ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SS501] At what point shall we begin (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #9 : chapter8:Two couple

    • อัปเดตล่าสุด 28 ม.ค. 51


    คิบอม

     

    หือ? 

     

    เอานาฬิกาไปใส่ในตู้เย็นทำไมอ่ะฮยองจุนพูดพลางสังเกตอาการเหม่อลอยของน้องชาย

    สงสัยนักหนาว่าทำไมน้องชายถึงถือนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงติดมือลงมาใส่ในตู้เย็น

     

    ...นัยน์ตากลมโตจับจ้องกริยาเชื่องช้าของผู้เป็นน้อง 

     

    อาการประหลาดเหล่านี้

    ...เขาสังเกตได้ตั้งแต่ตอนเย็นของเมื่อวาน

     

    คิบอม พูดอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเจ้าของนาฬิกายังคงนิ่งเฉยอยู่หน้าตูเย็นเหมือนหุ่นยนต์รับคำสั่ง

     

    หา!..อ่อ..ขอบคุณที่บอกนะพี่จุนอีกฝ่ายตอบอ้อมแอ้มก่อนทิ้งนาฬิกาปลุกลงในตะกร้าผ้าที่เตรียมซัก

    ราวกับมั่นใจว่านั่นคือตำแหน่งเก็บนาฬิกาที่ถูกต้อง

     

    คิ..บอม..^^llผู้เป็นพี่รำพึงเบาๆ  ต้มบะหมี่สำเร็จรูปกินดีกว่ามั้ย

    ออกความคิดเห็นเมื่อผู้เป็นน้องกำลังจะเอาขนมปังไปทอดในกระทะ

     

    ฮะ...เอ่อ..อืม...เอายังงั้นก็ได้..ผม...ฝากพี่ทำด้วยแล้วกัน

    ฮยองจุนยิ้มแห้งๆหลบทางให้น้องเดินออกจากห้องครัวไปอย่างเลื่อนลอย

    อย่างน้อยการต้มน้ำเป็นของเขาคงช่วยให้เส้นบะหมี่สุก...พอเป็นอาหารเช้าประทังไปพลางๆ

     

    คิบอมคงเหนื่อยเกินไป...

     

     

    Trrrr…Trrr..

     

    พลันเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น....

    มือขาวละจากตู้กับข้าวหันไปคว้าโทรศัพท์ที่ผนังมาแนบหูก่อนกรอกเสียงใสลงไป

    ครับ..ฮยองจุนพูดสายครับ

     

    สวัสดีครับ..ผมมินคยู..ขอพูดกับคุณคิบอมหน่อยครับ

     

    อ่อคุณนั่นเอง..รอสักครู่นะครับ ร่างบางตอบพลางนึกทบทวนถึงอดีตเพื่อนร่วมเที่ยวบินของคิบอม

    สองขาสาวมาหยุดอยู่หน้าห้องรับแขกแล้วก็ต้องเปลี่ยนใจ

     

    คิบอมหลับไปอีกแล้วล่ะครับ แหะๆ

     

    อ่า..ไว้ค่อยโทรมา....

     

    อรุณสวัสดิ์ฮยองจุน^^” จู่ๆร่างสูงเจ้าของผิวสีแทนก็โผล่พรวดเข้ามาในตัวบ้านอย่างถือวิสาสะ

     

    นายเข้ามาได้ไงอ่ะ

     

    ก็ประตูไม่ล็อคนี่...อีกอย่างกริ่งบ้านนายเสียหรอ  ร่างสูงพูดพลางมองไปยังร่องรอยที่หลงเหลือ

    เพียงน๊อตยึดกริ่งหนึ่งตัว ซึ่งเจ้าบ้านถึงกับสะอึกเพราะคำทัก

     

    ...ก็เขาเองนี่แหละที่พยายามงัดบ้านตอนกุญแจหาย...ดูหนังมากไปเลยคว้าอุปกรณ์ใกล้ตัวแงะโน่นนี่

