คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #9 : chapter8:Two couple
“คิบอม”
“หือ?”
“เอานาฬิกาไปใส่ในตู้เย็นทำไมอ่ะ” ฮยองจุนพูดพลางสังเกตอาการเหม่อลอยของน้องชาย
สงสัยนักหนาว่าทำไมน้องชายถึงถือนาฬิกาปลุกบนหัวเตียงติดมือลงมาใส่ในตู้เย็น
...นัยน์ตากลมโตจับจ้องกริยาเชื่องช้าของผู้เป็นน้อง
อาการประหลาดเหล่านี้
...เขาสังเกตได้ตั้งแต่ตอนเย็นของเมื่อวาน
“คิบอม” พูดอีกครั้งเมื่อเห็นว่าเจ้าของนาฬิกายังคงนิ่งเฉยอยู่หน้าตูเย็นเหมือนหุ่นยนต์รับคำสั่ง
“หา!..อ่อ..ขอบคุณที่บอกนะพี่จุน” อีกฝ่ายตอบอ้อมแอ้มก่อนทิ้งนาฬิกาปลุกลงในตะกร้าผ้าที่เตรียมซัก
ราวกับมั่นใจว่านั่นคือตำแหน่งเก็บนาฬิกาที่ถูกต้อง
“คิ..บอม..^^ll” ผู้เป็นพี่รำพึงเบาๆ “ต้มบะหมี่สำเร็จรูปกินดีกว่ามั้ย”
ออกความคิดเห็นเมื่อผู้เป็นน้องกำลังจะเอาขนมปังไปทอดในกระทะ
“ฮะ...เอ่อ..อืม...เอายังงั้นก็ได้..ผม...ฝากพี่ทำด้วยแล้วกัน”
ฮยองจุนยิ้มแห้งๆหลบทางให้น้องเดินออกจากห้องครัวไปอย่างเลื่อนลอย
อย่างน้อยการต้มน้ำเป็นของเขาคงช่วยให้เส้นบะหมี่สุก...พอเป็นอาหารเช้าประทังไปพลางๆ
คิบอมคงเหนื่อยเกินไป...
Trrrr Trrr..
พลันเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น....
มือขาวละจากตู้กับข้าวหันไปคว้าโทรศัพท์ที่ผนังมาแนบหูก่อนกรอกเสียงใสลงไป
“ครับ..ฮยองจุนพูดสายครับ”
“สวัสดีครับ..ผมมินคยู..ขอพูดกับคุณคิบอมหน่อยครับ”
“อ่อคุณนั่นเอง..รอสักครู่นะครับ” ร่างบางตอบพลางนึกทบทวนถึงอดีตเพื่อนร่วมเที่ยวบินของคิบอม
สองขาสาวมาหยุดอยู่หน้าห้องรับแขกแล้วก็ต้องเปลี่ยนใจ
“คิบอมหลับไปอีกแล้วล่ะครับ แหะๆ”
“อ่า..ไว้ค่อยโทรมา....”
“อรุณสวัสดิ์ฮยองจุน^^” จู่ๆร่างสูงเจ้าของผิวสีแทนก็โผล่พรวดเข้ามาในตัวบ้านอย่างถือวิสาสะ
“นายเข้ามาได้ไงอ่ะ”
“ก็ประตูไม่ล็อคนี่...อีกอย่างกริ่งบ้านนายเสียหรอ” ร่างสูงพูดพลางมองไปยังร่องรอยที่หลงเหลือ
เพียงน๊อตยึดกริ่งหนึ่งตัว ซึ่งเจ้าบ้านถึงกับสะอึกเพราะคำทัก
...ก็เขาเองนี่แหละที่พยายามงัดบ้านตอนกุญแจหาย...ดูหนังมากไปเลยคว้าอุปกรณ์ใกล้ตัวแงะโน่นนี่
เรียกได้ว่าถ้ามีขวานคงจามประตูเปิดทางเข้าบ้านไปแล้ว..ดีที่กระต่ายน้อยหมดแรงข้าวต้มงีบหลับหน้าบ้าน
...รุ่นพี่ผู้ใจบุญขับรถเล่นผ่านมาเลยไม่ต้องนอนตากยุงผจญชะตากรรม
“นั่นรับโทรศัพท์ใครอยู่ล่ะ..คุยให้เสร็จก่อนดีมั้ย” จองมินพูดพลางไปยืนรอที่มุมบ้านอีกด้านหนึ่ง
“อ่าจริงด้วย...ยังถือสายอยู่มั้ยครับ”
“สักตอนเย็นผมค่อยโทรไปอีกรอบแล้วกัน...สวัสดีครับ...”
