เล่นทำเอาสาวสองคนอยากยกมือขึ้นมาปิดตาบังแสงสว่างนี้เหลือเกิน  ส่วนอีกหนึ่งสาวรูปร่างอวบอ้วนสายตาเธอตอนนี้กำลังจดจ่ออยู่ที่อาหารตรงหน้า  จนไม่ได้สนใจแสงเรืองรองที่แพร่มาจากชายหนุ่มตรงหน้าเลยสักนิด    เล่นเอาชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่าตนนั้นพ่ายแพ้ให้แก่อาหารซะแล้ว

                    หญิงสาวที่ไม่รู้ความในใจชายหนุ่มก็ดึงมือเพื่อนใหม่เข้าไปนั่งอย่างรวดเร็ว  “กินข้าวกันเลยไมค่ะ”แก้วพดขึ้นด้วยเสียงร่าเริงพร้อมรอยยิ้ม

                    “เชิญ” ชายหนุ่มกล่าวขึ้นอย่างอารมณ์ดี  แต่แววตากลับมีความลึกลับเกินคาดเดาเกิดขึ้น

                    แก้วผู้ไม่ได้สนจะมองหน้าตาใครสักเท่าไร  เพราะตอนนี้ในสายตาเธอมีแต่อาหารและอาหารเลยทำให้ไม่ทันได้มองเห็นสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้น  เมื่อได้รับคำตอบให้กินเธอก็ลงมือกิน  มือขวาถือตะเกียบคีบนั้นคีบนี้กิน มือซ้ายถือช้อนซดน้ำแกงโดยไม่ได้มองรอบข้างเลยซักนิด 

                    หญิงสาวสองคนที่มองเห็นสายตาลึกลับเกินคาดเดาของชายหนุ่ม  ล้วนไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย ทั้งสองคนกลัวว่าถ้าทำอะไรลงไปอาจจะทำให้ท่านประธานหยางเจ้านายคนเดียวของพวกเธอเกิดความไม่พอใจขึ้นแน่

                    “หยกทำไมไม่กินอ่ะ” แก้วเงยหน้าขึ้นมองหยกและถามขึ้นด้วยเสียงมึนงง   ที่หลังจากเธอลงมือกินไปได้สักพักแล้วไม่เห็นคนอื่นลงมือกินเลย  แล้วสายตาเธอก็มองไปที่ท่านประธานและกลับมาที่หยก

                    “เอ่อ...หรือว่าประเพณีของจีนต้องมีการสวดอะไรซักอย่างก่อนกินรึป่าวค่ะ”

                    ทั้งสามคนมองหน้าเธอด้วยความข้องใจ  เธอเลยกล่าวเสริม

                    “แบบประเทศไทยก็จะมีใครเด็กในโรงเรียนพูดว่า  ข้าวทุกจานอาหารทุกอย่างอย่ากินทิ้งขว้างแบบนี้นะค่ะ”เธอกล่าวไปพร้อมกับยกมือขึ้นประกอบท่าทาง  สิ่งที่แก้วทำ  ทำให้เรียกเสียงหัวเราะจากทั้งสองคนรอบข้าง

                    555 --> เสียงท่านประธานหยางที่หัวเราะอย่างจริงใจไม่ปิดบัง

                    อิอิ  --> เสียงหัวเราะของหยกที่ร่าเริงสดใส

                    อุอุ  --> เสียงหัวเราะของเด็กรับใช้ ที่พยายามกลั้นเสียงหัวเราะ

                    “ที่ประเทศจีนก็มีคำพูดก่อนกินนะ  แต่ไม่ได้ยาวแบบที่ประเทศไทย” หยางเทียงหลงพูดยิ้ม “อีกอย่างพี่ก็ไม่ได้คนมากพิธีรีตองขนาดนั้น ถ้าจะกินก็กินเลยไม่จำเป็นต้องพูดอะไรนะ”

                    “แล้วทำไมทุกคนถึงยังไม่ลงมือกินอีกค่ะ” แก้วถามขึ้นด้วยความมึนงง 

                    อีกสองสาวเงียบไม่มีใครตอบคำถามไม่ใช่เพราะไม่รู้จะตอบอะไร  แต่ด้วยเพราะความตกใจ  ที่เมื่อกี้นายท่านของพวกเธอแทนตัวเองว่า พี่

