คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : สิ้นสุดงานเลี้ยง เริ่มต้นเรื่องวุ่นวาย
.
ภายในห้องจัดเลี้ยงที่ใหญ่เท่าบ้านขนาดกลาง 1 หลัง มีการจัดตกแต่งห้องด้วยดอกไม้หลากหลายชนิดซึ่งน่าจะทำให้มีบรรยายากาศที่ดูสดใสอ่อนหวาน แต่ตอนนี้ภายในห้องกลับเต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน มีแต่เสียงพุดคุยซุบซิบกันเต็มไปหมด ถึงแม้จะพยายามบีบเสียงให้เบาที่สุด แต่เมื่อหลายคนพูดพร้อมๆกันจากเสียงเบาก็กลายเป็นเสียงดังที่อู้อี๊ฟังไม่รู้เรื่อง ต้นเหตุของเรื่อง คนแรกเป็นผู้หญิงในชุดจีนโปราณสีฟ้าปักรายนก ยืนนิ่งด้วยความมึนงง อ้าปากค้าง ต้นเหตุอีกคนผู้ชายในชุดจีนสีขาว มีเพียงรอยยิ้มน้อยๆประดับไว้ที่มุมปาก ทำตัวราวสุภาพบุรุษที่เป็นเพียงคนชมละครเท่านั้น แต่ถ้าหากมองไปในดวงตาจะรู้ว่าเขากำลังมีความสุขสุดๆ ดวงตาของเขามีประกายรอยยิ้มอยู่เต็มเปี่ยมที่ยากจะเห็นได้
“ หือ..เธอว่าไงนะ” หญิงสาวในชุดสาวรับใช้จีนสีชมพูถามเพื่อนข้างๆครั้งที่เท่าไรไม่รู้ เนื่องจากภายในห้องมีแต่เสียงอู้อี้เต็มไปหมดทำให้ฟังไม่รู้เรื่องซะที
“คุณชายยิ้มด้วยเธอ หล่อขาดใจมาก” สาวรับใช้ใส่ชุดจีนสีชมพูอีกคนพูดขึ้นด้วยอาการขัดใจ เธอเริ่มรำคาญเนื่องจากพูดไปตั้งหลายครั้งเพื่อนก็ยังไม่ได้ยิน จึ่งเพิ่มความดังขึ้นอีกนิ๊ดในความคิดเธอ กะให้เพื่อนสาวข้างๆได้ยินซะที แต่คนอื่นกลับไม่คิดแบบนั้น เพราะเสียงที่เธอพูดขึ้นมาดังจนกลบเสียงทุกคนหมดเลย ซึ่งเสียงนี้ก็ไปเข้าหูสองคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องด้วยพอดี
ต้นเหตุทั้งสองคนหันไปดูต้นเสียงและมองสภาพภายในห้องก็รู้สึกตัวว่าอยู่ที่ไหนและมีใครอยู่บ้าง และทำให้คนอื่นตกใจแค่ไหน หยางเทียนหลงเป็นคนแรกที่รู้สึกตัว และจัดการปัญหาเรื่องนี้ โดยออกคำสั่ง ยุติงานเลี้ยงและให้ทุกคนเก็บข้าวของให้หมด ส่วนตัวเขาเมื่อสั่งเสร็จก็จูงมือแก้วออกไปจากห้องด้วยทวงท่าสง่าผ่าเผย ไม่ได้มีความร้อนรน ตื่นเต้น มึนงง เหมือนที่แก้วกำลังเป็นเลย แก้วรีบเดินติดตามไปอย่ากระชั้นชิดเพื่อไปท้วงคำตอบจากเขา
