ลำดับตอนที่ #3
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : วันแต่งงาน ^0^
ฉันชื่อว่าเนปจูน คนิตา ปิยะรินศิริ เชื้อชาติไทย สัญชาติไทย นับถือศาสนาพุทธ แต่บังเอิญว่าฉันได้รับคัดเลือกจากการออดิชั่นของบริษัท JPY เมื่อ 5 ปีที่แล้ว ฉันจึงต้องเดินทางมาใช้ชีวิตเป็นนักร้องที่เกาหลีใต้โดยปริยาย และเมื่อสามวันก่อนทางรายการ WWGM ได้ติดต่อฉันให้ไปร่วมรายการ ตามความจริงแล้ววันพักผ่อนอย่างวันนี้ฉันน่าจะยังนอนอยู่บนเตียงนุ่ม ๆ แต่ฉันต้องแหกขี้ตาตื่นมาแต่งตัวเพื่อไปพบกับเจ้าบ่าวของตัวเอง
"เนปจูน เธอแต่งตัวเสร็จรึยัง?" พี่มินอาลีดเดอร์ของวงเปิดประตูเข้ามาถามฉันที่ตอนนี้กำลังจัดเสื้อผ้าให้เข้าที่เข้าทาง
"ค่ะ.. เสร็จพอดี" ฉันหันไปตอบพี่มินอายิ้ม ๆ แต่ในใจฉันน่ะเหรอ จวนจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
"เธอจะรีบแต่งสวยไปทำไม เวลานัดมันตั้งสี่ทุ่มครึ่งนะ" พี่อึนเฮเดินเข้ามาถามเพราะดูนาฬิกาข้อมือตัวเองแล้วพบว่าขณะนี้เป็นเวลา 7 โมงเช้า
"แหม.. เธอจะไปว่าน้องทำไมล่ะอึนนี่ น้องก็แค่ตื่นเต้นมากเกินไป ฮ่า ๆๆๆ" พี่จีโบที่เดินตามเข้ามาแขวะฉัน
"พวกพี่ ๆ ก็.. อย่าแซวฉันสิคะ ฉันก็เขินเป็นนะ" ฉันรู้สึกได้ว่าตอนนี้หน้าตัวเองแดงแค่ไหน เพราะคำแซวของเหล่าอนนี่
"เอาล่ะ งั้นก่อนจะถึงเวลานัด ทั้งวันนี้พวกเราจะพาเธอไปทำสวยเองเนปปี้ ^^" พี่จีโบเดินมาจับไหล่ฉันจากทางด้านหลังเพื่อดันให้ฉันเดินออกจากห้องพัก
เมื่อพวกพี่ ๆ พาฉันใช้เวลาในการทำสปา สระผม แต่งหน้า เปลี่ยนชุดใหม่เรียบร้อยแล้วก็จวนจะถึงเวลานัดพอดี
"ต๊าย ! นี่พวกเราเพลินกันเลยเหรอเนี่ย ดูซิสี่ทุ่มแล้ว" พี่มินอาเงยหน้าจากนาฬิกาข้อมือมาพูดกับพวกฉัน
"งั้นเอาไงต่อดีล่ะค่ะพี่จินยง" พี่อึนเฮหันไปถามผู้จัดการที่ตอนนี้กำลังเปิดประตูรถ
"ตอนนี้โชเฮมารอรับพวกเธอแล้วนะ ส่วนพี่จะไปส่งเนปจูนเอง" พี่จินยงหันหน้าไปพูดกับพี่ ๆ ทั้งสาม พี่โชเฮที่พี่จินยงพูดถึงคือผู้ช่วยผู้จัดการของวงเราเอง
"โอเคค่ะ.. เนปจูน สู้ ๆ นะ ^^" พี่จีโบหันมาพูดกับฉันก่อนที่พี่จินยงจะเรียกให้ฉันขึ้นรถ
"แล้วฉันจะโทรหานะคะพี่" ฉันโบกมือบ๊ายบายพี่ ๆ ทั้งสามก่อนจะเดินทางไปเจอเจ้าบ่าว
เฮ้อ.. ตื่นเต้นจริง ๆ เลย ตอนแรกคิดว่าจะไม่ตื่นเต้นมากแล้วนะ แต่ตอนนี้สิ ทำตัวไม่ถูกจริง ๆ ทุกอย่างบนรถถูกเซ็ตไว้เรียบร้อยแล้ว มีตากล้องขึ้นมาบนรถด้วยอีกคน และเขาได้ยื่นสคริปให้ฉันอ่าน
เริ่มจากฉันต้องไปเจอสามีที่ตึก 62 ชั้น 45 ที่ร้านโอบูชิ และต่อมาก็คือทำตัวคุ้นเคยกับสามีโดยที่เมื่อเจอสามีแล้วจะต้องหาบทสนทนามาพูดให้ได้เยอะที่สุด เพื่อให้การถ่ายทำเป็นไปด้วยดี ..