                    “ที่ประเทศจีนปกติคนที่เข้ามาอยู่บ้านใหม่และได้รวมทานอาหารกับเจ้าของบ้านจะไม่ลงมือกินก่อนนะ  และต้องกินไปพร้อมกับคีบอาหารให้เจ้าของบ้าน”  ท่านประธานเว้นวรรคไปแปปหนึ่งเหมือนคิดอะไรออกและต่อด้วยประโยค “แถมบ้างบ้านมีกฎเคร่งครัดจะไม่กินอาหาร  ที่ไม่ใช่ของที่เจ้าของบ้านคีบไปด้วยนะ”

                      คำพูดประโยคเดียวกันนี้ทำให้หญิงสาวทั้งสามคนที่อยู่รวมเหตุการณ์ต่างมีความคิดแยกแตกออกไปคนละแบบ  แต่ก็มีความคิดหนึ่งที่ตรงกับสิ่งที่หยางเทียนหลงคิด

                    เอ๋  มีประเพณีแปลกๆแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไร  ปกติมีแต่ภรรยาคีบหรือตักอาหารให้สามีนี้น่าความคิดของสาวใช้ร่างเล็กที่เดินนำทางมา

                    อิอิ  นายท่านพึ่งจะเจอหน้ากันก็คิดจะใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากันแล้วหรอค่ะความคิดของหยก

                    ตายละเรา...ทำอะไรเปิ่นๆไปอีกหละ ต้องรีบหาทางแก้ตัวก่อน’ ความคิดของแก้ว

                    “ขอโทษด้วยนะค่ะ  แก้วไม่รู้ประเพณีจีน  เลยทำอะไรแปลกๆไป  เดียวแก้วคีบอาหารให้นะค่ะ” แก้วพูดขึ้นพร้อมกับคีบอาหารให้หยางเทียงหลง  และนั่งดูหยางเทียนว่าจะกินไม 

                    หยางเทียนหลงยกมุมปากขึ้นเป็นรอยยิ้มที่ดูน่าหลงใหล  มือจับตะเกียบขึ้นคีบอาหารที่แก้วคีบให้ด้วยทวงท่าสง่างามพร้อมกับใช้สายตาหวานส่งไปให้แก้วด้วยขณะกิน

                    แก้วที่ได้รับสายตาหวานก็รีบก้มหน้า  ได้แต่คิดอัดอัดในใจ  ท่านประธานจะกินก็กินเลยค่ะ ไม่ต้องส่งสายตาแปลกๆมาให้แก้วก็ได้นะค่ะ เห็นแล้วมันรู้สึกแปลกๆ มันร้อนๆรุมๆ ใจเต้นแรงเหมือนมีใครมีตีกลองอยู่ในใจเลยนะ

                    “อร่อยมาก” ท่านประธานหยางพูดขึ้นโดยที่สายตาหวานจดจ่ออยู่ที่แก้ว  และยกมือขึ้นคีบเนื้อหมูทอดอบน้ำผึ้งให้แก้ว “ลองกินเนื้อหมูนี้ดู...รสหวาน้องแก้วน่าจะชอบ”

                    “ขอบคุณค่ะ ท่านประธาน” แก้วพูดขึ้นและรีบคีบอาหารใส่ปากด้วยความรวดเร็ว  เมื่อกลืนเนื้อหมูลงท้องเสร็จเธอก็เงยหน้าขึ้นมาบอก “อร่อยมากค่ะ ท่านประธาน”

                    .....

                    ไม่มีเสียงตอบรับ  และรู้สึกหน้าท่านประธานจะไม่มีรอยยิ้มชวนอึดอัดนั้นแล้ว  แต่ได้เปลี่ยนเป็นใบหน้าที่นิ่ง ดูกดดัน  หรือเธอจะทำอะไรผิด  แต่เธอก็ปฏิบัติตามประเพณีทุกอย่างแล้วนะแก้วได้แต่แอบคิดในใจเมื่อเห็นบรรยากาศที่เปลี่ยนไป

                    สาวสองนางที่อยู่ในเก๋งจีนด้วย  ถึงแม้เหมือนพวกเธอจะโดนลืม  แต่พวกเธอก็สัมผัสได้ถึงบรรยายการที่ดูตรึงเครียดที่เจ้าหน้าเธอปล่อยออกมาได้