“ครับเดี๋ยวผมบอกให้...จองมินนั่งก่อนสิ” เป็นเรื่องบังเอิญเมื่อสันญาณโทรศัพท์แรงชัดจะส่งผ่านคำพูด
ของฮยองจุนให้ปลายสายได้ยินก่อนจะกดปุ่มวาง
จองมิน! นามของหนุ่มมาดยียวนกวนอารมณ์กำลังประมวลไปมาในสมองของมินคยู
จะมีใครล่ะ...
ถ้าไม่ใช่ปาร์คจองมินคนนั้น!
ทำไมกัน?
ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาหมายตา
...มักตกเป็นของหมอนั่น...เสมอมา....
แต่ต้องไม่ใช่ครั้งนี้!
*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-*-
“อื้อออ...” คิ้วเรียวขมวดมุ่นเมื่อรู้สึกถึงน้ำหนักของบางสิ่งที่หน้าท้อง
แพขนตายาวกระพริบถี่ไม่อาจฝืนนอนต่อไปได้
หนัก?...ความรู้สึกเดียวที่ทำให้หนุ่มหน้าสวยปรือตาขึ้นมองแม้เกียจคร้านเต็มที
“ฮึ?” แมวเปอร์เซียสีขาวขนปุยกำลังนอนหมอบอยู่บนตัวเขา
มือเรียวบรรจงอุ้มแมวร่างท้วมก่อนหยัดกายขึ้นนั่งแล้ววางมันลงบนตัก
...คงเป็นแมวของคนแถวนี้ล่ะมั้ง?...
“มาได้ยังไงเนี่ย?..” ร่าบางแตะจมูกแมวขี้เล่นอย่างเอ็นดู กลิ่นสบู่แมวหอมอ่อนๆทำให้กล้าที่จะอุ้มเจ้าแมวอ้วนมาคลอเคลียด้วย เสียงหัวเราะคิกคักทำให้คนในครัวรู้ว่าร่างที่หลับใหลบนโซฟาตัวยาวตื่นแล้ว
“ตื่นแล้วก็ไปล้างหน้าสิ...อีก2นาทีก็กินได้แล้ว”
“ฮะ...” เสียงใสขานรับก่อนหันไปพบร่างสูงในชุดผ้ากันเปื้อนลายกระต่ายสีชมพู
เพียงแต่คนใส่กลับไม่ใช่ผู้เป็นเจ้าของอย่างเคย
“เอ๊ะ!เดี๋ยว” ร่างบางกระเด้งตัวพร้อมโอบอุ้มเจ้าเหมียวสมบูรณ์ตามชายหนุ่มเข้าไปในห้องครัว
หนุ่มผิวแทนร่างสูงกำลังง่วนอยู่กับการเคี่ยวซุปสาหร่ายส่งกลิ่นหอมฉุย
ผู้มาใหม่เผลอน้ำลายสอไปกับกลิ่นหอมตลบอบอวลนั้น จนพ่อครัวคนเก่งหันมามองจึงได้สติทำตามใจคิด
“คุณ!...เขามาในนี้ได้ยังไงน่ะ!!” คิบอมพูดไม่เชิงตะโกน
เพียงปลายน้ำเสียงเท่านั้นที่จับได้ว่าตระหนกอยู่ไม่น้อย
“ก็เดินเข้ามาน่ะสิ..ไปล้างมือเถอะน่า” ผู้เยี่ยมเยือนกล่าวอย่างไม่ยี่หระ มือหนาขยับแว่นสายตาเล็กน้อย
แบบที่อีกฝ่ายเพิ่งสังเกตเห็น...จองมินไม่ได้มีสภาพเหมือนที่เคยเจอครั้งก่อนๆ
คุณชายปาร์คในชุดลำลองเสื้อยืดกางเกงยีนกับผ้ากันเปื้อนสีสดใสลายคิขุชวนให้คิบอมนึกขำอยู่เหมือนกัน
...แต่นี่ใช่เวลาขำที่ไหนล่ะ?
...เขาบุกรุกบ้านนายนะคิมคิบอม!
“ อื้มใช้ได้แล้ว” ไม่ว่าเปล่าสองมือยาวจัดแจงยกหมอซุปออกจากเตาอย่างชำนาญ
ชิมซุปได้รสถูกปากก็ไม่สนใจเจ้าบ้านที่ยืนเป็นหัวหลักหัวตอเลยสักนิด
“พี่จุน!...อยู่ไหนน่ะ...” ลงท้ายด้วยการเรียกหาพี่ชายคงเข้าท่ามากกว่าสนทนากับชายหนุ่มตรงหน้า
“พี่ให้เขาเข้ามาใช่มั้ย ออกมาคุยกันเลยนะ!”