ทั้งสองคนเดินตามทางเดินที่แขวนโคมไฟประดับประดาละลานตา อากาศเริ่มหนาวแสงไฟจากโคมไฟช่วยส่องให้เห็นว่ามีหมอกล่องรอยมายมาย ถ้าเป็นในยามปกติแก้วคงจะนอนดูบรรยายกาศแบบนี้แล้วเผลอหลับไปด้วยความสูขกาย สบายใจ แต่ตอนนี้ดันมีเรื่องวุ่นวายและคนหนึ่งคนที่รบกวนจิตใจเธออยู่ทำให้เธอไม่ได้แม้แต่จะสนใจบรรยากาศ เพราะในหัวที่กำลังสับสนวุ่นวายอย่างหนัก
“ท่านประธานหยุดเดินได้แล้วค่ะ” แก้วพูดขึ้นด้วยเสียงหนักแน่น พร้อมดึงมือหยางเทียนหลงด้วยเรียวแรงทั้งหมดที่มี จนทำให้อีกฝ่ายต้องหยุดเดินและหันกลับมามองด้วยรอยยิ้ม
“ท่านทำอะไรกับฉันค่ะ” แก้วถามคำถามที่รบกวนจิตใจเธออยู่อีกครั้ง ด้วยสายตาที่มุ่งมั่นว่าต้องการให้คนตรงหน้าตอบความจริง
“เรื่องนี้ผมตอบแก้วไปแล้วนะ” เขาตอบอย่างไม่ใสใจหนัก
“ท่านจะให้แก้วเชื่อว่าคุณดึงความรู้ทางด้านภาษาเมื่อชาติก่อนของแก้วกลับมาหรอค่ะ” แก้วตามอีกครั้งด้วยสายตาที่เริ่มจะไม่เป็นมิตร เริ่มหวาดระแวงคนตรงหน้า
“ผมพูดความจริง แก้วจะเชื่อหรือไมก็ตามใจ” เขาพูดกลับแก้วด้วยสายตาที่จริงจัง ซึ่งมันเป็นการบีบให้เธอต้องรู้สึกอึดอัดกับความจริงตรงหน้า
“คุณทำได้ไง แล้วทำไมคุณถึงทำแบบนี้” แก้วถามด้วยน้ำเสียงต่ำเพื่อคาดคั้นคำตอบ
“คำถามเยอะจังนะครับ ผมใช้คาถาที่อ่านเจอในหนังสือร่ายมนต์ดึงความรู้ภาษาจีนในอดีตชาติของน้องแก้วออกมา แต่ไม่ใช่จะทำได้กลับทุกคนนะ เรื่องนี้ทำได้แค่คนที่เมื่อชาติก่อนเป็นคนจีน" เทียนหลงหยุดพูด แล้วจ้องมองแก้วด้วยดวงตาที่สื่อความหมายลึกซึ้ง แล้วพูดต่อว่า "แล้วก็ใช้ว่าทุกคนจะร่ายมนต์และได้ผลสำเร็จเหมือนผม ผมเห็นแก้วพูดภาษาจีนไม่ได้ ฟังไม่ออก ทั้งที่อยู่ประเทศจีนแท้ๆ แบบนี้ต่อไปจะใช้ชีวิตลำบาก ผมก็เลยอยากจะช่วยแก้วเท่านั้น โชคดีที่แก้วเจอผมนะ ” หยางเทียนหลงพูดด้วยสีหน้าที่จริงจัง แถมยังพูดแบบให้ผู้ฟังคิดว่าเขาช่างเป็นดี มีจิตใจอารี ชอบช่วยเหลือผู้อื่นไปซะงั้น และดวงตาเขากลับเป็นประการความสูข มีบ้างประโยคที่เขาไม่ได้พูดออกไป ได้แต่คิดและเก็บได้ในใจ ‘โชคดีที่ข้าได้เจอมนต์นี้ โชคดีข้าที่ได้เจอเจ้า โชคดีที่ข้าฝึกร่ายมนต์จนสำเร็จ ’
“ ขอบคุณที่ช่วยเหลือนะค่ะ” แก้วตอบไปด้วยความมึนงงในข้อมูล และความเหลือเชื่อ แต่ความจริงที่เขาทำให้เธอใช้ชีวิตในประเทศจีนด้วยความสะดวกทางด้านภาษาก็เป็นเรื่องจริง ถ้าไม่ได้เขาช่วยไว้เธอก็ต้องนั่งบื่ออีกเป็นเดือนกว่าจะเรียนรู้คำที่จำเป็นได้หมด ครั้งนี้นอกจากขอบคุณเธอก็ไม่รู้จะพูดอะไรได้อีก แต่เรื่องที่เขาทำได้ยังไงนี้เธอก็ยังอยากรู้อยู่นะ