    เรียกได้ว่าถ้ามีขวานคงจามประตูเปิดทางเข้าบ้านไปแล้ว..ดีที่กระต่ายน้อยหมดแรงข้าวต้มงีบหลับหน้าบ้าน

    ...รุ่นพี่ผู้ใจบุญขับรถเล่นผ่านมาเลยไม่ต้องนอนตากยุงผจญชะตากรรม

     

    นั่นรับโทรศัพท์ใครอยู่ล่ะ..คุยให้เสร็จก่อนดีมั้ย  จองมินพูดพลางไปยืนรอที่มุมบ้านอีกด้านหนึ่ง

     

    อ่าจริงด้วย...ยังถือสายอยู่มั้ยครับ

     

     สักตอนเย็นผมค่อยโทรไปอีกรอบแล้วกัน...สวัสดีครับ...

     

    ครับเดี๋ยวผมบอกให้...จองมินนั่งก่อนสิเป็นเรื่องบังเอิญเมื่อสันญาณโทรศัพท์แรงชัดจะส่งผ่านคำพูด

    ของฮยองจุนให้ปลายสายได้ยินก่อนจะกดปุ่มวาง

     

    จองมิน!  นามของหนุ่มมาดยียวนกวนอารมณ์กำลังประมวลไปมาในสมองของมินคยู

    จะมีใครล่ะ...

     

    ถ้าไม่ใช่ปาร์คจองมินคนนั้น!


    ทำไมกัน?


    ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาหมายตา

     

     

    ...มักตกเป็นของหมอนั่น...เสมอมา....

     

     

     

    แต่ต้องไม่ใช่ครั้งนี้!

     

    *-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-

    อื้อออ...  คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อรู้สึกถึงน้ำหนักของบางสิ่งที่หน้าท้อง

    แพขนตายาวกระพริบถี่ไม่อาจฝืนนอนต่อไปได้

     

     

    หนัก?...ความรู้สึกเดียวที่ทำให้หนุ่มหน้าสวยปรือตาขึ้นมองแม้เกียจคร้านเต็มที

     

    ฮึ?  แมวเปอร์เซียสีขาวขนปุยกำลังนอนหมอบอยู่บนตัวเขา 

    มือเรียวบรรจงอุ้มแมวร่างท้วมก่อนหยัดกายขึ้นนั่งแล้ววางมันลงบนตัก

     

    ...คงเป็นแมวของคนแถวนี้ล่ะมั้ง?...

     

     

    มาได้ยังไงเนี่ย?..  ร่าบางแตะจมูกแมวขี้เล่นอย่างเอ็นดู  กลิ่นสบู่แมวหอมอ่อนๆทำให้กล้าที่จะอุ้มเจ้าแมวอ้วนมาคลอเคลียด้วย  เสียงหัวเราะคิกคักทำให้คนในครัวรู้ว่าร่างที่หลับใหลบนโซฟาตัวยาวตื่นแล้ว

     

    ตื่นแล้วก็ไปล้างหน้าสิ...อีก2นาทีก็กินได้แล้ว

     

    ฮะ...เสียงใสขานรับก่อนหันไปพบร่างสูงในชุดผ้ากันเปื้อนลายกระต่ายสีชมพู 

    เพียงแต่คนใส่กลับไม่ใช่ผู้เป็นเจ้าของอย่างเคย 

     

    เอ๊ะ!เดี๋ยวร่างบางกระเด้งตัวพร้อมโอบอุ้มเจ้าเหมียวสมบูรณ์ตามชายหนุ่มเข้าไปในห้องครัว

     

    หนุ่มผิวแทนร่างสูงกำลังง่วนอยู่กับการเคี่ยวซุปสาหร่ายส่งกลิ่นหอมฉุย

    ผู้มาใหม่เผลอน้ำลายสอไปกับกลิ่นหอมตลบอบอวลนั้น  จนพ่อครัวคนเก่งหันมามองจึงได้สติทำตามใจคิด 

     