“ฮยองจุนไปข้างนอก ซุปเสร็จแล้ว..มาช่วยกันจัดโต๊ะเหอะ”
“เดี๋ยว...นี่คุณ!” ร่างโปร่งเดินตามคนถือหม้อกับข้าวด้วยหมดหนทาง ร่างสูงเห็นดังนั้นจึงได้แต่ลอบยิ้ม
นายแบบหน้าหวานกำลังรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนบ้า..มีอย่างที่ไหนมาลอยหน้าลอยตาในบ้านคนอื่นแบบนี้
“ผมยังไม่ได้อนุญาต..โอ๊ย!”
ก่อนที่จะเพิ่มข้อหาให้กับคู่กรณี ความรู้สึกปวดหนึบที่ท้ายทอยจรดขมับก็แล่นริ้ว
มือเรียวข้างหนึ่งต้องยกขึ้นกุมศีรษะ ภาพห้องอาหารหมุนคว้างราวกับตัวเองกำลังเล่นม้าหมุนในสวนสนุก
“นี่น้องแมว...ไม่สบายอยู่ก็เลิกถามโน่นถามนี่เถอะน่า...” ร่างสูงว่า
“ใครไม่สบายกัน” พูดทั้งที่อาการม้าหมุนยังชวนให้วิงเวียน
“เหอะ...ตะกี๊ตัวร้อนจะแย่...”
พูดพลางนึกย้อนถึงเหตุการณ์เมื่อเช้า หลังจากที่เขาชวนพี่ชายมาบ้านสองพี่น้องดูโอ้ตุ๊กตา
เห็นคู่กรณีเก่านอนอยู่สีหน้าไม่ค่อยจะสู้ดีนัก
ลองสัมผัสไปบนหน้าผากมนไอร้อนที่ต้องบนฝ่ามือทำเขาตกใจแทบแย่
“วันนี้ฉันจะมาเฝ้าไข้นาย...ไถ่โทษเรื่องเมื่อวาน” จากจะมาขอโทษคุณชายปาร์คจึงเกิดไอเดียกระฉูด
ไหนๆก็ไหนๆ...วันนี้จะขอดูแลคนป่วยเป็นการขอขมา
ส่วนกระต่ายซุ่มซ่ามคนพี่...ก็ให้ติดรถไปกับพี่ชายเขาเสียก็สิ้นเรื่อง
“ไม่จำเป็น” คนมีทิฐิปฏิเสธแทบไม่ต้องคิด
“ถ้าดื้อนักเดี๋ยวจะจับเช็ดตัวให้หายไข้เลย!” คุณชายปาร์คขู่ น้ำเสียงที่ใช้ไม่ลดราวาศอกอย่างเคย
คงเรียกได้ว่าดุพอสมควรสำหรับลูกชายคนเล็กอย่างคิมคิบอม แววตากับน้ำเสียงพอการันตีได้ว่าจองมินจะทำตามที่พูดแน่นอน
“...” ร่างบางเลยปิดปากเงียบ
...ตบก็เคยแล้วทำไมกะอีแค่คำขู่เขาต้องกลัวด้วยล่ะ...แต่มันก็น่ากลัวนี่นาT^T
“ดีมาก^^” หนุ่มผิวน้ำผึงขยับยิ้มหวานอันเป็นเอกลักษณ์
ก่อนหันไปเรียกแมวเปอร์เซียของยองแซงที่ถือวิสาสะอุ้มมาด้วยอย่างยียวนกวนอารมณ์อีกฝ่าย
“..ปุกปุยตามพ่อมาเร็วแม่เขาจะได้เดินสะดวกๆ หุหุ”
ใบหน้าขาวขึ้นสีจัดแต่พยามสะกดอารมณ์ไว้ ถ้าโวยวายไปก็รังแต่จะถูกคนตัวโตกว่าแกล้งหนักกว่าเดิม
เจ้าของบ้านสงบปากสงบคำเดินเงียบๆเข้าห้องครัวตามกลิ่นอาหารไป ดวงตาสุกใสเบิกว้างราวกับมีพละกำลังขึ้นมา
มองกุ้งชุบแป้งทอดสีเหลืองทองอย่างหมายมาดแล้วหยิบ...
เพี๊ยะ!
