คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : โทรศัพจากแดนไกล ! ชุดวอร์ม?
.
ในขณะที่หยางเทียนหลงและเหม่ยหลินทั้ง 2 คนกำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องลับ เจ้าตัวที่โดยพูดถึง ไม่ได้รู้เรื่องราวอะไร ก็กำลังนั่งหน้าแดงอยู่ในห้องนอนคนเดียว ดวงตาเหม่อลอยไปไกล หวนคิดคำนึงไปถึงเรื่องเมื่อไม่ถึงชั่วโมงก่อนหน้านี้ หยางเทียนหลงเดินจูงมือเธอมาส่งถึงห้อง ระหว่างเดินทางเขาชวนเธอคุยเรื่องนั้นเรื่องนี้ พูดไปยิ้มไปพร้อมกันกับเธอ ทำให้เธอรู้สึกเหมือนเพื่อนสนิทที่ไม่ได้เจอกันมานานมีเรื่องให้พูดคุยมากมาย เมื่อมาส่งแก้วถึงห้องก่อนที่ทั้ง 2 คนจะแยกกัน เขายังพูดแหย่เธอจนทำให้เธอยิ้มขำเขา "อยากได้จูบราตรีสวัสก่อนไมครับสาวน้อย" คำพูดพวกนี้มันทำให้เธอรู้สึกขำมากกว่าอาย เพราะเธอรู้เขาก็แค่แหย่เธอเล่นๆ เหมือนเพื่อนแหย่เพื่อน
ทั้งที่เขาจากไปแล้วแต่ความรู้สึกอบอุ่นในใจ มันก็ยังเอ่อล้นขึ้นมาไม่หยุด ทำให้เธอรู้สึกมีความสุขมากจนเกินบรรยาย ทั้งที่พึ่งเจอกันวันแรกแต่ความเธอกับรู้สึกว่ารู้จักเขามานาน ซึ่งเรื่องนี้ก็สร้างความมึนงงให้เธอมาก ปกติเธอจะไม่ใช่คนที่รู้สึกสนิทใจกับคนอื่นง่ายๆ ถึงเธอจะเป็นคนที่เข้ากับคนอื่นได้ง่าย แต่เธอก็ไม่ค่อยไว้ใจใครง่ายเท่าไร แต่กับหยางเทียนหลงเขาทำให้แก้วไว้วางใจได้อย่างรวดเร็ว เพียงแค่คืนเดียว ไม่ใช่ความหล่อของเขาที่ทำให้เธอหน้ามืดตามัวยอมวางใจ แต่มันเป็นอะไรที่ซับซ้อนกว่านั้น ความรู้สึกวางใจมันเกิดขึ้นเองโดนที่เธอก็ไม่รู้ตัว มันเป็นความรู้สึกของคนคุ้นเคยกันมีความสนิทกัน
“ตือ ต่อ ติง ติ้ง” เสียงเมโลดี้เรียกเข้าโทรศัพท์ดังขึ้นซึ่งเป็นการขัดจังหวะความคิดของแก้ว เธอตกใจรีบคว้าโทรศัพท์ขึ้นมาดู พอเห็นว่าเป็นใครก็ยิ้มกว้างออกมา
“ ฮัลโหล ” แก้วพูดด้วยเสียงร่าเริงพร้อมรอยยิ้ม แต่ยังไม่ทันที่เธอจะพูดอะไรต่อคนปลายสายก็พูดบ่นตัดพูดของเธอ
“ถึงพี่จะบอกให้แกโทรมาเวลาจำเป็นก็เถอะนะ แต่นี้แกไปถึงที่นั้นวันแรกก็ก็จะไม่โทรมารายงานความเป็นอยู่กับครอบครัวเลยหรอ แกจะทำเกินไปแล้วนะ”
“ขอโทษค่ะ พี่มณี พอดีหนูมาถึงทางนี้ ก็เจอเรื่องก็ยุ่งๆเยอะเลยค่ะ”
“หือ...??? ตม. เขาไม่ให้แกเขาประเทศเพราะคิดว่าเป็นเขมรไร้สัญชาติหรอ” พี่พลอยพูดแทรกเข้ามาทางโทรศัพท์
“ไม่ใช่ค่ะ ฮึ” แก้วปฏิเสธแบบไม่พอใจ