“ไม่ทราบว่าท่านประธาน ทำไงถึงสามารถร่ายมนต์แล้วได้ค่ะ”
“ มันเป็นความลับของตระกูลนะ ผมไม่ขอพูดดีกว่า” หยางเทียนหลงตอบพร้อมรอยยิ้มที่ลึกลับ แล้วพูดเปลี่ยนเรื่อง เบี่ยงเบนความสนใจ “ผมรู้สึกไม่ชอบคำที่แก้วใช้เรียกแทนตัวผมเลยนะ ตอนนี้เราสองคนอยู่บ้านเดียวกัน ก็เหมือนเราเป็นคนครอบครัวเดียวกันแล้ว ผมว่าแก้วเรียกผมว่าพี่เทียงหลงดีกว่า ส่วนผมก็จะเรียกแก้วว่าน้องแก้ว เพราะผมอายุมากกว่า แก้วคิดว่าแบบนี้ดีกว่าไม” ท่านประธานหยางเทียงหลงพูดขึ้นพร้อมกับส่งสายตาบีบบังคับให้แก้วได้แต่ต้องรับปาก
“ คะ...ค่ะ” แก้วตอบไปด้วยอาการงุนงง ผู้ชายอะไรอารมณ์เปลี่ยนแปลกตลอดเวลา เธอตามเกือบไม่ทัน แล้วอะไรไอ้สายตาที่ส่งมาเนี้ย ทั้งบีบบังคับ ทั้งดูเว้าวอน ออดอ้อน แบบนี้เธอก็แพ้ราบคราบนะชิ ถ้าเขาแค่ส่งสายตาบีบบังคับเธอยังจะรู้สึกอยากดื้อสู้กว่านี้นะ แล้วอาร่ายก้านคำว่าครบครัวเดียวกันนะ พูดแบบนี้เธอคิดลึกนะ
“ค่ะ พี่เทียนหลง” เขาพูดซ้ำ แนะให้เธอพูดใหม่อีกครั้งพร้อมส่งสายตา
“ค่ะ พี่เทียนหลง” แก้วพูดเสียงแผ่วเบาด้วยความเขินอาย สายตาหวานเยิ้มของเขาแบบนี้โหดร้ายมาก สายตาที่ไม่ว่าจะเด็ก สาว หนุ่ม แก่ ถ้าใครได้เจอเข้าคงต้องยอมทำตามความปรารถนาของเขาทุกอย่างแน่นๆ ดวงตาคู่นั้นน่ากลัวจริงๆ โหดร้ายมาก เล่นทำให้เธอหายใจติดขัด หัวใจเต้นแรง เกิดอาการหื่นอยากเข้าไปกอดไปหอมไปจูบ กดลงเตียง เหอๆๆ....ประโยคสุดท้ายม่ายช่ายน๊าแค่เผอลคิดไปแว๊ปเดียว ม่ายตั้งใจแค่คิดเล่นๆ
“เดียวพี่เดินไปส่งน้องแก้วที่ห้องพักนะ เพราะน้องคงกลับไปห้องไม่ถูกแน่เลย” หยางเทียนหลงพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์นิดๆ แล้วก็จับมือแก้ว พร้อมกับจูงพาเดินไปตามถนนที่มีบรรยากาศที่ชวนให้แก้วได้แต่แอบใจเต้นตึกตัก
แก้วทั้งที่คิดจะปฏิเสธความหวังดีของเขาแต่เจอเขาทั้งพูดดักทาง พร้อมทั้งจับมัดมือชกแบบนี้ก็ได้แต่ปล่อยตัวปล่อยใจเลยตามเลยเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศที่น่าหลงไหล และมือที่แสนอบอุ่นของชายหนุ่มข้างๆ
ความคิดเห็น