กุ้งตกลงสู่จานทั้งที่ยังยกขึ้นมาไม่ถึงคืบ
“เจ็บนะ-3- ..เนี่ยหรอจะมาเฝ้าไข้“ คนหวังขโมยกินกุ้งทำปากยื่นใส่พ่อครัวมือหนัก
...ตีมาซะแรงเลย....
“ขโมยกินก่อนใช้ได้ที่ไหนเล่า!..”
“ชิ้นเดียวก็ไม่ได้-3-“ ทำเสียงอ่อยเมื่อถูกเอ็ดเข้าให้
“ไม่ได้...ต้องกินพร้อมกัน”
“เพลย์บอยจีบดะอย่างคุณสนใจมารยาทพวกนี้ด้วยหรอ”
“แน่น๊อน! แต่ที่ไม่เตือนเพราะพวกนั้น..ฉันไม่ได้ถูกใจ” พูดอย่างจงใจทว่าอีกฝ่ายพยายามเลี้ยงที่จะไม่ใส่ใจ
ถูกใจเขาน่ะหรอ...มันหน้าดีใจตายล่ะ!
“รู้แล้วน่ากินได้รึยังล่ะ..วางยารึป่าวเนี่ย”
“ได้แล้ว..หรือนายจะเอาเข็มเงินมาพิสูจน์ก่อนก็ตามใจ...แล้วตักผักไปด้วยล่ะ..” ชามข้าวถูกส่งให้พร้อมคำพูดดักคอ
“จุกจิกยังกะแม่เลยอ้ะ=[]=” ร่างบางบ่นประปอดกระแปด คว้าตะเกียบพุ้ยข้าวใส่ปากไปจ้องหน้าจองมินไป
วิธีไถ่โทษอะไรของเขานะ?...พิลึกคนที่สุด!
ลืมเสียสนิทว่าเคยมิทิฐิยังไงกับหนุ่มผิวแทนคนนี้ รวมทั้งการหายตัวไปของพี่ชายซุ่มซ่าม...
“นายโดนบังคับให้มากับพี่อีกแล้ว...”
“ใช่ที่ไหนล่ะฮะ”
“งั้นทำไมถึงทำหน้าแบบนั้นล่ะ..เป็นห่วงน้องหรอ”
“นิดหน่อย..เกรงใจจองมินกับพี่มากกว่า..อะไรก็ต้องขอให้ช่วยอยู่เรื่อย" ฮยองจุนทำหน้าหงอตัวลีบ
ดูไม่หดหู่ แต่เวลาคนเขาเดินห้างมันต้องมีสนุทรีย์มากกว่านี้สิ!
เขาเสนอความคิดว่าให้ไปที่อื่น...แต่เจ้ากระต่ายน้อยอยากมาSS Mallนี่นา...จะบอกว่าเบื่อคงไม่ใช่ล่ะนะ
“เจอกันแต่ล่ะครั้งนี่บิวต์อารมณ์ยากเนอะ”
“ผมไม่สบายใจนี่นา-3-" คนตัวเล็กกว่าหันไปมองค้อน นับแต่เจอกันที่สนามบินผ่านมาไม่ถึงอาทิตย์
ฮยองจุนก็เริ่มปฏิบัติกับอีกฝ่ายอย่างใจคิด หลุดกรอบคำว่าเกรงใจไปเรียบร้อย
นัยนต์ตารัตติกาลมองการแสดงออกนั้นทั้งรอยยิ้ม...
กระต่ายน้อยที่มีชีวิตชีวาตอบรับได้ปฏิเสธได้ย่อมดีกว่าเมื่อวานที่นิ่งเงียบเป็นไหนๆ
เพียงแต่คนอย่างคิมฮยอนจุงโลภเกินกว่านั้น.....
ประจวบกับร่างบางหยุดมองกิจกรรมบรรเลงเพลงคลาสสิคที่ลานกว้างคุณชายคิมจึงเกิดความคิด
“เห็นไหมว่าลานอเนกประสงค์ของศูนย์การค้าตอนกลางวันมีเล่นดนตรีอย่างที่พี่เล่าให้ฟัง"
ดวงหน้าคมเหลียวมองอีกฝ่ายที่พยักหน้าหงึกหงักเป็นเชิงรับรู้
“นายนั่งตรงนี้นะ" เสียงทุ้มกระซิบก่อนขายาวจะพาร่างสูงโปร่งไปบนเวที
เร็วเกินกว่าอีกฝ่ายที่กำลังปล่อยความรู้สึกให้ล่องลอยจะถามไถ่ ร่างสูงกระซิบกระซาบกับพนักงานไม่ถึงเสี้ยวอึดใจ
บทเพลงทำนองยืดเยื้อเนิ่นนานเป็นอันจบลง พร้อมนักดนตรีผู้เปิดทางให้กับคุณชายคิม
โน้ตตัวแรกถูกบรรเลงจากแกรนด์เปียโนพร้อมกับร่างบางที่ทิ้งตัวลงนั่งอย่างช่วยไม่ได้
ทว่าในวันนี้ความสามารถเหล่านั้นถ่ายทอดได้มากกว่าคำว่าไพเราะ
เพียงผู้คนที่ผ่านไปมาก็สัมผัสได้ถึงท่วงทำนองของบทเพลงไม่ต่างจากบทกวี...