    คุณ!...เขามาในนี้ได้ยังไงน่ะ!!” คิบอมพูดไม่เชิงตะโกน

    เพียงปลายน้ำเสียงเท่านั้นที่จับได้ว่าตระหนกอยู่ไม่น้อย

     

     

    ก็เดินเข้ามาน่ะสิ..ไปล้างมือเถอะน่า   ผู้เยี่ยมเยือนกล่าวอย่างไม่ยี่หระ  มือหนาขยับแว่นสายตาเล็กน้อย

    แบบที่อีกฝ่ายเพิ่งสังเกตเห็น...จองมินไม่ได้มีสภาพเหมือนที่เคยเจอครั้งก่อนๆ

    คุณชายปาร์คในชุดลำลองเสื้อยืดกางเกงยีนกับผ้ากันเปื้อนสีสดใสลายคิขุชวนให้คิบอมนึกขำอยู่เหมือนกัน

     

    ...แต่นี่ใช่เวลาขำที่ไหนล่ะ?
    ...เขาบุกรุกบ้านนายนะคิมคิบอม
    !   

     

    อื้มใช้ได้แล้ว  ไม่ว่าเปล่าสองมือยาวจัดแจงยกหมอซุปออกจากเตาอย่างชำนาญ

    ชิมซุปได้รสถูกปากก็ไม่สนใจเจ้าบ้านที่ยืนเป็นหัวหลักหัวตอเลยสักนิด

     

    พี่จุน!...อยู่ไหนน่ะ... ลงท้ายด้วยการเรียกหาพี่ชายคงเข้าท่ามากกว่าสนทนากับชายหนุ่มตรงหน้า  

    พี่ให้เขาเข้ามาใช่มั้ยออกมาคุยกันเลยนะ!”

     

    ฮยองจุนไปข้างนอก  ซุปเสร็จแล้ว..มาช่วยกันจัดโต๊ะเหอะ

     

    เดี๋ยว...นี่คุณ!”  ร่างโปร่งเดินตามคนถือหม้อกับข้าวด้วยหมดหนทาง  ร่างสูงเห็นดังนั้นจึงได้แต่ลอบยิ้ม   

    นายแบบหน้าหวานกำลังรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนบ้า..มีอย่างที่ไหนมาลอยหน้าลอยตาในบ้านคนอื่นแบบนี้

     

    ผมยังไม่ได้อนุญาต..โอ๊ย!” 
    ก่อนที่จะเพิ่มข้อหาให้กับคู่กรณี  ความรู้สึกปวดหนึบที่ท้ายทอยจรดขมับก็แล่นริ้ว

    มือเรียวข้างหนึ่งต้องยกขึ้นกุมศีรษะ  ภาพห้องอาหารหมุนคว้างราวกับตัวเองกำลังเล่นม้าหมุนในสวนสนุก

     

    นี่น้องแมว...ไม่สบายอยู่ก็เลิกถามโน่นถามนี่เถอะน่า...ร่างสูงว่า

     

    ใครไม่สบายกันพูดทั้งที่อาการม้าหมุนยังชวนให้วิงเวียน

     

    เหอะ...ตะกี๊ตัวร้อนจะแย่...

    พูดพลางนึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า  หลังจากที่เขาชวนพี่ชายมาบ้านสองพี่น้องดูโอ้ตุ๊กตา 

    เห็นคู่กรณีเก่านอนอยู่สีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนัก

     ลองสัมผัสไปบนหน้าผากมนไอร้อนที่ต้องบนฝ่ามือทำเขาตกใจแทบแย่

     

    วันนี้ฉันจะมาเฝ้าไข้นาย...ไถ่โทษเรื่องเมื่อวาน  จากจะมาขอโทษคุณชายปาร์คจึงเกิดไอเดียกระฉูด

    ไหนๆก็ไหนๆ...วันนี้จะขอดูแลคนป่วยเป็นการขอขมา


    ส่วนกระต่ายซุ่มซ่ามคนพี่...ก็ให้ติดรถไปกับพี่ชายเขาเสียก็สิ้นเรื่อง

      

    ไม่จำเป็น  คนมีทิฐิปฏิเสธแทบไม่ต้องคิด

     

