ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รอยรัก แดนมังกร

    ลำดับตอนที่ #3 : สิ้นสุดงานเลี้ยง เริ่มต้นเรื่องวุ่นวาย

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.พ. 58


    .
                  ภายในห้องจัดเลี้ยงที่ใหญ่เท่าบ้านขนาดกลาง 1 หลัง มีการจัดตกแต่งห้องด้วยดอกไม้หลากหลายชนิดซึ่งน่าจะทำให้มีบรรยายากาศที่ดูสดใสอ่อนหวาน  แต่ตอนนี้ภายในห้องกลับเต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน  มีแต่เสียงพุดคุยซุบซิบกันเต็มไปหมด  ถึงแม้จะพยายามบีบเสียงให้เบาที่สุด  แต่เมื่อหลายคนพูดพร้อมๆกันจากเสียงเบาก็กลายเป็นเสียงดังที่อู้อี๊ฟังไม่รู้เรื่อง  ต้นเหตุของเรื่อง   คนแรกเป็นผู้หญิงในชุดจีนโปราณสีฟ้าปักรายนก  ยืนนิ่งด้วยความมึนงง  อ้าปากค้าง  ต้นเหตุอีกคนผู้ชายในชุดจีนสีขาว  มีเพียงรอยยิ้มน้อยๆประดับไว้ที่มุมปาก  ทำตัวราวสุภาพบุรุษที่เป็นเพียงคนชมละครเท่านั้น  แต่ถ้าหากมองไปในดวงตาจะรู้ว่าเขากำลังมีความสุขสุดๆ  ดวงตาของเขามีประกายรอยยิ้มอยู่เต็มเปี่ยมที่ยากจะเห็นได้

                    “ หือ..เธอว่าไงนะ” หญิงสาวในชุดสาวรับใช้จีนสีชมพูถามเพื่อนข้างๆครั้งที่เท่าไรไม่รู้  เนื่องจากภายในห้องมีแต่เสียงอู้อี้เต็มไปหมดทำให้ฟังไม่รู้เรื่องซะที

                    “คุณชายยิ้มด้วยเธอ  หล่อขาดใจมาก” สาวรับใช้ใส่ชุดจีนสีชมพูอีกคนพูดขึ้นด้วยอาการขัดใจ เธอเริ่มรำคาญเนื่องจากพูดไปตั้งหลายครั้งเพื่อนก็ยังไม่ได้ยิน  จึ่งเพิ่มความดังขึ้นอีกนิ๊ดในความคิดเธอ  กะให้เพื่อนสาวข้างๆได้ยินซะที  แต่คนอื่นกลับไม่คิดแบบนั้น  เพราะเสียงที่เธอพูดขึ้นมาดังจนกลบเสียงทุกคนหมดเลย  ซึ่งเสียงนี้ก็ไปเข้าหูสองคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องด้วยพอดี

                    ต้นเหตุทั้งสองคนหันไปดูต้นเสียงและมองสภาพภายในห้องก็รู้สึกตัวว่าอยู่ที่ไหนและมีใครอยู่บ้าง  และทำให้คนอื่นตกใจแค่ไหน   หยางเทียนหลงเป็นคนแรกที่รู้สึกตัว  และจัดการปัญหาเรื่องนี้   โดยออกคำสั่ง ยุติงานเลี้ยงและให้ทุกคนเก็บข้าวของให้หมด  ส่วนตัวเขาเมื่อสั่งเสร็จก็จูงมือแก้วออกไปจากห้องด้วยทวงท่าสง่าผ่าเผย  ไม่ได้มีความร้อนรน  ตื่นเต้น  มึนงง  เหมือนที่แก้วกำลังเป็นเลย  แก้วรีบเดินติดตามไปอย่ากระชั้นชิดเพื่อไปท้วงคำตอบจากเขา