"สนทนาให้ได้เยอะที่สุด เฮ้อ.. ฉันจะทำได้มั้ยเนี่ย?" ฉันหันไปพูดกับกล้อง ก่อนจะตรวจดูความเรียบร้อยของตัวเอง
"เขาเป็นใครนะ ? .. จะใช่พี่จุนฮาแบบที่พี่อึนเฮว่ารึเปล่าล่ะเนี่ย ? .. แต่ถ้าใช่ก็คงดีเพราะยังไงฉันก็สนิทกับพี่เขาอยู่แล้ว" ฉันยังคงพูดกับตัวเอง ให้กล้องที่กำลังถ่ายได้ยิน นี่มันอะไรกันนะ เรียลลิตี้นี่ต้องรู้ทุกความคิดเลยรึไงกัน (-..-")
ณ เวลา 22.20 น.
ฉันมาถึงตึก 62 เรียบร้อยแล้ว และที่แน่ ๆ ขาฉันทรยศฉันซะแล้ว ทำไมมันก้าวลำบากแบบนี้นะ ตื่นเต้นจริง ๆ เลย สามีของฉันใครกัน ๆ (><") ฉันมีแต่เรื่องนี้ในหัวสมอง จนไม่สามารถทำตัวให้เข้ากับสถานการณ์ได้เลย พี่ ๆ ทีมงานก็ดีเหลือเกิน ฉันหันไปถามอะไรหน่อยก็ทำหน้านิ่งใส่ฉันเท่านั้น เฮ้อ.. กังวลชะมัด และเมื่อฉันมาถึงชั้น 45 ประตูลิฟท์เปิดพร้อมกับมีทีมงานรออยู่หน้าลิฟท์แล้ว ฉันพยายามมองซ้าย-ขวาให้แน่ใจว่าเจ้าบ่าวไม่ได้แอบซุ่มอยู่แถวนี้
"คุณเนปจูนคะ สามีคุณมาถึงแล้วนะคะ ตอนนี้เขารอคุณอยูที่โต๊ะแล้วค่ะ" พี่ทีมงานคนหนึ่งเดินมาบอกฉันที่ตอนนี้กำลังเดินไปยังร้านสุกี้กึ่งชาบูที่ว่า
"อ๊ะ.. ค่ะ แล้วเขาอยู่โต๊ะไหนคะ ?" ไม่ทันที่ฉันจะพูดจบพนักงานต้อนรับของร้านก็เดินมาหยุดที่ตรงหน้าฉัน และบอกให้ฉันใส่ผ้าปิดตาไว้ก่อนที่จะเดินเข้าไป
"คุณเนปจูนครับ กรุณาปิดตาไว้ด้วยครับ ผมจะเป็นคนนำทางคุณไปที่โต๊ะเอง"
"ต้องปิดตาด้วยเหรอคะ ?" ฉันรับผ้าปิดตามาแบบงง ๆ แต่ก็นะ ยังไงก็ต้องทำตามสคริปนี่นา
"ครับ" พนักงานไม่พูดเปล่า เขายกมือขึ้นเชิงบอกว่าให้ฉันรีบปิดซะ ฉันเลยทำการปิดตาตัวเอง และก่อนที่จะได้ถามอะไรต่อ ก็มีมือ มือหนึ่งมาจับที่มือของฉัน
"ทางนี้ครับ" พนักงานคนนั้นนั่นเอง
ฉันเดินตามพนักงานคนดังกล่าวไปถึงที่โต๊ะ โอ๊ยพระเจ้า ! ข้าน้อยตื่นเต้นจังเลย สามีฉันเห็นฉันแล้วแน่ ๆ เขาจะตื่นเต้นเหมือนฉันมั้ยนะ ? (><")
"ขอโทษนะครับคุณเจ้าบ่าว ตอนนี้คุณเจ้าสาวได้ยืนอยู่ตรงหน้าคุณแล้ว กรุณายืนขึ้นและเปิดผ้าปิดตาพร้อม ๆ กันด้วยครับ" พนักงานพูดต่อ อ๋ออออออ อ อ เขาก็ถูกปิดตาไว้เหมือนกัน เขาจะเป็นใครนะ ?