    ถ้าดื้อนักเดี๋ยวจะจับเช็ดตัวให้หายไข้เลย!” คุณชายปาร์คขู่ น้ำเสียงที่ใช้ไม่ลดราวาศอกอย่างเคย

    คงเรียกได้ว่าดุพอสมควรสำหรับลูกชายคนเล็กอย่างคิมคิบอม  แววตากับน้ำเสียงพอการันตีได้ว่าจองมินจะทำตามที่พูดแน่นอน

     

    ...ร่างบางเลยปิดปากเงียบ 

     

    ...ตบก็เคยแล้วทำไมกะอีแค่คำขู่เขาต้องกลัวด้วยล่ะ...แต่มันก็น่ากลัวนี่นาT^T…

     

    ดีมาก^^”   หนุ่มผิวน้ำผึงขยับยิ้มหวานอันเป็นเอกลักษณ์

     ก่อนหันไปเรียกแมวเปอร์เซียของยองแซงที่ถือวิสาสะอุ้มมาด้วยอย่างยียวนกวนอารมณ์อีกฝ่าย   

    ..ปุกปุยตามพ่อมาเร็วแม่เขาจะได้เดินสะดวกๆ หุหุ

     

    ใบหน้าขาวขึ้นสีจัดแต่พยามสะกดอารมณ์ไว้  ถ้าโวยวายไปก็รังแต่จะถูกคนตัวโตกว่าแกล้งหนักกว่าเดิม

    เจ้าของบ้านสงบปากสงบคำเดินเงียบๆเข้าห้องครัวตามกลิ่นอาหารไป  ดวงตาสุกใสเบิกว้างราวกับมีพละกำลังขึ้นมา 

     

     

     โหหน้ากินจัง0..0  นายแบบหน้าสวยถลาเกาะขอบโต๊ะกินข้าวอย่างลืมโกรธ 

    มองกุ้งชุบแป้งทอดสีเหลืองทองอย่างหมายมาดแล้วหยิบ...

     

     

    เพี๊ยะ
    กุ้งตกลงสู่จานทั้งที่ยังยกขึ้นมาไม่ถึงคืบ

     

    เจ็บนะ-3- ..เนี่ยหรอจะมาเฝ้าไข้  คนหวังขโมยกินกุ้งทำปากยื่นใส่พ่อครัวมือหนัก

    ...ตีมาซะแรงเลย....

     

    ขโมยกินก่อนใช้ได้ที่ไหนเล่า!..”

     

    ชิ้นเดียวก็ไม่ได้-3-“  ทำเสียงอ่อยเมื่อถูกเอ็ดเข้าให้

     

    ไม่ได้...ต้องกินพร้อมกัน

     

    เพลย์บอยจีบดะอย่างคุณสนใจมารยาทพวกนี้ด้วยหรอ

     

    แน่น๊อน! แต่ที่ไม่เตือนเพราะพวกนั้น..ฉันไม่ได้ถูกใจพูดอย่างจงใจทว่าอีกฝ่ายพยายามเลี้ยงที่จะไม่ใส่ใจ

    ถูกใจเขาน่ะหรอ...มันหน้าดีใจตายล่ะ!

     

    รู้แล้วน่ากินได้รึยังล่ะ..วางยารึป่าวเนี่ย 

     

    ได้แล้ว..หรือนายจะเอาเข็มเงินมาพิสูจน์ก่อนก็ตามใจ...แล้วตักผักไปด้วยล่ะ..” ชามข้าวถูกส่งให้พร้อมคำพูดดักคอ

     

    จุกจิกยังกะแม่เลยอ้ะ=[]=” ร่างบางบ่นประปอดกระแปด  คว้าตะเกียบพุ้ยข้าวใส่ปากไปจ้องหน้าจองมินไป

    วิธีไถ่โทษอะไรของเขานะ?...พิลึกคนที่สุด!

     

    ลืมเสียสนิทว่าเคยมิทิฐิยังไงกับหนุ่มผิวแทนคนนี้รวมทั้งการหายตัวไปของพี่ชายซุ่มซ่าม...