“ แล้วเจอเรื่องอะไรที่ยุ่งๆหรอลูกแก้ว” แม่ถามขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง
สงสัยพี่มณีจะเปิดลำโพงให้ทุกคนได้ยินแน่เลย นี้กะเสียงเงินครั้งเดียวเอาให้คุ้มทั้งบ้านเลยใช่ไม่ค่ะ พี่สาว ยังคง...งกสมเป็นพี่สาวเราอยู่เสมอ
“ จะมีอะไรค่ะแม่ ก็คงเก็บของเข้าตู้พร้อมๆกับไปทำตัวเซ่อซ่าอะไรอีกนั้นหละ แล้วตอนนี้แก่อยู่เมืองไหน เจ้าของบ้านเป็นใคร เขาดีกับแกไม” พี่พลอยแรกๆพูดแซ่ว แต่หลังๆก็เริ่มถามด้วยความเป็นห่วง
“หนูไม่ได้ทำตัวเซ่อซ่านะ ก็แค่.....เอ่อ ไม่มีไรค่ะ ตอนนี้อยู่ปักกิ่งค่ะ อยู่บ้านของท่านประธานหยาง”
“เขาพาพวกแกไปเลี้ยงต้อนรับที่บ้านท่านประธานก่อนหรอ แล้วค่อยพาไปส่งแยกย้ายตามบ้าน” พี่มณีคาดเดาสถานการณ์
“ไม่ค่ะ พอดีหนูกับเพื่อนอีกคนได้มาอยู่อยู่ท่านประธานนะค่ะ”
“ เขาเอาอะไรวัดนะ ถึงได้ให้เด็กเชยๆอย่างแกไปอยู่ด้วยนะ” พี่พลอยพูดหยอกล้อขึ้นด้วยเสียงร่าเรีง “ หรือว่าเขาใช่ตลับเมตรวัดนะ แบบว่าวัดหาคนที่เตี้ยที่สุด หรือเขาใช่กิโลวัดนะหาคนที่หนักที่สุด อิอิ ^^ ”
“ พอๆหยุดล้อน้องได้แล้ว แก้วถึงแก้วจะไม่ได้สวยแบบนางเอก ไม่ได้เซ็กซี่แบบโคโยตี แต่แก้วก็มีจิตใจที่ดีงามนะ คนเรานะถ้าจะงามตั้งงามจากข้างใน งามที่ภายนอกนะ อยู่ได้ไม่กี่ปีก็โรยรา” พี่มณีพูดเตื่อนสติขึ้น ด้วยเสียงที่จริงจังและจริงใจ
คำคมสอนใจของพี่มณีเล่นทำให้เธอสะอึก ใช่หละคนสวยแกไปก็เหี่ยวเหมือนกันนั้นหละ แต่พี่มณีพูดแบบนี้ก็ยอมรับเป็นนัยๆซินะว่าเธอไม่สวย เฮอ..เรื่องนี้เธอก็รู้ดีมานานหละนะ แต่เธอก็น่ารักนะ
“หนูรู้น่าหนูเข้าใจค่ะพี่มณี หนูไม่สวย แต่หนูก็น่ารักนะ คนสวยนะมองนานๆก็น่าเบื่อไม่เหมือนคนน่ารักที่ยิ่งมองก็ยิ่งหลงรัก แต่ความน่ารักต้องเกิดจากการทำความดี ต้องน่ารักมาจากใจ ไม่ได้เสแสร่งแกล้งทำ อิอิ ใช่ไมค่ะ”
“ แกรู้ก็ดีหละ ไปอยู่บ้านเขาก็ทำตัวให้เขารัก อย่าไปทำให้เขาเกียดไม่งั้นจะอยู่กันด้วยความอึดอัด ไม่สบายใจกันทั้ง 2 ฝ่ายนะ”
“ค่ะ พี่มณี”
“ลูกอยู่ทางนั้นก็ดูแลตัวเองให้ดีๆ ตอนนี้ที่นั้นคงเป็นหน้าหนาวเดียวคงมีหิมะตก เราต้องดูแลตัวเองให้ดีๆอย่าให้เป็นไข้นะ”
“ค่ะ แม่ หนูเตรียมยามาไว้กินป้องกันแล้วค่ะ ^^ ”
“ ใส่เสื้อผ้าให้หนาๆนะ ห่อผ้าเยอะๆด้วย กินผักมากๆด้วยจะได้ไปสร้างภูมิต้านทาน อย่ากินแต่เนื้อหละ เดียวจะอ้วนมากขึ้น” พี่พลอยเตือนไปด้วยพร้อมกับหยอกล้อไปด้วยตามสไตล์