อีกครั้งที่ดระต่ายน้อยจมลงในบ่วงมนต์สะกดของพ่อมดรูปงามแห่งวงการดนตรีที่ชื่อคิมฮยอนจุง
You know I can't smile without you
เธอรู้ไหม ว่าฉันยิ้มไม่ออกเลย ถ้าฉันไม่มีเธอ
#I can't smile without you
ฉันยิ้มไม่ออกเลย ถ้าฉันไม่มีเธอ
I can't laugh and I can't sing
ฉันหัวเราะไม่ได้ และฉันก็ร้องเพลงไม่ได้
I'm finding it hard to do anything
ฉันจะพบว่าอะไรมันก็ยากไปหมดไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม
You see I feel sad when you're sad
เธอเห็นไหม ว่าฉันรู้สึกไม่ดี เมื่อใดที่เธอเศร้า
I feel glad when you're glad
ฉันรู้สึกดี เมื่อใดที่เธอมีความสุข
If you only knew what I'm going through
แค่อยากให้เธอรู้ว่าฉันได้ฝ่าฟันอะไรบ้าง
I just can't smile without you
ฉันก็แค่ยิ้มไม่ออกเลย ถ้าฉันไม่มีเธอ #
You came along just like a song
เธอผ่านเข้ามาเหมือนบทเพลง
And brighten my day
และทำให้ทุกวันของฉันนั้นสดใส
Who would of believed that you were part of a dream
ใครจะเชื่อล่ะว่าเธอคือส่วนหนึ่งของความฝัน
Now it all seems light years away
ตอนนี้ทุกอย่างดูเหมือนจะเนิ่นนาน
And now you know I can't smile without you
และตอนนี้เธอก็รู้แล้วว่าฉันยิ้มไม่ออกเลย ถ้าฉันไม่มีเธอ
#
Now some people say happiness takes so very long to find
ใครบางคนบอกไว้ว่าเราอาจต้องใช้เวลามากมายกว่าจะพบกับความสุข
Well, I'm finding it hard leaving your love behind me
และฉันกำลังเรียนรู้ว่ามันยากเย็นแค่ไหนที่จะทิ้งความรักของเธอไว้เบื้องหลัง
#
สิ้นเสียงปรบมือ ไมค์ที่หน้าเวทีจึงกลายเป็นเครื่องมือของร่างสูง
“Would your smile for me?/ยิ้มให้พี่หน่อยได้มั้ย”
ท่ามกลางฝูงชนที่ทยอยเข้ามานั่งรับฟังหลังคุณชายคิมอาสาบรรเลงเพลงด้วยตนเอง
ฮยอนจุงจงใจพูดออกไมค์...ส่งให้เจ้าของดวงหน้าหวานคล้ายตุ๊กตาเพียงผู้เดียว
ใบหน้าขาวขึ้นสีเรื่ออย่างชวนมองนักหนา
ริมฝีปากบางค่อยๆแย้มออกแบบที่ฮยอนจุงต้องมองให้เต็มตา
วินาทีนี้...กระต่ายน้อยมีเพียงรอยยิ้มเท่านั้นที่จะมอบให้...
ส่วนหัวใจ...เขาจะพยายามรั้งไว้เท่าที่จะทำได้แล้วกัน....
คนโลภเจ้าความคิดมองรางวัลของตนอย่างสุขใจ
...เขามันโลภ...โลภที่จะเห็นรอยยิ้มของคนคนนี้ทุกที่ทุกเวลา...
*-*-*-how---r---U*-*-*
วันนี้ฟาร์มมีงานต้องทำต่ออีก..จะรีบมาอัพตอนต่อไปให้เร็วที่สุดค่ะ
ส่วนยองแซงกับคยูจงจะมีบทในตอนหน้า..ไม่หายกันไปนานหรอกค่ะ
ปล.รักคนอ่านคนเม้นทุกคนนะคะ
ความคิดเห็น