     

    - - - - - - - - - - - - - - - - - - - 

     

    นายโดนบังคับให้มากับพี่อีกแล้ว...

     

    ใช่ที่ไหนล่ะฮะ

     

    งั้นทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะ..เป็นห่วงน้องหรอ

     

    นิดหน่อย..เกรงใจจองมินกับพี่มากกว่า..อะไรก็ต้องขอให้ช่วยอยู่เรื่อย" ฮยองจุนทำหน้าหงอตัวลีบ
    ดูไม่หดหู่ แต่เวลาคนเขาเดินห้างมันต้องมีสนุทรีย์มากกว่านี้สิ! 
    เขาเสนอความคิดว่าให้ไปที่อื่น...แต่เจ้ากระต่ายน้อยอยากมาSS Mallนี่นา...จะบอกว่าเบื่อคงไม่ใช่ล่ะนะ

     

    เจอกันแต่ล่ะครั้งนี่บิวต์อารมณ์ยากเนอะ

     

    ผมไม่สบายใจนี่นา-3-" คนตัวเล็กกว่าหันไปมองค้อน นับแต่เจอกันที่สนามบินผ่านมาไม่ถึงอาทิตย์
    ฮยองจุนก็เริ่มปฏิบัติกับอีกฝ่ายอย่างใจคิด หลุดกรอบคำว่าเกรงใจไปเรียบร้อย

    นัยนต์ตารัตติกาลมองการแสดงออกนั้นทั้งรอยยิ้ม...
    กระต่ายน้อยที่มีชีวิตชีวาตอบรับได้ปฏิเสธได้ย่อมดีกว่าเมื่อวานที่นิ่งเงียบเป็นไหนๆ 

    เพียงแต่คนอย่างคิมฮยอนจุงโลภเกินกว่านั้น.....
    ประจวบกับร่างบางหยุดมองกิจกรรมบรรเลงเพลงคลาสสิคที่ลานกว้างคุณชายคิมจึงเกิดความคิด
     


    เห็นไหมว่าลานอเนกประสงค์ของศูนย์การค้าตอนกลางวันมีเล่นดนตรีอย่างที่พี่เล่าให้ฟัง"
    ดวงหน้าคมเหลียวมองอีกฝ่ายที่พยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงรับรู้   
     


    นายนั่งตรงนี้นะ"  เสียงทุ้มกระซิบก่อนขายาวจะพาร่างสูงโปร่งไปบนเวที
    เร็วเกินกว่าอีกฝ่ายที่กำลังปล่อยความรู้สึกให้ล่องลอยจะถามไถ่ ร่างสูงกระซิบกระซาบกับพนักงานไม่ถึงเสี้ยวอึดใจ
    บทเพลงทำนองยืดเยื้อเนิ่นนานเป็นอันจบลง  พร้อมนักดนตรีผู้เปิดทางให้กับคุณชายคิม

     

     อย่าบอกนะว่าพี่จะ..."

    โน้ตตัวแรกถูกบรรเลงจากแกรนด์เปียโนพร้อมกับร่างบางที่ทิ้งตัวลงนั่งอย่างช่วยไม่ได้

    นัยน์ตากลมโตจับจ้องท่วงท่าอันสง่างามนั้น  ภาพในวันเก่าๆเป็นเพียงเด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์
    ทว่าในวันนี้ความสามารถเหล่านั้นถ่ายทอดได้มากกว่าคำว่าไพเราะ

    เพียงผู้คนที่ผ่านไปมาก็สัมผัสได้ถึงท่วงทำนองของบทเพลงไม่ต่างจากบทกวี...