                    “เอ่อ...แก้วทำอะไรผิดไปอีกรึป่าวค่ะ” ในที่สุดแก้วก็ทนต่อบรรยากาศก็ถามขึ้นมาด้วยน้ำเสียงอ่อยๆพร้อมกับหันหน้าไปมองหยกขอความคิดเห็น    

                    หยกทำได้แต่ส่ายหน้า  เพราะเธอก็ไม่เข้าใจเหมือนกันเมื่อกี้...บรรยากาศยังเหมือนคู่ข้าวใหม่ปลามันอยู่เลย  ทำไมตอนนี้มันอึมครึมจัง

                    ในที่สุดแก้วก็ต้องส่งสายขอความคิดเห็นไปที่ท่านประธานหยางที่กำลังแพร่รังสีกดดัน  

                    “เมื่อคืนพี่ว่าเราคุยกันรู้เรื่องแล้วนะ  เรื่องการเรียกใช้คำแทนตัวพี่” หยางเทียงหลงพูดขึ้นที่ละคำเน้นๆชัดๆ พร้อมส่งรอยยิ้มเย็นออกมากดดันต่อ

                    อะ...เอ่อ...คือ..ว่า” แก้วได้แต่พูดตะกุตะกะ ถึงแม้ท่านประธานหยางจะส่งรอยยิ้มเย็นที่ทำให้ใครเห็นเป็นต้องรู้สึกหนาวเย็นยะเยือก  แต่กับแก้วที่เป็นคนฟังเธอกับรู้สึกร้อนรุมจนหน้าแดงด้วยความเขิน

                    “หือ???...” ท่านประธานหยางส่งเสียงข้องใจ

                    “คือว่า...”แก้วไม่รู้จะตอบอะไรพอมองไปที่หยกแล้วเธอก็คิดออก “แก้วเห็นหนกเรียกท่านประธานแก้วก็เลยคิดว่าเรียกตามจะดีกว่า” พูดจบแก้วก็หันหน้าไปมองหยกเพื่อของความช่วยเหลือ

                    หยกที่อยู่วงนอนอยู่ดีๆ อยู่ก็โดนลากไปลงน้ำด้วย  เธอก็ได้แต่หนักใจ  พูดอะไรไม่ถูก

                    “ต่อไปนี้ทั้งแก้วและหยกก็เรียกผมว่า...พี่เทียนหลง  แบบนี้คงไม่มีปัญหาอะไรอีกใช่ไมแก้ว” หยางเทียงหลงพูดขึ้นที่ละคำเน้นๆชัดๆ พร้อมส่งรอยยิ้มเย็นออกมาพร้อมแพร่รังสีความกดดันมากขึ้นกว่าเดิม

                    “ค่ะ” แก้วรีบตอบรับ พร้อมพยักหน้าถี่รัว

                    “ค่ะ พี่เทียนหลง” เขาพูดทวนซ้ำแนะให้เธอพูดอีกครั้งด้วยดวงตาเขม่น

                    “ค่ะ พี่เทียนหลง” แก้วพูดทวนซ้ำด้วยดวงตาใบหน้าเขินแดง

                    “ ฮาฮะฮา  ดีมากต่อไปก็อย่าลืมอีกนะ  มาๆกินข้าวกันต่อ” หยางเทียนหลงพูดขึ้นมาอย่างอารมณ์ดี  ใช้ตะเกียบในมือคีบส่งอาหารต่างๆให้แก้วพร้อมรอยยิ้ม

                    แก้วพอเห็นหยางเทียนหลงคีบอาหารให้ก็รีบกิน  และคีบพวกอาหารจานที่อยู่ใกล้ๆตัวเองส่งให้หยางเทียงหลงกลับ 

                    หยางเทียนหลงเห็นว่าทุกอย่างเป็นไปตามที่ตัวเองต้องการก็กินข้าวไปยิ้มแย้มไปพร้อมกับพูดหยอกล้อแก้วเป็นพักๆ

                    ส่วนหยกที่อยู่รวมในเหตุการณ์ด้วยและโดยดึงเข้าไปสู้กลางดงก็ได้แต่กินอาหารกินไปช้าๆอย่างเหม่อลอย เพราะในใจไปพะวงเรื่องอื่น  ฮือๆ...นายท่านให้ข้าน้อยเรียกท่านแบบนั้นจะดีหรอ  ข้าได้ฟังคำนี้แล้วอยากจะเป็นลม

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×