"ครับ" เจ้าบ่าวของฉันตอบสั้น ๆ และไม่กี่วินาทีหลังจากคำตอบนั้น ฉันที่ถอดผ้าปิดตาออกแล้วก็ต้องตกใจเมื่อคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของฉันก็คือ อิม ชินฮยอน หนึ่งในสมาชิกวง SOTR
เขาที่เปิดผ้าปิดตาออกแล้วก็คงตกใจไม่แพ้กัน เพราะดูจากสีหน้าแล้วเขาเหวอไปเลย
"สะ สวัสดี... นั่งก่อนสิ" ชินฮยอนทักทายฉันก่อนจะผายมือเป็นเชิงบอกให้ฉันนั่ง
"อะ.. อื้ม สะ สวัสดี" ฉันที่ยังช็อคอยู่ทำตัวไม่ถูกเลย ชินฮยอนเนี่ยนะจะมาเป็นสามีของฉัน เราสองคนอายุเท่ากัน และที่สำคัญ ฉันกับเขาไม่ค่อยลงรอยกันด้วยสิ T___T
ฉันนั่งลงตรงข้ามกับเขา ตอนนี้ไม่รู้จะหาคำพูดไหนมาเริ่มบทสนทนาได้ ฉันกับเขาเอาแต่นั่งจ้องหน้ากันเพราะความช็อค
////////////////////////////////ห้องเปิดใจ////////////////////////////////////////////////
Ver.เนปจูน
PD 'แนะนำตัวเองหน่อยค่ะ'
"สวัสดีค่ะ ฉัน เนปจูน มักเน่ของฮันนี่เกิร์ลค่ะ"
PD 'คุณรู้สึกยังไงคะ ที่เห็นสามีครั้งแรก'
"ตกใจมากค่ะ รู้สึกอยากบ้า เขาเป็นคนที่ทำให้ฉันประสาทเสียตลอด ตั้งแต่รู้จักกันมา เขาทำให้ฉันอยากกรีดร้องตลอดเวลาเลยค่ะ"
PD 'อยากเปลี่ยนสามีงั้นเหรอ?'
"เอ่อ.. การแต่งงานครั้งนี้เปลี่ยนสามีได้ด้วยเหรอคะ?"
Ver.ชินฮยอน
PD 'แนะนำตัวด้วยค่ะ'
"อิม ชินฮยอน มักเน่ของ SOTR ครับ ^^"
PD 'เห็นภรรยาครั้งแรก'
"ที่บริษัทครับ ตอนเป็นเทรนนี่ ^^"
PD 'หมายถึงวันแต่งงาน'
"อ๋อ.. ก็ไม่บอกตั้งแต่แรก เจอครั้งแรก ตอนเปิดผ้าปิดตาครับ ^^"
PD 'จบดีกว่า (-..-")'
///////////////////////////////////////////////////////////////////////////////////
"เธอจะสั่งอะไรก่อนมั้ย ?" ชินฮยอนเอ่ยถามฉัน เป็นการเปิดประเด็นการสนทนาหัวข้อแรก
"อะ อื้ม.." ฉันหยิบเมนูขึ้นมาดูก่อนจะเหล่ตาไปมองเขาอีกที และต้องตกใจเมื่อเห็นว่าเขาก็จ้องมองฉันอยู่เหมือนกัน
"เลือกสั่งเลย" ชินฮยอนพูดกับฉัน แล้วหันหน้าไปโบกมือเรียกพนักงานของร้าน
"นายจะกินอะไรล่ะ ?" ฉันถามเขาบ้างแก้สถานการณ์ก่อน
"เธอคิดให้สิ" ชินฮยอนหันมายิ้มให้ฉันก่อนที่พนักงานจะเดินมาถึงโต๊ะของเรา