                    ทั้งสองคนเดินตามทางเดินที่แขวนโคมไฟประดับประดาละลานตา  อากาศเริ่มหนาวแสงไฟจากโคมไฟช่วยส่องให้เห็นว่ามีหมอกล่องรอยมายมาย  ถ้าเป็นในยามปกติแก้วคงจะนอนดูบรรยายกาศแบบนี้แล้วเผลอหลับไปด้วยความสูขกาย สบายใจ  แต่ตอนนี้ดันมีเรื่องวุ่นวายและคนหนึ่งคนที่รบกวนจิตใจเธออยู่ทำให้เธอไม่ได้แม้แต่จะสนใจบรรยากาศ  เพราะในหัวที่กำลังสับสนวุ่นวายอย่างหนัก

                    “ท่านประธานหยุดเดินได้แล้วค่ะ” แก้วพูดขึ้นด้วยเสียงหนักแน่น  พร้อมดึงมือหยางเทียนหลงด้วยเรียวแรงทั้งหมดที่มี  จนทำให้อีกฝ่ายต้องหยุดเดินและหันกลับมามองด้วยรอยยิ้ม 

                    “ท่านทำอะไรกับฉันค่ะ”  แก้วถามคำถามที่รบกวนจิตใจเธออยู่อีกครั้ง  ด้วยสายตาที่มุ่งมั่นว่าต้องการให้คนตรงหน้าตอบความจริง

                    “เรื่องนี้ผมตอบแก้วไปแล้วนะ” เขาตอบอย่างไม่ใสใจหนัก 

                    “ท่านจะให้แก้วเชื่อว่าคุณดึงความรู้ทางด้านภาษาเมื่อชาติก่อนของแก้วกลับมาหรอค่ะ” แก้วตามอีกครั้งด้วยสายตาที่เริ่มจะไม่เป็นมิตร  เริ่มหวาดระแวงคนตรงหน้า

                    “ผมพูดความจริง แก้วจะเชื่อหรือไมก็ตามใจ” เขาพูดกลับแก้วด้วยสายตาที่จริงจัง  ซึ่งมันเป็นการบีบให้เธอต้องรู้สึกอึดอัดกับความจริงตรงหน้า 

                    “คุณทำได้ไง แล้วทำไมคุณถึงทำแบบนี้” แก้วถามด้วยน้ำเสียงต่ำเพื่อคาดคั้นคำตอบ

                    “คำถามเยอะจังนะครับ  ผมใช้คาถาที่อ่านเจอในหนังสือร่ายมนต์ดึงความรู้ภาษาจีนในอดีตชาติของน้องแก้วออกมา  แต่ไม่ใช่จะทำได้กลับทุกคนนะ  เรื่องนี้ทำได้แค่คนที่เมื่อชาติก่อนเป็นคนจีน"  เทียนหลงหยุดพูด  แล้วจ้องมองแก้วด้วยดวงตาที่สื่อความหมายลึกซึ้ง  แล้วพูดต่อว่า   "แล้วก็ใช้ว่าทุกคนจะร่ายมนต์และได้ผลสำเร็จเหมือนผม   ผมเห็นแก้วพูดภาษาจีนไม่ได้   ฟังไม่ออก  ทั้งที่อยู่ประเทศจีนแท้ๆ แบบนี้ต่อไปจะใช้ชีวิตลำบาก  ผมก็เลยอยากจะช่วยแก้วเท่านั้น โชคดีที่แก้วเจอผมนะ ”  หยางเทียนหลงพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง  แถมยังพูดแบบให้ผู้ฟังคิดว่าเขาช่างเป็นดี  มีจิตใจอารี  ชอบช่วยเหลือผู้อื่นไปซะงั้น  และดวงตาเขากลับเป็นประการความสูข  มีบ้างประโยคที่เขาไม่ได้พูดออกไป  ได้แต่คิดและเก็บได้ในใจ    โชคดีที่ข้าได้เจอมนต์นี้  โชคดีข้าที่ได้เจอเจ้า  โชคดีที่ข้าฝึกร่ายมนต์จนสำเร็จ

             “ ขอบคุณที่ช่วยเหลือนะค่ะ” แก้วตอบไปด้วยความมึนงงในข้อมูล  และความเหลือเชื่อ  แต่ความจริงที่เขาทำให้เธอใช้ชีวิตในประเทศจีนด้วยความสะดวกทางด้านภาษาก็เป็นเรื่องจริง  ถ้าไม่ได้เขาช่วยไว้เธอก็ต้องนั่งบื่ออีกเป็นเดือนกว่าจะเรียนรู้คำที่จำเป็นได้หมด  ครั้งนี้นอกจากขอบคุณเธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้อีก  แต่เรื่องที่เขาทำได้ยังไงนี้เธอก็ยังอยากรู้อยู่นะ 