    อีกครั้งที่ดระต่ายน้อยจมลงในบ่วงมนต์สะกดของพ่อมดรูปงามแห่งวงการดนตรีที่ชื่อคิมฮยอนจุง 

     เกินกว่าความคาดหมายเมื่อน้ำเสียงทรงสเน่ห์ร่ายมนต์ขับกล่อมผสมโรงไปกับทำนองหวานล้ำ

     

    You know I can't smile without you
    เธอรู้ไหม ว่าฉันยิ้มไม่ออกเลย ถ้าฉันไม่มีเธอ

    #I can't smile without you
    ฉันยิ้มไม่ออกเลย ถ้าฉันไม่มีเธอ

    I can't laugh and I can't sing
    ฉันหัวเราะไม่ได้ และฉันก็ร้องเพลงไม่ได้

    I'm finding it hard to do anything
    ฉันจะพบว่าอะไรมันก็ยากไปหมดไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม

    You see I feel sad when you're sad
    เธอเห็นไหม ว่าฉันรู้สึกไม่ดี เมื่อใดที่เธอเศร้า

    I feel glad when you're glad
    ฉันรู้สึกดี เมื่อใดที่เธอมีความสุข

    If you only knew what I'm going through
    แค่อยากให้เธอรู้ว่าฉันได้ฝ่าฟันอะไรบ้าง

    I just can't smile without you
    ฉันก็แค่ยิ้มไม่ออกเลย ถ้าฉันไม่มีเธอ #

    You came along just like a song
    เธอผ่านเข้ามาเหมือนบทเพลง

    And brighten my day
    และทำให้ทุกวันของฉันนั้นสดใส

    Who would of believed that you were part of a dream
    ใครจะเชื่อล่ะว่าเธอคือส่วนหนึ่งของความฝัน

    Now it all seems light years away
    ตอนนี้ทุกอย่างดูเหมือนจะเนิ่นนาน

    And now you know I can't smile without you
    และตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าฉันยิ้มไม่ออกเลย ถ้าฉันไม่มีเธอ

     

    #

     

    Now some people say happiness takes so very long to find
    ใครบางคนบอกไว้ว่าเราอาจต้องใช้เวลามากมายกว่าจะพบกับความสุข

    Well, I'm finding it hard leaving your love behind me
    และฉันกำลังเรียนรู้ว่ามันยากเย็นแค่ไหนที่จะทิ้งความรักของเธอไว้เบื้องหลัง

     

    #


    สิ้นเสียงปรบมือ ไมค์ที่หน้าเวทีจึงกลายเป็นเครื่องมือของร่างสูง



    “Would  your smile for me
    ?/ยิ้มให้พี่หน่อยได้มั้ย
    ท่ามกลางฝูงชนที่ทยอยเข้ามานั่งรับฟังหลังคุณชายคิมอาสาบรรเลงเพลงด้วยตนเอง
    ฮยอนจุงจงใจพูดออกไมค์...ส่งให้เจ้าของดวงหน้าหวานคล้ายตุ๊กตาเพียงผู้เดียว

    ใบหน้าขาวขึ้นสีเรื่ออย่างชวนมองนักหนา 
    ริมฝีปากบางค่อยๆแย้มออกแบบที่ฮยอนจุงต้องมองให้เต็มตา
    วินาทีนี้...กระต่ายน้อยมีเพียงรอยยิ้มเท่านั้นที่จะมอบให้...
    ส่วนหัวใจ...เขาจะพยายามรั้งไว้เท่าที่จะทำได้แล้วกัน....

    คนโลภเจ้าความคิดมองรางวัลของตนอย่างสุขใจ
    ...เขามันโลภ...โลภที่จะเห็นรอยยิ้มของคนคนนี้ทุกที่ทุกเวลา...

     


    *-*-*-how---r---U*-*-*

    มาอัพตอนที่แปดแล้ว  แอบรีบหน่อยๆ..ถ้าคำผิดเยอะก็ขอโทษด้วยนะคะ
    วันนี้ฟาร์มมีงานต้องทำต่ออีก..จะรีบมาอัพตอนต่อไปให้เร็วที่สุดค่ะ
    ส่วนยองแซงกับคยูจงจะมีบทในตอนหน้า..ไม่หายกันไปนานหรอกค่ะ
    ปล.รักคนอ่านคนเม้นทุกคนนะคะ 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×