ยิ้มให้ฉันแบบนั้นเนี่ยนะ จริง ๆ แล้วชินฮยอนเป็นคนน่ารักมาก แต่ไอ้นิสัยน่ารักของเขานี่แหละที่ทำให้ฉันไม่ชอบใจ การที่เขาชอบใจดีกับผู้หญิงคนอื่น แล้วมากวนประสาทฉันมันเป็นอะไรที่ฉันรับไม่ได้ ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมต้องเป็นฉันคนเดียวที่โดนเขากวนโมโหทุกครั้งที่เจอกัน ทีกับคนอื่น ๆ ในบริษัทไม่ยักเห็นเขากวนเลย รอยยิ้มสดใสนั้นส่วนมากจะเป็นคนอื่นที่ได้รับซะมากกว่า
"เฟตตูชินีดำซอสมะเขือเทศซีฟู๊ด 2 ที่ค่ะ" ฉันหันไปพูดกับพนักงาน ทั้ง ๆ ที่ในหัวเอาแต่คิดเรื่องที่จะอยู่กับหมอนี่ยังไงให้รอด เฮ้อ.. สวรรค์ส่งฉันไปลงนรกเห็น ๆ
"ฉันกินกุ้งไม่ได้" ชินฮยอนขัดขึ้นมาหลังจากที่ฉันสั่งอาหารไปเรียบร้อยแล้ว
"แล้วฉันจะรู้มั้ยล่ะ ว่านายกินกุ้งไม่ได้อ่ะ" เอาแล้วไงชินฮยอนเริ่มก่อกวนฉันแล้ว เขากินอะไรได้รึไม่ได้ก็น่าจะบอกฉันก่อนนะ แล้วอีกอย่างเขาเป็นคนบอกให้ฉันเลือกเองแท้ ๆ
"เธอต้องอ่านประวัติส่วนตัวสามีแล้วล่ะเด็กน้อย" ชินฮยอนว่าฉันก่อนจะหยิบเมนูขึ้นดูบ้าง
"ฉันไม่ใช่เด็กนะ" ฉันปรับโทนเสียงให้ดังขึ้นเพื่อตอบเขา แต่ชินฮยอนไม่ได้สนใจคำพูดฉันเลยเอาแต่นั่งเลือกเมนูอยู่นั่นแหละ
"เพนเน่คาโบนาร่าครับ" ชินฮยอนเงยหน้าขึ้นไปพูดกับพนักงานโดยที่ไม่หันมาสนใจคำพูดฉัน กลับมาต่อว่าฉันอีกซะงั้น "ว่าแต่เธอเถอะ ทำไมมาช้าจัง ฉันหิวจะแย่อยู่แล้ว"
"ฉันคิดว่านายมาก่อนเวลามากเกินไปนะ เพราะฉันมาตรงเวลาเป๊ะ" ฉันหยิบแก้วน้ำขึ้นมาจิบ ดับโมโหก่อนจะตอบเขาไป
"อ๋อเหรอ?" ชินฮยอนพูดออกมาสั้น ๆ โดยที่ในมือหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากด ๆ อะไรก็ไม่รู้
"นายคงเสียใจแย่สินะที่เป็นฉัน" ฉันยิงประโยคเด็ดใส่เขาทันที คงเป็นประโยคที่โดนใจเลยสินะ ถึงได้เงยหน้าขึ้นมายิ้มอีกแล้ว
"เปล่าเลย.. ฉันดีใจต่างหากล่ะ" ชินฮยอนตอบแล้วก้มลงไปสนใจโทรศัพท์มือถือเหมือนเดิม .. โอ๊ว นี่นะดีใจ ไม่ยักสนใจฉันซักนิด
"เนี่ยนะเรียกว่าดีใจ .. นายไม่ได้สนใจฉันเลยด้วยซ้ำ" ฉันต่อว่าเขาหลังจากที่เขายกโทรศัพท์มาแนบหูแล้ว
"ฮยองครับ ผมเจอภรรยาแล้วนะ" ชินฮยอนคุยกับคนในสาย โดยหันหน้ามามองฉันด้วย
"..."