“ อ้วนๆนะดีค่ะ จะได้มีชั้นไขมันไว้ป้องกันความหนาวไงค่ะ พี่พลอย อิอิ”
“ตามใจแก ถ้าแกอยากอ้วนแบบนี้ต่อไปก็ไม่มีใครห้ามแกได้ สงสัยต้องมีแฟนสักคนถึงจะผอมหละนะ”
“อย่าแนะนำอะไรน้องผิดๆ คนเราถ้าจะสวยจะผอมต้องทำเพื่อตัวเอง ไม่ใช่อยากสวยเพื่อคนอื่น ถ้าใครจะรักก็ต้องรักเราที่เป็นเรา” พ่อที่ปกติเป็นคนพูดน้อยๆ ก็อดที่จะเตือนสติลูกๆไม่ได้
“ค่ะพ่อ” ทั้ง 2 พี่น้องรีบค้านรับ น้อมนำคำสั่งสอนไปใช้
“ตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว ไปนอนได้แล้ว ยิ่งเหนื่อยๆจากการเดินทาง ถ้าพักผ่อนน้อยเดียวก็ป่วย”
“ค่ะ พี่มณี”
“งั้นวันนี้แค่นี้นะ ไว้คุยกันใหม่วันหน้า ฝันดีจ้า”
“ฝันดีค่ะ พี่มณี พ่อ แม่ พี่พลอย บายๆค่ะ”
“จ๊ะ” ตี๊ดๆ เสียงสัญญาณตัดดังการโทรดังขึ้น และปลายสายก็เงียบไป
พี่มณีทำมาพูดให้เรารีบไปพักผ่อน พูดมีเหตุผลและหลักการจนน่าฟังจริงๆ แต่หนูรู้นะว่าพี่นะเห็นว่าคุยมานานหละ เปลืองตัง เลยรีบไล่ให้ไปนอนจะได้ตัดสายใช่ไมค่ะ ความงกของพี่สาวยังคงเส้นคงวาเสอมเลยนะค่ะ หนูหละนับถือพี่แบบสาวสุดใจเลยค่ะ
ก๊อกๆ... เสียงเคาะประตุดังขึ้นปลุกแก้วจากภวังค์
“แก้ว...หยกเองนะจ๊ะ” เหม่ยหลินกล่าวขึ้น ด้วยน้ำเสียงหวานใส ร่าเริง ไม่มีอาการหอบ จากการวิ่งด้วยความเร็ว เหมือนที่ผ่านมาเธอเพียงแค่นั่งเล่นอยู่ห้องข้างๆไม่ได้ก้าวออกจากห้องมาก่อนสักก้าว
“หยกหรอ เข้ามาก่อนซิ” แก้วพูดตอบกลับด้วยเสียงผ่อนคลายอารมณ์ดี พร้อมกับลุกขึ้นก้าวเดินไปเปิดประตูเชื่อเชิญเหม่ยหลินเข้าห้อง
เมื่อเหม่ยหลิงเห็นแก้วถึงกับงงงวยตกตะลึง ไม่ใช่ตกกะลึงความสวยของแก้ว แต่เธองงงวยชุดที่แก้วใส จึงโพล่งถามไปอย่างลืมตัว
“แก้วกำลังจะไปออกกำลังกายหรอค่ะ” เมื่อถามออกไปเหม่ยหลิงถึงพึงรู้ตัวตอนนี้ก็ดึกมากแล้ว จะมีใครที่ไหนไปออกกำลังกายเธอก็ถามอะไรแปลกๆออกไปได้ แต่เธอก็อดถามไม่ได้ เพราะชุดที่แก้วใส่ มันคือเสื้อยืดคอกลม กางเกงวอร์ม มันชุดออกกำลังกายชัดๆ แบบนี้ถ้าไม่ได้คิดจะไปออกกำลังกายแล้วเขาคิดจะทำอะไรกัน
“เปล่าค่ะ แก้วไม่ได้ไปออกกำลังกายค่ะ” แก้วตอบด้วยเสียงขำๆกับท่าทางของเหม่ยหลิน
“เอ๋...” เหม่ยหลิงอุทานออกมาเสียงสูง
“เวลาแก้วนอนชอบใส่ชุดแบบนี้นะค่ะ ใส่แล้วสบายใจดี” แก้วตอบยิ้มๆ