                    “ไม่ทราบว่าท่านประธาน  ทำไงถึงสามารถร่ายมนต์แล้วได้ค่ะ”

                    “ มันเป็นความลับของตระกูลนะ  ผมไม่ขอพูดดีกว่า” หยางเทียนหลงตอบพร้อมรอยยิ้มที่ลึกลับ  แล้วพูดเปลี่ยนเรื่อง  เบี่ยงเบนความสนใจ “ผมรู้สึกไม่ชอบคำที่แก้วใช้เรียกแทนตัวผมเลยนะ  ตอนนี้เราสองคนอยู่บ้านเดียวกัน  ก็เหมือนเราเป็นคนครอบครัวเดียวกันแล้ว  ผมว่าแก้วเรียกผมว่าพี่เทียงหลงดีกว่า  ส่วนผมก็จะเรียกแก้วว่าน้องแก้ว  เพราะผมอายุมากกว่า  แก้วคิดว่าแบบนี้ดีกว่าไม” ท่านประธานหยางเทียงหลงพูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาบีบบังคับให้แก้วได้แต่ต้องรับปาก

                    “ คะ...ค่ะ” แก้วตอบไปด้วยอาการงุนงง  ผู้ชายอะไรอารมณ์เปลี่ยนแปลกตลอดเวลา  เธอตามเกือบไม่ทัน  แล้วอะไรไอ้สายตาที่ส่งมาเนี้ย  ทั้งบีบบังคับ  ทั้งดูเว้าวอน ออดอ้อน แบบนี้เธอก็แพ้ราบคราบนะชิ   ถ้าเขาแค่ส่งสายตาบีบบังคับเธอยังจะรู้สึกอยากดื้อสู้กว่านี้นะ  แล้วอาร่ายก้านคำว่าครบครัวเดียวกันนะ  พูดแบบนี้เธอคิดลึกนะ

                    “ค่ะ พี่เทียนหลง” เขาพูดซ้ำ  แนะให้เธอพูดใหม่อีกครั้งพร้อมส่งสายตา

                    “ค่ะ  พี่เทียนหลง” แก้วพูดเสียงแผ่วเบาด้วยความเขินอาย  สายตาหวานเยิ้มของเขาแบบนี้โหดร้ายมาก  สายตาที่ไม่ว่าจะเด็ก สาว หนุ่ม แก่  ถ้าใครได้เจอเข้าคงต้องยอมทำตามความปรารถนาของเขาทุกอย่างแน่นๆ  ดวงตาคู่นั้นน่ากลัวจริงๆ โหดร้ายมาก  เล่นทำให้เธอหายใจติดขัด  หัวใจเต้นแรง  เกิดอาการหื่นอยากเข้าไปกอดไปหอมไปจูบ กดลงเตียง เหอๆๆ....ประโยคสุดท้ายม่ายช่ายน๊าแค่เผอลคิดไปแว๊ปเดียว  ม่ายตั้งใจแค่คิดเล่นๆ   

                    “เดียวพี่เดินไปส่งน้องแก้วที่ห้องพักนะ  เพราะน้องคงกลับไปห้องไม่ถูกแน่เลย”  หยางเทียนหลงพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นิดๆ  แล้วก็จับมือแก้ว  พร้อมกับจูงพาเดินไปตามถนนที่มีบรรยากาศที่ชวนให้แก้วได้แต่แอบใจเต้นตึกตัก 

                    แก้วทั้งที่คิดจะปฏิเสธความหวังดีของเขาแต่เจอเขาทั้งพูดดักทาง  พร้อมทั้งจับมัดมือชกแบบนี้ก็ได้แต่ปล่อยตัวปล่อยใจเลยตามเลยเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่น่าหลงไหล  และมือที่แสนอบอุ่นของชายหนุ่มข้างๆ

                   
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×