ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Fic Reborn 1811 [ Give me a promise]

    ลำดับตอนที่ #4 : Chapter 3 :: โคโคโรมิ

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 938
      5
      5 เม.ย. 53

               
               คนเราย่อมมีเหตุผลอันแตกต่างกันออกไป

     

               ฉันเข้าใจ...แม้ว่ามันจะเจ็บปวดมากก็ตาม

     

                แต่ก็เชื่อว่าสักวัน...ฉันจะได้รู้ถึงเหตุผลนั้น

     

     

     

                แม้หัวใจจะปวดหนึบราวกับถูกบีบ...แต่กระนั้นเด็กสาวก็ยังฝืนยิ้ม

     

                รอยยิ้มบางเบาบนริมฝีปากในยามนี้...ช่างแตกต่างกับหัวใจที่กำลังร้าวรานเสียเหลือเกิน

     

                จำไม่ได้สินะคะ...เสียงนั้นไม่ได้แสดงอาการตัดพ้อต่อว่า...เรียบเรื่อยเหมือนสายน้ำ ราวกับกำลังพูดคุยเรื่องปกติธรรมดาเฉกเช่นเรื่องดินฟ้าอากาศ แต่กลับราดรดหัวใจให้ปวดแปลบอย่างหาสาเหตุไม่ได้...

     

                ฮิบาริจำไม่ได้เหมือนกันว่าอี้ผิงเข้มแข็งแค่ไหน...

     

                จำได้เพียงฝ่ามือน้อยๆ ที่ตนเองเคยกุมไว้ในยามที่เธอร้องไห้...

     

                มือของเขาเผลอกำเข้าหากันอย่างไม่ตั้งใจ ทว่าเมื่อรู้ตัว...ชายหนุ่มก็คลายมือออก แล้วเอ่ยเสียงเย็นเยียบ

     

                ฉันไม่เคยจำใครได้หรอก...เพราะว่าไม่มีใครสำคัญมากกว่าตัวฉันเอง

     

                เสียงนั้นหนักแน่น...มั่นคงดุจหินผา แต่กลับสั่นไหวนักในความรู้สึกของผู้พูด เขาไม่ได้พูดเพื่อย้ำกับใคร...หากแต่ตอกย้ำใจของตนเอง

     

                ตอนนี้คุณไม่ใช่ฮิบาริซังที่อี้ผิงรู้จัก... เสียงใสเอ่ยกังวานท่ามกลางความเงียบ ฮิบาริซังคนนั้นอยู่ที่ไหนสักแห่ง หากยังโชคดี...อี้ผิงก็คิดว่าเขาคนนั้นยังอยู่

     

                ยังไม่หายไป...ตลอดกาล...

     

                ไม่ว่ายังไง  อี้ผิงจะตามฮิบาริซังกลับมาเธอจ้องมองลึกลงไปในดวงตาที่ฉายเพียงสีนิลล้ำลึกราวกับท้องฟ้ายามรัตติกาล ไม่นานนักเด็กสาวก็แน่ใจ...

     

                ฮิบาริซังของเธอยังอยู่...

     

                ในส่วนลึกๆ ของตัวผู้ชายคนนี้...ยังมีเขาคนนั้น

     

                ฮิบาริทำแค่เพียงหลบสายตาราวกับไม่สนใจ ฝ่ามือแข็งแรงตั้งต้นจับพู่กันขึ้นมาอีกครั้ง ไม่นานกระดาษสีขาวก็ถูกแต่งแต้มด้วยรอยหมึก ทว่าครั้งนี้กลับดูบิดเบี้ยว...

     

                เธอคงตามหาฮิบาริคนนั้นไม่พบ เพราะตัวตนของฉันก็มีเพียงฉัน...

     

    เธอในความทรงจำของฉัน...ตัวตนของฉัน

     

    แทบจะหลอมรวมเป็นสิ่งเดียวกัน...

     

                แม้ชายหนุ่มจะตัดสินใจผลักอดีตนั้นไว้เบื้องหลัง...แต่ใจกลับประหวัดคิดถึงอยู่เสมอ

     

                อี้ผิงจำที่ฮิบาริซังบอกไว้ในตอนนั้นได้นะ...ฮิบาริซังบอกว่าสิ่งไหนที่ได้พยายามทำแล้ว เท่ากับว่าสิ่งนั้นสำเร็จไปกว่าครึ่ง อี้ผิงยกเอาคำพูดในอดีตที่ยังคงจำได้แม่นยำพูดขึ้นมาลอยๆ

     

                ไม่นานนักรอยยิ้มก็ปรากฎบนใบหน้าของเด็กสาว...พร้อมกับหยดน้ำตา

     

                เขาอยู่ตรงนั้น...