"ไม่ใช่ยูมีนูน่าหรอกครับ เป็นคนที่พี่บอกให้ตัดออกจากลิสคนแรกเลย" ชินฮยอนพยายามกลั้นหัวเราะเอาไว้ก่อนจะเหล่ตามามองฉันอีกครั้ง
"..."
ฉันที่ยังไม่มีโอกาสได้วีนเขาก็ได้แต่นั่งอมน้ำลายรอ วางสายเมื่อไหร่แม่จะเหวี่ยงให้ดู
"ครับบบ เราดินเนอร์กันอยู่น่ะ เดี๋ยวผมจะส่งรูปไปให้ดูนะ .. ครับ บาย" ชินฮยอนวางสายแล้วหันมามองหน้าฉันอีกรอบ "ฉันโทรหาพี่จางวู"
"ฉันยังไม่ได้ถาม" ฉันตอบเขาพร้อมกับหันหน้าหนีไปอีกทางทันที
"พวกพี่ ๆ อยากรู้มากเลยนะว่าภรรยาฉันคือใคร" ชินฮยอนยังคงพูดต่อไปเรื่อย ๆ จนฉันชักจะรำคาญ
"นายไม่ค่อยพูดไม่ใช่เหรอ ? แล้วทำไมตอนนี้นายพูดเก่งจังเลย พูดเก่งมากจนฉันเริ่มรำคาญแล้วนะ" ฉันที่ตอนนี้เก็บอารมณ์โกรธไม่อยู่แล้วพูดออกไป
ก็ใครมันจะไปทนไหวล่ะกับคำว่าตัดออกคนแรก ไม่ใช่พี่ยูมี แถมยังไม่สนใจสิ่งที่ฉันพูดอีก ถ้าเขาดีใจจริง ๆ ทำไมปฏิกิริยาถึงได้แสดงออกมาน้อยแบบนี้นะ หึ๊ย !!
"งั้นเหรอ?" ชินฮยอนตอบฉันมาสั้น ๆ พร้อมกับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเก็บภาพฉันที่กำลังทำหน้าบึ้งใส่เขาอยู่
"นายจะถ่ายทำไมตอนนี้เนี่ย ?" ฉันพยายามเอื้อมมือไปแย่งโทรศัพท์มาจากมือของเขาแต่เขาก็ชูมือขึ้นทำให้ฉันไม่สามารถแย่งได้ ก็นะคนอะไรแขนขายาวชะมัด ใครมันจะไปแย่งได้ไง
"ก็ฮยองอยากเห็นนี่นา" ไม่ว่าเปล่า ชินฮยอนกดส่งรูปไปให้เหล่าฮยองของเขาดู แล้วหัวเราะคิกคักอยู่คนเดียว
ไม่ทันที่ฉันจะต่อว่าเขาอาหารก็มาเสิร์ฟที่โต๊ะพอดี เอาล่ะเซฟไฟล์แค้นนี้ไว้ก่อน เพราะฉันก็หิวมากเหมือนกัน เราจึงเริ่มลงมือทานอาหารมื้อเที่ยงที่พร้อมจะเข้าปากตอนเวลาประมาณ 5 ทุ่มกันอย่างเอาเป็นเอาตาย
ขอให้ท้องอิ่มก่อนแล้วกัน แค้นชำระเมื่อไหร่ก็ได้ ก็ในเมื่อตอนนี้ฉันกับเขาต้องเจอกันบ่อย ๆ แล้วน่ะสิ
เมื่อพวกเราทานอาหารเสร็จ พี่ทีมงนคนหนึ่งก็เดินนำซองภารกิจมาให้พวกเรา ชินฮยอนจึงเปิดซองเพื่อหยิบการ์ดออกมาอ่านให้ฉันได้ยิน
"เพราะพวกคุณเป็นคู่แรกของซีซั่นที่ 90 ทางเราได้ปรับเปลี่ยนแผนในการถ่ายทำใหม่หมดแล้ว จึงจะเรียนให้ทราบว่า นับตั้งแต่วันพรุ่งนี้เป็นต้นไป ทางเราจะให้พวกคุณทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน 24 ชม.จริง ๆ ที่เรือนหอ และมีรถยนต์ให้ 1 คัน หากคุณไม่ทำตามภารกิจ เป็นอันว่าพวกคุณจะต้องหย่าร้างกันและคนที่เป็นฝ่ายขอหย่าจะต้องถูกปรับ ตามที่เราได้ทำสัญญากันแล้ว ที่อยู่เรือนหอ XXX.."