แต่คนที่ได้ฟังคำตอบกลับตกตะลึงของคำตอบ แก้วเธอช่างแปลกมาก....แต่ไม่ว่าฟ้าจะถล่มดินจะทลายลงตรงหน้าเธอที่ถูกฝากฝังให้ดูแลแก้วจะต้องไม่หวั่นไหว ต้องสงบนิ่ง เธอฉีกยิ้มหวาน
“ อ๋อค่ะ” เหม่ยหลิงพูดขึ้นด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “ว่าแต่เวลานอนแก้วชอบใส่แต่กางเกงวอร์มหรอค่ะ อย่างพวกกางเกงขาวยาวที่ไม่ใส่กางเกงวอร์มแก้วใส่ไมค่ะ”
“ใส่ค่ะ ทำไมหรอค่ะ” แก้วถามขึ้นด้วยสีหน้างงๆ
“พอดีเหม่ยหลินมีพวกชุดนอนขายาวอยู่เยอะนะค่ะ แต่ไม่ค่อยได้ใส่นะค่ะ บ้างตัวซื้อมายังไม่ได้ใส่ก็มีค่ะ ว่าจะเอามาให้คุณแก้วใส่นอน เพราดูท่าน่าจะใส่นอนสบายกว่านะค่ะ”
“ขอบคุณนะหยก แต่ที่นี้อากาศหนาวแก้วว่า แก้วใส่แบบนี้ดีกว่านะ จะได้อุ่นๆ”
“ที่ห้องนี้มีฮีทเตอร์อยู่สามารถปรับอุณหภูมิห้องให้อุ่นกำลังดีได้ค่ะ”
“แต่ว่า...”
“คุณแก้วชุดที่หยกเอาให้ใหญ่พอดีตัวคุณแน่ค่ะ และอีกอย่างผ้าหนาด้วย คุณแก้วช่วยรับเอาไปหน่อยนะค่ะ” เหม่ยหลินพูดเสียงนิ่งๆ ไม่มีแววของความร่าเริงเลย
ถึงเหม่ยหลินจะพูดคำว่า คุณแก้วช่วยรับเอาไปหน่อยนะค่ะ คำพูดที่ดูเหมือนจะอ้อนวอน แต่แก้วที่เป็นคนฟังกลับคิดว่าช่างเป็นคำพูดข่มขู่ที่น่ากลัวเหลือเกิน ยิ่งสายตาที่เธอจ้องมามันทั้งจริงจัง ทั้งบังคับให้เธอทำได้เพียงแค่พยักหน้าตอบไป
“ดีมากค่ะ เดียวเหม่ยหลินไปหยิบมาให้นะค่ะ จะได้เปลี่ยนเลย” เหม่ยหลิงพูดด้วยเสียงร่าเริง ผิดกลับเมื่อกี้อย่างเห็นได้ชัด อย่างกับหน้ามือเป็นหลังมือ ทำจนแก้วงงมากว่าหยกเป็นอะไร แค่เธอใส่ชุดวอร์มนอนนี้มันผิดมากหรอ
เหม่อยหลินกำลังจะก้าวเดินไปก็ต้องหยุด เธอพึ่งจะคิดได้ ไอ้ที่บอกๆว่ามีๆเมื่อกี้นะ มันไม่มีเลยชักชุด สงสัยต้องออกไปหาซื้อชุดใหม่ให้แก้วหละนะ แต่เธออกไปกว่าจะกลับมาก็นาน ถ้าปล่อยให้แก้วคอยนานๆ เดียวแก้วจะสงสัยได้ว่าที่เธอพูดนะโกหก แต่จะให้แก้วใส่ชุดนี้นอนเธอยอมไม่ได้ เอาไงดี แต่แค่คืนเดียวคงไม่เป็นไร ไว้พรุ่งนี้เธอคอยเอาชุดมาให้แก้วและบังคับให้วันอื่นๆแก้วใส่แต่ชุดพวกนี้ก็คงได้
เหม่ยหลินเงยหน้ายิ้มส่งยิ้มหวานให้แก้ว พร้อมกับพูดด้วยเสียงร่าเริงว่า “ วันนี้หยกยอมปล่อยให้คุณแก้วใส่ชุดแบบนี้นะค่ะ ถือว่าเป็นการใส่อำลาครั้งสุดท้าย แต่วันอื่นๆหยกไม่ยอมนะค่ะ ฝันดีค่ะ ” เมื่อเธอพูดจบก็ก้าวเดินกลับห้องนอนของตัวเองไปด้วยรอยยิ้มไม่ได้สนคนว่าแก้วจะตอบว่าอะไร
ความคิดเห็น