     

                ฉัน...คงเคยพูดแบบนั้นล่ะมั้ง ผู้พิทักษ์แหวนแห่งเมฆารำพึงกับตัวเองอย่างเลื่อนลอย

     

                เขาพูดคำนั้น...และมันนานมาแล้วเหลือเกิน...

     

                อี้ผิงคิดว่า...เห็นฮิบาริซังคนนั้นแล้วล่ะ

     

                ...

     

                อีกไม่นาน...เขาต้องกลับมาแน่ๆ

     

     

     

                ตอนนั้นเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิ ดอกซากุระกำลังบานสะพรั่งเต็มต้น...

     

                อี้ผิงทำไม่ได้หรอก เด็กหญิงหน้ามุ่ย มองตัวอักษรคันจิเต็มหน้ากระดาษพลางเม้มปาก ก่อนจะประกาศอย่างชัดเจน ฮิบาริที่นั่งพิงพนักเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามมองด้วยสายตาเฉยเมย

     

                พยายามหรือยัง...

     

                ฮิบาริซังว่าอะไรนะ...

     

                สะกดคำว่าพยายามเป็นมั้ย... ดวงตาสีนิลจ้องหน้าเด็กหญิงด้วยสายตาดุๆ ตามนิสัย โค-โค-โร-มิน่ะ...

     

                อี้ผิงไม่รู้จัก...แต่ว่าคันจิที่ฮิบาริซังให้อี้ผิงท่องน่ะมันยากมากๆ เลยนะ

               

                ยากตรงไหนกัน...ไร้สาระน่ะ

     

                ตรงที่อี้ผิงไม่รู้จักไอ้ตัวยึกยือนี่ยังไงล่ะ!” เด็กหญิงเริ่มเบะปากเหมือนจะร้องไห้ ก่อนจะฟุบหน้าลงกับโต๊ะเขียนหนังสือ

     

                ยัยเด็กน้อย...

     

                ฮิบาริส่ายหัวอย่างระอา มองกลุ่มผมสีดำสนิทยุ่งๆ บนโต๊ะด้วยสายตาเฉยเมย

     

                ฉันน่ะ...ง้อคนไม่เป็นหรอกนะ

               

    เด็กหนุ่มผู้มีกักคุรันพาดไว้บนบ่าหลับตา...ก่อนจะพ่นลมหายใจ สักพักก็สะดุ้งเพราะเสียงแหลมๆ ที่ดังเข้าหู...

     

                แต่อี้ผิงรู้สึกเหมือนฮิบาริซังกำลังง้อ...เด็กหญิงพูดพร้อมกับเอามือขยี้ตาที่แดงช้ำเพราะร้องไห้ แล้วจ้องมองใบหน้าเรียบสนิทไร้อารมณ์อย่างสนใจ

     

                อย่างนี้ไม่เรียกว่าง้อ...

     

                อี้ผิงยอมเชื่อก็ได้ แต่ว่าขอท่องแค่ครึ่งเดียวได้มั้ยอี้ผิงต่อรอง เอาดินสอขีดเส้นแบ่งครึ่งหน้ากระดาษเสียเสร็จสรรพ

     

                ไม่...

     

                ใจร้ายนะฮิบาริซัง

     

                ไม่เคยมีคนบอกว่าฉันใจดี...ยัยเด็กน้อย

               

                อี้ผิงทำไม่ได้...

     

                เธอแค่ไม่พยายาม...

     

                ...

     

                สิ่งไหนที่ได้พยายามทำแล้ว เท่ากับว่าสิ่งนั้นสำเร็จไปกว่าครึ่ง

     

                เด็กหญิงครุ่นคิดอยู่สักครู่หนึ่ง...สักพักก็ยิ้มออกมา งั้นถ้าอี้ผิงพยายาม...ก็ท่องได้ครึ่งนึง?

     

                คงได้หมดหน้า...แล้วถ้าได้หมดหน้าจะพาไปกินไอติม

               

                พูดเหมือนอี้ผิงเหมือนเด็ก...

     

                ก็เด็กน่ะสิ...เข้าใจใช่มั้ย...

     

                โคโคโรมิ...แปลว่าพยายาม งั้นอี้ผิงจะโคโคโรมินะ...

     

                ริมฝีปากของฮิบาริขยับเป็นรอยยิ้ม ก่อนจะนั่งมองเด็กหญิงที่กำลังตั้งอกตั้งใจเรียนภาษาอย่างอ่อนโยน

     

                แต่กลับไม่รู้ตัวเลย...

               

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×