ชินฮยอนอ่านจบก็เงยหน้าขึ้นมามองฉัน ที่ตอนนี้ช็อครับประทานไปแล้วค่ะ
"เราจะต้องอยู่ด้วยกันงั้นเหรอ?" ฉันทวนประโยคสุดช็อคออกมา
"อืม.. ก็คงจะอย่างนั้น" ชินฮยอนที่ทำหน้าไม่รู้ร้อนรู้หนาวตอบสั้น ๆ พร้อมหยิบแก้วน้ำขึ้นมาดื่ม
"นายไม่รู้สึกอะไรเลยรึไงห๊ะ เราต้องอยู่ด้วยกันนะ ไม่รู้นานแค่ไหนด้วยซ้ำ" ฉันฉุนสุด ๆ เลยกับสีหน้าของเขา จะเย็นชาอะไรได้ขนาดนี้นะ
"ก็เขาบอกให้ทำแบบนั้นนี่ จะให้ฉันทำไงได้ล่ะ ฉันไม่ได้บอกให้เขามอบภารกิจนี้ให้เราซักหน่อย" ชินฮยอนตอบฉันด้วยเสียงเย็นชา ก่อนจะโบกมือเรียกพนักงานของร้าน "เช็คบิลด้วยครับ"
"เชื่อเขาเลย" ฉันพูดเบา ๆ คนเดียว ด้วยอารมณ์โมโห หมอนี่จะรู้สึกตื่นเต้นกับอะไรได้บ้างนะ
"เอาน่า เดี๋ยวมันก็ดีเอง" ชินฮยอนพูดปลอบใจฉันด้วยเสียงเย็นชา พร้อมกับจ่ายค่าอาหารและหันมาถามฉันต่อ "เราจะไปไหนต่อดี?"
"กลับบ้าน" ฉันไม่มีอารมณ์ไปเที่ยวต่อแล้วล่ะ รายการบ้านี่ก็ไม่รู้คิดอะไรอยู่ ถึงได้ให้เราอยู่ด้วยกันตลอด 24 ชม. ทีคู่ที่ผ่าน ๆ มา แค่มาอัดรายการแล้วก็แยกกันกลับ แต่กับพวกเราต้องอยู่ด้วยกันตลอดนี่คิดได้ไง
"งั้นเดี๋ยวไปส่ง" ชินฮยอนที่รับกุญแจรถมาจากทีมงานแล้วชูกุญแจในมือให้ฉันดู
"อื้ม" ฉันไม่อยากพาลใส่เขาจึงได้แต่ตอบสั้น ๆ ไป
ชินฮยอนรู้ว่าฉันพักอยู่ที่ไหนได้ขับรถแต่งงานของเรามาส่งฉันที่หน้าหอพัก พร้อมกับโบกมือทักทายพี่ ๆ ของฉันที่ตอนนี้ออกมายืนรอเราอยู่ที่ระเบียงห้องแล้ว
"พรุ่งนี้เจอกันนะ ยอโบ ^^" ชินฮยอนกวนประสาทฉันด้วยการเรียกฉันว่าที่รัก ก่อนจะส่งรอยยิ้มขี้เล่นตามมา (ยอโบ = ที่รัก ส่วนมากจะเป็นการเรียกของคู่สามีภรรยา)
"บาย" ฉันไม่สนุกไปกับนายหรอกนะนายชินฮยอน เชิญกวนได้ตามสบาย ฉันกลับหลังหันเดินกลับเข้าหอทันที ไม่แม้แต่จะมองกลับไปดูว่าเขากลับไปรึยัง
เมื่อฉันเปิดประตูห้องเข้าไปก็เจอคำถามล้านแปด พี่ ๆ ต่างวิ่งเข้ามารุมฉัน ถามนั่น โน่น นี่
"พี่รู้ได้ไงคะว่าเป็นชินฮยอน" ฉันหันไปถามพี่ ๆ ที่ทำหน้าเพ้อฝันกันสุด ๆ
"ก็จางวูโทรมาบอกน่ะสิ" พี่อึนเฮตอบ
"เธอโชคดีมากนะเนปจูน ชินฮยอนน่ะเป็นคนดีแล้วก็น่ารักมากด้วย" พี่จีโบพูดอีกคน
"เธอต้องทำตัวดี ๆ กับเขาด้วยล่ะ ไอ้เรื่องที่ผ่านมาเธอก็อย่าไปโกรธเคืองเขาเลย" พี่มินอาเดินมาจับมือฉัน พร้อมกับสั่งสอน
"ใช่แล้ว เพราะยังไงซะตอนนี้พวกเธอก็แต่งงานกันแล้วนะเนปปี้" พี่อึนเฮวิ่งเข้ามาสวมกอดฉันทันทีที่พูดจบ
"วันนี้ฉันเพลียจังเลยค่ะ ขอตัวไปนอนก่อนนะ" ฉันรีบบอกฝันดีพี่ ๆ ทันที ในหัวฉันตอนนี้โพลงไปหมดเลย ฉันจะทำยังไงดีให้อยู่กับนายชินฮยอนได้โดยไม่อึดอัด แต่ยังไงก็ช่างเหอะ วันนี้ฉันเหนื่อยมามากแล้ว ขออาบน้ำนอนก่อนแล้วกัน
วง SOTR (ซอทร์) ที่กล่าวถึงประกอบด้วยสมาชิก 4 คน พวกเขาสี่คนเป็นวงดนตรีร็อคอินดี้ที่ดังติดอันดับในเกาหลี ซึ่ง S มาจากคำว่า Sound (เสียง) O มาจากคำว่า Of (ของ,แห่ง) TR มาจากคำว่า The Rock (วงร็อค) รวมกันเป็น Sound of the rock เสียงของวงร็อค พวกเขามีความสามารถพิเศษในการแต่งเพลงและทำนอง จึงฟอร์มวงขึ้นมา และทำอัลบั้มกับ บริษัท JPY เป็นรุ่นพี่ในบริษัทของวง Honey Girls มินโฮลีดเดอร์ พี่ใหญ่และร้องนำ ซุงฮากลอง จางวูเบส และชินฮยอนกีต้าร์
วง Honey Girls (ฮันนี่ เกิร์ลส) ที่กล่าวถึงประกอบด้วยสมาชิก 4 คน ทางบริษัทได้ฟอร์มวงเกิร์ลกรุ๊ปนี้ขึ้นมาจากการคัดเลือกของรายการดัง ๆ หลากหลายรายการ Honey Girls เป็นวงที่ตอบโจทย์สาว ๆ ที่มีความหวาน เซ็กซี่ และห้าวไปในตัว เพราะสมาชิกแต่ละคน มีบุคลิคที่แตกต่างกัน มินอา ลีดเดอร์แสนห้าวแต่เสียงหวาน ลุคของมินอาคือสาวแก่น จีโบ สาวเซ็กซี่ที่สุดของบริษัท หุ่นดี ดีกรีนางแบบเก่า เสียงใสลื่นหู ลุคของจีโบคือ สาวเซ็กซี่ อึนเฮ สาวแบ๊วประจำวง ท่าทางแอ๊บแบ๊ว เสียงใส ๆ เป็นที่ดึงดูดของผู้ฟังนักล่ะ ลุคของอึนเฮคือสาวแอ๊บแบ๊ว คนสุดท้าย เนปจูน มักเน่ผู้น่ารัก แทบจะรวมทุกลุคไว้ในตัวเอง นิสัยการพูดที่ห้าว ๆ แก่น ๆ รูปร่างที่เซ็กซี่ เสียงใส ๆ น่ารัก ๆ ของเธอ ทำให้เธอได้รับคะแนนความนิยมมากที่สุดของวงเลยทีเดียว ลุคของเนปจูนคือบอกไม่ได้แล้วแต่วัน (-..-")
""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""""
น่ารักเน๊อะ .. (><") อร๊ายยยย ชอบชินฮยอนอ่ะ .. รอติดตามตอนต่อไปกันหน่อยนะคะ ไรต์เตอร์ชอบมาแต่งตอนไม่ว่าง (-..-") ว่างเมื่อไหร่ก็เอาแต่นอน (อ้าว!!)
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น